"ทรัพยากรของประเทศไทยในอนาคตกาล"

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 6 กันยายน 2005.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019


    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #000000 1px solid; BORDER-TOP: #000000 1px solid; MARGIN-TOP: 30px; MARGIN-BOTTOM: 30px; BORDER-LEFT: #000000 1px solid; BORDER-BOTTOM: #000000 1px solid; BACKGROUND-COLOR: #000000" cellSpacing=2 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​


    ลูกศิษย์ถาม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง "ทรัพยากรของประเทศไทยในอนาคตกาล"
    (เล่าเมื่อ 18 มิถุนายน 2517)


    พระผู้ใหญ่มาเล่าเรื่อง ทรัพยากรของประเทศไทย แล้วหลวงพ่อบันทึกเทป เล่าถ่ายทอดตามคำบอกไว้ จะคัดมาแต่เฉพาะใจความสำคัญดังนี้

    " น้ำมันส่วนใหญ่ของประเทศ จุดใหญ่จริงๆ ที่ฝรั่งก็เคยคิดพิสูจน์นั้นมีอยู่ ในผืนแผ่นดิน ตั้งแต่... ผ่าน... และ วกไปทาง... เป็นโค้งมีรัศมีไกลจนถึงเขต... สายนี้เป็นสายที่มีส่วนลึกมาก มีปริมาณสูง ถ้าจะใช้จริงๆ เฉพาะสายนี้ใช้เลี้ยงทั้งโลกประมาณ 4,000 ปี ความสูญเสียของน้ำมันในบ่อนี้ ยังลดไป ไม่ถึง 1 ใน 10 จัด ว่า เป็นสายที่ยาวและใหญ่มากที่สุดในโลก ปริมาณเปรียบเทียบกับตะวันออกกลางแล้วยังมากกว่า

    บริเวณ... จะมีแร่สำคัญ ที่มีรังสีร้ายแรง ใช้ได้ทั้งทางทำลาย และทางสันติภาพมากมาย ที่เราเรียกกันว่า แร่ใส แต่แร่นี้ ถ้าจะค้นได้ ก็ต้องหลังจาก ค้นหาน้ำมันได้ก่อน เพราะว่า ทางนี้ยังไม่มีใครสนใจการใช้แร่นี้ และวิธีที่จะนำมาใช้เป็นประโยชน์ ก็ใช้กรรมวิธีคล้ายคลึงกันกับ แร่ยูเรเนียม แต่ว่า วิธีต่างกันเล็กน้อย แร่นี้มีมูลค่ามาก จะเป็นทรัพยากรของประเทศ

    ต่อจากนี้ไปขอพูดถึงทรัพยากรที่เป็นทองคำ ทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำนี้ มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนที่คนโบราณรวบรวมเป็นแท่งไว้แล้วก็มี สำหรับทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำนี้ จะหาจุดให้ใหม่ตามแผนที่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกาลเวลา

    สรุปแล้ว ทรัพยากรส่วนน้ำมันก็ดี ทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำก็ดี ทรัพยากรส่วนที่เป็นแร่ใสก็ดี ทั้งสามนี้ น้ำมันเป็นตัวชูโรง และเป็นทรัพยากรที่หาได้ก่อน ทั้งนี้ เพราะว่า คนต้องการน้ำมันก่อน ทรัพยากรที่จะปรากฏทีหลัง คือ ทองคำ ทองคำนี้มีจุดตั้งแต่เหนือถึงใต้ แต่ก็เป็นส่วนที่มีความลึกมาก คนที่สนใจมีน้อย เพราะนึกว่าทองคำไม่มี แต่เมื่อได้น้ำมันแล้วก็ไม่เป็นไร ทรัพยากรส่วนที่เป็นทองคำ ต้องใช้แรงงานสูง เพราะว่า บางจุดเดินเข้าไปอยู่ใต้ภูเขาเสียมาก ส่วนที่อยู่บนพื้นราบก็อยู่ไม่สู้ไกลจากภูเขา ถ้าจะบุกเบิกตามวิธีการที่เราใช้กันในสมัยปัจจุบัน คือ ใช้น้ำฉีด หรือขุดด้วยเรือ ก็รู้สึกว่าจะได้ผลไม่มากนัก ทองคำบางส่วน ก็ปนอยู่กับแหล่ง วูลแฟรม แต่อยู่ลึกกว่า ถ้าอาศัยการค้นคว้าด้วยดาวเทียม ก็รู้สึกว่า จุดที่จะแสดงให้เห็นได้ง่าย เวลานี้ฝรั่งมีความรู้ในการค้นคว้าด้านนี้ใกล้ความเป็นจริงมาก

    รวมความว่า ทรัพยากรของประเทศ จะเข้าถึงเวลามั่งคั่งสมบูรณ์จริงๆ รวมทั้งน้ำมันที่เป็นทรัพยากรที่จะหาได้ก่อนเพื่อน ก็รู้สึกว่า ใช้เวลาไม่มากนัก เลขที่จะพึงใช้ไม่ถึง 2 ตัว คือ หมายถึงเวลาที่จะค้นคว้าน้ำมัน ที่ปริมาณ 1 ใน 10 ของทรัพยากรที่จะค้นคว้าได้ ส่วนน้ำมันปริมาณสูงในเขตของไทยก็อยู่ในเกณฑ์ 17 ปี ขึ้นไป นี่คือน้ำมันที่จะเป็นที่พอใจที่ใช้กันไม่รู้จักหมด

    ต่อจากนี้ไป มาว่ากันถึง แร่ใส เท่าที่เห็นเวลานี้ก็มีความลึกสักหน่อย ต่อไปเมื่อถึงเวลาอันสมควร เรากล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์ 20 ปี ไม่ถึง 30 ปี แร่นี้จะมีความอ้วนขึ้น หนาตัวขึ้น อีกอย่างหนึ่งจะพูดว่า เป็นเพราะการ ดูดน้ำมันมากๆ หรือ จะพูดว่า แผ่นดินยุบลงไป หรือจะพูดว่า แร่ลอยขึ้นมา ก็ไม่ถูกส่วน ที่ถูกควรจะพูดว่า แร่เลื่อนขึ้นมา เนื่องจาก การเคลื่อนไหวของแผ่นดิน ทำให้ใกล้หน้าพื้นดินมากขึ้นในระยะ 20 ถึง 30 ปี ข้างหน้า ผิวของแร่จะอยู่บนดิน
    แร่ใสนี้เทียบปริมาณกับแร่อื่นแล้ว นับว่าไม่มากนัก แต่ถ้าขุดนำมาใช้ประโยชน์แล้ว ใช้ไปเจ็ด-แปดร้อยปี ก็ยังหมดไปไม่ถึง 30 หรือ 31 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณแร่ที่มีอยู่ เพราะต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย แร่อันนี้จะสร้างเงินตรา และทรัพยากร หรือทรัพย์สิน ให้เกิดความมั่งคั่งมาก

    เรามาพูดกัน ถึงน้ำมันดีกว่า แร่ใสก็ดี แร่ทองคำก็ดี จะมีได้ต้องใช้เวลานาน ส่วนน้ำมันเวลานี้ ทั้งคนไทย และฝรั่งเหยียบกันไป เหยียบกันมา ในกาลต่อไป ทรัพยากรส่วนนี้ จะเป็นทรัพยากรใหญ่ สร้างผลกำไรให้ แก่ประเทศมหาศาล ฉันกำหนดให้ใช้เวลาสูงสุดไม่เกิน 32 ปี แต่อาจจะค้นคว้าได้ในระยะเร็วเท่าใดก็ได้ สุดแล้วแต่ปัญญาของคน แค่น้ำมันอย่างเดียวก็เหลือกินเหลือใช้
    แต่ว่า ความพอใจของมนุษย์ มันไม่สิ้นสุดลง แค่จะพึงหาทรัพยากรได้เพียงเท่านั้น เมื่อมีทุนมากความดิ้นรนก็มาก เมื่อมีกำลังมากก็ต้องการใช้แรงงานให้มาก เมื่อความอยากมีมาก ความขยันหมั่นเพียรก็มาก ความแก่ของคนไม่มี ความเหน็ดเหนื่อยของคนไม่มี เพราะความอยากเป็นสำคัญ การค้นคว้าจะค่อยทำค่อยไป การหาจุดต่างๆ ฉันจะยังไม่บอกละเอียด ถึงแม้จะบอกไปก็ไม่มีประโยชน์ มันจะเป็นโทษ สำหรับกำลังใจ เพราะทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกาลเวลาเป็นสำคัญ

    คำว่า "กาลเวลา" ก็หมายถึงว่า บุญญาธิการของคน ทรัพยากรต่าง ๆ ที่จะเข้าหาจุดพบ ก็ต้องอาศัยบุญของคน ประสมประสานกันกับวิชาความรู้
    ในเมื่อกรรมที่เป็นอกุศล ยังหยั่งลงสู่จิตของบุคคลผู้บริหารประเทศ หรือมีส่วนในการบริหารประเทศยังมีมากเพียงใด โมหะที่ทำให้ใจบอด ก็ยังจะปรากฏทำให้ลบเลือนปิดบัง ทำให้ค้นพบทรัพยากรนั้นโดยยาก
    ถึงแม้ฝรั่งผู้ค้นคว้าเองก็ตาม ถ้ายังหวังเอาเปรียบแก่เจ้าของประเทศมากอยู่ โดยมีปริมาณที่ต้องการเอาเปรียบตั้งแต่ 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป การค้นคว้าทรัพยากรในประเทศ ก็จะเป็นไปด้วยความยาก
    แต่ถ้าคนในประเทศ คือ ฝ่ายบริหารและบุคคลผู้รับช่วง เป็นไท ก็อาจค้นหาทรัพยากรนั้น ง่ายขึ้น คำว่า "ไท" หมายถึงว่าจิตใจที่เต็มไปด้วยอิสรภาพ

