แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

เมื่อมาถึงตัวเมืองพิษณุโลกประมาณครึ่งคืนแล้ว แวะไปป้อมยามปลุกตำรวจที่ยังงัวเงียอยู่ แจ้งบอกลักษณะพระธุดงค์ที่เกือบจะทำผมหัวใจวาย พร้อมเอาของขลังที่ถูกบังคับซื้อให้ตำรวจดู ตำรวจบอกว่าหลายคนแล้วที่เจอแบบนี้ ส่วนใหญ่จะถูกปล้นมาหมดตัว ผมรอดมาได้อย่างไร และทางเส้นนั้นไม่มีใครใช้ในเวลากลางคืน ตำรวจพูดเป็นเรื่องธรรมดาและไม่สนใจอะไรอีก

ผมรีบเอาของทิ้งไปทันทีโดยไม่สนใจว่ามันคืออะไร ตัวผมรอดตายมาได้ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรืออะไรที่เขาปล่อยผมให้รอดมาและเพียงขืนใจให้ซื้อของที่เขาเอาออกมาขายเท่านั้น ส่วนผมเดินทางไปต่อถึงเชียงใหม่ทันเวลาเช้า พบญาติได้ชั่วโมงเศษ ท่านก็เสียไปอย่างสงบ
<O</O
การที่เรามีศรัทธาต่อพระสงฆ์ บางครั้งก็ต้องระมัดระวังและดูให้แน่แท้ พระทุกวันนี้มีมากมายที่ใช้ผ้าเหลืองห่มหากิน มีประเภทใช้ศรัทธาของคนเป็นสะพานทอดเข้าหลอกลวง ฉกฉวยและหาผลประโยชน์ เราต้องพิจารณาให้รอบคอบในการสงเคราะห์และทำบุญกุศล เราคงไม่โชคดีทุกครั้งไปเมื่อวันหนึ่งเราต้องประสบเหตุฉุกเฉินต่อชีวิต

 

ขอบคุณกระทู้ดีๆ ที่ช่วยกระตุกสติ ให้ฉุกคิดในบางสิ่งที่เป็นอยู่
อ่านจบแล้วมีความรู้สึกเหมือนได้เคยพูดคุยกับพี่หนุ่มเมืองแกลง
ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า

 

กระทู้นี้เป็นของพวกเราทุกคนครับ
ไม่มีอะไรมากไปกว่าน้ำใจที่แบ่งปันให้กัน
เปิดกว้างสำหรับทุกสาย ทุกอาจารย์ ทุกสำนัก ทุกคณะ
ขอเพียงแค่มีความจริงใจต่อกันเท่านั้น

 

ผมขอรับทราบทางpmด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ

 

ขอบคุณมากครับที่มาแจ้งข่าวให้เพื่อนๆได้รู้กัน

วันที่ 24 มิถุนายน 2553
ผมจะมาบอกเคล็ดลับ ข้อปลีกย่อยแต่สำคัญมาก ที่คนแก่คนเฒ่าใช้พระมงคลมหาลาภนี้กันเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วอย่างได้ผล ทั้งรักษาโรค ทำน้ำมนตร์ ขอลาภและทำมาหากิน คนอำเภอแกลง ที่อายุเกิน 85 ปี คงพอจำกันได้ถึงเรื่องที่คณะอุบาสิกาของคุณแม่บุญเรือนใช้พระนี้ทำอะไรได้บ้าง
ทั้งที่บ้านนาซา และที่สามย่าน ยายผมเป็นลูกศิษย์ท่านและเคยเล่าอย่างศรัทธาพระนี้มากมาย
สมัยนั้นของดีจากคุณแม่บุญเรือน คือพระมงคลมหาลาภนี้ ปูนแดงเสก พริกไทยเสก ก้อนหินเสกใส่ก้นโอ่ง ลูกศิษย์ได้กันทุกคน

