ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

โมทนากับคุณchopper1972 ด้วยครับ ผมก็มีเรื่องจะเล่าให้เป็นกำลังใจกับทุกๆคน คือผมรู้จักหลวงพ่อจากการหัดเริ่มนั่งสมาธิ แล้วเกิดอาการปิติแต่ตอนนั้นไม่รู้จักเลยคิดว่าผีเข้าคืออยู่ดีๆก็เหมือนกับตัวพองขยาย ผมจึงลองค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต แล้วได้download เสียงหลวงพ่อมาฟังเลยเกิดความศรัทธาท่านมาก และขณะนั้นผมมีปัญหาทางการเงินอย่างหนักเรียกได้ว่าแทบไม่มีเงินติดตัวเลยครับ เลยพยายามหาพระหลวงพ่อซึ่งท่านบอกว่ามีผลทางด้านลาภ เช่นพระหางหมากพระคำข้าว ก็ได้มาในราคา 5-600 บาทครับ (แต่ก่อนหน้าที่จะรู้จักหลวงพ่อก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่าผมเริ่มหัดสวดคาถาเงินล้านมาก่อนโดยเพียงรู้แค่ว่าเป็นของหลวงพ่อฤาษี ที่อุทัยธานี พอได้พระหางหมากและพระคำข้าว สององค์แรกมาแล้ว ก็สวดต่อมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน) ต่อมาก็มีความอยากครับคืออยากได้องค์ปฐม ซึ่งในขณะนั้นนี่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ไม่มีปัญญาซื้อหรือเช่าทั้งนั้น ก็ได้มาเจอกระทู้หนึ่งประมาณกลางปี 51 ซึ่งเป็นของพี่มหาหิน ให้ร่วมทำบุญองค์ปฐมวัดศาล องค์ละ 200 บาท ก็ดีใจที่ว่าเราจะมีองค์ปฐมไว้ห้อยคอแล้ว ขอยืมเงินแฟนมาร่วมบุญในครั้งนั้น (แต่ไม่ได้เช่าองค์เดียวน่ะครับผมมันพวกคนโลภ) ต่อภาวะการเงินผมเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน (ถ้าผมจำไม่ผิดน่ะครับหลวงพ่อเคยกล่าวไว้ว่าถ้าเราทอดกฐินติดต่อกับ 7 วัดครบ 3 ปีติดกันเราจะมีความคล่องตัวในทุกๆด้าน) ซึ่งตั้งแต่ผมรู้จักพี่มหาหินมานี่ผมก็ทอดกฐินมาโดยตลอด ตอนนี้ชีวิตผมเริ่มคล่องตัวตามนั้นจริงๆ ซึ่งปี 53 นี่แหละจะเป็นปีที่ผมทอดกฐินติดกันเป็นปีที่ 3 แฮะๆออกนอกเรื่องมานาน กลับเข้าเรื่องก่อนครับเรื่ององค์ปฐม ตอนนั้นนี่ผมคิดว่าชีวิตนี้อย่าได้หวังจะมี องค์ปฐมที่ทันหลวงพ่อท่านติดตัวเลย ก็อธิษฐานด้วยความอยาก(เลวจริงๆเราความอยากเยอะเหลือเกิน) จนมีอยู่วันหนึ่งพี่มหาหินนำองค์ปฐมรุ่นหนึ่งพร้อมเลี่ยมทองครับมาpost ให้คนบูชา ราคายังจำแม่นอยู่เลยครับ
34000 บาท ก็ได้แต่ดูครับทั้งๆที่อยากได้ลึกๆอยู่ในใจ ก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกแหละครับ ที่วันนั้น แฟนผมได้เห็นและเกิดอยากได้ขึ้นมา(ซึ่งก็นานๆทีอีกนั่นแหละ) ก็เลยให้เงินผมมาเพื่อบูชากับพี่มหาหิน ลองคิดดูครับ องค์ปฐมรุ่นหนึ่ง วางที่post พี่มหาหิน ราคานี้เกือบ3 วันไม่มีใครสนใจ แปลกดี (ปัจจุบันผมกับแฟนคนนี้แต่งงานกันแล้วครับก็เลยนับเป็นกรุสมบัติพ่อให้เดียวกัน) ก็ลองนับดูก็แปลกดี คนที่ไม่มีเงิน ไม่เคยคิดว่าจะมีพระของหลวงพ่อมากมาย ตอนนี้ผมมีไม่ใช่น้อยแต่ก็น้อยกว่าคนอื่นอีกหลายๆคนครับแต่สำหรับคนที่ไม่เคยคิดว่าจะมีปัญญาในตอนนั้นนี่ในตอนนี้ผมถือว่าเยอะครับ คือมีเกือบทุกรุ่นครับ ทั้งองค์ปฐมรุ่น 1 รุ่น 2 รุ่น 3 รุ่นยันต์กลับ พระคำข้าว หางหมาก ฯลฯ เดี๋ยวว่างๆจะลงกรุอันเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่สำหรับผมให้ดูครับ
เลยอยากให้ลองดูครับสมบัติพ่อให้ทุกชิ้นมีไว้ให้ลูกครับทุกองค์ทุกชิ้นมีเจ้าของครับ คือลูกๆของท่านนี่แหละครับ ดังนั้นท่านที่คิดว่าจะไม่มี อาจจะมีอย่างมากมายครับ

