สงสัยเรื่องการถอดจิต (ที่ไม่เกี่ยวกับการหลุดพ้น)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Apinya17, 28 สิงหาคม 2010.

  1. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ฝันแบบมีสติสมบูรณ์แต่กำหนดการเริ่มต้นเรื่องราวไม่ได้ แต่เมื่อฝันก็รู้ตัวว่าฝันอยู่น่ะแต่สติมีพร้อมเลย กับการถอดจิตที่สติสมบูรณ์


    บางทีเราฝันแบบสติครบทุกอย่าง จะคิด จะทำอะไรดังใจนึกคิดในฝัน แต่ก็ตื่นขึ้นมาแบบ เอ๊ะ นี่เราฝันไปนี่หว่า


    การถอดจิต อันนี้แบบตั้งใจ ทำสมาธิก่อนมีอาการเห็นแสงสว่าง แล้ว หัวหมุนติ้ว ผ่านรูแสง เสียง หมุนออกไปสู่ภพ ภูมิอื่น สติพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ภพภูมิที่เห็นไม่แน่ใจว่าเป็นจินตนาการของเราเองหรือเปล่า กำลังสมาธิเราน้อย ไปได้แป๊ปเดียวก็หล่นลงมา หล่นมาตุ๊บ กระดิกตัวไม่ได้ บางครั้งหัวใจเต้นแรงมาก ลมหายใจหายไปไหนไม่รู้ ต้องตั้งสติอยู่นาน กว่าจะควานหาลมหายใจกลับมาดังเดิม อันนี้เหมือนไม่ได้หลับแน่นอน

    คุรุท่านไหนเชี่ยวชาญ ชำนาญการถอดจิตได้โปรดแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมาก

    คำถามมีอยู่ว่า คนที่ถอดจิตจนชำนาณนี่ท่าน ถอดกันไปด้วย ณานไหนค่ะ
    ภพภูมิที่ไปพบไปเห็นนั่นเราจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่ามีจริง
    ทำอย่างไรถึงจะถอดจิตแล้วทรงอยู่ได้นานๆ

    ใครมีประสบการณ์บ้างแชร์กัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2010
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คุรุท่านไหนเชี่ยวชาญ ชำนาญการถอดจิตได้โปรดแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมาก

    คำถามมีอยู่ว่า คนที่ถอดจิตจนชำนาณนี่ท่าน ถอดกันไปด้วย ณานไหนค่ะ
    ภพภูมิที่ไปพบไปเห็นนั่นเราจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่ามีจริง
    ทำอย่างไรถึงจะถอดจิตแล้วทรงอยู่ได้นานๆ

    ผมเองไม่เคยสนใจว่าจะเป็นฌาน แต่ความจริงก็คือฌานนั่นเอง
    ต้องสูกกว่า ฌาน ๔ ขึ้นไป
    พอทำสมาธิ จนจิตเค้ามีกำลังมากแล้ว จะมีอาการวูบวาบๆ,
    สมาธิหมุนก็โน้มจิตเพื่อออกจากการหยาบ ภพภูมิที่เห็นเป็นโลกวิญาณ
    มีจริงแต่ในโลกวิญาณ คือ ชีวิตหลังความตาย

    โยคีพระโยคาพระจรเจ้า ที่มีฌาน ก็สามารถเดินทางไปในโลกวิญญาณหลังความตายได้ เรียกว่ามิติที่ 4 ส่วนคำถามที่ถามมา ทำอย่างไรถึงจะถอดจิตแล้วทรงอยู่ได้นานๆ ต้องอาศัยการฝึกยับยั้งให้ฌานไม่เสื่อมง่ายและอ่อนกำลังลง เมื่อฌานเสื่อมง่ายอ่อนกำลังลง ก็มีผลให้น้องไม่สามารถยับยั้งอยู่ในโลกวิญญาณได้ กายระเอียดจึงต้องหดตัวกลับเข้ากายหยาบอย่างรวดเร็ว โลกเราถือว่าเป็นมิติที่ 3 ศักยภาพจะลดลงเมื่อเทียบกับ โลกมิติที่ 4 ศักยภาพสมบูรณ์ด้วยสภาวะความเป็นทิพย์
    :cool:<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    จริง อยู่ที่ขณะนั้น หากมีสติเต็มกำลังย่อมรู้เห็นด้วยกำลังของสติว่านั่นเห็นแล้วรู้แล้ว และก็วางเฉยไปอย่างนั้น เมื่อวางเฉยในภพภูมิใดๆแล้ว ก็หมายถึงได้ถอดจิตออกจากสิ่งเหล่าแปลว่าจิตอยู่เหนือกว่าสิ่งใดๆในขณะนั้นๆแล้ว เรียกว่า "รู้"