    ไม่เป็นทาสของความโลภ
    ไม่เป็นทาสของความเห็นแก่ตัว
    ไม่เป็นทาสของความอยากใหญ่

    ที่มีกำลังใจ ต้องการให้ประเทศชาติเจริญ ไม่ขายประเทศ เพราะว่า ได้ทรัพยากรมาแล้วจะหวังประโยชน์ส่วนตัว คือ เปอร์เซ็นต์ส่วนตัวมากเกินไป หมายความว่า แทนที่บุคคลผู้ ค้นพบจะต้องจ่ายเงินให้แก่ ประเทศชาติมาก คนประเภทนี้ ก็ตัดรายรับของประเทศลง มีความประสงค์ เพียงรางวัลของตัว ประเทศชาติจะได้รับประโยชน์น้อยไป ถ้ายังมีบุคคลที่มีความคิดตามที่กล่าวมานี้ อยู่ในส่วนการบริหารประเทศ ตั้งแต่เป็นรัฐบาล ลงมาถึงข้าราชการชั้นผู้น้อย คำว่า "น้อย" ในที่นี้ก็ไม่น้อยมาก หมายถึง อันดับผู้มีวาสนาบารมี อยู่ในเกณฑ์ปานกลางหรือสูง ทรัพยากรหรือก็พอจะหลบหน้าคุณอยู่ได้ เพราะกำลังใจของบุคคลประเภทนี้ยังมีโมหะ แต่ที่ทรัพยากรทั้งหลายกำลังจะปรากฏขึ้นก็เพราะอาศัย บุญญาธิการของพระมหากษัตรย์องค์ปัจจุบัน

    มีมากพอสมควรเพียงพอที่จะเป็นผู้วางรากฐาน ให้ปรากฏพบแหล่งน้ำมัน ขึ้นในประเทศ เป็นอันดับแรก สำหรับในกาลต่อไปก็อาศัยพื้นฐานความดีของพระองค์ และข้าราชการบางส่วน ที่มีความดีก็จะเป็นเหตุให้ ได้น้ำมันขึ้นมาใช้สอย แต่ได้แร่ธาตุบางอย่างที่มีคุณค่าสูงมาบ้างตามสมควร

    ทีนี้เรามาพูดถึง ข้าราชบริพาร นับตั้งแต่ฝ่ายบริหาร มีคณะรัฐมนตรีเป็นต้น ที่จะมีกำลังใจ เป็นไทจริง ๆ เวลานี้ก็มีอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังหาคน ที่เป็นไทจริง ๆ ยาก ปริมาณคนที่มีจิตมีความเป็นไท ไม่ใช่ทาสของความโลภ ที่มีเกียรติในการบริหารก็มีมากพอสมควร แต่คนที่รับบัญชาไปปฏิบัติ ยังมีอารมณ์เนื่องอยู่ในความเลวมาก

    ในเมื่อกาลแห่งความยุ่งยากนี้ผ่านไป (อีกไม่นาน ใช้เวลาประเดี๋ยวเดียว) คนดีจะปรากฏทีละน้อยๆ เพราะ อาศัยพระราชจริยาวัตรของพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำ คนเลวจะค่อยๆสลายตัวไป คนดีจะค่อยๆรวบรวมกำลังกันขึ้นนำ แต่ทว่า วันเวลา ก็เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ต้องถือว่า เป็นกาลที่ประเทศ กำลังจะมีโชคดี ด้วย เวลาที่ใช้ ก็ไม่นานปีเกินไป จนเกินวิสัย ที่เราจะคอยกันได้ เมื่อกาลนั้นปรากฏ เราชาวไทยที่มีจิตใจเป็นไท จะรวบรวมตัวกันมากมีกำลังหนัก คล้ายสมัยเมื่อ พระเจ้าตากสินมหาราช รวบรวมกำลังคนไทย ให้มีใจเข้ามาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คนเลวทั้งหลาย หรือว่า คนดีในปัจจุบัน ก็จะพยายามค่อยๆ ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะว่า ไม่สามารถนำความชั่วร้าย มาใช้กับประเทศได้ การรวมตัวเป็นปึกแผ่นของคนดีอันนี้ ก็จะเป็นเหตุให้พระและเทวดาที่มีอานุภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระและเทวดาไทยๆ ที่มีใจเป็นไท

    ฉันพูดเรื่องไทๆ เขาจะพากันหัวเราะ บอกว่า ทุกคนเป็นไทย แต่ฉันว่า ไม่ใช่ คนส่วนใหญ่ใจเป็นทาส ไม่ใช่ไท ไทต้องมีน้ำใจอิสระ มีความผ่องแผ้วของใจ มีอารมณ์สดใส ถึงแม้ว่า จะมีกิเลสก็มีกิเลสอยู่ในขอบเขต คือ ขอบเขตของกิเลส รู้ว่านี่ส่วนตัว นี่ส่วนรวมของประเทศชาติ ถ้าอารมณ์รู้ และแยกความรู้นั้นไปใช้ เป็นส่วนเฉพาะได้ นั่นเราเรียกกันว่า "ไท"
    เมื่ออารมณ์ของคน "ไท" ในประเทศไทยรวมตัวกันได้มากเมื่อไร ตอนนั้นแหละ ความศิวิไลของประเทศ จะปรากฏ คือ จะเป็นประเทศที่มั่งคั่งสมบูรณ์ เป็นประเทศที่คนอื่นให้เกียรติ เป็นประเทศที่ทุกคนคือ ชาวโลกทั้งหมดยอมรับนับถือ เพราะมีความอุดมสมบูรณ์

    แต่ว่า ไทยที่พูดไทยไม่ชัด แล้วก็คิดว่า เป็นคนไทย อยู่ในประเทศ บุคคลประเภทนี้ ไว้วางใจอะไรไม่ได้ มีทางเดียว คือเอาเปรียบ และหวังยึดกรรมสิทธิ์ ในฐานะที่ตนเข้ามาอาศัย แต่ว่าในเวลานั้นประเทศไทยก็เป็น ประเทศที่รุ่งเรืองไปด้วยอำนาจ ถึงแม้ว่าจะมีคนน้อยสรรพาวุธน้อย แต่ว่าคนส่วนใหญ่ของโลก หวังที่จะพึงมีประโยชน์ จากน้ำมันเป็นสำคัญ เขาจะใช้กำลังของเขา ป้องกันเรา โดยเราไม่ต้องออกปากใช้ เขาก็จะช่วย
    ความจริงเขาไม่ได้ช่วย เขาช่วยผลประโยชน์ของเขา แต่ว่า ให้ผลในทางที่เรามีอิสรภาพ มีอำนาจ มีสิทธิ ก็เหมือนกับเขาช่วยเรา

    เรื่องที่ฉันพูดให้ฟังนี้ก็เพื่อจะให้เป็น กำลังใจ กับคนที่มีความคิดปรารถนา ต้องการให้ประเทศชาติร่มเย็น เป็นสุข อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน แล้วเด็ก ๆ รุ่นลูก ๆ หลาน ๆ ของคนพวกนี้โตขึ้น มีอำนาจวาสนา เมื่อไรจะเห็นว่า ตอนนั้นแหละ ประเทศไทย เต็มไปด้วยความรุ่งเรือง เพราะว่าอะไร เพราะว่า คนไทยเดิมมาเกิดมาก และที่คนไทยเดิมมาเกิดมาก ก็เพราะว่า ถึงกาลสมัยที่คนไทย ต้องทำให้ประเทศไทย เป็นแหลมทองตามเดิม คำว่า "ทอง" หมายถึง ดี มีค่าสูง ฉันไม่ได้คิดว่าประเทศไทยจะรวยด้วยทองคำ แต่สิ่งเหล่านี้จะปรากฏขึ้นภายหลัง หลังจากที่ได้น้ำมันแล้ว ภูเขาบางลูกจะต้องถูกทำลาย เพราะทองคำอาศัยอยู่ในภูเขามาก

    สำหรับแร่ใส ฉันจะยังไม่พยากรณ์ให้เป็นที่แน่ใจ เพราะแร่ใสอยู่ในความลึกมาก แต่พูดไว้สักหน่อยก็ได้ว่า แร่ใสจะได้มาในเวลาควบคู่กับทองคำ ตอนนั้นเมื่อทองคำปรากฏ แร่ใสปรากฏ คนเลวน้อยลงแล้ว คนเลวภายในก็น้อยลง คนไทยที่เขาว่า
    เป็นไทยแต่พูดไทยไม่ชัด มีเกลื่อนกลาดอยู่ในประเทศไทย ก็หมดกำลังที่ปรารถนาจะยึดประเทศไทยเป็นของเขา ก็จะมีใจเป็นไทยขึ้น
    คือหวังว่า การเข้าเป็นหุ้นส่วนจะดีกว่าการคิดประทุษร้าย ในตอนนั้นไทยจะเป็นอิสระเต็มที่ เอาละ สำหรับวันนี้ก็พอกันทีนะ แต่ว่า ฉันก็ยังไม่ได้หมายความว่าจะกลับ จงคิดว่าเราจะมีประเทศเป็นทองคำ ก็ดี จะมีประเทศเป็นน้ำมันก็ดี จะมีประเทศเป็นแร่ใสก็ดี
    ทุกคนจะคิดว่าเราจะตาย จงอย่าเอาจิตใจ ไปเกาะไอ้น้ำมัน และแร่ธาตุให้มากนัก

