มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

เรื่องปู่ศรีสุทโธ เคยสัมผัสด้วยตนเองเลย วิธีบูชาก็จุดธูป 9 ดอกแล้วกล่าวคำบูชาปู่ ปู่เคยมาอวยพรให้ทางโทรศัพท์คือว่าตอนแรกเราคุยโทรศัพท์แต่คุยไปคุยมาเสียงสัญญาณเริ่มเปลี่ยนเหมือนไม่มีคลื่น แล้วก็เป็นเสียงคนแก่อวยพรให้เรา ตอนนั้นเรากำลังเดินทางไปต่างจังหวัด เราให้เพื่อนฟังยังขนลุกเลย บูชาท่านแล้วดีท่านคอยตามช่วยคุ้มครองเรา

 

ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยคะ....ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหล่าพญานาค รึเปล่า.....แหะๆ แต่ชอบพญานาคคะ รักพญานาค

 

ภาพจากพระธาตุแอ่วขัน แขวงเวียงจันทร์ ประมาณ 70 ก.ม. จากเมืองเวียงจันทร์ หน้าฝนเส้นทางค่อนข้างกันดาร

วัดพระธาตุแอ่วขัน เป็นที่พระพุทธเจ้าโคดมโปรดอาฬวกยักษ์ มีพระพุทธบาทองค์แท้ และมีรอยเข่าสองข้างของพญายักษ์ วัดมีเนื้อที่ 5,000 ไร่ มีหลวงพ่อสม อยู่องค์เดียว กับลูกศิษย์ฆราวาสคนนึง ไปถึงประมาณเกือบสี่ทุ่ม หลวงพ่อสม ท่านก็ออกมาต้อนรับ

พลังกระแสศีลธรรมสุดยอด เช่นกันครับ ผมนั่งภาวนารับกระแสศีลธรรมห้าชั่วโมงเต็มจากสี่ทุ่มถึงตีสาม ขณะที่ฝนตกอย่างหนักมากตลอดทั้งคืน จากนั้นก็พักมาทำคำหมากถวายครูบาอาจารย์ชั่วโมงนึงแล้วก็ไปภาวนาต่อจนถึงหกโมงเช้า ที่จริงมีรายละเอียดเยอะแต่ไม่อยากเล่าเพราะเป็นเรื่องศีลธรรมที่เร้นลับ เอาให้ผู้ที่ท่านมีญาณศีลธรรมขั้นละเอียดท่านตรวจสอบในเรื่องเขตของ "พระธรรม" ที่ครูบาอาจารย์ชั้นพระโพธิสัตว์หลายๆพระองค์ไปสำเร็จธรรมมาจากเขตภูเขาควาย โดยเฉพาะพระพุทธบาทแอ่วขัน เป็นที่ทดสอบขันติบารมีของพระโพธิสัตว์ แต่สำหรับผมแล้วไปเพื่อรับศาสน์ศิลป์วิทยาการสมัยโบราณ มาทำหน้าที่ในยุคปัจจุบัน เท่านั้นครับ

แต่ในระหว่างพรรษานี้ก็จะขึ้นไปที่วังเดิมของอาฬวกยักษ์ ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 5 ก.ม.จากพระบาทแอ่วขัน ก็จะคัดเลือกเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่และภาวนาแข็งๆ ประเภทไม่กลัวตาย ขึ้นไปภาวนาถวายครูบาอาจารย์ สัก 3 วัน 3 คืน ก็เป็นอันเสร็จภารกิจ สำหรับภูเขาควายตอนกลาง

ภาพน้ำตกข้างล่าง เป็นน้ำตกในวัดพระบาทแอ่วขัน ครับ

คิวต่อไปก็จะไปทำศาสน์ศิลป์ ในเขตของภูเขาควายตอนล่าง แขวงจำปาสัก โดยเฉพาะในเขตสำคัญของ "พระเวท" ที่พระพุทธองค์ในอดีตเคยเสด็จไปยืนประทับโปรดพระเวท ก็เป็นสถานที่เร้นลับ ยากแก่การเข้าถึงเช่นกัน

 

ส่วนหนึ่งของภาพวาดวังเดิม ของอาฬวกยักษ์ ครับ ของจริงหลวงพ่อสม เจ้าอาวาสวัดแอ่วขัน ท่านบอกว่ากว้างขวางและทิวทัศน์สวยงามมาก ปกติจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่นุ่งขาวห่มขาวและพระสงฆ์ที่มาภาวนาจริงๆจังๆ เข้าไปในเขตนั้นได้ เข้าใจว่ายักษ์รักษาเขตนั้นชอบนักปฏิบัติธรรม

