มาดูสมเด็จกัน

คุณwsb.xlman และเพื่อนๆปูนเปลือกหอยใช้เป็นแบบนี้ใหมครับ?

 

รบกวนหน่อยครับ แบบนี้พิมพ์อะไร ไม่ค่อยรู้ครับ เห็นกระทู้ดี

 

เรียนคุณ wasabi san ในส่วนของผมที่ถามไป อยากทราบข้อคิดเห็นของคุณว่า แตกต่างกันอย่างไรกับคุณ xlmen หรือเห็นด้วยเหมือนกันอย่างไรครับ และขึ้นคอได้ไหม ทันยุคท่านหรือเปล่า ขอบคุณมากครับ

 

ขอด้วยครับ

พระองค์ที่ผมถามด้วยครับ อยู่ในกระทู้ที่ 1749 ถ้าคุณ wasabi คิดว่าไม่ทัน ช่วยกรุณาบอกด้วยว่า ล้อพิมพ์อะไร เช่นพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เจดีย์ ขอบคุณมากครับ

 

พระของคุณพ่อเลี้ยงองค์นี้เป็นอีกองค์หนึ่งที่เนื้อจัดแก่ปูนเปลือกหอย หนึก นุ่ม ซึ้งตา ดูง่ายมากๆ เลยครับ....

ที่สำคัญคือเป็นเนื้อของวัดระฆังที่ผ่านการปิดทอง ลงรัก ร่องชาดมาด้วย...
นับว่าเป็นพระแท้...เป็นพิมพ์ที่วงการยังไม่ยอมรับ...แต่โดนใจผมอย่างมากครับ...

ในรูป มีสิ่งที่บ่งชี้ว่าองค์นี้เคยลงทองมาก่อน และผ่านการล้างมาอย่างหนักมากครับ....

เมื่อพิจารณาถึงเนื้อแล้วเป็นเนื้อปูนเปลือกหอยเก่ามาก มีรัศมีสีรุ้งในเนื้อพระ ผงเกสรมีครบ ผงดำมี...การหลุดร่อนของเกสรมี...

ผิวพระแตกลายงาเกิดจากเป็นพระลงรักมาก่อนมิได้แตกลายงาที่เกิดจากน้ำอ้อยเคี่ยว...

พิจารณาตัวประสานองค์นี้ใช้ข้าว + กล้วย เป็นตัวประสานเนื้อ
เมื่อกล้วยเกิดการหดตัวเพราะถูกรักห่อหุ้มไว้จึงเกิดรอยหดเหี่ยวดังรูปครับ....

เมื่อพิจารณาที่ด้านหลังพระพบว่า....มีคราบที่เกิดจากน้ำยารักน้ำเกลี้ยงทำปฎิกริยากับผิวพระเกิดเป็นสีน้ำตาลอ่อน ดูเผินๆ จะคล้ายน้ำมันตั่งอิ๋ว....แต่ไม่ใช่

มองทีแรกผมเกือบคิดว่าเป็นน้ำอ้อยเคี่ยวแต่แตกต่างกันตรงที่น้ำอ้อยเคี่ยวจะต้องออกน้ำตาลอมดำ....

สรุป พระของคุณพ่อเลี้ยงองค์นี้ถือว่าสุดยอดมากครับ....โดนใจผมอย่างแรงขอรับ หุหุหุ

 

ยังไม่ใช่ปูนเปลือกหอยครับ....

 

พิมพ์สังฆาฎิ หูบายศรี หรือบางทีก็เรียก "หูช้าง" ก็มีครับ....

 

พอจะมีตัวอย่างให้เปรียบเทียบใหม ต้องการความชัดเจน..ถ้าแบบนี้ไม่ใช่แล้วแบบใหนอธิบายนิดหนึ่ง

 

<SCRIPT id=id_predict_include_script type=text/javascript src="http://cdn1.predictad.com/scripts/publishers/sweetim/predictadme.js"></SCRIPT>

ลองเทียบเคียงดูครับ....