    คิดว่า เราทำเพื่อความเป็นอยู่ของคนทั้งมวล แต่เราไม่ทำเพื่อหวังอยู่ตลอดกาล ตลอดสมัยของชีวิต มีจิตใจตั้งตรงอยู่เฉพาะพระนิพพาน แล้วทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าเด็กหนุ่ม ๆ ที่มันมารวมตัว เป็นลูก เป็นหลาน กับยังมีกลุ่มคนดีอีกหลายกลุ่ม คนพวกนี้ถ้าคิดว่า สามารถจะสกัดจิตของตน ให้เป็นคนไท ไร้ความเป็นทาสทางด้านจิตใจ คือ โล ภะ โทสะ โมหะ ก็หมายถึงว่า นั่นคือ การเป็นศัตรูของประเทศ โมหะให้เบ ลงมา คิดแต่เพียงว่า เราต้องตาย แต่จำต้องอาศัยทรัพย์สินเพื่อหวังความสุข นี่เป็นเรื่องของคนธรรมดาถ้า จิตใจของคนชำระความชั่ว เข้ามาสู่ความดี ได้ถึงขนาดนี้ ประเทศไทยจะเป็นไทสมบูรณ์บริบูรณ์ และเพียบพูนไปด้วยทรัพย์สิน ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยความสุข ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยสรรพาวุธที่บุคคลอื่น เขาหามาแลกน้ำมัน แม้แต่สรรพวุธที่ประหัตประหารโลกทั้งโลก ด้วยเพียงจุดๆ เดียวก็จะพึงมี ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่า เขาให้แก่ประเทศไทยโดยรู้ว่า ประเทศไทยไม่ทำลายเขา
    แล้วในกาลต่อไป พระราชาองค์นี้ ก็จะเป็นที่พึ่งของคนไทยต่อไป ความราบเรียบสงบเงียบ จากอันธพาล จากคนที่ขายชาติ จะค่อย ๆ มีขึ้นทีละน้อย จิตใจของคนจะเป็นไท ขึ้นมาทีละหน่อย ๆ ในเมื่อพระมหากษัตริย์ ทรงอยู่ใน ทศพิธราชธรรม และข้าราชบริพารรู้จักความเป็นไท ไทยเก่าๆ จะเข้าสิงใจไทยปัจจุบัน ให้ทำการให้ประเทศไทย เพื่อไทย การคิดล้มล้างชาติไม่มีผล สำหรับคนทั้งหลายที่คิด พวกเขาจะต้องสลายตัวไปตามกาลสมัย
    เอาละ ฉันจะกลับ บอกทุกคนว่า ฉันโมทนาที่ทุกคนมีเจตนาดีเพื่อไทย และทำใจให้เป็นไท คนใดเมื่อมีจิตใจเป็นไท คนนั้นในเวลานั้นอารมณ์ใจจะผ่องใส จะเข้าถึงธรรมโดยง่าย คือ โลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย
    เมื่อเป็นคนก็เป็น คนดี ตายแล้วก็เป็น ผีดี พ้นจากผีก็เป็นเทวดา เข้า นิพพาน ได้อย่างดี ในที่สุดนี้ของ จงบอกเขาว่า ฉันดีใจกับความดีของคนไทยทุกคน... สวัสดี

    (ท่านขุนช้างเล่าให้หลวงพ่อฟัง ประมาณ 5 เมษายน 2521 เป็นการเพิ่มเติม)
    น้ำมันนี่กว่าจะเจาะลงไปถึงมันกี่พันกี่หมื่นฟุต หรือว่ากี่พันกี่หมื่นเมตร เจาะลงไปแล้วก็ได้น้ำมันขึ้นมาไอ้น้ำมันนี่มันก็มีเหตุอยู่ 2 ประการที่จะได้น้ำมัน คือ
    1. ฟางเน่า หญ้าเน่า สัตว์เน่า หอยเน่า คนเน่า สะสมกัน ไอ้ความเน่ามันเกิดเป็นแกส กระแสที่ไหลไปจาก น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนองพวกนั้น สะสมกับน้ำธรรมชาติ เพาะตัวขึ้นมาอาศัยแกสผสมขึ้นมา ก็เกิดเป็น น้ำมันจุดไฟติด นี่อย่างหนึ่ง

    2. อาศัยแร่ธาตุที่มันเป็นหิน หินที่มีความชื้นที่เขาเรียกว่า หินน้ำมัน คือ มันไม่ใช่หินจริง ๆ มันเป็นสิ่งเนื้อหนังผสมกันกับธาตุดิน มีความเน่าของบางจุด เข้าผสมกันมีความชื้น เป็นน้ำมันอีกอย่างหนึ่ง
    น้ำมันที่ว่าจะเจาะลงไปพบนี่ เป็นน้ำมันผิวต้น ถ้าเจาะลงไปๆ ดึงดูดเอาความชื้นขึ้นมา แล้วมีปัญญาเจาะลงไปอีก มันก็จะไปเจาะน้ำมันอีก ชั้นของน้ำมันมีตั้งหลายชั้นสมมติว่า จะสูบน้ำมันขึ้นมาจริง ๆ โอ้โฮ มัน มีตั้งเยอะแยะ นี่ความจริง ดินแดนแผ่นนี้ ที่เรียกกันว่า แหลมทอง และเป็นเมืองทองก็เพราะ มีทรัพยากรมาก นอกจากน้ำมัน ก็ยังมีแร่มีหิน มีเพชรนิลจินดา มีเงินมีทอง มีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีค่า คนที่มีปัญญา ยังจะใช้ได้อีกนาน แต่ว่า ถ้าคนมีกำลังใจเป็นพาล คือ ความโง่
    ชอบเห็นคนอื่นดีกว่าพวกของตน และขนของ อกไปเป็นส่วนของตนมาก เมืองของตนรวยไม่ชอบ ชอบไปให้เมืองชาวบ้านอื่นเขารวย ขนทรัพย์ขนสินไปให้ชาวบ้านอื่นเขารวย
    ถ้ายังมีน้ำใจอยู่อย่างนี้ละ ของที่มีค่า มีราคาดี มันก็ยังปรากฏน้อย
    ถ้าคนทุกคนในเขตนี้ ที่เรียกกันว่า คนไทย มีใจรักชาติ มีความซื่อสัตย์สุจริต หวังความเจริญของบ้านเมือง ต้องการให้บ้านเมือง เจริญจริงๆ ทรัพยากรจะได้มากยิ่งกว่านี้ ไอ้ที่เขาว่ายังไม่ขึ้นมาๆ นี่
    ไม่ใช่เทวดากันไว้ ไม่ใช่ผีกันไว้ ไม่ใช่อย่างงั้น มันเป็นไอ้มนุษย์ ที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นแหละที่กันอยู่
    เช่น อย่างว่า มีทุนมีงบประมาณเท่านี้ เขาให้ไปทำเท่านี้ มันก็กันเสีย ไปทำเท่าโน้น ไม่พอดิบพอดีกับเงินที่จ่ายไปแล้ว ผลประโยชน์นั้น จะได้สมบูรณยังไง ที่ท่านได้ฟังมาจากคนก่อนว่า ถ้าคนไทยดีขึ้นมาเมื่อไร ทรัพยากรทั้งหลายมันก็จะปรากฏมากเท่านั้น

    ถ้ามีดีเต็มที่มันก็เกิดขึ้นมาเต็มที่ ดีน้อยมันก็เกิดน้อย
    ไอ้คำว่า "ดี" ในที่นี้ ที่ว่าทรัพย์มันจะขึ้นมามากนั้น ไม่ใช่มันลอยขึ้นมาเอง แต่เป็นด้วยการใช้ปัญญาของตนเอง หรือปัญญาที่ศึกษามาจากในต่างประเทศ ใช้ปัญญานั้นให้มันครบถ้วน ไม่ใช่ว่าไปเรียนกันมาแล้ว อยากจะได้เงินเดือน อยากจะได้เงินพิเศษ เงินกินบ้าง เงินโกงบ้าง เงินยักบ้าง เงินยอกบ้าง เงินแป๊ะเจี๊ยะ บ้าง เงินเก๊าเจี๊ยะบ้าง เป็นต้น อย่างนี้ ของดีมันก็ผุดขึ้นมาไม่ได้
    ถ้ากำลังใจของคนมันดีจริงๆ ซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีปัญญามาก เงินก็ใช้น้อย จะได้ผลเป็นของดีขึ้นมามาก คนที่มีปัญญามากนี่ เขาใช้เงินน้อย คือ ใช้ปัญญาช่วยด้วย ใช้แรงงานของ คนช่วยด้วย ใช้อย่างอื่นแทนเงิน
    อย่างคนโบราณนี่ เขาก็รู้จัก เอาทองหยอง ขึ้นมาใช้ รู้จักเอาน้ำมัน ขึ้นมาใช้ เขามีตะเกียงใช้เหมือนกัน แล้ว ก็เป็นตะเกียงน้ำมัน จะว่าใช้น้ำมันหมู ก็เอาหมูที่ไหน มาฆ่าตั้งเยอะแยะ จะว่าใช้น้ำมันมะพร้าว โรงกลั่นน้ำมันมะพร้าวก็ยังไม่มี น้ำมันตั้งแต่โยนกนคร หรือ สุโขทัย หรือกรุงศรีอยุธยานี่ เขายังไม่ได้ใช้น้ำมันต่างประเทศ