มีรูปปั้นยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว อยู่ที่นั่นด้วย ครับ

 

จากนั้นก็ไปทำศาสน์ศิลป์ ที่วัดเชียงทอง และพระธาตุควางฮี(ภูสี) ในเขตหลวงพระบาง การเดินทางลำบากมาก มีระบบทดสอบเยอะ เช่น ภุเขาถล่มปิดถนน ทั้งไปและกลับ ต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง จึงจะผ่านไปได้
ปู่ฤษีตาไฟ ท่านบอกว่าเดิมเป็นเขตเขาวงกต ในยุคพระเวสสันดร มีด่านของท้าวผาแดง(ในตำนานผาแดง-นางไอ่) รถยนต์ส่วนใหญ่ผ่านตรงนั้นจะนำเอาของไปให้บริวารของท้าวผาแดง ข้างบนหรือในภูเขาบริเวณนั้น จะเป็นเขตเร้นลับของพระอรหันต์ ผู้ที่จะผ่านเข้าไปในเขตภายในได้ ต้องถึงพร้อมด้วยเทพฤทธิ์ บุญญฤทธิ์

ไปถึงที่แรกก็คือวัดเชียงทอง ไปอธิษฐานเรื่องราวเกี่ยวกับ เชียงงาม กับเชียงทอง ในอดีตที่สองพี่น้องที่อธิษฐานบำรุงพระศาสนาร่วมกัน เรื่องราวของเชียงงามปรากฏอยู่ที่เมืองหนองหาร อุดรธานี ในวิหารวัดเชียงทองมีพระพุทธรูปสำคัญเข้าใจว่ามีพระทองคำอยู่ภายใน ก็ไปอธิษฐานหลายจุดในวัดเชียงทอง ปู่ฤษีตาไฟ ท่านก็บอกให้ไปตรงโน้น ตรงนี้ ซึ่งก็มีศีลธรรมแต่ละจุดตอบรับกระแสการอธิษฐานเป็นอย่างดี

ส่วนที่ดอยควางฮี(พูสี) นั้นก็มีกระแสคลื่นรบกวนลักษณะของความหงุดหงิด นิดหน่อย อันเนื่องมาจากความคับแค้นใจของนางยักษ์ควางฮี ลูกสาวของยักกุมภัณฑ์ ในอดีตที่เกี่ยวพันกันมาแต่ยุคโบราณ สุดท้ายระบบก็คลี่คลายเป็นกระแสธรรมที่สงบ ร่มเย็น

 

จากนั้นก็กลับมาสู่นครเวียงจันทร์ ไปวัดโพธิ์ทองหนองคำแสน เขตหาดทายฟองในอดีตเป็นวัดที่ปู่ฤษีตาไฟเคยมาบวช เป็นเขตดูแลของพญานาคนาโค เขตหาดทายฟองนี่เป็นเขตถิ่นกำเนิดของพญานาคสำคัญๆมากมาย เช่น พญานาคศรีสัตตนาคก็เกิดในหนองคำแสน เขตหาดทรายฟองนี่เอง ครับ

 

จากการไปทำศาสน์ศิลป์ที่ลาว ก็ได้มีโอกาสถวายพระพุทธรูปขนาดย่อมไว้ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ที่วัดเชียงทอง พระธาตุพูสี รวมทั้งอธิษฐานส่งให้พญานาคในเขตแม่น้ำคาน รวมถึงในแม่น้ำสองสี(จุดรวม โขง-ชี-มูล) และได้มีโอกาสแจกทานพระพิมพ์สมเด็จ ที่จัดสร้างโดยมูลนิธิพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ให้กับพี่น้องชาวลาวส่วนนึงที่ไปร่วมงานสมโภชน์พระไชยเชษฐา นอกจากนั้นได้ถวายเทียนพรรษา จุดบูชา ณ สถานที่ต่างๆ เช่น วัดพระบาทแอ่วขัน วัดป่าเลไลย์ วัดโพธิ์ทองหนองคำแสน (ในเวียงจันทร์) พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์และวัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ. อุบลราชธานี