    การเข้าฌานก็ต้องฝึกบ่อยๆ บ่อยแบบเนืองๆ ไม่ตั้งใจจนเกินไป ไม่หย่อนจนเกินไป
    นั่งปุ๊ปตกภวังค์ปั๊บเข้าณานเลยก็มี จะด้วยปัจจัยใดก็ต้องลองฝึกและสังเกตุกันดูเพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน

    อนุโมทนาครับ
     
  4. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ขอบคุณมากค่ะ จะพยายามฝึกเข้าฌานทุกวันค่ะ
    สังเกตุว่า ปัจจัยการออกนี่ ต้องมีอารมณ์แบบโปร่งมากๆ ครั้งหลังสุดนี่ ทรงได้นาน แบบว่าไปโน้นไปนี่ เพราะพิจารณาเรื่องทุกข์จากการทำมาหากินมาก แต่คิดว่ากำลังสมาธิอย่างเดียวไปได้ไม่นานแน่ๆ แต่ภพภูมิอื่นนั้น เวลาต่างกับภพภูมิโลกเรามาก แบบว่า เหมือนเราอยู่ที่โน้น สองสามนาที แต่เวลาโลกมนุษย์หายไปชั่วโมงนึง ตั้งแต่ถอดจิตได้ คิดได้ว่า ความตายไม่น่ากลัวเลย แค่เปลี่ยนภพภูมิ แต่การมีชีวิตบนโลกมนุษย์สิน่ากลัว ต้องเจอกับทุกข์มากมาย กับการเปลี่ยนแปลงและไม่เที่ยงอยู่ตลอดเวลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2010
  5. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    อนุโมทนาในการปฏิบัติครับ
     
  6. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023

    ขอบคุณที่ก๊อปปี้มาให้อ่าน แต่คนละเรื่องเดียวกันเลยกับการถอดจิตหรือกายทิพย์เพื่อพิสูจน์ภพภูมิอื่นมีจริงหรือไม่นี้
     
  7. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    เป็นจริงตามนั้นครับ จากการปฎิบัติของผมเองนะ ลองหาหนังสือชื่อเรื่อง แนวทางสมธิ ความสงบ ถอดจิต เป็นของนักปฏิบัติสายสมเด็จโต ครับ

    ตอนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนตอนนั้นยังไม่ได้ปฎิบัติจริงจัง ไม่มีครูบาอาจารย์ก็ใช้กําหนดลมหายใจพุทโธ เอา พอได้อ่านก็เลยเห็นว่าแปลกดี เลยปฏิบัติแนวทางตามหนังสือตลอด ก็ลักษณะคล้ายๆกับกําหนดจุดไว้กลางกระหม่อมกลางหน้าผาก เพิ่งเอาเป็นอารม ฝึกแรกๆจะปวดขมัดถ้าเพ่งผิดวิธี และอาการถอดจิตจะเป็นเหมือนโรคแซมซึม เป็นผลของการปฏิบัติโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่จําเป็นต้องได้ณานอะไรเลย ถ้าเคยปฏิบัติแนวนี้อยู่ก่อนนอนลองเพ่งกระหม่อมจนหลับดู จิตจะดีดเองผ่นรูเข็มแสงส่วางนั้น แต่มักไปได้ไม่ไกล ก็อยู่แถวนั้นนั่นหล่ะ เพราะยังมีคล้ายๆอยตนะเส้นเล็กๆผูกไว้อยู่ รู้ตัวก็ถูกกดูดกลับทันที

