หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เพชรบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย lekpluto, 17 พฤษภาคม 2010.

  1. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    เพชรบุรี เมืองเก่าประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมโบราณสถาน โบราณวัตถุ วัดวาอารามต่าง ๆ เจริญรุ่งเรืองสืบทอดอารยธรรมมาหลายยุคสมัย จนได้รับสมญาว่า “อยุธยาที่ยังมีชีวิต” รวมทั้งยังเป็นเมืองคนเก่ง คนจริง คนดี เมืองธรรมะ มีพระเกจิอาจารย์ยุคอดีต ที่สืบทอดพุทธาคมกันมาอย่างไม่ขาดสาย อาทิ หลวงพ่อแช่ม วัดนายาง, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อผิว วัดตาลกง ฯลฯ เป็นต้น ท่านเหล่านี้ล้วนปรากฏอยู่ในทำเนียบพระเกจิชั้นแนวหน้าของเมืองไทย
    <O:p</O:p
    ปัจจุบัน ยังมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลืออีกรูปหนึ่ง ทั้งยังดำรงสังขารเป็นที่พึ่งแก่พุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งประเทศ คนไทยในต่างแดน และชาวต่างประเทศ คือ หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม ซึ่งอยู่ในความนิยมศรัทธาระดับแนวหน้าของเมืองไทย วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์อภินิหารมากมายทุกรุ่น ทุกรูปแบบ มีค่านิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะเป็นของที่ออกใหม่ก็ตาม ถือเป็นของจริงของแท้ โดยไม่อาศัยแรงเชียร์ หรือ ปั่นราคา
    <O:p</O:p
    หลวงพ่ออุ้น หรือ พระครูวินัยวัชรกิจ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้ ท่านสิริอายุ ๙๔ ปี พรรษา ๗๔เป็นเจ้าอาวาสวัดตาลกง ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นพระนักพัฒนา พระนักปฏิบัติ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีบุคลิกลักษณะผิวพรรณผ่องใส อัธยาศัยเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา ใครไปหากราบไหว้ ท่านต้อนรับทุกคนไม่เลือกชั้นวรรณะ ด้วยไมตรีจิตสมเป็นสมณพุทธบุตรธรรมทายาทเนื้อนาบุญอย่างแท้จริง
    <O:p</O:p
    สังเขปประวัติวัดตาลกง<O:p</O:p
    วัดตาลกง ตั้งอยู่เลขที่ ๕๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลมาบปลาเค้า อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี สังกัดวัดมหานิกาย เนื้อที่ ๑๓ ไร่เศษ สันนิษฐานว่า วัดตาลกง เริ่มแรกเป็นสำนักสงฆ์ ชื่อ “สำนักสงฆ์ตาลโก่ง” ประมาณ พ.ศ. ๒๓๙๐ (๑๖๐ ปีกว่า) ตามประวัติที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบ ๆ กันมา ณ บริเวณที่ตั้งสำนักสงฆ์ มีต้นตาลต้นหนึ่ง ลักษณะออกยอดอยู่ประมาณ ๗ ยอด ลำต้นโก่ง เรียกกันว่า “ตาลโก่ง”
    <O:p</O:p
    ครั้นต่อมาได้มีการพัฒนาปรับปรุง ยกฐานะขึ้นเป็นวัดโดยสมบูรณ์ จากชื่อเดิมตาลโก่งที่เคยเรียกขานกันมา ก็เหน่อกลายมาเป็น “ตาลกง” ซึ่งเป็นชื่อวัดตาลกงในปัจจุบัน
    วัดตาลกง มีเจ้าอาวาสปกครองดูแลสืบทอดกันมาหลายรูป แต่ไม่ปรากฏหลักฐาน พ.ศ. ชัดเจนนัก สำหรับเจ้าอาวาสที่มีชื่อเสียงรู้จักันดีในอดีต คือ หลวงพ่อตุ้ม มีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความสำคัญที่เล่ากันว่า ภายในอุโบสถวัดตาลกงหลังเดิม สันนิษฐานสร้างประมาณ พ.ศ. ๒๔๑๕ มีผงพุทธคุณ เสน่ห์เมตตามหานิยมบรรจุไว้ เป็นของ “หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี” ในสมัยที่หลวงพ่อตุ้ม เป็นเจ้าอาวาส และหลวงพ่อแก้ว ยังเป็นเจ้าอาวาสวัดปากทะเล เพชรบุรี<O:p</O:p
    เจ้าอาวาสอีกรูปหนึ่ง คือ หลวงพ่อผิว (ผู้เป็นลุงของหลวงพ่ออุ้น) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์เวทมนตร์ คาถาอาคม รุ่นเดียวกับ “หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง”ทั้งยังมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับ “หลวงปู่นาค วัดหัวหิน” (พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่คำ วัดหนองแก) จนมาถึงยุคสมัยหลวงพ่ออุ้น สุขกาโม ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดตาลกง พ.ศ. ๒๕๐๔ ซึ่งท่านได้พัฒนาผลงานก่อสร้างเสนาสนะสงฆ์ ตลอดถาวรวัตถุเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน<O:p</O:p
    ชาติภูมิหลวงพ่ออุ้น เกิดในสกุล อินพรหม เมื่อวันศุกร์ที่ ๙ มีนาคม ๒๔๕๙ ที่บ้านหนองหินถ่วง ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายบุญ และ นางเล็ก อินพรหม มีพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน ๘ คน คือ ๑. หลวงพ่ออุ้น ๒. นายอิ่น ๓. นายเอื่อน ๔. นายพวง ๕. นายแดง ๖. นางพุด ๗. นางเพี้ยน ๘. นางพ้วน<O:p</O:p
    ในวัยเยาว์ ด.ช.อุ้น เริ่มการศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทย-ขอมที่ วัดไสค้าน จนกระทั่งจบการศึกษาภาคบังคับ แล้วมาช่วยเหลือบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม<O:p</O:p
    ครั้นอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ นายอุ้น ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๔๗๙ ณ พัทธสีมาวัดตาลกง โดยมีพระอธิการชัน วัดมาบปลาเค้า เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการผิว วัดตาลกง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการขาว วัดอินจำปา เป็นพระอนุสาวนาจารย์<O:p</O:p
    การศึกษาพุทธาคมของหลวงพ่ออุ้น เริ่มจากการอยู่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อผิว วัดตาลกง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญไสยศาสตร์ เวทมนตร์คาถาอาคม ทั้งยังเก่งด้านวิปัสสนากรรมฐาน เมตตา อยู่ยงคงกระพัน ซึ่งใกล้ชิดกับ หลวงปู่นาค วัดหัวหิน ทั้งยังเคยเดินทางไปขอศึกษาวิชาความรู้จากหลวงปู่นาคอยู่เป็นประจำ<O:p</O:p
    หลวงพ่อผิว ธัมมสิริ เป็นพระเกจิที่ทรงคุณวิเศษของเมืองเพชรบุรีในยุคนั้น แต่อุปนิสัยของท่านชอบอยู่อย่างสันโดษ เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมเปิดเผยว่ามีดี นาน ๆ จะลง นะ ที่กระหม่อมให้ผู้ไปหาท่านสักครั้ง ชาวบ้านวัยชรา อายุ ๘๐ กว่าปี เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อผิวลงนะที่ห้วให้ตัวเดียว มีคุณสารพัด อยู่ยงคงกระพันจนวันตาย คนเก่า ๆ แถวท่ายาง ต่างประจักษ์ในความคงกระพันชาตรีมาแล้วหลายราย ก่อนนี้มีไอ้หนุ่มวัยรุ่นจากประจวบคีรีขันธ์ มาติดพันสาวมาบปลาเค้า เข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อผิว ขอให้ท่านลงนะที่กระหม่อมให้ ครั้นต่อมาไม่นานเขากลับมามาบปลาเค้าอีกครั้ง ถูกนักเลงท้องถิ่นแทงด้วยมีด ตีหัวด้วยท่อนไม้ ไม่ยักเป็นไร เลยฮึดสู้หนึ่งต่อสาม เล่นเอานักเลงเจ้าถิ่นหนีกันจ้าละหวั่นไปเลย<O:p</O:p
    หลวงพ่ออุ้น เป็นที่โปรดปรานของหลวงพ่อผิวมาก ๆ ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น พรรษาต่อมา ท่านได้เดินทางไปกราบนมัสการ หลวงพ่อทองสุข แห่ง วัดโตนดหลวง ถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อขอเล่าเรียนวิชา โดยเรียนฝึกวิชากสิณจนเชี่ยวชาญในกสิณ ๑๐ ทั้งได้เรียนตำรับผงเมตตาต่าง ๆ หลวงพ่อทองศุข เห็นความมานะพยายาม ประจวบกับหลวงพ่อผิว อดีตเจ้าอาวาสวัดตาลกง มีความคุ้นเคยกันมาก่อน จึงรับท่านไว้เป็นศิษย์ แล้วถ่ายทอดวิชาให้อย่างเต็มที่ <O:p</O:p
    ก่อนที่จะมีการศึกษาเล่าเรียน หลวงพ่อทองศุขได้ดูฤกษ์ยามก่อน แล้วนัดกำหนดวันให้เดินทางไปทำพิธียกครู โดยมีขันห้า ดอกไม้ ธูป เทียน บายศรี ทำพิธีไหว้ครูอย่างเป็นทางการ จึงกล่าวได้ว่าหลวงพ่ออุ้น เป็นศิษย์ผู้สืบสายพุทธาคมจากหลวงพ่อทองศุขรูปหนึ่งอย่างแท้จริง มิใช่เป็นเพียงการกล่าวอ้าง
    <O:p</O:p
    สำหรับการเรียนวิชาของท่านนั้น ต้องเดินทางจากวัดตาลกงไปเรียนที่วัดโตนดหลวง ครั้งหนึ่งจะต้องไปพักอยู่วัดโตนดหลวงถึง ๑๕ วัน ไปกลับอย่างนี้เป็นประจำ และยังออกปริวาสกรรมร่วมกับหลวงพ่อทองศุข ขึ้นเขาไปบำเพ็ญเพียรในป่าช้าบ่อยครั้ง<O:p</O:p
    วิชาที่โดดเด่นมากของหลวงพ่อทองศุข ยากที่ศิษย์ผู้ใดจะได้รับการถ่ายทอดคือ"วิชาการทำผงพระจันทร์ครึ่งซีก" ซึ่งเป็นผงเมตตามหานิยม มีพุทธคุณอมตะล้ำลึก แต่ท่านยังไม่เคยนำเอาวิชามาทำผงเลย เพราะสัจจะกฎสำคัญมาก นอกจากนั้นยังได้รับการถ่ายทอด การทำผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช และ ผงหน้าพระภักตร์ อันเป็นตำรับสุดยอดของ พระผงวัดนก จังหวัดอ่างทอง สำหรับตำราผงหน้าพระภักตร์ รู้ว่าปัจจุบัน ได้สูญหายไปจากวงการไสยศาสตร์นานแล้ว หากมีอยู่ หรือเป็นมรดกแก่ผู้ใดบ้างก็คงมีน้อยเต็มทีที่จะรู้ได้<O:p</O:p
    อีกวิชาหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อทองศุข คือ การสักยันต์คงกระพันชาตรี หลวงพ่ออุ้นเคยสักยันต์ให้ลูกศิษย์ไปหลายคน ล้วนแล้วแต่อยู่ยงคงกระพันชาตรี ภายหลังลูกศิษย์ของท่าน (บางคน) มีนิสัยเกเร สร้างความเดือดร้อนใจให้ผู้อื่น ท่านมาพิจารณาดูแล้ว เห็นเป็นการส่งเสริมให้คนประกอบมิจฉาชีพ ผิดคดีโลกคดีธรรม ตั้งแต่นั้นท่านเลิกสักยันต์โดยเด็ดขาด ส่วนใครที่อยากได้รับประสิทธิ์ประสาทอักขระเลขยันต์จากท่าน ก็เมตตาทำให้เพียงเป่ากระหม่อม หรือเจิมหน้าผากด้วยผงพุทธคุณเพื่อความเป็นศิริมงคล<O:p</O:p
    สำหรับวิชา “นะปัดตลอด” นั้น หลวงพ่ออุ้น ได้รับการถ่ายทอดเช่นเดียวกัน วิชานี้จะสังเกตได้ถึงวัตถุมงคลสำนักวัดโตนดหลวง มี ยันต์นะปัดตลอด และ นะปถมัง ปรากฎอย่างชัดเจน รวมทั้งวัตถุมงคลศิษย์สายหลวงพ่อทองศุขทุกรูปเช่น หลวงปู่คำ วัดหนองแก, หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก, หลวงปู่นิ่ม วัดเขาน้อย, หลวงพ่อพิมพ์มาลัย วัดหุบมะกล่ำ, หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว, หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อแล วัดพระทรง เป็นต้น<O:p</O:p