เมื่อเสร็จกิจที่ลาวก็ข้ามมาฝั่งไทย แวะไปจุดเทียนพรรษาถวายพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ แล้วก็เดินทางไป จ.อุบลราชธานี ไปถึงประมาณสามทุ่มกว่า เมื่อไปถึงฝนตกหนัก พวกพญานาคจาก 3 แม่น้ำขึ้นมาอนุโมทนาบุญกันมาก ได้ไปพักในศาลาติดกับศาลาที่เก็บสังขารของหลวงปู่คำคะนิง(ปิดตอนกลางคืน) ก็สื่อญาณกับท่าน เมื่อเตรียมเครื่องขันธ์บูชาเสร็จก็นั่งสมาธิ ที่หน้ารูปหล่อหลวงปู่คำคะนิง (หน้าศาลาพระศพของท่าน) ครู่นึงก็มีครูบาอาจารย์ที่เป็นปู่ฤษีจากฝั่งลาวมากันมากมาย ปู่ฤษีมุนีดาบส ท่านบอกว่าทางภูเขาควายเขากำลังจะมีกิจทางศาสนากัน ระหว่างที่รอพิธี ผมก็อธิษฐานเชิญครูบาอาจารย์ ท่านก็เลยแวะมากันก่อน ก็เลยได้มีดโอกาสถวายหมากพลู บูชาครูบาอาจารย์จำนวนมาก สักพักท่านก็กลับกัน

จากนั้นหลวงปู่ทวดท่านก็มา ท่านบอกเรื่องราวหลายอย่างเกี่ยวกับภูเขาควายและศาสน์ศิลป์ที่ไปทำมา ท่านถามผมว่าอยากพบหลวงปู่คำคะนิงไม่ใช่เหรอ ท่านให้อธิษฐานถึงหลวงปู่คำคะนิง ครูเดียวหลวงปู่คำคะนิง ท่านก็มาให้พรคณะที่ไป พร้อมกับประสิทธิ์ศาสน์วิชาที่ท่านบำเพ็ญมาให้กับผมเพื่อนำไปทำหน้าที่บำรุงทางพระศาสนา ท่านสนทนากับคณะพักนึง แล้วท่านก็กลับ

ครู่นึงปู่ฤษีกไลยโกฏิ ก็มาหาคณะ ท่านให้พรเกี่ยวกับธรรมะอย่างเดียว ปู่ท่านบอกว่าปู่มีหน้าที่สอนพระโพธิสัตว์ ปู่มีแต่ธรรมะที่จะให้ลูกหลาน ท่านแนะวิธีนั่งสมาธิให้ ท่านมาสนทนาอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง ท่านแนะนำให้ผมกลับไปบำเพ็ญภาวนาด้านบนภูเขาควาย ที่วัดพระบาทแอ่วขัน จากนั้นท่านก็กลับ

 

วันต่อมาก็เดินทางไปวัดสระประสานสุข (วัดหลวงพ่อบุญมี) ร่วมหล่อเทียนเข้าพรรษา ปล่อยสัตว์หลายอย่างและทำบุญอื่นๆ หลวงปู่ท่านเป็นสายตรงพญานาคเช่นกัน บริวารพญานาคของท่านเยอะ

เมื่อไปกราบพระประธานในโบสถ์กลางน้ำ พญานาคเขามาทักทาย เขาบอกว่าชื่อพญานาคนันทะนาโป เขาดีใจที่เราไปที่นั่น

จากนั้นก็ไปกราบสังขารหลวงพ่อบุญมี ได้อธิษฐานนิมนต์ท่านไปที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ตามกาลเวลา เห็นท่านลอยดิ่งไปที่ จ.หนองคาย มีพญานาคบริวารท่านตามไปเป็นโขยงเลย

 

ที่สุดท้าย เป็นการสรุปกองบุญในวาระเทศกาลเข้าพรรษา ที่วัดป่าใหญ่ จ. อุบลราชธานี ได้นำเครื่องสักการะเครื่องขันธ์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ พร้อมกับเครื่องขันธ์พระอินทร์ ไปสักการะพระเจ้าใหญ่อินแปลง เพื่อเป็นสื่อญาณถึงพ่อพระอินทร์ รายงานถึงการทำหน้าที่ในโลกมนุษย์อย่างเป็นทางการ พร้อมกับขอพรจากท่าน ที่นี่ก็มีสิ่งเร้นลับที่สามารถไปถึงสวรรค์ชั้นพระอินทร์ได้ พร้อมทั้งมีความเร้นลับของแก้วมณีโชติ หรือแก้ว 7 ประการในระบบพระจักรพรรดิ์ ก็ได้อธิษฐานอัญเชิญแก้ว 7 ประการเข้าสู่ที่สถิตย์ ณ เขตศูนย์กลางของพระจักรพรรดิ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเสร็จภาระกิจไปอีกขั้นนึง ครับ

 

หวัดดีค่ะเป็นลูกหลานพญานาคนาคาธิบดีศรีสุทโนคราชเหมือนกันค่ะ

 