 

ถือว่าหลวงพ่อท่านเมตตาคุณมากนะครับ เพราะว่าเพิ่งจะเริ่มเก็บวัตถุมงคลของท่านไม่นาน แต่ก็สามารถหาสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 1 มาห้อยคอได้ ผมเองเริ่มเก็บมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน( 10 กว่าปีแล้ว ) และตอนทำงานใหม่ๆเงินเดือนก็ยังน้อยแต่จะมีนิสัยอย่างหนึ่งตั้งแต่ตอนทำงานใหม่ๆคือทุ่มเทเก็บพระของหลวงพ่ออย่างสุดชีวิตเลย หลายๆครั้งต้องเรียกว่าเบียดเบียนตนเองอย่างหนักซึ่งก็อย่างที่ คุณ chopper บอกแหละครับว่ามันไม่ดี เป็นอย่างนี้จนปัจจุบันแต่พอหายเหนื่อยแล้วหันหลังมองกลับไปก็มีแต่ความชื่นใจ จนถึงงวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ถึงวันนี้ก็เย็นใจแล้วที่มีของๆท่านมากพอควร เหมือนกับคนที่ได้เริ่มทำงานหนักๆมามากแล้ว ตอนนี้ก็พักเหนื่อยได้แล้ว ตอนนี้ผมก็เห็นใจผู้ศรัทธารุ่นใหม่ๆอยุ่เพราะราคาของหลายๆรุ่นแพงจนเกินกำลัง ยกตัวอย่างเช่นแต่ก่อนพระคำข้าวรุ่นแรกนั้นจะเช่ากันแต่ละครั้งว่ากันทีละ 10-20 องค์แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วครับ เงินหมื่นนึงได้พระกลับบ้าน 4-5องค์ วัตถุมงคลของท่านมีหลายราคา ต้องเลือกให้เหมาะกับฐานะในตอนนี้อย่างพระคำข้าว หางหมาก ก็ครอบจักรวาลแล้วเพียงพอแล้วสำหรับทุกๆคน ถ้าใครมีกำลังมากก็ค่อยๆไต่ขึ้นไปตามความชอบนะครับ อันนี้ก็อาจจะเป็นประสบการณ์ในแง่มุมนึงนะครับเรียกว่า ประสบการณ์ตามหาของของพ่ออย่างบ้าเลือด

 

