แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ช่วงนี้งานหายากจริงๆครับ มะวานดูข่าวช่อง3 ป ตรี ตกงานกันมาก ทั้งชายทั้งหญิง
และแทบจะทุกคณะเลย ทุกสาขาทุกแขนงเลย

อยากทราบว่าเดี๋ยวนี้งานราชการยังสอบยากไหมครับมีเส้นสายที่เขาว่าไหม
งานตามโรงงานหรือนิคมอุตสาหกรรมตอนนี้ ก็รับเยอะแต่ค่าใช้จ่ายเยอะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงเพราะบางทีจบไม่ตรงสาย
บางทีไปสัมภาษณ์ก็รอนาน หรือไม่ติดต่อมาอีกเลยอย่างไรเยื้อใย

ที่เราตกงานเนี่ยเป็นเพราะพิษเศรษฐกิจ หรือกรรมเก่า หรืออี่นๆ??

พี่ๆมีวิธีการหางานอย่างไรให้ได้งาน

 

ขอร่วมสนุกเรื่องศีลนะครับ อาจจะตอบไม่ตรงประเด็นนะครับ

เบญจศีล เป็นอุบายที่ให้เราละเว้นจากความชั่ว เพราะให้เรามีเบญจธรรมหรือปฏิบัติตามเบญจธรรมมันยากเกินไป

เบญจธรรม 5 ประการ ได้แก่
เมตตากรุณา คือความรัก ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น
สัมมาอาชีวะ คือการประกอบสัมมาชีพ
กามสังวร คือการสำรวมในกาม
สัจจะคือการพูดความจริง
สติสัมปชัญญะ คือความระลึกได้และความรู้ตัว

 

ขอแสดงความเสียใจครับต่อการสูญเสีย ผมก็เคยประสบเหตุการณ์คล้ายกันเข่าอ่อน หัวใจหล่นลงมา มันตื้อไปหมดเลย

 

.............................................................
เอาใจช่วยให้หางานได้ไวๆๆนะครับ
งานราชการเปิดสอบน้อย เส้นสายลายครามไม่ต้องพูดถึง ถ้าเราคิดว่ามีเส้นก็จะบั่นทอนกำลังใจที่จะไปสอบแล้วครึ่งหนึ่ง อย่าคิดเด็ดขาดเรื่องนี้ คนสอบก็เยอะแต่ละคนเขี้ยวลากดินทั้งนั้น ดังนั้นทุกอย่างอยู่ที่การเตรียมตัวด้วยครับแล้วบวกกับวาสนาอีกนิดๆครับ สอบทุกที่ที่เรามีคุณสมบัติครับ แล้ววันหนึ่งวันของเราจะมาถึงเองครับ...ตราบใดที่ยังสอบ เราก็ยังมีหวังเสมอครับ.....ทุกวันนี้ผมก็ยังเรียนเนติฯเรียนมา5ปีแล้วยังไม่จบ แต่ผมก็ยังเรียนอยู่และยังหวังว่ามันจะจบเหมือนกัน

 

เป็นกำลังใจให้คุณ nuonmxzz หางานได้ในเร็ววันครับ.....

หากมีเวลาก่อนนอน...อย่าลืมสวดมนต์นะครับ...

 

พี่อุดมเดชครับ ขอบคุณมากครับพี่เป็นคนจิตใจดีมากครับ

 

ขอให้พี่หนึ่ง หายจากเร็วๆครับ

 

คุณหนุ่ม ลองทบทวนพิจารณาใหม่อีกทีนะครับ แต่ผมยอมรับการตัดสินใจของคุณหนุ่มนะครับ แม้ว่าจะตามเข้ามาอ่านทีหลัง แต่ก็ติดตามตลอดครับ

ถ้าคุณหนุ่มยืนยันตามนั้น สงสัยแฟนคลับคุณหนุ่มต้องเปิดกระทู้อะไหล่ไว้ครับ

 

ผมขอเอาบทความในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันนี้มาให้อ่านครับ
ซึ่งผมว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการของพี่หนุ่ม มาให้พี่ๆน้องๆ ในกระทู้อ่านนะครับ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20100714/342894/เปิดสวิทซ์ไฟให้-หมู่บ้านสันดินแดง.html