 

องค์นี้ผมเคยนำมาลงแล้ว....ลองดูกันอีกครั้งละกันครับ
<SCRIPT id=id_predict_include_script type=text/javascript src="http://cdn1.predictad.com/scripts/publishers/sweetim/predictadme.js"></SCRIPT>

 

อืมมม ส่วนใหญ่ประกายก็ปรากฎตรงที่ เนื้อใสๆนะครับ เป็นเทคนิคในการดูของแต่ละท่าน

 

ผมลองเปรียบเทียบจากสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่ ว่าหาความแตกต่างจากรูป
ปูนเปลือกหอยบดคือมวลสารที่เห็นชัดมากที่สุด มีแต่สีขาวขุ่นๆละเอียดหยาบผสมกัน..ถามว่าสมเด็จแท้ๆ๑๐๐องค์จะมีออกสีรุ้งหรือเปล่า...อันนี้จะเป็นปัญหาต่อไป
"มีแท้ไม่มีเลียนแบบ"

 

ผมว่าอาจจะเป็นเพราะการถ่ายภาพก็ส่วนหนึ่งนะครับ ส่วนใหญ่ภาพพระในหนังสือ ส่วนใหญ่ set ไฟแรงๆ จ่อๆ

แต่ที่เราเห็นชัดเจนเป็นประกายรุ้งนั้น เกิดจากการใช้ Flash ยิงใส่องค์พระ เนื่องจากแสงจากแฟรชเนี่ยมีความแรงค่อนข้างสูง และแม้ว่าจะชั่วเวลานิดเดียว แต่การจับภาพของกล้องนั้นก็ไวกว่าที่ตาจะแยกได้เช่นกัน

เหมือนกับการส่องเอียงๆทำมุม หรือส่องเพชรละมั๊งครับ ดูประกาย

ปกติแสงขาว เป็นแสงที่มี 7 สีรุ้งอยู่แล้ว ที่นี้ปูนเปลือกหอยส่วนที่ใสๆนี่ อาจจะยอมให้แสงผ่านได้บางส่วน และบางส่วนก็สะท้อนกลับหมด จึงทำให้เป็นสีรุ้ง เหมือนเราทดลองแบบเอาแสงผ่านปริซึม รึเปล่าครับ ตามที่ผมเข้าใจ

ส่วนที่ว่าภาพถ่ายแบบใช้ไฟจ่อๆ แรง แบบที่ set ฉากถ่ายนั้นแสงที่ลงมาอย่างต่อเนื่องคงจะกลบประกายรุ้งไป เดี๋ยววันนี้ผมเลิกงานแล้วกลับไปลอง set ไฟแล้วพลิกๆพระดูดีกว่า องค์ที่พี่ XL ว่าเป็นปูนเปลือกหอย ว่าจะประกายมั๊ย ^^

คุณ keepwork ลองถ่ายแบบยิง flash ใส่ดูบ้างไหมครับ ผมก็อยากทราบเช่นกัน

 

ใช่หรือไม่????
ภาพแรก(กลางภาพ) เป็นรอยยุบ ยุบจากข้างในพระ เหมือนแผ่นดินทรุด ผิวยุบ ออกเป็นชั้นๆเป็นแอ่ง

ภาพที่สอง(บริเวณกลางภาพ) เป็นรอยหนอนด้น แสดงลักษณะ ที่มวลสาร สลายหรือ หลุดออก ลักษณะเป็นเหมือนตัวหนอน และลอยปูไต่ มักจะเป็นทางยาวๆ และเป็นรอยคู่ ลักษณะเหมือนรอยปู บนชายหาด


แนะนำ ติชม วิจารณ์ เต็มที่เลยครับ
มือใหม่ครับ ผิดพลาดประการ ชี้แนะด้วยครับ

 