มายุคนี้ เพชรแท้ กลายเป็น พลอยเทียม

เก็บกันไว้บ้างนะครับ อย่างไรก็ยังพอหาได้ตอนนี้

 

คุณฉัตรชัย ผู้แต่งเพชรพระอุมา ท่านเป็นชาวปัตตานี เป็นนักนิยมไพร นักเลงปืนและรู้เรื่องพระ
เค้าโครงเรื่องมาจากเรื่องจริงที่ท่านชอบเดินป่าในแถบกาญจนบุรี พม่าและตามแนวตะเข็บชายแดน

ผมก็เขียนไปตามที่ผมเคยผ่านมาจริง ชีวิตผมครึ่งหนึ่งเดินทางตลอดเลยครับ
การใช้ชีวิตอยู่แต่บนโต๊ะ หรือหน้าจอคอมฯ ทำให้โลกเราแคบในสัมผัส แม้อาจกว้างในจินตนาการ

 

รบกวนขอถามคุณหนุ่มเมืองแกลงอีกครั้งครับ พระหลวงปู่หมุน ช่วยเลือกให้ด้วยครับว่าจะห้อยองค์ไหนดี และแต่ละองค์แตกต่างกันอย่างไร
1. พระกริ่งสัมฤทธิ์ผล
2. ล๊อคเก็ตเจริญลาภ
3. เหรียญบาตรน้ำมนต์
4. เหรียญพระพรหม
5. เหรียญหล่อโบราณ รศ.218
6. รูปหล่อรุ่นรวยทันใจ
7. พระปิดตาเหล็กน้ำพี้
8. พระชัยวัฒน์เหล็กน้ำพี้
9. เหรียญรุ่นแรก (เลข 1)
10. เหรียญรุ่นแรก หลังหนุมาน วัดบ้านจาน
11. เหรียญมังกรคู่
12. เหรียญนารายณ์ทรงครุฑ
(เครื่องรางมี ตะกรุดมหาระงับ, ตะกรุดไม้คูณ, เบี้ยแก้ และแหวน)

ช่วยเลือกให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ลอง PM มาดูหน่อยนะครับ
ปกติผมไม่ค่อยเปิดตัวนี่ครับ

 

สงสัยต้องให้ศิษย์สายตรงหลวงปู่หมุนช่วยแล้วล่ะครับ
เพราะที่บอกมา บางองค์ผมไม่มีเลยสักชิ้น ก็เลยไม่รู้จะบอกอะไร
ที่ยืนยันได้คือของท่านดี แรง เร็ว และเชื่อถือได้ครับ
อย่าให้ผมทำให้ของท่านมีมลทินเลยครับ ทาง PM แล้วกัน

 

ผู้หญิงกับพระเครื่อง ความเชื่อความศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อในพุทธคุณ

หายไป.....แอบไปออกกำลังกายค่ะเพื่อสุขภาพ....