    ทองในประเทศนี่ เขายังส่งไปขายนอกประเทศด้วยซ้ำ เงินก็เหมือนกันเขาใช้ เงินในประเทศ ไม่ได้ซื้อ เงินนอกประเทศ แล้วเขาจะเอาเงินนี้ไปต่างประเทศ แลกเอาสิ่งของที่เราไม่มีเข้ามา ของทั้งหลายเหล่า นี้มันมีมาแล้วแต่อดีตกาล เขาใช้มาแล้วแต่อดีตกาล แต่คนสมัยนี้ไม่ได้ใช้ปัญญาอย่างคนในสมัยนั้น อะไรๆ ก็ต้องให้เป็นชาวต่างประเทศมาค้นคว้าหาทั้งหมด
    จึงปรากฏว่า มันขึ้นมาไม่ได้ ถึงขึ้นมาได้ เขาก็ต้องหากำไร ยกเอาไปบ้านเขามากกว่า ที่เราจะพึงได้ สมัยผม (ขุนช้าง-ขุนแผน) เขาก็หาน้ำมันกันได้ จะบอกวิธีก็ได้
    น้ำมันนี่ เขาหากันตามเชิงเขา วิธีการหาน้ำมันก็เป็นของไม่ยาก เขาไปดูแหล่งเฉพาะวัตถุที่จุดไฟได้ดี หรือต้นไม้ที่มีการไวไฟเป็นต้น
    คนเขามีปัญญา เมื่อเจอะเหตุทั้งสองประการอย่างนี้ เขาก็หาแหล่งน้ำมันกัน น้ำมันที่จะพึงได้มาก็เป็นน้ำมันข้น บางจุดก็เป็นน้ำมันสีดำ บางจุดก็เป็นน้ำมันสีแดง แล้วเขาก็ใช้วิธี เกรอะ ตามวิทยาการ

    การหาแหล่งน้ำมันก็ดี แหล่งทองก็ดี เวลานั้นเขาใช้ผีช่วยบ้าง ใช้คนทิพย์ช่วยบ้างชี้บอกจุด ชี้บอกทางการ เจาะ การสกัดมันก็เป็นของไม่ยากนัก การใช้น้ำมันสมัยนั้น มันไม่มาก เหมือนสมัยนี้ ไม่มีรถยนต์ แต่ปีหนึ่งก็ใช้เป็นหมื่นๆ ถังเหมือนกัน การที่จะใช้แรงงานคน โดยเฉพาะใช้ปัญญา มากกว่าทรัพย์ ก็สามารถหาน้ำมัน ได้ขนาดนั้น เวลานี้ เราใช้ทั้งปัญญาด้วย ทั้งแรงเครื่องจักรด้วย ถ้าหาแบบนั้น มันจะได้มากกว่านี้มาก

    (เพิ่มเติม เมื่อ 24 มีนาคม 2522)
    น้ำมันในประเทศไทยนี้เกิดจากสามแหล่งใหญ่ ๆ คือ
    1. สายจากพม่า เป็นน้ำมันใสเกรดดี วกมาจากด้านมะริด
    2. สายจากประเทศจีน เป็นน้ำมันขุ่นหยาบ น้ำมันสายนี้ ไหลผ่านแร่ชนิดหนึ่งเรียกว่า ยูเรเซียม ซึ่งเป็น แร่ ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้จัก มีลักษณะดำเป็นมันเลื่อม และมีความร้อนสูง แร่นี้เป็นเชื้อทำให้ เกิดภูเขาไฟ เมื่อน้ำมันข้นนี้ ไหลผ่านแร่ ก็จะถูกความร้อน ทำให้น้ำมันมีคุณภาพดีขึ้น คือ ใสมากกว่าเดิม
    3. สายในประเทศเอง คือ เกิดเองในประเทศ เช่นที่ นครสวรรค์ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำมันจากประเทศจีนไหลมารวมกับสายพม่า ที่บริเวณนครสวรรค์ ทำให้เป็นน้ำมันคุณภาพดี แล้วเผยกว้าง เป็นอ่าวไหลผ่านลงมาทางใต้ ออกไปยังอ่าวไทย บ่อน้ำมันบนดินที่ตื้นมากที่สุดอยู่ทางทิศเหนือ


    [​IMG] หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ
     
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    ครับกำลังรออยู่ครับ
     
  3. หนุ่มทิพย์

    หนุ่มทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +152
    เจ๋งจริงๆ WebSnow
     
  4. อาม

    อาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +314
    เรื่องน้ำมันนี้ใครจะเป็นคนทำ และเรามีเทคโนโลยีรองรับแล้วหรือยังครับ
    (ไม่งั้นคงเสียส่วนแบ่งให้ต่างชาติ และคนรวยอีกมากมาย)
    เป็นเรื่องวิเศษเลยที่กำลังจะเกิดขึ้น แล้วการเลื่อนกำหนดออกไปนี่นานไหมครับ
    ได้ยินว่าต้องรอให้ผู้นำบ้าอำนาจบางประเทศพ้นจากตำแหน่งไปก่อน
    คงต้องรอหลังสงครามโลกครั้งใหญ่ ซึ่งเหมือนถูกเลื่อนกำหนดเวลาออกไปเรื่อยๆ
     
  5. Luthorcorp

    Luthorcorp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +6
    ถ้าเกิดมีน้ำมันอยู่จริง ทำไมถึงยังไม่เจอกันสักทีละครับ ถ้าประเทศเรามีก็ควรจะเจอช่วงนี้ เพราะราคาน้ำมันกำลังสูง แต่ถ้าไปเจอหลังจากช่วงนี้ผมว่าน้ำมันคงไม่ใช่ทางเลือกใหม่อีกต่อไป โลกกำลังตื่นตัวและกำลังหาพลังงานอื่นทดแทน ถึงตอนนั้น น้ำมันจะมีค่าอะไรถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า ที่สามารถลดมลภาวะและไม่ทำให้โลกร้อนได้
     
  6. อาม

    อาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +314
    พลังงานทดแทนหรือ ยากครับ พลังงานทดแทนที่ดีที่สุดตอนนี้ผมยกให้เซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งยังมีปัญหาเพราะซิลิคอนมีต้นทุนการผลิตสูงมาก ส่วนเซลล์แสงอาทิตย์รูปแบบใหม่ที่ต้นทุนถูกกว่าคือ dye-sensitive solar cell นี้วงการวิทยาศาสตร์กำลังสนใจอยู่ไม่มาก ผมเองคิดว่า พืชในประเทศอาจจะมีสารสีบางตัวที่มีค่าการดูดกลืนแสงสูงมาก ทำให้นำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ตอนนี้วงการวิทยาศาสตร์ไทยเรายังอืดอาดมากครับ

    ความเดือดร้อนเรื่องน้ำมันแพง ก็เป็นกรรมของสัตว์โลกตามธรรมดา เรื่องแค่นี้ต้องทนกันไปก่อน ถ้าระบบอะไรต่างๆ ยังวุ่นวายอยู่อย่างนี้ ไม่เจอน้ำมันน่ะดีแล้ว
     
  7. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    ตอนนี้ก็เจอจริงๆ ตามหลวงพ่อท่านเล่า แต่ความโลภของคนทำให้ยังต้องปิดบังกันอยู่ เรื่องนี้ได้ยินนานมาแล้ว ว่าพบบ่อน้ำมันแหล่งใหญ่ แต่ข่าวก็เงียบ ข่าววงในก็ว่ามีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ตามเคย ก็คงต้องรอให้หมดเคราะห์กรรมประเทศไทยก่อนละครับถึงจะรุ่ง
     
  8. Seel

    Seel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,604
    โมทนาครับ
     
  9. vivo

    vivo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    คุณ WebSnow ตอบหน่อยครับ

    "เรามาพูดกัน ถึงน้ำมันดีกว่า แร่ใสก็ดี แร่ทองคำก็ดี จะมีได้ต้องใช้เวลานาน ส่วนน้ำมันเวลานี้ ทั้งคนไทย และฝรั่งเหยียบกันไป เหยียบกันมา ในกาลต่อไป ทรัพยากรส่วนนี้ จะเป็นทรัพยากรใหญ่ สร้างผลกำไรให้ แก่ประเทศมหาศาล ฉันกำหนดให้ใช้เวลาสูงสุดไม่เกิน 32 ปี แต่อาจจะค้นคว้าได้ในระยะเร็วเท่าใดก็ได้ สุดแล้วแต่ปัญญาของคน แค่น้ำมันอย่างเดียวก็เหลือกินเหลือใช้"

    ผมนับแล้วท่านกล่าวไว้ เมื่อปี 2517 32 ปี ก็ปีนี้พอดี แต่ไม่เห็นมีวี่แววเลย ตอนนี้น้ำมันแพงมาก
    คนทั่วโลกกระทบกับปัญหานี้ แล้วที่หลวงพ่อกล่าวไว้จะเป็นความจริงไหมหนอ คุณ Websnow
    ตอบเรื่องนี้หน่อยครับ ผมอยากถามความเห็นกับการทำนายของหลวงพ่อ ว่าท่านเห็นจริง และมัน
    จะมีโอกาศเป็นจริงแค่ไหนครับ ผมอยากเห็นคนไทยสบายบ้างครับ
     
  10. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781
    ขอให้เจออย่างหลวงพ่อว่าเถิด ตอนนี้น้ำมันแพงมักๆ
     