ขออนุญาติท่าน wasabi san เจ้าของกระทู้หน่อยครับ จากการที่คุณ xlmen กล่าวว่าพระสมเด็จแท้นั้นถ้าไม่มีปูนเปลือกหอย (เล่นแสงสะท้อนออกเป็นสีรุ้ง )ถือว่าเก๊ ผมว่าไม่ควรชี้ชัดเกินไป เนื่องจากว่ามวลสารที่ผสมลงไป ใช่ว่าจะสามารถมองเห็นได้ง่ายทั่วไปตามองค์พระ หากแต่จะปรากฏเป็นจุดๆ เพราะอาจถูกกลบบังด้วยส่วนผสม และมวลสารอื่นๆ
ถ้าบอกว่าทั้งองค์มีส่วนประกอบปูนเปลือกหอย เป็นส่วนมากละก็ ผมไม่เชื่อ แต่ถ้าบอกว่าเป็นส่วนผสมบางส่วน จนทำให้เนื้อองค์พระมีแสงประกายรุ้งบางจุดละก็ใช่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทรายเงิน ทรายทอง กับจุดเงาประกายรุ้ง ผมคิดว่าเป็นคนละมวลสาร ไม่น่าใช่มวลสารเดียวกัน จุดเงาสีรุ้งนั้นบางท่านเรียกว่าปูนเพชรครับ
ที่คุณ xlmen บอกเรื่องปูนเปลือกหอย ผมเชื่อนะ แต่เป็นแบบปูนเปลือกหอยดิบ หรือสุกหล่ะครับ ลองคิดดูนะครับ เราเอาเปลือกหอยมาเผาอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เช่น
1. ปูนสุก แต่สุกเป็นลักษณะแบบไหน เนื้อฟูใช่ไหม หรือเนื้อจับตัวเป็นก้อน เป็นเม็ดๆหล่ะ ฯ
2. ปูนไหม้ดำไหม และจะแยกปูนสีดำอย่างไร ผมว่าไม่ง่ายนะ ( ถ้าไหม้แล้วดำ )
3. ปูนสุกแล้วออกเป็นสีอะไรบ้าง ดำ เหลือง ขาว แดง ชมพู ฯ
เพียงแค่บอกว่าพระสมเด็จต้องมีปูนเปลือกหอยเป็นส่วนผสมนั้น ยังไม่ใช่คำตอบที่ชัดเจนครับ ต้องบอกด้วยว่ามี่ส่วนผสมทั้งปูนดิบ และสุกด้วย และที่คุณ xlmen กล่าวว่าปูนเปลือกหอยต้องมีแสงรุ้งนั้น ผมเชื่อนะ แต่ผมจะขยายความว่า ที่สะท้อนแสงสีรุ้งนั้น มาจากปูนเปลือกหอยดิบครับไม่ใช่แบบสุกเผาแล้วหรือเปล่า ส่วนปูนหอยสุกแล้วจะออกสีขาวอมเหลืองเนื้อฟูด้วย เหมือนสีนมหรือเปล่า ( อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะ ) ขอขยายความให้สังเกตุว่าทำไมสะท้อนเป็นสีรุ้งได้ ใครเคยกินหอยก็ต้องรู้ว่าพื้นฝาในของเปลือกหอย จะเงาๆ นั่นแหละที่ทำให้ผมคิดว่าผงมวลสารที่สะท้อนแสงรุ้งออกมาจากจุดนี้เอง

