ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพาอากาศประจำวันที่ 5 เมษายน 2553

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดเลยขอนแก่น และสุรินทร์
อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคตะวันออก
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศา
และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"คาร์บอมบ์"บึ้มสนั่น"โพไซดอน" ใช้ทีเอ็นทีหนัก10ปอนด์ รถเละทั้งคันเจ็บ1 ปาเอ็ม67 ทีวีเอ็นบีทีซ้ำอีก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบเนื้อหาข่าวอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>คาร์บอมบ์ในลานจอดรถ"โพไซดอน" สถานบริการอาบ อบ นวดชื่อดังย่านรัชดาภิเษก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ตำรวจระบุเป็นระเบิดทีเอ็นที หนัก 10 ปอนด์ ปาระเบิดใส่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นครั้งที่ 2 แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ เที่ยงคืน วันที่ 5 เม.ย. ได้รับแจ้ง เหตุรถยนต์โตโยต้า โคโรน่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กอ 7048 เชียงใหม่ เสียหายยับเยิน จากเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถด้านข้างสถานบริการอาบ อบ นวด โพไซดอน ถนนรัชดาภิเษก แรงระเบิดยังส่งผลให้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน พศ 2602 กรุงเทพมหานคร กระจกด้านซ้ายทั้ง 2 บานแตกเสียหาย รวมทั้งกระจกของอาคารสถานบริการ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายคงเดช นำระนะ อายุ 49 ปี พนักงานรับรถของสถานบริการดังกล่าว ถูกสะเก็ดระเบิดที่ท้อง นำส่งโรงพยาบาลพระราม 9

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า

ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. เห็นผู้ชายคนหนึ่งขับรถคันดังกล่าวเข้ามาที่ลานจอดรถ นั่งอยู่ในรถ 10 นาที ก่อนเดินออกจากรถหายไปทางด้านหน้าร้าน หลังจากนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนก็มีเสียงระเบิดเกิดขึ้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ระบุเป็นคาร์บอมบ์ เนื่องจากตรวจสอบไม่พบว่ารถมีการติดตั้งแก๊ส ส่วนสาเหตุคาดเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือเรื่องส่วนตัว เตรียมประสานตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของสถานบริการดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ รวมทั้งเตรียมเชิญเจ้าของรถคาร์บอมบ์ที่แท้จริงมาให้ปากคำต่อไป

พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดรถยนต์บริเวณลานจอดรถข้างสถานบริการอาบ อบ นวด โพไซดอน ถนนรัชดาภิเษก จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดเป็นระเบิดทีเอ็นที น้ำหนักประมาณ 5-10 ปอนด์ เนื่องจากแรงของระเบิดทำให้รถเสียหายยับเยิน โดยระเบิดถูกวางไว้ในรถบริเวณที่พักเท้า เบาะหน้าด้านซ้าย เนื่องจากพบเขม่าดินปืนติดอยู่ที่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ได้เบาะแสคนร้ายที่ขับรถคันดังกล่าวเป็นชายรูปร่างสันทัด ผมสั้น ผิวคล้ำ สวมแจ็กเกตสีดำ กางเกงขาสั้น

อย่างไรก็ตาม เตรียมประสานตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อตรวจสอบหาเบาะแสเจ้าของรถที่แท้จริง เนื่องจากรถคันดังกล่าวได้จดทะเบียนไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่ และไม่มีการปลอมแปลงทะเบียน สำหรับสาเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการสร้างสถานการณ์ ผลประโยชน์ทางธุรกิจ และเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ เหตุคาร์บอมบ์ในลักษณะดังกล่าวคล้ายกับเหตุคาร์บอมบ์เมื่อ 9 ปีก่อนที่ สน.สุทธิสาร

ขณะที่ เวลาประมาณ 00.00 น. วันที่ 5 เม.ย. วันเดียวกัน ร.ต.ท.เฉลิมชัย ประสิทธิ์กุลไพศาล พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่สถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเอ็นบีที รุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนวัฒน์ ผกก.สน.สุทธิสาร โดยระเบิดไปตกที่คูน้ำด้านนอกรั้ว ในที่เกิดเหตุพบกระเดื่องตกอยู่ ตรวจสอบพบเป็นกระเดื่องของระเบิดชนิดขว้าง เอ็ม 67 ห่างจากประตูทางเข้าประมาณ 3 เมตรตกอยู่ สะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เก้าอี้นั่งสีขาวพัง ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัย

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารสนธิกำลังรักษาการณ์อยู่บริเวณประตูทางเข้าเห็นคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่จยย.ผ่านมาด้วยความเร็วก่อนจะปาระเบิดเข้าใส่


ทั้งนี้ บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว และบริเวณใกล้เคียงไม่มีกล้องวงจรปิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ และผู้ลงมือเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับเหตุระเบิดหน้าเอ็นบีทีครั้งก่อน เนื่องจากใช้ระเบิดชนิดเดียวกัน

[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกออบจาก อุตุนิยมวิทยา

เมื่อเวลา 06.43 น. วันนี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.5 ริคเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ ต.ดอยฮาง อ.เมือง เชียงราย เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม การเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวรู้สึกสั่นสะเทือนที่ค่อนข้างรุนแรงในตัว อ.เมือง จ.เชียงราย โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เผย เกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวมีขนาด 3.5 ริคเตอร์ มีศูนย์กลางที่ ต.ดอยฮาง อ.เมือง เชียงราย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือนจำกลางเชียงราย ละติจูด 19 องศา 54 ลิบเตอร์เหนือ ลองติจูดที่ 99 องศา 48 ลิบเตอร์ตะวันออก และเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย

ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการสรุปความเสียหายในพื้นที่ว่ามีอาคารสูง ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นไหวครั้งนี้หรือไม่ รวมไปถึงมีการตรวจตามพื้นที่โบราณสถาน ในพื้นที่อำเภอเชียงแสน ว่า เกิดปัญหาใดหรือไม่ ขณะที่ประชาชนในพื้นที่รู้สึกได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะพื้นราบและอาคาร ตั้งแต่ 2 ชั้น ขึ้นไป




ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/47564

 

เรื่อง ยังไงก็ไม่รอด

นะเวลา03.00น วันนี้ โครม! เสียงปิดประตูบ้าน โครม!!! เสียงเปิดปิดประตูห้องนอนแต่ดังกว่าโครมแรกมาก10เท่า (ไอ)คุณแก่ไปไหนมา อ่าวแล้วรถไปไหน รถพังแล้วโดนสะเก็ดระเบิด หา!!! แล้วพี่เป็นไงบ้าง (สีหน้าแตกตื่นเต็มที่) โชคดีนะสิพี่ไม่เป็นไร รอดมาได้ แล้วพี่ไปขับแถวไหนโดนระเบิดมา ท่านพี่ก็อึ้งไปประมาณ5นาทีแทบอยากจะวิ่งกลับออกไปหน้าบ้านใหม่ แต่ก็ต้องตอบเสียงสั่นครอว่า โพซายยยยดอนนนนน
รอดยาก

นิทานเรื่องนีสอนให้รู้ว่าทำอะไรใช้ว่าจะไม่มีใครรู้ตลอดกาล

 

ยังไม่สรุปคาร์บอมโพไซดอนโยงการเมืองหรือไม่​

​

ศอ.รส.เร่งตำรวจทำความกระจ่างเหตุระเบิดทุกคดี ส่วนคดีคาร์บอมโพไซดอน ยังไม่สรุปมีความเชื่อมโยงการเมืองหรือไม่ ...

พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอรมน.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงผลการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) รอบเช้าซึ่งมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่สถานีโทรทัศน์ NBT สถานบริการโพไซดอนเมื่อคืนวานนี้ (4 เม.ย.2553)