 

ผมเชื่อเรื่องดวงและกรรมมีผลอย่างมากนะครับ ผมเชื่อว่าต้องอาศัยบารมีครูบาอาจารย์ช่วยครับเรื่องนี้
ถ้ามีโอกาสไปกราบหลวงพ่อกวยนะครับ ไปขอบารมีท่านครับให้ช่วย ท่านช่วยลูกศิษย์มาตลอด ท่านยังอยู่ที่วัดช่วยลูกศิษย์อยู่ครับ

 

ในกระทู้นี้ มีการพิมพ์คำว่าน้ำใจออกมาให้อ่านกันมาก อย่างที่พี่โอสถ และพี่หนุ่มบอก เรามีน้ำใจต่อกัน

แต่มีเรื่องไร้น้ำใจเรื่องหนึ่งค้างคาใจผมมานาน

เมื่อต้นปี 2551 แม่ผมตื่นตั้งแต่ตี 4 ขนของนั่งตุ๊ก ๆ อกกไปขายของตลาดนัดเช้าแถวโรงพยาบาลใหญ่รัฐบาลแห่งหนึ่ง แถวสะพานพระนั่งเกล้า พอรถเลี้ยวจากปากซอยขึ้นถนนใหญ่ รถตุ๊ก ๆ ขับมาเรื่อย ๆ จากปากซอยประมาณ 30 เมตร มีรถคันหนึ่งขับมาอย่างเร็วด้านหลัง ชนเข้าอย่างแรงจนรถตุ๊ก ๆ พลิกคว่ำ แม่บอกผมว่ารถลอยพลิก และท่านตกมานอกรถตุ๊ก ๆ รถคันนั้นมันตั้งสติแล้วถอยหลัง มาเหยียบทับข้อเท้าแม่ผม รถคันนั้นมันไม่สนใจ ขับหนีไป คนแถวนั้นโทรตาม ป.เต็กตึ้งมาพาแม่ผมกับคนขับรถตุ๊ก ๆ ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้สะพานพระนั่งเกล้า

ผลการตรวจบอกว่า ซี่โครงหัก 1 ซี่ข้อเท้าฉีก และฟกช้ำ แผลถลอก แม่ผมอายุ 50 กว่า ๆ แต่ยังแข็งแรงมาก ๆ ก็ได้เข้าทำแผลและขึ้นห้องพัก อยู่โรงพยาบาล 2 อาทิตย์กว่า ๆ

น้ำใจที่น่าจดจำที่ 1. ตั้งแต่แม่ผมเข้าโรงพยาบาล ผมถามแม่ว่าหมอว่ายังไง ตั้งแต่วันแรกจนออกจากโรงพยาบาล จนออกจากโรงพยาบาล ผมและแม่ไม่เคยพบแพทย์เจ้าของไข้สักครั้ง วันออกจากโรงพยาบาลก็ได้แต่ยามาทาน