จะทราบได้อย่างไรค่ะ ว่าเป็นลุกหลานพญานาคอะค่ะ หนูชอบฝันเห็นงูใหญ่บ่อยมาก และโดยส่วนตัวเป็นคนกลัวงูสุดๆ แล้ววันที่ขึ้นศาลที่บ้านก้อแบบคนทำศาลบอกว่าที่บ้านเนี่ยะเป็นที่พยานาค ควรหารูปปั้นท่านมาบูชานะ แต่หนูก้อเฉยๆ เพราะได้ยินมาบ่อยแล้ว แต่มาชัดตอนทำน้ำมนต์นี้ละค่ะ เป็นรูปพยานาคเลย ที่บ้านก้อเลยไปหารูปปั้นท่านมา ก้อไปเลือกกะคุณแม่ หนูไปเห็นทุกๆองค์ก้อกลัวหมดเลยอ่ะค่ะ แค่เห็นก้อกลัวแล้ว... เลยยังไม่ได้บูชามา ทำอย่างให้หายกลัวดีค่ะ ><

 

สวัสดีค่ะแอบเข้ามาอ่านหลายครั้งแล้ว เพราะโดยส่วนตัวชอบพระยานาคราชอยู่แล้ว และมีความรู้สึกว่าอยากไปแถวแม่น้ำโขงอยู่เนื่อง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบ อ้อ เดี๋ยวเล่าความฝันให้เพื่อน ๆ อ่านก่อนนะ คืนแรกเราฝันว่าไปที่ทุ่งนาที่กว้างมาก ๆ มีต้นไม้มากมาย แล้วในฝันเราก็เห็นพญานาคกายสีน้ำตาลเข้ม เหาะไปมาเหนือท้องฟ้า คืนที่สองเราฝันว่าเห็นพญานาคราชกายสีเขียวมี ห้า 5 เศียร สวยมากเลยและพญานาคกายสีน้ำตาลเข้มอันนี้จำไม่ได้ว่ามีกีเศียร มาขดอยู่ที่ปลายเตียงที่เรานอนอยู่ แต่ไม่ได้มาทำอะไร เราก็ตกใจตื่น จากนั้นก็สวดมนต์ บทสั้นแล้วหลับต่อ คราวนี้ฝันว่า รู้สึกอุ่น ๆ อยู่ที่ไหล่ด้านซ้าย และ ยังเห็นแสงสว่างมาก ๆ เราก็ตกใจตื่นอีกครั้ง พอลืมตาขึ้นมาตาเราเหมือนมองแสงนานแล้วมันจะมีจุด ๆ นะเป็นอย่างนั้นเลย แต่ว่าง่วงมากเลยหลับต่อ
ยังไงก็ยินดีรู้จักทุกท่านนะค่ะ แล้วจะแอบหนี อาจารย์มาอีกนะค่ะ

 

วันออกพรรษา 23 ต.ค. 53 ถึงกาลเวลาที่ต้องสงเคราะห์เหล่าพญานาคที่ทำหน้าที่อยู่แม่น้ำโขง ครูบาอาจารย์ท่านให้ทำกฐินพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ล่องแม่น้ำโขง ก็คือจัดกองกฐิน 5 กอง อธิษฐานลอยแพล่องไปตามลำน้ำโขง เมื่อกองกฐินไปหยุดอยู่ ณ สถานที่ใด หรือวัดใด กฐินกองนั้นก็จะตกเป็นของสถานที่นั้น

กฐินพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เมื่อหลายสิบปีก่อน หลวงปู่ทองทิพย์ ท่านเคยทำล่องแม่น้ำโขง ขณะที่ท่านอธิษฐานนั้นมีปรากฏการณ์อัศจรรย์หลายอย่าง มาถึงยุคนี้ก็เป็นวาระที่ผมต้องทำ คาดว่าตอนสมโภชองค์กฐิน ในคืนวันที่ 22 ต.ค. 53 คงจะมีบางสิ่งบางอย่างปรากฏให้เห็น

คณะไหนหรือบุคคลใด จะมีโชควาสนาในการเป็นเจ้าภาพกฐินล่องแม่น้ำโขงที่เป็นกองบุญตัวแทนของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น ก็ต้องสร้างบารมีมาเช่นกัน ที่จริงเครื่องกฐินแต่ละกองใช้ปัจจัยไม่มากแต่ต้องมีบุญบารมีมากจึงจะทำได้สำเร็จ หากไม่ถึงพร้อมด้วยอธิษฐานบารมีก็ไม่สามารถทำกฐินให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของเหล่าพญานาคได้ เพราะกฐินพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ล่องแม่น้ำโขง คราวนี้ เหล่าพญานาคเขาร้องขอมา

