การทำให้จิตฮึกเหิม ในการปฎิบัติ ธรรม ควรทำไงครับ

:'(เมื่อก่อน เริ่มปฏิบัติ ก็ดีครับ เเต่เดี่ยวนี้ รู้สึใช้อารมณ์ เเทน สติ

เเต่ไม่ถึง ห่างเหิน มากเกินไปครั้ง บางครั้ง ก็มีสติมาเตือนไว้

วอนผู้รู้ ช่วยตอบด้วย ครับ
ว่าจะทำไงให้ ฮึกเหิมต่อไปครับ

 

ใช้อารมณ์พิจารณาก่อนการปฏิบัติครับ....

เช่น พิจารณาตามหลักไตรลักษณ์.....ทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป.....

หรือ...ตามหลักธาตุ ๔ ดินน้ำลมไฟ....ร่างกายเรา ร่างกายเขา สัตว์ทั้งหลายทั่วโลก....

หรือ อสุภะกรรมฐาน.....ซากศพ....ตายหนึ่งวัน...สองวัน...สามวัน...ว่าไป.....กายเรา....กายเขา....ทุกชีวิต...คนสัตว์ทั่วโลก....

หรือ พิจารณาในกายานุสติกรรมฐาน เช่นร่างกายประกอบด้วย....ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น....

ทุกอย่างไม่ใช่เรา.....ไม่ใช่ของเรา.....ไม่มีในเรา....เราไม่มีในสิ่งเหล่านั้น.....ไม่ควรยึดมั่น...ถือมั่น.....อย่างนี้เป็นต้น.......แล้วก็ปฏิบัติต่อไป......ไปลองดูนะ.....

จิตนี้ต้องรู้จักวิธีการฝึกให้เหมาะสม.....นะ....

 

นึกถึงเป้าหมายของเราไว้ครับ

หาอ่านประสบการณ์ของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ในบอร์ดนี่ก็ได้กำลังใจเยอะนะครับ

 

ขอบคุณครับ

 

แนะนำให้เจ้าของกระทู้ สวดมนต์ให้กับเทวดาที่รักษาตัวท่านด้วยนะครับ
หรือแผ่ส่วนกุศลไปให้เขามากๆ เช่นเดียวกัน
ก็สวดมนต์ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่คอยขัดขวางสิ่งที่ดีกับท่าน
แล้วก็อย่าลืมแผ่ส่วนกุศลไปให้เขามากๆด้วยนะครับ

 

ฮึกเหิม มันก็ต้องมี กำลังใจ สิ กำลังใจ ก็ต้องมี ศรัทธากับ เรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ทำสมาธิ ให้ดี ให้เบิกบานให้เป็น แล้วจะมีกำลัง เมื่อจิตสงบแล้ว อารมณ์ท้อแท้ จะไม่ปรากฎ

จะมีแต่กำลัง หรือ เรียกว่า พละ 5

 

วางกำลังใจไว้ว่า ทุกครั้งที่บริกรรม หรือมีสติไม่ตกอยู่ภายใต้อกุศลธรรม
ขอถวายเป็นพุทธบูชา ถวายแด่คุณความดีเมตตาไม่มีประมาณแห่งพระพุทธองค์ มีจิตใจที่เปี่ยมสุข

ทุกครั้งที่หายใจ ทุกครั้งที่บริกรรม ทุกครั้งที่เห็นความทุกข์ ขอถวายเป็นพุทธบูชาความดีแห่งพระพุทธองค์
ตื่นเช้ามากราบพระอธิษฐานตั้งกำลังใจไว้แบบนี้ ช่วยเพิ่มกำลังใจได้ดี

เพิ่มศัรทธาให้มากยิ่งขึ้น เสริมความขยันในการทำความดี เพิ่มสติในการครองรักษาตน มีสมาธิตั้งมั่นในกุศล ยังปัญญาให้แจ่มแจ้ง