    คิดว่าอัปนาสมาธิก็น่าจะทําได้ *คาดเดานะ
    สิ่งที่เห็นอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
    อยู่ที่สถานที่ว่ามีความสงบปราศจากคนรบกวนหรือป่าว กําลังของผู้ปฏิบัติด้วย และที่สําคัญถ้าร่างกายผู้ปฏิไม่แข็งแรงพอแม้จะสงบและกําลังสมาธิมีสูงก็ไปไม่ไกล
    ก่อนที่จะถอดจิตแบบให้ทรงอยู่นานๆจึงจําเป็นต้องทําร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุด กินให้ร่างกายอิ่ม ขับถ่ายให้เรียบร้อย เพราะเมื่ออาการหิว อาการง่วง อาการพิษอาหารกําเริบเมื่อใด ก็เป็นเหมือนไซเร็นเรียกจิดที่ออกจากร่างให้กลับมารับเวทนาในสังขาร

    ถูกผิดประการใดก็ขออภัยนะครับ แค่จะแชร์ความคิดเห็นและปนะสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น
     
  8. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ผมมีข้อเสนอในการ ใคร่ครวญพิจารณา

    สมมติว่า ภพภูมิที่ไปเห็น เป็นจริง แปลว่าอะไร แปลว่า คุณเห็น วัฏสงสาร หรือเปล่า

    สมมติว่า ภพภูมิที่ไปเห็น ไม่จริง แปลว่าอะไร ก็แปลว่า วัฏสงสารเล่นตลกกับคุณ หรือเปล่า

    ก็จะเห็นว่า ไม่ว่าจะจริง หรือ ไม่จริง ล้วนแต่มีสิ่งหนึ่งมาเกี่ยวข้องคือ วัฏสงสาร

    วัฏสงสาร ตัวนี้หากเห็นแล้ว ไม่ทำให้ อยากเห็นการหลุดพ้น ย่อมยังเป็น
    การเห็นเท็จทั้งหมด

    แต่หากเห็น วัฏสงสารแล้ว ไม่ว่าจะเห็นจริงๆ หรือว่า ปรุงแต่ง แต่มันทำให้
    เห็นความ ไร้สาระของสังสารวัฏ เห็นแต่ความไร้สาระ ถอดจิตไปเมื่อไหร่
    ก็เล็งเห็นแต่ความไร้สาระ เห็นแต่ของไร้สาระ แล้วทำให้คิดดำริออก ดำริออก
    จากภพที่ไปเห็น และดำริออกจากวิธีการไปเห็น(เหตุปัจจัยให้เกิดภพ เห็นภพ
    เห็นคติ) อันนี้จึงเป็นการเห็นที่ถูก

    นี่แค่ ดำริจะออกนะ ก็จะถือว่าถูกแล้ว

    แต่ ออกได้จริงหรือเปล่า หรือว่า ยังต้องมีคติเห็นภพนั้น ภพนี้ ไม่เลิกละก้อ
    ก็เรียกว่า ยังออกไม่ได้จริง แต่ถ้าหาทางสิ้นไปของการเห็น พ้นจากการเห็น
    พ้นจากคติที่ไป แบบนี้ ถูกยิ่งขึ้นมาอีก

    หลวงพ่อพุธท่านจึงว่า "การเห็นนั้นจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่จริง"

    การ "เห็น" มันเกิดขึ้นที่จิต ก็ย้อนมาดูการ "เห็น" ที่มันจริงแต่ออกมาจากจิต
    แทน รู้เข้ามาที่จิต มีประโยชน์กว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2010
  9. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023

    ขอบคุณค่ะ อุปมาเหมือน ผู้ได้ชิมรสเปรี้ยวของผลมะยม ก็จะรู้รสของผลมะยมมันเป็นเช่นนั้นเอง เหมือนกับว่า เออ มะยมมันเปรี้ยวน่ะ เอ็งลองชิมดู รสมันไม่เปรี้ยวแบบมะนาวหรอก
     
  10. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023

    ก็ถูกของคุณน่ะ ....... ถ้าคุณยังไม่เคยกินมะยม ก็ลองชิมดูน่ะมันเปรี้ยวยังไง
     
  11. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ลองเล่นแบบนี้ดูบ้างนะครับ ไม่ต้องได้ฌาน แต่ถ้าอยากถอดได้นาน ๆ ไปได้ไกล ๆ ก็ต้องมีสมาธิบ้างน่าจะอย่างน้อยฌานหนึ่งก็ตอนที่ละนิวรณ์ห้าออกหมดนั่นแหละครับ