เล่าต่อ......
ก็เดินทบทวนและนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำไม....ต่อเนื่องกัน....ตัดสินใจแวะไปหาพี่สาว
ซึ่งทำงานอยู่ห้องธุรการที่ทำงานเดียวกัน...และเล่าเหตุการณ์ดังกล่าว พี่สาวก็ทักมาว่า..แกยังจะเดินทางไปยะลาอีกหรือ......( อึ้งไปพักใหญ่บอกพี่ไปว่านัดกับเพื่อนแล้วไม่อยากเสียคำพูด เพราะเพื่อนรออยู่....บ่าย 3 โมง นี้ก็ต้องขึ้นรถไปยะลาแล้ว) พี่ก็ว่าตามใจอวยพรว่าไปให้ปลอดภัย....แต่ได้ยินเสียงเทศน์..บ่น ว่าหาเรื่องไปที่ไม่ควรไป...แต่ก็ได้รับคำอวยพรว่าไปให้ปลอดภัย......แต่ถ้าบอกความจริงว่าไปบูชาพระที่รือเซาะมีหวัง.....
พอสัก บ่าย 2 โมงก็ขอหัวหน้างาน ลงก่อนเวลา.....แวะไปไหว้ศาลองค์พ่อจตุคามรามเทพที่วัดคอหงส์หาดใหญ่ กระแสตอนนั้นแรงมากที่ว่าทุกท่านคงได้รู้จัก หลวงหนุ่ย....
พบกับพี่ผู้ชายคนหนึ่งต้องขอบคุณเขาค่ะ.....เขามาไหว้องค์จตุคามก็มีโอกาสได้คุยกัน...ก็เล่าเรื่องราวให้เขาฟังเรื่องทำพระตก และสร้อยขาด พี่คนนั้นก็บอกว่าน้องอย่าเดินทางเลยนะ ยังไงถ้าจำเป็นจริงๆ ให้เดินทางวันพรุ่งนี้ดีกว่า.....วันนี้นอนที่บ้านเถอะ....พอดูเวลาแล้ว มันก็จะ 4 โมงเย็น รถก็จะหมด ในเวลา 5 โมง ตัดสินใจโทรบอกเพื่อนที่ยะลาว่าค่อยเดินทางพรุ่งนี้วันนี้ไม่สะดวกแล้วล่ะ.......ติดขัดหลายอย่าง
เช้าวันที่ 5 ธค.49 ขึ้นรถตู้โดยสารออกจากหาดใหญ่ 7.00 น. ขณะที่นั่งรถไปมันหลับไปไม่รู้ตัว......ฝันกลางวัน ว่าเห็นองค์หลวงพ่อทวดท่านมา และยิ้มแบบมีเมตตา(วันนั้นห้อยหลวงพ่อทวดติดตัวไปด้วยพร้อมกับพระและวัตถุมงคล ตะกรุดลูกปืนวิ่ง ผ้ายันต์ของหลายวัด ผานไถ รวมแล้ว 1 กระเป๋า ขณะนั่งรถกอดกระเป๋าใบนั้นพร้อมทั้งสวดมนต์ไปด้วย (เป็นคนชอบสวดมนต์ค่ะเวลาเดินทาง) มาตื่นขึ้นรถก็ผ่านศูนย์ศิลปชีพวัดช้างให้....และใกล้ถึงประตูหน้าวัด ก็นึกในใจว่าถ้ามีใครสักคนไปวัดช้างให้ก็ดีนะจะได้กราบหลวงพ่อทวด และเห็นวัด....อยู่ก็มีเสียงผู้ชายตะโกนดังมาจากข้างหลังรถว่าส่งที่วัดช้างให้ด้วย......โชคดีจังได้ไหว้พระสมใจ... รถตู้เลี้ยวเข้าไปส่งผู้โดยสารที่วัดช้างให้ทราบภายหลังว่าผู้ชายที่ลงรถไปนั้น เป็นทหารคอยดูแลรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟวัดช้างให้.....
รถออกจากวัดช้างให้ก็มุ่งตรงไปจังหวัดยะลา ก็โทรศัพท์บอกเพื่อนว่าถ้าถึงยะลาให้ลงรถตรงไหน เพื่อนให้ลงที่ร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซด์ซึ่งอยู่ปากทางซอยเข้าบ้านเพื่อน สัก 15 นาทีก็โทรติดต่อเพื่อนอีกครั้ง.....คราวนี้เสียงเพื่อนตื่นเต้นมากและได้ยินเสียงความวุ่นวายของคนจำนวนมาก ถามเพื่อนว่าจะถึงแล้วเพื่อนตอบเป็นภาษาพ่อขุนรามคำแหง (มึ....ลงที่โรงพยาบาลเลย..เกิดระเบิดขึ้น....) ไอ้เราก็ตกใจพูดเสียงดังคนทั้งรถหันมาจองเป็นตาเดียว ว่าน้องระเบิดที่ยะลาหรือ......บรรยากาศในรถเงียบมาก..ตอนนั้นคือทุกคนอึ้งไปหมด....แล้วมีเสียงถามมาว่า...จุดไหน...คนขับรถก็หันมาถามเราก็ต้องบอกพี่ขับรถไปก่อนอย่าหันมาถาม....เพราะเราเห็นรถกำลังจะข้ามไปอีกเลน.... ต่างคนต่างโทรหาญาติของตัวเอง) .....รถวิ่งเข้าตัวเมืองยะลา....เราลงหน้าโรงพยาบาลและรีบเข้าไปในโรงพยาบาลทันที......
