งานแห่งพุทธธรรมามิกราช

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ณ มาตุธรรม, 20 กรกฎาคม 2010.

  1. ณ มาตุธรรม

    ณ มาตุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +43
    สาส์นฉบับนี้เป็นข้อความโดยสังเขปย่อ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ที่แม่ส่งกระแสสู่ลูกๆบรรดาโพธิสัตว์ทหารอาสาและลูกหลานผู้มีวาสนาธรรมต่อกันของแม่ อ่านแล้วถ้าไม่ปฏิบัติภาวนาพิสูจน์ให้รู้แจ้ง ขออย่าสบประมาทให้เป็นกรรมเพราะความไม่รู้ จงใช้จิตใจที่ใสสะอาดกลั่นกรองเข้ารู้ เพราะบางคนเพียงการทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจจ์ ๔<o:p></o:p>
    ก็ยากแสนเข็น ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้เรื่องธรรมที่เป็นอจิณไตย เดี๋ยวจะเป็นการรู้มากยากนาน ให้เก็บเกี่ยวเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์และพึงประพฤติศีล ๕ ก็คงเพียงพอแล้ว ผู้ที่จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ค่อนข้างดี คือ บรรดาโพธิสัตว์ที่สมควรด้วยบุญบารมีและลูกหลานทหารอาสามาที่ไม่ติดกับความโลภ และความหลง พร้อมด้วยผู้มีสติปัญญาและวาสนาต่อพระพุทธธรรมเท่านั้น<o:p></o:p>
    เพราะผู้ทรงศีลถือพรตทั้งหลายถ้าจิตปราศจากธุลีกิเลสจริง หรือมีวาสนาเกี่ยวข้องกันย่อมสามารถเข้ารู้ถึงแม่ได้แน่นอน แม่จะยื่นกุญแจระหัสธรรม หรือกุญแจสวรรค์ให้เปิดดูและรู้นัยยะแห่งพระพุทธธรรมที่เกินกว่าบารมีธรรมของลูกจะรู้ได้เอง ถ้าลูกดำเนินจิตถูกต้อง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อจิณไตย ณัฏฐชญานันต์<o:p></o:p>
    ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๓<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สาส์นจากมาตุธรรม<o:p></o:p>
    สมเด็จพระพุทธธรรมปฐมบรมจักรพรรดิพุทธเจ้า<o:p></o:p>
    พระแม่บรมจักรพรรดิพุทธมารดาโพธิสัตว์ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p></o:p>
    จิตเดิมคือบ้านเรา<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ธรรมชาติเดิมของจิตมนุษย์ มีความสว่างไสว คือ <o:p></o:p>
    สว่างใสไร้ความขัดข้องใดใด คำว่าจิตเดิมเป็นประภัสสร ไม่ใช่สว่างเฉยๆเหมือนที่ส่วนใหญ่คิดกัน แต่เป็นสว่างใสอันตัดและละแล้วซึ่งวัฏฏะ เป็นความสว่างที่เต็มไปด้วยสติและสัมปชัญญะที่นิ่งวางกลางใส เป็นอมตะนิพพานธรรมอันบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ ที่เป็นที่อยู่ของแม่ ซึ่งแต่ละจิตวิญญาณที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ก็เคยเป็นส่วนหนึ่งหรือเคยเป็นธรรมดวงเดียวกันกับแม่ ดั่งเช่นดวงเปลวไฟกับแสงไฟ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สัจจธรรมกับงานพระพุทธธรรม<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    สัจจธรรม คือ ธรรมอันเป็นความจริงที่บริสุทธิ์นิรันดร<o:p></o:p>