    วิธีการก็คือให้กำหนดจิตไว้ที่การกระเพื่อมของหน้าท้องเวลาเราหายใจเข้าออก ที่ผมใช้คือยุบหนอ พองหนอ ตามจังหวะขึ้นลงของหน้าท้อง
    แล้วให้เรากำหนดจิตให้แนบแน่นไปกับการยุบพองของท้องอย่าให้คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว แล้วก็หลับไปพร้อมกับยุบพองสุดท้าย ฝึกไปเรื่อย ๆ ภายในหนึ่งเดือนอย่างช้า หรือวันเดียวอย่างเร็ว
    คุณอาจได้พบกับฝันมีสติด้วยวิธีที่ง่ายดาย พอเป็นหลาย ๆ ครั้งลองกำหนดลุกออกจากร่างและกลับเข้าร่างด้วยวิธีการนอนซ้อนลงในร่างของเราอันนี้ผมถือว่าสุดยอด
    เพราะโดยมาจะออกกันแบบไม่รู้ตัว และกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว

    ว่าไปแล้ว วิธีนี้ผมเองก็พบโดยบังเอิญจากการเล่นดูท้องพองยุบแต่สติตามแนบแน่นแล้วก็หลับไปมารู้ตัวตอนกลางดึกที่ร่างกายซู่ ๆ แล้วก็ต่อไปตามนั้น
    ซึ่งก่อนหน้านี้ผมจะเล่นทางกำหนดจิตไว้ที่กลางหน้าผากแล้วก็ออกไปทางนั้น แต่ไม่เคยพุ่งออกไปตอนทำสมาธิซักที มีแต่หลับไปก่อนแล้วก็ออกมากลางดึก

    ตอนนี้ผมไม่ค่อยเล่นแบบนี้เท่าไหร่แล้ว เพราะพอเข้าในเรื่องภพภูมิที่ได้เห็นมาก็เข้าใจแล้วว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ภพภูมิต่าง ๆ มีจริง ผมรู้เท่านี้ก็นับว่าเพียงพอสำหรับผมที่จะนำไปใช้ประโยชน์แล้วครับ
     
  12. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    <MARQUEE direction=up scrollAmount=1>
    ตอนนี้ผมไม่ค่อยเล่นแบบนี้เท่าไหร่แล้ว
    เพราะพอเข้าในเรื่องภพภูมิที่ได้เห็นมา
    ก็เข้าใจแล้วว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง
    ภพภูมิต่าง ๆ มีจริง ​

    ผมรู้เท่านี้ก็นับว่าเพียงพอสำหรับผม
    ที่จะนำไปใช้ประโยชน์แล้วครับ
    [​IMG]
    </MARQUEE>
     
  13. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ขอบคุณค่ะ ว่าเรื่องฝันแบบมีสติ สมัยก่อนเป็นคนไม่ค่อยฝันเลย ฝันน้อยมาก แต่หลังจาก นอนภาวนาหลับแล้ว ถ้าวันไหนสมาธิดีจะไม่ฝัน ถ้าวันไหนกำลังอ่อนลดลงมา จะฝันแบบเป็นจริงเป็นจังมาก เหมือนดูหนัง ภาพเป็นภาพสี สัมผัสได้ถึงสายลม เสียง ....แต่ไม่อยากฝันหรอก ไร้สาระ

    อยากถอดได้แบบนั้นแหละ ถอดออกมาเป็นตัวเลย เคยแต่ถอดแบบรู้ตัวพุ่งออกไปทางแสง กับ เห็นแสงนวลรวมเป็นจุดแล้วกำหนดจิตออก แต่เรื่องถอดจิตนี่

    ข้อดีทางโลกๆ คือ ประหยัดค่าเครื่องบิน
     
  14. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ขอแจมบ้าง เข้าใจว่าไม่ได้ต้องการเนื้อหาที่เกี่ยวกับหลุดพ้น
    แต่สมมุติว่าวันนี้ถอดจิตได้แล้ว และทำถึงขั้นที่ไม่ต้องหลับตาแล้ว ลืมตานี้แหละไม่ต้องดูหรือเห็นจากภาพนิมิตรที่เกิดแต่ลอยไปหายตัวไปอยู่ในสถานที่นั้นเลย ปรากดว่าท่าสถานที่เป็นสวรรค์ และทุกๆคนก้สามารถลอยได้และไปที่ไหนๆได้ดังใจต้องการ จะเนรมิตอะไรก้ได้ดังใจต้องการแล้ว
    เมื่อทุกคนทำได้เป็นสาธารนะมันก้คงไม่มีอะไรแปลกเหมือนที่นกเกิดมาบินได้