แวบแรกเจอหัวหน้างานเก่า เห็นท่านยังอยู่ในชุดเต็มยศปกติขาวครึ่งท่อน(พี่เขาไปถ่ายวิดีโองานพิธี 5 ธค.) และก็ต้องมาเก็บภาพเหตุการณ์ที่รพ.อีก หัวหน้าก็ทักว่า อ้าวมาทำไม.....พอดีนัดกับกบ เพื่อน จะไปบูชาพระที่รือเซาะ หัวหน้าก็ว่าเธอจะไปอีกเหรอไม่เห็นเหรอเกิดระเบิดแล้วรือเซาะก็น่ากลัว ดงเลยนะจะไปกันทำไม.....(ก็ตอบไปว่าไม่เป็นไรหรอกพี่เล็ก พระคุ้มครองคนดีอยู่แล้ว จากนั้นก็หยิบพระหลวงพ่อทวดในกระเป๋าส่งให้หัวหน้าบอกเอามาฝาก พี่เล็กรีบรับใส่ในกระเป๋า และตอบกลับมาว่าขอบใจมากวันนี้พี่ไม่ได้ห้อยพระเลย....) ความวุนวายในโรงพยาบาลวันนั้นมากมายเสียงร้องของผู้บาดเจ็บ ญาติพี่น้องผู้บาดเจ็บ รถที่นำผู้บาดเจ็บมาส่ง คนแล้วคนเล่า....วันนั้นมีคนตาย 1 คนและบาดเจ็บหลายสิบคน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ตรงบริเวณจัดงานขายสินค้า และอาหารราคาถูกซึ่งก็ไม่ห่างจากบริเวณจัดงานพิธี 5 ธค. มากนัก......ช่วงเช้าจะขายอาหารเช้าและมีคนจำนวนมากไปจับจ่ายซื้อของ....ผู้ตายขับรถผ่านมาพอดีเกิดระเบิดตายคาที่.......
มองไปเห็นเด็กผู้หญิงกับผู้หญิงวัยกลางคนกำลังกอดศพผู้ตายร้องไห้....สงสารน้องผู้หญิงคนนั้นมากที่ต้องมาสูญเสียพ่อในวันพ่อ.......
เมื่อสถานการณ์ความวุ่นวายสงบลง เพื่อนที่นัดกันไว้เสร็จจากภาระกิจเก็บภาพเหตุการณ์ก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งถอนหายใจ และบอกว่า (ถ้ามาเมื่อวานพาไปกินข้าวตรงที่ระเบิด....ถึงกลับอึ้งไปเลยค่ะ..... ไม่แน่นะคะถ้าหากเดินทางเมื่อวานอาจจะเกิดระเบิดขึ้นก็เป็นไปได้).......
เสร็จจากโรงพยาบาลเพื่อนก็ถามว่าเราจะไปรถไฟหรือขับรถกันไป....ตัดสินใจว่าเราไปรถไฟกันดีกว่า.....เพราะถ้าหากเราขับรถไปรือเสาะก็ไปกันเพียงผู้หญิงสองคน ปืนก็ไม่มี มีแต่ตัว) เรารีบขับรถมอเตอร์ไซด์ไปสถานีรถไฟ.....และหาที่จอดรถมอเตอร์ซึ่งก็ต้องดูซ้ายดูขวาให้ดีจอดหน้าร้านที่มีคนเยอะๆ เพราะเหตุการณ์ระเบิดเพิ่งเกิดและได้ข่าวว่าอาจจะมีหลายจุด.....รถไฟมาพอดีเราทันซื้อตั๋วรถไฟ ....ขึ้นรถไฟตู้นั้นไม่มีที่นั่งเป็นยืนตลอดสาย มีเราผู้หญิง 2 คนที่เป็นไทยพุทธ นอกนั้นเป็นคนมุสลิม และมีวัยรุ่นดูหน้าตาแล้วหน้ากลัวมาก......จะมีทหารถือปืนคุ้มกันพนักงานเก็บตัวรถไฟ ทั้งหน้าและหลังเพราะเคยมีเหตุการยิงพนักงานบนรถไฟ.....ยิ่งทำให้ตื่นเต้นกับภาพที่ได้เห็น....
รถไฟมาถึงสถานีรือเสาะ ลงจากรถก็ต้องต่อมอเตอร์ไซด์รับจ้างซ้อน 3 ไปวัดอีกประมาณ ครึ่งกม. บรรยากาศในตัวเมืองรือเสาะมีแต่รถทหารหุ้มเกาะ รถถังวิ่งกันเต็มไปหมด ...คือเมื่อเกิดเหตุระเบิดที่ยะลา ทุกหน่วยก็ต้องเฝ้าระวัง พอไปถึงประตูวัดเราเห็นภาพรปภ.หมู่บ้านพร้อมด้วยทหารยืนถือปืนคอยคุ้มกัน ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนที่มาจองพระพุทธศีล 5 ในวันนั้น บรรยากาศการจองพระคงแตกต่างกับทางกรุงเทพ....ซึ่งก็มีคนมาจองกันจำนวนมากเช่นกัน(วันนั้นแค่ไปจองพระนะคะ) และปี 50 ต้องไปรับพระอีกครั้ง วันนั้นหิวข้าวมากเลยค่ะ ไม่กล้าออกไปซื้อทานนอกวัด ได้เพิ่งใบบุญอาหารญาติธรรมที่นำมาทำบุญที่วัด ขากลับโชคดีค่ะ เราได้กลับรถของพี่ที่ทำงานเดียวกัน เขาก็มาจองพระเหมือนกัน ภายในรถที่กลับยะลามี 5 คนค่ะ เป็นผู้หญิงทั้งหมด อาวุธปืนป้องกันตัวก็ไม่มี ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาเชื่อในพุทธคุณ....บารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะคุ้มครองให้พวกเราเดินทางกลับอย่างปลอดภัยไม่มีอันตราย.....ค่ะ