คนละศรีกันครับ หลวงปู่บุญศรี กับ หลวงปู่ศรี มหาวีโร หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นสายพระป่าครับ เป็นพระอรหันต์ที่มีลาภมาก เปรียบได้ดังพระสิวลีสมัยพุทธกาลครับ ท่านสามารถสร้างมหาเจดีย์หลายพันล้านที่ร้อยเอ็ดได้โดยที่ไม่มีการออกวัตถุมงคล หรือเรี่ยไรครับ เพียงแค่ท่านอธิษฐานจิตตั้งใจจะสร้าง มหาทานก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างเปี่ยมล้นครับ วัตถุมงคลท่านไม่ค่อยได้สร้างครับ ถ้าวัตถุมงคลเจ้าไหนอ้างว่าให้ท่านปลุกเสกต้องถามที่มาดี ๆ ครับ แบบเหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรีที่คุณบอย จะให้คุณ chopper1972 อ่า ท่านเสกให้ชัวร์ครับ ถ้าได้ไปแล้วหมั่นทำทานระลึกถึงท่านครับ บารมีท่านสูงช่วยยกฐานะได้ครับ กราบนมัสการหลวงปู่ศรี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ดู่ครับ

 

***
ขอบคุณมากๆครับ ที่ช่วยชี้แจงข้อผิดพลาด......ไฟล์ที่ผมเคยดาวน์โหลดมาเป็นของของ หลวงปู่ศรี มหาวีโร จริงๆด้วยครับ

...น้อมรับข้อคิดและคำแนะนำดีๆ จากทุกๆท่านนะครับ ที่เข้ามามาแชร์ประสบการณ์กัน ช่วยกันเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงพ่อฯ แม้ในหมู่ลูกศิษย์ก็ยังดีครับ ศิษย์หลวงพ่อใหม่ๆก็จะได้มีแนวทางด้วย

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

สาธุๆ


ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ __^/|^__

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน มารายงานตัวกันหน่อยครับ

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อ่านธัมมวิโมกข์ฉบับเดือน ก.ค.2553นี้....หลวงพ่อฯท่านบอกว่า สมเด็จวัดระฆัง มีทำปลอมมานานแล้ว....หลวงพ่อได้สูตรมาเมื่อปี 2500 จากแผงแถวๆวัดมหาธาตุ(ใช้วิธีครูพักลักจำ)...จะเก่าแค่ไหน จะแตกลายงาแค่ไหน ก็ทำได้....ถ้าพระเก่าจริงเนื้อจะเบา พระใหม่จะชุ่มตัว หนัก...นักเลงพระเคยมาขอเช่าพระที่หลวงพ่อลองทำตามสูตร 4000 บาท(สมัยนั้น)....เซียนพระใช้แว่นขยายมากเกินไป ขาดความสังเกตุส่วนอื่น....หลวงพ่อบอกว่า"นี่คุณ ถ้าไม่ได้นุ่งผ้าเหลืองฉันเอาแหงเลย".....

....เนื้อหายาวมาก ลองหาอ่านดูนะครับ เป็นธรรมะปกิณกะของหลวงพ่อ....

อนุโมทนาครับ

 

***
หายงงแล้วนะครับ....หุหุ...

...จะว่าไป การดูตำหนิพระนั้นผมไม่ค่อยได้จดจำนัก แต่พระคำข้าวปลอมนี่ เห็นแล้วแทบจะรู้ทันทีเลย ไม่รู้เพราะอะไร ยกเว้นจะปลอมเนียนมากๆ....ยิ่งถ้าได้จับสัมผัส เนื้อหาจะแตกต่างกันมาก.....ก็ขนาดหลวงพ่อฯท่านลองสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง เซียนยังมาขอซื้อเลย ทุกๆวันนี้น่ะ ที่ประกวดกัน เล่นปลอมเป็นแท้ไม่รู้เท่าไหร่แล้วมั้ง

 

