ภัยน้ำท่วม!!!

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ดอยอ่างขางดินถล่ม!ดับ5หาย4 กรุงเก่าตลาด อ.ท่าเรือใกล้จมมิด [9 ต.ค. 49 - 11:21]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตลอดคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (9 ต.ค.) ได้ทำให้เกิดดินถล่มในพื้นที่ 4 หมู่บ้านของ ต.แม่งอน อ.ฝาง ที่ตั้งอยู่บริเวณดอยอ่างขาง ล่าสุดพบผู้เสียชีวิต 5 คน สูญหาย 4 คน บ้านเรือนพังเสียหาย 10 หลัง
นายสมชาย เขียวแดง ผู้อำนวยการสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เปิดเผยว่าแหล่งท่องเที่ยวและโรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณบนสุดของดอยอ่างขางไม่ได้รับความเสียหาย แต่บริเวณโรงงานเก็บวัตถุดิบที่บ้านยาง ซึ่งอยู่ต่ำลงมา 25 กิโลเมตร ถูกน้ำพัดพัง 1 หลัง และมีเจ้าหน้าที่สูญหาย 1 คน ถนนขึ้นดอยอ่างขาง บริเวณจุดชมวิวบนดอย ถูกตัดขาด
ด้านนายบรรลือศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายอำเภอฝาง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยอพยพชาวบ้านประมาณ 1,200 หลังคาเรือน จาก 7 หมู่บ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
ส่วนที่ตลาดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมหนักที่สุด และมีแนวโน้มวิกฤติมากขึ้น เนื่องจากแนวคอนกรีตป้องกันน้ำของอาคารบ้านเรือนหลายแห่งได้รับความเสียหายจากแรงดันของน้ำเริ่มมีรอยร้าว ขณะที่แม่น้ำน้อยปริมาณน้ำยังสูงขึ้นอีก ส่วนเขื่อนพระรามหกใน อ.ท่าเรือ ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์โดยตรง ต้องระบายน้ำอย่างเต็มที่ โดยเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำมากถึง 700 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งกระทบต่อพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสักให้ท่วมสูงขึ้นอีก หากระดับน้ำถึง 11 เมตร จะทำให้ท่วมทั้งตลาดท่าเรือ ซึ่งเทศบาล ต.ท่าเรือเร่งสูบน้ำโดยรอบตามจุดสำคัญ โดยจุดที่น่าห่วงคือ ต.ท่าเจ้าสนุก ส่วนวัดไชยวัฒนาราม เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรยังคงป้องกันน้ำไว้อย่างเต็มที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดขณะนี้มาหารือ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยและรับมือสถานการณ์ที่อาจรุนแรงขึ้น เช่น พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ว่าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ เพื่อสอบถามการช่วยเหลือประชาชนผ่านระบบทางไกลผ่านดาวเทียมของกระทรวงมหาดไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>แม่น้ำน่านไหลผ่านพิษณุโลกแตะจุดวิกฤติรอบที่ 2แล้ว</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- แม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านพิษณุโลก ขึ้นแตะจุดวิกฤติรอบที่ 2 จังหวัดภาคกลางเตรียมรับมือน้ำน่านท่วมซ้ำ ทางด้านสวมส้ม-ไร่องุ่น ในพื้นที่ อ.ฝาง เชียงใหม่ จมบาดาล เกษตรอำเภอ คาดเสียหายกว่า 5 พันไร่


(9ตค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน ช่วงไหลผ่านอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 9 ตุลาคม ปรากฏว่า ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลาชั่วโมงละ 5 เซนติเมตร โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีวัดระดับน้ำ N5A เชิงสะพานเอกาทศรถ ระดับน้ำอยู่ที่ 9.00 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันเดียวกันที่วัดได้สูงแค่ 8.88 เมตร โดยใกล้ถึงจุดวิกฤติที่น้ำจะล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ระดับ 10 เมตร นับว่าใกล้ถึงจุดวิกฤติรอบที่สอง หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงถึง 10.19 เมตร
โดยสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน่านยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนตลอดเวลา ทำให้น้ำในคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ น้ำแม่น้ำแควน้อย อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ไหลเข้าสมทบลงแม่น้ำน่านตลอดเวลา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งต้องนำกระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำและเร่งสูบน้ำที่เกิดจากฝนตกท่วมขังตัวเมืองออกตลอดเวลาแล้ว ยังส่งทำให้พื้นที่จังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลางได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน่านล้นตลิ่งต่อไปอีก ในขณะที่ทางจังหวัดพิษณุโลก ขอให้ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมได้ใน 1-2 วันนี้
นายสมศักดิ์ กีรติเสริมสิน ประธานกรรมการบริษัทกรีนเฟรช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และเจ้าของไร่จุ่นจันทร์ ซึ่งปลูกพุทรานมสด บ้านปางควาย ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า น้ำป่าที่ทะลักเข้าท่วมไร่ส้มและไร่องุ่นของชาวบ้าน อ.ฝาง เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะไร่ส้มและไร่องุ่นที่อยู่ในเขตพื้นที่บ้านปางควาย ต.แม่งอนนั้น คาดว่าจะมีกว่าพันไร่ ขณะนี้ระดับน้ำท่วมสูงในไร่ไม่ต่ำกว่าระดับเอว หากน้ำท่วมขังหลายวันจะทำให้ผลผลิตเสียหาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนส้ม ซึ่งในระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวและเป็นช่วงที่ผลผลิตขายได้ราคาดีเพราะเข้าหน้าหนาว หากน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน จะเสียหายย่อยยับโดยผู้ปลูกจะเสียผลผลิตที่เตรียมออกสู่ตลาดตกไร่ละกว่า 5,000 กิโลกรัม ด้านนายวิสุตร เจริญเมืองมูล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว. สำนักงานเกษตรอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายด้านการเกษตรเบื้องต้นประเมินว่าน้ำได้เข้าท่วมขังสูงประมาณ 1 เมตร ในพื้นที่เกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนส้ม ไร่องุ่นในพื้นที่ 7 ตำบล ได้แก่ ต.แม่งอน ต.แม่ข่า ต.แม่สูน ต.แม่คะ ต.โป่งน้ำร้อนม่อนปิน ต.สันทราย และต.เวียง โดยสำรวจความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 5,510 ไร่ นอกจากนี้ยังมีไก่พื้นเมืองที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้านหายไปไม่ต่ำกว่า 7,000 ตัว ไม่นับรวมบ่อปลาของเกษตรกรที่กระจายอยู่ในทุกตำบลได้ถูกน้ำป่าพัดหายไปพร้อมกัน ซึ่งหลังภัยสิ้นสุดเจ้าหน้าที่จะมีการสำรวจความเสียหายรายบุคคลเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

-->
แม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านพิษณุโลก ขึ้นแตะจุดวิกฤติรอบที่ 2 จังหวัดภาคกลางเตรียมรับมือน้ำน่านท่วมซ้ำ ทางด้านสวมส้ม-ไร่องุ่น ในพื้นที่ อ.ฝาง เชียงใหม่ จมบาดาล เกษตรอำเภอ คาดเสียหายกว่า 5 พันไร่
(9ตค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน ช่วงไหลผ่านอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 9 ตุลาคม ปรากฏว่า ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลาชั่วโมงละ 5 เซนติเมตร โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีวัดระดับน้ำ N5A เชิงสะพานเอกาทศรถ ระดับน้ำอยู่ที่ 9.00 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันเดียวกันที่วัดได้สูงแค่ 8.88 เมตร โดยใกล้ถึงจุดวิกฤติที่น้ำจะล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ระดับ 10 เมตร นับว่าใกล้ถึงจุดวิกฤติรอบที่สอง หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงถึง 10.19 เมตร
โดยสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน่านยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนตลอดเวลา ทำให้น้ำในคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ น้ำแม่น้ำแควน้อย อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ไหลเข้าสมทบลงแม่น้ำน่านตลอดเวลา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งต้องนำกระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำและเร่งสูบน้ำที่เกิดจากฝนตกท่วมขังตัวเมืองออกตลอดเวลาแล้ว ยังส่งทำให้พื้นที่จังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลางได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน่านล้นตลิ่งต่อไปอีก ในขณะที่ทางจังหวัดพิษณุโลก ขอให้ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมได้ใน 1-2 วันนี้
นายสมศักดิ์ กีรติเสริมสิน ประธานกรรมการบริษัทกรีนเฟรช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และเจ้าของไร่จุ่นจันทร์ ซึ่งปลูกพุทรานมสด บ้านปางควาย ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า น้ำป่าที่ทะลักเข้าท่วมไร่ส้มและไร่องุ่นของชาวบ้าน อ.ฝาง เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะไร่ส้มและไร่องุ่นที่อยู่ในเขตพื้นที่บ้านปางควาย ต.แม่งอนนั้น คาดว่าจะมีกว่าพันไร่ ขณะนี้ระดับน้ำท่วมสูงในไร่ไม่ต่ำกว่าระดับเอว หากน้ำท่วมขังหลายวันจะทำให้ผลผลิตเสียหาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนส้ม ซึ่งในระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวและเป็นช่วงที่ผลผลิตขายได้ราคาดีเพราะเข้าหน้าหนาว หากน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน จะเสียหายย่อยยับโดยผู้ปลูกจะเสียผลผลิตที่เตรียมออกสู่ตลาดตกไร่ละกว่า 5,000 กิโลกรัม
ด้านนายวิสุตร เจริญเมืองมูล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว. สำนักงานเกษตรอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายด้านการเกษตรเบื้องต้นประเมินว่าน้ำได้เข้าท่วมขังสูงประมาณ 1 เมตร ในพื้นที่เกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนส้ม ไร่องุ่นในพื้นที่ 7 ตำบล ได้แก่ ต.แม่งอน ต.แม่ข่า ต.แม่สูน ต.แม่คะ ต.โป่งน้ำร้อนม่อนปิน ต.สันทราย และต.เวียง โดยสำรวจความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 5,510 ไร่ นอกจากนี้ยังมีไก่พื้นเมืองที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้านหายไปไม่ต่ำกว่า 7,000 ตัว ไม่นับรวมบ่อปลาของเกษตรกรที่กระจายอยู่ในทุกตำบลได้ถูกน้ำป่าพัดหายไปพร้อมกัน ซึ่งหลังภัยสิ้นสุดเจ้าหน้าที่จะมีการสำรวจความเสียหายรายบุคคลเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><!-- open banner center 1 --><!-- <OBJECT classid="clsid27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000" codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,0,0" WIDTH="468" HEIGHT="60" id="perfect.swf" ALIGN="">