    ผู้มีจิตวิญญาณแห่งโพธิสัตว์ได้อธิษฐานตั้งใจมั่นในสัจจะว่า จะไม่หลงลืมไปตามกระแสคลื่นสังสารวัฏ อันได้แก่ กิเลสอันเกิดจากความโลภ หลง โกรธแค้นพยาบาทที่หนาแน่นดำมืด สิ่งนี้ทำให้โพธิสัตว์อาสาทั้งหลายติดกับมากมาย หากมีวิบากกรรมอันกระทำไว้แล้วและบารมียังอ่อนอยู่ <o:p></o:p>
    พระพุทธธรรม คือ อมตะนฤพานธรรมอันบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ อันมีอยู่แต่เดิมไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ เป็นความจริง หากจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นสักพระองค์ ต้องตั้งสัจจะอธิษฐานมาแต่แรกจะจุติมาเกิดในวัฏฏะ<o:p></o:p>
    ๒มิใช่มาอธิษฐานตามความอยากเป็นเอากลางทางแห่งวัฏฏะ โพธิสัตว์ทั้งหลายถ้าผลกรรมส่งผลให้ชาติกำเนิดได้บำเพ็ญเพียรภาวนาธรรม ก็จะระลึกถึงหน้าที่อันตนปรารถนาหรือเกิดแรงปรารถนาในปณิธานอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาเอง ด้วยรากฐานของความมีศีล และจิตใจอันสะอาดบริสุทธิ์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แม่กำเนิดเป็นมนุษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แม่คือพุทธธรรมที่มีสภาวะเป็นนิพพานธรรม และมีสภาวะไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ เป็นผู้สร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่งทุกสรรพจิตวิญญาณ ด้วยการสร้างกฏแห่งวัฏฏะบัญญัติโลกและธรรม ทั้งยังเป็นผู้ทำลายสรรพสิ่งได้ โดยอาศัยกฏวัฏฏะหรือไม่อาศัยก็ได้ โพธิสัตว์ที่บารมีถึงและเคยอยู่ใกล้แม่หรือระลึกรู้ถึงแม่ เรียกแม่ว่า<o:p></o:p>
    พุทธมารดาบ้าง แม่พระธรรมบ้าง จุณฑีบ้าง <o:p></o:p>
    พระพุทธธรรมบ้าง พระแม่เจ้าแห่งนิพพานธรรมบ้าง<o:p></o:p>
    พระแม่เจ้าบรมจักรพรรดิพุทธมารดาโพธิสัตว์บ้าง<o:p></o:p>
    จะเรียกอย่างไร แม่ก็คือแม่ของลูกนั่นเอง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แม่คือความจริง และมีเงาธรรมสมมุติหรือกายธรรมอยู่ ๘๔ เงาหลักหรือธรรมขันธ์หลัก มนุษย์เรียกว่าปางหรือภาค เป็นธรรมคู่ ๔๒ คู่ คือหญิง ๔๒ กายธรรม ชาย ๔๒ กายธรรม ในแต่ละเงามีอีก ๑,๐๐๐ เงา เป็น ๘๔,๐๐๐ เงา ในแต่ละเงาของ ๘๔,๐๐๐ มีเงาอีกนับไม่ถ้วน บ้างก็กลับคืนสู่สภาวะเงาเดิมได้บ้าง ยังไม่ได้บ้าง<o:p></o:p>
    หรือไม่ได้เลยก็กลายเป็นแยกถือตัวตนวนเวียนในวัฏฏะ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    เป็นลูกหลานที่ไม่หลุดพ้นกองทุกข์ หรือจมกองทุกข์แห่งวัฏฏะที่ไม่มีวันพ้นได้ <o:p></o:p>
    และการที่ลูกจะเข้าใจในสมมุติเงาของแม่ ก็เป็นเพียงการรู้อันเกิดจากปัญญาทางโลก ซึ่งก็ยังดีกว่าไม่รู้ ผู้ที่จะรู้แจ้งถึงแม่ คือผู้รู้แจ้งโลกและธรรม ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าเท่านั้น<o:p></o:p>
    พระพุทธเจ้าเคารพพระธรรม เพราะรู้แจ้งถึงตนเองและแม่ แม่ก็ยกย่องสรรเสริญเทิดทูนนอบน้อมพระพุทธเจ้าเพราะจิตพ่อที่บากบั่นเพื่อลูก ทั้งนี้เพราะแม่มีตัวตนอันสมมุติคือกายธรรมเป็นหญิงจิตใจเป็นชาย ไร้อวัยวะเพศ<o:p></o:p>