มีอีกหลายเหตุการณ์ค่ะที่แคล้วคาด แล้วจะนำมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีสติและไม่เสี่ยงในบางเรื่องที่ไม่สมควรเสี่ยงค่ะ

อนุโมทนาบุญค่ะ ที่ติดตามเรื่องราว....

 

ปูเสื่อรอฟังเลยครับพี่หนุ่ม อนุโมทนากับความรู้ทั้งหลายที่พี่หนุ่มได้มาบอกเล่า เผยแพร่เปนวิทยาทานด้วยนะครับ

ก้อขอแจ้งข่าวให้เพื่อนๆได้ทราบความเคลื่อนไหวของพระมงคลมหาลาภ ที่วัด ตอนนี้ยังเหลือพิมพ์คะแนนให้ตามเก็บในราคาเบาๆนะครับผม องค์ละ 500- ผมเพิ่งส่งธนานัติไปบูชาเมื่อวันจันทร์นี้เอง ยังพอเหลือรถด่วนขบวนสุดท้ายครับ

 

แจ้งข่าวให้เพื่อน ๆ ที่ต้องการพระมงคลมหาลาภ ลองหาดูในเวปนี้ซิครับ ในหมวดพระเครื่อง ไม่ได้โฆษณาให้ใครนะครับ และไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงนะครับ เห็นหลายท่านอยากได้ครับ หมดแล้วจะเสียดาย ผมก็บูชามาครับ

