เชิญร่วมพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่ครูบาชุ่มและครูบาวิฑูรย์

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย โมฆบุรุษ, 2 มิถุนายน 2006.

  1. โมฆบุรุษ

    โมฆบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +6,023
    สาส์นจากภารโรงประจำคณะอินทราพงษ์

    ก่อนอื่น ผมขอถือโอกาสนี้ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อบุญรัตน์ หลวงพี่นันต์ หลวงพี่ชัยวัฒน์
    หลวงตาวัชรชัย หลวงพี่เล็ก และคุณอาอรรณพ
    ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง
    สำหรับความเมตตาและความกรุณาที่ครูบาอาจารย์ทุกๆท่านได้สงเคราะห์ให้คำแนะนำปรึกษาพวกเรา
    ยังผลให้หนังสือเล่มนี้ออกมาได้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่กำลังทรัพย์
    กำลังปัญญา และกำลังความสามารถของทีมงานจะเอื้ออำนวยในเวลาจำกัดด้วยครับผม

    เมื่อไม่นานมานี้
    ชุมชนออนไลน์เล็กๆของพวกเราได้รับความเมตตาจากหลวงพี่เล็ก ได้ตั้งชื่อให้ชุมชนของเราว่า อินทราพงษ์
    หมายถึงวงศ์วานของพระอินทร์
    ซึ่งเป็นชื่อตึกที่ทำงานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    หรือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ผู้ที่เป็นพระอริยสงฆ์อันดับหนึ่ง
    ที่สมาชิกทุกคนในชุมชนเล็กๆแห่งนี้ยึดถือเป็นสรณะ
    จนได้มารู้จักกันได้ในชาติปัจจุบันนี้(อีกครั้งหนึ่ง)ครับ

    หนังสือเล่มนี้จึงถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นแรกของชุมชนเล็กๆของพวกเรา
    ที่เป็นชิ้นเป็นอัน สามารถจับต้องสัมผัสได้ ไปโดยปริยายครับ
    หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายๆอย่างด้วยกันครับ
    อย่างแรกที่สุดก็คือดำริของครูบาวิฑูรย์(จากการจุดประกายของพี่นนท์) ที่จะทำหนังสือขึ้นมาเพื่อแจกเป็นธรรมทาน
    ในวาระที่ท่านจะออกจากการเข้าพระกรรมฐานเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืนด้วยกัน
    ในวันที่ ๒๖ กันยายน ปีพ.ศ.๒๕๔๙ ที่จะผ่านมาครับ

    ผมเองก็ได้รับปากกับท่านไว้แต่เพียงว่า
    จะหาทุนมาพิมพ์หนังสือให้เป็นจำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม
    ซึ่งตอนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าจะหามาได้อย่างไร (แต่กะไว้คร่าวๆว่า
    หากคิดค่าพิมพ์อย่างเดียว คือเล่มละ ๓๐ บาท ก็น่าจะต้องใช้ปัจจัย ๓๐,๐๐๐
    บาทครับ ซึ่งก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับคนที่ยังไม่มีงานประจำอย่างผมครับ)
    แต่ก็ตั้งใจไว้ว่า จะสวดพระคาถาเงินล้าน
    และขอบารมีหลวงพ่อฤๅษีลิงดำและหลวงปู่ครูบาชุ่ม
    ช่วยเมตตาสงเคราะห์ให้มีทุนเข้ามาสนับสนุนพวกเราอย่างเพียงพอด้วยครับ

    และก็โชคดีที่พี่ออดได้รับปากว่าจะช่วยรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้นให้
    โดยประสานงานกับพี่นนท์ ที่คอยเดินทางมาลำพูนจากกรุงเทพบ่อยๆ
    เพื่ออุปัฏฐากครูบาวิฑูรย์อยู่บ้างเป็นบ้างครั้งบางคราวครับ
    นอกจากนี้ ก็มีน้องท้อปและน้องฉอ ที่แสดงเจตนาที่จะช่วยตั้งแต่แรกเช่นกันครับ