ถ้าไม่มีพระหลวงพ่อ ก็ห้อยพระไว้ที่ใจก็ได้ครับผมว่า ขึ้นชื่อว่าลูกหลาน แม้ไม่มีพระของหลวงพ่อท่านก็สงเคราห์อยู่แล้วครับผมว่า ^^

ขอเพียงคิดดีทำดี

 

ถ้าตามเก็บพระของหลวงพ่ออย่างบ้าเลือดผมว่าคนตามเก็บต้องเลือดไหลซิบๆบ้างล่ะ

 

ผมนำข้อความบางส่วนของ "อดีตที่ผ่านพ้น" หลวงพี่เล็ก มาฝากครับ บางท่านอาจจะยังไม่เคยอ่าน เรื่องแก้วมณีรัตน....ลูกแก้วสารพัดนึก ที่หลวงพ่อมอบไว้ให้ลูกหลาน
.................
ต่อมา... “พระ” ท่านเสด็จมาบอกหลวงพ่อว่า หลวงพ่อจะต้องทำงานใหญ่ในกาลข้างหน้า ถ้าลูก ๆ ไม่มีความคล่องตัวในการเป็นอยู่ จะสนับสนุนหลวงพ่อได้ไม่เต็มที่ ขอให้ไปหาลูกแก้วมา ท่านจะช่วยเสกให้ ผู้ที่ได้ไปจะเหมือนกับมีแก้วสารพัดนึกไว้ทีเดียว...

หลวงพ่อท่านขึ้นไปที่ดาวดึงส์ ขอดูลูกแก้วจักรพรรดิของท่านปู่พระอินทร์ ปรากฏว่ามีลักษณะเหมือนของหลวงปู่ชุ่มเปี๊ยบเลย กระทั่งสีสันก็แทบไม่แตกต่างกัน ท่านปู่บอกด้วยว่า ขอให้หลวงพ่อทำตามที่พระท่านบอก ท่านปู่จะมาช่วยอีกแรงหนึ่ง...

หลวงพ่อให้ลูกศิษย์ไปหาลูกแก้วมา ลูกศิษย์ตัวดีก็เหลือเกิน ไปเหมาลูกแก้วเด็กเล่นที่บางลำพูมาทั้งกระจาด (จะให้ดีกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้) หลวงพ่อก็เมตตาทำพิธีให้ โดยมีแก้วจักรพรรดิเป็นองค์ประธาน แล้วแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์เป็นการภายใน ๒ วาระ ปรากฏว่าผู้ที่รับไปต่างก็มีผลทางด้านลาภเป็นที่น่าอัศจรรย์...

ต่อมาจึงทำแจกเป็นการสาธารณะ โดยใช้แก้วคริสตัลของออสเตรียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้ที่ได้ไปก็ประสพผลในด้านต่าง ๆ ทั้งลาภผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นสารพัดนึกจริง ๆ หลวงพ่อจึงเรียกว่า “แก้วมณีรัตนะ” คือ เหมือนกับมีแก้วจักรพรรดิไว้ในครอบครองนั่นเอง...

หลวงพ่อเองก็ออกปากว่า ตั้งแต่ได้แก้วจักรพรรดิมา การงานการเงินมีความคล่องตัวมาก ในองค์หลวงพ่อพกของมงคลอยู่เพียง ๒ อย่าง คือพระบรมสารีริกธาตุ และลูกแก้วจักรพรรดินี้เอง การพุทธาภิเษกทุกครั้ง หลวงพ่อต้องนำแก้วจักรพรรดิมาเป็นองค์ประธาน

ลูกแก้วจักรพรรดิที่หลวงปู่ชุ่มมอบให้ เป็นลูกแก้วขนาดเขื่องกว่าลูกปิงปองเล็กน้อย มีลวดลายคล้ายสีทองในเนื้อแก้ว เปล่งแสงสีม่วงอ่อน เหลือบรุ้งสวยงามยิ่งนัก ต่อมางานของหลวงพ่อมากขึ้นทุกที “ท่านย่า” จึงมอบแก้วให้อีก ๑ องค์ บอกว่าเป็นองค์น้อง มีขนาดเล็กกว่านิดหน่อย หลวงพ่อก็ใช้ควบคู่กันเรื่อยมา...