    ทีนี้ปรากดว่าสามารถทำได้ทั้งๆที่มีกายเนื้อนี่สิมันก้แปลกกว่าคนอื่นหน่อย และสามารถทำไห้ผู้อื่นเห็นได้ด้วยได้ไม่ต้องกลัวเวลาคนขอพิสูจ แต่ชีวิตนี้ไม่เที่ยง ภพอื่นคนที่ทำริทอย่างนี้ได้ก้มีมาก
    เท่ากับว่าชีวิตในภพนี้ยินดีอยู่การแสวงหาเพื่อให้ทำได้อย่างภพอื่นๆ

    งั้นเปลี่ยนไหม่ภพนี้กายนี้ทำไม่ได้แต่สร้างบุญกุศลมากๆภพหน้าได้เกิดเป้นเทวดาก้สามารถแสดงริทได้ลอยได้ดูอะไรก้ได้ ก้เป้นทางนึงที่สามารถถอดจิตให้กายละเอียดไปไหนต่อไหนได้

    ว่าแต่ยังไงตอนนี้ก้อยู่ในภพนี้แล้วจะไม่ใช่ประโยชน์กายนี้พิจารนาธรรมให้หลุดพ้นไปเลยดีกว่าไหมเพราะปติบัติธรรมยังไงภพหน้าท่ายังมีไม่พ้นไปก้คงได้ถอดกายทิพได้สมใจแน่ๆ ท่าใด้เกิดในสุขติภูมิ

    บางคนอยากบินได้อยากเกิดเป็นนก บางคนอยากมีอำนาจบารมีอย่างเทวดา และบางคนอย่างสงบอย่างพรหม และบางคนอยากหลุดพ้นเพราะมีคนบอกว่ามีสิ่งอื่นที่ดีกว่าคือพระนิพพาน

    แต่บางครั้งบางคนบางจริตก้ต้องการทำส่วนนี้ให้แจ้งก่อนเพื่อที่จะได้เชื่ออย่างสนิทใจ
    ก้อนุโมทนาการปติบัติรรมครับ ผมก้เป็นคนนึงที่ชอบทำสมถะ สาทุๆ
     
  15. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    คำถามมีอยู่ว่า คนที่ถอดจิตจนชำนาณนี่ท่าน ถอดกันไปด้วย ณานไหนค่ะ

    ลองทำณานทุกๆณานแล้วลองถอดจิตดูฌานไหนง่ายเอื้อต่อการถอดจิตลองทำดูว่าแต่เวลาที่สมาทิเป็นอัปปานาจะแยกถอดออกตอนณาน 1 2 3 4 ได้รึเปล่านะ น่าจะตอนที่จิตอยู่ในอุปจารสมาทิหลังออกจากณานนะคับ เพราะขนะเพ่งอยู่ท่ายังสนใจอย่างอื่นคาดว่าคงออกจากอัปปานาสมาทิมาแล้ว

    ภพภูมิที่ไปพบไปเห็นนั่นเราจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่ามีจริง

    ลองกับภพปัจจุบันก่อน ลองกับการมองเห็นในสิ่งไกล้ๆตัวก่อนเช่นว่า ห้องข้างๆมีอะไร ตึกถัดไปเป็นยังไงแล้วเดินไปดูเลยจะได้รู้ว่าที่เห็นจริงหรือไม่จริง

    ทำอย่างไรถึงจะถอดจิตแล้วทรงอยู่ได้นานๆ

    ก้ดูว่าคล่องตัวพอหรือยัง อะไรที่ทำได้โดยบังเอิน มันก้ไม่เหมือนทำได้เพราะชำนาญ
    แต่การฝึกฝนทุกอย่างแรกๆย่อมล้มๆลุกๆ ทำได้ยังไม่ชำนาญก้ทำได้โดยบังเอินบ้างทำได้สำเร็จบ้าง ยังไงคุนเจ้าของกระทู้ทำแล้วนำมาแชร์ประสบการเรื่อยๆนะครับ

    ใครมีประสบการณ์บ้างแชร์กัน
    talkthumma@hotmail.com
    พอมีประสบการบ้างครับท่าว่างก้คุยกันทางเอ็มเอสเอ็นได้ครับ

