รวบหญิงสาวค้าศพทารกดองในขวดโหล

ขออนุญาตก็อบปี้จากมติชน online

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 13:51:24 น. มติชนออนไลน์

รวบหญิงสาวค้าศพทารกดองในขวดโหล 14 ศพไว้ส่งขายต่อหลังรับซื้อจากหมอทำแท้งเถื่อน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน 2553 พันตำรวจเอกอภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 30 ถนนสรรพสิทธิ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลังจากได้รับแจ้งจากประชาชนพบศพเด็กทารกบรรจุในขวดโหลจำนวนมากในบ้านร้างไม่มีผู้อยู่อาศัย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพเด็กทารกถูกดองไว้ในขวดโหลจำนวน 14 ขวด ขวดละ 1 ศพ และใช้กล่องกระดาษบรรจุถุงน้ำเกลือของโรงพยาบาลเซ็นทรัลในตัวจังหวัดอุบลราชธานี(ปัจจุบันได้ปิดกิจการแล้ว) มีหลักฐานการเขียนบนกล่องกระดาษมีการเขียนชื่อผู้รับของ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน ภายหลังทราบว่าบ้านร้างหลังดังกล่าวเป็นของนางสุพิศ กาวัน อาศัยอยู่กับครอบครัว ส่วนห้องที่เกิดเหตุเป็นล็อคที่ 3 ไม่มีใครอาศัยอยู่ ถูกปล่อยให้ล้าง ห้องดังกล่าวเป็นของพี่สาว ซึ่งได้ย้ายออกไปอาศัยอยู่กับครอบครัว จึงปล่อยให้ล้างและไม่มีใครอาศัยอยู่กว่า 20 ปี แล้ว ส่วนตนมีอาชีพค้าขาย ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้าน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยายใบ้ได้เข้ามาเก็บของเก่าเพื่อนำไปขาย จึงทำให้พบกล้องกระดาษที่มีขวดพลาสติกบรรจุทารกดังกล่าวซ่อนอยู่บริเวณท้ายห้องแถวดังกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามนางสุพิศ ทราบว่า มีญาติทำงานในโรงพยาบาลเซ็นทรัลคือนางแน่งน้อย กาวัน เจ้าหน้าตำรวจจึงได้ติดตามตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองอุบลราชธานี ในเวลาต่อมา ซึ่งนางแน่งน้อย ยอมรับสารภาพว่าเป็นเด็กทารกที่ตนเองได้รับซื้อมาจากนางอุรา สุทธิวงษ์ เป็นหมอทำแท้งเถื่อนในราคาศพละ 1,000 บาท เพื่อนำไปขายให้กับผู้ที่ต้องการศพทารกเพื่อไปทำหวย ลูกกรอกและทำไสยศาสตร์ โดยทำมานานแล้ว เมื่อได้มาจะนำมาดองเอาไว้รอลูกค้ามารับอีกต่อหนึ่ง

ขณะที่พันตำรวจเอกอภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปจับกุมนางนางอุรา สุทธิวงษ์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 7 เดือน นางอุรา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานีจับกุมได้ขณะที่กำลังทำแท้งให้กับวัยรุ่นที่บริเวณบ้านเช่าไม่มีเลขที่หลังเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี ได้พร้อมของกลางหลายรายการรวมทั้งวัยรุ่นที่รอทำแท้งอีก 2 คนและศพทารกอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้นางอุรา ได้ประกันตัวออกมาและมายึดอาชีพทำแท้งเถื่อนอีก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวนางอุรามาลงโทษตามกฏหมายต่อไป....

: เห็นข่าวนี้แล้วเซร้าใจเนอะ!!!

 

ทำไปได้นะคนเรา

 

สงสารเด็กนะ

 

กรรมคนเราจิตใจทำด้วยอะไร หากินกับศพ

 

คิดอย่างไรใช้ชีวิตอย่างนั้น....กรรมจิงๆเลย

 

บาปสุดๆทั้งคนทำคนซื้อ ใจทำด้วยอะไร น่าสงสารทารก จะเกิดก็ไม่ได้เกิดต้องมาตายก่อนเกิด ซากศพยังต้องมากลายเป็นสินค้าอีก
ขอบุญบารมีที่สร้างมาช่วยให้ดวงวิญญาณทารกไปสู่สุคติเถิด สาธุ:'(
​

 

กรรมกำหนด เวรกรรมมีจริง ... เห้อ ..หดหู่ใจ

ขอให้ดวงวิญญาณเด็กๆจงไปสู่สุขคติด้วยเถิด.