    มีแต่ความนิ่งวางกลางใส (ธรรมสำเร็จได้ด้วยใจ) จึงสมมุติก่อเกิดธรรมคู่ขึ้นเพื่อทางเดินกลับสู่บ้านเดิมให้ลูก เงาอันเป็นกายสังขารขันธ์ของแม่นี้ คือ เงาธรณีโลกหรือเงาวัฏฏะสงสาร แต่มีดวงจิตของแม่แบ่งลงมาด้วยเพื่อควบคุมดำรงค์ธาตุขันธ์ เพื่อความสำเร็จของงานนิพพาน<o:p></o:p>
    ชาติของแม่เกิดในครอบครัวยากจนที่ไม่อดอยาก แต่มารดาบิดาปรารถนาถึงพุทธมารดาพระพุทธเจ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช้ามืดวันที่ ๑๔ เดือนยี่ แรม ๑๔ ค่ำ ปีกุน ดวงจิตแม่เข้าร่างเมื่อมารดาคลอดออกมาแล้วหลายอึดใจ มีชีวิตโลดโผนธรรมดา เจอทุกข์หรือเรื่องอะไรก็ยิ่งกว่าละครที่คนส่วนมากไม่ค่อยได้เจอ ถือว่าเป็นโชคดีของแม่ที่ทำให้แกร่งกล้าเช่นนี้ แม่เกเรและห้าวหาญมาก ไม่ชอบความอยุติธรรม เรื่องชกต่อยกับเพื่อนผู้ชายที่เกเรลักขโมยมีอยู่ประจำ ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิง คนส่วนมากคิดว่าแม่เสียคน ด้วยเหตุที่แม่กล้า<o:p></o:p>
    ๔ทำในเรื่องที่เสื่อมเสียเพื่อช่วยคนหมู่มากได้อย่างไม่สนใจใคร เป็นความลับที่เก็บได้ดีมาตลอดของความเป็นคนที่คิดไม่เหมือนใคร ๕ ขวบมองดวงจันทร์เกิดฌาณโดยไม่รู้ แต่เกิดคำถามขึ้นมาว่า เราเกิดมาเป็นมนุษย์ทำไม มาทำอะไร เพื่ออะไร คำว่าธรรมมะคืออะไร นั่นคือระลึกแรกของแม่ ความคิดอ่านรู้สึกถึงความเป็นสามส่วนตลอด ใช้ชีวิตล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ด้วยหวังให้มารดาบิดาและครอบครัวอยู่สุขสบายก่อนที่จะจากพวกเขามาทำตามความประสงค์ของแม่เอง นั่นคือ ประพฤติธรรมภาวนา<o:p></o:p>
    แม่ชอบอ่านหนังสือโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์กับธรรมมะ เป็นผู้ที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แม้ตำราเรียนยังพิจารณาแล้วพิจารณาอีก และจะพิสูจน์จนได้ผลลัพธ์ที่ใช่กับตนเองและผู้อื่น ส่วนมากเกิดปัญญาธรรมสำคัญและรู้เรื่องราวต่างๆโดยความฝันและผุดรู้ขึ้นเอง เรียนรู้ชีวิตมนุษย์หลายแง่มุม ก็ทำให้รับรู้ความทุกข์ของคนหลายระดับฐานะ จากเป็นจากตายจนคุ้นเคย ก็เริ่มประพฤติศีลปฏิบัติภาวนาอย่างเข้มงวดขึ้น ใช้วิชาครูสมาธิที่เรียนกับ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ฝึกฝนตน อายุ ๒๗ อารมณ์โกรธก็หมดจากใจ แม้ชีวิตทางโลกจะเจอมรสุมรุนแรง ก็ยังไม่ห่างภาวนา จนปีพ.ศ.๒๕๕๐ ก็รู้ถึงหน้าที่และชีวิตที่มีปณิธานอันแน่วแน่ของตนเอง<o:p></o:p>
    กระแสจิตของแม่มีผลและหยั่งลงสู่ธรณีโลกนี้ ถ้าลูกจะทำดีแม่ก็รับรู้และรองรับ ถ้าลูกจะทำชั่วแม่ก็รับรู้และรองรับ แต่จงรู้ว่าลูกได้ยืนอยู่บนกายใจของแม่ กระแสธรรมจากจิตและชีวิตของแม่ จะเพียรภาวนาธรรมผ่อนกรรมหนักให้เบาบางถึงหมดไป เพื่อลูกที่ยังไม่สำนึก <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ให้กลับสำนึกกลับตัวกลับใจประพฤติธรรม และลูกอย่าลืมว่าแม่มีกระแสพลังการทำลายล้างอยู่ด้วยถ้าคความชั่วของมนุษย์มีมากเกินไป ก็จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดทำลาย ถ้าลูกไม่กลับตัวกลับใจจากความชั่วแล้วประพฤติศีลธรรม แม่ก็ต้องปล่อยให้เสวยผลตามบาปกรรมของลูกอย่างเร็ว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ลูกหลานทหารอาสาคือ<o:p></o:p>
