อภัยทานคือคำสอนของพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 27 กรกฎาคม 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    อภัยทานคือคำสอนของพระพุทธเจ้า


    ท่าน สาธุชนทั้งหลายเมื่อเอ่ยถึงเรื่องทานคนส่วนมากมักจะเข้าใจในทำนองเดียวกัน ว่าก็คือการให้เงินให้ทองให้ข้าวของสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่อันที่จริงทานมิได้หมายเอาเพียงเท่านี้ การให้แบบนี้ในพระพุทธศาสนาเรียกว่าอามิสทาน


    ยัง มีการให้อย่างที่สองคือการให้ความรู้ความเข้าใจ การให้คำปรึกษา การแนะนำแนะแนวในเรื่องต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตเพราะว่าโดยปกติแล้วคนปกติเราที่จะเก่งไปเสียทุกเรื่องทำ ได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องอาศัยการชี้แนะให้คำปรึกษาจากคนอื่นนั้นคงจะมีน้อย เพราะโดยที่จริงแล้วคนเราจะถนัดบางอย่างหรือเก่งบางอย่างแต่บางอย่างก็ไม่ ได้เก่งไม่ถนัดเลยต้องอาศัยคนอื่นจะทำงานหรือเรื่องนั้น ๆ ให้เสร็จลงได้ การให้ความรู้นี้ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า ธรรมทาน


    อามิสทานช่วยแก้ปัญหาเรื่องความขัดสนยากจนในด้านของกินของใช้ได้ ธรรมทานช่วยแก้ปัญหาได้หลายด้านยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือแก้ปัญหาเรื่องภพชาติการเวียนว่ายตายเกิดได้


    แต่ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์ปัจจุบันก็คือปัญหาการทะเลาะแก่งแย่งแบ่งพรรคแบ่งพวกขาดความสามัคคีจะเอาแพ้เอาชนะกันจนอีกฝ่ายหนึ่งสูญพันธุ์ไปจากโลกจึงจะยอมเลิกราปัญหาแบบนี้ต้องใช้อภัยทานจึงจะแก้ไขได้
    จะขอยกตัวอย่างเรื่องราวในพระพุทธศาสนาที่มีการทะเลาะแก่งแย่งกันจนด่าทอกันและเตรียมพร้อมที่จะรบราฆ่าฟันกันในหมู่พระประยูรญาติของพระพุทธองค์ในเรื่องการแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีเพื่อทำการเกษตร


    พระ พุทธเจ้าเสด็จมาตรัสห้ามโดยสรุปก็คือทั้งสองฝ่ายคิดถึงเหตุผลแล้วรู้ว่าถ้า การเกิดฆ่ากันก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากในที่สุดแล้วก็ยอมอภัยให้กันได้ เหตุการณ์ก็จบลงด้วยดีไม่มีใครต้องเดือดร้อนล้มหายตายจาก<!--MsgFile=1-->

    มีทานอีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ทานทั้งสองข้างต้นนั้นก็คืออภัยทานหมาย ถึงการให้อภัยไม่ถือโทษโกรธเคืองไม่จองเวรจองกรรมต่อใครๆบางครั้งบาง เหตุการณ์อภัยทานนี้อาจจะมีความยิ่งใหญ่และสำคัญมากกว่าทานทั้งสองเสียด้วย ซ้ำ เพราะเป็นที่มาแห่งทานทั้งสองนั้นได้


    ถ้าไม่ให้ อภัยแล้วไหนเลยจะให้ข้าวของเงินทองช่วยเหลือพวกศัตรูหรือผู้ที่ตนเกลียดได้ ถ้าไม่ให้อภัยแล้วไหนเลยจะให้ความรู้ให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์แก่พวกคนที่ เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับตนเองได้


    แต่ที่กล่าวอย่างนี้มิใช่จะต้องการไปขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่าสพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ แปลว่าการให้ธรรมคือความรู้ย่อมชนะการให้สิ่งทั้งปวง และมิใช่ว่าทานทั้งสองนั้นจะไม่มีประโยชน์


    ที่จริงแล้วการให้อภัยเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปสำหรับกัลยาณชนคนดีงามทั้งหลาย แต่ การให้อภัยนั้นต้องมีเหมือนกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คือถ้าฝ่ายหนึ่งให้อภัยแล้วอีกฝ่ายหนึ่งยังจ้องที่จะทำลายล้างผลาญกันอยู่ การให้อภัยมันก็เกิดไม่ได้
    <!--MsgFile=2-->

    มีเรื่องแปลกอยู่สำหรับ มนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่ต้องการให้คนอื่นให้อภัยแก่ตนเองไม่ต้องมาโกรธไม่ต้อง เกลียดไม่ต้องคิดทำร้ายไม่ต้องมาเบียดเบียนตนถึงแม้ตนจะไปฆ่าเขาก่อนทำร้าย ทำลายไปด่าไปว่าเขาก่อนก็ตามหรือแม้เรื่องที่ตนทำผิดต่าง ๆ ก็ตามจะมากน้อยอย่างไรก็ต้องการให้คนอื่นอภัยให้ แต่ถึงคราวที่ตนจะต้องให้อภัยคนอื่นบ้างกลับทำไม่ได้ คือจะคิดว่าตนเองถูกหมดคนอื่นผิดหมดแล้วอภัยทานจะเกิดได้อย่างไร <!--MsgFile=3-->