    ต่อมาท่านได้พบกับ หลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน ซึ่งเป็นญาติกับหลวงพ่อทองศุข โดยหลวงพ่อจันได้ถ่ายทอด วิชาสะกดชาตรี เป็นวิชาสะกดสัตว์ร้ายให้อยู่กับที่ให้หลวงพ่ออุ้น ซึ่งวิชานี้หลวงพ่อจันได้เรียนมาจากภิกษุชาวเขมรอีกทอดหนึ่ง<O:p</O:p
    จากนั้น ท่านได้ไปกราบนมัสการ พระอธิการชัน วัดมาบปลาเค้า ขอศึกษาเล่าเรียนวิทยาคม ได้รับการถ่ายทอดวิชาอยู่ยงคงกระพัน ทำตะกรุด เสกลิงลม ขับคุณไสย เป็นต้น<O:p</O:p
    เมื่อได้เรียนวิทยาคมต่าง ๆ มาอย่างช่ำชอง ได้เคยนำวิชามาช่วยชาวบ้านขับคุณไสย ขับผี ไล่วิญญาณพเนจรที่เข้าสิงชาวบ้านจนขึ้นชื่อ ที่ใดในแถบตำบลนั้นมีปัญหาเรื่องผีเข้า ถ้าขู่ว่าจะพาไปหาหลวงพ่ออุ้น มักจะออกไปทันที <O:p</O:p
    ครูบาอาจารย์ของท่าน มิใช่จะมีแต่บรรพชิตเท่านั้น แม้คฤหัสถ์ผู้เชี่ยวชาญอาคม ท่านก็ยังขอเล่าเรียนเช่นกัน อย่างเช่น อาจารย์โม หมอสักชาวเพชรบุรีมีชื่อเสียงโด่งดังทีสุดในยุคนั้น หลวงพ่ออุ้นได้ไปขอเรียนวิชาจากอาจารย์โม แม้ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม (มรณภาพไปแล้ว) เคยไปเรียนวิชาการสักยันต์มาเหมือนกัน<O:p</O:p
    จากนั้นหลวงพ่ออุ้นไปเรียน วิชาทำสีผึ้งเมตตามหานิยม วิชาลงเลขยันต์ ลงสมุนไพร ตำราสมุนไพรจาก หมอฉ่ำ หมอไสยศาสตร์ ชาวท่ายาง อันที่จริง โยมพ่อบุญ อินพรหม บิดาของ หลวงพ่ออุ้น ก็เชี่ยวชาญเป็นหมอไสยศาสตร์ มีความรู้เรื่องยาโบราณ ทั้งตำรายาโบราณ ที่ตกทอดมาแต่ยุคก่อนจำนวนมาก โดยเฉพาะตำราทำผงยาเพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่ออุ้นได้รับสืบทอดมาด้วยเช่นกัน ว่ากันว่า ผงยาเพชรมณี หรือ เพชรจินดา เป็นตำรายาหัวใจ ยาลม ยาอายุวัฒนะที่ดีมาก มีคุณสมบัติพิเศษไม่แตกต่างกับ ผงยาจินดามณี ของหลวงปู่บุญมากนัก หรือ อาจเป็นตำราสูตรเดียวกันมาแต่โบราณก็เป็นได้<O:p</O:p
    ปฏิปทาศีลจารวัตร หลวงพ่ออุ้นเป็นพระที่มีอัธยาศัยไม่ตรี เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ถือสัจบารมีเป็นที่ตั้ง ปฏิปทาศีลจารวัตรงดงามบริสุทธิ์ เสมือนทองทั้งแท่ง ท่านใฝ่ใจในเรื่องที่เป็นวัฏสงสาร การเกิดแก่เจ็บตาย บุญกรรม และสิ่งลี้ลับธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องเวทมนตร์คาถาอาคม อักขระเลขยันต์เป็นพิเศษ ซึ่งมีอุปนิสัยชอบมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงเป็นแรงจูงใจให้ใฝ่รู้ศึกษาเล่าเรียน เรียนรู้แล้วปฏิบัติให้เข้าถึง รู้แจ้งเห็นจริง<O:p</O:p
    ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่ออุ้นต่างรู้กันดีว่า ท่านไม่ใช่พระธรรมดา หรือ เป็นพระธรรมดาที่ยิ่งกว่าธรรมดา มีญาณสมาบัติสูง มีสมาธิจิตแก่กล้า หยั่งรู้อนาคต แม้กรวดหินแร่ธาตุต่าง ๆ ท่านหยิบผ่านมือแล้วมอบให้แก่ใคร ก็มีอานุภาพพุทธคุณอย่างน่าอัศจรรย์ (ยังมีต่อ)<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ด้านการพัฒนาวัด หลวงพ่ออุ้นได้อยู่ช่วยเหลือหลวงพ่อผิว สร้างวัดตาลกงมาตั้งแต่แรก จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ก่อนนี้ท่านได้เดินทางเข้าป่าละอู ไปช่วยหลวงพ่อผิวตัดไม้ ไปกลางเดือนอ้าย กลับถึงวัดกลางเดือนห้า ใช้เวลาไปกลับครั้งละ ๔ เดือน เป็นอย่างนี้ประจำถึง ๕ ปี ไปกับหมู่สงฆ์ ไปปลูกโรงอาศัยในป่าไม้ที่ตัด ใช้เกวียนลากมาแสนจะลำบาก
    <O:p</O:p
    หลวงพ่ออุ้น ออกธุดงควัตร ไปทั่วทุกภูมิภาค สถานที่ที่อยู่ในความทรงจำของท่านมากที่สุดก็คือ ป่าตะนาวศรี ป่าละอู และป่าปราณบุรี เดินธุดงค์ไปพบกับผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ได้ถวายที่ดินให้ท่านสร้างวัด และโรงเรียน จำนวนเนื้อที่ถึง ๑,๐๐๐ กว่าไร่ หลวงพ่อถามโยมผู้ถวายที่ดินว่า เมื่อโยมถวายที่ดินให้อาตมาแล้ว จะให้มีอะไรบนที่ดินผืนนี้บ้าง โยมผู้นั้นบอกว่า ต้องการมีวัด โรงเรียน และสถานีอนามัย เมื่อรับปากว่าจะดำเนินการให้ตามประสงค์
    <O:p</O:p
    ต่อมาหลวงพ่ออุ้นก็เริ่มพัฒนาดำเนินการจัดตั้ง สำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย ขึ้น ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๖ ต.เขาเจ้า อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจัดส่ง พระอาจารย์รุ่ง ปิยธโร ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อไปควบคุมดูแลปฏิสังขรณ์สำนักสงฆ์ ได้รับผ้ากฐินพอเลี้ยงตัวเองได้
    <O:p</O:p
    ต่อมาได้สร้างโรงเรียนขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว จนบัดนี้มีเด็กนักเรียน ประมาณ ๓๐๐ - ๔๐๐ คน พร้อมกับสถานีอนามัย อยู่บนพื้นที่แห่งนี้ สมดังเจตนารมณ์ของผู้ถวายทุกประการแล้ว สมัยที่สุขภาพร่างกายของท่านยังแข็งแรง ท่านมักจะไปมาสำนักสงฆ์อย่างสม่ำเสมอ ได้นำผ้าห่ม เครื่องอุปโภคบริโภค ไปแจกให้เด็กนักเรียนอยู่เป็นประจำ ผู้เขียนมีความศรัทธาในหลวงพ่ออุ้นมาก จากประวัติ และปฏิปทาศีลาจารวัตรของท่าน นับว่าท่านเป็นพระคณาจารย์ที่ดีพร้อมจริง ๆ
    <O:p</O:p
    อุโบสถหลังเก่า ของวัดตาลกง มีอายุถึง ๑๖๐ ปี มีสภาพชำรุดทรุดโทรม หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม จึงได้ดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น ภายในอุโบสถหลังเก่านี้ อดีตเจ้าอาวาสวัดตาลกง ได้นิมนต์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ มาทำผง “อิทธิเจ” บรรจุได้ ๑ โอ่ง ประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๗ และ หลวงพ่ออุ้นได้นำมาเก็บรักษาไว้ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ หลวงพ่ออุ้นจึงได้นำผงพุทธคุณเก่า มาผสมกับผงที่ท่านได้ทำขึ้น แล้วบดผสมข้าวปากบาตร และข้าวก้นบาตร กดพิมพ์ทำเป็นพระผงสมเด็จคะแนนขึ้น โดยจุดประสงค์ เพื่อเอาพระสมเด็จคะแนนที่สร้างขึ้นส่วนหนึ่ง ไปบรรจุในอุโบสถหลังใหม่ (เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา) และส่วนหนึ่งแจกกับพุทธศาสนิกชน และศิษย์ให้เป็นสิริมงคล พระสมเด็จคะแนนนี้สร้างขึ้นจำนวนหลายหมื่นองค์ โดยได้ดำเนินการสร้างตั้งแต่ปี ๒๔๙๕ ติดต่อกันมาถึงปี ๒๔๙๗ รวม ๓ ปี
    <O:p</O:p
    ในระหว่างนั้น หลวงพ่อผิว เป็นเจ้าอาวาสวัดตาลกงอยู่ ซึ่งอยู่ในวัยชราภาพมากแล้ว ได้ดำริควรสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น พร้อมทั้งงานด้านพัฒนาเสนาสนะสงฆ์ที่ชำรุดทรุดโทรม โดยมอบให้หลวงพ่ออุ้น เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ ในด้านพัฒนาก่อสร้าง ซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆ ภายในวัดโดยตลอด แล้วหลวงพ่ออุ้นได้ปรึกษาท่านถึงเรื่องการสร้าง พระสมเด็จเหม็น เพื่อนำปัจจัยมาสร้างอุโบสถหลังใหม่ แล้วได้นำมารวมกัน ทำการปลุกเสกอธิษฐานจิตเป็นเวลา ๘ ปี เต็ม หลังจากนั้นก็จัดส่วนต่าง ๆ ไว้ เช่น ไว้บนเพดานศาลา ใต้พระบูชาบนศาลา ส่วนใหญ่จะบรรจุอยู่ในอุโบสถหลังใหม่
    <O:p</O:p
    พระสมเด็จคะแนนนี้ หลวงพ่อได้นำออกมาแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชน ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นต้นมา จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ท่านก็หยุด จะมีให้บ้างก็ประปราย เช่น คนที่มาจากต่างจังหวัด และประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๐ ท่านก็เก็บเงียบไม่แจกเลย และมาแจกอีกครั้งเมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๓๙ พระสมเด็จคะแนน หรือ สมเด็จเหม็น ตามที่ชาวบ้านตาลกงเรียกมาแต่แรก เป็นพระผงที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และเสน่ห์สูงมาก
    <O:p</O:p
    กิตติคุณบารมีธรรม และผลงาน หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม เป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสรูปหนึ่งของเมืองไทย แม้จะเพิ่งเปิดเผยชีวประวัติเพียงไม่กี่ปีก็ตาม สำหรับสาธุชนในท้องถิ่น ต่างรู้จักกิตติคุณของท่านมานานกว่า ๕๐ ปี แล้ว
    <O:p</O:p
    หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม เป็นแบบอย่างของพระภิกษุสงฆ์ที่เคร่งครัดธรรมวินัย มีศีลบริสุทธิ์ ประพฤติปฏิบัติตามแนวทางในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เป็นพระที่ไม่สะสม ไม่ปรุงแต่ง ไม่เคยยึดติดลุ่มหลงในยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่ยึดติดในลาภสักการะ ท่านมีแต่สงเคราะห์ช่วยเหลือ และ แผ่เมตตาบารมี
    <O:p</O:p
    ผลงานการสร้างเสนาสนะสงฆ์ ตลอดจนถาวรวัตถุต่าง ๆ ปรากฏเป็นรูปธรรมมากมาย เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ฌาปนสถาน สำนักสงฆ์ โรงเรียน ถนนหนทาง กำแพงวัด ฯลฯ ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนสำเร็จด้วยบุญฤทธิ์ของหลวงพ่ออุ้นทั้งสิ้น เคยมีพระเถระผู้ใหญ่มาขอร้องให้ท่านรับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ท่านปฏิเสธทั้งหมด เท่าที่ทราบลำดับประวัติ ตำแหน่งหน้าที่ และสมณศักดิ์ ได้ดังนี้
    <O:p</O:p
    พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พ.ศ. ๒๕๐๔ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดตาลกง, พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระครูฐานานุกรม ที่ พระครูสังฆรักษ์, พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูวินัยวัชรกิจ, พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
    <O:p</O:p
    การสร้างวัตถุมงคล<O:p</O:p

    สำหรับการสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็น ครั้งแรก ของหลวงพ่ออุ้น คือ การสร้างพระผงสมเด็จเหม็น โดยเริ่มต้นการสร้างใน พ.ศ. ๒๔๙๕ และสิ้นสุดลงในปลาย พ.ศ. ๒๔๙๗ รวมเวลาการสร้างกว่า ๓ ปี โดยหลวงพ่ออุ้นร่วมกับพระสงฆ์ภายในวัดตาลกงช่วยกัน
    <O:p</O:p
    หลังจากสร้าพระผงสมเด็จเหม็น มีการสร้างพระผงต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เช่น พระผงสมเด็จ ๗ ชั้น เนื้อเหม็น พระสมเด็จ ๙ ชั้น เนื้อผสมแร่ พระสมเด็จขี่เสือเนื้อผง เป็นต้น นับรวมกันแล้ว มีพระผงอยู่ประมาณ ๒๖ - ๓๐ พิมพ์ได้
    <O:p</O:p
    ต่อมา ได้สร้างวัตถุมงคลด้วย เนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ อาทิ พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระสมเด็จขี่เสือใหญ่ เสือเล็ก มีพุทธคุณครอบจักรวาลเหมือนดังเหล็กไหล<O:p</O:p
    นอกจากนี้ ยังสร้างวัตถุมงคล พ.ศ. ๒๕๔๐ สร้างเหรียญรูปไข่ มี ๔ เนื้อ คือ ทองคำ เงิน นวะ และ เนื้ออัลปาก้า (เป็นเหรียญรุ่นแรกของท่าน มีประสบการณ์อภินิหารมากมาย ค่านิยมในวงการพระเครื่อง หลักหมื่นต้นขึ้นไป)
    <O:p</O:p
    พ.ศ. ๒๕๔๒ สร้างพระกริ่ง ๓ พิมพ์ คือ พระกริ่งตั๊กแตนใหญ่ พระกริ่งบาเก็ง พระกริ่งจีนสมาธิ และเหรียญหล่อ ๑ พิมพ์ คือ เหรียญหล่อสุริยประภา จันทรประภา
    <O:p</O:p
    พ.ศ. ๒๕๔๔ สร้างพระเนื้อชินปรอท จำนวน ๒ พิมพ์ คือ ๑. เหรียญหล่อซุ้มขุนพลเล็ก ๒.พระสังกัจจายน์ ตำรับวิชาผสมปรอทแบบโบราณ รวมถึงจัดสร้างเครื่องรางต่าง ๆ มากมาย อาทิ ผ้ายันต์ ตะกรุด หนุมาน เป็นต้น
    <O:p</O:p
    วัตถุมงคลของท่านที่จัดสร้างขึ้น เน้นพุทธคุณด้านคุ้มครองปลอดภัย และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นับได้ว่าเป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนาธุระ และสืบทอดพุทธาคมจากบุรพาจารย์ที่โด่งดังในอดีต มากด้วยครูอาจารย์ บริสุทธิ์ด้วยปฏิปทาศีลาจารวัตร เปี่ยมด้วยเมตตาบารมีธรรม เป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนิกชนที่พึงเข้าใกล้กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
    <O:p</O:p
    หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม มีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญในไสยเวทพุทธาคม สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐานมีญาณสมาบัติแก่กล้า มีวิชาการทำวัตถุมงคล ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงหน้าพระภักตร์ ผงพระจันทร์ครึ่งซีก ผงยาเพชรจินดา ทำชินปรอท เล่นแร่แปรธาตุ การสักยันต์ หุงสีผึ้ง ลงนะ บรรจุพลังเสือโคร่ง หนุมาน เสกลิงลม ขับไล่ภูติผีปีศาจ คุณไสย์ ฯลฯ ทั้งเรียนรู้ปฏิบัติผลสำเร็จจริง สุดยอดวิชาไสยเวทต่าง ๆ เหมือนพระเกจิโบราณาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคอดีต
    <O:p</O:p
    วัตถุมงคลของท่านไม่ว่ารุ่นไหน ๆ ล้วนมีพลังพุทธคุณเข้มขลัง เชื่อมั่นได้เต็มร้อย ดีทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายโชคลาภ อยู่ยงคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ มีการพิสูจน์กันมาแล้ว ของจริง ของแท้ และ มากด้วยประสบการณ์
    <O:p</O:p
    ในการสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ได้มีการสร้างมานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ ถึงรุ่นสุดท้าย พ.ศ. ๒๕๕๐ รวมระยะเวลา ๕๕ ปีเศษ หากจะนับจำนวนรุ่นก็เกินร้อย รวมไปถึงการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่ออุ้น เมื่อกล่าวโดยสังเขปได้ ๙ ประการ ดังนี้
    <O:p</O:p
    . การสร้างวัตถุมงคลครั้งแรก
    <O:p</O:p
    ในการสร้างวัตถุมงคลครั้งแรก คือ การสร้างพระผงสมเด็จเหม็น โดยเริ่มต้นสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ แล้วมาสิ้นสุดลงในปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๗ รวมระยะเวลาถึง ๓ ปี โดยหลวงพ่ออุ้น ร่วมกับพระสงฆ์ภายในวัดตาลกงช่วยกันผสมผงมวลสาร และ กดพิมพ์พระ
    <O:p</O:p
    ผงพุทธคุณ ที่นำมาเป็นส่วนผสมพระสมเด็จเหม็น มีอิทธิเจของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ซึ่งเป็นผงเก่าที่ทำไว้ในอุโบสถหลังเก่าของวัดตาลกง สมัยที่หลวงพ่อแก้วยังอยู่ที่วัดปากทะเล ผสมกับผงพุทธคุณของหลวงพ่ออุ้น แล้วนำมาหมักผสมกับข้าวสุกจากปากบาตร และข้าวก้นบาตรของพระสงฆ์ที่ได้บิณฑบาตมา เหตุที่ต้องหมักให้มีกลิ่นเหม็น เพราะป้องกันไม่ให้นำไปขูดผงผสมน้ำหรือ อาหารให้เพศตรงข้ามกิน พระของท่านจึงมีกลิ่นเหม็นบูด ชาวบ้านเลยเรียกว่า “สมเด็จเหม็น”
    <O:p</O:p
    การหมัก ครั้งใดที่หมักทิ้งไว้หลายวันมีกลิ่นเหม็นมาก หากหมักทิ้งไว้ชั่วข้ามคืนจะมีกลิ่นเหม็นน้อย เป็นสาเหตุให้พระสมเด็จเหม็น มีกลิ่นเหม็นมาก และเหม็นน้อยไม่เท่ากัน พระผงสมเด็จเหม็น สร้างประมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์ ส่วนหนึ่งหลวงพ่ออุ้นให้นำไปบรรจุไว้ในอุโบสวัดตาลกงหลังใหม่ ประมาณ ๔๕,๐๐๐ – ๕๐,๐๐๐ องค์ ที่อยู่ข้างนอก เช่น เพดานศาลา ใต้ฐานพระรวมทั้งที่เก็บรักษาไว้ประมาณ ๓๕,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐ องค์ และได้นำออกให้ญาติโยมได้บูชาถึงปัจจุบัน มีเหลืออยู่ไม่มากแล้ว (ที่วัดยังมีให้ทำบุญ องค์ละ ๔,๕๐๐ – ๗,๕๐๐ บาท ตามสภาพความสวย)
    <O:p</O:p
    พระสมเด็จเหม็น มีการลองเนื้อ จะมีเนื้อออกแน่น ออกแก่น้ำมัน มีเนื้อ ออกน้ำตาล ออกแดง และบางองค์ตามคำอธิบายใต้ภาพนั้น ในส่วนที่ลองเนื้อลองพิมพ์ เป็นเพียงส่วนน้อย จะเอามาเป็นหลักในการเล่นหาไม่ได้ ต้องเอาเนื้อหารูปแบบโดยรวมส่วนใหญ่มาเป็นเกณฑ์มาตรฐาน
    <O:p</O:p
    หลังจากที่สร้างพระผงสมเด็จเหม็นแล้ว การสร้างพระผงพิมพ์ต่าง ๆ ยังมีต่อมาอย่างต่อเนื่อง เช่น พระผงสมเด็จ ๗ ชั้น เนื้อเหม็น พระสมเด็จ ๙ ชั้น เนื้อผสมแร่ พระผงสมเด็จขี่เสื้อเนื้อผง และ เนื้อผงผสมแร่พรหมชะแง้ พระสมเด็จ ๗ ชั้นสีแดง พระผงชุดผงอิทธิเจ เช่น พระขุนแผน ๕ เหลี่ยม พระขุนแผนทรงพลไหล่อุ พระผงยอดขุนพล พระสมเด็จเสื้อกั๊ก พระปิดตาลอยองค์ พระปิดตา นะปัดตลอด แล้วต่อมายังมีพระขุนแผนยันต์เดี่ยวเนื้อคลุกรัก เนื้อผงผสมเส้นเกศา พระปิดตาลอยองค์ใหญ่ และเล็ก พระผงปิดตาพิมพ์ตุ๊กตา เนื้อผงคลุกรัก และผงเส้นเกศา พระผงเนื้อสังขยา ได้แก่ พระผงสมเด็จ ๕ ชั้น อกร่องหูบายศรี พระพิมพ์บัวคว่ำบัวหงาย พระผงหน้าฤาษีหลังราชวัตร
    <O:p</O:p
    ยังมีพระผง พระปิดตาหลังแบบ เนื้อผงผสมผงแร่พรหมชะแง้ พระรอดเนื้อผงชานหมาก พระผงสมเด็จใหญ่ ขนาดบูชา และพระผงชุด ผงยาเพชรจินดา อีกจำนวน ๕ พิมพ์ เช่น พระซุ้มขุนพลใหญ่ พระชุ้มขุนพลเล็ก พระร่วงนั่ง พระพิมพ์เล็บมือ และพระงบน้ำอ้อย ฯลฯ เป็นต้น (ยังมีต่อ)
    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2010
  3. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ประสบการณ์วัตถุมงคล พระสมเด็จเหม็น ของหลวงพ่ออุ้น มีประสบการณ์สูง ดีทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ คงกระพันชาตรื แคล้วคลาด ปราบคุณไสย ได้ผลประจักษ์ชัด ท่านสร้างเพื่อเน้นพุทธคุณ คุ้มครองป้องกันภัย แม้จะเป็นพระใหม่ที่มีการสร้างเพียงไม่กี่ปี แต่วงการพระจัดเป็นพระใหม่มาแรงพุทธคุณสูงได้รับความนิยม ผู้ที่นำไปบูชาติดตัวแล้ว ต่างยืนยันประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี ขอนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่อง ๆ ดังนี้
    <O:p</O:p
    ยิงไม่เข้า : หลานชาย (ไม่ทราบชื่อ) ของ นายสำเนา ขำทวี อดีต ส.จ.อำเภอบ้านลาด จ.เพชรบุรี ได้บูชาพระสมเด็จเหม็น ติดตัวอยู่องค์เดียว ไปโดนยิงด้วยอาวุธปืน ๐.๓๘ ถึง ๒ นัด แต่ยิงไม่เข้าสักนัดเดียว
    <O:p</O:p
    พุทธคุณด้านเมตตา : นายศักดิ์ สัจจาไชยนนท์ อยู่บ้านเลขที่ ๒๓๖ ถนนดำรงรักษ์ แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายไม้แปรรูป อดีตค่อนข้างจะเป็นคนอาภัพคนรักสักหน่อย ได้บูชาพระสมเด็จเหม็นของหลวงพ่ออุ้น แต่ปัจจุบันมีคนเมตตารักชอบมากมาย และค้าขาย ขายดิบขายดี เจ้าตัวยืนยันว่า เป็นเพราะพระสมเด็จเหม็นของหลวงพ่ออุ้น มีพุทธคุณสูง ดีทางด้านเมตตา เชื่อถื่อได้อย่างมั่นใจ
    <O:p</O:p
    เจ้านายรัก : เจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. เคยถูกเจ้านายบ่นด่าว่าเป็นประจำ ได้ไปคร่ำคราญกับคุณสุวิทย์ ๙๙๙ พญาไม้ ช่วยหาวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณดี ๆ เด่นทางด้านเมตตา ให้บูชาสักองค์ จึงได้รับการแนะนำจากคุณสุวิทย์ให้บูชาพระสมเด็จเหม็น<O:p</O:p
    เจ้าหน้าที่เทศกิจผู้นั้นได้พระสมเด็จเหม็นไป ๑ องค์ จากนั้น ๒ วัน ต่อมาได้มาคุยว่าดีจริง ๆ เกิดติดอกติดใจ แล้วเช่าไปอีก ๔ องค์ เห็นว่าตั้งแต่บูชาพระสมเด็จเหม็นติดตัว เจ้านายยิ้มแย้มพูดดี ไม่เคยบ่นดุด่าเหมือนแต่ก่อน
    <O:p</O:p
    เสน่ห์เมตตา : คุณไพรรัช เรืองรัตคง อยู่ตลาดปากเกร็ด นนทบุรี ก็เป็นผู้หนึ่งบูชาพระสมเด็จเหม็น เชื่อมั่นในพุทธคุณ มีประสบการณ์ด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมมาแล้ว
    <O:p</O:p
    หมู่เอก (สิบเอก กิตติพร โตใหญ่) ศิษย์รับใช้ใกล้ชิด ผู้รับผิดชอบดูแลการเช่าบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ได้เล่าประสบการณ์ของผู้บูชาพระสมเด็จเหม็นให้ฟังว่า<O:p</O:p
    “พุทธคุณด้านเมตตามหานิยมดีครับ เหมือนกับองค์หลวงพ่ออุ้น ที่มีเมตตากับพวกเราลูกศิษย์ทุก ๆ คน วัตถุมงคลของท่านห้อยไว้เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเราเองครับ ครั้งหนึ่งเคยถามท่านว่า <O:p</O:p
    "หนังเหนียว กับ เมตมามหานิยม แบบไหนทำยากกว่ากันครับ”<O:p</O:p
    หลวงพ่อเมตตาตอบว่า "หนังเหนียวน่ะไม่เท่าไรหรอกว่ะ แค่ขนลุกก็เหนียวแล้ว แต่เมตตานี่สิยากสุด ต้องเสกจนเย็น จนหนาวนั่นล่ะใช้ได้"
    <O:p</O:p
    ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่ผมว่า สมเด็จเหม็น ท่านมีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมดีมาก เพื่อนหมู่เอก อยู่ กทม. มาบ่นให้ฟัง ว่าทำงานโดยนายดุบ่อย ๆ มีพระที่พุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยมบ้างป่าววะ ไอ้เราก็ว่า เออ เพื่อนกัน เอ็งเอาสมเด็จเหม็นไปห้อยล่ะกัน แต่มีสัญญาใจ ถ้าใช้ได้ผลต้องคืน ตูนะเฟ้ยย !!!! รับปากกันดิบดี เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก มันโทร.มาบอก ไม่ยอมมาหา<O:p</O:p
    "สมเด็จเหม็น ลพ.อุ้น นี่ห้อยแล้วดีจริง ๆ เจ้านายเมตตา พ่วงของแถม มีสาว ๆ มาติดพัน ถ้าตูไม่ตายเสียก่อน ตูคืนให้นะเพื่อน ยืมห้อยจนกว่าจะตายจากกัน ถ้าทวงคืนถือว่ามึง (หมู่เอก) ไม่รักเพื่อน” เจอมุขนี้เข้าไป หมู่เอกแทบจุก นึกในใจรับประทานผลไม้ที่ไม่ชอบแน่เรา (แห้ว) ทุกวันนี้มันเลี่ยมทองห้อยสมเด็จเหม็น ลพ.อุ้น อยู่องค์เดียว แต่ปากไม่อยู่สุข ไปบอกเพื่อนคนอื่น ๆ "ใครชอบด้านเมตตาให้ไปบอกไอ้เอก มันมีสมเด็จ ลพ.อุ้น มันใจดีให้เพื่อนฟรี ๆ ขอมันได้" จ๊ากก” โทรมาหลายคน แทบบ้าเลยเรา !!!