<EMBED src="/imgs/ads/propertyperfect/perfect.swf" quality=high bgcolor=#FFFFFF WIDTH="468" HEIGHT="60" NAME="propertyperfect" ALIGN="" TYPE="application/x-shockwave-flash" PLUGINSPAGE="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer"></EMBED> </OBJECT> --><!-- open banner center 2 --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>กทม.ฝนตกหนักช่วงเย็น ถนนจมน้ำหลายเส้นทาง</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- ฝนตกหนักทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล รัชดา ประชาราษฎร์บำเพ็ญ รามคำแหง พหลโยธิน ลาดพร้าว จมน้ำอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง ผบ.ทอ. ขึ้น ฮ. สำรวจพื้นที่น้ำท่วม กทม.และภาคกลาง สั่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศทุกส่วนสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมืออุปโภคบริโภค เต็มกำลังนายกอบจ.ปทุมธานีโวยชลประทานไม่ยอมปิดประตูระบายน้ำ รมว.พาณิชย์สั่งหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน
สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 Traffic Pro คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ทำให้ถนนหลายสายเกิดภาวะน้ำท่วมขังอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อสภาพจราจรกรุงเทพฯตอนเหนือและตะวันออก ผิวการจราจรถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกเทียมร่วมมิตร ภายในอุโมงค์ลอดแยกรัชดา-ห้วยขวาง อุโมงค์ลอดแยกรัชดา-สุทธิสาร บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว และหน้า ศาลอาญา รัชดา มีน้ำท่วมขัง
ขณะที่ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ บริเวณตลาดเกียรติธงชัย และหน้าสำนักงานเขตห้วยขวาง ระดับน้ำสูงมาก รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรผ่านด้วยความลำบาก และยังพบว่า ภายในซอยรามคำแหง 39 (วัดเทพลีลา) ซอยรามคำแหง 65 (มหาดไทย) และบริเวณหน้าวัดศรีบุญเรือง รามคำแหง 105 มีระดับน้ำสูงเกือบ 30 ซม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล หัวหมาก จำเป็นต้องปิดจราจรชั่วคราว เพราะพบว่ามีรถยนต์ ของประชาชนประสบปัญหารถจอดเสียหลายคัน
เขตวังทองหลาง บางกะปิ และลาดพร้าว การระบายน้ำลงสู่ท่อระบายน้ำที่ไม่สะดวก ส่งผลให้ถนนประดิษฐ์มนูธรรม บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางลาดพร้าว น้ำท่วมเสมอฟุตบาต ถนนลาดพร้าว ขาเข้า ตั้งแต่ปากซอยลาดพร้าว 112-110 และปากซอยลาดพร้าว 98 ถึงใต้ทางด่วนลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาออกเมือง บริเวณใต้ทางด่วนลาดพร้าว ถึงหน้า ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ลาดพร้าว และจากปากซอยลาดพร้าว 87-93/1 มีน้ำท่วมขังเสมอทางเท้า
ส่วนที่ถนนพหลโยธิน ภายในวงเวียนบางเขน และบริเวณหน้าเซียร์ รังสิต รวมถึง ถนนวิภาวดี-รังสิต บริเวณอนุสรณ์สถาน ตลาดสี่มุมเมือง มีระดับน้ำขังเข้าขั้นวิกฤต รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ทุกช่องทาง และส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจร ในเส้นทางถนนพหลโยธิน รามอินทรา แจ้งวัฒนะ และวิภาวดี-รังสิต
ขณะที่ทางสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 สรุปเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังผิวจราจร เมื่อเวลา 18.00 น. พบว่า ถนนรัชดาภิเษกคับคั่งตลอดเส้นทาง ตั้งแต่แยกพระราม 9 ถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว และรัชดาภิเษก ขาเข้า รถติดต่อเนื่องข้ามไปฝั่งธนบุรี หยุดนิ่งอยู่ใกล้แยกบางพลัด ถนนลาดพร้าว ทั้งเข้าและออก ถนนรามคำแหง ขาออก และถนนศรีนครินทร์ ขาเข้า มุ่งหน้าเข้าแยกลำสาลี และลาดพร้าว ถนนพระราม 4 ขาออก ท้ายแถวต่อเนื่องเข้าไปถึงหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง สาเหตุจาก รถเข้าถนนเอกมัย ประดิษฐ์มนูธรรม สุขุมวิท 71 "ปรีดีพนมยงค์" และรามคำแหง ขาออก
ผบ.ทอ.ขึ้นฮ.ตรวจพื้นที่กทม.-ภาคกลาง
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พร้อมด้วย พล.อ.อ.สมหมาย ดาบเพ็ชร เสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร,ปทุมธานี ,พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง
โดยคณะผู้บัญชาการทหารอากาศได้ขึ้นตรวจบริเวณหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ ในเขตเทศบาลเมืองรังสิตเป็นจุดแรก แล้วบินสำรวจต่อไปยังอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอเมืองอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอป่าโมกข์ และอำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง จากนั้นบินตรวจบริเวณ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนจะบินตรวจพื้นที่น้ำท่วมในเขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตหนองจอก และเขตลาดกระบัง ของกรุงเทพมหานคร
พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า การสำรวจพื้นที่ครั้งนี้ก็เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจไปวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศทั้งในส่วนกลางและส่วนที่ตั้งกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ ให้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ อาทิ เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือท้องแบน และเครื่องอุปโภคบริโภค ออกให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมทันทีที่ได้รับการร้องขอ
นอกจากนี้ กองทัพอากาศ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยในส่วนกลางได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคไว้ 3 จุดด้วยกัน คือ ตลาดยิ่งเจริญ (สะพานใหม่) ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และพิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ ริมถนนพหลโยธิน
สำหรับในส่วนภูมิภาค กองทัพอากาศได้เปิดศูนย์รับบริจาคในกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ และที่โรงเรียนการบิน กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพอากาศ เลขที่บัญชี 057-2-20162-2 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ หมายเลขโทรศัพท์ 02-5348333
นายกอบจ.ปทุมธานีโวยชลประทาน
นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะเขต อ.เมือง เขต อ.สามโคก ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำจากภาคเหนือไหลบ่าลงมาท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทาง อบจ.ได้ร่วมกับ อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทำการระดมกระสอบทรายและดิน ทำการถมเป็นคันกั้นน้ำตลอดแนวที่คาดว่าน้ำจะท่วมถึง ซึ่งก็เป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนเท่านั้น
เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบางส่วนรวมทั้งไร่นาพืช สวนไปบ้างแล้ว ซึ่งความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ซึ่งคงต้องตรวจสอบและเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป
สำหรับปัญหาใหญ่คือน้ำที่เข้ามาจากประตูระบายน้ำคลองเชียวรากใหญ่ ที่ทางกรมชลประทานยังไม่ยอมปิดประตูทั้งๆที่ อบจ.ได้ประสานงานไปล่วงหน้านานกว่า 3 สัปดาห์แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมปิดซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด และน้ำจากประตูแห่งนี้จะหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ย่าน ต.บ้านกลาง ต.สวนพริกไทย ต.บางพูนและอีกหลายๆตำบล ในเขต อ.เมือง ทั้งที่ประตูระบายน้ำแห่งอื่นๆปิดหมดแล้ว แต่ประตูแห่งนี้ไม่ยอมปิด ซึ่งคงต้องประสานไปอีกเพื่อปิดประตูน้ำลดความเดือดร้อนของชาวบ้านต่อไป
รมว.พาณิชย์สั่งหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายให้กรมและองค์การคลังสินค้า (อคส.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เช่น การจัดถุงยังชีพอาหารและน้ำดื่ม และให้พาณิชย์จังหวัดกำกับดูแลไม่ให้ของขึ้นราคาโดยเด็ดขาด โดยให้ดูแลไม่ให้เกิดการขาดแคลนหรือขึ้นราคาโดยไม่สมควร และเป็นการเอารัดเอาเปรียบ หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบร้องเรียนมาที่สายด่วนแม่บ้าน 1596 ได้ทันที ซึ่งผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษปรับ 140,000 บาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป


-->
ฝนตกหนักทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล รัชดา ประชาราษฎร์บำเพ็ญ รามคำแหง พหลโยธิน ลาดพร้าว จมน้ำอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง ผบ.ทอ. ขึ้น ฮ. สำรวจพื้นที่น้ำท่วม กทม.และภาคกลาง สั่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศทุกส่วนสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมืออุปโภคบริโภค เต็มกำลังนายกอบจ.ปทุมธานีโวยชลประทานไม่ยอมปิดประตูระบายน้ำ รมว.พาณิชย์สั่งหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน
สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 Traffic Pro คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ทำให้ถนนหลายสายเกิดภาวะน้ำท่วมขังอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อสภาพจราจรกรุงเทพฯตอนเหนือและตะวันออก ผิวการจราจรถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกเทียมร่วมมิตร ภายในอุโมงค์ลอดแยกรัชดา-ห้วยขวาง อุโมงค์ลอดแยกรัชดา-สุทธิสาร บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว และหน้า ศาลอาญา รัชดา มีน้ำท่วมขัง
ขณะที่ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ บริเวณตลาดเกียรติธงชัย และหน้าสำนักงานเขตห้วยขวาง ระดับน้ำสูงมาก รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรผ่านด้วยความลำบาก และยังพบว่า ภายในซอยรามคำแหง 39 (วัดเทพลีลา) ซอยรามคำแหง 65 (มหาดไทย) และบริเวณหน้าวัดศรีบุญเรือง รามคำแหง 105 มีระดับน้ำสูงเกือบ 30 ซม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล หัวหมาก จำเป็นต้องปิดจราจรชั่วคราว เพราะพบว่ามีรถยนต์ ของประชาชนประสบปัญหารถจอดเสียหลายคัน
เขตวังทองหลาง บางกะปิ และลาดพร้าว การระบายน้ำลงสู่ท่อระบายน้ำที่ไม่สะดวก ส่งผลให้ถนนประดิษฐ์มนูธรรม บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางลาดพร้าว น้ำท่วมเสมอฟุตบาต ถนนลาดพร้าว ขาเข้า ตั้งแต่ปากซอยลาดพร้าว 112-110 และปากซอยลาดพร้าว 98 ถึงใต้ทางด่วนลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาออกเมือง บริเวณใต้ทางด่วนลาดพร้าว ถึงหน้า ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ลาดพร้าว และจากปากซอยลาดพร้าว 87-93/1 มีน้ำท่วมขังเสมอทางเท้า
ส่วนที่ถนนพหลโยธิน ภายในวงเวียนบางเขน และบริเวณหน้าเซียร์ รังสิต รวมถึง ถนนวิภาวดี-รังสิต บริเวณอนุสรณ์สถาน ตลาดสี่มุมเมือง มีระดับน้ำขังเข้าขั้นวิกฤต รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ทุกช่องทาง และส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจร ในเส้นทางถนนพหลโยธิน รามอินทรา แจ้งวัฒนะ และวิภาวดี-รังสิต
ขณะที่ทางสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 สรุปเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังผิวจราจร เมื่อเวลา 18.00 น. พบว่า ถนนรัชดาภิเษกคับคั่งตลอดเส้นทาง ตั้งแต่แยกพระราม 9 ถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว และรัชดาภิเษก ขาเข้า รถติดต่อเนื่องข้ามไปฝั่งธนบุรี หยุดนิ่งอยู่ใกล้แยกบางพลัด ถนนลาดพร้าว ทั้งเข้าและออก ถนนรามคำแหง ขาออก และถนนศรีนครินทร์ ขาเข้า มุ่งหน้าเข้าแยกลำสาลี และลาดพร้าว ถนนพระราม 4 ขาออก ท้ายแถวต่อเนื่องเข้าไปถึงหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง สาเหตุจาก รถเข้าถนนเอกมัย ประดิษฐ์มนูธรรม สุขุมวิท 71 "ปรีดีพนมยงค์" และรามคำแหง ขาออก
ผบ.ทอ.ขึ้นฮ.ตรวจพื้นที่กทม.-ภาคกลาง
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พร้อมด้วย พล.อ.อ.สมหมาย ดาบเพ็ชร เสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร,ปทุมธานี ,พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง
โดยคณะผู้บัญชาการทหารอากาศได้ขึ้นตรวจบริเวณหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ ในเขตเทศบาลเมืองรังสิตเป็นจุดแรก แล้วบินสำรวจต่อไปยังอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอเมืองอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอป่าโมกข์ และอำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง จากนั้นบินตรวจบริเวณ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนจะบินตรวจพื้นที่น้ำท่วมในเขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตหนองจอก และเขตลาดกระบัง ของกรุงเทพมหานคร
พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า การสำรวจพื้นที่ครั้งนี้ก็เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจไปวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศทั้งในส่วนกลางและส่วนที่ตั้งกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ ให้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ อาทิ เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือท้องแบน และเครื่องอุปโภคบริโภค ออกให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมทันทีที่ได้รับการร้องขอ
นอกจากนี้ กองทัพอากาศ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยในส่วนกลางได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคไว้ 3 จุดด้วยกัน คือ ตลาดยิ่งเจริญ (สะพานใหม่) ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และพิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ ริมถนนพหลโยธิน
สำหรับในส่วนภูมิภาค กองทัพอากาศได้เปิดศูนย์รับบริจาคในกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ และที่โรงเรียนการบิน กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม หรือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพอากาศ เลขที่บัญชี 057-2-20162-2 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ หมายเลขโทรศัพท์ 02-5348333
นายกอบจ.ปทุมธานีโวยชลประทาน
นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะเขต อ.เมือง เขต อ.สามโคก ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำจากภาคเหนือไหลบ่าลงมาท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทาง อบจ.ได้ร่วมกับ อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทำการระดมกระสอบทรายและดิน ทำการถมเป็นคันกั้นน้ำตลอดแนวที่คาดว่าน้ำจะท่วมถึง ซึ่งก็เป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนเท่านั้น
เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบางส่วนรวมทั้งไร่นาพืช สวนไปบ้างแล้ว ซึ่งความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ซึ่งคงต้องตรวจสอบและเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป
สำหรับปัญหาใหญ่คือน้ำที่เข้ามาจากประตูระบายน้ำคลองเชียวรากใหญ่ ที่ทางกรมชลประทานยังไม่ยอมปิดประตูทั้งๆที่ อบจ.ได้ประสานงานไปล่วงหน้านานกว่า 3 สัปดาห์แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมปิดซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด และน้ำจากประตูแห่งนี้จะหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ย่าน ต.บ้านกลาง ต.สวนพริกไทย ต.บางพูนและอีกหลายๆตำบล ในเขต อ.เมือง ทั้งที่ประตูระบายน้ำแห่งอื่นๆปิดหมดแล้ว แต่ประตูแห่งนี้ไม่ยอมปิด ซึ่งคงต้องประสานไปอีกเพื่อปิดประตูน้ำลดความเดือดร้อนของชาวบ้านต่อไป
รมว.พาณิชย์สั่งหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายให้กรมและองค์การคลังสินค้า (อคส.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เช่น การจัดถุงยังชีพอาหารและน้ำดื่ม และให้พาณิชย์จังหวัดกำกับดูแลไม่ให้ของขึ้นราคาโดยเด็ดขาด โดยให้ดูแลไม่ให้เกิดการขาดแคลนหรือขึ้นราคาโดยไม่สมควร และเป็นการเอารัดเอาเปรียบ หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบร้องเรียนมาที่สายด่วนแม่บ้าน 1596 ได้ทันที ซึ่งผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษปรับ 140,000 บาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะรัฐมนตรี

วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีทั้ง 26 คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะรัฐมนตรี ดังนี้

“ขอขอบใจที่ท่านได้มาปฏิญาณก่อนรับหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะว่า รัฐมนตรีมีหน้าที่ที่ต้องทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้ปฏิญาณ เพราะว่า ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ในประเทศที่ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ ก็ทำให้ประเทศชาติไม่ค่อยดี แต่ถ้าตั้งใจ เมื่อตั้งใจแล้วก็ให้รักษาความตั้งใจนี้ด้วยการปฏิบัติอย่างซื่อสัตย์สุจริต และอย่างแน่นอน แน่วแน่ ซึ่งเข้าใจว่าท่านได้รับเลือกเฟ้นเป็นผู้ที่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ หน้าที่นั้นไม่ได้หมายความว่า จะต้องทำด้วยความตั้งใจที่จะได้ผลสำเร็จ คือผลสำเร็จ ไม่ได้หมายความว่า จะให้มีผลในทางวัตถุ แต่จะต้อง วัตถุก็ต้องทำให้ดีเพราะว่า แต่ละกระทรวงก็ต้องทำ และโดยเฉพาะเดี๋ยวนี้ประเทศกำลังผ่านวิกฤติการณ์ไม่ใช่เฉพาะในทางที่ท่านจะต้องทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแต่ต้องทำด้วยความสามารถ เพราะว่าประเทศชาติกำลังผ่านระยะที่วิกฤติทั้งในด้านสถานการณ์ที่จะต้องใช้ความสามารถในทางที่จะให้ประเทศรุ่งเรืองได้

แม้แต่ธรรมชาติก็อันตรายอยู่เพราะว่า ก็อย่างที่ท่านทราบ ฝนลงมาไม่ได้ปกติ ฝนลงมาแล้วไม่ได้สะสมไว้ ตามธรรมดาฝนลงมาเป็นของดี แต่ตอนนี้ฝนลงมา มาท่วมบ้านเมือง เมื่อไม่ได้รักษาบ้านเมืองมานานก็ทำให้ท่วมบ้านช่องของประชาชน ถ้าน้ำท่วมบ้านช่องของประชาชน ประชาชนก็เดือดร้อน การที่ฝน หรือน้ำมาท่วมบ้านช่องของราษฎร ถ้าทุกคนช่วยกันให้น้ำนั้นไม่ทำอันตราย ก็ไม่เป็นอะไร แต่เดี๋ยวนี้น้ำทำอันตราย ทำให้ประชาชนไม่สามารถอยู่ได้ จะต้องพยายามช่วยให้ประชาชนไม่เดือดร้อนจากน้ำท่วม

