อยากถามว่า ทุกท่านก้าวมาสู่จุดนี้ได้อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย devilblaze, 22 มิถุนายน 2010.

  1. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    เริ่มจากทุกข์ครับ "ไม่เจอทุกข์ไม่เจอธรรม" สุภาษิตที่เขียนติดไว้ที่ต้นไม้สอนคนในวัด
    เดินเข้าวัดทำบุญ ยังกับมีคนเขียนไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับตนเองเลย ฮ่าฮ่า อ่านแล้วเสียดแทงใจแปล๊บๆ 555

    คนเราก็แปลกเนาะ ไม่เจอทุกข์เข้ากับตัว จนหาทางออกไม่ได้สุดท้ายต้องไปวัด
    ส่วนพระอยู่ในวัดแทนที่จะได้ศึกษาปฏิบัติธรรม ท่านต้องมานั่งรับของถวายและให้คำปรึกษาต่างๆนานา

    คิดไปคิดมา เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดทุกข์มากทุกข์น้อยยังคงมี ถ้าคิดจะบวชคงต้องไปรับทุกข์ของชาวบ้านอีกหลายเท่า อืมม..คิดอย่างงี้ก็เขาใจพระสงฆ์ที่ท่านเหล่านั้นได้ทำหน้าที่ของท่านด้วยใจอันประเสริธยิ่งแล..


    เรื่องเล่ามันเยอะ ยิ่งเล่าตัวตนมันก็เยอะขึ้นตามด้วยเนาะ
    แล้วยังจะมีหน้ามาหลอกตัวเองว่า ไม่มีตัวไม่มีตนแล้วอีก
    คำพูดมันวกวนสวนทางกับการกระทำซะอีกนะนั่น (ฮา)
    (ปล.รำพันตัวเอง)
     
  2. นามิกา

    นามิกา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +52
    เข้ามาแบบโก๊ะๆ...ตอนแรกเลยอ่านหนังสือธรรมมะเล่นๆแล้วรู้สึกเย็นเบากายเบาใจรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด...เปนอย่างนั้นอยู่สัก 7 วัน..เก็บความสงสัยมานานเปนปีๆไม่รู้ว่าคืออะไร จนเมื่อไม่นานมานี้ทะเลาะกับเพื่อนอย่างชนิดที่ว่า ทุกข์ ไปบ่นใว้ในเว็บธรรมะเว็บหนึ่ง...ทุกคนให้คำแนะนำว่า "อย่าคาดหวัง อย่ายึดติด ปล่อยวาง และทำตัวเองให้ดีก่อน ให้แก้ที่ตัวเองก่อน " อืม! มีเหตุผล ..ก็เอามาคิดเอ่อใช่ เราก็ไม่ได้ดีอะไร ข้อเสียของเขาเราไม่ชอบ แล้วข้อเสียของเราละเพื่อนเขาก็คงไม่ชอบเหมือนกันแหละ...คิดได้แต่ก็ไม่หายเครียดยังมั่นไส้เพื่อนอยู่นิดๆเอาเรื่องของเพื่อนคนนี้ไปนินทาให้เพื่อนอีกคนฟัง....เปนคนชอบอ่านหนังสือ..มีหนังสือธรรมมะวางอยู่เอามาอ่านเล่นๆ เรื่องพรหมวิหาร4...อ่านแล้วคิดได้...แค่นั้นก็รู้สึก เบากายเบาใจ มีความสุขมากไม่รู้จะอธิบายยังไง..ไปใหนก็ยิ้ม..อะไรกันเนี๊ยะ...พรหมวิหาร 4 ทำให้มีความสุขได้ขนาดนี้เลยเหรอ..สุขจิงๆแต่เปนอย่างนั้นแค่วันเดียว ลองเปลี่ยนตัวเองลองมาถือศีล5ก่อน นานวันชักรู้สึกตัวเองเปนนางมารร้ายขึ้นทุกวันจิตมีแต่อกุศล เพื่อนทางinternetส่งการ์ตูนเรื่องพระพุทธเจ้ามาให้ดูพร้อมซีดีสติปัฏฐาน ดูการตูนซึ้งจนร้องให้ (อะไรกันฉันอ่อนไหวง่ายขนาดนี้เลยเหรอ)ลองนั่งสมาธิอีกได้สักอาทิตย์หนึ่งเกิดอาการปะหลาดไม่เคยเจอมาก่อน เอาหนังสือมาอ่านเรื่องปฐมฌาน อ้าว!อาการเหมือนเลย(555ฉันนะเหรอเข้าฌานเปนไม่ใช่มั่ง) แถมคิดแต่เรื่องพระพุทธเจ้ามั่งหลักธรรมมั่ง แถบจะทุกเวลา แม้นั่งซักผ้าก็คิด ฟุ้งซ่านเรื่องธรรมมะ จนต้องเอามือทุบหัวบอกตัวเองว่าเลิกคิดได้แล้ว เอาเพลงร๊อคมาฟังเพื่อปรับอารมณ์ คิดว่าตัวเองบ้าคิดจะไปหาจิตแพทย์หลายหน..สับสนสุดๆ..ตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองเปนอะไร เข้าสู่ภาวะปกติและศึกษามาเรื่อยๆ จนเดี๋ยวนี้ เอวัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2010
  3. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ก้าวมาสู่จุดนี้ได้อย่างไร..........