 

ขอให้เด็กทารกไปสู่สุขติด้วยเถิด

 

ขออุทิศส่วนกุศลที่เคยทำมาให้กับเหล่าทารกนั้น ขอให้ไปสู่สุขติด้วยเถิด

 

ขอให้กุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วในวันนี้ จงไปถึงแก่วิญญาณเด็กน้อยทั้งหลายเหล่านั้นด้วยเถิด สาธุ

 

ช็อค! พบศพทารกดอง 14 ขวดซ่อนในบ้านร้าง




สยอง รับศพทารกจากหมอทำแท้ง ศพละ 1,000
จับดองใส่โหลซ่อนในบ้านร้างถึง 14 ขวด
ก่อนส่งต่อคนชอบทำหวย-ลูกกรอก-ไสยศาสตร์


(21 มิ.ย.) พ.ต.อ.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนพบศพเด็กทารกบรรจุในขวดโหลจำนวน 14 ขวด ขวดละ 1 ศพ ในบ้านร้าง เลขที่ 30 ถนนสรรพสิทธิ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านของนางสุพิศ กาวัน

จากการสอบสวน นางสุพิศ กาวัน ทราบว่า ห้องดังกล่าวเป็นของพี่สาว ซึ่งได้ย้ายออกไปอาศัยอยู่กับครอบครัว และไม่มีใครอาศัยอยู่กว่า 20 ปี และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยายใบ้ได้เข้ามาเก็บของเก่าเพื่อนำไปขายจึงทำให้พบกล่องกระดาษที่มีขวดพลาสติกบรรจุทารกซ่อนอยู่ โดยก่อนหน้านี้มีญาติทำงานในโรงพยาบาลเซ็นทรัล ชื่อนางแน่งน้อย กาวัน คาดว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง

เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวมาสอบสวน

นางแน่งน้อย กาวัน ยอมรับสารภาพว่า เด็กทารกดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งรับซื้อมาจากนางอุรา สุทธิวงษ์ เป็นหมอทำแท้งเถื่อน ราคาศพละ 1,000 บาท โดยนำไปขายให้กับผู้ที่ต้องการศพทารกไปทำหวย ลูกกรอก และทำไสยศาสตร์ ซึ่งทำมานานแล้ว หลังจากได้มาจะนำมาดองเอาไว้ เพื่อรอลูกค้ามารับอีกต่อหนึ่ง

พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนจับกุมนางนางอุรา สุทธิวงษ์ ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.อำนาจเจริญ ซึ่งก่อนหน้านี้นางอุราถูกจับกุมได้ขณะที่กำลังทำแท้งให้กับวัยรุ่น เบื้องต้นจะได้ติดตามตัวนางอุรามาลงโทษตามกฏหมายต่อไป



<LI class=provider-img>สนับสนุนเนื้อหา
ช็อค! พบศพทารกดอง 14 ขวดซ่อนในบ้านร้าง

 

ทารกดองขวดโหล ส่งขายหมอผีทำกุมารทองวิญญาณเฮี้ยน

​

​

รวบสาวใหญ่อดีตผู้ช่วยพยาบาลค้าศพทารก หลังตำรวจพบศพทารกดองในขวดโหล 14 ศพ ซุกห้องเช่ากลางเมืองอุบลฯ ให้การรับเป็นเจ้าของ ระบุได้มาจากหมอทำแท้งเถื่อน เตรียม ส่งขายให้หมอผีนำไปทำกุมารทองในราคาศพละพัน สารภาพที่ผ่านมาส่งขายไปแล้ว 11 ศพ ตำรวจเตรียมขยายผลถึงขบวนการทำแท้งเถื่อน แฉหมอทำแท้งเถื่อนรายนี้เคยถูกจับขณะลักลอบทำแท้งคาหนังคาเขา อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี เผยวิญญาณทารกสุดเฮี้ยน ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องโหยหวนทุกค่ำคืน กระทั่งรู้ที่มาถึงกับขนลุกซู่