 

1. พี่หนุ่มพอจะทราบเรื่องโฉลกในการแขวนพระไหมครับ
คล้ายการปฏิบัติให้เข้ากับจริต
เป็นต้นว่า...วันจันทร์ ใช้พระเสน่ห์(ถ้าพิมพ์ผิดขออภัย)จะดี เกี่ยวกันไหมครับ
ถ้ามีที่ศึกษา ผมขอคำแนะนำด้วยนะครับ
อยากจะศึกษาไว้เวลาจะให้พระผู้อื่นให้เหมาะกับบุคคล กับแนะนำผู้อื่นให้ห้อย

2. ในการพิจารณาพระที่จะมาทำน้ำมนต์นั้น
มีข้อพิจารณาไหมครับ หรือ ทำได้ทุกองค์ อยู่ที่การอาราธนา

-------- ขอบพระคุณครับ ---------

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center">
</center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> MooDam, CHITPOL, chumsakchee, nuanpan, suwinai, คนบ้านสะแก

ดึกแล้วสมาชิกยังอุ่นหนาฝาคั่งกันอยู่เลยครับ
</td></tr></tbody></table>

 

อนุโมทนาครับ

 

พระสายสุพรรณครับ ขอบันทึกเพิ่มเติมนะครับ
1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ (ไม่ใช่สุพรรณ แต่ศรัทธา เมตตาสุดๆ )
2. หลวงพ่อเนียม วัดน้อย น่าจะทราบนะครับ
3. หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน
4. หลวงปู่ปาน ศิษย์หลวงพ่อเนียม
5. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (คนสุพรรณ)
7. หลวงพ่อคลื้น วัดสังโฆ
8. หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว
9. หลวงปู่ถิร วัดป่า
10. หลวงปู่สอน วัดป่า
11. หลวงปู่ดี วัดพระรูป
12. หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก
13. หลวงพ่อกาพย์ วัดจรรย์
14. ลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
15. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
16. หลวงพ่อสังวาล วัดทุ่ง
17. หลวงพ่อคำ วัดหน่อ
18. หลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง
19 หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย
ยังมีอีกมากมายครับ ว่างจะมาเล่าให้ฟัง

 

เซียนใหญ่ท่าพระจันทร์

ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับเซียนใหญ่ในท่าพระจันทร์ที่ผมเคยประสบมาเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน ช่วงนั้นผมและคู่เขยชอบเข้าไปหาเซียนใหญ่คนนี้ และได้บูชาพระเครื่องมาหลายรายการ แต่พฤติกรรมของเซียนโดยทั่วไปมักจะสวดของ ๆ คนอื่นว่าเก๊ และว่าถ้าแท้ต้องเป็นแบบนี้พร้อมโชว์ของให้ดู

ผมเคยเช่าเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง จากเซียนใหญ่เครื่องรางในท่าพระจันทร์แห่งนี้ ในราคา 6,000 บาท (ไม่ได้ลงรัก) ผมนำไปให้เซียนใหญ่ที่คุ้ยเคยกันดู เขาบอกว่าอย่างนี้สิแท้ (เซียนใหญ่ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน) ตอนนั้นดีใจมากที่ได้ของแท้ ต่อมาอีกหลายวันไปหาเซียนใหญ่คนนั้นอีก เขาเอาเบี้ยแก้หลวงปู่บุญออกมาให้ดู จะขาย 9,000 บาท (เสียดายที่ตอนนั้นไม่ได้ซื้อ) ผมบอกว่ามีเบี้ยแก้แล้ว พร้อมกับนำเบี้ยแก้หลวงปู่รอด ออกมาให้เขาดูอีกครั้ง เซียนใหญ่นำไปส่องดูสักพักแล้วบอกว่าเก๊ ผมงงมากเลย ทำไมตอนแรกที่ให้ดูบอกว่าแท้ ถ้าบอกว่าเก๊ตั้งแต่ตอนแรกผมคงเดินไปคืนเซียนใหญ่เครื่องรางที่เป็นเพื่อนเขาแล้ว เมื่อกลับถึงบ้าน ด้วยความสงสัยและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ผมได้ผ่าเชือกหุ้มเบี้ยแก้หลวงปู่รอด เพื่อจะดูข้างใน มีตะกั่วเก่าหุ้มตัวเบี้ยไว้แต่ไม่เต็มตัว ผมดูแล้วก็คิดว่าคงแก้ตามที่เซียนใหญ่บอก

