ถามผู้รู้จริง..........

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย yuth01, 12 มิถุนายน 2010.

  1. yuth01

    yuth01 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +1,152
    ผมมีข้อสงสัย คำสอนของบางสำนัก เนื่องจากผมเป็นผู้ท่องเที่ยว
    แสวงหาความรู้ ไปได้ฟังคำสอนของเจ้าสำนักหนึ่ง ที่พอสรุปได้คือ
    1. การทำสมาธิให้จิตสงบนิ่ง ไม่ใช่ทางที่ถูกเป็น "แบบฤาษี"
    2. เทวดา สวรรค์ นรก สัตว์นรก ฯลฯ เป็น มโนมยอตฺตา
    จิตปรุงแต่งสร้างภาพไปเอง ของจริงไม่มี
    3. ผู้สิ้นกิเลสแล้วยังกลับมาเกิดเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกได้ อยู่ที่การ
    อธิษฐานของผู้นั้น
    4. ผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ " พุทธภูมิ" และยังเป็นพระโพธิสัตว์
    เป็นผู้สิ้นกิเลสเป็นพระอริยะเจ้าแล้ว ก็ยังกลับมาเกิดเพื่อบำเพ็ญ
    บารมีได้
    5. มีศิษย์ในสำนักบางท่าน เขียนคำถามมาว่า "นั่งสมาธิจนสามารถ
    พิจารณาสังขาร เห็นร่างกายของตนในนิมิต และเปลี่ยนแปลงไป
    ตามกฏไตรลักษณ์ จนเห็นเหลือเป็นโครงกระดูก" ท่านตอบว่า ​
    "ผิด" เพราะเป็นการปรุงแต่งของจิต เป็น"มโนมยอตฺตา"

    สำหรับผมเชื่อในหลักธรรมคำสอนของพระสงฆ์สำนัก" พระป่า"

    โดยมีพ่อแม่ครูอาจารย์ " หลวงปู่มั่น" เป็นหลักชัย
    และมีพ่อแม่ครูอาจารย์ลูกศิษย์ของท่านคือ "หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน"
    ที่เคารพศรัทธา ฟังธรรมจากท่านเป็นประจำ
    เนื่องจากถูกกับจริตของตนเอง

    ที่ตั้งกระทู้ไม่ใช่ต้องการปรามาส หรือลบหลู่ท่านผู้ใด เพราะเป็นทางของท่านเหล่านั้น
    แต่เมื่อมีข้อสงสัยก็ต้องสอบถามผู้ที่รู้กว่า จนถึงรู้ยิ่ง
    ก็จะได้มาซึ่งคำตอบที่เป็นจริง ซึ่งในWebนี้มีอยู่ไม่มีประมาณ
    และเห็นว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับบางท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน
    ความรู้เหล่านั้น "เพื่อให้มีความเห็นตรง เป็นสัมมาทิฏฐิ" ต่อไป​
     
  2. มังคละมุนี

    มังคละมุนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +608
    ผมมิใช่เป็นผู้รู้หมด แต่ก็เป็นผู้รู้บ้าง ขอมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นดังนี้

    1)การสงบนิ่งก็ถูก แต่เมื่อจิตสงบนิ่งดีแล้วต้องมีปัญญาเข้าไปแทรกจิตจึงจะเติบโตทางจิตวิญญาณ เห็นตามความเป็นจริงได้ดี
    เพราะจิตที่สงบและปราศจากนิวรณ์ย่อมส่องเห็นธรรมได้ชัดกว่าจิตที่วุ่นวายไปด้วยกิเลสและอาสวะ (สมาธิกับปัญญาย่อมคู่กันในการกำจัดกิเลส)

    2)จิตที่ยังประกอบด้วยอุปาทาน อย่างมนุษย์ก็ตาม อย่างเทพก็ตาม อย่างนรกก็ตาม อย่างพรหมก็ตาม หรือจะแทนคำว่า"อุปทาน"ด้วย"มโนมยอัตตา"ก็ตาม
    จิตย่อมสร้างความยึดมั่นถือมั่นได้ตามความสามารถของจิต ณ ขณะนั้น