อาตมาพบปาฏิหาริย์ของแก้วมณีรัตนะ อย่างชัดเจนที่สุดวาระหนึ่ง คืออาตมาตีเช็คล่วงหน้าไป ถึงเวลาหาเงินเข้าบัญชีไม่ทัน ถ้าหาเงินสองแสนบาทไม่ได้ภายในสองวัน ก็คงติดคุกหัวโตกันบ้าง หันหน้าไปพึ่งใครเข้าก็เบือนเป็นแถว (อีตอนพึ่งเราละวิ่งเข้าใส่...)

หมดท่าเข้าจริง ๆ อาตมาก็พึ่งลูกแก้วของหลวงพ่อ นำลูกแก้วมาตั้งเฉพาะหน้า แล้วอธิษฐานขอเอาดื้อ ๆ จากนั้นก็ตั้งอกตั้งใจภาวนา ผลที่ออกมาเหลือเชื่อ คือมีผู้ให้ยืมเงินจำนวนสองแสนบาท โดยที่คนให้ยืมนั้น เคยเห็นหน้าอาตมาครั้งเดียวเท่านั้นเอง...!

ผู้ที่ได้แก้วมณีรัตนะรุ่นแรก (แก้วเด็กเล่น) ไป ถึงได้หวงกันเป็นนักหนา ถึงลักษณะเป็นลูกแก้วเด็กเล่น แต่อานุภาพไม่ได้ล้อเล่นด้วย ท่านปู่พระอินทร์บอกว่าอานุภาพเกือบเท่าของจริงเลยทีเดียว (มิน่าล่ะ...ขออะไรได้อย่างนั้นเลย...)

แก้วมณีรัตนะรุ่นแรกนั้น อาตมาได้รับจากหลวงปู่มหาอำพัน โดยที่ผู้ได้รับพร้อมกันมี พี่มุกดา (คุณมุกดา เพชรชื่นสกุล) เกียง (มาลินี ตีรเลิศพานิช) ลูกปุ๊ก (สุมาลี ตีรเลิศพานิช) ต่างคนต่างรักษายิ่งกว่าชีวิต เพราะของดีของมงคลที่รับจากมือครูบาอาจารย์แบบนี้ ใช่ว่ามีกันบ่อยเสียเมื่อไร รับจากคนอื่นอาจเป็นของปลอมก็ได้ใครจะรู้...!

๒๘ มีนาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
**
อนุโมทนาครับ<!-- / message --><!-- sig -->

 

ฝากอีกเรื่องครับ "อดีตที่ผ่านพ้น"หลวงพี่เล็กครับ เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม และการปลุกพระ นำมาบางส่วนครับ.....
***
วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่อาตมาประจักษ์ชัดในอานุภาพมากที่สุด เชื่อมั่นติดตัวเป็นที่พึ่งสุดท้ายในยามคับขันตลอดมาคือธงมหาพิชัยสงคราม ด้วยธงเล็ก ๆ ผืนเดียวนี่แหละ ที่ช่วยอาตมารอดจากการบอมบ์ด้วยปืนใหญ่อย่างไม่ลืมหูลืมตาของฝ่ายตรงข้ามมาแล้ว ทั้งยังรอดจากจรวดอาร์พีจี และกระสุนปืนที่ระดมมาเป็นห่าฝนยิ่งกว่าปาฏิหาริย์...!