น้ำใจที่น่าจดจำที่ 2. จากการที่แม่ผมซื่โครงหัก ไม่ได้ผ่าตัดเข้าใจว่าหมอคงจะให้กระดูกประสานกันเอง แต่เวลาขยับตัว เดินก็รู้สึกเจ็บตรงซี่โรง ผมก็กลัวซี่โครงที่หักจะทิ่มปอด เราก็ไม่ได้คำแนะนำอะไรจากแพทย์เลยก็เลยตัดสินใจหยุดงาน พาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก็นั่งรอประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ดูป้าย ที่แม่ได้คิวรอ ได้หมอหัวหน้าแผนกศัลยกรรมกระดูก (ถ้าจำไม่ผิด) พยาบาลเรียกแม่ผมเข้าไปตรวจ หมอถามแม่ผมเป็นอะไร ตอนนั้นผมก็อยู่ด้วย ผมก็บอกหมอไปว่าแม่ผมเจ็บซี่โครง ที่หักจากโดนรถชน ตอนนั้นไม่ได้พบหมอเจ้าของไข้เลยอยากมาตรวจว่าเป็นอย่างไรบ้าง ท่านหมอบอกว่า มาตรวจทำไมหมองานยุ่งเยอะแยะ ผมก็บอกอีกว่าก็แม่ผมเจ็บ หมอก็บอกอีกว่า เห็มใหมหมองานยุ่ง ผมกับแม่ก็งง ในใจ ตอนนั้นจริง ๆ ผมอยู่ในช่วงอารมณแรง ยังไม่ได้ธรรมะเท่าไร เดินออกมาอย่าง งงกับแม่ ผมมานึกได้ช้าไป ว่า น่าจะกราบหมอคนนี้หน้าห้องเลยที่เป็นถึงหัวหน้า ที่ไม่ตรวจแม่ผม ไล่ผมกับแม่กลับบ้าน และจะบอกว่า ไว้ถ้าแม่ผมตายแล้วจะพามาหา ผมกล้าทำจริง ๆ แต่ตอนน้นเดินมาไกลแล้ว เพราะความงง ไม่คิดว่าขนาดหัวหน้าแพทย์ ทำงานโรงพยาบาลรัฐบาลกินภาษีประชาชน แต่จิตสำนึก ห่วยสิ้นดี

เล่าให้อ่านครับ จริง ๆ ในโรงพยาบาลนั้นมีหมอใจดีแน่นอน แต่วาระกรรมทำให้เจอหมอเฮงซวยเข้า ผมบอกตรง ๆ ยังเจ็บใจจนทุกวันนี้เมื่อนึกถึง ทั้งที่พยายามอโหสิกรรม แต่ก็ต้องพยายามอโหสิกรรมกันต่อไป.... เพื่อหลุดพ้นให้ได้

 

ไปอ่านแล้วน่าจะใช่ครับ ยังไงก็ดีใจแทนชาวบ้านด้วยครับ คนต้นน้ำดูแลป่าให้เรา เราดูแลคนต้นน้ำ น้ำใจถึงกันและกันครับ

 

กระทู้นี้เป็นแหล่งรวมน้ำใจดี ๆ แม้จะไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากัน แม้จะแค่ส่วนหนึ่วของเวลาและความรู้สึก แต่เป็น สิ่งที่ดีในขณะนี้ที่มีให้กัน อย่างน้อยก็อยากให้ยืดเวลาออกไปให้ความรู้สึกดี ๆ แพร่กระจายออกไป สักระยะให้เป็นตัวอย่างแก่สังคม ก็ต้องขอพี่หนุ่มพิจารณา

 

มาเล่าต่อ .....จดหมายฉบับสุดท้ายของพ่อ (ป๋าของลูกๆ)
แม่ถามว่าอยากอ่านจม.ที่พ่อแก่เขียนมั้ย อยู่ใต้ที่นอนแม่ถ่ายเอกสารเก็บไว้ไปเอามาอ่านสิอยู่ข้างบน.....กระดาษจดหมายที่พ่อเขียนถึงแม่......


น้องจิตร
พี่เข้าค่ายฝึกรายงานตัวเมื่อ 19 สค.13 รถด่วนถึงสถานีบ้านโป่งตอนเช้า ขึ้นรถเมล์จากบ้านโป่งไปเมืองกาญค่ารถ 2 บาท เมื่อถึงเมืองกาญแล้ว ต่อรถเข้าค่ายฝึกอีกค่ารถเข้าค่าย 3 บาท พี่บรรจุในตำแหน่ง หัวหน้าช่างยานยนต์ กองร้อยบริการ กรมทหารราบที่ 2 กองพันที่3 กองพลอาสาสมัคร ตอนนี้ยังมิได้เริ่มฝึกเพราะยังเดินทางไปไม่พร้อม พี่ได้ทำเสื้อชุดฝึกพี่นำไปจากบ้าน ติดเครื่องหมายใหม่หมดทั้งสามชุด เขาคิดชุดละ 60 บาท ส่วนชุดที่ได้รับจ่ายนั้นจะเก็บไว้ใช้ที่บ้าน เมื่อแก้ใหม่ จะใช้ชุดที่นำไป....
(บางอักษรพี่นวลอ่านไม่ออกแม่ก็จะพูดบอกมา เพราะแม่อ่านจนจำได้ทุกตัวอักษร)