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.อ.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผกก.สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพลเมืองดีว่า พบศพเด็กทารกดองในขวดโหลจำนวนมาก วางซ่อนอยู่ข้างบ้านเลขที่ 30 ถนนสรรพสิทธิ์ ต.ในเมืองอุบลราชธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ คำเครื่อง สารวัตรเวร และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่อง แบบ เดินทางไปตรวจสอบ

พบว่าด้านข้างบ้านเลขที่ 30 ซึ่งเป็นห้องแถวให้เช่า มีกล่องกระดาษขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่ ภายในบรรจุขวดโหลพันปิดด้วยกระดาษ จำนวน 14 อัน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดขวดโหลออกดูถึงกับผงะ เมื่อมีศพทารก เพศชายหญิงอายุในครรภ์ประมาณ 3-6 เดือนดองอยู่ขวดโหลละศพ รวมทั้งสิ้น 14 ศพ จึงสอบสวนนางสุพิศ กาวัน อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านให้การว่า จุดที่พบศพทารก อยู่หลังห้องของ นางแน่งน้อย กาวัน อายุ 58 ปี พี่สาว ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ปิดตัวไปแล้ว โดยปัจจุบันทำอพาร์ตเมนต์ และนางแน่งน้อย ยังทำหน้าที่เป็นแม่บ้านของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพทารกทั้ง 14 ศพ ส่งแผนกนิติเวช โรงพยา บาลสรรพสิทธิ์อุบลฯ เก็บรักษาไว้ พร้อมทั้งติดตามตัวนางแน่งน้อยมาสอบสวน จากการสอบสวนนางแน่งน้อยรับสารภาพว่า ศพทารกทั้งหมดเป็นของตนเอง ซึ่งได้มาจากนางอุรา สุภิวงศ์ อายุ 58 ปี เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ในสภาพสด ๆ และนำมาดองด้วยฟอร์มาลินตามใบสั่งหมอผีที่จะมารับซื้อในราคาศพละ 1,000 บาท เพื่อนำไปทำกุมารทองและประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาตนได้ทำในลักษณะเดียวกันส่งขายให้หมอผีไปแล้ว 11 ศพ ได้เงินมาแล้วกว่า 11,000 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางอุราไว้สอบสวนขยายผล

สำหรับนางอุรา สุภิวงศ์ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เคยถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 17/18 ซอยพโลชัย 9 ต.ในเมืองอุบลราชธานี พร้อมของกลางเครื่องมือทำแท้ง และซากศพทารกจากการทำแท้ง โดยขณะเข้าจับกุมพบว่ายังมีลูกค้ารอทำแท้งอีกจำนวนมาก ซึ่งคดีอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า หลังจากถูกจับกุมในข้อหาลักลอบทำแท้งเถื่อน นางอุราอาจหวนกลับมาทำแท้งเถื่อนอีก ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าตรวจสอบศพทารกดองทั้ง 14 ศพครั้งนี้ ประชาชน ที่อยู่ในละแวกดังกล่าวต่างพากันโจษขานกันถึงเสียงประหลาด ซึ่งเป็นเสียงเด็กจำนวนมากร้องไห้ในตอนค่ำคืน เหมือนเจ็บปวดและ ขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในวันพระจะ มีเสียงดังถี่ขึ้นมากกว่าวันปกติ จนชาวบ้านสงสัยพยายามหาที่มาของเสียง แต่ก็หาไม่เจอ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบศพทารกดองในขวดโหล ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันไปมุงดูและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมกับสรุปได้ทันทีถึงเสียงประหลาดในยามค่ำคืน.



