ขอเชิญเขียนคำคมธรรมะบนบอร์ดนี้เพื่อบรรจุในองค์พระประธาน

ทุกข์หมดจากใจ ในทุกสถาน เป็นอันจบกัน

 

มันมีเท่านี้เอง ของท่านพุทธทาส
ต้องเวียนเกิด เวียนตาย ตามบุญบาป
เมื่อไร ทราบ ธรรมแท้ ไม่แปรผัน
ไม่ต้องเกิด ไม่ต้องตาย สบายครัน
มีเท่านั้น! ใครหาพบ จบกันเอย ฯ

 

ขอยกบทนี้มาละกันครับ อนุโมทนาครับ

อนิจจาวะตะสังขารา
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อุปปัททะวะยะธัมมิโน
มีความเกิดขึ้นแล้วมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อุปปัชชิตะวานิรุชชันติ
เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
เตสังวูปะสะโมสุโข
ความสงบระงับแห่งสังขารทั้งหลายนั้นเป็นสุข
สัพเพสัตตามะรันติจะ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่ตายไปแล้วก็มี
มะริงสุจะ
ที่กำลังตายอยู่ก็มี
มะริสสะเร
ที่จะตายต่อไปข้างหน้าอีกก็มี
ตะเถวาหังมะริสสามิ
แม้ตัวเราก็จะต้องตายไปอย่างนั้นนั่นเทียว
นัตถิเมเอตถะสังสะโย
ความสงสัยในเรื่องตายไม่มีเลย

 

มีหลายคำคม นะครับ

1. ชีวิตนี้เป็นสิ่งไม่เที่ยง แต่ความตายนี้สิคือสิ่งเที่ยงแท้แน่นอน

 

พระโอวาทของท่านอรหันต์จี้กง

1. ชีวิตย่อมเป็นไปตามวิถีแห่งกรรมที่ลิขิต (ละชั่วทำดี)วอนขออะไร
2. วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้ กลุ้มเรื่องอะไร
3.ไม่เคารพพ่อแม่แต่เคารพพระพุทธองค์ เคารพทำไม
4. พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา ทะเลาะกันทำไม
5. ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต ห่วงใยทำไม
6. ชีวิตย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ ร้อนใจทำไม
7. ชีวิตใช่จะพบเห็นรอยยิ้มกันได้ง่าย ทุกข์ใจทำไม
8. ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้ อวดโก้ทำไม
9. อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร อร่อยไปใย
10. ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้ ขี้เหนียวทำไม
11. ที่ดินคือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง โกงกันทำไม
12. โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย โลภมากทำไม
13. สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศีรษะเพียง3ฟุต ข่มเหงกันทำไม
14. ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน หยิ่งผยองทำไม
15. ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต อิจฉากันทำไม
16. ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ แค้นใจทำไม(บำเพ็ญไวๆ)
17. นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ เล่นการพนันทำไม
18. ครองเรือนด้วยการประหยัดดีกว่าไปพึ่งผู้อื่น สุรุ่ยสุร่ายทำไม
19. จองเวรจองกรรมเมื่อไหร่จะจบสิ้น อาฆาตทำไม
20. ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก คิดลึกทำไม
21. ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้ รู้มากทำไม
22. พูดเท็จทอนบุญจนบุญหมด โกหกทำไม
23. ดีชั่วย่อมรู้กันในที่สุด โต้เถียงทำไม
24. ใครจะป้องกันมิให้เกิดเรื่องได้ตลอด หัวเราะเยาะกันทำไม
25. ฮวงซุ้ยดีอยู่ในจิตไม่ใช่อยู่ที่ภูเขา แสวงหาทำไม
26. ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ ถามโหรเรื่องอะไร
27. ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม

 

คนทำดีก็เหมือนน้ำที่ใสสะอาด
คนทำชั่วก็เปรียนบเสมือนน้ำที่สกปรก
คนทำดีมาทั้งชีวิต ทำชั่วครั้งเดียว
ก็เปรียบเสมือนน้ำสกปรกตกลงไปในน้ำสะอาด
น้ำก็จะเป็นน้ำขุ่นทันที ไม่สามารถที่จะเป็นน้ำที่สะอาดได้อีกต่อไป

