เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ช่ายคร้าบบ ใครได้ไปพบปะกับอ.
ได้เรื่องเล่าอะไรสนุกๆ ก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

ตอนนี้ก็ตามอ่านกระทู้เก่าของอ.อยู่ครับ

 

ตกใจ มากครับ ว่าถ้าว่างจะไปหาอาจารย์
หากมีสิ่งใดที่ล่วงเกิน ทั้งกาย วาจา ใจ ก็กราบขอขมา มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ผมก้อเสียใจที่ไม่ทันได้ไปเจออีกครั้ง ไปร่วมงาน2ปีที่โลกทิพย์ และที่ ร.ร. ดีมากๆ ผมเอาทฤษฎีอาจารย์มาแก้ไขตนมากมาย ไม่มีอาจารย์คงไม่มีวันนี้

 

เคยพบอาจารย์ที่บูชเพียงครั้งเดียว ขอให้อาจารย์พบกับความสุขนะครับ

 

ภาพบรรยากาศรดน้ำศพ อาจารย์อาชวิน
15 สิงหาคม 2553
วัดวิมุตยาราม






​

 

............................................

 

.....................................................................

 

วันนี้ไปงานอาจารย์ก็ได้มีการพูดคุยถึงแนวโน้ม ในการเป็นไปของบู๊ทที่ๆเคยให้ไออุ่น
ของพวกมีพลังจิตที่ไปคุยที่ไหนไม่ได้ แค่อยากจะถามว่าจะให้ดำเนินต่อไป
หรือปล่อยๆไปครับ

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ ประมาณ ๑๔.๔๕ น.
ผมเดินทางไปถึงวัดวิมุตยาราม ไปถึงก็เห็นสรีระของอาจารย์วางบนแท่น
เตรียมพร้อมให้ญาติ พี่น้อง และลูกศิษย์ทั้งหลาย มารดน้ำแสดงมุทิตาจิต
เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนบรรจุร่างของอาจารย์ลงหีบศพ

 

หาก รักษาบูธ ไว้ ได้ ก็ จะดี

แต่ คนที่ เข้าไปรับภาระ ... (หาคนเข้าไป ทำ ยาก)

หากจะทิ้ง ปล่อย ให้ เลือนหาย ไปตามกาลเวลา ก็ เป็นที่น่าเสียดาย
เรื่องราวที่ อ.สามตา ได้ ค้นคว้าไว้
ยังมี คนตัวเป็น เป็น เป็นพยานได้ ก็ คื่อ พวกเรา นี่เอง

ผมมีข้อเสนอ เรื่องหนึ่ง
1. หากรักษาบูธ ให้ เปิดดำเนินการได้ .... ก็ เป็นที่ยินดี อย่างยิ่ง
2. หาก ต้องปิดบูธลง ... ด้วยเหตผลใด ก็ ตาม (ต้องหารือกัน..ผลสรุป)
3. อยากให้ จดบันทึก ความทรงจำ ไว้.... เรื่องราว และ ความรู้ ที่ อ.สามตา ทำไว้
4. หาก ผู้ที่ ระลึกถึง อ.สามตา จะมารวมกับ ทำบุญ สร้างกุศล และระลึกถึงท่าน ที่วัดวิมุตยารม ในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 เป็นการนัดหมาย ล่วงหน้าไว้เลย
ทำบุญเลี้ยงพระ ฯ... กับ สิ่งอันควร
5. หากเป็นไปได้ น่าจะจัดงานมินิพลังจิต ให้ เป็น มุทิตาจิต แก่อาจารย์สามตา ในปีนี้ด้วย ... ข้อนี้ ผมรู้สึกว่า นี้ คือความภาคภูมิใจ ของ อ.สามตา ประการหนึ่ง

ควร มอบหมาย ให้ใครสักคน หรือ หลายคน เป็นตัวแทน เพื่อดำเนิการดังกล่าว

บุคคลที่ ผม นึกออก เช่น
1. คุณบาส
2. คุณจีรศักดิ์
3. คุณจักรพล
4. คุณชยา
..............................เป็นต้น


ผมเสนอ เพื่อเป็นแนวคิด เท่านั้น ... ครับ ท่านที่มีความคิดเห็น อื่นใด
กรุณา แนะนำ ด้วย....