อย่างน้ำท่วมนี้ ไม่น่าจะเป็นร้ายแรง เพราะถ้านับดูจำนวนน้ำที่ลงมาจากฟ้า ก็ไม่ได้มากกว่าที่เคย แต่ทำไมลงมาทำให้เสียหาย เพราะว่าน้ำลงมา ไม่สามารถที่จะกั้นเอาไว้ได้ ไม่สามารถที่จะป้องกันไม่ให้น้ำมาทำลายประเทศชาติ ท่านต้องไปดูจำนวนน้ำที่ลงมา แล้วเปรียบเทียบกับปีอื่น ๆ ไม่ได้มาก แต่ลงมาไม่ได้กั้นเอาไว้ เดี๋ยวนี้ลงมาผิดธรรมชาติ พรวดพราดลงมา แล้วก็อย่างที่เคยเห็นลงมา พยายามที่จะป้องกัน ก็ทำคันกั้นน้ำ น้ำก็ขึ้น ก็เอ่อ เมื่อน้ำเอ่อขึ้นมามาก น้ำก็ล้น น้ำก็ทะลุใต้ที่กั้น

ในเวลาอันสั้นนี้ นายกรัฐมนตรีได้ไปดู แล้วก็คงเข้าใจ ทำไมน้ำเอ่อขึ้นมาแล้ว น้ำหนักของน้ำก็ทำให้ทะลุ ทะลวงข้างใต้ขึ้นมา ก็เข้าไปท่วมถนน ท่วมบ้านช่อง แล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็แก้ได้ยาก แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้ที่มีความรู้ในทางวิชาการก็จะต้องพยายามป้องกัน อะไรที่เสียหายไปแล้ว ก็เสียหายไป แต่จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย จะต้องมีวิธีการต่าง ๆ นายกรัฐมนตรีคงเดือดร้อน เพราะว่าทั้งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี จะต้องจ่ายเงินสำหรับไม่ให้เกิดเรื่องเดือดร้อนกับประชาชนต่อไป แต่อย่างไร เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ก็ลำบาก แต่เข้าใจว่าท่านเข้าใจแล้ว ก็ขอให้ช่วยให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด

นอกจากนั้น เวลานี้บ้านเมืองได้รับความเดือดร้อน นอกจากน้ำท่วม ก็มีอย่างอื่น ที่มีคนเขาพูดมาก โดยเฉพาะไม่ใช่คนไทย คนต่างประเทศพูดว่า ประเทศไทยไม่ดี ก็จะต้องพยายามแก้ไข ถ้าไม่แก้ไข ประเทศก็เสียชื่อ เมื่อเสียชื่อแล้วก็จะเสียหายในเรื่องที่ประเทศชาติจะอยู่เย็นเป็นสุข ถ้าเขาว่าว่าคนไทยไม่ดี ก็จะทำให้คนไทย ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ปกครอง แต่ทุกคนก็กลายเป็นคนไม่ดี ก็ต้องพยายามแก้ไขอะไรที่ไม่ดี ให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นงานที่ยาก หนัก ก็ขอให้ท่านได้มีกำลังใจปฏิบัติงาน เพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ

ขอให้ท่านสามารถที่จะทำ ขอให้ท่านมีกำลังใจที่จะทำ แม้มีเวลาน้อย แต่เชื่อว่าท่านทำได้ เพราะท่านมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ก็ขอให้ท่านได้ผ่านพ้นอุปสรรค และขอบใจที่ท่านรับหน้าที่อันหนักนี้ และขอให้ทำด้วยความเข้มแข็ง และขอให้ท่านสำเร็จในงานการที่รับทำ เพื่อให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตการณ์ และมีความเจริญ มีความสำเร็จในการปฏิบัติ ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ และมีร่างกายเข้มแข็ง แข็งแรง ไม่มีอะไรที่มาขัดขวาง ขอให้ได้รับความสำเร็จทุกประการ”

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ผันน้ำเข้าไปในที่ดินส่วนพระองค์นับพันไร่