    โดยการเดินทาง
    ทีละก้าวๆ

    "ขยันก็ให้ทำ ขี้เกียจก็ให้ทำ วันไหนกินข้าวอยู่ก็ยังต้องทำ
    วันไหนเลิกกินข้าวนั่นแหละค่อยเลิกทำ...."


     
  4. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    เอาตอนนี้ก่อนนะครับ ตอนนี้เบื่อๆเซ็งๆแล้ว ไม่ค่อยอยากถามอะไรอีกแล้ว อยากแบ่งปันมากกว่า ตอนเด็กๆคุรพ่อกับคุรแม่เล่าเรื่องโลกพระศรีอริยะเมตไตรย์ให้ฟัง และสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ เรื่องกรรมดีกรรมชั่ว เรื่องนรกสวรรค์ เป้นต้น เพราะคุรพ่อคุรแม่บวชเรียนมาก่อน พอโตมาก็ใส่บาตรก่อนไปโรงเรียนทุกวัน ตอนเรียนมหาวิทยาลัย (จบวิศวะไฟฟ้า) ก้ชอบอ่านพวกหนังสือโลกทิพย์ ชอบสนทนาธรรมกับเพื่อน ชอบศึกษาพุทธประวัติ พอเรียนจบได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อ "วิทย์" เป้นชาวนครสวรรค์ ชอบสนทนาธรรมกัน วันละ 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน และเริ่มทำสมาธิในตอนคบวิทย์นี้แหละ หลังจากนั้นตอนออกจากงานเมื่อปี 2547 กลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ได้ลงมือปฏิบัติธรรมอย่างจริงๆจังๆ มีการทำสมถะกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน และเดินจงกรมภาวนา การเดินจงกรมก้ไปเดินที่วัดในตอนกลางคืน ไปถึง 3 วัดในหมู่บ้าน ขับมอเตอร์ไซค์ไป สลับกันในแต่ละคืน ทำอย่างนี้อยู่ประมาณ 5-6 ปี ภาวนามาตลอด และช่วงนี้ก้ได้ไปคลุกคลีกับเณรที่วัดด้วย ได้ติววิชาความรู้ต่างๆให้เณร เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ พุทธประวัติ เป็นต้น และก็สนทนาธรรมกับเณร ถึง 5 ทุ่ม 6 ทุ่มก็เคย (เอาความรู้จากที่เคยอ่านพระไตรปิฎกมาบ้างแล้ว) ในปัจจุบันนี้เณรเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็สึกหมดแล้ว เรียนต่อก้มี ทำงานก้มี แต่งงานมีทายาทสืบสกุลแล้วก้มี เป็นต้น ส่วนผม ฟางว่าน ทุกวันนี้ มีแต่อยากจะแบ่งปันเท่านเอง.....
     
  5. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ผมเองเล่นpsiballอยู่ดีๆ พี่นิวรณ์มาแนะให้ดูจิต ดูการหมุน แล้วก็เห็นพี่นิวรณ์กับพี่ขันธ์เค้าเถียงกันเรื่องนั่งสมาธิกับไม่ต้องนั่ง ทีนี้สงสัยเลยอ่านหมดเลย ลองปฎิบัติหลายๆแบบ

    ทีนี้ทุกข์จรมาเยือนภาคสนาม โอ้โห โดนเบี้ยวตังค์ ทุกข์เป็นจั๋งซี้ หนักหนา
    ตอนแรกก็เหมือนจะเอาไม่อยู่เสพอารมณ์ทุกข์อยู่3วัน เข้าวันที่3 ผึ๋งออกไม่ทุกข์แล้ว
    ต่อมาโดนเบี้ยวอีกหลายครั้งทุกข์ไม่เกิดเลย ไม่หลงยึดเลย
    แต่สำหรับเรื่องอื่นยอมรับว่าก็ยังทุกข์ได้อีก แต่ถ้าเรื่องใดผ่านไปได้เบาบางจะไม่ทุกข์

    ให้กำลังใจอีกเรื่อง พวกตาทิพย์ หูทิพย์ พวกนี้สังเกตุดูครับ มักจะมีจุดแดงกลางหน้าผาก
    ผมยืนยันเลยว่า มี ผมเองก็ว่าแปลกดีเพราะผมเองก็มี นั่งสมาธิอยู่8เดือน
    ตอนแรกไม่สังเกตุ สังเกตุตอนพวกแขกเวลาเจอผมชอบโค้งตัว ชอบยิ้มทักทาย
    ไม่รู้เค้าเห็นอะไร ผมเองผมยังไม่เห็นมีไรเลย 5 5 5

    ส่วนเรื่องเห็นผีหรืออะไรนี่ ถ้าอยากรู้ก็นั่งสมาธิไปเองครับ มีกำลังใจยัง 5 5 5
     

แชร์หน้านี้

Loading...