    แต่อีกเรื่องคือเรื่องที่พระเจ้าวิทูฑภะฆ่าล้าง เผ่าเจ้าศากยะสาเหตุมาจากการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจากเจ้าศากยะในเรื่องชาติ กำเนิดเรื่องนี้พระพุทธเจ้าเสด็จมาทรงห้ามกองทัพพระเจ้าวิทูฑภะถึงสองครั้ง สองครา แต่เมื่อถึงครั้งที่สามทรงเห็นว่ามันเป็นเรื่องของกรรมเก่าของพวกเจ้าศากยะไม่อาจจะทรงห้ามได้ จำเป็นต้องที่จะให้เป็นไปตามกรรม สุดท้ายแล้วเพราะไม่มีอภัยทานจึงเกิดการนองเลือดต้องล้มหายตายจากกันจำนวนมาก


    ผู้ ที่เป็นตัวอย่างในเรื่องอภัยทานคงไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้า แม้อดีตชาติที่ผ่านมาจะกี่ร้อยกี่พันชาติก็ตามถึงจะถูกพระเทวทัตจองเวรทำ ร้ายขนาดไหนก็ตาม แม้ในปัจจุบันที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วพระเทวทัตก็คงตามทำร้ายทำลายพระ พุทธเจ้าเหมือนเดิมจนวาระสุดท้ายพระเทวทัตก็ถูกแผ่นดินสูบ ก็ไม่ปรากฏแม้แต่นิดเดียวว่า พระพุทธเจ้าทรงผูกเวรจองเวรกับพระเทวทัต ทรงให้อภัยได้เสมอ
    <!--MsgFile=4-->


    ถ้าจะคิดง่าย ๆ ในเรื่องอภัยทาน เราในฐานะเป็นชาวพุทธนับถือพระพุทธเจ้าศึกษาเรียนรู้ธรรมมามาก


    การอภัยทานเป็นความประพฤติที่คนประเสริฐที่สุดในโลกคือพระพุทธเจ้าทรงประพฤติเป็นแบบอย่างมาแล้ว


    พวกเราจะให้อภัยเพราะถือว่าได้ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเราก็จะเป็นคนประเสริฐเหมือนอย่างพระองค์ท่านได้


    หรือเราจะมาคิดถึงส่วนรวมที่จะต้องมาเสียหายเพราะการทะเลาะวิวาทกันของพวกเราก็พอจะให้อภัยหยุดทะเลาะกันได้


    หรือไม่ก็มาคิดถึงเรื่องเวรกรรม เมื่อเราทำกรรมกับเขาสักวันหนึ่งเขาก็ต้องทำกับเราคืนบ้างซึ่งมันอาจจะ แรงกว่าที่เราทำกับเขาก็ได้ หรือต้องไปตามใช้เวรกรรมกันอย่างไมมีที่สิ้นสุด



    หรือ มาคิดถึงมรณะคือความตาย ซึ่งต่างคนก็ต่างจะตายอยู่แล้วทำไมต้องมาทะเลาะกันชิงกันทำเรื่องไม่ดี ไม่ใช่การแข่งกันทำความดี ก็พอที่จะให้อภัยกันได้


    ท่านสาธุชนอภัยทานเป็นเรื่องดีเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็น สิ่งที่กำจัดเวรภัยได้จริง ถ้าท่านไม่อยากมีเวรมีภัยต่อไปทั้งในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป ท่านต้องรู้จักการให้อภัย ด้วยความคิดว่า บุญบาปมีจริง ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทำกรรมได้กรรมทำเวรได้เวร
    <!--MsgFile=5-->


    <!--MsgIDBody=6-->ขอกราบขอบพระคุณ พระศรีรัชมงคลบัณฑิต ผู้เขียนบทความ

    อาจารย์ประจำสังกัดคณะศาสนาและปรัชญา มมร.


    <!--MsgFile=0-->
    ที่มาปราชญ์ขยะ - พระสัมมาสัมพุทธเจ้า - อภัยทานคือคำสอนของพระพุทธเจ้า
     
  2. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766
    ก่อนการให้อภัยทาน สิ่งหนึ่งที่เห็นได้คือการต้องลดอัตตา ความเป็นตัวตน ของตนเอง เพราะ การถือตนว่ามีอยู่ จึงเกิดของตน พวกตน ตามมา

    ตราบใดที่ตัวตน มีอยู่ ของตนย่อมมี พวกตนก็มีตามมา พวกเล็กสู่พวกใหญ่ จากท้องถิ่นสู่ระดับชาติ

    ไม่มีของเรา ไม่มีเรา ไม่มีตัวเรา พวกเราพวกเขาก็จะไม่มี อีกต่อไป

    การสลัดคืน ตามดูรู้รูปนาม ตามความเป็นจริงจึงมีความสำคัญด้วยเหตุนี้

    ตามพุทธพจน์นี้

    เนตัง มะมะ เน โสหมสฺมิ นะ เมโสอัตตา
    ไม่มีของเรา ไม่มีเรา ไม่มีตัวเรา
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    อภัยทานเป็นทานที่มีอานิสงส์สูงเพราะให้ได้ยากถ้าเป็นศตรูแล้วยิ่งยากใหญ่
     

แชร์หน้านี้

Loading...