ธงมหาพิชัยสงครามนั้นสร้างขึ้นตามตำราพระร่วง เป็นธงนำทัพในสมัยนั้น กว่าจะเขียนเสร็จกว่าจะปลุกเสกเป็นที่เรียบร้อย ก็กินเวลาเป็นเดือน ๆ แต่มีอานุภาพคุ้มกับความเหนื่อยยาก ผืนเดียวคุ้มกันได้ทั้งกองทัพ ตามตำรากล่าวว่า เพียงถือด้ามธงเข้าไปในป่า รับรองว่าไม่อดตาย ป้องกันอันตรายและเสนียดจัญไรทุกชนิด ซ้ำยังดึงดูดแต่สิ่งที่ดีมีมงคลเข้ามาสู่ผู้ใช้อีกด้วย ให้มีแต่ความสุขความเจริญทุกประการ... หลังจากอาจารย์แจง ชาวสวรรคโลกตาย หลวงพ่อก็ไปขอตำราพระร่วงที่ท่านยืมไปจากหลวงปู่ปานคืนมา เปิดดูแล้วชอบยันต์มหาพิชัยสงครามที่สุด แต่วิธีทำตามที่ระบุในตำรา มันช่างยากเย็นเหลือประมาณ นิสัยของหลวงพ่อนั้น ถ้าอะไรมันยากก็ไม่เอาซะเลย หมดเรื่อง...! จึงปล่อยทิ้งคาตำราไว้อย่างนั้นเอง...

คืนหนึ่ง...ปรากฏท้าวมหาพรหมองค์หนึ่ง เสด็จมาหาหลวงพ่อบอกว่า หลวงพ่อเป็นเชื้อสายสุดท้ายของพระร่วง ขอให้ช่วยทำธงมหาพิชัยสงครามขึ้นมา ของวิเศษชิ้นนี้จะได้ไม่สูญหายไปจากโลก ถ้าผิดจากหลวงพ่อแล้ว คนอื่นเอาไปทำเท่าใดก็ไม่เป็นผล เพราะไม่ใช่เชื้อสายกัน หลวงพ่อท่านปฏิเสธไม่ขอทำ บอกว่า “มันยาก”... ท่านท้าวมหาพรหมพยายามขอร้องให้หลวงพ่อทำให้ได้ ต่อรองกันจนในที่สุด ท่านขอแค่ว่าถ้ากลัวเขียนยาก ก็ให้ลูกศิษย์ไปจ้างเขาพิมพ์มา แล้วตั้งเครื่องบวงสรวงไว้ ท่านจะเสด็จมาทำพิธีให้เอง...! เป็นอันว่าตกลงตามนี้ หลังเสร็จพิธีท่านบอกว่า “ลง” ให้หนักที่สุดอย่าให้ใครเอาไปทดลองปลุก จะทานอานุภาพไม่ไหว ถึงตายเอาง่าย ๆ ....!
*************************************************
“ลักษณะโดนซ้ำแล้วสวนทันที คือลักษณะของคนเล่นคาถาหัวใจหนุมาน ถ้าซ้ำของจะขึ้น คราวนี้ทั้งไวทั้งเหนียวมาเท่าไรก็ไม่เหลือ...” “แล้วถ้าไม่ซ้ำละครับ” “ก็น้ำค้างตกนั่นแหละถึงจะฟื้น” โธ่...แบบนี้ไม่เอาละครับ... เกิดทำคาถาขึ้นดี ถูกเพื่อนแกล้งเตะเบา ๆ ก็ไปฟื้นเอากลางดึกแบบนี้ไม่ไหวครับ...เอาคาถาอื่นดีกว่า หลวงพ่อหัวเราะชอบใจ บอกวิธีเล่นสนุกวิธีใหม่ เป็นการปลุกตัวเองแบบทดสอบอานุภาพวัตถุมงคล... ให้เอาของกำไว้ในมือ ทำใจสบาย ๆ ว่าคาถา “สุนักขัตตัง สุมังคะลัง” ไปเรื่อย ถ้ากำลังใจได้ที่ของจะขึ้น อาการที่แสดงออกจะทราบได้ทันทีว่าของชิ้นนั้นทำมาด้านไหน จะเป็นมหาอุตม์ คงกระพันชาตรี หรือ เมตตามหานิยมก็สังเกตเอา...