ผมเก็บเบี้ยแก้ตัวนี้ไว้หลายปี เมื่อเจอคนที่เล่นเครื่องรางที่มีความชำนาญมากคนหนึ่ง (ตอนนี้เป็นเพื่อนกันแล้ว) ผมได้เช่าเครื่องรางจากเขาหลายอย่างจึงคุ้นเคยกัน วันหนึ่งได้นำเบี้ยแก้ที่ผมผ่าเชือกแล้วไปให้เขาดู เขาบอกว่าแท้แต่ไม่ทราบที่ เขาบอกว่าขายได้ เลยให้เขาไปขาย เขาให้เงินมา 1,500 บาท ตอนหลังรู้มาว่าเพื่อนคนนี้ได้นำเบี้ยแก้ไปถักเชือกใหม่ ลงรัก และขายไปในราคาหลักหมื่น เพราะเขารู้ว่าเป็นเบี้ยแก้หลวงปู่รอดแท้ (โง่ซ้ำซาก)

ขอเล่าอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเซียนใหญ่ท่าพระจันทร์คนดังกล่าว เป็นเรื่องของคู่เขยของผมที่ไปหาเซียนใหญ่คนนั้นด้วยกัน คู่เขยผมชอบเล่นเสือหลวงพ่อปาน (เพราะเขาเกิดปีเสือ) ได้เช่าเสือจากเซียนคนหนึ่งที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือ (เคยสอนผมด้วย) ในราคาประมาณ 18,000 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) นำเสือไปให้เซียนใหญ่ท่าพระจันทร์ดู เขาบอกว่าเก๊ แล้วก็นำเสือเขี้ยวซีกหลวงพ่อปานมาให้ดู บอกว่าต้องเป็นอย่างนี้สิของจริง เสนอขายประมาณ 60,000 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) คู่เขยผมอยากได้ของแท้แต่เงินไม่พอ เซียนใหญ่บอกว่าไม่เป็นไร ช่วยได้ ขอซื้อเสือที่ว่าเก๊ในราคาที่ซื้อมา 18,000 บาท เพราะเขามีทางขายได้ และจะไปขายไกล ๆ (ไม่ทราบที่ไหน) คู่เขยผมดีใจมากที่ได้ทั้งของแท้และได้ระบายของเก๊ไปได้ ขอบคุณเซียนใหญ่ครับ ต่อมาหลายปีเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นได้มานั่งคุยกันถึงเรื่องนี้ก็คิดว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว โดนสองเด้งเลย เพราะเสือที่ว่าเก๊นั้นเก่ามากจนแตกเป็นเส้นลึก และถ้าเก๊จริงเซียนใหญ่จะซื้อหรือตั้ง 18,000 บาท คงต้องซื้อในราคาที่ถูกกว่านี้มาก

จึงขอเตือนเพื่อนสมาชิกว่า การนำพระไปแห่ให้เซียนหรือไม่เซียนก็ตาม ต้องใช้สติและเหตุผลใคร่ครวญให้ดี อย่าเพิ่งหลงเชื่อ เดี๋ยวจะต้องโง่เหมือนผมและคู่เขยครับ

 

สวัสดียามเช้าๆครับครู.......
สวัสดียามเช้าๆครับทุกๆคน.............

 

โห..อ่านเรื่องเล่าพี่pornchai2500 แล้วรู้สึกหน้ามืด + ปวดตับ :'(