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">พระบารมีในหลวง คนกรุงพ้นวิกฤติน้ำท่วม [10 ต.ค. 49 - 11:44]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าววันนี้ (10 ต.ค.) ถึงปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า เช้าวันเดียวกันนี้ มีปริมาณ 3,465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คงอยู่ในระดับที่วางแผนควบคุมได้ เนื่องจากการประชุมคณะที่ปรึกษาและกรรมการประสานการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตามแนวพระราชดำริ ครั้งที่ 1/2549 มีมติให้เจรจาขอผันน้ำเข้าทุ่งหลายแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ ทุ่งบางบาล ทุ่งเจ้าเจ็ด พร้อมได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ผันน้ำเข้าไปในที่ดินส่วนพระองค์นับพันไร่ ที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (ทุ่งมะขามหย่อง) ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและยินยอมให้ผันน้ำเข้าทุ่งที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลมา กทม.อย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤติช่วงน้ำทะเลหนุนสูงนี้ไปได้
"ชาวบ้านได้เห็นว่า ที่ดินของพระเจ้าอยู่หัวก็ยังทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเข้าได้ จะสามารถตัดยอดน้ำช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงใน กทม.อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังมีบางจุดที่คันกั้นน้ำขาดทำให้น้ำไหลเข้าไปเอง เช่น ที่ประตูระบายน้ำบางแก้ว จังหวัดสิงห์บุรี ทำให้น้ำเข้าไปท่วมขังอยู่ในทุ่งมหาราชส่วนหนึ่งด้วย เมื่อมาตรวจสอบระดับน้ำวันนี้ก็ต่ำกว่าที่เราคาด" อธิบดีกรมชลประทานกล่าว
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า กรณี กทม.ดำเนินการเสริมกระสอบทรายขึ้นเป็น 2.70 เมตร และประสานให้หน่วยทหารไปเฝ้าระวังตลอดแนวเจ้าพระยา ทำให้น่าจะเบาใจและมั่นใจได้ ว่าไม่น่าจะเกิดน้ำท่วมรุนแรงใน กทม. ส่วนฝนที่ตกลงมาอย่างหนักค่ำวานนี้ สร้างปัญหาเพียงเล็กน้อยเช่นน้ำท่วมขังถนน และ กทม.ยังคงต้องทำตามข้อตกลง คือบริหารจัดการน้ำฝนในพื้นที่ โดยจะสามารถสูบน้ำพร่องคลองต่างๆ ลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ถ้ามีน้ำทะเลหนุนสูงก็ให้สูบเท่าที่จะทำได้โดยสังเกตจากระดับน้ำ นายสามารถกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจ.นครสวรรค์ยังเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4,595 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกไปเท่ากับสถิติสูงสุดเมื่อปี 2538 คือเป็น 4,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,901 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่ควบคุมได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">พระบรมราชานุญาต ให้ผันน้ำ ท่วมที่ส่วนพระองค์ [11 ต.ค. 49 - 03:59]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>จากเหตุวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่แผ่กระจายไปทั่วประเทศทั้งภาคกลาง เหนือและอีสาน สร้างความสูญเสียมหาศาลทั้งชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่ถูกน้ำป่าจากดอยอ่างขางถล่มบ้านพังพินาศหลายหลัง ผู้ประสบภัยเสียชีวิตทันที 7 ศพ สูญหายอีกหลายราย ขณะเดียวกัน พื้นที่สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรุงเทพฯระดับน้ำเริ่มปริ่มเท่ากับพนังกั้นน้ำแล้วนั้น
“อภิรักษ์” ยังไม่ห่วงน้ำสูง
ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองของ กทม. เมื่อสายวันที่ 10 ต.ค. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ออกตรวจสภาพน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2 แห่ง คือ ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เขตบางกอกน้อย 160 ครัวเรือน และชุมชนวัดราชผาติการาม เขตดุสิต 95 ครัวเรือน พบระดับน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า และส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว ทำให้ข้าวของภายในบ้านเสียหายเกือบทั้งหมด เช่น ตู้เย็น เตียงนอน ชาวบ้านบางรายบอกว่าทนอยู่ในสภาพนี้มากว่า 2 สัปดาห์ อยากให้ กทม.มายกพื้นหนีน้ำ แต่นายอภิรักษ์ตอบว่าคงทำไม่ได้
นายอภิรักษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณ 3,473 ลบ.ม./วินาที ถือเป็นระดับที่สูง และเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ 33 ชุมชน ราว 2,100 หลังคาเรือน ส่วนกรณีที่กรมชลประทานเตือนเรื่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมาก และกำชับให้ เตรียมแผนสำรองไว้ใช้นั้น ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่ กทม.ได้เตรียมจะใช้ถนนที่เคยเป็นแนวกั้นน้ำเมื่อปี 2538 ที่น้ำท่วมใหญ่กั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน เช่น ถนนอรุณอมรินทร์ ถนนเจริญนคร ถนนสามเสน
กำชับใช้งบให้โปร่งใส
ต่อมานายอภิรักษ์ได้ประชุมผู้บริหาร กทม. รวมทั้ง ผอ.เขตหลายเขต เช่น มีนบุรี คลองสามวา บางพลัด ชี้แจงถึงปัญหาและอุปสรรคน้ำท่วม โดยทั้งหมดระบุตรงกันว่าน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานเริ่มเน่า ประชาชนมีอาการคันตามผิวหนัง คันดินเหนียวที่ใช้รถขุดทำเป็นแนวกันน้ำมักจะพังโดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกหนัก นอกจากนี้ยังพบปัญหาหลักคือไม้กระดานที่ทำเป็นทางเดินให้ประชาชนถูกขโมยไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำเข้าออก และเจ้าหน้าที่ต้องลงมือซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม นอกจากนี้ที่ประชุมรายงานเรื่องการเบิกจ่ายงบฉุกเฉินที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาท ได้เบิกจ่ายซื้อทราย กระสอบ ไม้กระดาน น้ำมัน ไปแล้ว 47 ล้านบาท โดยนายอภิรักษ์ได้กำชับให้ใช้เงินอย่างโปร่งใส หากภาวะน้ำท่วมรุนแรงจนเงินไม่พอ ผู้บริหารก็จะพิจารณาจัดสรร เงินงบกลางมาใช้จ่ายต่อไป
รับสั่งผันน้ำช่วยพสกนิกร
ทางด้าน จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังที่ประชาชน ผจญน้ำท่วมสูงมาหลายวัน ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ล่าสุดตอนสายวันที่ 10 ต.ค. นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับหนังสือด่วนจากสำนักพระราชวังให้ดำเนินการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าที่ดินส่วนพระองค์บริเวณทุ่งมะขามหย่อง สถานที่ตั้งอนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย พื้นที่พันกว่าไร่ กับทุ่งภูเขาทอง สถานที่ตั้งอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พื้นที่กว่าสองพันไร่ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ทรงเห็นพสกนิกรได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมสูง จึงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเข้าที่ดินส่วนพระองค์ เพื่อให้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการลดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลบ่าเข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 2 แห่งสามารถกักเก็บน้ำได้หลายล้านลูกบาศก์เมตร
ซาบซึ้งในพระเมตตา
หลังได้รับหนังสือ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานงานขอกำลังทหารจาก จ.สระบุรี จ.ลพบุรี หน่วยสรรพาวุธ กองทัพบก และจากอีกหลายหน่วยกว่า 800 นายมาผันน้ำเข้าที่ดินส่วนพระองค์อย่างทันท่วงที สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรผู้ประสบภัยอย่างล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเมตตาช่วยเหลือประชาชน ขณะที่นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรม ชลประทาน เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ระบายน้ำเข้าไปในเขตพื้นที่ส่วนพระองค์ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ยินยอมให้ผันน้ำเข้าทุ่งนาที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้ากรุงเทพฯ อย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤติช่วงน้ำทะเลหนุนสูงนี้ไปได้
พระตกสะพานจมน้ำ
ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในตอนเย็นวันเดียวกันได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอีกร่วม 10 ซม. เนื่องจากน้ำเหนือไหลผ่านมา ส่วนที่วัดกอไผ่ ต.บางบาล อ.บางบาล ขณะที่พระปิ่น ภามะโน อายุ 81 ปี รองเจ้าอาวาสเดินข้ามสะพานไม้ชั่วคราวจากกุฏิไปสรงน้ำข้างวัด ปรากฏว่าเดินพลาดร่วงตกสะพานจมน้ำมรณภาพ
เขื่อนบางแก้วพังน้ำทะลัก
ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้ายามีระดับลดลงถึง 25 ซม. เนื่องจากกระแสน้ำจำนวนหลายสิบล้านลูกบาศก์เมตร ได้ไหลทะลักผ่านเขื่อนบางแก้วที่พังทลายลง เข้าท่วมพื้นที่หลังเขื่อนไปจนจรด อ.มหาราช อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีจำนวนนับแสนไร่และน้ำมีระดับสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1-2 เมตร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ ต.ตลาดกรวด บ้านรี และบ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จำนวนหลายพันครัวเรือนต้องขนข้าวของและสัตว์เลี้ยงขึ้นมาอยู่บนถนน ขณะเดียวกันแพทย์ พยาบาล รพ.อ่างทอง ได้ออกมาตั้งเต็นท์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ ต.บ้านอิฐ
นอกจากนั้นในช่วงเช้าวันเดียวกันกระแสน้ำได้ ไหลทะลักเข้าท่วมถนนสายเอเชีย ช่วงหลัก กม.ที่ 104-105 ม.5 ต.บ้านอิฐ ระดับน้ำสูง 20 ซม. นายโสภณ บุณประสงค์ รอง ผอ.สำนักงานบำรุงทาง จ.อ่างทอง สั่งระดมขนกระสอบทรายมาวางกั้นเพื่อลดความแรงของน้ำป้องกันไม่ให้กัดเซาะถนนเสียหาย พร้อมทั้งตั้งคันดินกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จำนวนหลายหมื่นไร่
สังเวยน้ำท่วมอีก 1 ศพ
ขณะเดียวกันนั้นได้มีคนเสียชีวิตสังเวยน้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็นศพที่ 4 แล้ว โดยเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ต.จิรโชติ กันทะเนตร ร้อยเวร สภ.อ.เมืองอ่างทอง ไปสอบสวนพบศพคนตายลอยน้ำ บริเวณหลังปั๊มน้ำมันบุญช่วยวีช็อป หมู่ 2 ต.โพสะ ซึ่งถูกน้ำท่วมสูง พบศพนายปิยะ วิภา อายุ 20 ปี คนงานก่อสร้างที่มาทำงานอยู่ที่โรงงานกระดาษใกล้ที่เกิดเหตุ ลอยขึ้นอืด สอบสวนทราบว่า ผู้ตายไปช่วยชาวบ้านขนกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม ริมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา แล้วถูกกระแสน้ำพัดหายไปจนพบเป็นศพ
มท.1 รุดเยี่ยมปลอบใจ
บ่ายวันเดียวกันนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย คนใหม่ เดินทางมาที่วัดศรีมหาโพธิ์ ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำ และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 3,000 ชุด จากนั้นจึงเดินทางมาร่วมต้อนรับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช.ซึ่งเดินทางมาตรวจน้ำท่วมด้วย โดย พล.อ.สนธิได้ให้เร่งระบายน้ำแบ่งกระจายออกไปในพื้นที่ด้าน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยโดยเร็ว
สิงห์บุรีพื้นที่ภัยพิบัติ 6 อำเภอ
ด้าน จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำจากเจ้าพระยาได้ดันพนังกั้นน้ำทะลักท่วมถนนสายสิงห์บุรี-ชัยนาท ตั้งแต่หน้าศาล หลักเมืองไปถึงหมู่ 2 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี ไม่สามารถสัญจรได้ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนพหลโยธิน สายสิงห์บุรี-นครสวรรค์ แทน ส่วนในเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรีน้ำไหลท่วมบางพื้นที่ โดยนายไสวรินทร์ ศรีชำนิ นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี ได้ขอกำลังทหารจาก ม.พัน 20 รอ.มาขนกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่ จ.สิงห์บุรี ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 6 อำเภอ จ.ชัยนาท นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยหลังประสบภัยน้ำท่วมมาหลายวันที่ ต.สรรพยา ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จำนวน 1,000 ครอบครัว และ จ.สระบุรี หลายพื้นที่ อ.บ้านหมอ อ.พระพุทธบาท ถูกน้ำท่วมขังหลายหมู่บ้าน ในช่วงสายวันเดียวกัน นายชุมพร พลรักษ์ ผวจ.สระบุรี นายเฉลิม วงษ์ไพร นายก อบจ.สระบุรีและคณะนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย
ระดมกำลังสร้างคันกั้นน้ำ
สำหรับ จ.อุทัยธานี น้ำในแม่น้ำสะแกกรัง ยังคงมีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ นางเตือนจิตรา แสงไกร นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ประสานขอกำลังทหาร จากค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ 80 นาย พร้อมด้วยกำลัง อปพร.เทศบาลฯ และ อส.จ.อุทัยธานี นำถุงทรายทำแนวกั้นน้ำตลอดแนวริม น้ำสะแกกรัง ฝั่งตัวเมืองอุทัยธานี เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมอาคารร้านค้าในตลาด นอกจากนี้ อบจ.อุทัยธานี นำรถแบ็กโฮ 2 คัน ตักวัชพืชบริเวณสะพานข้ามวัดอุโปสถาราม (วัดโบสถ์) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ด้วย
ชาวบ้านใช้เรือแทนรถ
ด้าน จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำที่ตลาดเก่าอำเภอกบินทร์บุรี เริ่มลดลงเล็กน้อย และน้ำได้ไหลลงสู่ อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมือง และ อ.บ้านสร้าง ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมตลาดเทศบาลศรีมหาโพธิ และบ้านเรือนประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำ รวมทั้งถนนสายศรีมหาโพธิ-ปราจีนบุรี เป็นช่วงๆระดับน้ำสูงกว่า 80 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะเดียวกันกำลังทหารจาก จ.ฉะเชิงเทรา มาช่วยสร้างสะพานชั่วคราวเข้าบ้านหมู่ 3 ต.หาดนางแก้ว อ.ศรีมหาโพธิ เพื่อให้ ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านสามารถเดินทางเข้าออกได้
เมืองคูคตปริ่มจมบาดาล
ที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี น้ำจากคลองรังสิตกับน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งคืน ได้ไหลท่วมบ้านเรือนในซอย กม.27 ซอย 39 ซอยแข็งขัน 1-3 ซอยจามร ก, ข และซอยจามรเดชเจริญ โดยนางสุภารมย์ โลทะกะ นายกเทศมนตรีเมืองคูคต สั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนพร้อมทั้งประสานงานไปยัง ผบ.ทอ.ขอสนับสนุนกระสอบทรายและกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปทุมธานี 2 ส่งเจ้าหน้าที่ ออกช่วยเหลือประชาชนในการเคลื่อนย้ายปลั๊กไฟด้วย