ทำการฝึก ส่วนสภาพดินฟ้าอากาศไม่ผิดกับปรานบุรี มีแต่ฝุ่น และอากาศร้อนมาก น้องจิตรทางนี้พี่จะพยายามทุกอย่างการไปของพี่ก็เพื่ออนาคตของลูกและครอบครัว เรื่องเงิน,และการค้าเป็นเรื่องสำคัญถ้ารั่วไหล เราไม่มีทางจะตั้งตัวได้ เรายังไม่มีบ้านและที่สำหรับทำกินก็ยังไม่มี เงินที่ค้างบัญชีให้พยายามอย่ากอหนี้สิน หากเราได้ไปโดยสวัสดิภาพไม่มีอุปสรรค เราจะลืมตาอ้าปากเหมือนเพื่อนเขาบ้าง บอกลูกๆให้ขยันเรียนให้มาก ให้ช่วยทำงาน อย่าเห็นแก่เที่ยว
น้องจิตรระวังเรื่องเงินให้มากเราจะเก็บไว้ เพื่อจะได้ปลูกกระท่อมให้ลูกอาศัยบ้าง การค้าก็เช่นเดียวกัน อย่าทุ่มเทนักเพราะเงินเดือนเราน้อย ลูกก็มาก ลูกๆมักไม่ทำงาน ต้องคุมให้ดี เคยเตือนไปหลายครั้ง
จิตร ระยะนี้ลูกๆ กำลังสอบ ช่วยดูแลเตือนให้เขาอ่านหนังสือบ้าง อย่าดูและตีลูกพูดกับเขาดีๆ ก็รู้เรื่อง
บอกลูกนุช ลูกเรือง ลูกเล็ก ลูกนวล หลานเล็กและหลานคอง คิดถึงทุกๆคน ช่วยกันทำงานและดูน้องๆ ให้ดีอย่าขี้เกียจ อย่าชักนำคนอื่นไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ระวังเรื่องเสื่อมเสียภายในบ้าน เพราะสิ่งแวดล้อมไม่ดี อย่าไว้ใจบุคคลที่เข้าออกภายในบ้าน ซึ่งไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา หากเกิดเสียหายไม่มีทางแก้
สุดท้ายไม่มีอะไรสบายดี
รักคิดถึง
จสอ.เจริญ ศิริพร
28 ตค.13

ป๋าเสียชีวิตด้วยหัวใจวาย วันที่ 30 ตค.13 จม.ฉบับนี้เพิ่งมาถึง ตอนพ่อเสียแล้ว
ทหารที่นำมาให้ พูดว่าพี่เริญฝากผมเอาจม.มาให้ ไม่รู้ว่าพี่เริญเสียชีวิตแล้ว

วันนี้คุณบอกรักพ่อกับแม่แล้วยัง......คุณดูแลบุคคลภายในบ้านพี่น้องที่คลานตามมาแล้วยัง.......คุณดูแลบุคคลที่เป็นที่รักที่ใกล้ชิดดีแล้วหรือยัง......
หากคุณยังไม่ได้บอกรักหรือทำอะไรให้กับคนที่คุณรัก.....คุณรีบทำนะค่ะ
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอาจเกิดขึ้นโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว........

 

น่าสงสารคุณแม่ครับ ไม่ทราบตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง
โดยเฉพาะตรงกระดูกที่เคยหัก ผู้หญิงสูงอายุคงต้องระวังเรื่องกระดูกไว้ให้มากนะครับ

ส่วนเรื่องหมอกับโรงพยาบาลก็คงต้องพยายามอโหสิกรรมกันต่อไป
อย่าเอามาคิดให้รกสมอง เดี๋ยวจิตจะไม่สะอาด
เหตุการณ์ลักษณะนี้ (ประเภทแจ๊คพ็อด) เจอจุดอ่อนของระบบหรือเหตุการณ์หรือการบริการอะไรก็ตามนี่
ผมเจอมาตลอด เป็นอะไรก็ไม่รู้หนักหนา (พวกQCโดยกำเนิด)
จับอะไรต้องเจอจุดพลาดตรงผมพอดี เหมือนกับธรรมชาติต้องการให้ฝึกรับกับมันให้ได้