    อนุโมทนาการปติบัต
     
  16. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023

    ขอบคุณค่ะ คนอื่นท่านอาจจะถอดแล้วเดินไปโน้นไปนี่ แต่เราถอดได้แบบ แค่คิดว่าไปโน้นไปนี่ จิตมันเร็วมาก มันก็ไปโผล่ตรงโน้นตรงนี้แล้ว ยังไม่เคยฝึกเดินไป อย่างแค่ในบ้าน คิดไปห้องน้ำก็ไปโผล่ห้องน้ำ ไปห้องนั่งเล่นก็ไปโผล่ห้องนั่งเล่น เสมือนจริงมากๆ เวลาพิมพ์อยู่นี่สงสัยหูจะเพี้ยน ได้ยินเสียงสวดมนต์
     
  17. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    หากจะถอดจิต แล้ว สอบสวนให้รู้ว่า ออกไปจริง หรือ เทียม(ความคิดแล่นไป
    หรือ สังขารขันธ์มันเล่นตลกแอบฉวยเอาพลังสมาธิเราออกไปจับจ่าย ช๊อปปิ้ง ดู
    นั่นดูนี่กลับมาอัตตาพอง) ก็ต้องฝึกย้อนดูกายก่อนออก

    ที่นิยมมากๆ คือ ดูมาที่มือ

    ที่นิยมรองลงมา คือ หัว หรือ เท้า ซึ่งจะเป็นพวกออกไปเป็นดวง ไม่ใช่
    กายมีแขนขา เพียงแต่รู้สึกมีแขนขาหูจมูกไปด้วย

    ตรงนี้หากทำไม่ได้ ไม่มี ไม่เกิดกระบวนการ ก่อนออกมาย้อนดูสอบสวน
    ก็ต้องใช้อิทธิบาท4 เท่านั้น คือ หมั่นประกอบ หมั่นอธิษฐาน หมั่นตั้งจิต
    ว่าก่อนออกจะขอดูมือดูเท้าก่อน อย่าให้แล่นพรวดออกไป จะโดนสังขารขันธ์
    หลอกกินหมด

    การออกไปให้ได้นาน ก็ไม่ใช่อยู่ที่การออกไปให้ได้นาน นานมันเป็นเรื่อง
    ของคนทำมาหลายชาติ คนที่พึ่งเริ่มมันต้องรู้จักเติม

    ตอนเห็นกำลังสมาธิถอย มันกำลังถอย ต้องน้อมมาเติม น้อมลงไปในกรรม
    ฐานที่ถนัดแล้วเติมลงไป เช่น

    หากภาวนาพุทโธมา พอกำลังถอย แลเห็น ก็น้อมเติมลงไปเลย บริกรรม
    พุทโธลงไป หากมันลงได้ มันก็เติม แต่การที่มันลงได้ ก็แปลว่ามันถอย
    มันไม่เต็ม.....แต่สายพุทโธนี่เน้นแต่การเติม ไม่เน้นการออกไปดู หากจะดู
    นี่ดูกาย ดูอาการ32 มันกว่า

    ใครถนัดพองยุบ ก็กลับมาพองยุบ แต่อันนี้กลับมาเต็มตัว ถอยลงมาหมด
    กลับไปต่อไม่ค่อยได้...อันนี้ก็เพราะ ดูอาการ32 มันมันกว่าเป็นไหนๆ

    แต่หากใครใช้อานาปานสติ แบบนี้หากไวพอ ก็เหมือนคนเติมน้ำมันกลาง
    อากาศเพราะ กองลมนั้นไม่ใช่ลมหายใจอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ เพราะวิญญาณ
    มันก็คือกองลมอย่างหนึ่ง เอามันกลับมาไล่ที่กายที่ใจนี่เต็ม อิ่มเอาง่ายๆได้
    เหมือนกัน แถมเห็นได้มากกว่าหนึ่งฐาน แต่พอเห็นฐานกายกลวงๆ มีสัญญา
    หมาย มีวิญญาณครองตรงนี้ มันก็ไม่ออกไปดูอย่างอื่นแล้ว เพราะทุกภพ
    ทุกชาติมันออกไปจากจุดนี้ มันจึงมันส์กว่าเป็นไหนๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...