เมืองนนท์น้ำสูง 1 เมตร
ทางด้าน จ.นนทบุรี บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ ชุมชนเชิงสะพานพระราม 5 หมู่ 2 ถนนนครอินทร์ ต.บางไผ่ อ.เมือง ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร และระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพื้นที่หมู่ 3 ชุมชนวัดลุ่มคงคาราม ต.บางกรวย อ.บางกรวย ถูกน้ำท่วมแทบมิดหลังร่วม 200 หลัง และวัดบางไกรใน ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน
เมืองจันท์สูญ 2 พันล้าน
ที่ จ.จันทบุรี ตำรวจ สภ.อ.เมืองจันทบุรี ไปสอบสวนชันสูตรศพ น.ส.บุญเรือน จตุผลัง 59 ปี อยู่หมู่ 9 ต.คลองนารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี ติดในสระน้ำหลังบ้าน ริมคลองแม่น้ำจันทบุรี สอบสวนทราบว่า ผู้ตายออกไปหลังบ้านเมื่อ 2 คืนที่ผ่านมาเพื่อไปดูน้ำที่จะเข้าท่วมบ้านแล้วถูกกระแสน้ำพัดหายไปจนน้ำลดจึงพบศพโผล่ สำหรับระดับน้ำเริ่มลดเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ บริเวณย่านการค้า เช่น ถนนอัญมณี บริเวณตลาดน้ำพุ และย่านชุมชนต่างๆ พ่อค้าแม่ค้าทำความสะอาดหน้าร้าน เพื่อเตรียมเปิดกิจการขายสินค้าตามเดิม
ด้านนายพนัส แก้วลาย ผวจ.จันทบุรี เปิดเผยว่า แม้ระดับน้ำจะลดลง แต่ยังมีบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มยังมีน้ำท่วมอยู่ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสูบระบายน้ำออกสู่ทะเล คาดว่าในวันพรุ่งนี้น้ำที่ตกค้างอยู่ คงเหลือปริมาณไม่มาก จากอุทกภัยที่ผ่านมาทำให้พื้นที่ 7 อำเภอได้รับผลกระทบ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแสนกว่าคน และวงการค้าขายพลอยยังได้รับผลกระทบ ทำให้ขาดเงินหมุนเวียนวันละประมาณ 50 ล้านบาท เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท
ผวจ.เชียงใหม่ช่วยชาวแม่ออน
ภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ตลอดทั้งวันนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผวจ.เชียงใหม่ และ พล.ท.จีรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 นำกำลังทหาร ตำรวจ ตชด.ภาค 3 และหน่วยกู้ภัย อปพร. รวมกว่า 1 พันคน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าซัดถล่มในพื้นที่ ต.แม่ออน อ.ฝาง จนบ้านเรือนพังพินาศย่อยยับ มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ ซึ่งการเข้าเคลียร์พื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีท่อนไม้ขนาดใหญ่ขวางเต็มไปหมด ทางขึ้นดอยอ่างขาง บริเวณ กม.ที่ 14 ถูกน้ำซัดสะพานขาดสะบั้น แถมมีท่อนซุงทับกันเต็ม ต้องใช้เวลาซ่อมแซมนานหลายเดือน ขณะที่นายธนศักดิ์ ประทุม อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่โครงการหลวงดอยคำ ที่ถูกกระแสน้ำซัดจมหายยังค้นหาไม่พบ แต่อย่างใด ทั้งนี้ นายบรรลือศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายอำเภอฝาง รายงานความเสียหายให้นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผวจ. ทราบว่าพื้นที่ ต.แม่ออนถูกน้ำท่วมทั้งหมด 14 หมู่บ้าน และ ต.แม่ข่าอีก 3 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนที่พัก 1,200 ครอบครัว จำนวน 3,000 คน มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ บาดเจ็บ 5 คน สูญหาย 1 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวนมาก ยังประเมินมูลค่าไม่ได้
เตือนพิจิตรท่วมฉับพลันอีก
ส่วน จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย เพราะยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอีก แถมมีน้ำจากทางเหนือไหลหนุน ล่าสุดพบว่าวัดถูกน้ำท่วมกว่า 138 แห่ง พระและสามเณรเดือดร้อนหนัก เพราะไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้ ส่วนถนนเสียหาย 247 สาย พื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้บาดาลกว่า 6 แสนไร่ ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ผู้ที่อยู่ริมแม่น้ำน่านกับแม่น้ำยมให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันอีก วันเดียวกัน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมคณะ นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านใน อ.โพทะเล โดยมี พล.ต.ต.วิฑูรย์ คลังพลอย ผบก.ภ.จ.พิจิตร และตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับ
เมืองสองแควป่วยติดเชื้อ
ด้าน จ.พิษณุโลก ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ชุมชนในตัวเมืองพิษณุโลกหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านนำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำกันวุ่นวาย พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองตลอด 24 ชั่วโมง นพ.วิเศรษฐ วัชโรทน สูตินรีเวช รพ.พุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้มีหญิงสาววัยรุ่นที่พักอยู่ตามหอพักต่างๆ พากันทยอยเข้ารักษาตัว เนื่องจากป่ายเป็นโรคติดเชื้อในช่องคลอด สาเหตุมาจากชุดชั้นในตากไม่แห้งสนิททำให้มีเชื้อรา บางคนเดินลุยน้ำเสื้อผ้าเปียกทั้งวัน เลยทำให้อับชื้น จึงขอให้ประชาชนได้ระมัดระวัง และควรตากเสื้อผ้าไว้ที่โล่งแจ้ง
เจ้าพระยาทะลักท่วมปากน้ำโพ
จ.นครสวรรค์ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ถนนสายเลี่ยงเมืองขึ้นเหนือบริเวณบ้านกลางแดดทั้งขาขึ้นและขาล่อง น้ำท่วมสูงรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางตำรวจต้องทำป้ายแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทางให้เลี่ยงใช้เส้นทางพหลโยธินผ่านตัวเมืองนครสวรรค์แทน ส่วนที่ อ.ชุมแสง ระดับน้ำในแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านพื้นที่ยังคงวิกฤติ ประกอบกับมีน้ำเหนือที่ไหลบ่า มาสมทบ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่า 10 ซม. เส้นทางที่จะไปยังศูนย์ราชการ เช่นที่ว่ากันอำเภอ สถานีตำรวจ และสำนักงานเกษตรอำเภอ มีน้ำท่วมขังสูง 50-60 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนทั่วหน้า นายเสน่ห์ คงแป้น นายอำเภอชุมแสง นำรถอีโก้งมาวิ่งรับ-ส่ง ชาวบ้านที่ไปติดต่อราชการ เพื่ออำนวยความสะดวก โดยไม่คิดค่าบริการ แต่ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล ขณะเดียวกัน ได้ระดมกำลังทำพนังกั้นน้ำรอบศูนย์ราชการ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกโดยเร็ว
เขื่อนพิมายทะลักท่วมเมือง
ส่วนภาคอีสานที่ จ.นครราชสีมา น้ำในลำห้วยต่างๆ ไหลทะลักเข้าเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ต่ำบางแห่งน้ำทะลักเข้าท่วมสูง แถมไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ทำให้บ้านเรือน ในตรอกสำโรงจันทร์ ชุมชนเกาะลอย ชุมชนจมอยู่ใต้บาดาล ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก งูเหลือมขนาดใหญ่ยาว 4 เมตร หนักกว่า 30 กก. เลื้อยหนีน้ำติดตาข่ายชาวบ้านเกาะลอย นายจำรัส โยโส ช่วยจับถูกงูฉกจมเขี้ยวเลือดโซมร่าง ด้าน อ.พิมาย น้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำมูลบน-ลำแซะ ไหลไปสมทบในเขื่อนชลประทานพิมาย จนเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมในตลาดอำเภอพิมาย ที่ว่าการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ บ้านพักข้าราชการ รวมทั้งร้านค้า และบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง ถนนบายพาสสายพิมาย-ชุมพวง บริเวณหน้าศาลแขวงนครราชสีมาพิมาย ถูกน้ำท่วมสูง 40 ซม. รถยนต์สัญจรไปมาลำบาก
แม่น้ำชีล้นตลิ่งท่วมนาข้าว
ที่ จ.มหาสารคาม น้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังมีฝนเทกระหน่ำติดต่อกันหลายวัน ทำให้พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำบางแห่งน้ำทะลักเข้าท่วมสูง ทางชลประทานจังหวัดมหาสารคามเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วน จ.อุดรธานี น้ำในลำห้วยต่างๆ ไหลไปรวมในอ่างห้วยหลวง อ.กุดจับ ทำให้ปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จนใกล้ล้นตลิ่งแล้ว ทางอ่างเก็บน้ำต้องเร่งระบายน้ำ ทำให้พื้นที่ท้ายอ่างถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ขณะที่อ่างห้วยสามพาด อ.หนองแสง อ่างน้ำหนองปะโค อ่างน้ำหนองตะไก้ อ.กุมภวาปี และอ่างน้ำบ้านจั่น กับอ่างน้ำหนองสำโรง อ.เมืองอุดรธานี ต้องเร่งระบายน้ำเช่นกัน
เมืองดอกคูนสำลักน้ำแล้ว
จ.ขอนแก่น พื้นที่หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 12 ต.ดอนหัน อ.เมืองขอนแก่น ถูกน้ำในแม่น้ำชีล้นตลิ่งท่วมสูงเป็นวงกว้าง ชาวบ้านขนข้าวของหนีน้ำกันอย่างทุลักทุเล เรือกสวนไร่นาจมอยู่ใต้น้ำกว่า 2,000 ไร่ นายสุทธินันท์ บุญมี นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมกำลังทหารเข้าช่วยเหลือชาวบ้านเต็มที่ ทั้งนี้ นายสุทธินันท์กล่าวว่า พื้นที่ ต.ดอนหัน มีอาณาเขตติดกับ ต.เขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ เลยส่งผลให้น้ำทะลักท่วมสูง ส่วน จ.ชัยภูมิ หลายอำเภอถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน และมีผู้จมน้ำตาย 1 ศพ คือนายบัญฑิต เหง้าขามป้อม อายุ 21 ปี หลังลงเล่นน้ำกับเพื่อนที่ฝายน้ำล้นฝายทิพย์ ต.บ้านเป้า อ.เกษตรสมบูรณ์ ถูกกระแสน้ำพัดจมหายตายอนาถ
น้ำมูลทะลักท่วมชุมชนหนัก
นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุบลราชธานี เผยว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดปริมาณน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี วัดได้ 7.55 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำมูล ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ รวม 20 ชุมชน 1,013 ครัวเรือน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในการอพยพสิ่งของขึ้นไว้ในที่สูง รวมทั้งการตั้งศูนย์เฉพาะกิจ และเตรียมถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมติดตั้งถังน้ำอุปโภคบริโภค ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 12 ถัง คาดว่าในระยะ 1-2 วันนี้น้ำน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากแม่น้ำโขงหนุนสูงขึ้น ประกอบกับการระบายน้ำจากเขื่อนเหนือ จ.อุบลราชธานี
อุดรฯ-หนองบัวลำภูน่าห่วง
จ.หนองบัวลำภู หลังมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนเรือกสวนไร่นาเป็นวงกว้างรวม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สุวรรณคูหา อ.นาวัง อ.ศรีบุญเรือง อ.นากลาง เฉพาะนาข้าวจมอยู่ใต้บาดาลเสียหายย่อยยับหลายพันไร่ นพ.ศราวุธ สันตินันตรักษ์ นายก อบจ.หนองบัวลำภู ระดมกำลังทำพนังกั้นน้ำกันโกลาหล ขณะที่ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ประชาชนระวังภัยน้ำท่วมฉับพลันแล้ว เช่นเดียวกับ จ.เลย น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนตลาดเมืองใหม่ เขตเทศบาลเมืองเลย ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนเดือดร้อนทั่วหน้า ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขนข้าวของไปไว้ในที่สูง
ศรีสะเกษพบศพจมน้ำดับอีก
ที่ จ.ศรีสะเกษ ระดับน้ำหลายพื้นที่ยังคงทรงตัว และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ถนนสายศรีสะเกษ-ยางชุมน้อย เขต อ.เมืองศรีสะเกษ ถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร รถยนต์สัญจรผ่านไปมาไม่ได้ ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทางจังหวัดเร่งช่วยเหลือเต็มที่ วันเดียวกัน ร.ต.ท.เสรี ปริญญากร ร้อยเวร สภ.อ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งพบศพคนจมน้ำตายลอยอยู่ในลำห้วยสำราญ หลังศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จ.ศรีสะเกษ ไปตรวจสอบทราบชื่อนายประวิทย์ สารบูรณ์ อายุ 35 ปี สอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาผู้ตายลงเล่นน้ำท่ามกลางน้ำไหลเชี่ยวกราก ถูกกระแสน้ำพัดจมหายหน่วยกู้ภัยค้นหาไม่พบ กระทั่งศพลอยโผล่ดังกล่าว
อุตุฯเตือน 13 จังหวัดระวังภัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ลุ่มของจังหวัดตาก เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้
กรมชลฯไขลานระบายน้ำ
ที่กรมชลประทาน นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามถึงระดับน้ำและความคืบหน้าในการช่วยเหลือประชาชนและการเร่งระบายน้ำ โดยนายสามารถให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า กรมได้บริหารจัดการน้ำโดยรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 832 ลบ.เมตรต่อวินาที แยกเป็นทุ่งตะวันตก 627 ลบ.เมตรต่อวินาที และออกสู่ทุ่งตะวันออกอีก 205 ลบ.เมตรต่อวินาที ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณเพิ่มขึ้นอีก 13 ลบ.เมตรต่อวินาที เป็น 2,901 ลบ.เมตรต่อวินาที ในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างได้เปิดประตูคลองลัดโพธิ์ระบายน้ำผ่าน 20.49 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงระยะเวลา 13 ชั่วโมงที่ปริมาณน้ำทะเลลดลง ซึ่งในช่วงนี้ ถึงวันที่ 13 ต.ค. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
นายกฯจี้ช่วยผู้ประสบภัย
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ปัญหาอุทกภัยขณะนี้เป็นประเด็นที่มีการหารือกันอย่างกว้างขวางใน ครม. โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ส่วนราชการต่างๆ ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ประสานงานกับนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ที่นำเสนอการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยธรรมชาติ โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ยังได้นำเรื่องของระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย รวมทั้งการ ใช้ระบบอีอีซีวี หรือระบบการสื่อสารเคลื่อนที่ด้วย
มอบ “โฆสิต” แก้น้ำท่วม
ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวอีกว่า นายกฯได้มอบหมายให้นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัฐฎ์ รองนายกฯและ รมว.อุตสาหกรรม ไปพิจารณาแนวทางนโยบายในเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลชุดก่อนๆ เพื่อนำมาพิจารณาปรับตามความจำเป็น ให้พิจารณาตามแผนการที่วางไว้ ในส่วนของสำนักงบประมาณได้ชี้แจงถึงงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ไม่มีปัญหาใดๆ หรือถ้าหากสถานการณ์มีความรุนแรง ความเสียหายเป็นวงกว้าง ทาง รมว.คลังสามารถเพิ่มวงเงิน แก่จังหวัดได้ตามความจำเป็น นอกจากนั้นยังมีงบกลางที่สามารถใช้เงินสำรองจ่ายในกรณีจำเป็นได้เช่นกัน
เตรียมล้างบางแก๊งมอดไม้