 

สักวัน.....เรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นกับบุคคลอันป็นที่รักของหมอท่านนั้นอย่างแน่นอน........เชื่อผมสิ.....อโหสิกรรมให้เขาไปเถอะครับคุณ ransang ...จิตใจของเราจะได้ไม่แบกความทุกข์เอาไว้นะครับ...(^_^)....ความรู้สึกเช่นคุณผมเคยพบเจอมาก็หลายครั้งหลายครา...ทำให้ผมเข้าใจดีครับ...และมันก็ยากที่จะทำใจยอมให้อภัยกับคนเช่นนั้น..แต่การให้อภัยมันจะทำให้ใจเราสบายขึ้นเยอะนะครับ...(^_^)....

 

เครื่องปั่นไฟชั่วนิรันดร์<!-- google_ad_section_end -->

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="828"><tbody><tr><td align="left" valign="top" width="686">

​

</td></tr><tr><td align="left" valign="bottom" width="132">
</td><td align="left" valign="top" width="4">
</td><td align="left" valign="top" width="686">

​

</td></tr></tbody></table>​

เครื่องจักรปั่นไฟได้ชั่วนิรันดร์?​

<o></o>แนว คิดเรื่องพลังงานที่ได้มาฟรีๆ (Free Energy) นั้นมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยลีโอนาโด ดาวินชี แต่ก็เปรียบเสมือนฝันกลางวันที่ไม่อาจทำให้เป็นจริงได้เสียที จนกระทั่งเพิ่งมีข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ความลับเรื่องพลังงานที่ได้มาฟรีๆ ได้ถูกค้นพบแล้วในไอร์แลนด์ ซึ่งจะเป็นความจริงหรือไม่ ลองมาพิจารณากัน

<o></o>
บ้านก่อสร้างด้วยหิน ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอันหนาวเหน็บในไอร์แลนด์หลังหนึ่ง ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสถานที่คิดค้นสิ่งมหัศจรรย์แห่งยุคได้ แต่สถานที่นี้เอง ที่นักประดิษฐ์ชาวไอริชอ้างว่าเขาได้พัฒนาเครื่องจักรกล ซึ่งมีความสามารถในการเปลี่ยนโฉมการใช้พลังงานของโลกชนิดพลิกฝ่ามือ

<o></o>
วิศวกรไฟฟ้าวัย 58 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ และไม่ต้องการที่จะเปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยผู้นี้ ได้ใช้เวลาถึง 23 ปีในการสร้างเครื่องที่มีชื่อว่า "Jasker Power System" จนเสร็จสมบูรณ์ มันเป็นอุปกรณ์ประเภทเครื่องจักรกลไฟฟ้าที่สามารถจ่ายไฟ พร้อมๆ กับคืนพลังงานกลับไปยังแหล่งจ่ายต้นกำเนิดได้

​

<o></o>
ชาวไอริชผู้นี้ ไม่ใช่บุคคลเดียวที่ออกมากล่าวเช่นนั้น เพราะในสังคมอินเทอร์เน็ต กำลังเต็มไปด้วยการทุ่มเถียงในเรื่องเกี่ยวกับพลังงาน "Zero Point" ซึ่งหลายคนอ้างว่าสามารถสร้างขึ้นได้โดยใช้แม่เหล็ก ขดลวด หรือแม้กระทั่งผลึก

<o></o>
โรเบิร์ต พาร์ก ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์แห่ง University of Maryland กล่าวว่า "การเล่าอ้างเช่นนี้มีให้เห็นตลอดทุกๆ สิบปี แต่ก็ไม่เคยมีอะไรปรากฏเป็นรูปธรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกรณีของศาสตร์แห่งมนต์ดำทั้งสิ้น"