    ส่วน"ของจริง"นั้นไม่มี นั้นน่าจะถูก โดยสังเกตตามพุทธพจน์ที่ว่า
    "ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา"
    หรืออาจจะแยกพิจารณาว่าจริงโดยสมมุติว่าเป็นอุปาทาน
    และจริงโดยปรมัตถ์นั้นเป็นสัจจะ

    สรุปว่าถ้าจริงโดยสมมุติก็คือมี"ของจริง" คือจะมีจะเป็นไปตามสมมุตินั้นๆ
    ถ้าจริงโดยปรมัถต์ก็เป็นสัจจะ และสัจจะก็คืออนััตตา(ตามพุทธพจน์) พอเป็นอนัตตา"ของจริง"ก็ไม่มี อุปทานก็หมดลงตรงนี้ จิตจึงจะบริสุทธิ์

    3)คติของผู้สิ้นกิเลส
    คติทางเถรวาทนั้นไม่กลับมา แต่คติทางมหายานนั้นสามารถกลับมาได้
    แต่ถ้าเราถือว่าคติทั้งสองเป็นเพียงส่วนย่อย การดับทุกข์หมดกิเลสเป็นเป้าหมายใหญ่ จะกลับหรือไม่ก็ตามก็สิ้นทุกข์เหมือนกัน ถืออย่างนี้ดีกว่า

    ส่วนตัวผมเชื่อว่าไม่กลับโดยถือตามพุทธพจน์ที่ว่า

    "แน่ะนายช่างผู้ปลูกเรือน เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว เจ้าจักสร้างเรือนให้เราต่อไปอีก ไม่ได้ โครงเรือน ของเจ้าเราหักเสียยับเยิน หมดแล้ว ยอดเรือนเราขยี้เสียแล้ว จิตของเราถึงความเป็นธรรมชาติ ที่อารมณ์จะยุแหย่ยั่วเย้าไม่ได้เสียแล้ว มันได้ลุถึงความหมดอยากทุกอย่าง"

    4)ตามความเชื่อของผม โพธิสัตว์ย่อมมีกิเลสเหลือ ย่อมเวียนว่าย
    แต่มีคติแน่นอนว่าจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต (ชาติภพของพระพุทธเจ้าในชาดกถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์)

    5)ถ้าเห็นไตรลักษณ์ได้เท่าไรย่อมทำลายกิเลสอาสวะได้ตามความสามารถที่เห็น
    จะเห็นไตรลักษณ์ โดยกาย โดยเวทนา โดยจิต หรือโดยธรรม ก็ตาม

    และถ้าจิตแจ่มแจ้งในไตรลักษณ์โดยตลอดในส่วนใดส่วนหนึ่งก็ตาม
    คือในกาย เวทนา จิต ธรรม อย่างใดอย่างหนึ่ง (แจ่มแจ้งทั้งหมดในส่วนนั้นๆ)
    จิตจะแจ่มแจ้งในส่วนอื่นด้วย และจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด


    ผมเคยมีปัญหาอย่างคุณเหมือนกันจนกระทั่งมีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง
    ท่านได้แสดงธรรมจนผมเข้าใจว่าอย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ แล้วผมก็เข้าใจธรรมะได้ดีกว่าแต่ก่อนมาก

    ด้วยเหตุนี้เองพระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสไว้ว่า
    "สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณของพระนิพพาน"


    และขอให้พระธรรมคุ้มครองคุณและเหล่าสหธรรมิกของเราทั้งหลาย
    เพื่อการเดินทางที่ถูกต้องจนถึงที่สุดคือพระนิพพานด้วย เทอญ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ผิดทุกสำนักนั่นแหละ ปฏิบัติแต่แรกๆก็ลองผิดลองถูก
    อาศัยสมมติ สาวไปหาวิมุตติ ความหลุดพ้น