    <O:p</O:p
    นายประชุม สวนสวรรค์ (มรรคทายากวัดตาลกง) อายุ ๕๔ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๐ ม.๗ ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้เมตตาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ สมเด็จเหม็น ของหลวงพ่ออุ้น ดังนี้
    <O:p</O:p
    เมื่อประมาณ ๒๕๑..กว่า ๆ จำ พ.ศ.ได้ไม่แน่ชัด แถบพื้นที่บ้านตาลกง มีเจ้ามือหวยใต้ดินใหญ่รายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) เป็นเจ้ามือรับแทงเลขเด็ดต่าง ๆ ไม่อั้น อาจจะเป็นเพราะไปมีเรื่องกันเกี่ยวกับเรื่องหวยที่รับแทงเขามา แล้วไม่จ่ายเงิน หรือไงไม่ทราบ ขณะขับรถออกจากพื้นที่บ้านตาลกง โดนรถกระบะ ๒ คัน จอดประกบ ถล่มด้วยอาวุธปืนสงครามนานาชนิด รถเจ้ามือหวยพรุนไปหมด มือปืนนึกว่าตายแน่เล้ว เลยขับรถหนีไป ปรากฏว่า เจ้ามือหวย และเมียที่นั่งมาด้วย นั่งหมอบในรถ ไม่มีใครโดนกระสุนเลยสักนัด สอบถามได้ความว่า "ห้อยสมเด็จเหม็น" ด้วยกันทั้งสองคน นับแต่นั้นมาก็ย้ายที่ทำกินไปอยู่ที่อื่นไม่กลับมาบ้านตาลกงอีกเลย "เหลือเชื่อมาก ๆ ผมไปดูรถมาไม่น่าจะรอด" นายประชุมพูด พร้อมชูนิ้วว่า พุทธคุณยอดเยี่ยมจริง ๆ สมเด็จเหม็นหลวงพ่ออุ้น ทั้งเมตตา และแคล้วคลาด
    <O:p</O:p
    เรื่องประสบการณ์ พระผงสมเด็จเหม็น ยังมีอีกมาก เรื่องบางเรื่องทางนิตยสารพระเครื่องบางฉบับได้เคยนำออกเผยแพร่ไปบ้างแล้ว อย่างเช่น สามีไปมีภรรยาน้อย ฝ่ายภรรยาหลวงได้เอาผงสมเด็จใส่ครก ตำน้ำพริกให้สามีกิน จนวนเวียนอยู่กับบ้านไป ไหนไม่รอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะมานำเสนอ จึงของดไม่นำรายละเอียดมากล่าวถึง ต้องขออภัยท่านที่สนใจอยากรู้เรื่องราวด้วย
    <O:p</O:p
    สำหรับสมเด็จเหม็นนั้น ปัจจุบันเป็นที่นิยมเสาะแสวงหา ของนักพระเครื่องอย่างกว้างขวาง ในงานประกวดพระเครื่องหลายต่อหลายงาน มักจะปรากฏรายการของพระสมเด็จเหม็นอยู่เสมอ ทำให้ค่านิยมแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน อยู่ในหลักพันกลาง หากสวยมาก ๆ และเนื้อนิยม คือ เนื้อออกแดง ยันต์หลังชัดเจน สนนราคาอาจถึงหมื่น ขึ้นอยู่กับความพอใจทั้งสองฝ่าย (ที่วัดมีให้บูชา องค์ยันต์หลังไม่ชัด อยู่ที่ ๔,๕๐๐ บาท องค์ยันต์หลังชัด อยู่ที่ ๗,๕๐๐ บาท)
    <O:p</O:p
    . วัตถุมงคลเนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ หรือ แร่ไหลดำ<O:p</O:p
    วัตถุมงคลเนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ หรือ แร่ไหลดำ นั้น ถือเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่ออุ้น เนื่องจากยังไม่เคยเห็นมีพระเกจิอาจารย์ท่านใดสร้างมาก่อน มีหลายพิมพ์ เช่น พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระสมเด็จขี่เสือใหญ่ เสือเล็ก พระสมเด็จฐานสิงห์ พระสมเด็จสามชั้น พระสมเด็จคะแนน ฯลฯ นางกวัก พระสิวลี และปลัดขิก
    <O:p</O:p
    แร่เขาพรหมชะแง้ เป็นเพียงสินแร่ ก่อนจะสร้างเป็นพระพิมพ์ได้ ต้องมีกรรมวิธีหลอมเหลว การที่จะหลอมเหลวก็ต้องมีสูตร ถ้าทำไม่ถูกสูตรจะกลายเป็นผงธุลี เหมือนเผาหินทำปูนขาว หลวงพ่ออุ้น มีวิชาในการหลอมที่เรียกว่า “วิชาการเล่นแร่แปรธาตุ” โดยใช้วัสดุกำกับด้วยไสยเวทมนต์คาถาอาคมกำกับ เมื่อสามารถหลอม ทำให้แร่เหลวเป็นน้ำแล้ว ก็หล่อเป็นวัตถุมงคล องค์พระพิมพ์ต่าง ๆ ได้ ส่วนการปลุกเสกด้วยเวทมนต์ ก็จะเกิดพลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัตถุธาตุกายสิทธิ์ที่มีสรรพคุณในตัวเอง บวกกับพลังอิทธิคุณของหลวงพ่ออุ้น จึงมีพุทธคุณสูงส่งครอบจักรวาล ประดุจดังเหล็กไหลเลยเชียว (ตกแตกเหมือนเนื้อเมฆพัตร์
    <O:p</O:p
    แร่เขาพรหมชะแง้ วิเศษศักดิ์สิทธิ์อย่างไร<O:p</O:p
    ลุงแฉ่ง อินทโณ บ้านอยู่ ทุ่งเขาพรหมซะแง้ ได้ไปที่วัดตาลกง เห็นเม็ดแร่ของหลวงพ่ออุ้นเม็ดหนึ่ง จึงได้ขอหลวงพ่อ แล้วท่านหยิบให้ทันที ใส่กระเป๋าเสื้อติดตัวไปหาหมอที่คลีนิค หมอแย้ม คลีนิคในตลาดเพชรบุรีได้ตรวจรักษา แล้วฉีดยาให้ลุงแฉ่ง ฉีดจนเข็มงอก็ฉีดไม่เข้า ถามว่ามีของดีอะไรติดตัวมาให้เอาออก ลุงแฉ่งบอกว่าไม่มี แล้วหมอก็ฉีดยาให้ใหม่ ปรากฏว่าเข็มงออีก ทีนี้ลุงแฉ่งก็สงสัย คงจะเป็นเม็ดแร่ ที่ขอมาจากหลวงพ่ออุ้นแน่ ๆ ก็เลยเอาออก ปรากฏว่าคราวนี้หมอฉีดยาอย่างสะดวกสบาย
    <O:p</O:p
    บรรดาลูกหลานของลุงแฉ่งรู้เรื่องเข้า ก็ไปถามหลวงพ่ออุ้น ท่านบอกว่า แร่นี้มีความศักดิ์สิทธิ์วิเศษในตัว ไปอธิษฐานขอมาจากถ้ำเขาพรหมชะแง้ ที่ข้างบ้านโยมแฉ่งน่ะแหละ ต่อมาลูกหลาน และลุงแฉ่งได้ไปเก็บเม็ดแร่ ที่ยังมีหลงเหลืออยู่ประปรายตามพื้นดินข้างเขา นำมาเก็บรักษาไว้ ทั้งได้เคยนำติดตัวไปฉีดยา ก็ไม่เห็นปรากฏว่า เข็มฉีดไม่เข้า เหมือนกับเม็ดที่รับมาจากหลวงพ่ออุ้นเลย<O:p></O:p>
    เรื่องนี้มีข่าวรู้ไปถึง หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง ท่านก็มาดูที่เขาพรหมชะแง้ เพื่อเอาแร่ไปทำวัตถุมงคล ไม่ปรากฏว่ามีเศษเม็ดแร่แม้เพียงเล็กน้อย ให้เหลืออยู่ตามพื้นดินเลย จึงทำพิธีบวงสรวงขอขุดแร่ และขอให้แร่ได้ปรากฏ แต่ก็ไม่ยอมปรากฏให้เห็น ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งหลวงพ่ออุ้นไปนั่งสมาธิขอ เป็นเหตุให้หลวงพ่อจ้วน ต้องเดินทางไปขอแร่จากหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกงไปส่วนหนึ่ง ผู้เขียนได้มีโอกาสไปกราบนมัสการหลวงพ่ออุ้น ขอรายละเอียด ท่านเมตตาเล่าเรื่องราวของแร่ถ้ำเขาพรหมชะแง้ให้ฟังว่า
    <O:p</O:p
    ถ้าเขาพรหมชะแง้ นี้ เป็นภูเขาลูกหนึ่งที่ขึ้นอยู่กลางทุ่งนา สมัยที่ยังไม่ได้บวช คือ ครั้งเป็นฆราวาส เคยไปที่เขาลูกนี้ ภายในภูเขา มีถ้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านเชื่อกันมาแต่ดึกดำบรรพ์ว่า เขาลูกนี้ศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งลี้ลับจะปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ เช่น เห็นงูใหญ่มีหงอน มีลำแสง ได้เคยไปพบเห็นแร่สีดำอมเขียว มีสนิมเหล็ก ติดอยู่ที่ผิวอยู่ในถ้ำ ...
    <O:p</O:p
    ครั้นต่อมาเมื่อมาบวชเรียนแล้ว ได้เคยไปดูอีกครั้ง ปรากฏว่าที่จุดนั้น ไม่ปรากฏมีแร่เหมือนดังเดิมอยู่เลย แล้วปล่อยให้เรื่องผ่านไปถึง ๓๐ ปี หลังจากนั้นได้เล่าเรียนวิชาต่าง ๆ มาแล้ว ก็อยากทำวัตถุมงคลไว้แจกญาติโยม ที่มาทำบุญสร้างอุโบสถ จึงเดินทางกลับไปค้นหากับพระลูกวัด ก็หาไม่พบ แล้วนั่งลงบริกรรมอธิษฐานขอแร่จากเขา เทวดาที่ปกปักรักษาสถานที่ ขอให้พบแร่เอาไปทำวัตถุมงคลตามจุดประสงค์เถิด
    <O:p</O:p
    หลังจากนั้นกลับไปวัด ต่อมาคืนหนึ่ง ฝนตกหนักลงแรง กระทั่งรุ่งเช้า มีชาวบ้านแถบนั้นมานิมนต์ไปฉันเพล เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนนี้ฝนตกใหญ่ ลมแรง มีหินกลิ้งมาจากข้างเขา เป็นลูกดำ ๆ แล้วได้เดินทางไปดู ปรากฏว่า พบแร่ชนิดเดียวกับที่เคยพบมาแล้ว จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด ส่วนหนึ่ง หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง ได้มาขอไป และ หลวงพ่ออุ้นได้นำไปทำเป็นพระสมเด็จขี่เสือ (มีประสบการณ์มาก) ส่วนที่ยังเหลือเก็บไว้สร้าง พระปิดตามหาอุด และพระพิมพ์ต่าง ๆ อีกหลายพิมพ์ หลวงพ่ออุ้น ยังได้พูดว่า มีคนมาได้ลายแทงสมบัติที่เขาถูกนี้ และมาหาแร่ที่เขาลูกนี้มาก แต่มีน้อยรายจะได้ไป
    <O:p</O:p
    ประสบการณ์ : วัตถุมงคลเนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ ที่มีประสบการรณ์แล้ว เช่น พระสมเด็จขี่เสือ รุ่นแรก เนื้อแร่ เรื่องมีว่า ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ไปนมัสการหลวงพ่ออุ้น ที่วัดตาลกง แล้วขอบูชาพระสมเด็จขี่เสือ รุ่นแรก เล่าถึงสาเหตุที่มาบูชา เพราะไปมีประสบการณ์พระสมเด็จขี่เสือ ที่ตนเองบูชาติดตัวอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีอยู่องค์เดียวในกระเป๋าเสื้อ ช่วยให้รอดจากรถชนประสานงา เหตุเกิดขึ้นที่อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี แต่เพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วย ๒ คน ตายหมด ส่วนตัวเขาไม่ได้บาดเจ็บเป็นอะไรเลย (ยังมีต่อ)<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    . เหรียญรูปไข่รุ่นแรก การสร้างเหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๔๐ มีอยู่ ๔ เนื้อ คือ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และ เนื้ออัลปาก้า เหรียญรุ่นนี้ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หลวงพ่ออุ้นครึ่งองค์ เส้นคมชัด ศิลปะสวยงามมาก รวมทั้งหมดสร้าง ๑๐,๕๐๘ เหรียญ ด้านหน้าตอกโค้ดตัว อ หลังตอกโค้ด ๓ ตำแหน่ง ๒ ตำแหน่ง ในแต่ละเนื้อ เป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูง มากด้วยประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของวงการนักนิยมพระเครื่อง เล่นหากันหาวงกว้าง ค่านิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นับเป็นประวัติการณ์ ซึงยังไม่เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน แล้วต่อมาหลวงพ่ออุ้นได้สร้างเหรียญรูปเหมือนอีก ๓๐ กว่ารุ่น ไม่นับรวมเหรียญหนุมานเชิญธง, เหรียญหงส์มังกร, เหรียญพระนาคปรก, เหรียญงบน้ำอ้อย ซึ่งเหรียญดังกล่าว ไม่มีรูปของท่านอยู่ในเหรียญทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
    <O:p</O:p
    ประสบการณ์ : เหรียญรูปไข่รุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์สูง ดังเรื่องราวที่ได้รวบรวมนำเสนอต่อไปนี้<O:p</O:p
    ยิงไม่ออก ยิงไม่เข้า : สิบโทมานะ เป็นตำรวจตระเวณชายแดนอยู่ที่จังหวัดยะลา ได้เดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่ออุ้น พร้อมกับเล่าประสบการณ์ของตนให้ พระแดง วัดตาลกง ฟังว่า เมื่อต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ตนได้ขับขี่รถเครื่องไปทำธุระที่บ้านบาละ แล้วถูกคนร้ายลอบยิงถึง ๔ นัด กระสุนถูกที่หัวไหล่ซ้ายแต่ไม่เข้า ถึงกระนั้นก็ยังตกจากรถเครื่อง แล้วรีบลุกขึ้น เห็นคนร้ายกำลังเหนี่ยวไกปืนยิงมาอีก แต่คราวนี้ยิงไม่ออก จากนั้นคนร้ายเห็นท่าไม่ดีก็รีบหนีไป<O:p</O:p
    จากคำบอกเล่าประสบการณ์ของสิบโทมานะ ที่โดนยิงไม่เข้า และยิงไม่ออก เจ้าตัวบอกว่า ห้อยเหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๔๐ ของหลวงพ่ออุ้น เพียงเหรียญเดียว แล้วรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย ด้วยพุทธคุณองค์พระ และบารมีของหลวงพ่ออุ้นคุ้มครองโดยแท้ คราวนี้จึงได้มีโอกาสขึ้นไปกราบนมัสการท่านถึงที่วัดตาลกง<O:p</O:p
    ทดสอบยิงเครื่องรางของขลัง : เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เอง เป็นที่กล่าวขานในหมู่นักสะสมพระเครื่อง ทั่วทั้งอำเภอท่ายาง โดยเฉพาะที่ ตลาดสารเห็ด อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อมีการทดสอบความเข้มขลังวัตถุมงคล ด้วยการทดลองยิงกันถึง ๓ ห่อด้วยกัน โดยตั้งเป้ายิงกันที่บริเวณชายเขาลูกช้าง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี (เมืองคนดุ คนจริง ก็อย่างนี้แหละ ต้องลองเพื่อให้รู้)<O:p</O:p
