สันติสุข-1 บทที่ 2: พระศรีอารย์ ความเชื่อ กับข้อเท็จจริงตามหลักฐาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย รุ่งศรีทอง, 28 เมษายน 2010.

  1. รุ่งศรีทอง

    รุ่งศรีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +231
    สันติสุข[FONT=&quot]-1 [/FONT]บทที่ [FONT=&quot]2 [/FONT]ในเรื่องความเชื่อ ความมีศรัทธาทางด้านจิตใจของบุคคลนั้นๆ เป็นเรื่องลึกลับ ทำไมคนนี้ คนนั้นถึงเชื่อแบบนี้แบบนั้น ทั้งๆที่ เรื่องที่บุคคลนั้น บุคคลนี้ได้ฟังมา อ่านมาก็เป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้นการเขียนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ความศรัทธาทางด้านจิตใจของบุคคล จึงเป็นเรื่องยากมากๆ อาจเขียนผิดเขียนถูก และท่านผู้อ่านควรเปิดใจอย่างเต็มที่ และคิดพิจารณาตามข้อเท็จจริง หรือตามหลักฐาน หรือความเป็นเหตุเป็นผลว่าควรเป็นอย่างไร จะเป็นไปได้ไหม มีประโยชน์อันใด มีโทษหรือไม่

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตรทรงตรัสสอนกาลามสูตรไว้ เป็นหลักในการปฏิบัติในเรื่องความเชื่อ ความมีศรัทธา ซึ่งทุกท่านสามารถค้นคว้าหาอ่านเพื่อทราบที่มาที่ไป และพิจารณาเนื้อความในเรื่องกาลามสูตรเอาเองได้ เมื่อสรุปเรื่องกาลามสูตรแล้วคือ ไม่ต้องเชื่อในเรื่องใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์หรือสมณะของเรา ยกเว้นแต่เรื่องนั้นๆเป็นกุศลธรรม ไม่เป็นโทษจึงนำมายึดถือปฏิบัติ

    สำหรับคนทางตะวันตก เขาไม่ทราบกาลามสูตรของพระผู้มีพระภาค แต่เขายึดหลักในการหาข้อเท็จจริง มีการพิสูจน์หาหลักฐานมาประกอบ จึงทำให้เขารุดหน้าทางวิทยาศาสตร์ มีการค้นคว้าวิชาการใหม่ๆ มีการพัฒนาต่อยอดจากงานเดิม คือไม่ยึดติดอยู่ในสิ่งเดิม ไม่ยึดติดในครูบาอาจารย์ แต่พยายามหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งก็เหมือนเขามีกาลามสูตรของพระพุทธองค์เป็นหลักปฏิบัติ แต่เมื่อพิจารณาถึงความเชื่อ ความศรัทธา ทางด้านจิตใจของชาวตะวันตก พวกเขาไม่น้อยก็ยังมีความเชื่อในพระเจ้าทั้งๆ ที่พิสูจน์กันไม่ได้ อาจเป็นเพราะการสอนให้เชื่อ ให้มีศรัทธา ให้ยึดมั่นในพระเจ้าสืบต่อเนื่องกันมาแต่โบราณกาล แต่สำหรับคนตะวันตกสมัยใหม่ในปัจจุบัน เขาก็เลิกเชื่อในเรื่องพระเจ้าแล้วโดยเห็นว่าหาข้อเท็จจริงไม่ได้ แต่บางคนก็กล่าวว่า เขาต้องมีที่ยึดเหนี่ยวถึงแม้ว่าพระเจ้าจะมีจริงหรือไม่ก็ตาม นี่ก็เป็นความเชื่อ ความศรัทธาของเขา <o></o>

    เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องความเชื่อ ความศรัทธา กับ ความเป็นจริง ขอนำเอาเรื่องใน พระ ไตรปิฎกเล่มที่ 7 วินัยปิฎกที่ 7 จุลวรรค ภาค 2 เกี่ยวกับพระนางมหาปชาบดีโคตรมี สรุปว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ [FONT=&quot]… [/FONT]ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นานสัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าเราได้ศึกษา เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสนี้ จะเห็นว่ามีเหตุผลเป็นจริงได้ สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้เช่น<o></o>