  11. changtai

    changtai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +298
    โปรดระวัง

    เรื่องที่หลวงพ่อท่านกล่าวนั้นท่านพูด เมื่อก่อนที่จะมีข่าวการขุดเจอน้ำมันในไทยเป็นช่วงที่นักทรัพยฯขุดอยู่พอหลวงพ่อพูดเขาก็เข้ามาถามถึงว่าท่านรู้ได้อย่างไรยังไม่เป็นที่เปิดเผยแล้วเขาก็เลยถามถึงจุดที่ขุดว่าตรงไหมช่วงนั้นเจอเป็นบ่อเล็กๆไม่ต้องกลั่นใช้ได้เลยและยังมีจุดอื่นๆอีก หลังจากนั้นก็บุมในยุคป๋าเปรม(รู้สึกเข้าคุกเอ้ยยุคจัง)เกิด ปตท ตามคำขวัญ โชติช่วงชัชวาล เรื่องนี้ต้องถาม ดร.ปริญญา นักทรัพยฯที่เป็ฯ ลูกศิษย์ใกล้ชิด ไม่ใช้พูดเหมือนหลวงพ่อไม่เก่งทายไม่ตรง เรื่องที่ท่านรู้พระท่านอนุญาติให้รู้ แล้วเทวดามาบอก แต่ที่ยังไม่ขึ้นเพราะ ความดีของ มนตรีที่บริหารประเทศยังไม่พอ บารมีของเจ้าของแผ่นดิน(ขององค์ไหนก็องค์นั้น)ที่จะเป็นยุคชาววิลัย เริ่มเข้า (พศ 50 กว่าๆ)ถึงจะมี พูดจาระวังด้วย จะวิจารณ์ก็ให้รู้จริงๆด้วย คนที่พิมพ์ให้อ่านก็นำมาให้อ่านไม่ครบ ทำให้คนอื่นปรามาสครูบาอาจารย์เข้าจะบาปโดยไม่เจตนา อันตราย
     
  12. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 337685" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>praykaew</TD><TD class=alt2>เรื่องที่หลวงพ่อท่านกล่าวนั้นท่านพูด เมื่อก่อนที่จะมีข่าวการขุดเจอน้ำมันในไทยเป็นช่วงที่นักทรัพยฯขุดอยู่พอหลวงพ่อพูดเขาก็เข้ามาถามถึงว่าท่านรู้ได้อย่างไรยังไม่เป็นที่เปิดเผยแล้วเขาก็เลยถามถึงจุดที่ขุดว่าตรงไหมช่วงนั้นเจอเป็นบ่อเล็กๆไม่ต้องกลั่นใช้ได้เลยและยังมีจุดอื่นๆอีก หลังจากนั้นก็บุมในยุคป๋าเปรม(รู้สึกเข้าคุกเอ้ยยุคจัง)เกิด ปตท ตามคำขวัญ โชติช่วงชัชวาล เรื่องนี้ต้องถาม ดร.ปริญญา นักทรัพยฯที่เป็ฯ ลูกศิษย์ใกล้ชิด ไม่ใช้พูดเหมือนหลวงพ่อไม่เก่งทายไม่ตรง เรื่องที่ท่านรู้พระท่านอนุญาติให้รู้ แล้วเทวดามาบอก แต่ที่ยังไม่ขึ้นเพราะ ความดีของ มนตรีที่บริหารประเทศยังไม่พอ บารมีของเจ้าของแผ่นดิน(ขององค์ไหนก็องค์นั้น)ที่จะเป็นยุคชาววิลัย เริ่มเข้า (พศ 50 กว่าๆ)ถึงจะมี พูดจาระวังด้วย จะวิจารณ์ก็ให้รู้จริงๆด้วย คนที่พิมพ์ให้อ่านก็นำมาให้อ่านไม่ครบ ทำให้คนอื่นปรามาสครูบาอาจารย์เข้าจะบาปโดยไม่เจตนา อันตราย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ใช่ผมเห็นด้วยกับคุณพรายแก้วเพราะความดีของคณะที่มีอำนาจยังไม่ดีพอ เพราะถ้ามีความเป็นไท มีน้ำใจเป็นไทตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอก ณ วันนี้คนไทยเราเองคงจะได้มีสัดส่วนการเป็นเจ้าของมากกว่านี้ เรื่องนี้โดยฉะเพาะผมแล้ววันหน้าจะเล่ายาวให้ฟังถึงความตั้งใจของผมและเคยได้คิดที่จะเข้าป่าสมัยเป็นนักบวชประมาณปี2531ที่วันหนึ่งหลังจากที่ผมได้ร่วมกับพระในวัดศรีมณีวรรณสร้างโรงสีข้าวภายในวัดขนาดกำลังการผลิต8เกวียนต่อวันเพื่อให้ชาวนาในตำบลนั้นและใกล้เคียงถ้าต้องการที่จะนำข้าวเปลือกมาสีเป็นข้าวสารคัดขนาดและชั้นคุณภาพทางวัดก็จะสีให้ฟรีโดยมีพระ เณร ของวัดควบคุมดูแลการจัดการทุกอย่างทางเจ้าของข้าวก็เพียงแต่เสียค่าใช้จ่ายเป็นรำข้าวและแกลบให้เป็นค่าช่อมบำรุงของโรงสี ทีนี้เมื่อโรงสีเสร็จทดลองเดินเครื่องจักรจนเข้าที่ค่อนข้างสมบูรณ์และระบบการบริหารค่อนข้างครบวงจร คือทางวัดมียุ้งฉางขนาด80เกวียนเป็นธนาคารข้าวเผื่อชาวนาที่ไม่มียุ้งของตัวเองก็นำมาฝากฟรีหรือจะจำนำข้าวเอาเงินไปก่อนก็ได้รอให้ข้าวมีราคาสูงค่อยขายข้าวเปลือก หรือจะสีเป็นข้าวสารคัดขนาดบรรจุถุงขายซึ่งก็มีพ่อค้านำไปเร่ขายและได้ราคาสูงเพราะข้าวของตำบลคุ้งสำเภา อ.มโนรมณ์ จ.ชัยนาทมีคุณภาพดี อันนี้ขอเล่าย่อๆ เนื่องจากผมมีความถนัดทางงานเหล็กประเภทเชื่อมประกอบซึ่งโรงสีที่ผมเป็นคนสร้างพร้อมคณะพระ เณร และฆราวาสเป็นเหล็กเกือบจะทั้งหมด ขณะที่ทำโรงสีอยู่นั้นก็เริ่มมีอาการเจ็บหลังแล้วก็เจ็บมากขึ้นๆจนเดินก้าวขาแทบไม่ได้เวลายืนยึดตัวตรงไม่ได้หลังงอขนานกับพื้นดิน เป็นอยู่หลายเดือนคณะพระ เณร และญาติโยมก็ขอให้ผมหยุดพักรักษาตัวก่อน ในใจผมตอนนั้นมันไม่มีความอาลัยกับชีวิตต้วเองแม้แต่น้อยอารมณ์ใจนั้นมีแต่ความสดชื่นดีใจด้วยซ้ำไปว่าตัวเองได้มีวาสนาพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้มีโอกาสได้ทำได้เป็นอย่างที่เคยใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นชีปะขาวที่อยู่ตามป่าเขามีฤทธิอภิญญาก็ได้เป็นแต่ยังไม่ทันจะมีฤทธิหลวงปู่แว่น ธนปาโลแห่งวัดป่าถ้ำพระสะบาย อ.แม่ทะ จ.ลำปางท่านก็หาเจ้าภาพในตัวเมืองลำปางจำชื่อไม่ได้จำได้ว่าเป็นร้านค้าส่งชื่อว่าร้านจิบไต๋เป็นเจ้าภาพบวชให้พร้อมกับชีปะขาวอีกคนชื่อบรรจงเป็นคนนครศรีธรรมราชตอนนี้บวชเป็นพระแล้วและท่านอยู่ป่าตลอดไม่ยอมอยู่วัดองค์นี้ก็เอาจริงจังมากจากกันเมื่อตอนออกจากวัดก็ไม่พบกันอีกเลยไม่รู้ว่าท่านเป็นไงบ้างก็เป็นอันว่าไม่ทันจะเหาะจะเหินแล้วก็เหาะไม่ได้ด้วยก็บวชซะก่อนในนิกายธรรมยุติสายพระป่าของบูรพาจารย์หลวงปู่มั่นที่เน้นหนักเรื่องธุดงค์วัต
    และมหาสติปัฏฐานแต่นิสัยผมมันรักในลีลาปฏิปทาของบูรพาจารย์หลวงปู่ปานกับของหลวงพ่อเป็นยิ่งนักเมื่อมีโอกาสได้อยู่ใกล้หลวงพ่อแม้จะไม่มีวาสนาได้เป็นนักบวชของวัดท่าซุงแต่เมื่อผมออกจากวัดถ้ำพระสะบายตั้งใจว่าจะเข้าป่าแล้วจะไม่ออกมาอีกเลย แต่ก่อนที่จะเข้าป่าตลอดชีวิตนี้ขอไปกราบลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อก่อนก็เลยมาอาศัยอยู่ที่วัดศรีมณีวรรณก็ไม่ไกลจากวัดท่าซุงมากนักมีอะไรขัดข้องผมก็ไปกราบเรียนถามหลวงพ่อเป็นประจำจึงรู้สึกสดชื่นยินดีกับความเจ็บป่วยคิดว่าร่างกายในเมื่อมันจะพังก็เชิญพังเลยจะไม่ยอมรักษามันเป็นอันขาดเสียดายสตางค์ของญาติโยมที่ถวายมาให้กินให้ใช้สตางค์แต่ละบาทของญาติโยมควรจะได้อานิสงค์มากกว่ามากนักจึงได้เอาไปทำในการก่อสร้างในเรื่องวิหารทาน ธรรมทาน และสังฆทานทั้งที่วัดศรีมณีวรรณ และถวายที่วัดท่าซุง ชีวิตของเรานั้นไม่มีความหมายแต่อยากเห็นทุกท่านที่มีพระคุณมีความสุขสมบูรณ์บริบูรณ์ทุกภพทุกชาติไปจนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน อารมณ์ใจในขณะนั้นคิดว่าเราปราถนาพระโพธิญาณในเวลานี้เรามีโอกาสได้ทำกิจด้านคันถะธุระอย่างเต็มสติกำลังปัญญาความรู้ความสามารถทั้งยังทำด้วยมือตัวเองอย่างเต็มใจตั้งใจด้วยความปราณีตทุกอย่างถวายเป็นพุทธบูชา
    ก็สรุปว่าเมื่อโรงสีเสร็จก็เข้าไปกราบลาหลวงพ่อจะเข้าป่าเมื่อกราบท่านครบสามวาระพอเงยหน้าขึ้นเห็นท่านมองเลยหัวของผมไปในตอนนั้นท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ในตึกรับแขกใหม่ท่านพูดลักษณะรำพึงว่า สมกับเป็นช่างแท้ ประโยคเดียวของท่านนี้มันสุดบรรยายสำหรับผมแล้วสุดที่จะล้ำค่าหาประมาณไม่ได้เป็นการรับรองว่าที่เราทำผ่านมานั้นถูกแล้ว พ่อรู้ทุกอย่างที่เราทำเท่านี้แหละที่ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่จะทำต่อไปอยู่ในสายตาท่านตลอด
    เมื่อออกจากวัดท่าซุงก็เข้าป่าทันทีโดยไปทาง อ. บ้านไร่ซึ่งในตอนนั้นก็เจ็บหลังเป็นอย่างมากปกติตัวเปล่าก็เดินแทบไม่ได้อยู่แล้วยิ่งต้องสะพายเครื่องอัฏฐะบริขารหนักประมาณสิบกว่ากิโลก็ยิ่งเจ็บหนักเข้าไปใหญ่เดินไปได้แค่ประมาณยี่สิบก้าวบ้างสามสิบก้าวบ้างก็ต้องหยุดพักทุกขเวทนาของการเจ็บปวดนั้นมันสุดที่จะบรรยายได้แต่อารมณ์ใจนั้นมันเป็นสุขสดชื่นมันมีกำลังใจมากดีใจมากที่ได้มีโอกาสได้ถวายชีวิตเลือดเนื้อกายใจตั้งใจว่าเมื่อหาที่เหมาะได้ก็จะทำแบบเดียวกับที่เณรน้อยทำแล้วมาเกิดเป็นพระเจ้าพรหมมหาราช
    ผมเองก็จะตายแบบนั้นอธิฐานแบบเดียวกันขอไปเป็นพรหมเล่นโก้ๆซักอึดใจแล้วเดี๋ยวมาเกิดใหม่จะขอเกิดเป็นเจ้าภาพติดต่อกันสามชาติจนถึงสมัยที่จะบูรณะวัดท่าซุงอีกครั้งเพื่อขอนำสิ่งที่เป็นสมบัติของชาติไทยกลับมาเพื่อให้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็นโดยฉะเพาะทรัพยากรต่างๆมันควรที่จะเป็นประโยชย์สูงสุดของคนในชาติผมก็คิดเรื่อยเฉื่อยไปแต่ก็ไม่ทันได้ตายก็มีเหตุให้ต้องสึกกระทันหันจากการเป็นนักบวชออกมา และก็บังเอิญได้ไปทำงานที่เกี่ยวกับการสำรวจขุดเจาะก๊าสและน้ำมันในอ่าวไทยตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้เกือบยี่สิบปีแล้วผมเชื่อตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกไว้ทุกประการนะครับ และสิ่งใดที่เคยปราถนาไว้ในตอนโน้นในวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมีแต่จะสั่งสมบุญญาธิการทุกรูปแบบเพื่อเตรียมความพร้อมในอีกสามชาติติดต่อกันข้างหน้านี้ อันนี้ก็เป็นความปราถนาของผม
    ก็ถือโอกาสนี้ตั้งมโนปณิธานสัตยาอธิฐานเป็นลายลักษ์อักษรอ้างถึงอานิสงค์กุศลผลบุญราศรีที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้และที่จะมีต่อไปในอนาคตอันเอนกอนันต์ประมาณไม่ได้นั้นจงส่งผลให้ข้าพระพุทธจงได้บรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษในอนาคตกาลโน้นเถิด และการที่เคยได้ถวายชีวิตเป็นพุทธบูชาในชาตินี้ก็ขอให้จงได้มีโอกาสกลับมาทำกิจของพุทธภูมิตามที่ปราถนาไว้ทุกประการด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า