    ห่อที่ ๑ เป็น วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ของ นายทม ทราสิริ ได้ทดลองยิง ปรากฏว่ายิงออกแต่ไม่ถูก<O:p</O:p
    ห่อที่ ๒ เป็นของ นายวิเชียร สอดสุข ได้ทดลองยิง ปรากฏว่ายิงถูกผ้าที่ห่อตกลงมา<O:p</O:p
    ห่อที่ ๓ เป็นของ นายสมจิต พวงนาค ได้ทดลองยิง ปรากฏว่า สับไกปืนดังแชะ ยิงซ้ำเป็นครั้งที่ ๒ ก็ดังแซะเหมือนเดิมอีก ครั้นหันปลายกระบอกปืนขึ้นท้องฟ้ายิงใหม่ เสียงปืนดังสนั่น ผู้คนที่ไปยืนมุงดูต่างตกตะลึง จึงขอให้นายสมจิต แก้ห่อผ้าออกดู ครั้นแก้ออกดูปรากฏว่าเป็น เหรียญรุ่นแรก ของหลวงพ่ออุ้น เนื้ออัลปาก้า พ.ศ. ๒๕๔๐ นั้นเอง เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือกันไปทั่ว<O:p</O:p
    ถูกฟันแต่ไม่เข้า : นายจ๊ะ ทองมี อยู่หมู่ที่ ๘ ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เกิดวิวาทกันกับเพื่อนเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงถูกเพื่อนฟันด้วยมีดตัดสับปะรด เข้ากลางหลัง ๒ ที แต่ฟันไม่เข้า (ฟัง แล้วหวาดเสียวไม่น้อย) เพราะในคอของนายจ๊ะ ห้อยเหรียญรุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า ของหลวงพ่ออุ้น เพียงเหรียญเดียว<O:p</O:p
    ครั้นต่อมา ได้เดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่ออุ้น ที่วัดตาลกง เล่าประสบการณ์ตนเองให้ท่านฟัง แล้วขอให้หลวงพ่ออุ้นพรมน้ำมนต์ให้ หลังจากนั้นอีก ๒ สัปดาห์ นายจ๊ะได้ขับขี่รถเครื่อง (มอเตอร์ไซด์) พ่วงเพื่อนซ้อนท้ายไปอีก ๒ คน รถเกิดอุบัติเหตุไปชนกับรถปิกอัพ ทางสายหนองแพบ ปรากฏว่า รถเครื่องพังยับเยิน ซ่อมก็ไม่ได้ กลายเป็นเศษเหล็กทันที แต่น่าอัศจรรย์ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยนิด<O:p</O:p
    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่ออุ้น สามารถคุ้มครองอันตรายดีเยี่ยม แม้กระทั่งคิดฆ่าตัวตาย<O:p</O:p
    ถูกรถสิบล้อทับคล่อม : จ่านันท์ ปลอดโปร่ง เป็นคนที่ชาวมาบปลาเค้ารู้จักกันดี อยู่บ้านเลขที่ ๑๐ ต.มาบปลาเค้า องท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้ขับขี่รถมอเตอร์ไชด์ออกทางใหญ่คลองสายที่ ๑ ในขณะขี่อยู่เพลิน ๆ ก็มีรถสิบล้อวิ่งมาด้วยความเร็ว แล้วพุ่งเข้าขนทับคล่อมรถของจ่านันท์ไปด้วย ตัวจ่านันท์ติดอยู่ใต้ท้องรถสิบล้อ คนที่พบเห็นเหตุการณ์ต่างลงความเห็นอย่างเดียวกันหมด ไม่รอดแน่ จึงได้ช่วยกันนำร่างออกมาจนได้ เหมือนปาฏิหาริย์ จ่านันท์ก็ไม่ได้เป็นอะไรถึงกับบาดเจ็บสาหัสเลย มีเพียงหนังถลอกที่ตรงบริเวณข้อศอกเท่านั้น ทำให้ทุกคนแปลกใจมาก แม้ตัวจ่านนท์เองก็ยังอัศจรรย์ใจเช่นกัน เมื่อสอบถามได้ความว่า จ่านนท์ห้อย เหรียญรุ่นแรก ของหลวงพ่ออุ้น อยู่ในคอเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น<O:p</O:p
    ปืนยิงไม่ออก : จากข่าวหน้าหนึ่ง หนังสิอพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ลงข่าวไว้ว่า <O:p</O:p
    สุดยอดเหรียญดัง เข้มขลังที่สุด ปืน .๓๘ จ่อหัวยิงไม่ออก เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ด้วยอำนาจพุทธคุณเหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๔๐ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ที่เหน็บอยู่ในตัวเพียงเหรียญเดียว ตำรวจแห่ไปทั้งโรงพัก กราบขอเหรียญ<O:p</O:p
    เหตุเกิดจากหนุ่มคลั่งยาบ้า ถูกกีดกันรัก แล้วเกิดวิวาท พ่อฝ่ายหญิง โทร.เรียกตำรวจมาจับ เกิดการต่อสู้แย่งปืนตำรวจได้ ยิงตำรวจตาย แล้วหันปืนจ่อหัวพ่อหญิงรัก สับปืนไม่ยั้งนับไม่ถ้วน ต่อหน้าต่อตา เพื่อนบ้านจำนวนมากต่างเห็นเหตุการณ์<O:p</O:p
    เหตุเกิดเมื่อเวลา ๑๔.๔๕ น. ของวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๓ ที่บ้านเลขที่ ๓๒๐/ ๑๖ หมู่ที่ ๑ ต.ท่ายาง (ตลาดท่ายาง) อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมี นายเมษา ภูวมาศ อายุ ๕๒ ปี ได้แจ้งตำรวจ ส.ภ.อ.ท่ายาง ว่าถูก นายอำนาจ บุญเต็ม ข่มขู่เอาชีวิต เนื่องจากกีดกันไม่ให้นายอำนาจ มาชอบพอรักใคร่กับ น.ส.จันทิมา ภูวมาศ ลูกสาวของตน <O:p</O:p
    จากนั้น ร.ต.อ.หัสนะ ได้สั่งการให้ ส.ต.ท.ประสาน มีโหมด ไปตรวจสอบ และเชิญตัวนายอำนาจไปที่โรงพัก นายอำนาจ เกิดคลุ้มคลั่ง กระโดดแย่งปืน .๓๘ ประจำกายของ ส.ต.ท.ประสาน และได้ยิงใส่ ส.ต.ท.ประสาน ๓ นัดซ้อน ทำให้ ส.ต.ท.ประสาน เสียชีวิตทันที แล้วนายอำนาจก็เอาปืนวิ่งเข้าไปจ่อหัว นายเมษา ภูวมาศ เหนี่ยวไกปืนยิงนับครั้งไม่ถ้วน แต่กระสุนด้านยิงไม่ออกสักนัดเดียว นายอำนาจจึงหันไปจี้ตัวนางสาวจันทิมา เพื่อเป็นตัวประกัน พาตัวเองหลบหนี โดยมีจักรยานยนต์เป็นพาหนะ<O:p</O:p
    ตำรวจได้ออกติดตามไปอย่างกระชั้นชิด นายอำนาจเห็นท่าไม่ดี จึงได้ทิ้งรถ แล้วปล่อยนางสาวจันทิมาที่เป็นตัวประกัน จากนั้นได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในดงกล้วย ยิงปืนใส่ตำรวจที่ติดตามไปจึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น เหตุการณ์ปรากฏว่า นายอำนาจได้ถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต <O:p</O:p
    เรื่องนี้รู้กันทั่วตลาด อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สามารถสอบถามเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ทุกคน ส่วนนายเมษา (เอ้) ภูวมาศ ที่ถูกนายอำนาจเอาปืนจ่อหัวยิง แต่กระสุนไม่ระเบิดสักนัดเดียว รู้มาว่าในตัวของนายเมษา มีเหรียญรุ่นแรก ของหลวงพ่ออุ้น เหน็บกระเป๋าเสื้ออยู่เพียงเหรียญเดียวแท้ ๆ จึงรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย
    <O:p</O:p
    เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นเหรียญดี เหรียญขลัง ของแท้ ของจริง ไม่มีการโอ้อวดสรรพคุณเพื่อปั่นราคา ได้รับการแกะบล็อกพิมพ์จากช่างฝีมือดี ขนาด ๒.๔ ซ.ม. และ ๓.๑ ซ.ม. รูปไข่ มีหลวงพ่ออุ้นครึ่งองค์ ขนาดนูนกลาง รูปแบบศิลปะ งดงามคมชัด อยู่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นยันต์จม ยันต์เดียวกับ หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เหรียญนี้พุทธคุณสูง มากประสบการณ์ ถือเป็นสุดยอดแห่งเหรียญที่เข้มขลังเหรียญหนึ่ง เสมือนหนึ่งสวนกระแสเศรษฐกิจ เพียง ๕ ปี หลังจากมีข่าวเกรียวกราวทางหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓ จากหลักร้อย ค่านิยมก็พุ่งกระฉูดขึ้นมาอยู่ที่ หลักพันต้น (๓ – ๔ พัน บาท) ปัจจุบันค่านิยมอยู่ในหลักหมื่นต้น ๆ (หมื่นสองพันบาทขึ้นไป) ส่วนอนาคตไม่ต้องพูดถึง ปัจจุบันก็หายากแล้ว บรรดาลูกดน้องบริวารคนมีชื่อเสียง (มือปืนทั้งหลายน่ะแหละ) ต่างห้อยบูชา เหรียญรุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า กันมาก ทั้งมีการเช่าหาบูชากันเป็นสากลแล้วมากมายนั้นเอง
    <O:p</O:p
    ยิงตัวตาย ๓ นัดซ้อน ไม่ออกสักนัด เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ผม (อ.เล็ก พลูโต) ได้รับการบอกเล่ามาจากปากเจ้าตัวโดยตรง (ขอสงวนนาม) ไม่ได้ฟังคนอื่นเขามาเล่า ที่ใช้ปืนยิงขมับตนเอง ถึง ๓ นัดซ้อน แต่ไม่ออกสักนัดเดียว เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในจังหวัดนนทบุรี เพิ่งรู้จักกันเมื่อคราวไปเช็งเม้งเมืองไทย เมษายน ที่ผ่านมา เล่าให้ฟังว่า <O:p</O:p
    ก่อนที่เขาจะเป็นนักสะสมพระเครื่องของหลวงพ่ออุ้น มากมายกว่า ๔๐ พิมพ์ นับร้อยองค์ เนื่องจากเขามีประสบการณ์เกี่ยวกับ เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออุ้นดยตรง กล่าวคือ เขาเคยคิดสั้น และฆ่าตัวตาย เพื่อหนีปัญหาชีวิต (ผมไม่กล้าถามเขาว่ามีปัญหาอะไร เพราะเพิ่งรู้จักกัน) ด้วยการใช้ปืนจ่อยิงขมับตัวเอง หลังจากลั่นไกนัดแรก ปืนไม่ลั่น จึงลั่นไกนัดที่สอง ก็ไม่ลั่นอีก เจ้าตัวเล่าว่าตอนนั้น มีอาการกดดันถึงกับมือสั่นเหงื่อตกทีเดียว <O:p</O:p
    แต่ด้วยจิตใจที่กล้าแข็ง ตัดสินใจแน่วแน่ว่าอยากตาย ไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคนอีกต่อไป จึง กลั้นใจลั่นไกอีกนัด ก็มีเสียงดังแชะ ไม่ออกอีก เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้ได้สติ เลิกคิดฆ่าตัวตาย แล้วมานึกได้ว่า ตนแขวนเหรียญหลวงพ่ออุ้น รุ่น ๑ เนื้ออัลปาก้า อยู่เพียงเหรียญเดียว เมื่อหยิบเหรียญของท่านขึ้นมาดู เห็นใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความเมตตาของหลวงพ่อ แล้วเกิดสำนึกได้ เลิกคิดฆ่าตัวตายทันที จากนั้นก็ไปกราบหลวงพ่อที่วัด เล่าให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อได้แต่ยิ้ม ๆ กล่าวว่า ดีแล้วที่ไม่ตาย ยังไม่ถึงฆาต แต่ก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จากนั้นหลวงพ่อก็ให้ศีลให้พร ให้คติธรรม เขาเลยฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์แต่บัดนั้น และเริ่มสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อทุกรูปแบบ <O:p</O:p
    ผมเองยังขอแบ่งบูชา เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อ จากเขามา ๑ เหรียญ ในราคา ๙,๐๐๐ บาท (คนละเหรียญกับที่เขามีประสบการณ์ เหรียญนี้เขาเช่าจากวัดตอนนั้นในราคา ๘,๐๐๐ บาท ถือว่าผมได้มาในราคามิตรภาพมาก) ในขณะที่ทางวัดขณะนี้ (ตอนเขียนต้นฉบับ) ยังมีให้บูชาอยู่ไม่มากนัก เหรียญละ ๑๒,๐๐๐ บาท ปัจจัยนำไปก่อสร้างกุฏิสงฆ์ที่กำลังสร้างอยู่ให้แล้วเสร็จ หากใครสนใจก็โทร.ติดต่อ หมู่เอก ลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ดูแลวัตถุมงคลของทางวัด ได้ที่เบอร์โทร. (089) 088-8850 ท่านผู้นี้มีอัธยาศัยดีมาก เปี่ยมด้วยความเมตตา ไม่เสียทีที่เป็นศิษย์หลวงพ่อ ยินดีที่จะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ แต่ก็ขอให้ช่วยส่งค่าส่งไปด้วยก็แล้วกัน
    <O:p</O:p
    ประสบการณ์เหรียญรุ่นแรก จากคุณ Kero 401 (นามแฝงในเวปบอร์ดวัดตาลกง)<O:p</O:p
    วันนี้ (๒๐ พ.ย. ๒๕๕๑) ช่วงเช้าประมาณ ๑๐.๓๐ น. เพื่อนของผมโทรมาว่า หัวหน้าทีมที่พาลูกน้องไปตรวจร้านเซเว่นที่สายเหนือรถคว่ำ ผมจึงโทรไปถามเพื่อนที่ไปด้วย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนไม่เป็นอะไรเลย (๗ คน) ยกเว้นแต่ รถพังมีเพื่อนของผมอยู่คนหนึ่ง ห้อยเหรียญรูปไข่หลวงพ่ออุ้น รุ่น ๑ ครับ นี่แหละครับหลวงพ่อ ช่วยให้ทุกคนปลอดภัยครับ (เหรียญที่เพื่อนผมห้อยผมเคยนำให้หลวงพี่สรร ที่วัดตาลกงดูแล้วครับ ของแท้) <O:p</O:p
    สุดท้ายนี้ขอบารมีหลวงพ่อ จงคุ้มครองลูกศิษย์ทุกคน ให้แคล้วคลาดจากภัยทุกอย่างด้วยครับ (เหตุการณ์เกิดขึ้น เวลา ๐๗.๓๐ น. ออกจากโรงแรมที่จังหวัดแพร่ จะมุ่งหน้าไปจังหวัดน่าน ก่อนถึงแยกร้องกวาง จะมีโค้งอยู่จุดหนึ่ง อันตรายมากครับ ใครผ่านไปบริเวณนั้นระวังหน่อยนะครับ) อีก ๖ คน มี ๑ คนแขวนพระพุทธชินราช และอีก ๕ คนไม่ได้แขวนอะไรเลยครับ<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    นายเมษา ภูวมาศ ถูกจ่อยิงศีรษะ ๓ นัด ไม่ออกสักนัดเดียว ตามที่เป็นข่าวหน้าหนึ่ง หนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๓
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. BoseBoseBose