สรุปดีกว่า เป้าหมายผมอยากออกความเห็นว่า การชี้ชัดว่าพระสมเด็จต้องมีปูนเปลือกหอยผสมด้วยนั้น ผมยังไม่ค่อยเห็นด้วย กล่าวคือ
1. ปูนเปลือกหอยคงมีไม่มาก ที่สมเด็จท่านจะสร้างพระให้มีปูนเปลือกหอยในอัตราส่วนเสมอกัน จนสามารถมองเห็นได้ง่ายทั่วองค์พระ และทุกองค์ที่ทันยุคท่าน
2. อัตราส่วนการผสมมวลสารต่างๆ แน่นอนว่าไม่ใช่มาตราฐานเดียวกันแน่นอน ที่ท่านจะชั่งตวงวัดเหมือนสมัยนี้ เช่น แก่น้ำมันตังอิ๊ว อ่อนน้ำอ้อย(ทั้งเคี่ยว และไม่เคี่ยว) อ่อนแก่ ปูน อ่อนแก่มวลสารอื่น ฯ
3. ความละเอียดและหยาบ ของมวลสารแต่ละชนิดที่บดตำ เช่น พิมพ์ โกเด เนื้อครูเอื้อ เนื้อกล้วย เนื้อขาว เนื้อขาวอมเหลือง สีนมข้น เนื้อก้านมะลิ แก่มวลสารเม็ดกล้วย เกสรบ้าง พระธาตุสีต่างๆ พระชำรุด พลอย หยก ผงโลหะ เงิน ทอง นาค แม้แต่โลหะมงคล ฯ
4. ของเหลวที่เป็นส่วนช่วยประสาน และทาผิวป้องกันผิวพระ น้ำมันตังอ๊ว น้ำอ้อย น้ำว่านต่างๆ ฯ น้ำยาเคลือบผิว รักจีน น้ำยาเทือก ชาด รักน้ำเกลี้ยง แป้ง สีจีน ฯ
เพราะฉนั้นในความคิดส่วนตัวของผมนะ อาจผิดก็ได้ และเป็นเพียงแนวความเป็นไปได้ ที่คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า เหมือนกับที่เราไปยึดติดกับพิมพ์เซียน ที่เขาปั่นกัน เพราะฉนั้นผมจึงคิดว่า ถ้าพระสมเด็จที่ทันท่าน ต้องปูนเปลือกหอย และเล่นแสงสะท้อนสีรุ้ง เป็นเหมือนกับการบีบให้เป็นวงนิยม เหมือนเซียนขีดวงแบบพิมพ์นี้เท่านั้น ผิดจากนี้ตีเก๊ ผมว่าไม่น่าเก๊นะ ดังตามที่ผมกล่าวมา ขอบคุณ คุณqwasabi san ท่านเจ้าของกระทู้ และคุณ xlmen ที่ให้ข้อคิดเห็นวิจารณ์ ผมไม่ได้มาขัดแย้ง แต่อยากบอกความคิดเห็นส่วนว่า มีความเป็นไปได้เท่าไร และจะทำให้เพื่อนสมาชิกที่มีพระสมเด็จ ผิดพิมพ์เซียน หรือผิดเนื้อมวลสารว่า บางที่ไม่เก๊นะ หากแต่อยู่ที่จิดใจเราด้วยว่าเราชอบพระสมเด็จท่านเพราะอะไร ???? ชอบเพื่อให้ตรงกับค่านิยมตลาด ทั้งพิมพ์ทรง หรือเนื้อหามวลสาร หรือเคารพบูชาท่าน ถ้าถามผมว่าแล้วจะดูอย่างไรว่า พระของเราไม่ใช่พิมพ์นิยม ไม่ใช่เนื้อหามวลสารนิยม แล้วจึงเป็นพระแท้ หุหุหุ ของผมเองยังต้องมาพึ่งคุณ wasabi san กับคุณ xlmen เลยอ่ะนะ อิอิ
แต่ถ้าถามในแนวผมหล่ะก็ เนื้อต้องเก่า เนื้อแลดูมีมิติ เนื้อเป็นชั้นใส รอยย่นยับ หลุมโลกพระจันทร์ ปูไต่ ฯ (การตัดขอบ แต่ไม่เสมอไปนะเพราะหลายคนตัด) เหมียนกับที่อ่านๆมาอ่ะนะ ส่วนพิมพ์นิยม เนื้อนิยม เรียนตามตรง ไม่เคยใส่ใจ เพราะไม่ได้หาพระสมเด็จมาเพื่อ....... เพียงแต่ขอให้ทันท่าน จะยุคต้น ยุคกลาง ยุคปลาย จะช่างหลวง ช่างชาวบ้าน ก็บูชาครับ

ว่าแต่คุณ wasabi san ครับ ผมยังรอคำตอบการวิจารณ์ของคุณ เรื่ององค์พระที่ผมถามมานะ (องค์ล้างด้านหน้า ขาว แต่หลังเหลือง)อิอิ

 

วันนี้ฝนตก..ผมคิดถึงหนังเรื่องหนึ่ง "The crow" พูดว่า"ฝนไม่ตกทุกวันหรอก"อนาคตอาจจะไม่ตกลงสักวันก็ใด้ k.wsb.xlmanเพื่อนๆ ช่วยพิจารณาสมเด็จให้หน่อยครับ องค์แรกผมไม่แน่ใจว่าเป็นวัดระฆัง,บางขุนพรหมหรือพระสองคลอง องค์ที่สองเป็นวัดระฆังพอจะทันยุคหรือเปล่า..เท็จจริงเป็นเช่นไรครับ....ขอบคุณครับ

 

ผมพยายามส่งแต่ไม่ผ่าน ลองส่งใหม่

ผมนึกแล้วว่า ประเด็นปูนเปลือกหอยต้องยาวแน่ มาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร

คลายปมปูนเปลือกหอย

สีรุ้งที่เห็น คือ การสะท้อนของแสง และการปรับแต่งภาพที่ไม่ถูกต้อง






พระสมเด็จที่เห็น ผมดูจากมวลสาร ผมว่าดูดี เพียงแต่องค์นี้ทาน้ำเทียนชัยเคลือบผิวเอาไว้ จึงทำให้ยิ่งดูยาก สมว่าถ้ามวลสารนี้น่าจะใช่ของสมเด็จโตฯครับ เพียงแต่สภาพดูใหม่เท่านั้น แต่มวลสารไม่ใหม่อย่างที่เราเห็น


องค์นี้ เป็นพระสมเด็จพิมพ์เจดีย์ มวลสารดีอีกองค์ เป็นปูนเปลือกหอยผสมปูนเพชร 100% สภาพปูนนั่ยหรือเรียกปูนตาย ผิวเงา วรรณะชมพู ดูไม่ยาก

 

ว่าด้วยเรื่องปูน เนี่ย ปูนเปลือกหอยโดยมากเขาจะใช้หอยแครง

หรือหอยตลับ เช่นพวกหอยลาย 9ล9 ซึ่งก็มีหอยที่เป็นสีขาวด้วย



ทำโดยมีสูตรการทำหลักๆดังนี้ครับ

วิธีที่ ๑
นำเปลือกหอยแครงไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปใส่ในหม้อดิน ตั้งไฟจนให้เปลือกหอยแครงสุกจนกรอบ แล้วนำน้ำราดให้หายร้อน จากนั้นเปลือกหอยจะละลายกลายเป็นปูนขาว

วิธีที่ ๒
นำเปลือกหอยแครงไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปเผาในเตาถ่าน ให้เปลือกหอยแครงสุกจนขาว จากนั้นนำเปลือกหอยแครงที่สุกแล้วไปล้างน้ำ นำใส่ในถ้วยกระเบื้อง ใส่น้ำพอท่วมปิดปากถ้วยด้วยใบตอง ทิ้งไว้ประมาณ ๑-๒ ชั่วโมง

ประโยชน์
๑. ใช้เป็นปูนกินกับหมาก
๒. ใช้ทำน้ำปูนใสเพื่อแช่มัน หรือฟักทอง ฯลฯ ให้แข็งก่อนนำไปทำของหวาน
๓. ใช้น้ำปูนใสล้างเหล็กหรือโลหะเพื่อป้องกันการเกิดสนิม

คงไม่มีวิธีใดที่ปูนจะไหม้หรอกกระมังครับ และคงจะเป็นแบบแผน เป็นสูตรที่ค่อนข้างตายตัว ว่าเจ้าปูนนี่ เมื่อผสมลงไป และเก่าถึงอายุ จะมีลักษณะเฉพาะขอรับ

ส่วนเรื่องการสะท้อนแสง กระผมได้ให้ความเห็นไปแล้ว เท่าที่ความรู้ผมมีและน่าจะเป็นไปได้ เรื่องส่วนใสที่ว่าจับบนผิวพระและเราเห็นเป็นแสงสะท้อน อาจเกิดจากปูนที่ผสมกับมวลสารบางอย่าง ???

ตอนนี้ยังคิดไม่ออกละครับว่าคืออะไร เพราะพระสมเด็จยุคแรก ปูนเปลือกหอยนั้น อาจจะไม่ได้ผสมน้ำมันตังอิ๋ว (แต่ผสมอย่างอื่น) เนื้ออาจจะออกฟู หรือร่วนก็เป็นได้ เราจึงพบเห็นการฟูของเนื้อปูน แต่ไม่เห็นส่วนใสเคลือบแบบตกผลึกผุดออกมาเป็นชั้นๆ การสะท้อนแสงก็อาจจะน้อยกว่า

เอ่อ ..... ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะครับ ตอนนี้กำลังพยายามแยกแยะอยู่ครับ - -'

ขอบพระคุณทุกความรู้ ความคิดเห็นครับ และขออภัยหากความเห็นผมมันไม่เข้าท่าครับ แหะ แหะ

 

องค์นี้ พระสมเด็จแท้ๆ เนื้อเดิมๆ ลงรักสมุก เนื้อนี้เป็นปูนเปลือกหอย ผสมมวลสารของสมเด็จโตฯ ไม่ผิดแน่ เพราะผมมีเนื้อนี้ ขอคุยหน่อย

 

องค์นี้ สวยได้ใจ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆฏิมีหู เก็บให้ได้อย่างนี้ซิ