วันอังคาร ที่ 22 มิถุนายน 2553
Daily News Online > หน้าอาชญากรรม > ทารกดองขวดโหล

 

ทำไปได้หนอคนเรา ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรได้ แค่เห็นก็น่ากลัวแล้ว... (สยอง)

 

บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา จงนำพาร่างศพเด็กทารกเหล่านี้ไปสู่สุขคติด้วยเทอญ

 

เวรกรรม เวรกรรม

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

เขาเรียก ว่าความชั่วที่มีวิวัฒนาการ ไม่เป็นไร ชั่วขนาดใหน ในนรกก็รับได้หมด ยิ่งปรับปรุงสายพันธ์ใหม่ ท่านยมท่านก็ทันสมัยเหมือนกันะจ๊ะ จะบอกให้ เสียดาย ๆ กว่าจะได้เกิดเป็นคน อีกที(ที่สมบูรณด้วยนะ)

 

อ่านแล้วสะเทือนใจจริงๆ ไม่ได้เกิดมาก็เศร้าอยู่แล้ว ยังมีคนทำเลวๆจะเอาพวกหนูไปทำอะไรอีก น่าสงสารจริง

 

แฝด'แจ๊ค-จิลล์' ปัดเกี่ยว คดีดองศพเด็กทำกุมารทอง



คู่แฝด "แจ๊ค-จิลล์" รับ ตร.อุบลฯ โทรศัพท์ขอข้อมูลกุมารทอง-ลูกกรอก หลังผู้ค้าซากทารกดองถูกจับ แฉมีวัยรุ่นขอออเดอร์จากตนมาก ยันไม่ได้ขาย...

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2553 คู่แฝด แจ๊ค-จักรพันธุ์ และ จิลล์-จักรพงศ์ การสมพรต อดีตนักร้องชื่อดัง ผู้เลื่อมใสกุมารทอง จนมีไว้บูชานับพันองค์ เผยต่อ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงกรณีถูกแอบอ้างชื่อจากผู้ต้องหาคดีดองศพเด็กทารกที่ถูกทำแท้ง ส่งให้หมอผีทางภาคใต้ทำกุมารทอง ของขลัง ที่ถูกจับได้ที่ จ.อุบลราชธานี อ้างว่าตัวเขามีกุมารทอง และลูกกรอกเพื่อจำหน่าย โดย จิลล์ เผยว่า ไม่เป็นความจริงตามที่กล่าวอ้าง ตนมีเพียง "กุมารทอง" ที่บูชาไว้เพื่อเป็นสิริมงคลเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเชิงธุรกิจ ขอย้ำว่าตอนนี้ตนถูกอ้างชื่อจนเสียหาย และตำรวจในท้องที่ จ.อุบลราชธานี ได้โทรศัพท์เข้ามาขอข้อมูลจากตน

จิลล์ กล่าวว่า เมื่อวันก่อนหลังจากมีข่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถาม ขอข้อมูลจากตน ซึ่งตนก็ให้ข่าวตามที่รู้ และไม่เคยจัดหา หรือแสวงหา และวันก่อนก็ได้มีโทรศัพท์มาหาตน เพื่อขอซื้อกุมารทอง และลูกกรอกเช่นกัน ซึ่งตนเองได้ปฏิเสธ และอธิบายไปว่าตนเองไม่ได้ขายกุมารทอง

"เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่างเกี่ยวกับทารกเด็ก และการทำลูกกรอกบ้าง ก็ได้ให้ข้อมูลตำรวจไป เพราะทุกวันนี้กระแสลูกกรอก-กุมารทองมาแรงมาก มีการออเดอร์เยอะ และบางทีก็นำออกขายไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย วันก่อนก็มีโทรศัพท์มาหาถามว่าจะขอซื้อ อยากเลี้ยงเพราะอ่านจากสื่อว่าเลี้ยงแล้วดี ผมก็บอกว่าไม่มี ผมไม่ได้จำหน่าย คือทุกวันนี้มีการกระจายข่าวหรือเชื่อกันว่าผมมีจำหน่าย หรือหากเป็นกุมารทองของผมจะดี จริงๆ ไม่ใช่เลย ผมก็มีไว้บูชาเองเป็นเพียงกุมารทองเท่านั้น ไม่ได้จำหน่าย อย่าไปหลงเชื่อ และผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจแบบนั้น ผมมีสะสมส่วนตัวเพื่อเป็นสิริมงคลเท่านั้น".


<LABEL>ไทยรัฐออนไลน์</LABEL>

<SMALL>วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2553</SMALL>
แฝด'แจ๊ค-จิลล์' ปัดเกี่ยว คดีดองศพเด็กทำกุมารทอง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์