ส่วนนายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมว่า คงต้องมีแนวทางหารือการแก้ปัญหาระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะต้องวางแผนระยะยาวในการแก้ปัญหา รวมถึงต้องมีการวางแผนอนุรักษ์พื้นที่ให้เหมาะสม แต่ปัญหาเร่งด่วน ที่ต้องแก้ไขคือ เรื่องการบุกรุกทำลายป่า ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการยกเลิกยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาลุ่มน้ำ 25 แห่ง มูลค่า 2 แสนล้านบาท ของรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ นายเกษมตอบว่า ต้องพิจารณาความเหมาะสมและทิศทางทั้งหมดก่อน
“บรรหาร” ปลุกแก่งเสือเต้น
ขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า หากไม่มีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ป่านนี้น้ำท่วมกรุงเทพฯแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายรุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา รมช.เกษตรฯ ให้ไปศึกษาระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลกับเขื่อนป่าสักฯว่ากักเก็บน้ำได้เพียงใด ความเร็วน้ำที่ปล่อยจากเขื่อน ตลอดจนน้ำทะเล เพื่อหาทางระบายน้ำไม่ให้ท่วม กทม. ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้เพราะตอนเป็นรัฐบาลเคยอนุมัติการก่อสร้างไปแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นก็มีพวงหรีดมาวางเต็มหน้าบ้าน อยากถามว่ากลุ่มที่คัดค้านรู้สึกอย่างไร ที่ชาวบ้านถูกน้ำท่วมทุกปี หากสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้ว จังหวัดทางภาคเหนือ ตั้งแต่แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก จะไม่ต้องประสบปัญหาอุทกภัยซ้ำซากแบบนี้อีก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">น้ำทะลักท่วมบ่อ ไอ้เข้หลุด 20 ตัว-ไล่ล่าระทึก [17 ต.ค. 49 - 04:42]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
สถานการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสหลายจังหวัด ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล พื้นที่เกษตรจมบาดาล ขณะเดียวกัน กรมชลประทานเตรียมผันน้ำเข้าทุ่งนา 18 แห่งในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเหนือไหลหลากเข้าท่วมกรุงเทพฯ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.นี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงอาจจะทำให้พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลถูกน้ำท่วมหนักนั้น
กทม.จับมือกรมชลฯสู้น้ำท่วม
สำหรับการเตรียมการตั้งรับน้ำท่วมของ กทม. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักการระบายน้ำเพื่อหารือเตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ว่า ได้ทำหนังสือถึงกรมชลประทาน ขอให้เตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ฝั่งตะวันออกคือ 1. เร่งก่อสร้างทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ด้านทิศใต้ของคลองหกวาสายล่าง 6 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ 2. ให้กำจัดวัชพืชและขุดคลองพระองค์ไชยานุชิต และคลองด้านใต้ซึ่งเป็นทางระบายน้ำออกสู่ทะเล และ 3. ให้ผันน้ำจากพื้นที่ด้านเหนือไปด้านตะวันตกสู่แม่น้ำสุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินกว่า 2.2 เมตร เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ
มือมืดแอบฉกกระสอบทราย
นางบรรณโศภิษฐ์กล่าวด้วยว่า ระดับน้ำทะเลล่าสุดหนุนสูงเพียง 1.92 เมตร ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม. ต้องเฝ้าระวังพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพิเศษ เนื่องจากจะต้องรองรับน้ำเหนือขนาดใหญ่ที่จะไหลลงสู่ กทม. โดยได้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยน้ำท่วมที่ประจำอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออก ย้ายมาประจำตามจุดต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฝ้าระวังระบบป้องกันน้ำท่วม เช่น เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกระสอบทราย เนื่องจากมีชาวบ้านขโมยกระสอบทรายของ กทม. เฉลี่ยวันละ 2,000 ถุง
ขณะเดียวกัน สำนักการระบายน้ำได้จัดทำแผนป้องกันน้ำท่วมเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนวันที่ 23-25 ต.ค. ไว้แล้ว หลังจากที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. สั่งการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเน้น 1. ติดตามตรวจสอบความสูงของระดับน้ำ 2. ตรวจสอบระดับความสูง และความแข็งแรงของแนวกระสอบทรายให้สัมพันธ์กับระดับน้ำ บริเวณจุดอ่อนอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานที่สำคัญ 3. ตรวจสอบจำนวนกระสอบทราย และสำรองกระสอบทรายให้เพียงพอ 4. เฝ้าระวังแนวกระสอบทราย โดยใช้กำลังเทศกิจของเขต และขอกำลังสนับสนุนจากทหาร 5. ขอถอนกำลังสำนักการระบายน้ำจากพื้นที่ด้านตะวันออกเข้ามาดูแลพื้นที่เขตชั้นใน
“อภิรักษ์” ยันรับน้ำท่วมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมติดตามการแก้ปัญหาอุทกภัยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความพร้อมในแผนการของ กทม. จากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งนายอภิรักษ์ ยืนยันว่าสามารถรับมือและควบคุมได้ รวมทั้งงบประมาณฉุกเฉิน 100 ล้านบาท ของ กทม.นั้น ขณะนี้ใช้ไปเพียง 47.3 ล้านบาท ยังมีงบประมาณเพียงพอในการบริหารจัดการได้ ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถามย้ำถึงสถานการณ์อย่างละเอียดและแสดงความเป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมถามกลับนายอภิรักษ์ว่า รัฐบาลจะสามารถบอกกับประชาชนได้หรือไม่ ว่ากรุงเทพมหานคร สามารถรับมือได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทางผู้ว่าฯกทม.ยืนยันในที่ประชุมว่าสามารถรับมือน้ำท่วมได้อย่างแน่นอน
เมืองกรุงสังเวย 2 ศพ
เย็นวันเดียวกัน ร.ต.ท.สุพล มีศิลป์ พงส. (สบ.1) สน.ลาดกระบัง ไปสอบสวนเด็กจมน้ำเสียชีวิต 2 ศพ หลังชุมชนคลังสินค้าลาดกระบัง ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งหญ้าน้ำท่วมขัง ลึกเมตรเศษ เนื้อที่หลายสิบไร่ พบชาวบ้านงมศพหนูน้อยขึ้นฝั่งแล้วทราบชื่อ ด.ช.นันทกร หรือน้องเฟิร์ส ปฏิมาหงษ์ทอง อายุ 6 ขวบ กับ ด.ญ.วราภรณ์ หรือน้องแมงปอ นามวิชัย อายุเท่ากัน ทั้ง 2 เป็นนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดบำรุงรื่น ย่านลาดกระบังและเป็นญาติกัน โดยมีนางระเบียบ ปฏิมาหงษ์ทอง อายุ 53 ปี ยายของเด็กกอดศพร่ำไห้ พร้อมให้การว่า ทั้งคู่อาศัยอยู่กับตนที่บ้านเลขที่ 340/1 หมู่ 1 ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ก่อนพบจุดจบทั้ง 2 นำเรือท้องแบนพลาสติกออกมาพายเล่นตามประสาเด็ก คาดว่าเรืออาจเสียหลักพลิกคว่ำทำให้ เด็กพลัดตกน้ำ
ปทุมธานีรอลุ้นระดับน้ำ
ที่ จ.ปทุมธานี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ. ทหารสูงสุด พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของให้ผู้ประสบภัยที่หมู่ 4 ต.บ้านกระแชง อ.เมืองปทุมธานี พร้อมตรวจความพร้อมของที่สถานีสูบจ่ายน้ำสำแล โดย พล.อ.บุญสร้างเปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบสถานีสูบจ่ายน้ำแห่งนี้ว่ามีความพร้อมรับสถานการณ์หรือไม่ สำหรับระดับน้ำทั่วๆไปในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านั้น พญ.วันทนีย์ วัฒนะ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะ เดินทางไปเยี่ยมตำรวจ สภ.อ.สามโคก ที่ถูกน้ำท่วมโรงพักด้วย
น้ำท่วมถนนตัดเส้นทางเลี่ยง
สำหรับสถานการณ์ที่ จ.อุทัยธานี ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ท่วมถนนเข้าตัวเมืองอุทัยธานี บริเวณหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี รถเล็กและจักรยานยนต์ผ่านไม่ได้ ขณะเดียวกันนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง รอง ผวจ.อุทัยธานี ได้ขอความร่วมมือ พ.อ. ประเสริฐ ทองดี ผบ.นพค.15 อ.ห้วยคต และนายเผด็จ นุ้ยปรี นายก อบจ.อุทัยธานี นำรถบรรทุกดินกว่า 10 คัน ร่วมกับทางหลวงชนบทอุทัยธานี นำรถเกรดและรถอัดบดปรับถนนจากสายอุทัยธานี-ท่าน้ำอ้อย ผ่านที่ดิน ส่วนตัวของนายศิลป์ชัย เชษฐศิลป์ อดีต ส.ว.อุทัยธานี ไปเชื่อมต่อถนนสายอุทัยธานี-โกรกพระ ตรงหน้ากองบังคับ การตำรวจภูธรจังหวัด เพื่อใช้เป็นทางเลี่ยงเข้าตัวเมืองอุทัยธานี และไปภาคเหนือผ่าน อ.สว่างอารมณ์ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ไปสู่ จ.กำแพงเพชร
ระดมพลสร้างพนังกั้นน้ำ
ทางด้านนายพัฒพงศ์ พยัคฆันตร รอง ผวจ.อุทัยธานี นำรถยีเอ็มซีของ มทบ.31 ค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ ออกตรวจเส้นทางสายอุทัยธานี-วัดสิงห์ พบบริเวณทางโค้งหน้าโรงเรียนบ้านหลุมเข้า น้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ นอกจากนี้เส้นทางสายอุทัยธานี-ท่าน้ำอ้อย ยังคงมีน้ำระดับสูง ไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่นายภูวนาถ เอกรัตน์ นอภ.สว่างอารมณ์ และนายเอ ถนอมมิตรวัฒนา กำนัน ต.สว่างอารมณ์ นำชาวบ้าน 150 คน ขนกระสอบทรายสร้างพนังกั้นน้ำริมถนนสายอุทัยธานี-ท่าน้ำอ้อย และแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ต้องการ ส่วนความช่วยเหลืออื่นๆ ตลอดทั้งวันยังคงมีผู้มีจิตรศรัทธานำสิ่งของอุปโภคบริโภคเข้าจ่ายตามจุดไม่ขาดสาย
สถานที่ราชการจมบาดาล
เนื่องจากบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด สถานีตำรวจ ศูนย์ราชการและรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง น้ำยังมีระดับสูง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางเข้าทำงานได้ บางรายต้องจ้างเรือหางยาวมาทำงานวันละ 80 บาท โดยตั้งแต่เช้า สำนักงานขนส่งจังหวัดอุทัยธานีร่วมกับ มทบ.31 ค่ายจิระประวัติ นำรถยีเอ็มซีวิ่งรับส่งชาวบ้านและข้าราชการที่จะไปทำงานตามเส้นทางสาย บขส.อุทัยธานี-วิทยาลัยเทคนิค ส่วนนางเตือนจิตรา แสงไกร นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี จัดรถไถนาลากกระบะตระเวนวิ่งบริการรับส่ง ประชาชนตามเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ยังระดมเจ้าหน้าที่กองช่างและ อปพร. สร้างสะพานเดินเชื่อมร้านค้าในตลาดกับส่วนราชการ ให้ประชาชนสัญจรไปมาอย่างสะดวกอีกทางหนึ่ง
จับจระเข้หนีน้ำท่วมไม่ทัน
ส่วนการขนย้ายจระเข้ในฟาร์มจระเข้อุทัยธานี ของนายอมร จิตตาพินิจมาศ หมู่ 1 ต.สะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี เพื่อหนีน้ำท่วมนั้น ล่าสุด นายพัฒพงศ์ พยัคฆันตร รอง ผวจ.อุทัยธานี นายเกียรติศักดิ์ อิ่มเสนะวิน นักวิชาการประมง 7 รักษาราชการประมงจังหวัด เดินทางมาเร่งรัดการจับจระเข้เป็นวันที่ 2 สามารถจับจระเข้ได้เพียง 65 ตัว จาก 4,500 ตัว ขณะเดียวกัน ระดับกลับเพิ่มสูงขึ้นและหวั่นเกรงว่ากำแพงบ่อจะทรุดพังลงมา จึงต้องเพิ่มทีมจับจากฟาร์มจระเข้วสันต์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท มาช่วยทีมจากฟาร์ม จ.สมุทรปราการ ของนายอุทัย ยังประภากร โดยใช้ไฟฟ้าแรงสูงช็อตจับใส่เรือท้องแบน ไปปล่อยที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์อุทัยรัช หมู่ 3 ต.หนองไผ่แบน อ.เมืองอุทัยธานี
พนังกั้นน้ำพังถล่มเมืองจม
ที่ จ.อ่างทอง แนวกั้นน้ำพังหลายจุด เนื่องจากไม่สามารถต้านกระแสน้ำที่ไหลบ่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำขยายวงกว้างท่วมบ้านเรือนประชาชนเพิ่มมากขึ้นล่าสุดน้ำไหลผ่านคลองโพสะ กับคลองชลประทานเข้าท่วมทุ่งนาและบ้านเรือนราษฎรในเขต อ.เมือง หลายพื้นที่ ทั้ง ต.คลองวัว ต.มหาดไทย และ ต.บ้านแห ฝั่งตะวันตก หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ จะทำให้น้ำล้น 2 ฝั่งคลองที่เชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมบ้านประชาชนขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน อาจสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกนับพันครอบครัว
รพ.ผวาเร่งสร้างคันป้องกัน
สำหรับ ต.ศาลาแดง ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง หลังจากที่คันกั้นน้ำบริเวณวัดหลุมไก่พัง ทำให้พื้นที่ทั้ง 2 ตำบลถูกน้ำท่วมจมทั้งหมดแล้ว และน้ำยังไหลบ่าไปท่วมบริเวณรอบนอกของ รพ.ไชโย ทางจังหวัดได้ระดมกำลังทหารสร้าง คันกั้นน้ำอย่างโกลาหล เพื่อไม่ให้ทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาล ด้าน นพ.ถวัลย์ พบลาภ สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า รพ.ไชโย และ รพ.โพธิ์ทอง ถูกน้ำท่วมจนต้องขนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์ และอพยพคนไข้ไปที่อื่นนั้น ขอชี้แจงว่า ขณะนี้ รพ.ไชไยยังเปิดให้บริการปกติ และไม่ได้มีการขนย้ายคนไข้หรือเครื่องมือทางการแพทย์แต่อย่างใด ส่วน รพ.โพธิ์ทองยังเปิดให้บริการตามปกติเช่นกัน ถึงแม้มีการขนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์และคนไข้หนักบางส่วน ไปยัง รพ.แสวงหา กับ รพ.วิเศษชัยชาญ ก็ตาม แต่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
เตือนอย่าขึ้นราคาสินค้า
ขณะเดียวกัน จังหวัดอ่างทองได้ออกประกาศให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาสินค้าหรือค่าบริการให้เห็นให้ชัดเจน พร้อมห้ามมิให้กักตุนสินค้า ป้องกันพ่อค้าหน้าเลือดเอาเปรียบประชาชนที่ประสบภัย หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกเอารัดเอาเปรียบในการซื้อขายสินค้า สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ช่วยรับเรื่องร้องเรียนราคาสินค้าที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอ่างทอง หรือทางสายด่วนแม่บ้าน 1569 ตลอดเวลา
ในหลวงพระราชทานถุงยังชีพ
นอกจากนี้ ชาวอ่างทองต่างพากันปลื้มปีติ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ประสบอุทกภัย พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยเหลือ โดยนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งนายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานมามอบให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยใน ต.ศาลาแดง กับ ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง ที่บริเวณถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง จำนวน 2,000 ครอบครัว
พระราชทานอาหารพสกนิกร
ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นองค์สภานายิกา สภากาชาดไทย และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ได้พระราชทานอาหารประกอบเลี้ยงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยมอบหมายให้นางอัจฉรา สงวนพงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง และ น.ส.สุนี โพธิ์ทองคำ หัวหน้าหน่วยสนับสนุนบริการบรรเทาทุกข์เคลื่อนที่บรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง เป็นผู้ประกอบอาหารวันละ 2,000 ชุด
ได้ที่ดินสร้างศูนย์ผู้ประสบภัย
ความคืบหน้าในเรื่องการสร้างที่พักช่วยผู้ประสบภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เดินทางมาที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เข้าร่วมประชุมกับ ผวจ.อ่างทอง และผู้เกี่ยวข้อง เร่งจัดสร้างที่พักตามพระราชประสงค์ โดย พล.อ.ณพลเปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์เบื้องต้น 2 ล้านบาท ให้จังหวัดอ่างทองดำเนินการสร้างศาลาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดหาที่ดินซึ่งเป็นที่สูง น้ำท่วมไม่ถึงอยู่ใกล้จังหวัดอ่างทอง จัดสร้างศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใช้เป็นศูนย์กลางรองรับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจนไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งพบว่าพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง เป็นพื้นที่ที่เหมาะสม ขนาดพื้นที่ 76 ไร่เศษ เป็นที่สาธารณประโยชน์ ถมเรียบร้อยซึ่งที่ดินจังหวัดจะสำรวจแนวเขตที่ดินให้ชัดเจนอีกครั้ง
อ่างทองเฮี้ยนวันเดียว 5 ศพ
ขณะเดียวกัน กระแสน้ำได้คร่าชีวิตชาวอ่างทอง วันเดียวถึง 5 ศพ รายแรก ด.ช.โยธิน ไพรดี อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ 3 ต.บ่อแร่ อ.โพธิ์ทอง ถูกน้ำพัดร่างจมเสียชีวิตบริเวณทางเข้าวัดกลางพุทธนิมิตร ในหมู่บ้าน ขณะเดินไปซื้อของที่ร้านค้า รายที่ 2 ด.ช.ศุภกิจ อาจละออ อายุ 14 ปี จมน้ำเสียชีวิตใต้ถุนบ้านเลขที่ 41 หมู่ 5 ต.ตลาดกรวด อ.เมืองอ่างทอง หลังลงไปเล่นน้ำที่ไหลเชี่ยว รายที่ 3 สังเวยทีเดียว 2 ศพ คือ ด.ช.ศุภวิทย์ เชื้อมั่น อายุ 12 ปี กับ ด.ช.สัญญลักษณ์ ม่วงกรุง อายุ 14 ปี เป็นเด็กกำพร้าวัดสระแก้ว จมน้ำเสียชีวิตใต้ศาลาวัด หลังร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนลงไปเล่นน้ำ และรายที่ 4 เป็น ด.ช.ไม่ทราบชื่อ อายุ 13 ปี หมู่ 7 ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง รวมผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยของจังหวัดอ่างทองขณะนี้รวมทั้งหมด 9 ราย
น้ำจ่ออุตสาหกรรมโรจนะ
จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังที่พนังกั้นน้ำ 8 จุด ใกล้กับหมู่บ้านการเคหะแห่งชาติ อ.พระนครศรีอยุธยา ถูกชาวบ้านพังเพื่อระบายน้ำออกไปนอกพื้นที่นั้น นายธีระวุธ ศิรวรรณ นอภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงว่า สาเหตุเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวจนพนังกันน้ำพังไม่ใช่ฝีมือชาวบ้าน ขณะเดียวกันทางนิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่อยู่ห่างจากจุดน้ำท่วมประมาณ 4 กม.ได้สั่งระดมคนและรถแบ็กโฮมาสร้างพนังกั้นน้ำเป็นช่วงๆทั้งหมด 8 ช่วงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมนิคมฯ เนื่องจากมีโรงงานอยู่จำนวนมาก ขณะที่พื้นที่อื่นๆยังจมน้ำ สถานที่ราชการต้องปิดไปโดยปริยาย รวมทั้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ฐานเจดีย์ภูเขาทองเริ่มทรุด
ส่วนทุ่งภูเขาทองยังรับน้ำได้อีกมาก แต่ฐานองค์เจดีย์ภูเขาทองเริ่มทรุดแล้ว เนื่องจากเริ่มท่วมขังขณะทุ่งมะขามหย่อง น้ำได้ล้นเต็มพื้นที่จนไหลทะลักท่วมถนนสายหลัก เช่นเดียวกับที่ถนนโรจนะ ฝั่งขาเข้าเมืองฝั่งติดกับโรงแรมอู่ทองอินน์และหน้าหมู่บ้านการเคหะฯ น้ำท่วมเต็มถนนแล้ว ขณะเดียวกันชาวหมู่บ้านการเคหะฯประสานขอความช่วยเหลือไปยังการเคหะแห่งชาติที่ กทม. แต่ได้รับการปฏิเสธ และที่ สภ.อ.บางปะหัน ระดับน้ำสูงท่วมชั้นล่างของโรงพัก เจ้าหน้าที่ต้องย้ายไปตั้งสถานที่ติดต่อราชการชั่วคราวบนถนนสายพระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี
จี้พ่อเมืองแจงชาวบ้านรื้อพนัง
นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่พอใจที่ถูกน้ำท่วมขัง จึงรื้อกระสอบทรายกั้นน้ำในหลายจุดเพื่อระบายน้ำออกว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าฯทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว ซึ่งปัญหาที่เกดขึ้นเกิดจากความไม่เข้าใจของประชาชนในพื้นที่ที่อาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมพื้นที่ของตัวเองถึงถูกน้ำท่วมขัง จึงต้องอธิบายให้เข้าใจว่าการทำลายพนังกั้นน้ำไม่ได้ทำให้พื้นที่ของตัวเองมีปริมาณน้ำลดลงแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกัน
อพยพหนีตายกลางดึก
ส่วน จ.สิงห์บุรี ที่ถูกน้ำท่วมสูงใน อ.อินทร์บุรี อ.พรหมบุรี และ อ.เมืองบางส่วนนั้น เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านประวิณ ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี ทำให้บ้านเรือนนับร้อยหลังจมบาดาลในพริบตา ชาวบ้านต้องอพยพหนีกันกลางดึกอย่างโกลาหล เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและไหลบ่าอย่างรวดเร็ว รวมทั้งโรงเรียนสิงหพาหุประสานมิตรอุปถัมภ์ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารซึ่งเป็นพระอารามหลวง ทางวัดต้องให้พระสงฆ์ สามเณรขนกระสอบทรายมากั้นไม่ให้น้ำเข้าท่วมแหล่งโบราณสถานของวัด
ในส่วนของ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในตลาด ต.ไม้ดัดมีน้ำท่วมสูงร่วม 2 เมตร แถมน้ำยังเริ่มไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันอย่างรวดเร็ว นอกจากทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วยังทำให้พื้นที่เกษตรเสียหายนับพันไร่
ผวาไอ้เข้หลุดบ่อ 20 ตัว
ตอนเย็นวันเดียวกัน น้ำได้ทะลักท่วมหลายหมู่บ้าน ต.วิหารขาว อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ทำให้จระเข้ 10 ตัวที่เลี้ยงไว้ในบ่อที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 ต.วิหารขาว กับ บ้านเลขที่ 156 หมู่ 3 ต.วิหารขาว อีก 10 ตัว รวม 20 ตัว หลุดหายออกไปจากบ่อ ภายหลังนายปราณีต บุญมี รอง ผวจ.สิงห์บุรี นางภูริดา ไวโรจนกุล ประมงจังหวัดได้รับรายงานรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานทีมงานจากฟาร์มจระเข้สมุทรปราการมาล่า แต่ไม่พบแม้แต่ตัวเดียว ทาง อบต.วิหารขาว จึงประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนระมัดระวังและอย่าตกใจหากได้ยินเสียงปืนที่ทีมงานใช้ยิงจระเข้
เขื่อนเจ้าพระยารับน้ำเพิ่ม
จ.ชัยนาท นายสัณหพงศ์ ก้านเหลือง ผอ.ส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา เขื่อนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ทางเขื่อนรับน้ำจาก จ.นครสรรค์ 5,905 ลบ.ม.ต่อวินาที และระบายน้ำท้ายเขื่อนออก 4,030 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระยะนี้ต้องระบายน้ำเข้าซอยทุกแห่งโดยให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาโครงการส่งน้ำของแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันชาวบ้านระดมสร้างพนังกันน้ำให้สูงกว่าเดิม เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากการระบายน้ำของเขื่อน
เร่งสูบน้ำระบายลงทะเลสาบ
ด้านนายชุมพร พลรักษ์ ผวจ.สระบุรี เปิดเผยถึงแนวพระราชดำริที่ใช้ทะเลสาบบ้านหมอ เป็นแก้มลิงรับน้ำจากฝั่งตะวันออก ของคลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อชะลอน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ป้องกันพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้จังหวัดสระบุรีกับสำนักงานชลประทานที่ 10 ระดมสูบน้ำโดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่องสูบน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก และเพื่อสนองพระราชดำริ จังหวัดได้สำรวจขยายพื้นที่ไปฝั่งขวาของทะเลสาบบ้านหมอซึ่งเป็นที่ดินของโรงงานปูนซิเมนต์ไทยมีเนื้อที่รวม 900 ไร่ สามารถรองรับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. และกำลังสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงที่เป็นที่ราบที่รกร้างอีก 1 จุด เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ เพื่อเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชัยนาท-ป่าสัก
ส.อ.ซิ่ง จยย.สังเวยน้ำท่วม
ตอนสายวันเดียวกัน ขณะที่ ส.อ.สมศักดิ์ กลิ่นจันทร์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 2 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี สังกัดกองพันป้องกันฐานบิน ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ขี่ จยย.จะไปทำงาน ผ่านสะพานข้ามคลองชลประทาน ทางเข้าบ้านไผ่ขวาง ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี ซึ่งถูกน้ำท่วมสูง ปรากฏว่าถูกกระแสน้ำซัดจมน้ำหายไปทั้งรถทั้งคน ระหว่างนั้นมีพลเมืองดี 2 คน พยายามเข้าช่วยเหลือแต่กระแสน้ำเชี่ยวมากจึงช่วยไม่สำเร็จ ภายหลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรีมาช่วยกันงมจนพบทั้งรถทั้งคน
เมืองขุนแผนสูงกว่า 1 เมตร
ที่ จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มระดับสูงอย่างต่อเนื่องจนล้นแนวป้องกันกระสอบทรายที่เป็นแนวป้องกันส่งผลให้ย่านธุรกิจใจกลางเมืองสุพรรณบุรี ทั้งหมดรวมพื้นที่กว่า 2 ตารางกิโลเมตร บางจุดสูงกว่า 1.20 เมตร ต้องปิดการจราจรโดยเด็ดขาด ขณะที่สถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น ที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี สำนักงานที่ดินจังหวัด ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว อบจ.สุพรรณบุรี และ สภ.อ.เมือง ประชาชนไม่สามารถเข้าไปติดต่อราชการได้ เพราะน้ำท่วมสูง
โรงพักป่วนย้ายที่รับแจ้งความ
สำหรับ สภ.อ.เมืองสุพรรณบุรี พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวน ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยรัตย์ ทิพย์จันทร์ ผกก.สภ.อ.เมือง ย้ายจุดปฏิบัติในการรับแจ้งความทุกเรื่องไปให้บริการกับประชาชนที่บริเวณตู้สายตรวจข้างหอนาฬิกาบรรหาร-แจ่มใส ถนนมาลัยแมน พร้อมสั่งให้กำลังตำรวจและตำรวจชุมชนกว่า 300 นาย ออกอำนวยความสะดวกและป้องกันมิจฉาชีพที่อาจจะก่อเหตุลักทรัพย์ ขณะที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งนาริมถนนสายสุพรรณบุรี-ตลิ่งชัน ระดับได้เพิ่มสูงขึ้น นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รอง ผวจ. รักษาราชการแทน ผวจ.ได้ไปตรวจสอบสั่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
สร้างพนังกั้นหวั่นน้ำท่วม รพ.
ด้าน รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ถนนหน้าโรงพยาบาลระดับน้ำสูงกว่า 70 ซม. ต้องนำกระสอบทรายมากั้นไม่ให้น้ำไหลท่วม รพ. นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้ทีมแพทย์และพยาบาลเตรียมพร้อม 100% ในการให้การดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งเตรียมแผนการขนย้ายผู้ที่อยู่ในชั้นล่าง หากไม่สามารถต้านกระแสน้ำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มอีกว่า นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.สุพรรณบุรี และนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ได้เปลี่ยนการป้องกัน เป็นการระดมเจ้าหน้าที่จาก อบจ. หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 จ.สุพรรณบุรี และศูนย์ป้องกันฯเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีที่มีนายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ รองนายกเทศมนตรี ดูแลระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 500 นาย ออกช่วยเหลือชาวบ้าน
ซิ่งเรือบนถนนชนเสาไฟดับ
จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำในแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านเขต อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ยังเกินจุดวิกฤติ 1.20 เมตร น้ำท่วมขังหลายวันทำให้ชาวบ้านใน ต.ทับกฤช อยู่กันอย่างลำบากและล้มป่วยหลายราย และเมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค. พ.ต.ท.จรัญ กันภัย สารวัตรเวรสภ.อ.ชุมแสง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือชนเสาไฟฟ้ามีคนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายทับกฤช-ทุ่งสว่าง ที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 4 เมตร หมู่ 13 ต.ทับกฤช พบชาวบ้านงมศพขึ้นฝั่งแล้วชื่อนายสกล กองประยุทธ อายุ 34 ปี อยู่หมู่ดังกล่าว สอบสวนทราบว่า ผู้ตายขับเรือหางยาวกลับจากขายปลามาตามถนนที่มีน้ำท่วมขังแล้วเรือเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง จนเรือล่มและจมน้ำเสียชีวิต หลังการเสียชีวิตญาติผู้ตายกลับประสบปัญหา เนื่องจากไม่มีสถานที่ตั้งสวดศพ เพราะวัดทุ่งแว่นซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง คาดว่าจะนำศพไปทำพิธีที่ อ.ท่าตะโก ซึ่งเป็นท้องที่ติดกัน
พิจิตรรับน้ำเพิ่มอ่วมหนัก
สำหรับ จ.พิจิตร ยังผจญสภาพน้ำท่วมหนักเกือบทุกพื้นที่ เนื่องจากแม่น้ำ 2 สายหลัก คือแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม ไหลผ่านมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรับน้ำจากทางภาคเหนือ ทำให้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ขังอยู่แล้วมีระดับสูงขึ้นอีก ล่าสุดระดับน้ำจากแม่น้ำน่านได้ทะลักล้นตลิ่งไหลท่วมบริเวณบ้านวังไร่ ต.ดงป่าคำ อ.เมืองพิจิตร และไหลท่วมถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน บริเวณ กม.17-18 ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซม. และทำให้ถนนหลักเกือบทุกสายใน จ.พิจิตร ถูกน้ำท่วมจนใช้การไม่ได้ ยกเว้นเพียงถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน ซึ่งยังใช้ได้ดีแต่น้ำก็เริ่มท่วมแล้วบางจุด โดยนายอุมัชวัชญ์ อารัธเพรีย ผอ.แขวงการทางพิจิตร นำเจ้าหน้าที่แขวงการทางซ่อมแซมและปักป้ายจราจรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
ปิด รพ.งดรักษาผู้ป่วยใน
นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำน่านยังไหลย้อนเข้าท่วมอาคาร รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อ.ตะพานหิน เป็นรอบที่ 2 ทาง รพ.สมเด็จพระยุพราชฯต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยใน ให้บริการเพียงผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านแม่น้ำยมระดับน้ำที่ไหลท่วมขังในพื้นที่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง กิ่ง อ.บึงนาราง และ อ.โพทะเล ยังคงท่วมขังสูง เพราะส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มระดับน้ำสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังหลายร้อยครอบครัวต้องหนีน้ำมาปักหลักสร้างเพิงพักตามถนนชลประทาน สำหรับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจิตร เขต 1 และเขต 2 กว่า 50 โรงเรียนยังคงถูกน้ำท่วมขังและปิดไม่มีกำหนดมากว่า 1 เดือนแล้ว
สงสัย ผญบ.อมเงิน 3 ศพ
ทางด้าน จ.แม่ฮ่องสอน นายเดชา สัตถาผล นอภ. เมืองแม่ฮ่องสอน ได้เรียกตัวนายอุทิศ ตยะดีทาน ผู้ใหญ่บ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เข้าชี้แจงกรณีถูกญาติของนายรวย มูลนันชัย ที่เสียชีวิตพร้อมเมียและลูกรวม 3 ศพ จากเหตุน้ำป่าถล่ม โดยกล่าวหาว่านำเงิน 3 หมื่นบาท ที่ทางจังหวัดมอบช่วยเหลืองานศพไปใช้ไม่โปร่งใส การทำพิธีศพทำอย่างเรียบง่ายและไม่ได้นำศพมาทำพิธีจริง ทำให้ญาติสงสัยว่าเงินที่ใช้จ่ายไปไม่คุ้มกับพิธีศพ ขณะที่นายอุทิศชี้แจงว่าเงินทั้งหมดนอกจากใช้ในงานศพแล้ว ยังใช้จ่ายในการเลี้ยงชาวบ้านที่ช่วยค้นหาศพในวันเกิดเหตุด้วย ซึ่งนายเดชาจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง
ส่งเรือ “สุขาพัฒนา” ปลดทุกข์
ที่กรมชลประทาน นายรุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยเรือสุขาพัฒนา 2 ลำ เพื่อนำไปจอดให้บริการแก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมบริเวณเกาะเกร็ดตระการ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง โดยนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประธาน กล่าวรายงานว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชปรารภถึงปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเรื่องสุขาทางมูลนิธิชัยพัฒนาและผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมบริจาคเงินให้กรมชลประทาน ดัดแปลงและปรับปรุงเรือบรรทุกเก่าเป็นเรือเหล็ก กว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตรให้เป็นเรือสุขาชาย-หญิงแยกกัน โดยมีห้องสุขาชายและหญิงอย่างละ 3 ห้อง ห้องอาบน้ำชายและหญิงอย่างละ 1 ห้อง อ่างล้างหน้าชาย-หญิงอย่างละ 2 อ่าง และโถปัสสาวะชาย 3 โถ ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ลำ จะไปจอดให้บริการแก่ประชาชนในบริเวณวัดเฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่เกราะเกร็ด จ.นนทบุรี
ชาวบ้านให้ผันน้ำเข้าทุ่ง
นายสามารถกล่าวถึงแนวทางการผันน้ำเข้าสู่พื้นที่ 18 ทุ่งนั้นว่า เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้ คาดว่าภายใน 7 วัน จะดำเนินการได้ครบ ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจของเกษตรกรที่จะให้ผันน้ำเข้าพื้นที่ของตนเอง นอกจากนั้นยังมีประชาชนโทรศัพท์มาแจ้งให้ผันน้ำเข้าสู่พื้นที่ของตนเอง นอกจากพื้นที่ 18 ทุ่งดังกล่าวด้วย ทางกรมชลประทานจะต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ สำหรับน้ำที่ผันลงทุ่งนั้น ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ให้เกษตรกรได้ทำนาปรังได้ทันทีหลังน้ำลด หากยังไม่เพียงพอกรมชลประทานจะผันน้ำเพิ่มเติมให้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำขณะนี้ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงตั้งแต่ จ.นนทบุรีไปจนถึง จ.พิจิตร ส่วนพื้นที่ กทม. ชั้นใน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเตรียมการไว้ดี ไม่น่ามีปัญหา ยกเว้นทางฝั่งตะวันออกของ กทม.ไปจนถึง จ.สมุทรปราการ
เหนืออากาศเย็น-ใต้ฝนชุก
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง และอ่าวไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกระจายในภาคใต้ฝั่งตะวันออกร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
สังฆราชประทานช่วยน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้แจ้งว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานความช่วยเหลือแก่วัดและผู้ประสบอุทกภัย โดยได้ประทานเครื่องครัวจำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่วัดและประชาชนผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมพระกุศล บริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค หรือปัจจัย โดยนำส่งที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 23 ต.ค. และสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โทร. 0-2281-2831-3, 0-81916-8310, 08-1448-4444
ประมงเสียหาย 347 ล้าน
นายจรัลธาดา กรรณสูต อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ความเสียหายด้านประมงจากอุทกภัยในขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นมีพื้นที่รวม 41 จังหวัด พื้นที่ 58,375 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 347 ล้านบาท บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหาย 45,988 บ่อ กระชังเสียหาย 5,118 กระชัง เกษตรกรได้รับผลกระทบ 37,496 ราย ส่วนการช่วยเหลือ กรมประมงได้ส่งเรืออนุรักษ์ 16 ลำและเจ้าหน้าที่ 48 คนไปช่วยขนย้ายจระเข้ที่ฟาร์มใน จ.อุทัยธานี รวมทั้งส่งน้ำและอาหารให้กับประชาชนที่อยู่ตามบ้านเรือนที่อยู่ห่างจากชุมชนและช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านไปทำงานหรือพบแพทย์ สำหรับจระเข้ที่หลุดออกจากฟาร์ม หากเป็นฟาร์มที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ถือว่าเป็นความผิด
มอบ 20 ล้านให้นครสวรรค์
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.สุรยุทธ์เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ปัญหาอุทกภัยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม และกองบัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งทางจังหวัดนครสวรรค์รายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นและได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาทในการแก้ปัญหาเสร็จแล้ว แต่ปัญหาขณะนี้คือประชาชนยังขาดแคลนน้ำดื่มและเครื่องอุปโภคบริโภค หลังทราบรายงานของจังหวัดนครสวรรค์ พล.อ.สุรยุทธ์ได้สั่งการให้อนุมัติเงิน 20 ล้านบาทให้จังหวัดนครสวรรค์ทันที “เบิร์ด” นำทีมศิลปินซับน้ำตา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ต.ค.นี้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสภากาชาดไทยจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่บ้านเปี่ยมสุข จ.อ่างทอง โดยมีศิลปินของค่ายแกรมมี่เดินทางไปด้วยเพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยพร้อมร่วมทำอาหารในโครงการครัวเคลื่อนที่ของสภากาชาดไทย สำหรับศิลปินที่เดินทางไปครั้งนี้นำโดย เบิร์ด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>พายุฝนและพายุทอร์นาโด คร่าชีวิตผู้คนและสร้างความเสียหายในรัฐเท็กซัส ของสหรัฐ</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>พายุฝนฟ้าคะนอง และความรุนแรงของพายุทอร์นาโด ที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน คร่าชีวิตผู้คนในรัฐเท็กซัสไปแล้ว 4 ราย หลังคาบ้านเรือนโดยเฉพาะบ้านเคลื่อนที่ปลิวกระจัดกระจาย ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นระเนระนาด การคมนาคมสัญจรเป็นอัมพาต ทั้งยังคาดว่า จะยังคงมีฝนตกหนักติดต่อกันอีกในวันนี้ ที่นครฮิวส์ตัน โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดการเรียนการสอน ถนนบางสายใช้การไม่ได้ เที่ยวบินหลายเที่ยวบินต้องล่าช้า ส่วนที่รัฐหลุยส์เซียน่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย จากกระแสลมแรงจัด
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น้ำท่วมหนักที่เมืองแคนดี้ ศรีลังกา ตาย 16 บาดเจ็บ 44