วันออกพรรษาปีนี้ จะมีกิจอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เช่น การบวงสรวงแม่ย่าเรือคำ(เรือทองคำ)ที่อยู่เร้นลับ ทำหน้าที่รองรับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ อยู่ในขณะนี้ เรือคำลำนี้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากนั้น ก็จะเป็นเรื่องการทำศาสน์ศิลป์ของระบบสิบสองราศรี รวมทั้ง ศาสน์ศิลป์ของไม้มณีโคตรอันศักดิ์สิทธิ์

และคงจะต้องทำศาสน์ศิลป์ของแก้ว 7 ประการด้วย คาดว่าครูบาอาจารย์ท่านคงจะเปิดให้รู้และได้รายละเอียดของการทำศาสน์ศิลป์รองรับแก้ว 7 ประการ ในช่วงที่ไปภาวนา 3 วันที่บนภูเขาควาย ในเมืองของท่านอาฬวกยักษ์ ในเดือน ก.ย. นี้

ศาสน์ศิลป์บางอย่างในวันออกพรรษาคราวนี้จะเกี่ยวข้องกับญาณของเจ้าแม่สองนางด้วย เมื่อตอนที่ไปบวงสรวงพระไชยเชษฐา(กรุงเวียงจันทร์ครบ 450 ปี) ก็ได้มีโอกาสคุยกับสื่อญาณของเจ้าแม่สองนาง มาบ้างแล้ว

ขณะนี้ญาณของหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง ท่านก็รอให้ไปทำศาสน์ศิลป์ที่สังขารของท่านด้วย ไปคราวนี้มีคนขอติดตามไปด้วยหลายคน เนื่องจากวาระที่ไปลาวและจ.อุบลฯ ครั้งที่แล้ว กลับมา มีคนได้โชคลาภไปหลายคน(คราวที่แล้วหลวงปู่คำคะนิง ท่านสงเคราะห์)

 

สวัสดีค่ะพี่น้อง เข้าพรรษาแบบนี้แล้วไม่ค่อยมาใครเข้ามามากนัก บ้านนี้จึงเหงาๆอยู่นา
พรเองก็ไม่ได้เข้ามาอ่านเกือบเดือนแล้วกระมัง ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับงานในท้องนา กำลังปักดำอยู่เลย
...เมื่อไม่นานมานี้ คืนของวันที่ 4 สิงหา ฝันว่าเข้าไปในวัดแห่งนึง ในฝันพรเป็นเด็กอายุสัก 10 ขวบได้
ในวัดมีหลวงปู่ หลวงพ่อจำพรรษาอยู่สัก 10 รูป มีเด็กวัดประมาณ 20 คน เด็กๆกำลังกินข้าวอยู่
พรก็ขึ้นไปบนศาลาแล้วก็ขอกินข้าวบ้าง อาหารวางไว้บนโต๊ะ แบบว่า บุปเฟ่ต์ เลือกหยิบตักเอาเอง
พรเลือกกินหัวเผือกหัวมันแล้วก็ฟักทอง อาหารดีๆเด็กโตที่เป็นหัวโจกเอาไปกินหมดแหละ
กินไม่อิ่มแฮะ ก็ไปเดินที่ลานวัด ตรงนั้นมีต้นมะม่วงต้นสูงใหญ่ ผลมะม่วงสุกเหลืองอร่ามน่ากิน
แต่มันเป็นของทิพย์ ( คำเปรียบเปรยคือ ผลบุญ นั่นเอง ) มันไม่ตกลงมาให้กิน ใครก็ปีนขึ้นไปเอาไม่ได้
พรก็อธิฐานขอ มะม่วงหล่นทันใจ ตกถึงพื้นแบบไม่แตกซะด้วย แต่พอจะก้มลงเก็บก็โดนแย่งตัดหน้าไปก่อน
ไม่เป็นไร ขอเอาใหม่ก็ได้ มะม่วงก็หล่นลงมาเป็นอันมาก พวกเด็กวัดวิ่งมาแย่งเก็บชอบอกชอบใจใหญ่
เห็นจะไม่ได้กินซะทีก็แบมือออกแล้วขอว่าขอให้หล่นลงมาในมือพรเถิด ก็ได้มาอยู่ในมือผลงามเชียว
แต่อารามบอยตัวโตกว่าพวกมาแย่งคว้าเอาไปจากมือพรเฉยเลย พรน้ำตาคลอ จะได้กินมั้ยเนี้ย ?
หลวงปู่..ท่านนั่งดูอยู่นานแล้วก็เลยว่าให้ ' เฮ้ย ให้มันน้อยๆลงหน่อย ที่พวกเอ็งมีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้
ก็เพราะโยมพรเค้าทำให้ พวกเอ็งก็อย่าไปแกล้งเค้านักเลย ' แล้วท่านก็เอ็ดพรมั่งด้วยอีกคน
' เข้าพรรษาแล้วนะโยม พระสงฆ์องค์พระเจ้าท่านก็ยังจำวัดปฏิบัติธรรม โยมก็อย่าติดฤทธิ์ติดเดชให้มันมากนัก
ต่อไปนี้ให้เข้าสู่อาศรม สำรวมระวังตน อบรมขัดเกลาตนเองให้มันดียิ่งๆขึ้นไป เจ้าพวกนี้ก็เหมือนกัน
กินมะม่วงของเค้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ นั่นถือว่าพวกเจ้าเป็นหนี้บุญคุณเค้านะ ต่อไปนี้ห้ามแกล้งเค้าอีก
แล้วก็ให้ไปช่วยโยมพรเค้าสร้างอาศรม จะได้ทำบุญทำกุศลร่วมกัน ' พวกเด็กวัดรุ่นเล็กสาธุรับเอา
จะมีก็แต่เจ้าตัวโตแค่คนเดียวที่นิ่งเงียบ ไม่รับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ยังคงมองพรแบบตาขวางไม่เป็นมิตร
เขาคงเกรงใจหลวงปู่อยู่บ้าง คงจะไม่แกล้งพรไปสักระยะนึง แต่อย่าเผลอก็แล้วกัน สายตาเขาว่าแบบนั้น