    BoseBoseBose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +1,776
    ผมว่าท่านเป็นพระที่ตลกดีครับ เท่าที่อ่านในเว็บบอร์ดเว็บวัดตาลกง
     
  7. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    เป็นพระดีที่น่ากราบใหว้อิก1รูปครับ จำใด้คร่าวๆว่าสมเด็จเหม็นที่ท่านบรรจุกรุ มีมากพอสมควรเลยใช่ใม้ครับ
     
  8. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ครับ ในตอนนั้นผมเดินทางไปธุระที่เพชรบุรี ได้แวะไปกราบท่านที่วัด ช่วงนั้นที่วัดจะมีงานปิดทองฝังลูกนิมิตร ได้ทำบุญถวายเงินท่านไปจำนวนหนึ่ง ท่านเมตตามอบสมเด็จเหม็นมาให้สององค์ครับ หลวงพ่ออุ้น ท่านมีเมตตาจิตสูงมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2010
  9. ac28873

    ac28873 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +20
    ท่านเป็นพระที่ มีความเมตตาสูงมาครับเคยไปกราบท่านมาหลายหนก่อนไปทำงานที่ภาคใต้
    ในสมัยปี2544 ท่านใจดีและมีความเมตตา มากครับ ผมได้รับแจกกับมือหลวงพ่อเป็นนางกวักที่สร้างด้วยแร่พรหมชะแง้ ท่านบอกว่า เหนียว แล้วท่านก้อใส่มือให้กระผมมาครับ
     