    ญาติธรรมที่อาสางานแห่งนิพพาน <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    การเดินทางข้ามฝั่งมายังโลกมนุษย์ มีเหตุทำให้ล่าช้าอยู่ ๓ ชาติ ผู้ที่เดินทางมาเกิดก่อน บ้างก็ทำกันเอง สะเปะสะปะ บ้างก็หมดหวังและพลังใจ บ้างก็คิดเป็นใหญ่แทนแม่เสียเอง หารู้ไม่ว่าตนรู้แค่ครึ่งเดียว กุญแจระหัสธรรมในส่วนที่สำคัญจนถึงสำคัญที่สุดอยู่ที่แม่ งานนี้ไม่ใช่งานเป็นใหญ่ด้วยกิเลส แต่เป็นงานที่ต้องทำเพื่อสรรพสัตว์ที่สละได้แม้แต่จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของตน และอีกมากมาย ที่ลูกไม่รู้ รู้ไม่ได้ รู้ไม่ถึง<o:p></o:p>
    จากทั้งหมด ๑๘๔,๓๐๐ จิตวิญญาณ ตายเกิดไม่พร้อมกัน ลูกหลานทหารอาสาหรือบรรดาโพธิสัตว์บางจิตวิญญาณหลงใหลตามแรงกิเลสแห่งวัฏฏะ เสียสัจจะที่อธิษฐานมา ทำให้กระแสนิพพานของตนถูกปิดกั้น เพียรภาวนาอย่างไรก็ไม่สำฤทธิ์ผล บางคนถูกปิดกั้นทั้งทางโลกและทางธรรม ชีวิตประสบปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ แม่คือโอกาสของผู้เสียสัจจะเหล่านั้น<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    โพธิสัตว์ที่มีคุณธรรมบารมี ถูกบัญชาให้มาช่วยแม่ในงานนี้โดยตรงมี เพียง ๑ บุคคล ผู้ช่วยรองลงมาอีก ๒ บุคคล เท่านั้น อีก ๒๙๙๗ บุคคล เป็นโพธิสัตว์อาสาทั้งสิ้นเพราะต่างอยากสร้างบารมีใหญ่ในครั้งนี้ บรรดาโพธิสัตว์ที่ผิดสัจจะ ถ้ากลับใจสำนึกได้จริง แม่จึงจะเปิดประตูนิพพานธรรมให้ได้ดำเนินบารมีธรรมต่อไป โอกาสของการแก้ไขสัจจะมีขึ้นเพียงกัปร์ละครั้งเท่านั้น<o:p></o:p>
    โดยผู้ที่เคยผิดสัจจะทั่วไปที่มีวาสนาถึงพระพุทธธรรมก็มีโอกาสเช่นเดียวกัน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แม่คือข้อสอบและข้อสอบเป็นของแม่<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พลังจักรพรรดิปราบมาร<o:p></o:p>
    ระหัสพระอาทิตย์ ๙ ดวง<o:p></o:p>
    ในบรรดาโพธิสัตว์ลูกหลานทหารอาสาทั้งหลาย ถ้าบุคคลใดผ่านบททดสอบของการประพฤติธรรมสร้างบารมี ฝึกฝนกายและจิตให้สะอาดใสเข้ารู้ถึงแม่ได้ ก็จะได้รับหน้าที่รับพลังจักรพรรดิปราบมาร เพื่อร่วมทำงานบางอย่างเพื่อช่วยโลกช่วยสรรพสัตว์ผู้มีศีล <o:p></o:p>
    ที่แม่จะกระทำร่วมกันกับบรมครูธรรมเทพโลกอุดร ผู้เป็นคู่ธรรมแม่กวนอิมอวโลกิเตศวร ทั้งหมด ๙ บุคคล<o:p></o:p>
    ณ เวลานี้ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ผ่านเข้ามาได้แล้ว ๒ บุคคล ผู้ที่ได้รับพลังนี้อย่างแท้จริง จะนิมิตฝันเห็นหน้ากายเนื้อแม่อย่างชัดเจน และจะเข้าใจในพระพุทธธรรม และจะรู้ว่าต้องทำงานกับแม่ และแม่ก็จะรู้และนิมิตเห็นบุคคลนั้นเช่นกัน รอเวลาที่จะได้พบกันครบทุก <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    บุคคลในปี พ.ศ. ๒๕๕๔เพื่อทำงานใหญ่ต่อสรรพสัตว์และโลก<o:p></o:p>