ฝันเป็นเรื่องเป็นราวแฝงอุปมาอุปมัยดีจัง ตั่งแต่วันนั้นมาจึงต้องพยายามสวดมนต์ไหว้พระให้ได้มากกว่าเดิม
( เรื่องของเรื่องก็คือ ในวันที่ 1 สิงหา พรจะมีโชคลาภ จะถูกหวยชุดใหญ่ว่างั้นเถอะ ได้ตัวเลขมาแล้วด้วย
เจ้าของบ้าน...ผีบ้านผีเรือนมอบให้ โดยขอแลกกับอาหารคาวหวานบางอย่างที่เค้านึกอยากจะกินจังเลย
ก็จัดให้ตามที่เค้าขอมา แต่ พอวันที่จะซื้อหวย กลับเหมือนมีอะไรมาบดบังความคิด จึงไม่ได้ซื้อ
ผลก็คือ เลขออกตัวที่คุณเจ้าของบ้านให้มาเต็มๆ ถ้าได้ซื้อก็คงจะได้เงินก้อนโต ก็ โดนแย่งไง )

รู้สึกว่าที่แล้วๆมาการปฏิบัติตนหละหลวมไปมาก เพราะช่วงนึงมีปัญหาชีวิตยุ่งๆอยู่ จึงละเลยไปหน่อย
คืนต่อมาจึงได้สวดมนต์ไหว้พระไปชุดใหญ่ จึงฝันว่าได้พบพระครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา
ท่านได้ให้คำสอนบางอย่าง ข้าผู้น้อยรับฟังคำเตือนสติของท่านแล้วได้แต่หัวเราะแก้เก้อแหะแหะ
ฝันว่าได้คุยกับท่าน แล้วตอนนึงท่านก็ถาม ' แถวบ้านโยมมีหรือเปล่าล่ะ ร่างทรง คนที่รับทรงเจ้าเข้าผี '
พรตอบว่า ' มีหลายคนเหมือนกันเจ้าค่ะ ' ท่านว่า ' นั่นแหละ เดี๋ยวนี้มีกันเยอะแทบจะทุกหัวระแหง
โยมก็อย่าบ้าเห่อตามเค้าไปอีกคนล่ะ ปฏิบัติไปตามแนวทางของเรา ( ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ) แบบนี้ก็ดีแล้ว
ได้บ้างไม่ได้บ้าง ได้มากบ้างน้อยบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเสียเลย เอาแบบค่อยเป็นค่อยไปนี่ดีแล้ว '
ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธเจ้าค่ะ เพราะบางอย่างใจก็ยังชอบอยู่ ยังอยากได้อยู่นี่เจ้าคะ ( เรื่องฤทธิ์เดช )
เอ๊า !? ก็ได้แต่ตามดูกันต่อไป หวังว่าเมื่อฝึกตน บำเพ็ญเพียรไปจนถึงออกพรรษาแล้ว จะมีอะไรดีๆเกิดขึ้น...