อาตมาได้คาถาและวิธีการมาแล้วก็ลองทันที เอาพระของหลวงพ่อใส่มือ ทำใจสบาย ๆ ว่า สุนักขัตตัง สุมังคะลัง ไปเรื่อยประมาณ ๓๐ นาที ก็ได้เรื่อง มือมันค่อย ๆ สั่น จากเบาเป็นแรงขึ้นเรื่อย จนตีอกตัวเองดังป้าบ ๆ เลย...! อยากจะหยุดก็หยุดไม่ได้ พอบังคับหยุดมันเหมือนมีแรงฝืน ดึงมือเราไปเขย่าจนได้ เหนื่อยแทบขาดใจ พอดิ้นหลุดเอาพระออกก็หยุดสั่น พอจับพระใหม่ก็สั่นทันที ต้องรีบวาง กลัวจะเหนื่อยตายซะก่อน...!

พอหายเหนื่อยก็ลองใหม่ คราวนี้ใช้สมเด็จวัดระฆัง พอขึ้นปุ๊บมือทั้งสองคล้ายมีคนดึง มันค่อย ๆ พุ่งขึ้นฟ้า แทบจะฉุดเอาตัวลอยขึ้นไปทั้งตัว เอ๊ะ...? อานุภาพไปคนละทางกันจริง ๆ ลองกับพระของหลวงปู่บุดดา ปรากฏว่ามือทั้งสองค่อย ๆ แกว่งไปทางซ้าย – ขวา อย่างช้า ๆ ดูนิ่มนวลมาก ถ้าจีบมือซะหน่อยคงเป็นท่ารำไทยไปเลย แสดงออกถึงความเมตตาที่ชุ่มเย็นอย่างชัดเจน...

พอทำขึ้นคราวนี้จับองค์ไหนก็ขึ้นหมด ถึงขนาดนอนนึกก็ดิ้นโครม ๆ ซะแล้ว ใจหนึ่งอยากลองภาวนาคาถาหัวใจหนุมาน อีกใจก็ค้านว่าอย่าดีกว่า ไปนอนให้เขาหามมันไม่เข้าท่าแน่ และที่ไม่ลืมเด็ดขาดคือ จะไม่เผลอเอาธงมหาพิชัยสงครามมาปลุกเด็ดขาด กลัวตายก่อนอายุขัย...!

นอนสั่นอยู่หลายวันจึงเข้าใจ ว่าอารมณ์ตอนนั้นเป็นแค่อุปจารฌานเท่านั้น ถ้าเรากำหนดจิตให้สูงกว่านั้น อาการสั่นก็จะหายไปเอง เฮ้อ...กว่าจะเข้าใจก็นอนดิ้นซะตึกแทบพัง เหนื่อยจะตายชัก...!

๗ พฤษภาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
***<!-- / message --><!-- sig -->
อนุโมทนาครับ

 

กราบ กราบ กราบ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ กราบพระโมคคัลลา พระสารีบุตร พระสิวลี พระมหากัจจายนะ หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อสด หลวงพ่อจรัญ หลวงปู่คำพันธ์ หลวงปู่ศรี หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว หลวงพ่อสังวาลย์ หลวงพ่อกวย หลวงพ่อมุ่ย หลวงปู่ดู่ หลวงปู่บุดดา หลวงปู่สี หลวงปู่ละมัย หลวงปู่หมุน หลวงปู่สรวง หลวงพ่อทรง คุณแม่บุญเรือน และครูบาอาจารย์ เทพ พรหมทั้งหลาย ทั้งปวง ขอบารมี สิ่งดี ๆ ความสมหวัง ความคล่องตัว โชคลาภ จงบังเกิดขึ้นด้วยเทอญ.....สาธุ

 

ขอบคุณครับคุณ chopper ผมนึกว่ามีเป็นหนังสือ จะได้หามาอ่าน

 