    มีการกล่าวกันว่า ผู้นำที่แท้จริง ไม่ต้องมีการแต่งตั้ง
    ไม่ต้องมียศถาบรรดาศักดิ์ทางโลกแต่อย่างใด
    หากเมื่อใดที่มีเรื่องสำคัญ มีความจำเป็นเกิดขึ้น ผู้นำโดยสัญชาติญาณนั้น
    ก็จะลุกขึ้นมานำกลุ่มคน
    เพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ส่วนรวมมากที่สุดครับ
    ผมคิดว่าข้อความนี้ ยิ่งเป็นจริงยิ่งขึ้นเมื่อเป็นเรื่องของกิจการงานพระพุทธศาสนา
    ในงานนี้ก็เช่นกัน
    เราก็ได้ผู้นำคนใหม่เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวในความไม่พร้อมในหลายๆด้านของทีมงาน
    ซึ่งก็โชคดีที่ผู้นำ้ท่านนี้
    มีประสบการณ์การจัดพิมพ์หนังสือมาก่อนจากความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพอยู่แล้วด้วยครับ
    ผู้นำท่านนี้ก็คือ พี่เก๋ ที่ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือพวกเราในการประสานงาน
    ตั้งแต่รวบรวมข้อมูลต่างๆ จัดทำรูปเล่มที่สวยงาม และอ่านง่าย
    แต่คงความทันสมัยนิยมไว้ได้อีกด้วย
    ผมในฐานะของภารโรงประจำคณะอินทราพงษ์
    ต้องขอกราบขอบพระคุณพี่เก๋เป็นอย่างสูง ที่สละเวลาเข้ามาทำงานตรงนี้
    แบบไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
    และทำไปด้วยความทุ่มเทเพื่อพระบวรพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
    แถมให้ด้วยการไม่คิดเงินค่าจ้างรางวัลแต่อย่างใดด้วยนะครับ
    ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่งให้พวกเราสามารถควบคุมต้นทุนการพิมพ์ลงได้เป็นจำนวนมากด้วยครับ

    แม้ว่าผู้นำจะดี แต่หากผู้ร่วมงานไม่ดี
    งานใดๆก็คงไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีได้เลยครับ
    อีกท่านที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ไม่ด้อยไปกว่าพี่เก๋ ก็คือพี่นนท์
    ซึ่งเป็นผู้ที่คอยจดบันทึกและรวบรวมข้อมูลต่างๆ
    จากครูบาวิฑูรย์และชาวบ้านวังมุยอีกหลายๆท่านมาตั้งแต่ในตอนแรก
    และนำมาเรียบเรียงออกมาเป็นเนื้อหาหลายๆส่วนในหนังสือเล่มนี้ครับ
    (โดยได้รับความช่วยเหลือจากน้องท้อปและน้องฉอในบางส่วน)

    พี่นนท์ไม่ได้อยู่ใกล้ลำพูนแต่อย่างใด อยู่ถึงกรุงเทพ
    แต่ก็ขวนขวายเดินทางไป เดินทางกลับ บ่อยครั้งมาก
    โดยทำงานเป็นเบื้องหลังจริงๆ
    เพราะไม่เคยจะมาเอ่ยปากขอค่าตอบแทนหรือสินจ้างรางวัลอะไรกับใครเลยครับ
    ซึ่งก็คล้ายๆกับพี่เก๋ ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี
    และไม่ได้มีเงินมากมายเหลือกินเหลือใช้จนไม่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพนะครับ
    ฉะนั้น การที่พี่ๆทั้งสองลงแรงกาย ทุ่มแรงใจออกมานั้น
    ก็เนื่องมาจากศรัทธาที่เต็มเปี่ยมที่จะช่วยเผยแพร่เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ออกไปเป็นธรรมทาน
    เพื่อเป็นการเชิดชูพระบวรพุทธศาสนาในทางหนึ่งด้วยครับ
    ผมต้องขอขอบพระคุณพี่นนท์เป็นอย่างสูง เช่นเดียวกับพี่เก๋ มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ

    ทีมงานท่านอื่นๆที่คอยประสานงาน
    คอยเดินทางเข้าไปวัดวังมุยเพื่อติดต่อสอบถามและแจ้งข่าวให้กับทางครูบาวิฑูรย์ได้รับทราบเป็นระยะๆด้วยครับ
    เพราะว่าบางที การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เพียงพอต่อรูปแบบของข้อมูลครับ
    ซึ่งในกรณีนี้ ก็คือ พี่ออด นายเอ็ม น้องท้อป และน้องฉอ
    ที่ผมต้องขอขอบคุณที่สละเวลาทำงานหาเงิน
    ขับรถเป็นระยะทางไกลๆเพื่อการณ์นี้ด้วยนะครับ