 

เคยไปเหมือนกันนาคีหน้าตาเหมือนกันมาก

 

วันนี้ก็ถึงวาระของการอโหสิกรรมกันกับท้าวผาแดง แห่งเมืองผาโพง ญาติธรรมจาก จ. อุดรธานี ได้บอกมาว่า ขณะที่นั่งทำเครื่องบายศรีอยู่ที่บ้าน ได้มีกระแสบางอย่างบอกให้ไปที่ตลาดสด เมื่อเขาออกไปที่ตลาด ได้ไปเห็นคนเขานำนกคุ้มมาขาย จำนวนทั้งหมด 33 ตัว ผมก็บอกให้ญาติธรรมเขาซื้อนกคุ้มมาทั้งหมดเพื่อนำไปปล่อย เมื่อญาติธรรมนำนกคุ้มกลับมาถึงบ้านในช่วงเช้า ปรากฏว่านกคุ้มออกไข่มา 2 ฟอง

ญาติธรรม ไม่แน่ใจว่าจะนำนกคุ้มไปปล่อยที่ไหน เมื่อได้พูดคุยกัน ก็ปรากฏกระแสญาณของท้าวผาแดง ขอให้ไปปล่อยนกคุ้มที่เมืองผาโพง(ทางฝั่งไทย) เป็นภูเขาสูงสุดในเขต อ. หนองแสง จ. อุดรธานี(ที่อยู่เดิมของท้าวผาแดง) ท้าวผาแดงทำหน้าที่อยู่ที่เขาภูพระ(ทางไปหลวงพระบาง ประเทศลาว)

ก็จะได้ถือโอกาสนี้เคลียร์หนี้กรรมอดีต กันกับท้าวผาแดง (อโหสิกรรมกัน)ไม่ต้องวนเวียนมารบราฆ่าฟันกันอีกทั้งในภพนี้และภพหน้า ครับ

แต่ผมก็ยังค้างคาที่จะต้องแต่งชุดเครื่องบวช ไปอธิษฐานขอขมาพระแม่คงคา ที่บรรพบุรุษและญาติ พร้อมทั้งบริวาร ช่วยกันถล่มจมเมืองของพญาขอม(เมืองพ่อของนางไอ่)ลงในหนองน้ำ(หนองหาร) ซึ่งต่อมาก็ต้องชดใช้กรรมถูกพญาขอมสั่งตัดคอในยุคของเชียงงาม

นอกจากนั้น ยังต้องแต่งเครื่องสักการะไปหาปู่หมื่น ผู้ที่เป็นมเหศักดิ์ รักษาเมืองหนองหาร เมื่อเสร็จภาระกิจนี้แล้ว จึงจะถือว่าเคลียร์หนี้กรรม ในยุคของผาแดง-นางไอ่ ได้จบสิ้น

จากนั้นก็ต้องวนเวียน ไปเคลียร์หนี้กรรมย้อนไปในภพชาติต่างๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะฝั่งประเทศลาวหลายสถานที่และส่วนนึงในเขตประเทศเขมร ที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของประเทศเขมร ในยุคนึง เมื่อเราปฏิบัติไปรู้แล้วจะเพิกเฉยไม่ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะคอยกระตุ้นเตือนอยู่เสมอ

การสร้างบารมีในพุทธศาสนาก็มีอานิสงส์ดีแบบนี้แหละครับ ทำให้สามารถเข้าถึงแนวทางในการอโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรในภพชาติต่างๆได้ ไม่ต้องวนเวียนมาชดใช้กันอีก

 

ปีนี้ใครไปดูงานบั้งไฟบ้างค่ะ ส่วนตัวหนูมีเหตุ งง ๆ เหมือนกัน คือหนูทำบริษัททีวร์อ่ะค่ะ คุณแม่บอกว่าเดือนตุลาลูกจะขายไปไหน หนูก็ตอบขายไปไหว้พระ 9 วัดที่ลาว แม่ถามไปวันไหนนะลูก หนูเลยไปจิ้มปฎิทิน วันที่ 23/10/2553 แม่ก้อโอเค ไม่ว่าอะไร จนไปติดต่อแลนด์ เค้าบอกว่า คุณจัดมาถูกจังหว่ะจังเลย คุณรู้มั้ยว่าวันนั้นเป็นงานบุญบั้งไฟนะ แต่เราจะพากรุ๊ปลูกค้าคุณไปดูที่ฝั่งลาว หนูก้อแบบ งงๆ เอ่อ วันนั้นมันเปนวัดหยุดปิยมหาราชไม่ใช่หรอค่ะ เค้าบอกว่าใช่ค่ะ เปนวันออกพรรษาด้วย หนู ขนลุกซุ่เลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปบุญบั้งไฟ ก้อได้ไป แบบ บังเอิญสะด้วย อย่างไร ก้อขอให้เสด็จปู่พญานาคช่วยลูกขายทัวร์ ชมบุญบั้งไฟพญานาค ไหว้พระ 9 วัดประสบผลสำเร็จด้วยเถิดด สาธุ