 

คนเรากลัวความทุกข์ ชอบความสุข
ใฝ่หาความสุข หลีกเลี่ยงความทุกข์
แต่ความจริงสุขและทุกข์คืออันเดียวกัน
เมื่อมีสุขก็จะมีทุกข์ตามมา
เมื่อมีทุกข์สุขก็จะตามมาเช่นกัน
แต่คนเรายังชอบแสวงหาความสุขนั้น ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นทุกข์

 

ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
ผู้ใดเห็นตถาคต ผู้นั้นเห็นพระนิพพาน

 

ทุกข์สุขอยู่ที่ใจมิใช่หรือ
ถ้าใจถือก็เป็นทุกข์ไม่สุขใส
ถ้าไม่ถือก็เป็นสุขไม่ทุกข์ใจ
เราอยากได้ความทุกข์หรือสุขนาpity_pig
รักษาตัวกลัวกรรมอย่าทำชั่ว
จะหมองมัวหม่นไหม้ไปเมืองผี
จงเลือกทำแต่กรรมที่ดีดี
จะได้มีความสุขพ้นทุกข์ภัย
​

 

แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

 

ทำงานเอาไว้กินชาตินี้ ทำบุญเอาไว้กินชาติหน้า
อยู่ก็สบาย ไปก็เป็นสุข

 

ความดีนั้นทำยาก แต่ก็ต้องทำ
:z1

 

คนหน้าตาดีในวันนี้ จะเป็นผีในวันหน้า:VO

 

งั้นเป็นสุดยอดธรรมไปเลย​

อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ
(เธอจงทำความไม่ประมาททั้งหลายให้ถึงพร้อมเถิด)​

 

สิ่งรอบตัวเป็นสิ่งมายา
อย่าไปยึดติดกับมัน
ตอนเกิดมาก็ไม่มีอะไรมีแต่ตัว
ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้
ตายไปก็ไปแต่ตัว

 

ศีลเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข
ศีลเป็นบ่อเกิดแห่งโภคทรัพท์สมบัติ
ศีลเป็นต้นที่ทำพระนิพานให้กระจ่างเเจง

 

กรรมดีคนดีทำได้ง่าย
กรรมดีคนชั่วทำได้ยาก
กรรมชั่วคนชั่วทำได้ง่าย
กรรมชั่วคนดีทำได้ยาก

 

"ผู้ใดต้องการอุปัฏฐากเราตถาคตผู้นั้นจงไปอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด"
( ( (พุทธพจน์แห่งพระตถาคต) ))​

...ก่อนเกิดใครเป็นเรา
เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร​

สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่
ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า​

ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน
มองในสิ่งที่ไม่เห็น
ทำในสื่งที่ไม่มี....

เราเกิดมาเพื่ออะไร ?
ตอบ = เราเกิดมาเพื่อ ทำพระนิพานให้แจ้ง สร้างบารมี และแสวงหาบุญ
​

 

๑ รู้หมด ทิ้งหมด ได้หมด
๒ จิตคิด จิตถูกทำลาย จิตไม่คิด จิตไม่ถูกทำลาย
"จิตที่ส่งออกนอก เป็นสาเหตุแห่งทุกข์
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตเป็น มรรค
ผลอันเกิดจากจิตเป็น นิโรธ"
๓ จิตเดิมแท้เป็นความว่าง(ที่ไม่สูญ) เป็นพ่อ-แม่แห่งอัตตาและอนัตตา เป็นพ่อ-แม่แห่งวิชชาและอวิชชา
๔ ไม่มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไม่มีฌาน ไม่มีการบรรลุ เพราะไม่มีอะไรให้บรรลุ

 

ธรรมใดเกิดแต่เหตุ ตถาคตจะกล่าวถึงเหตุแห่งธรรมนั้น
(พระอัสสชิกล่าวธรรมโดยย่อแก่พระสารีบุตร เป็นเหตุให้เข้าถึงโสดาปัตติผล)

สัตว์โลกเกิดเท่าไหร่ ตายหมดเท่านั้น
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้รับคำสอนจากพระพุทธองค์)