 

ได้มีโอกาสสนทนากับภรรยาของอาจารย์ ซึ่งจบจากจุฬา สถาบันเดียวกับอาจารย์
ถามถึงวันเกิดของอาจารย์ เพราะมีหลายคนอยากรู้
ได้รับคำตอบจากภรรยาของอาจารย์ว่า

อาจารย์อาชวิน บอกว่า อาจารย์เกิด พ.ศ. ๒๔๘๕
แต่เวลาไปแจ้งเกิด ตอนนั้น เป็น พ.ศ. ๒๔๘๗

เลยต้องระบุเป็นปีพ.ศ. ๒๔๘๗

 

สิ่งใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินไว้ทางกาย วาจา ใจ

ขออโหสิกรรมอาจารย์อาชวิน มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปองอาจารย์อาชวินผู้ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจในเรื่องโลกอีกมิติ และติดตามอ่านเรื่องเล่าของอาจารย์มาตลอด นับตั้งแต่เพื่อนส่งลิงค์เรื่องเล่า ของอาจารย์ไปให้ ขอให้อาจารย์ไปสู่สุขคติ เดี๋ยวจะออกไปโอนเงินทอดผ้าป่าอุทิศให้อาจารย์ค่ะ

 

พิธีรดน้ำศพ เริ่มขึ้นหลังจากญาติผู้ใหญ่มาถึงพร้อมกันแล้ว
ในช่วงเวลาบ่ายสามโมงเศษ

จากนั้น ชมรมคนตาทิพย์ ได้ส่งพวงหรีดไว้อาลัยแด่อาจารย์ มาถึงวัดเป็นพวงแรก
และสมาชิกชมรมฯ ต่างทยอยกันมาถึงวัด

 

ศพของอาจารย์ถูกจัดวางไว้ในที่สูงเด่นเป็นสง่า ประดับประดาเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันต์สวยสดงดงาม เรียงสูงขึ้นไป ราวกับภูเขาไกรลาส
เป็นที่ปลื้มตา ปลื้มใจ ของพวกเรา ที่ยังคงมีอาจารย์อยู่ในดวงใจตลอดไป

 

อาจารย์อาชวิน ท่านเป็นผู้ให้มาโดยตลอด ตั้งแต่ได้เริ่มรู้จักกับอาจารย์มา
เกือบ ๕ ปี แล้ว

แม้จะมีแรงเสียดทาน รุมล้อมเข้ามามากมายหลายด้าน
แต่อาจารย์ก็ไม่หวั่น คงเดินหน้าเล่าประสบการณ์ทางจิต
ที่อาจารย์สามารถสัมผัสได้ ให้กับผู้สนใจและศรัทธา เคารพนับถือ ในตัวอาจารย์

หากมีผู้สนใจในศาสตร์วิชาที่อาจารย์มีอยู่
อาจารย์ก็ยินดีถ่ายทอด แนะนำ ให้ด้วยความมีเมตตาจิต
ซึ่งเป็นวิสัยของคุรุผู้ให้อย่างแท้จริง

 

กราบขอขมาและขออโหสิกรรม อาจารย์อาชวิน หากมีสิ่งใดที่เคยล่วงเกินไป ไม่ว่าจะเป็นด้วย กาย วาจา ใจ
ขออาจารย์ไปสู่สุคติ ครับ

 

เรื่องเล่าของอาจารย์ เรื่องแล้ว เรื่องเล่า ไม่เคยจบ ตราบใดที่อาจารย์ยังคงดำรงอยู่
และใช้ขันธ์ห้าอย่างคุ้มค่า ก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางจิตวิญญาณแก่เยาวชนคนรุ่นหลัง
และเรื่องเล่าเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นตำนาน ไม่มีวันสูญไปจากความทรงจำ ของผู้ที่มีใจให้ความเคารพนับถืออาจารย์ตลอดไป