 

เทศกาลออกพรรษา ปีนี้ ผมได้เตรียมงานบุญหลายอย่าง

งานแรก ในคืนก่อนวันออกพรรษา เป็นงานฉลองสมโภชน์กฐินพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ คืนวันที่ 22 ต.ค. 53(คาดว่าจะมีปฏิบัติธรรม บวชชีพราหมณ์ ด้วย)

งานที่สอง เป็นงานทอดกฐินพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ล่องแม่น้ำโขง ตอนสายของวันออกพรรษา 23 ต.ค. 53 ก็จะจัดกฐินเป็นกองบุญสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ 5 กอง ใส่แพไม่ไผ่ 5 แพ อธิษฐานลอยไปตามแม่น้ำโขง หลวงปู่ทวดท่านบอกวิธีการทำให้แล้วอย่างละเอียด แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับพ่อศรีสุทโธ หลวงปู่ท่านกำชับว่า อย่าลืมอธิษฐานถึงพ่อพญานาคใหญ่ของเจ้าด้วยนะ ท่านรอบุญนี้อยู่

งานที่สาม เป็นงานสมโภชน์พระศรีอริยเมตตรัย สีขาว ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ความสูง 1.8 เมตร(รวมฐาน) จะนำไปถวายพระมหากิตติพงษ์ ในงานทอดกฐิน ที่ จ. ชัยภูมิ พระมหากิตติพงษ์เป็นหลานศิษย์ของหลวงปู่ทองทิพย์ (พระมหากิตติพงษ์ เป็นลูกศิษย์พระมหาปรีชา จ. หนองคาย ซึ่งพระมหาปรีชาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทองทิพย์) ผมเองไม่รู้จักกับพระมหากิตติพงษ์ แต่รุ่นพี่เขาขอมาจึงร่วมกันสร้างพระศรีฯถวายเป็นพระประธานในศาลาปฏิบัติธรรม ใช้งบประมาณ 200,000 บาท(มีเจ้าภาพแล้ว 100,000 บาท) จัดในช่วงเทศกาลออกพรรษา แต่ยังไม่ได้กำหนดรายละเอียด) ส่วนองค์พระศรีฯนั้นได้เททองหล่อเสร็จแล้วและทำพิธีมาแล้วครั้งนึงในวันเททอง

งานที่สี่ เป็นงานหล่อพระอุปคุต นาคปรก ขนาดหน้าตักประมาณ 40 นิ้ว ใช้งบประมาณ 300,000 บาท(มีเจ้าภาพแล้ว 200,000 บาท) กะว่าจะเททองหล่อในคืนวันออกพรรษา (คืนบั้งไฟพญานาค) พระอุปคุตองค์นี้พิเศษ ที่มีนาคปรกเป็นพญานาคสูงสุดของโลก ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ พญานาคเขาเป็นผู้บอกและเลือกลักษณะของเขาเอง ว่าต้องเป็นพญานาคแบบไหน ผมเองได้อธิษฐานถึงพระมหาอุปคุต และท่านก็ได้แสดงภาพให้เห็นว่าให้สร้างลักษณะแบบไหน

งานที่ห้า เป็นงานปฏิบัติธรรม บวชชีพราหมณ์ เนื่องในวันออกพรรษา เป็นการสรุปกองบุญในกาลออกพรรษา

ญาติธรรมท่านใด มาชมบั้งไฟพญานาค ที่ จ.หนองคาย ก็เชิญมาร่วมบุญได้ครับ กาลใหญ่ในพุทธศาสนาที่เปิดสามโลก จึงเป็นบุญใหญ่และมีอานิสงส์สูงครับ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ อยู่ในเส้นทางที่ผ่านไปชมบั้งไฟพญานาค

 

มีจริงแน่นอนครับ แต่ขอไม่ฟันธงแล้วกัน ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล
หรือมีสัมผัสพิเศษนั้นด้วยตัวเอง

 

ดิฉันก็บูชาองค์ปู่นาคาศรีสุทโธ และองค์ปู่่พญาครุฑ เหมือนกันค่ะ