    โปรดพิจารณา เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการจารึก พระไตรปิฎก ในรัชกาลที่ ๑ (จากหนังสือพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา) … พระไตรปิฎกธรรมทุกวันนี้ ยังถูกต้องบริบูรณ์อยู่หรือพิรุธผิดเพี้ยนประการใด จึ่งสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะทั้งปวง พร้อมกันถวายพระพรว่า พระบาลีและ อรรถกถาฎีกาพระไตรปิฎกทุกวันนี้พิรุธมากมาช้านานแล้ว (อ้างอิง: พระไตรปิฎก และ พระไตรปิฎกฉบับประชาชน โดยคุณสุชีพ ปุญญานุภาพ)

    ที่ยกมาเป็นตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้ “สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้น” ตามข้างบนนั้นเป็นจริง คือพระไตรปิฎกที่เป็นหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่ง มีพิรุธตามข้อมูลในรัชการที่ ๑ ข้างบน

    และอีกเรื่องหนึ่งที่จะยกเป็นตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนคือปีของ พ.ศ. ไทยนั้นสามารถเอาหลักฐานต่างๆ มาประกอบพิจารณาหาข้อเท็จจริง และจะเห็นว่า พ.ศ. ไทย เร็วไปกว่าความเป็นจริงประมาณ 50 ปีจริง ฉะนั้นนี่เป็นข้อพิจารณาในเรื่องความเชื่อที่ตามกันมา มีผลตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วในกาลามสูตร แต่ใครจะเชื่ออย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขาทั้งหลาย <o></o>

    การเขียนเรื่องพระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) มาปรากฏในปัจจุบัน มิใช่จะให้เชื่อ แต่ขอให้พิจารณาตามหลักฐานหลายๆ หลักฐานที่คล้องจองกัน สนับสนุนกัน สำหรับที่เกี่ยวข้องในพระพุทธศาสนา ขอโปรดพิจารณาได้จาก “สันติสุข-3: พระศรีอารย์ ว่าด้วยหลักฐานตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าโคตม” อยู่ในช่อง พลังจิต > วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ แล้วท่านจะเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า พระจักรพรรดินั้นจะปรากฏในกึ่งพุทธกาล คือในปัจจุบันนี้ และจากข้อมูลที่สนับสนุนกัน อาจจะทำให้บางท่านมีศรัทธายิ่ง ในคำตรัสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระพุทธองค์ทรงหยั่งรู้ทั้งในอดีต ในเวลาที่พระองค์ทรงมีพระชนชีพ และในอนาคตจริง<o>

    </o> สำหรับการวิเคราะห์ว่า พระพุทธศาสนา ศาสนาอื่นๆ คำทำนายของผู้มีญาณทิพย์ท่านอื่นๆ เช่นนอสตราดามุส บ่งไว้แล้วนั้น ถ้าศึกษากันแล้ว จะเห็นว่ามีความเป็นจริงที่มีหลักฐาน มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ว่าพระจักรพรรดิจักปรากฏในปัจจุบัน และยังเป็นเครื่องชี้ เป็นเหตุผลเกี่ยวกับการผิดปกติของภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงไปของโลกในปัจจุบัน ที่นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังหาข้อตกลงกันอย่างแท้จริงไม่ได้ว่า เป็นเพราะเหตุใด

    ฉะนั้นเรื่องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีหลักฐานอ้างอิง ที่มีที่มาที่ไป มีเหตุมีผลเพียงพอ มีประโยชน์ ที่สามารถนำมากล่าวได้ แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่แต่ละบุคคล ว่าจะมีศรัทธาในผู้มีพระภาค มีความสนใจมากน้อย หรือไม่ เพียงไร[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

    จะขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบความเชื่อ ความศรัทธา กับการตรัสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าด้วยเรื่องปาฏิหาริย์ และเพื่อให้เข้าใจเรื่องนี้ง่ายขึ้น จะขอยกคำสอนของ โดย: พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)มาลงไว้ สำหรับผู้ที่ต้องการค้นคว้าในพระไตรปิฎกย่อมทำได้ [FONT=&quot]<o></o>

    [/FONT] พระพุทธเจ้าทรงตรัส ปาฏิหาริย์ มี ๓ อย่าง คือ

    ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการแสดงฤทธิ์ต่างๆ
    ๒. อาเทศนาปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการทายใจคนอื่นได้
    ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือคำสอนที่เป็นจริง สอนให้เห็นจริง และนำไปปฏิบัติได้ผลสมจริง[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