Situation Update No. 3
Posted:2011-01-09, 14:40:05 [UTC]
Ref.no.: FL-20110109-29125-LKA

Situation Update No. 3
On 2011-01-12 at 04:22:16 [UTC]
Event: Flood
Location: Sri Lanka Central State Kandy
Number of Deads: 16 person(s)
Number of Injured: 44 person(s)

Situation:

Recent heavy rains across Sri Lanka caused flooding and landslides that left thousands homeless, killed 13 people and injured 44 others, the country's disaster management agency said Tuesday. Officials have set up 351 camps to house more than 127,500 displaced people in three provinces, the agency said in a statement. More than 863,000 people have been affected by the floods, the statement said. The hardest hit areas were the eastern districts of Batticaloa and Ampara. Helicopters have been deployed to airlift villagers marooned in flood-stricken regions. And planes were delivering dry rations to the area. The government has ordered the closure of schools in the North Central, Central and Eastern provinces. Minister of Health Maithripala Sirisena appealed to Sri Lankans Tuesday to donate food, blankets and clothing to flood victims.

 

ีีอัพเดท น้ำท่วมในออสเตเรีย

<table width="100%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td colspan="2" valign="top" width="100%">2011-01-12 04:20:36 - Flood - Australia

</td> </tr> <tr> <td colspan="2" width="100%">!!! ALERT !!!
</td> </tr> <tr> <td valign="top"> <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td width="25%">EDIS Code:</td> <td>FL-20110112-29164-AUS</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2011-01-12 04:20:36 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Australia & New-Zealand</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>Australia</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>State of New South Wales, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>Lower Clarence Valley, </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>
</td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Damage level: Heavy (Level 3)

Not confirmed information!
</td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="440" align="right"> </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> About 2,000 residents in the Lower Clarence Valley, in northern New South Wales, have been ordered to evacuate. The river has already reached 7.6 metres with its peak expected at 9:00pm (AEDT). At places the Clarence is nearly a kilometre wide and has engulfed much of the flat plains around Grafton and Maclean. Homes in low-lying areas such as Lawrence have been completely surrounded by the flood waters, some submerged. Maclean is on alert and residents are being encouraged to leave. The city of Grafton is expected to be protected by its levee, which stands at 8.2 metres. But the State Emergency Service (SES) issued an evacuation order for Ulmarra, Brushgrove and Cowper before 1:00pm (AEDT). Flood boats and buses are being used to transport people to higher ground and accommodation at Grafton. Erin Pogmore from the SES says residents need to take supplies that will last for a few days. "People need to make sure that they take their personal documents and anything that is important to them," she said. "Also memorabilia - anything that is really valuable to them.

Sentimentally that can't be replaced. "Also looking at taking medical supplies if they are on specific medications...and clothing supplies for about three days." Ulmarra publican, Edwina Baird, says things look grim. "The water on the other side of the river, because there's no levee wall on the other side of the river, has actually broken the banks and has inundated a few houses on the other side of the river," she said. "Some kind of rescue helicopter or something has just been checking for people over there, we can't see whether there's anyone over there. "I would be hoping that they took the evacuation notice earlier today." Spiro Notaris owns the local cinema at Grafton and says he is worried. "It's 7.6, they're predicting 7.7, I'm not sure about that," he said. "If it goes to 7.8 I believe these people will start to panic." The Premier Kristina Keneally is visiting Grafton today and has made a disaster declaration for the area. She says she has been impressed by the resilience of locals. "There is an extraordinary flood event occuring here," she said. "But what struck me in particular is that the residents here, even though they are facing a signifcant flood event were constantly enquiring as to the status of the floods in Queensland and to know how the neighbours to our north are faring."

Further west, the SES has told the 650 residents of Boggabilla and Toomelah, near Goondiwindi on the Queensland border, they must evacuate to avoid floodwaters. The Macintyre River is expected to peak at 12.4 metres tomorrow. SES spokesman, Phil Campbell, says it is the largest flood peak in the region's history. "Significant amounts of water will enter the streets of the town flowing under and potentially through some houses," he said. Residents will be moved by bus to Moree and are gathering outside the Town and Country Club. Licensee, Jeremy Shepherd, is putting on sandwiches before he too has to join the evacuees. "I've just got to put some stuff in the club and make sure all the computers are backed up so we don't lose any stuff here," he said. The departure is expected to take place at 3:00pm (AEDT). Meanwhile, the flood crisis in Tenterfield appears to have stabilised for the time being. Yesterday, SES, police and council staff established an emergency operation centre at the Council Chambers as rising floodwaters cut the town in half, damaging roads and threatening the town's sewerage and water supplies. Motorists intending to use the Pacific or New England Highways to travel through northern New South Wales have been advised to cancel their trip. Flooding has closed the Pacific highway from Halfway Creek in the south to Maclean in the north and the New England Highway is closed north of the Queensland border.

The RTA's David Wright says the Orara Way, which is the alternative route between Coffs and Grafton, is also closed in both directions. "It looks like they're going to be closed for some days," he said. "We had reports that one particular bridge around the Nana Glen area is actually eight metres underwater, so you can imagine that road is going to be unpassable for quite some time, at least until that water certainly subsides." The Gwydir Highway remains closed between Grafton and Glen Innes, the Bruxner Highway remains closed between Casino and Tenterfield and the Summerland way has been closed overnight from Grevillia to the Queensland border. In western NSW, the Kamilaroi Highway is closed between Bourke and Brewarrina.
</td> </tr> <tr> </tr></tbody></table>

 

อินโดนีเซีย - สตอร์มเสริจ สูง 3 เมตร ทำลายทุกอย่างบนชายหาดคล้ายซึนามิ

<table width="100%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td colspan="2" valign="top" width="100%">2011-01-12 04:11:11 - Storm Surge - Indonesia

</td> </tr> <tr> <td colspan="2" width="100%">
</td> </tr> <tr> <td valign="top"> <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td width="25%">EDIS Code:</td> <td>SE-20110112-29162-IDN</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2011-01-12 04:11:11 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Indonesian Archipelago</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>Indonesia</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>Province of East Nusa Tenggara, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>Sikka Regency , </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>
</td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Damage level: Heavy (Level 3)

Not confirmed information!
</td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="440" align="right"> </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> Scores of homes on the coastal area of Sikka RegencySikka Regency, East Nusa Tenggara, were severely damaged by massive waves of more than 3 meters in height last night. More than 500 people are seeking refuge to safer places. "I've lost my house. Like tsunami, the huge walls of waters destroy everything on the coast," said Nikodemus Domi, an inhabitant of Kelurahan Waioti, today, Jan 12. The local administration has deployed an emergency response team to assist and evacuate the affected people. 43 homes are found destroyed and collapsed into the sea. In addition, dozens of fishermen's boats were smashed by the waves. Extreme weather also caused whirlwind to take place in some other areas in the province. Rehobot Ship from Oeba harbor was also thumped by the high waves on Tuesday. As many as 15 passengers and ship crews were rescued by local fishermen who happened to be around the scene. "Most of the passengers jumped into the sea on jerry cans and boards. Fishermen then came to the rescue," said the ship's captain, Yusuf Ton.
</td></tr></tbody></table>

 

พายุฝน คร่า 10 ชีวิต ทำลายบ้าน 100 หลัง ในโมซัมบิก (อาฟริกาใต้)

<table width="100%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td colspan="2" valign="top" width="100%">2011-01-12 08:04:25 - Extreme Weather - Mozambique

</td> </tr> <tr> <td colspan="2" width="100%">
</td> </tr> <tr> <td valign="top"> <table width="100%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td width="25%">EDIS Code:</td> <td>ST-20110112-29167-MOZ</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2011-01-12 08:04:25 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Africa</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>Mozambique</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>State of Manica, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>, </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>Chimoio</td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Number of dead people: 10
Number of injured people: 7
Damage level: Heavy (Level 3)

Not confirmed information!
</td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="440" align="right"> </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> A heavy storm killed 10 people and seriously injured seven others in Mozambique's central province of Manica, state-run Mozambique Television said on Wednesday. The storm on Monday destroyed more than 100 houses and electricity pylons, the broadcaster said. Seven of the dead were members of a religious sect attending a church meeting under a tree, the broadcaster quoted Conde Adriano, the Mayor of Chimoio, the provincial capital, as saying. Heavy rains in Mozambique and neighbouring South Africa in the last month have raised fears of a repeat of massive floods of 2000 that killed at least 350 people and displaced a million others in the centre and south of the country.
</td></tr></tbody></table>

 

ฝนตกหนักน้ำท่วม บราซิล ตาย 147 สูญหาย 50 แล้ว

Situation Update No. 3
On 2011-01-13 at 04:00:50 [UTC]

Event: Flash Flood
Location: Brazil State of Rio de Janeiro Teresopolis and Novo Friburgo
Number of Deads: 147 person(s)
Number of Missing: 50 person(s)
Number of Evacuated: 1000 person(s)


Situation: Heavy rains and flooding in Brazil have caused 260 deaths in the states of Rio de Janeiro and Sao Paulo, reported Wednesday. The greatest damage was in a cluster of towns in a mountainous area northeast of the city of Rio from Tuesday night to Wednesday morning, where civil defense officials said 147 lost their lives. That included 114 people reported killed in Teresopolis by a mudslide, local officials said. Some 1,000 others were left without shelter and were being moved to a local gym and schools. And, in nearby Petropolis, 18 deaths were recorded, the state government said, according to Agencia Brasil. Three deaths were reported in Itaipava, while in Nova Friburgo there were 12. Among the victims in Rio state were three firefighters who were involved in rescue operations when they were buried by a subsequent mudslide, Agencia Brasil reported. A fourth firefighter was missing. Nearly 75,000 people were without power in the region as a result of the heavy storms. Teresopolis Mayor Jorge Mario Sedlacek declared his city a natural disaster area. He told CNN affiliate TV Globo that at least 80 rescuers have been sent to the region. Meanwhile, in the state of Sao Paulo, at least 24 people were dead as heavy rain continued to batter parts of the state, authorities said. It has been raining since January 1, and the deluge could continue until the end of the week, forecasters have said. The flooding has caused mudslides, officials said Tuesday. The Mairipora Dam gave way, adding to the woes in the area, said Ramos Junior, a captain at the Sao Paulo Civil Fire Department. Sao Jose dos Campos, about 100 kilometers (62 miles) from the city of Sao Paulo, has been hardest hit by the flooding, Junior said. In January last year, heavy rains caused dozens of deaths in Brazil's southeast coast. Torrential rains caused deadly mudslides in the resort area of the town of Angra dos Reis.

 

น้ำท่วม และ แผ่นดินถล่มในบราซิล ตายแล้ว 257 สูญหายอีก 50

Situation Update No. 4
On 2011-01-13 at 04:26:53 [UTC]

Event: Flash Flood
Location: Brazil State of Rio de Janeiro Teresopolis and Novo Friburgo
Number of Deads: 257 person(s)
Number of Missing: 50 person(s)
Number of Evacuated: 1000 person(s)


Situation: Floods and landslides devastated mountain towns near Rio de Janeiro and killed dozens, bringing the death toll on Wednesday from heavy rains in Brazil's south to at least 257.