  10. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    เคยไปที่วัดแต่ไม่ได้พบท่านครับ แต่รับรู้ได้ถึงความเมตตาของท่าน และท่านเป็นพระนักพัฒนาจริงๆ ครับ ทำให้บ้าน วัด โรงเรียนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขครับ มีโอกาสอยากไปกราบท่านให้ได้ครับ
     
  11. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ตอนที่ผมไปที่วัดก็ไม่เจอท่าน เพราะว่าท่านไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.วิชัยยุทธ กทม.แต่ก็ปาวารณาตัวเป็นศิษย์วัดตาลกง กับศิษย์พี่ทั้งหลายในเวปของวัดตาลกง ตอนนี้ผมนำเสนอเรื่องของท่านในหนังสือพิมพ์เสรีชัยในอเมริกา เขียนเอาไว้แล้ว ๑๐ ตอน เพิ่งนำมาลงในเวปพลังจิตแค่ ๔ ตอน ผมจะพยายามอัพเดทเรื่อย ๆ จนครบ หากสมาชิกท่านใดสนใจก็ติดตามอ่านได้ หากมีสงสัยอะไรเกี่ยวกับวัตถุมงคล ก็เข้าไปถามในเวปของวัดตาลกงได้ หรือ จะถามมายังผมก็ได้ อะไรที่บอกได้ ก็จะบอกกันครับ
     
  12. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    อ๋อ ผมจำได้แล้วครับพี่เล็ก พลูโต ที่อยู่อเมริการึป่าวครับ ที่เช่าพระจากวัดไปเยอะเเยะเลย ผมแอบเห็นนะครับ อิอิ ผมก็ตามอ่านเว็บวัดตาลกงอยู่ตลอดครับ อ่านไปด้วยเช่าไปด้วยแต่มีน้อยสู้พี่เล็กไม่ได้ อิอิ
     
  13. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ใช่แล้วครับ เช่าจากวัดตอนนี้ก็ ๖-๗ หมื่น เช่าจากที่อื่น ๆ คนที่ไว้ใจได้ แผงพระสายตรงที่เชื่อถือได้อีก ๓-๔ หมื่น ร่วมแสนแล้วครับ เช่ามาเยอะ ๆ เนี่ยะ ส่วนหนึ่งก็มาแบ่งปันให้แฟนคอลัมน์ในอเมริกาได้เช่าต่อ ได้เงินมาก็เอามาเช่าวัตถุมงคลของทางวัด พระหลัก ๆ ที่นิยม และราคาพุ่งพรวดทุกวันเก็บเอาไว้ใช้เอง ตอนนี้ มีสมเด็จเหม็น ๒ องค์, เหรียญรุ่นแรก อัลปาก้า ๒ เหรียญ รูปหล่อรุ่นแรก ๑ องค์ (อัลปาก้า) ล็อกเก็ต ๙๐ ปี สีซีเปีย, รูปหล่อหลังลายเซ็นต์เนื้อนวะ, ล็อกเก็ตเพชรยอดขุนพล ตะกรุดทองคำ ๙ ดอก และพระปิดตาเกือบทุกพิมพ์ ทุกเนื้อ ฯลฯ เหรียญรุ่นต่าง ๆ อีกหลายรุ่น เรียกว่า ตอนนี้กำลังหลงใหลก็ว่าได้

    ผมก็เข้าเวปวัดตาลกงเกือบทุกวัน เข้าไปติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ และอาการของหลวงพ่อ คงมีโอกาสเจอกันในกระทู้วัดตาลกงนะครับ สำหรับบทความที่นำมาลงในเวปพลังจิต ผมเห็นว่ายังไม่มีใครนำมาลงไว้ก่อน และอีกอย่าง ผมได้เรียบเรียงขึ้นใหม่จากประสบการณ์ในกระทู้ของเวปวัดตาลกง มีอีกหลายเรื่องราวที่สมาชิกเวปพลังจิตไม่เคยทราบมาก่อน ท่านที่สนใจ และศรัทธา อย่าลืมติดตามการอัพเดทตอนต่อไป ในวันเสาร์ - อาทิตย์นี้นะครับ
     
  14. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    ดีครับพี่เล็ก แต่ผมอ่านมากกว่าโพสต์ครับพี่ ติดตามอาการของหลวงปู่และติดตามราคาวัตถุมงคลของวัดด้วยครับ เพราะผมมีแค่สมเด็จเหม็นองค์เดียวครับที่ได้มาจากวัด อิอิ
     
  15. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    พี่เล็กหายไปนาน น้องๆๆคิดถึงครับ

    thaiput007@hotmail.com
     
  16. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    คิดถึงทุกคนเหมือนกันครับ คุณออย, คุณเอก (มันตรัย), คุณหน่อง หรือ เสี่ยหน่อง แต่คงมีบางคนเขาลืมผมไปแล้วล่ะครับ หายไปไม่ได้ไปไหนหรอกครับ พักผ่อนดูแลสุขภาพน่ะครับ ไปเมืองไทยคราวที่แล้วมีโอกาสไปวัดตาลกง เพชรบุรี และ วัดตะโก อยุธยา (ชื่อวัดใช้ชื่อย่อ ว.ต.ก. เหมือนกัน) หลวงพ่ออุ้น กับ หลวงพ่อรวย ท่านก็เป็นสหธรรมิกกัน มีจิตถึงกัน ติดต่อกันโดยจิตเสมอ ได้ไปกราบหลวงพ่อรวย พบท่านที่วัดครับ แต่หลวงพ่ออุ้น ท่านไปตรวจร่างกายที่ ร.พ. วิชัยยุทธ จึงไม่ได้พบท่าน ไม่เป็นไรครับ ปีหน้าฟ้าใหม่ คงได้ไปกราบท่านแน่ ถ้าผมมีบุญพอนะครับ

    อยากพบปะเจอะเจอน้อง ๆ ทุกคนครับ แต่สถานการณ์ตอนไปเมืองไทยเมื่อเมษาที่ผ่านมาไม่อำนวย เลยไปไม่ได้ไปไหนไกล ๆ โดยเฉพาะสายเหนือ กับ อีสาน น่ะครับ
     
  17. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    สวัสดีครับพี่เล็ก พี่ชายจากแดนไกล เห็นพี่หายเงียบไปเลย ไม่มีใครลืมพี่หรอกครับ ยังต้องการความสนุกสนานและความรู้ในการอ่านบทความที่พี่เขียนอยู่ เห็นตั้งแต่ตั้งกระทู้รอพี่เขียนเสร็จไม่อยากเขียนทักทายลงไป เพราะจะคั่นข้อความไม่ต่อเนื่องกัน หวังพี่คงอภัยน้องชายด้วยครับ สบายดีนะครับพี่เล็็ก
     
  18. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ขอบคุณครับ ที่ยังไม่ลืมกัน พี่เองก็ไม่เคยลืมน้อง ๆ ทุกคน อย่างน้อยก็เคยร่วมสร้างกุศลผลบุญร่วมกันมา ในช่วงที่หายไปก็ไม่ได้เข้าเวปตนเองเหมือนกัน เพราะสุขภาพไม่ดีเอาซะเลย มาปีนี้สุขภาพเริ่มดีขึ้น ก็เลยเข้ามาแจมกันต่อ ในบรรดาน้อง ๆ เจอ เอก วัดมารฯ คนเดียวเท่านั้นตอนไปเมืองไทยเมื่อปีที่แล้ว อยากเจอน้อง ๆ ทุกคนถ้ามีโอกาสไปเมืองไทยอีกครั้งหนึ่งในปีหน้า ประมาณเมษายน ก่อนสงกรานต์
     