    ผมต้องขอขอบคุณพี่อ๊อดสำหรับข้อมูลและความคิดเห็นในฐานะลูกศิษย์หลวงพ่อมานาน(กว่าผมเยอะ)
    ขอบพระคุณพี่เพ็ญและนายเอ็ม ที่เป็นกำลังใจให้อยู่เบื้องหลังเงียบๆ
    คอยเป็นคู่คิดให้พี่เก๋ในยามที่พี่เก๋เครียดจากงาน
    ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนที่ต้องเป็นศูนย์รวม คอยสาน คอยต่อ
    คอยรับเรื่องราวต่างๆของผู้ร่วมงานท่านอื่นๆด้วยครับ
    ขอบพระคุณทีมงานของน้องท้อป และน้องฉอ ที่ได้ช่วยออกแบบหน้าปกหนังสือที่ดูขลังและดึงดูด
    แต่ไม่ล้าสมัยด้วยครับ

    ขอบพระคุณพี่เหมียว ที่ช่วยหาข้อมูลจากนิตยสารฉบับหนึ่งให้ในตอนแรก
    แบบตั้งใจมากที่จะขอข้อมูลในส่วนนี้มาให้ได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้มา
    แต่ก็ได้เห็นน้ำใจพี่เหมียวตรงนี้ครับ
    ขอบพระคุณพี่บุญทรงที่พิมพ์บางส่วนจากหนังสือ"ตามรอยพระพุทธบาท"มาให้ครับ

    ขอบพระคุณคุณแด๋น คุณแอ้ม และคุณตุ๋มที่อาสาสมัครเข้ามาช่วยพิสูจน์อักษรให้ด้วยครับ
    ขอบพระคุณท่านที่ช่วยพิมพ์งานให้ ซึ่งเท่าที่ผมทราบก็จะมีน้องน้ำมนต์
    พี่เพ็ญ และนายเอ็ม
    ขอบพระคุณที่ปรึกษาอันทรงคุณวุฒิ(ในสายตาของผม) คือ พี่เทพและพี่โอ๋
    สำหรับคำแนะนำดีๆ
    วิธีคิดตัดสินใจในเรื่องต่างๆตามหลักการคิดของครูบาอาจารย์ที่พวกเราเคารพนับถือด้วยครับ

    ขอบพระคุณพี่นนท์อีกครั้งที่ได้ไปตามหาลูกศิษย์หลวงพ่อและหลวงปู่ครูบาชุ่ม ที่มีความอาวุโสเป็นอย่างยิ่ง
    จนพวกเราได้ข้อมูลดีๆมาเพิ่มอีกเยอะเลยครับ ซึ่งก็คือคุณอาอรรณพนะครับ
    พร้อมกันนี้ คุณอาอรรณพยังได้ร่วมทำบุญค่าพิมพ์หนังสือและค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินการมาอีก
    ๓๐,๐๐๐ บาทครับ ทำให้พวกเราทำอะไรหลายอย่างได้สะดวกคล่องตัวยิ่งขึ้น
    และสามารถปรับปรุงในหลายๆส่วน
    ที่เคยได้ตีกรอบไว้อันเนื่องมาจากงบประมาณที่เคยมีจำกัดด้วยครับ
    คณะอินทราพงษ์ต้องกราบขอบพระคุณคุณอาอรรณพด้วยความซึ้งใจมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

    อีกท่่านที่ช่วยหาทุน ช่วยบอกบุญแบบสม่ำเสมอตลอดงาน ก็คือพี่ออดครับ
    ปัจจัยจำนวนมากที่พวกเราได้รับบริจาคมานอกเหนือจากของคุณอาอรรณพนั้น
    ก็ได้มาจากที่พี่ออดช่วยประชาสัมพันธ์ให้นี่แหละครับ ขอบพระคุณมากครับพี่