    และในวันนี้บังเอิญมาอ่านเจอในกระทู้นี้ซึ่งผมเคยคิดสละชีวิตมาแล้วก็เลยมาเล่าให้ทุกท่านฟัง ซึ่งในขณะที่พิมพ์อยู่นี้ก็เจ็บหลังมากเพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาลพักฟื้นอยู่ที่บ้านจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังที่แตกแม้จะผ่าตัดแล้วก็ยังเดินไม่ได้สะดวกนิ้วเท้าชาควบคุมไม่ได้ ซึ่งในการผ่าตัดก็ต้องผ่ากันถึงสี่ครั้ง คือ
    ครั้งแรก 11 ส.ค.49 อาการไม่ดีขึ้น
    ครั้งที่สอง 18 ส.ค.49 อาการไม่ดีขึ้น
    ครั้งที่สาม 18 ก.ย. 49 อาการไม่ดีขึ้น
    ครั้งที่สี่ 27 ก.ย. 49 อาการปวดทั้งหมดหายไปออกจากโรงพยาบาลราษฎร์ยินดีหาดใหญ่เมื่อวันที่10 ต.ค.2549นี่เอง
    วันนี้ขอจบเท่านี้ก่อนเรื่องน้ำม้นจะมาเล่าให้ฟังในวันหน้านะครับ
     
  13. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 134619" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>Luthorcorp</TD><TD class=alt2>ถ้าเกิดมีน้ำมันอยู่จริง ทำไมถึงยังไม่เจอกันสักทีละครับ ถ้าประเทศเรามีก็ควรจะเจอช่วงนี้ เพราะราคาน้ำมันกำลังสูง แต่ถ้าไปเจอหลังจากช่วงนี้ผมว่าน้ำมันคงไม่ใช่ทางเลือกใหม่อีกต่อไป โลกกำลังตื่นตัวและกำลังหาพลังงานอื่นทดแทน ถึงตอนนั้น น้ำมันจะมีค่าอะไรถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า ที่สามารถลดมลภาวะและไม่ทำให้โลกร้อนได้</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เขาเจอกันตั้งนานแล้วครับไปถามอมริกาดูได้

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 243325" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>vivo</TD><TD class=alt2>"เรามาพูดกัน ถึงน้ำมันดีกว่า แร่ใสก็ดี แร่ทองคำก็ดี จะมีได้ต้องใช้เวลานาน ส่วนน้ำมันเวลานี้ ทั้งคนไทย และฝรั่งเหยียบกันไป เหยียบกันมา ในกาลต่อไป ทรัพยากรส่วนนี้ จะเป็นทรัพยากรใหญ่ สร้างผลกำไรให้ แก่ประเทศมหาศาล ฉันกำหนดให้ใช้เวลาสูงสุดไม่เกิน 32 ปี แต่อาจจะค้นคว้าได้ในระยะเร็วเท่าใดก็ได้ สุดแล้วแต่ปัญญาของคน แค่น้ำมันอย่างเดียวก็เหลือกินเหลือใช้"

    ผมนับแล้วท่านกล่าวไว้ เมื่อปี 2517 32 ปี ก็ปีนี้พอดี แต่ไม่เห็นมีวี่แววเลย ตอนนี้น้ำมันแพงมาก
    คนทั่วโลกกระทบกับปัญหานี้ แล้วที่หลวงพ่อกล่าวไว้จะเป็นความจริงไหมหนอ คุณ Websnow
    ตอบเรื่องนี้หน่อยครับ ผมอยากถามความเห็นกับการทำนายของหลวงพ่อ ว่าท่านเห็นจริง และมัน
    จะมีโอกาศเป็นจริงแค่ไหนครับ ผมอยากเห็นคนไทยสบายบ้างครับ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เรื่องนี้ผมขออนุญาติเสือกตอบเองโดยไม่ต้องมีใครถาม เพราะเดี๋ยวจะมี
    คนพากันปรามาสพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากกว่านี้ ผมขอเล่าเรื่องของตัวเอง
    นิดหน่อยเอาแค่พอรำคารที่ต้องทนอ่าน ขอย้อนหลังไปเมื่อประมาณปี2514ถึง
    2520ช่วงวัยรุ่นที่ช่วงนั้นกระแสของการชาตินิยมมีความรุนแรงผมเองก็เป็น
    หนึ่งในนั้นขนาดของกินของใช้ทุกชนิดผมจะเลือกซื้อเลือกใช้ฉะเพาะที่เป็น
    ของคนไทยเราสร้างเองผลิตเองเท่านั้น