    ในบรรดาปาฏิหาริย์ ๓ อย่างนั้น พระพุทธเจ้าโคตมทรงรังเกียจ ไม่โปรด ไม่โปร่งพระทัยต่อ “อิทธิปาฏิหาริย์” ในข้อ ๑ และ “อาเทศนาปาฏิหาริย์” ในข้อ ๒ ข้างบน เพราะทรงเห็นโทษว่า คนที่เชื่อก็เห็นจริงตามไป ส่วนคนที่ไม่เชื่อได้ฟังแล้ว ก็หาช่องขัดแย้งคัดค้านเอาได้ <o></o>

    และพระพุทธองค์ทรงชี้แจงความหมาย และคุณค่าของ อนุสาสนีปาฏิหาริย์” ในข้อ ๓ ให้เห็นว่า เอามาใช้ปฏิบัติเป็นประโยชน์ ประจักษ์ได้ภายในตนเอง จนบรรลุถึงอาสวักขัย อันเป็นจุดหมายของพระพุทธศาสนา[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

    ในเรื่องความเชื่อ ความมีศรัทธาแล้ว ปาิฏิหารย์ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ผู้คนอีกมากยังยึดติดใน“อิทธิปาฏิหาริย์” และ “อาเทศนาปาฏิหาริย์” ตามข้างบน ถึงแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโตจมทรงตรัสแนะไว้แล้ว

    ดังนั้น การนำเรื่องพระจักรพรรดิจักมาช่วยนำประชาชนไทย สร้างสนติสุขที่แท้จริงขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนไทย มาลงให้ท่านได้อ่าน ขอได้โปรดพิจารณาถึงเหตุผล และขอได้โปรดอย่าเชื่อ แต่ท่านเองก็ควรศึกษา คิดว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ เป็นกุศลกรรมหรือไม่ เพียงไร เป็นโทษหรือไม่ โดยขอให้ยึดหลักกาลามสูตรเป็นเครื่องพิจารณา ถ้าเป็นสิ่งดี ไม่เป็นโทษ ก็โปรดช่วยเผยแพร่เรื่องนี้เพื่อตอบแทนคุณของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบรรพบุรุษไทย อันนำมาสู่การสร้างกุศลเกิดผลบุญแก่ตัวท่านเอง

    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]<o></o><o></o><o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2010
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ขออนุโมทนาท่าน"รุ่งศรีทอง"
    สำหรับกระทู้ที่น่าสนใจดี

    ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้น
    วสุธรรม
    www.3romphosri.com
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    อย่าเชื่อแบบขาดปัญญา
    เพราะมันเป็นความจริงที่อยากให้โลกเรานี้เป็นที่อยู่ของคนดีบริสุทธิ์สะอาดมาอยู่รวมกัน


    อย่างที่กล่าว ตอนี้ พระพุทธะสูงสามวา
    มารสูงหนึ่งศอก เอาใจช่วย เวลาใกล้เข้ามาแล้ว

    อย่างท่านพุทธทาส ยูเนสโกประกาศยกย่อง พุทธทาสภิกขุ เป็นบุคคลสำคัญของโลก

    ท่านได้แสดงไว้ว่า โลกพระศรีอาริย์ อยู่แค่ปลายจมูกปรากฏไม่ชัด จมูกเรามองเห็นยังพอรางๆ ท่านยังเปรียบอีกว่า พระนิพพาน เหมือนหน้าผาก

    เพราะเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น มีใครมองเห็นหน้าผากตัวเองบ้าง
    ถ้าไม่ส่องเงาไม่มีทางเห็น


    ข้อความข้างล่างนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเองSriaraya5.
    คนเราก็เช่นกัน มักจะมองไม่เห็นกิเลสตัวเอง
    ต้องอาศัยคนอื่นเป็นกระจกส่องเงาตนเองจึงพอจะ
    มีทางข้ามจากความหลงตัวเองไปได้

    แต่ผู้มีปัญญา เค้าส่องดูกิเลสตนเอง
    จะไม่ไปเสียเวลาส่องจิตดูใคร ถ้ายังคุมจิตตนเองไม่ได้

    ดังที่ท่านเว่ยหล่างแห่งนิกายเซนกล่าวว่า "คนหลงสวดภาวนาถึงพระอมิตาภะปรารถนาไปอุบัติยังสุขาวดี" แต่บัณฑิตพึงชำระจิตของตนให้สะอาด