    ขอบพระคุณพี่เพ็ญ นายเอ็ม และน้องน้ำมนต์
    ที่ช่วยกันตรวจสอบบัญชีการโอนเงินทำบุญด้วยความละเอียดถี่ถ้วน
    เพื่อไม่ให้พวกเราต้องสร้างอกุศลกรรมโดยไม่รู้ตัวด้วยครับ
    และขอบพระคุณพี่ปูเป้ที่ให้ยืมบัญชีในกรุงเทพมารับบริจาค
    ทำให้ผู้ร่วมบุญหลายๆท่านประหยัดค่าโอนข้ามเขตไปได้พอสมควรเลยครับ

    กระผมขออารธนาพระบารมีและอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
    อันมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์เป็นประธาน
    ได้โปรดดลบันดาลให้ทีมงานและผู้ร่วมทำบุญในงานนี้ทุกๆท่าน
    ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานตามความปรารถนาของแต่ละท่านด้วยนะครับ
    หากท่านใดที่ปรารถนาซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้
    ก็ขอให้บรรลุซึ่งพระอรหัตตผลด้วยความง่ายดายและรวดเร็วที่สุดในชาติปัจจุบันนี้ด้วยครับ
    หากท่านใดที่ปรารถนาซึ่งพระสัพพัญญุตญาณหรือพระปัจเจกโพธิญาณ
    ก็ขอให้ท่านผู้นั้นสามารถบำเพ็ญบารมีทั้ง ๓๐ ทัศให้เต็มหมดได้ในเวลาอันสั้นที่สุดด้วยเทอญฯ

    อนุโมทนาสาธุครับ
    ธนัท ทองอุทัยศรี
    ภารโรงประจำคณะอินทราพงษ์
     
  2. pannarai

    pannarai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +1,922
    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เสียสละกำลังกาย เวลาที่ผลิตหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาค่ะ
    ทุกตัวอักษรตั้งแต่ตัวแรกจนตัวสุดท้าย...อ่านแล้วอ่านอีก ยังหยิบอ่านหยิบดูอยู่ค่ะ ...มีหลายๆคนชมตั้งแต่แรกเห็น หลายคนรับปุ๊บ อ่านเลยไม่ยอมวาง
    แม้แต่ชาวบ้านวังมุยเองก็ตาม ..ยังชมค่ะ ว่าทำประวัติครูบาชุ่ม ได้ละเอียดดีค่ะ
    หนังสือเล่มนี้ จะอยู่ตลอดไป และคงจะมีผู้ที่สนใจเพิ่ม อีกไม่น้อยเลยค่ะ
     
  3. ณภัทร

    ณภัทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +207
    เมื่อวานได้เจอครูบาวิฑูรย์ที่ทำงาน (กทม.) เจ้านายนิมนต์ท่านมา หรือว่าท่านมาเองก็ไม่แน่ใจครับ. ดูท่านยังหนุ่มอยู่เลยนะครับ ผมเข้าใจเอาเองว่า "ครูบา"น่าจะเป็นพระที่บวชมานานๆ ปฏิบัติดีปฏิบัติ และทำประโยชน์กับชาวบ้านมาก จนชาวบ้านยกย่องให้ท่านเป็น "ครูบา" แต่เดี๋ยวนี้เห็นครูบาเยอะแยะไปหมด ก็เลยจะงงๆ นิดหน่อยครับ หรือว่าผมอาจจะเข้าความหมายของคำว่าครูบาผิดไป. ครูบารุ่นใหม่คงจะคนละแบบกับครูบาในอดีต.
     
  4. โมฆบุรุษ

    โมฆบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +6,023
    "ครูบา"เป็นคำเรียกพระภิกษุทางสายเหนือครับ

    แม้ว่าพรรษาท่านยังน้อยอยู่
    แต่เรื่องการปฏิบัตินั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพรรษาหรืออายุครับ

    เรื่องของความศรัทธานั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลดีกว่าครับ
    ผมเองช่วยเหลือกิจของท่านบางอย่าง เพราะว่าครูบาอาจารย์ที่ผมมีความเคารพนับถือ ท่านบอกว่า"ครูบาเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบครับ"
    ผมมีความเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ของผม ฉะนั้นประโยคสั้นๆประโยคนี้ ก็เกินพอสำหรับตัวผมเองแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...