<o></o>
ผู้สร้าง Jasker ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากคำย่อชื่อสกุลของตระกูล กล่าวว่าเครื่องนี้สามารถสร้างให้เล็กใหญ่ ขนาดเท่าใดก็ได้ โดยใช้ชิ้นส่วนที่ซื้อหาได้ทั่วไปตามร้าน และสามารถเป็นต้นกำลังแก่อุปกรณ์อะไรก็ได้ที่ใช้มอเตอร์

<o></o>
ส่วนทอม เฮดริก บุคคลเพียงผู้เดียวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Jasker ที่เต็มใจเปิดเผยตัวเองกล่าวว่า "Jasker สร้างพลังงานที่ไม่ปลดปล่อยของเสียออกมา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอื่นใดนอกจากค่าติดตั้งอุปกรณ์ นับว่าเป็นนวัตกรรมที่มีความสำคัญมากที่สุด นับตั้งแต่มีการคิดค้นล้อและเพลาเลยทีเดียว"
<o></o>
นอกจากนี้ เฮดริก ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อจดทะเบียนสิทธิบัตร Jasker ในสหรัฐฯ ด้วย กล่าวว่า "Jasker ถือเป็นเทคโนโลยีที่แหกกฎวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือกันดั้งเดิมเสียกระจุย เช่น ในกฎข้อหนึ่งของเทอร์โมไดนามิกที่บอกว่า คุณไม่มีทางได้พลังงานออกมาจากเครื่องจักร มากกว่าพลังงานที่คุณใส่เข้าไป... มันเป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ ประโยชน์ที่คุณจะได้รับนั้นมากมายสุดที่จะพรรณาได้"

<o></o>
ในการสาธิตเครื่อง Jasker ต้นแบบ ซึ่งมีขนาดเท่าเครื่องล้างจานนั้น ทางผู้สาธิตได้เปิดสวิตช์เครื่องให้เดินประมาณ 10 นาที โดยใช้แบตเตอรี่รถยนต์ขนาด 12 โวลต์สี่ตัวเป็นแหล่งจ่ายพลังงานเริ่มต้น และตลอดเวลาที่สาธิต เครื่องก็จ่ายไฟแก่หลอดไฟ 100 วัตต์จำนวนสามดวงจนสว่าง โดยมีเสียงครางของมอเตอร์ดังออกมาอย่างสม่ำเสมอ

<o></o>
การใช้มัลติมิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ ก่อนที่จะเริ่มเดินเครื่องแสดงค่าออกมา 48.9 โวลต์ แต่เมื่อปิดเครื่องแล้ว การอ่านครั้งที่สองแสดงตัวเลขเป็น 51.2 โวลต์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแบตเตอรี่เหล่านั้นถูกชาร์จไฟเพิ่มด้วยวิธีการใดวิธีการ หนึ่ง เครื่องต้นแบบนี้ยังทำงานต่อไปประมาณสองชั่วโมง ระหว่างที่นักข่าวกำลังบันทึกภาพ โดยความสว่างของหลอดไฟสามดวงไม่ลดลง และยังคงสว่างอยู่เป็นระยะเวลาสั้นๆ หลังจากที่ตัดกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่นั้น

<o></o>
ผู้คิดค้น Jasker กล่าวว่า "กำลังงานที่ดึงจากแบตเตอรี่มีค่ามากกว่า 4.5 กิโลวัตต์โดยประมาณ หากใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม แบตเตอรี่ก็ต้องวาย หมดไฟไปเรียบร้อยแล้วภายในหนึ่งนาทีครึ่ง แต่สำหรับเครื่องนี้ หลังจากกดสวิตช์ให้เครื่องเดิน มันก็จะทำงานต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด หรืออย่างน้อยจนกว่าชิ้นส่วนจะชำรุดจนหมดสภาพ คุณรู้ไหม ว่าผมได้บริโภคไฟฟ้าฟรีๆ จากเครื่องจักรเครื่องนี้มานานถึง 17 เดือนแล้ว!"