    ประเทศไทยในความรู้สึกนึกคิดของผมในตอนนั้นมันมืดมนไปทุกทิศทุกทางคิด
    ว่าบ้านเมืองของเรามันทำไมยากแค้นอย่างนี้ก็คิดมันเรื่อยเฉื่อยส่งเดชไปตาม
    เรื่องตามราวเมื่อเดือนตุลาคม2516ถ้าพ่อแม่ห้ามไม่ทันก็ไม่แน่ว่าวันนี้จะมีโอ
    กาศมานั่งพิมพ์อยู่นี้หรือปล่าวในตอนนั้นมันห้าวมากผมอยู่ชนบทชิวิตในวัยรุ่นเวลาไปเที่ยวนี่ต้องไปกันเป็นกลุ่มไปเดี่ยวนี่ไปไม่ค่อยได้ ไปเดี่ยวนี่ต้องมีอาวุธ
    อย่างน้อยก็ต้องมีดแล้วก็วัตถุมงคลกันเต็มอัตราแล้วก็จะเดินตามทางเดินปกติ
    กันไม่ค่อยจะได้ต้องรู้ทางลัดในแต่ละหมู่บ้านจึงจะเดินสะดวกหน่อย

    ทีนี้พอถึงปี2518ข่าวคราวว่าทางตะวันออกกลางเริ่มเป็นแหล่งงานแหล่งความ
    หวังของคนในหมู่บ้านของผมและก็โชคดีที่คนรุ่นลุงรุ่นพ่อหลายสิบคนมีความ
    รู้ความสามารถในเรื่องงานก่อสร้างและการก่อสร้างทางที่พูดนี่ระดับกรรมกรทั้ง
    หมดไม่มีใครเป็นระดับวิศวกรสักคนชุดที่สร้างทางดีหน่อยส่วนมากมีความสามารถควบคุมเครื่องจักรหนักที่ใช้ในการสร้างทางได้เช่นรถขนาดใหญ่ทุกประ
    เภท การศึกษาของแต่ละคนหาจบ ป.4 สักคนก็ไม่มีอย่างเก่งไม่เกิน ป.2 ผม
    เองนี่รุ่นลูกจบสูงหน่อยจบถึงชั้น ป.4ไม่ได้เรียนต่อกับเขาเพราะทางบ้านยากจนมากก็ฝึกหัดทางช่างหลายอย่างและความที่เป็นคนใฝ่รู้แล้วก็ชอบอ่านหนัง
    สือมากจึงพอที่จะคุยเรื่องต่างๆกับชาวบ้านเขาได้

    พอปี2519คนในหมู่บ้านหลายสิบคนมีโอกาศไปตะวันออกกลางก็หลังจากนั้น
    เป็นต้นมาหมู่บ้านของผมก็เปลี่ยนไปแบบดำเป็นขาวชีวิตความเป็นอยู่ของคนดี
    ขึ้นมาก

    ผมเองได้ไปกับเขาเมื่อป2521เป็นกรรมกรช่างทาสีโครงเหล็กไปได้ประมาณ
    สามเดือนก็บังเอิญมีโอกาสสอบฝีมือช่างเชื่อมท่อระดับสูงคุณภาพ X-RAY
    แนวเชื่อมก็สอบผ่านก็ได้เป็นช่างเชื่อมแต่นั้นมา การที่เป็นช่างเชื่อมทำให้ชีวิต
    พลิกผันและการที่เป็นช่างเชื่อมทำให้ได้ทิพจักขุญาณโดยบังเอิญคืองานเชื่อมนี่มันจะต้องมองที่แนวเชื่อมบริเวณบ่อหลอมละลายที่เกิดจากการอาร์คของไฟฟ้าตลอดเวลาและต้องเอาใจจดจ่อบ่อหลอมเหลวไม่งั้นแนวเชื่อมอาจะเสีย
    จึงทำให้มีสมาธิตั้งมั่นโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่เคยชอบอ่านหนังสือนิยายกำลังภาย
    ในและอ่านอย่างหนักจนชักจะเข้าใจวิธีการเดินลมปราณแบบกำลังภายใน
    เมื่ออยู่ตะวันออกกลางหาหนังสือกำลังภายในอ่านไม่ได้ก็หาอ่านประเภทพลัง
    จิต อำนาจจิต การสกดจิต การส่งเสียงส่งภาพทางจิตที่เรียกว่าโทรจิต สนใจ
    เรื่องลึกลับต่างดาว จานบิน UFO ของฝรั่งไปตามเรื่องตามราว

    ทีนี้มีอยู่วันหนึ่งขณะที่เชื่อมๆอยู่ที่ชาวบ้านเรียกว่าการอ๊อกนี่แหละมันก็เห็นขึ้น
    มาเฉยๆว่าเห็นมีบ้านเมืองที่มันเจริญรุ่งเรืองมากตึกรามบ้านช่องเป็นระเบียบ
    สวยงามสร้างด้วยวัสดุก่อสร้างคุณภาพดีเต็มไปทั่วหมด เห็นถนนลอยฟ้าทั้งใน
    เมืองและนอกเมืองมากมายแม้ทางระหว่างเมืองก็ลอยฟ้าเห็นด้านล่างของถนน
    ก็ทำการเกษตรต่างๆและที่เป็นทุ่งนาก็ราบเรียบเสมอกันหมด ใต้พื้นดินก็เต็มไป
    แร่ธาตุตามจุดต่างๆ และก็เห็นโรงกลั่นน้ำมันเห็นการเดินท่อส่งน้ำมันเรียก
    ว่าระเกะระกะด้านใต้ของทุ่งนาก็เห็นว่าเป็นทะเลน้ำมันดำเต็มไปทั่ว ก็คิดว่าเอ
    นี่มันเป็นที่ใหนหว่า ใจมันก็บอกว่าประเทศไทย ในตอนนั้นเวลาที่อารมณ์ใจมัน
    เบาๆมันจะเห็นเรื่องพวกนี้มากกว่าอย่างอื่น หนักๆเข้าก็เล่าเรื่องพวกนี้ให้เพื่อนที่
    สนิทฟังสองคนซึ่งไม่ทั้งสองก็ไม่เชื่อก็บอกว่าที่บอกเพราะเห็นว่าทั้งสองคนนี้
    ผมเห็นว่าไปทำงานเกี่ยวกับน้ำมันในภาพที่ผมเห็นและเมื่อทั้งสองกลับมาเมือง
    ไทยหลังจากที่อยู่ตะวันออกกลางคนละหลายปีก็ได้ลงไปทำงานในอ่าวไทยกัน
    จริงๆโดยที่เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งได้ทำงานได้ดีและนานจนได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้า
    แผนก Supervisor ของฐานผลิตก๊าสและน้ำมันฐานหนึ่งจนเกษียนไปเมื่อ
    สองปีที่แล้วนี่เองและเพื่อนคนนี้จะต้องเลี้ยงข้าวผมทุกครั้งไปที่เจอกัน

    ส่วนผมเองกลับทีหลัง ก่อนกลับก็บังเอิญไปอ่านหนังสือชื่อขวัญเรือนคอลัมน์
    คนพ้นโลก หรือเหนือโลก อะไรนี่แหละก็ไปอ่านเจอเรื่องที่หลวงพ่อท่านเล่า
    เรื่องตอนที่ท่านแอบหนีหลวงปู่ปานไปทดลองเดินบนผิวน้ำที่ท่าแพวัดบางนมโคพออ่านเจอก็นึกว่าพระที่ท่านทำได้อย่างนี้ยังมีอยู่ในโลกและยังมีชีวิตอยู่
    ก็คิดว่าเอาละเราหามานานแล้วคิดว่าจะหาไม่ได้อีกแล้วตอนนั้นดีใจมากตั้ง
    ใจว่าเมื่อกลับเมืองไทยเมื่อไรจะไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ทันที

    เอาเป็นว่าเมื่อผมได้มีวาสนาพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อทุกอย่างที่เคยสงสัย
    ก็หมดสงสัยไม่เสียทีที่เกิดมาได้เห็นปาฏิหารย์อิทธิฤทธิต่างๆขององค์ท่านจน
    ไม่มีอะไรจะถามได้เห็นได้สัมผัสกับสุดยอดของพุทธภูมิวิริยาธิกะพิเศษเมื่อ
    ท่านลาพุทธท่านก็สุดยอดของสาวกปฏิสัมภิทาญาณในยุคนี้

    เมื่อพบหลวงพ่ออย่างอื่นผมก็วางหมดพยายามที่จะศึกษาตามคำสอนของท่าน
    ทุกอย่างเต็มสติกำลังปัญญาความรู้ความสามารถจนกระทั่งมีวาสนาบวชอีกครั้ง
    เป็นครั้งที่สองของผมโดยที่ไปบวชในนิกายธรรมยุติแล้วก็มีเหตุอย่างที่เคยเล่า
    ไว้หลายครั้งและท้ายที่สุดมีโอกาสมาอยู่ใกล้ๆหลวงพ่อก็พยายามทำทั้งคันถะ
    ธุระและวิปัสนาธุระจนร่างกายทนไม่ไหวมีอาการเจ็บหลังจนเดินแทบจะไม่ได้
    อย่างเล่าไว้ตอนต้น

    ทีนี้พอตัดสินใจว่าจะไปตายในป่าที่จริงพร้อมตายตั้งนานแล้วเพื่อถวายเป็น
    พุทธบูชาแต่มันไม่ตายซะอย่าง พอไปเข้าจริงๆมันก็มีเหตุให้สึกออกมานี่
    ตอนนั้นถ้าหากว่าไปถึงที่เรียกว่าที่ตายป่านนี้ถ้านรกไม่ลากลงไปซะก่อน
    และถ้าเป็นไปตามที่ตั้งใจอธิฐานก็คงมาเกิดเป็นเด็กชายอายุก็คงจะสิบกว่า
    ปีแล้วละ

    ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องน้ำมันพอสึกออกมาหัวยังผมไม่ขึ้นเลยก็มีคนมาตามให้ไปทำ
    งานในอ่าวไทยเลยดีเหมือนกันไม่ต้องมัวไปตายแล้วเกิดใหม่ แต่มันไม่ดีอี
    ตรงที่ไอ้ที่จะตายแล้วเกิดใหม่นั้นตั้งใจจะเป็นคนรวยเป็นเจ้าของน้ำมันเจ้าของ
    แร่ธาตุต่างๆเพื่อจะวางรากฐานให้เกิดประโยชน์สูงสุดของปวงชนชาวไทย
    และประเทศไทย ไม่ใช่ดันเป็นกรรมกรอย่างตอนนี้แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวมันตายของ
    มันจนได้ซักวัน

    ก็ขอยืนยันว่าน้ำมันของไทยนั้นมีจริงแท้แน่นอนตามที่หลวงพ่อบอกไว้ทุกประ
    การถามว่ารู้ได้ไงมุดลงไปดูมาหรืออย่างไร ผมก็เดาเอาจากการที่ทำงานมา
    เกือบยี่สิบปีนี้เห็นมันมีแต่ขยายกำลังการผลิตกันทุกปี และการสำรวจขุดเจาะ
    และการผลิตก็ทำกัน24ชั่วโมงแบ่งเป็น2ผลัดๆละ12ชั่วโมงไม่มีวันหยุด ฐาน
    บางฐานที่เคยผลิตก๊าสในตอนนี้ก็หันมาสูบเอาน้ำมันขึ้นมาแล้วหลายปีแล้วก็
    กำลังขยายการผลิตอย่างรีบเร่ง โครงการวางท่อส่งก๊าสท่อที่สามก็มีแล้วเอา
    ย่อๆก่อนพูดมากมันจะตกงานเอาง่ายๆ และอีกอย่างเจ็บหลังที่แผลผ่าตัดเป็นอย่างมากบริเวณปลายขาก็ชาจนเจ็บวันหน้าค่อยมาเล่าต่อ

    อ้อต่อท้ายหน่อยการที่เป็นช่างเชื่อมมาก่อนและขณะที่เพ่งมองบ่อหลอม
    ละลายขณะเชื่อมมันคือกสินไฟนี่เอง และกรรมฐานของผมพระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อบอกให้เอางานนั่นแหละเป็นสมาธิ
     
  14. changtai

    changtai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +298
    ขอบคุณจริงๆครับที่มีคนเข้ามายืนทั้ง 2 ท่าน โดยเฉพาะท่านที่ว่าเป็นพระโพธิสัตว์ครับ นี้ละน้ำจิตน้ำใจของคนที่ต้องการช่วยชาวโลกละ บอกตรงๆชื่นหัวจิตหัวใจเหลือเกินครับไม่ใช่ที่ว่าท่านคิดเหมือนผมแต่ที่ทำตั้งใจทำต่างหากครับโมทนาบุญกับทุกท่านนะครับเห็นชื่อบางท่านในกระทู้แล้วบอกว่าเป็นพระโพธิสัตว์แต่พออ่านชื่อบ้างดูลีลาการคุยบ้างแล้วบ้างท่านนี้คงต้องไปเรียนวิชากับท่านปู่พุธ(พญายม)อีกหลายวาระ พวกเธอทั้งหลายลองอ่านที่เราจะเขียนแล้วคิดตามนะ สมมุติว่าเธอเป็นครูสอนหนังสือที่เธอตั้งใจสอนมากเป็นวิชาที่ได้มายากเพราะต้องการหาวิธีการเรียนที่เรียนแล้วเข้าใจง่ายๆ แต่วันหนึ่งมีพวกลูกศิษย์ท้ายห้องคุยกันเสียงดังแถมยังบอกว่าครูอะไรสอนไม่รู้เรื่องทั้งๆที่ไอ้ที่ไม่รู้เรื่องเพราะเธอไม่ตั้งใจฟัง เป็นเธอจะรู้สึกอยากไร ที่สำคัญดันมีคนนอกได้ยินด้วยแล้วเขาเอาไปพูดกันว่า ดูซิขนาดลูกศิ ษย์ของตัวยังว่าทั้งๆที่เขาไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เธอจะทำอย่างไร ก็เหมือนกับคราวนี้ละ บางคนประกาศตัวว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีกี่ปีวัดยังไม่เคยเยียบศีลยังไม่ครบหนังสือหรือเทปก็ไม่สนใจที่จะอ่านที่จะฟังก็พูดกันซะแล้วจะให้คนอื่นคิดอย่างไงกับลูกศิษย์ขององค์หลวงพ่อคำว่า วิจิกิตฉา ความสงสัยนะแม้ พระโสดาบันก็ยังมีเรายืนยันได้ แต่นะ แต่ ท่านไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธครู แต่ท่านสงสัยว่าท่านจะทำต่อให้สูงขึ้นอย่างไรได้บ้าง ธรรมข้อนี้ต้องพิสูจน์อย่างไร พระท่านกล่างไว้นี้เอเป็นยังไงว่าแล้วท่านจึงทำ ไม่ใช่ทำส่งเดช เพราะอะไรท่านจึงยังสงสัง เพราะ1ท่านยังไม่มั่นใจในความดีขอท่านเอง แต่มั่นใจในความดีของพระ2เพราะท่านมี ธรรมในใจข้อกาลามสูตรเต็มหัวจิตหัวใจท่านต่างหากนี้ยังไม่รวมถึง ครั้งที่พระท่านถามพระสารีบุตรว่าพระสารีบุตรเชื่อที่พระสอนไหน พระสารีบุตรท่านว่า ไม่เชื่อ ท่านจะเชื่อเมื่อท่านพิสูตรแล้ว นี้ละเป็นข้อยืนยัน ใน คำว่า วิจิกิจฉาได้เป็นอย่างดี
     
  15. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ขออนุโมทนาสาธุ กับการตั้งใจดีด้วยคะ
    อ่านที่คุณPCO เล่ามาแล้วได้กำลังใจมากๆ และ คุณpraykaew ยังช่วยย้ำให้มั่นใจในการปฎบัติขึ้นมาอีก ตอนนี้รู้สึกดีมากๆเลย กำลังปฏิบัติตามคำสอนหลวงพ่ออยู่ แต่ก็ยังไม่มั่นใจในตัวเอง แต่มั่นใจในคำสอนหลวงพ่อน่ะ

    ปล. เอ้ งั้นตอนนี้เราก็ไม่ต้องไปติดตั้งถังแก๊สหรอกเนอะ เพราะอีก 2-3 ปี เราจะได้ใช้น้ำมันถูก ไม่เกินลิตรละประมาณ 10 บาท กันแล้วเนอะ เป็นความหวังของคนใช้รถจ้า (^()^)
     
  16. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เรื่องน้ำมันนั้น ผมได้ข่าวมาเหมือนกัน ว่ามีหลายประเทศ พบในประเทศไทย
    แต่ทุกอย่างเงียบเมื่อตกลงกันไม่ได้ อีกทั้ง แหล่งที่คนพบโดยบังเอิญแต่ยัง
    ไม่บอกทางรัฐเพราะไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์ตราบใดยังหาความโปร่งใส
    ไม่ได้
    สมัยเด็กๆผมคิดเสมอว่า ประเทศไทยจะเจริญเป็น ประเทศพัฒนาแล้ว สมัยนั้น
    บ้านผมยังเป็นบ้านไม้เก่าๆอยู่เลย แต่ในฝัน ผมก็เห็นทุกนาของผมที่ผมเห็นโล่งทุกวันนี้ เต็มไปด้วย บ้านจัดสรร มองไปไกลชายทุ่งหน่อยมีแต่ตึกสูงๆใหญ่ไม่ต่างกะ สิงคโปร์ตอนนี้เลย และไม่รู้ว่าบ้านจัดสรรที่เห็นนั้นมันเหมือนบ้านจัดสรร สมัยนี้เลย หลังคาสีส้ม เหมือนกันเกือบหมด ทั้งๆที่สมัยนั้นผมไม่เคยเห็นบ้านแบบนั้นเลย ถนนโล่งมาก มีรถไม่กี่คัน ดูมันเจริญมาก
    แต่มาปัจจุบัน นั้น ไม่นานมานี่เองผมกับฝันอีก ฝันว่าผมพยายามไปหาที่วิเวก
    ไปตามป่าเขา นั่งรถขึ้นไปบนดอยแห่งนึง ออกจากตัวเมือง พอไปถึงยอดเขากับเห็นเป็นพื้นราบ มองไปทางตะวันตกก็เห็น มีเมืองที่เจริญมาก ตึกไม่สูงเท่าไหร่แต่เป็นระเบียบเรียบร้อย ผมก็คิดในใจตัวเองว่า อุตสาห์ขึ้นมาถึงที่นี่ได้ยังเจอความเจริญอีกเหรอเนี่ย

    ตอนเด็ก อยากให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
    แต่ตอนนี้กลับไม่สนว่าเทคโนโลยีจะทันสมัยอย่างไร แต่อยากให้
    คนไทย มีศีล มีเมตตา มีความเป็นไทเหมือนที่หลวงพ่อบอก จริงๆ
    เรียนปริญญาตรีมา ไม่ได้สอนให้คนมีจริยธรรมเลย ผมเสียใจกับความ
    รู้ที่มาก แต่ จริยธรรมมันลดลง แบบนี้
     
  17. พุทธรัตนา

    พุทธรัตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +522
    สาธุ อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย
    ถ้าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองไทยเป็นคนไทอย่างที่หลวงพ่อว่า
    ไม่ต้องมีน้ำมันมาก ทองคำไม่ต้องเยอะ(สมบัติภายนอกทั้งนั้น)
    เมืองไทยก็เจริญแล้ว ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...