**
หนังสืออาจจะมีครับพี่...ที่บ้านอนุสาวรีย์ ซึ่งหลวงพี่เล็กท่านมารับสังฆทานเป็นประจำ...ผมลืมบอกพี่ ในเว็บวัดท่าขนุน ก็มีไฟล์ให้อ่าน แต่ต้องสมัครสมาชิก ....กฏเกณฑ์ของเว็บคือ นามแฝงต้องเป็นภาษาไทย และมีการรณรงค์ใช้เลขไทย และภาษาไทยที่ถูกต้องเวลาโพสต์ครับพี่...

....ก่อนหน้านี้ผมก็ได้โพสต์บางส่วนของหลวงพี่เล็กมาให้ลองอ่านสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยอ่านนะครับ

อนุโมทนาครับ

 

ช่วงวันหยุดยาว ในเทศกาลเข้าพรรษา หลายๆท่านคงมีโอกาสเดินทางกลับไปเยี่ยมภูมิลำเนา และทำบุญกันกับครอบครัว ก็ขอให้ทุกๆท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะครับ ส่วนผมได้หยุดแค่ 25-26 ก.ค. และวันที่ 26 ก็ยังไม่แน่ว่าจะมีงานด่วนอีกหรือไม่ ก็คงไม่ได้เดินทางไกล

ขออวยพรให้ทุกๆท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ

..อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านนะครับ

 

เมื่อวานไปทำบุญไหว้พระ9วัดที่อยุธยามาค่ะ และได้ไปไหว้หลวงพ่อปานที่วัดบางนมโค(เป็นวัดที่8ค่ะ ร่วมอนุโมทนาบุญกันได้นะคะ

 

หลวงพ่อเองก็ออกปากว่า ตั้งแต่ได้แก้วจักรพรรดิมา การงานการเงินมีความคล่องตัวมาก ในองค์หลวงพ่อพกของมงคลอยู่เพียง ๒ อย่าง คือพระบรมสารีริกธาตุ และลูกแก้วจักรพรรดินี้เอง การพุทธาภิเษกทุกครั้ง หลวงพ่อต้องนำแก้วจักรพรรดิมาเป็นองค์ประธาน
****
...ด้วยข้อความนี้ของหลวงพี่เล็กนี่แหละครับ ที่ผมตัดสินใจบูชาพระคำข้าวรุ่นพิเศษติดพระบรมสารีริกธาตุมาอาราธนาติดตัว และลูกแก้วที่มีติดตัวเป็นรุ่น 2 เมื่อคืนยังถอดลูกแก้วออกจากคอมานั่งส่อง

...ช่วงนี้ แม้จะฝืดเคือง แต่ก็ยังไม่ติดลบครับ รายจ่ายเยอะ แต่ยังหาพอใช้พอจ่าย ด้วยบารมีหลวงพ่อฯ

เมื่อคืนฟังเทปที่หลวงพ่อเล่าเรื่อง กรมหลวงชุมพร ท่านไปช่วย นายตำรวจซึ่งถูกทำเสน่ห์ในซ่องโสเภณี ที่ต้องช่วยเพราะเขายังมีบุญอยู่ เขาภาวนาอยู่เสมอ ไม่ว่าภาวนาคาถากันปืน หรืออะไรก็แล้วแต่ก็ถือว่าเป็นการภาวนา (ใจความย่อๆนะครับ ไม่ได้แกะมาทุกคำพูด)

คาถาต่างๆเป็น พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เทวตานุสสติ ทั้งนั้น

ที่หลวงพ่อท่านให้สวดคาถาเงินล้านทุกวัน ก็เท่ากับบังคับให้เราภาวนานะครับ(และเห็นผลจริงด้วยครับ) หลวงพ่อบอกว่า จะขี้เกียจอย่างไร ก็อยากรวยกันทุกคน

อนุโมทนาครับ