<o></o>
ทฤษฎีพลังงานที่จุดศูนย์สมัยใหม่ มีต้นกำเนิดมาจากวิชาควอนตัมฟิสิกส์ และเป็นรากฐานสำคัญของการค้นคว้าวิจัยเครื่องจักรต้านแรงโน้มถ่วง (Anti-Gravity Machine) และเทคโนโลยียานขับเคลื่อนล้ำหน้า (Advanced Propulsion) ที่ทางรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

<o></o>
ผู้ร่วมวงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีตั้งแต่ผู้สนับสนุนวิทยาศาสตร์ควอนตัม เรื่อยไปจนถึงบุคคลที่เชื่อว่าพวกมนุษย์ต่างดาวได้บอกความลับเรื่องพลังงาน อิสระแก่พวกเขา ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนมีคนอื่นที่แน่ใจว่าทางการสหรัฐฯ กำลังวางแผนทำลายการคิดค้นเหล่านี้อยู่ด้วย

<o></o>
นิก คุก ที่ปรึกษาด้านการบินและอวกาศยานของวารสาร Janes Defense Weekly และผู้แต่งหนังสือ "The Hunt of Zero Point" กล่าวว่า "พลังงานที่จุดศูนย์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีจริง ปัญหาอยู่ที่เราจะสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้หรือไม่ ส่วนตัวผมเองเชื่อว่าท้ายที่สุดก็ต้องเป็นไปได้ มีนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายท่านกำลังศึกษาศาสตร์สาขา นี้อยู่ ซึ่งหากการวิจัยไม่มีผลคืบหน้าอะไรแล้ว พวกเขาจะยังอยู่ที่นั่นได้อย่างไร"

<o></o>
ท่ามกลางความสงสัยต่างๆ ทางผู้สร้างเครื่อง Jasker มองเห็นการใช้ประโยชน์เชิงปฏิบัติอย่างแรก คือนำมาใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนบุคคลภายในบ้าน และเป้าหมายข้างหน้า อุตสาหกรรมรถยนต์ก็สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปพัฒนาต่อเป็นเครื่องจักรที่ใช้แทน เครื่องยนต์แกสโซลีนได้ แต่ต้องอาศัยการลงทุนมหาศาล
<o></o>
เนื่องจากน้ำมันดิบที่เก็บไว้ใต้ผิวโลกกำลังมีปริมาณลดลงทุก วัน ความจำเป็นในการหาสิ่งทดแทนจึงมีความสำคัญมากขึ้น ถ้าทางผู้สร้างเครื่อง Jasker ได้ค้นพบบางสิ่งบางอย่างเข้าจริงๆ มันก็จะเป็นนวัตกรรมของชาวไอริชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว

<o></o>



Free_Energy
โดย วิทู หงสกุล - 28 มีนาคม 2545( www.arip.co.th)

 

ติดตามอ่านเรื่องราวของคุณนวลแล้วยิ่งซึ้งใจครับ การทำบุญนั้นก่อนที่เราจะออกไปทำบุญกับพระนอกบ้าน เราควรเริ่มทำบุญกับพระในบ้านของเราก่อน นั่นก็คือ พ่อแม่ของเราครับ

คุณนวลอยู่หาดใหญ่หรือครับ ไปวัดช้างไห้บ่อยไหมครับ ผมทำงานอยู่นครฯ เมื่อก่อนก็ไปบ่อยครับวัดช้างไห้ แต่หลัง ๆ ไม่กล้าขับรถไปแล้วครับ

 

ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ.....ขอบคุณสำหรับการนำเรื่องราวนี้มาเตือนใจให้ผมได้รู้สึกรักพ่อมากขึ้น...แม้วันนี้ผมจะไม่มีโอกาศได้บอกรักท่านในวันเกิดของท่านวันนี้......แต่ทุกวินาทีผมไม่เคยลืมความอบอุ่น,ความรักและความห่วงใยที่เคยได้รับจากท่านเลย......สุดท้ายผมอยากบอกท่านว่า...ผมรักพ่อครับ.....

 

พี่หนุ่มไปไหนหนอ สองวันแล้ว อยากฟังเรื่องผจญภัยในป่ากว้างต่้อ สงสัยติดธุระแน่ๆเลยช่วงนี้