    ทิ้งรูปกาย วิมุติล้ำ เป็นอมตะ
    บวชอยู่บ้านอย่างผู้บำเพ็ญ อาศัยร่าง ตัวสมมติ
    บำเพ็ญเพียร ใครตื่นก่อนฉุดช่วยคนหลังที่ตามมา

    ช่วยหนึ่งได้บรรลุหนึ่ง ได้ความคุ้มครองจากพระ เจ็ดชั้นเก้าชั่วคนปลูกต้นธรรม สร้างบุญกุศลจากภาวนากัน
    เป็นโอกาส กึ่งบวช กึ่งยังครองเรือน ผ่านก้าวได้ง่ายและยังใกล้ต่อพระนิพพาน นี้แหละเป็นทางพ้นทุกข์ที่แท้จริงอีกทางหนึ่งถ้าไม่ประสงค์ออกบวช

    บวชอยู่บ้านอย่างผู้บำเพ็ญ อาศัยร่าง ตัวสมมติ
    บำเพ็ญเพียร ทิ้งรูปกาย วิมุติล้ำ เป็นอมตะ
    ไม่มีเกิดไม่มีตาย
     
  4. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    พักอ่านเรื่องขำๆก่อนนะจ๊ะ พี่น้องเอ๋ย

    ตามลิงค์นี้เลยจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    พระศรีอริยะเมตไตรยปรากฏตัวแล้วจริงหรือ ผู้แอบอ้างเป็นพระศรีฯคือคุณ "rawiphan"



    สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ ผู้ใช้ username rawiphan และ sriaraya5 เป็นคนๆเดียวกันนะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    อืมครับ รอพระชาติสุดท้ายของพระองค์อยู่
    อยากได้ยลกายมหาบุรุษให้เป็นบุญตา...

    1ปี วัดกันที่1รอบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์
    ถ้าในอนาคตแรงเหวี่ยงของดาวรอบๆดวงอาทิตย์เร็วขึ้นละครับ
    และถ้าโลกดันหมุนรอบตัวเองเท่าเดิม ดูครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น
    กฏแห่งแสงจะเปลี่ยนใช้มั้ยครับ เป็นไปได้ที่จะยืดชีวิตมนุษย์ขึ้นมากโข
    แต่ก้หลายๆเหตุปัจจัยล่ะครับ ... สาธุ
     
  6. ree2553

    ree2553 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    คิดอะไรกันหนักหนา แค่โลกเกิดยังไงยังมืดเลย แล้วอนาคตยังไม่เกิดจะรู้ยังไง
    ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ อะไรจะเกิดมันก็จะเกิดเอง
     
  7. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    หาข้อมูลใหม่
     
  8. do re mi

    do re mi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +183
    ขออนุโมทนา สาธุ คุณรุ่งศรีทอง เราศึกษาในเวบที่คุณแนะและเห็นดีด้วย พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เป็นธรรมอันดี พวกเราไม่หวังน้ำบ่อหน้า แต่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนกันไปจากเวลานี้ด้วยความไม่ประมาท ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งดีจะมีคุณค่าโดยเฉพาะขณะที่บ้านเมืองไม่สงบ พวกเราจะมีความหมั่นเพียรกระทำความดีมีคุณธรรม ช่วยกันให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม นับว่าจะเป็นบุญมีกุศลแก่ตน
    แม้พระพุทธองค์ทรงมีญาณหยั่งรู้อนาคตได้ก็จริง แต่เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงตรัสถึงอนาคตกาลแม้เป็นพุทธทำนายก็ดีมีเหตุมีผล มีที่มามีที่ไป และความจริงนั้นยังมีอยู่มาสู่ปัจจุบัน ที่ชี้แนะถึงสิ่งดีที่มีโอกาสเป็นจริงได้<o></o>
    <o></o>
    พวกเรามีศรัทธาในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคดม จะยึดมั่นในกาลามสูตรของพระพุทธองค์ไว้เป็นภูมิคุ้มกันตน
     
  9. รุ่งศรีทอง

    รุ่งศรีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +231
    ยินดีรับฟังข้อคิดเห็น โปรดช่วยกันแนะหรือสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ ชาติ ศาสนา
    พระมหากาัตริย์ และประชาชนไทย ขอขอบคุณ รุ่งศรีทอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...