  19. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ถูกรุมฟันด้วยมีดนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ระคายผิว<O:p</O:p
    เป็นเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งจาก นายประชุม สวนสวรรค์ มรรคทายกวัดตาลกง ที่เกิดขึ้นกับลูกชายโดยตรง กล่าวคือ เมื่อตอนปี ๒๕๔๗ ลูกชาย ตอนเป็นวัยรุ่น ขณะนั้นได้เดินทางไปทำงาน ที่ จ.ประจวบฯ วันหนึ่ง ดันเกิดไปมีเรื่องกับวัยรุ่นเจ้าถิ่น โดนจับล๊อคคอ และให้พรรคพวกรุมจ้วงแทง ลูกของนายประชุมด้วยมีดนับครั้งไม่ถ้วน (เจ้าถิ่นมีด้วยกัน ๓ คน) ก่อนพากันหลบหนีไป ตอนนั้น ลูกของนายประชุม เล่าว่า "รู้สึกปวดระบมทั้งตัวไปหมด นึกว่าไม่รอดแน่แล้ว" ตอนหลังลุกขึ้นมาได้ เห็นเสื้อขาดเต็มตัวไปหมด แต่คมมีดไม่ระคายผิว ได้เดินทางกลับมาบ้าน แต่ก็ไม่ยอมบอกให้พ่อ และแม่ฟัง จนวันหนึ่งไปช่วยแม่ตัดผัก (ครอบครัวนายประชุมประกอบอาชีพเกษตรกรรม) แม่เห็นตัวลูกชายเป็นจ้ำ ๆ จึงได้สอบถาม ได้ความว่า ไปมีเรื่อง และโดนรุมแทงแต่ไม่เข้า ในคอห้อยเหรียญหลวงพ่ออุ้น รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า เพียงเหรียญเดียว<O:p</O:p
    .วัตถุมงคลรุ่นพลังพุทธคุณ การสร้างวัตถุมงคลรุ่นพลังพุทธคุณ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีพระกริ่ง ๓ พิมพ์ เหรียญหล่อ ๑ พิมพ์ พระกริ่งตั๊กแตนใหญ่ พระกริ่งบาเก็ง พระกริ่งจีนสมาธิ เหรียญหล่อสุริยะประภา จันทระประภา เป็นการสร้างพระกริ่งครั้งแรก ของ ลพ.อุ้น ทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน<O:p</O:p
    วัตถุมงคลรุ่นนี้ ลพ.อุ้นตั้งใจสร้าง และเป็นผู้เททอง ในการหล่อมีแผ่นทองลงอักขระเลขยันต์ โดยพระเกจิอาจารย์ และพระคณาจารย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน ๑๓๙ รูป แผ่นทอง ลงเลขยันต์ตามตำรับของ ลพ.ทองศุข วัดโตนดหลวง ลงโดย ลพ.อุ้น จำนวน ๑๐๘ แผ่น แผ่นทองลงนะ ๑๐๘ ปถมัง ๑๔ โดยพระคณาจารย์ สายสมเด็จพระสังฆราช (แพ) และ แผ่นทองลงยันต์ สุดยอดมหายันต์ โดยหมอไสยศาสตร์ สาย ลพ.เดิม วัดหนองโพ ตะกรุด เหรียญ ห่วงเหรียญ ชนวนในการหล่อพระกริ่ง และพระประธานอีกจำนวนมาก ลพ.อุ้นจะปลุกเสกชนวน และแผ่นจารอักขระ เลขยันต์ ก่อนจะนำมาสร้างวัตถุมงคลเสมอ ทั้งนี้ท่านเน้นให้เป็นวัตถุมงคล ที่มีพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ และได้นำเนื้อ และชนวนที่เหลือจากการสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ ไปเป็นชนวนสำหรับผสมลงในการสร้างวัตถุมงคล ของท่านในรุ่นอื่นต่อ ๆไป<O:p</O:p
    สำหรับ รูปหล่อโบราณ รุ่น ๑ เหรียญหล่อเสมา รุ่น ๑ และ เหรียญหล่อนั่งเต็มองค์ รุ่น ๑ เป็นพระประเภทหล่อโบราณ รุ่น ๑ ทั้งหมด ๓ พิมพ์ มียอดจำนวนการสร้างน้อยมาก สร้างใน พ.ศ.๒๕๔๐ หลังออกเหรียญปั๊มรุ่นแรก มีพุทธคุณดีมาก เกิดประสบการณ์แล้ว อนาคตจะหายาก เช่นเดียวกับเหรียญรุ่นแรกแน่นอน<O:p</O:p
    ประสบการณ์วัตถุมงคล ลพ.อุ้น นอกจากพระผงสมเด็จเหม็น เหรียญรุ่นแรกที่นำเสนอแล้ว ยังมี รูปเหมือนปั๊ม พระกริ่งรุ่นพลังพุทธคุณ พระปรกใบมะขาม ที่มีประสบการณ์เกิดขึ้นแล้ว เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ มีผู้คนมาจากเมืองกาญจนบุรีกันหลายคันรถ ไปกราบนมัสการหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เพื่อขอบูชา พระกริ่งบาเก็ง แล้วเล่าเรื่องให้พระที่วัดฟังว่า เกิดอุบัติเหตุ คนถูกรถชนที่ถนนสายกาญจนบุรี ทุ่งลาดหญ้า ติดอยู่กับหน้ารถ พนักงานปอเต็กตึ้ง ช่วยกันงัดเอาคนขับออกมาได้ แต่ปรากฎว่า คนขับไม่ตาย หรือ บาดเจ็บอะไรมากนัก สอบถามได้ความว่า เขาห้อยพระกริ่งบาเก็ง ของ ลพ.อุ้นอยู่องค์เดียว จึงรอดชีวิตมาอย่าง ปลอดภัย คนเมืองกาญจนบุรี รู้ข่าวนี้จึงเช่ารถกันมาหลายคัน เพื่อบูชาพระกริ่งบาเก็ง รุ่น พลังพุทธคุณนั่นเอง <O:p</O:p
    ประสบการณ์รูปเหมือนปั๊ม รุ่น ๑ พ.ศ. ๒๕๔๐ เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ทางรถยนต์ ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกันที่ดงยาง ถ.สายเพชรบุรี-ท่ายาง ก่อนจะถึงตลาดท่ายาง ๒ กม. มีคนมุงดูกันหนาแน่นทั้ง ๒ ฟากถนน รถปิกอัพได้วิ่งข้ามถนน ไปชนกับรถพ่วง หน้ารถปิกอัพ เลขทะเบียนรถเพชรบุรี ได้ถูกอัดบู้บี้ติดพวงมาลัย คนขับติดอยู่ในรถออกไม่ได้ ได้แต่ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างได้ช่วยกันอยู่พักหนึ่ง ก็งัดเอาร่างคนขับออกมาจนได้ น่าแปลกใจอยู่ ไฉนคนขับกลับไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ และบาดเจ็บที่หนักหนาอะไรเลย แล้วรอดชีวิตมาได้ อย่างปาฏิหารย์ ได้มีการสอบถาม และขอดูของดี จึงรู้ว่าเป็น รูปเหมือนปั๊ม รุ่น ๑ เนื้ออัลปาก้า ของ ลพ.อุ้น วัดตาลกง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดไม่ไกลจากวัดตาลกงนัก หลังจากนั้นได้มีญาติโยมไปเล่าให้หลวงพ่ออุ้นฟัง ท่านยิ้ม และกล่าวว่า "คงเป็นเพราะผู้ประสบ อุบัติเหตุไม่ถึงคราวตายมากกว่า"<O:p</O:p
    . พระเนื้อชินปรอท พ.ศ. ๒๕๔๔ การสร้างพระเนื้อชินปรอท ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ จำนวน ๒ พิมพ์ คือ ๑. เหรียญหล่อซุ้มขุนพลเล็ก ๒. พระสังกัจจายน์ <O:p</O:p
    ในการสร้างได้สร้างตามตำรับวิชา ผสมปรอทแบบโบราณ เป็นวิชาที่โดดเด่น ด้านอยู่คงกระพันชาตรี และ ป้องกันคุณไสย อาเพทภัย ทั้งปวง สำหรับชินปรอทนี้ ทำยาก มีการสร้างวัตถุมงคล ๒ พิมพ์นี้ ไว้เพียงอย่างละประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐ องค์เท่านั้น <O:p</O:p
    . วัตถุมงคลเนื้อผงยาเพชรจินดา ในการสร้างวัตถุมงคลเนื้อผงยาเพชรจินดา มีอยู่ ๕ พิมพ์ คือ ๑.พระซุ้มขุนพลใหญ่ ๒.พระซุ้มขุนพลเล็ก ๓.พระร่วงนั่ง ๔.พระพิมพ์เล็บมือ ๕.พระงบน้ำอ้อย <O:p</O:p
    อันที่จริงผงยาเพชรจินดา เป็นยารักษา บำรุงหัวใจ และ ขับลม สูตรยาที่มีมาตกทอดเป็นมรดกมานานแล้ว สันนิษฐาน น่าจะไม่แตกต่างกับ ผงยาจินดามณี ของ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม มากนัก ได้นำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลจนขึ้นชื่อลือชา อย่างเช่น พระผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ เป็นต้น <O:p></O:p>
    . เครื่องรางของขลัง ในการสร้างเครื่องรางของขลังของหลวงพ่ออุ้น มีการสร้างมากขึ้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง พ.ศ. ๒๕๔๓-๒๕๔๕ เช่น หนุมาน รุ่นแรกเนื้อชนวนก้นเบ้าผสมแร่เขาพรหมชะแง้ (แก่แร่) ประมาณต้นปี ๔๓ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ พ.ศ. ๒๕๔๔ ตะกรุดคาดเอว ๑๐ ดอก ตะกรุดคาดเอว ๔ ดอก มีปลัดขิกแร่เขาพรหมชะแง้อยู่ด้วย แล้วก็ ตะกรุดเสริมดวง เสริมลาภ ปลัดขิกไม้สะพานควาย ไม้มะยม ผ้ายันต์ แผ่นยันต์ราชสีห์ พระขรรรค์ในลักษณะต่าง ๆ เนื้อโลหะ เนื้อไม้ทองระอา ไม้มะยมใหญ่เล็ก แตกต่างกันออกไป ผ้าคลุมลูกนิมิต ใบโพธิ์ ลูกสะกด เป็นต้น<O:p</O:p
    . ล็อกเกตเต็มองค์ ครึ่งองค์ ในการสร้างล็อกเกตของ ลพ.อุ้น รุ่น ๑ มีเต็มองค์ พ.ศ. ๒๕๔๓ ต้นปี หลังบรรจุผงพุทธคุณ จำนวน ๓๐๐ อัน ส่วนครึ่งองค์ เป็นรุ่นที่พิถีพิถันมาก มี ๓ สี คือ พื้นสีฟ้า (จีวรรีดปิดทอง) สีเหลือง และ สีฟ้า หลังบรรจุตะกรุด ๕ ดอก ๓ ดอก ผงพุทธคุณ เส้นเกศา ผสมขี้ตะไบชนวนหล่อ รุ่นพลังพุทธคุณ <O:p</O:p
    สรุป ล็อกเกตรุ่นนี้ ด้านหลังยัง บรรจุผงเก่า ลพ.แก้ว ผสมผงพุทธคุณของ ลพ.อุ้น ผสมขี้ตะไบ ชนวนพระกริ่งรุ่น พลังพุทธคุณ ผสมผงชานหมาก ผงสมเด็จเหม็น เส้นเกศา พร้อมแผ่นเงิน
    ตอกโค๊ดเรียงเลขประจำทุกอัน นอกจากนี้ยังมี รุ่นหลัง ๆ พ.ศ. ๒๕๔๔ อีกด้วย <O:p</O:p
    .สรุปการสร้างวัตถุมงคล <O:p</O:p
    วัตถุมงคลรุ่นต่าง ๆ ของ ลพ.อุ้น สุขกาโม ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๕๐ เมื่อพิจารณาแล้ว
    ไม่น้อยกว่า ๑๐๐ พิมพ์ขึ้น ถือว่ามากพอสมควร แต่ยอดจำนวนในการสร้างแต่ละรุ่น แต่ละพิมพ์
    มีการสร้างจำนวนน้อยมาก ขอให้ทุกท่านได้โปรดพินิจพิจารณาให้ถ้องแท้ ถึงจุดประสงค์การสร้าง และการจัดทำ<O:p</O:p
    บารมีธรรมของหลวงพ่ออุ้น เป็นที่พึ่งเป็นที่ศรัทธา ของสาธุชน ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตาสูงส่ง ผู้ใดมีวัตถุมงคล ของท่านที่ท่านปลุกเสกแล้วก็ถือว่าเป็นของดี ของขลัง แม้ผู้ใดนำวัตถุมงคลไปให้ท่านเสกถึงวัด ท่านก็จะเมตตาเสกให้ ด้วยเมตตาจิตเปี่ยมล้นทุกรายไปแต่หาใช่ว่าวัตถุมงคลเหล่านั้น เป็นของท่านเสมอไป ในส่วนของประสบการณ์เล่า เท่าที่นำเสนอนี้
    ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รวบรวมข้อมูล ยังมีอีกที่ไม่ได้บันทึกไว้เป็นตัวอักษรเพียงแต่เล่าลือ ปากต่อปาก อย่างเช่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการทดสอบ ยิงพระปรกใบมะขาม รุ่นแรก ปรากฎว่า ยิงไม่ออก ฉะนั้นวัตถุมงคลของท่าน ดีทุกรุ่น ขลังทุกพิมพ์ มั่นใจได้เต็มร้อย ใครได้บูชาไปถือเป็นสิริมงคล สำหรับเรื่องประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ทุกเรื่อง มีหลักฐานพยานบุคคลยืนยันเชื่อถือได้แน่นอน<O:p</O:p
    ท่านใดที่มีศรัทธาแรงกล้า อยากไปกราบพระสุปฏิปันโน ที่เส้นเกศาของท่านตกเป็นผลึกแก้ว และแข็งเป็นไยหิน เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต ก็ขอเชิญได้ที่วัดโดยตรง โทร.สอบถามเส้นทางไปวัดจากหมู่เอกได้ ทางวัดกำหนดให้เข้านมัสการหลวงพ่อได้ ในช่วงเวลาดังนี้<O:p</O:p
    ช่วงเช้า ลพ.ตื่นมาฉันข้าว ตอน ๐๗.๐๐ น. ฉันประมาณครึ่งชั่วโมง เข้าพบได้เวลาประมาณ ๐๗.๓๐ – ๐๘.๓๐ น. หลังจากนั้นท่านจำวัดครับ<O:p</O:p
    ช่วงเที่ยง ลพ.ตื่นมาฉันข้าว ตอน ๑๑.๐๐ น. ฉันประมาณครึ่งชั่วโมง เข้าพบได้เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ – ๑๓.๐๐ หลังจากนั้นท่านจำวัดครับ<O:p</O:p
    ช่วงเย็น ลพ.ตื่นมาสรงน้ำ ตอน ๑๖.๓๐ น. สรงน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง เข้าพบได้เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ – ๑๘.๓๐ น. หลังจากนั้นท่านจำวัดครับ<O:p</O:p
    เหตุที่หลวงพ่อต้องจำวัดบ่อย ๆ เนื่องจากท่านชราภาพมากแล้ว และท่านยังอาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อ จากไข้หวัด มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ หมอต้องเจาะคอของท่าน เพื่อสะดวกในการดูดเสมหะออก ท่านจึงพูดไม่ได้มากนัก และไม่สามารถรับรองผู้ที่จะเข้านมัสการได้ทั้งวันดังแต่ก่อน และท่านต้องไปพบหมอที่ ร.พ.วิชัยยุทธ เดือนละครั้ง ดังนั้น ก่อนไปหาท่านที่วัด โทร.ถามไปยังหมู่เอกก่อน ว่าท่านอยู่วัดหรือไม่ เพื่อประกันความผิดหวัง (ยังมีต่อ)<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010
  20. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก ปี ๒๕๔๐ เนื้ออัลปาก้า ปลุกเสกพิธีเดียวกันกับเหรียญรุ่นแรก

    สมาชิกท่านใดจะเช่าหาต้องระวังให้มาก ของปลอมทำได้ใกล้เคียงของจริงมาก ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...