    นิมิตที่เห็น พระไตรลักษณ์ จะไม่ทำให้นักภาวนาเป็นบ้า
    เพราะไม่ติดในนิมิตเห็นสภาวธรรมะตามความเป็นจริง ไม่เหมือนอย่างผู้ที่ยังปฏิบัติไม่ถึงกฏของพระไตรลักษณ์ได้ฟันธงเอาไว้แบบไม่รับผิดชอบคำพูดของตนว่า ติดนิมิต

    ให้เห็นกฏพระไตลักษณ์ซะก่อน แล้วถึงจะรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นบ้าเห็นธรรมะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

    พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ แม้ท่านจะบรรลุถึงความเป็นพระพุทธะแล้วก็ตามท่านก็ยังทำหน้าที่พระโพธิสัตว์รื้อสันต์ขนสัตว์เข้าพระนิพพานจนวาระสุดท้าย

    มหายานมีคัมภีร์ที่ถ่ายทอด กันต่อมาผมได้อ่านอยู่มีใจความว่า
    มีพระมหาโพธิสัตว์ ได้ทูลถามปัญหากับพระศากยมุนีทำนองเดียวกันว่าถ้าในเมื่อสรรพสัตว์มีจิตที่บริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้ว
    ทำไม่ยังต้องมาเกิดอีก
    พระศากยมุนี ได้ตอบคำถามพระมหาโพธิสัตว์
    ธรรมชาติ ทองคำที่ยังไม่บริสุทธิ์ก็ต้องมีการถลุงทอง
    เพื่อให้ได้ทองแท้ แต่ทองคำแท้ๆที่บริสุทธิ์แล้วก็ยังต้องถลุงอีก การบรรลุคุณธรรมก็แบบนั้น

    และปราชญ์จีน ได้พยากร ให้ ฮ่องเต้ ฟังว่าแสงที่พระองค์เห็น
    ทางฝั้งตะวันออก เป็นแสงตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ถืออุบัติขึ้นในโลก และ ทางประเทศจีนได้จดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

    ถ้าจะให้ผมหาหลักฐานมายืนยัน ไม่เท่าท่านไปศึกษาเพิ่มเติม
    จากที่ผมถอนออกมาจากสัญญาเดิม เพื่อเป็นไกด์ให้ท่านได้ศึกษาต่อท่านผู้เจริญ
     
  4. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    เบื้องต้นให้ถือว่าเรื่องใดๆถ้าเข้าข่าย ละกิเลสก็ใช้ได้ เพราะเป็นมนุษย์เดินดินด้วยกันปัญญาคงไม่แตกต่างกันมากนัก ยิ่งอธิบายเรื่องนามธรรมด้วยแล้ว ลองไปถามมนุษย์หลายๆคนจะตอบไม่ตรงกันเลย ที่เรียกว่ามากหมอมากความไงล่ะ ฉนั้นสรุปได้เลยว่าไม่รู้จะเชื่อใครดี แต่ละคนก็ว่าตัวเองถูก นี่คือมนุษย์ครับ........แต่แปลกผมเคยศึกษามา ร่างทรง(ที่ไม่หลอกลวง)ที่มีเทวดาชั้นสูงมาเข้าหลายคนกลับพูดไปในทางเดียวกัน เหมือนกับว่ามาจากความจริงเดียวกัน ไม่กลับไปกลับมาหมือนความเห็นของมนุษย์ และที่เขาเรียกว่า คน ก็เพราะคนกันไปคนกันมา ผสมกันจนเละ.......เหนือฟ้ายังมีฟ้า......เหนือมนุษย์ยังมีเท วดา อยู่ที่ว่าเราต้องหาเทวดาให้เจอ จึงจะได้ความจริงในเรื่องนามธรรม อย่าเพิ่งเชื่อ นะครับ ค่อยๆคิด คิดนานๆ ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ
     
  5. thumboon.com

    thumboon.com Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +26
    เขาจะดี กว่าเรา ช่วยเขาเถิด มันจะเกิด ผลดี กว่าที่หวง
    ไว้ดีเด่น แต่เรา เฝ้าประทวง โลกยิ่งกลวง จากความดี คืออะไร??

    ขออนุโมทนา สำหรับคำถาม และคำตอบทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...