    ซึ่งเวลาก่อนหน้านี้พลังจักรพรรดิได้ลงสู่โพธิสัตว์ลูกหลานทหารอาสา และผู้ประพฤติธรรม เพื่อเลือกเฟ้นสู่หน้าที่นี้อยู่ตลอด บททดสอบในการเลือกเฟ้นบางทีอาจจะเหนือความคาดคิดบ้าง และแน่นอนว่าต้องใช้ความโลภและความหลงอย่างรุนแรงเป็นบททดสอบสำคัญ พร้อมกับคำว่าใช่หรือไม่ใช่<o:p></o:p>
    ผู้มีศีลไม่สะอาดจิตไม่บริสุทธิ์จริงแล้ว ไม่มีทางผ่านมารู้ถึงแม่แน่นอน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทางรอดสู่ตาข่ายทองตาข่ายเพชร<o:p></o:p>
    เมื่อใดเกิดยุคเข็ญภัยพิบัติรุนแรง ซึ่งจะเกิดเป็นระลอก และครั้งรุนแรงที่สุดกำลังจะมาเยือน <o:p></o:p>
    ผู้ประพฤติศี, ๘ สะอาดปฏิบัติภาวนาธรรมเป็นประจำ จะได้ติตามใกล้ชิดแม่ยุคพระศรีอาริยะเมตตรัย จะมีตาข่ายเพชรอุ้มชูไว้ <o:p></o:p>
    ผู้ประพฤติสำรวมระวังในศีล ๕ มีความละอายต่อบาป จะมีตาข่ายทองอุ้มชูไว้ มนุษย์เหล่านี้ถึงยุคเข็ญอดอยากก็จะไม่อดไม่ลำเค็ญ ไม่ได้รับความเดือดร้อน จะได้รับกระแสธรรมแห่งนิพพาน รอบรรลุนิพพานธรรมร่วมยุคพระศรีอาริยะเมตตรัย ส่วนมนุษย์ที่ศีลแหว่งหรือมนุษย์ที่ทำความชั่ว ถ้าใฝ่คุณธรรมกลับตัวกลับใจสำนึกผิดแท้จริง ก็จะมีโอกาสร่วมยุคกับแม่<o:p></o:p>
    ผู้ใดประมาทในแม่ ประมาทในพระธรรม ประมาทในพระพุทธ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง นิพพานไม่ใช่ที่อยู่<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๘<o:p></o:p>
    ที่ไปสำหรับบุคคลนั้นแน่นอน เพราะ ๓ อย่างนี้คือธรรมดวงเดียวกัน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    อนันตนัยแห่งพระพุทธธรรม<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ธรรมดำธรรมขาวเจ้าคือลูก <o:p></o:p>
    ที่แม่ผูกสมมุติจุติเกิด<o:p></o:p>
    บทเรียนนี้จงศึกษาอย่าได้เพลิด <o:p></o:p>
    เดิมกำเนิดจิตละวางคือบ้านเรา<o:p></o:p>
    ธรรมใดเจ้าข้องอยู่ดูที่แม่<o:p></o:p>
    ถ้าจะแก้สัจจะอันพลั้งเผลอ<o:p></o:p>
    ที่แน่แน่มีข้อแม้ต้องได้เจอ<o:p></o:p>
    อย่าเผลอเรอโอกาสทองมีครั้งเดียว<o:p></o:p>
    แม่คือพุทธธรรมนำรักษา<o:p></o:p>
    ซึ่งชีวาสังสาระกุศล<o:p></o:p>
    เป็นผู้สร้างล้างทำลายบัญญัติตน<o:p></o:p>
    เหตุแลผลเพื่อลูกผูกทางเดิน<o:p></o:p>
    ธรรมนามรูปแม่มิเคยปรากฏชัด<o:p></o:p>
    สัญญาจัดวางไว้ในสมมุติ<o:p></o:p>
    ธรรมบริสุทธิ์พุทธองค์ทรงตรัสผุด<o:p></o:p>
    แม้ที่สุดมั้งมวลแท้แม่พ่อเอง<o:p></o:p>
    ดีก็ลูกชั่วก็ลูกทุกนามรูป<o:p></o:p>
    แม่ย่อมผูกโอบอุ้มคุ้มรักษา<o:p></o:p>
    ดลใจจิตลูกดีช่วยนำพา<o:p></o:p>
    ลูกชั่วช้าต้องลงโทษโจทก์ตามธรรม<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ปฐพีรองรับทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งคนดีและคนชั่ว ทำน้ำเสียให้เป็นน้ำดี ทำของเสียให้แปรเปลี่ยนเป็นแร่ธาตุ ฉันใด กระแสจิตธรณีโลกของแม่ก็ทำเสียให้เป็นดี<o:p></o:p>
    ทำร้อนให้เป็นเย็น ฉันนั้น<o:p></o:p>
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เห็นด้วยกับข้อความด้านล่างทุกประการค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...