นายสุเทพ ได้กำชับทางตำรวจ ให้เร่งคลี่คลายคดีระเบิดทุกคดี เพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบความคืบหน้าและทราบว่าฝ่ายรัฐดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง “กรณีโพไซดอน ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีสาเหตุจากความขัดแย้งทางธุรกิจหรือการเมือง อย่างไรก็ตาม สถานที่ดังกล่าวถือว่าอยู่นอกพื้นที่ที่เป็นสัญญลักษณ์ทางการเมือง ขณะนี้จึงมองได้หลายทาง และต้องตรวจสอบต่อไป” โฆษก กอ.รมน. กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายสุเทพ เร่งรัดให้ทางตำรวจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณี แม้ว่ากรณีโพไซดอน จะถือเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวกับการเมือง แต่คดีใดที่เกี่ยวข้องกับระเบิด ขอให้เร่งดำเนินการ ขณะเดียวกันให้เพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังพื้นที่ล่อแหลมทั้งเรื่องการเพิ่มแสงส่องสว่างและกล้อง CCTV ที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกำชับให้ตำรวจที่เข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยย้ำให้พูดตรงกันว่า มาตรการต่าง ๆที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ไม่ใช่เพื่อจะเข้าสลายการชุมนุม แต่พื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่มีความสำคัญ ผู้ประกอบธุรกิจที่บริเวณดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง จึงไม่ควรได้รับผลกระทบไปด้วย อีกทั้งการเข้ายึดพื้นที่อื่นเพิ่มขึ้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.5 ริคเตอร์ที่เชียงราย ​

​

 

เม็กซิโก-แผ่นดินไหว 7.2 ริคเตอร์ที่เมืองบาฮามา​

​

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.2 ริคเตอร์ ที่เมืองบาฮา แคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของเม็กซิโก แรงสั่นสะเทือนรับรู้ความรู้สึกได้ไกล ถึงรัฐอริโซนา และทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐฯ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน เกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาหลายครั้ง

แผ่นดินไหวดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ มีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดิน 26 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเม็กซิคาลิ ราว 47 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าของรัฐบาฮา แคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีชายแดนติดกับสหรัฐ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 ริคเตอร์ ส่งผลให้อาคารจอดรถในเมืองเม็กซิคาลิ พังถล่มลงมา

ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และอาคารทั้งของรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย แต่ไม่รุนแรง ขณะที่ประชาชนกว่า 900,000 คน ที่อยู่บริเวณพรมแดนทั้งเม็กซิโกและสหรัฐฯ ต้องอยู่โดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึง รัฐอริโซนา ,เมืองซานดิเอโก้ โดยเฉพาะที่ซานตา บาบารา ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีรายงานอาคารสูงหลายแห่งสั่นไหว

นอกจากนี้ ประชาชนหลายร้อยคนที่กำลังสนุกอยู่บนชายหาดในเมืองทีฮัวน่า ต่างหนีตายออกจากชายหาด เนื่องจากกลัวจะเกิดคลื่นสึนามิ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญสึนามิ รายงานอย่างรวดเร็วว่า ไม่เกิดคลื่นสึนามิตลอดชายฝั่งตะวันตก ทำให้เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ประชาชนก็กลับมาอยู่ชายหาดเหมือนเดิม

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ศูนย์ธรณีวิทยาสหรัฐฯ เผยว่าเกิดแรงสั่นสะเทือนตามมาอย่างรุนแรงถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งรุนแรงที่สุดวัดได้ 5.1 ริคเตอร์ เกิดขึ้นในทะเลทรายเขตอิมพิเรียล ทางตะวันออกของซาน ดิเอโก้

นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ เกือบ 18 ปี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.3 ริคเตอร์ ที่เมืองแลนเดอร์ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 1992

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

เลขายูเอ็นฯสลด 'ทะเลอารัล' แห้งขอด​

นายบัน กี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น)​

เลขาธิการสหประชาชาติ สำรวจพื้นที่ 5 ประเทศในเอเชียกลางโดยเฮลิคอปเตอร์ พบผืนทะเลอารัล ที่เคยกว้างใหญ่ อันดับ 4 ของโลกแห้งขอดกลายเป็นทะเลทราย เรียกร้องให้ผู้นำแต่ละประเทศเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน...

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายบัน กี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นั่งเฮลิคอปเตอร์ลงสำรวจพื้นที่เมื่อ 4 เม.ย. ตามภารกิจเยือน 5 ประเทศในเอเชียกลาง อดีตสหภาพโซเวียต เป็นเวลา 6 วัน แล้วร่อนลงจอดที่เมืองมูย์นัค แคว้นคารากัลปัก ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่ติดริมฝั่งทะเลอารัล ที่เคยกว้างใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก แต่เหือดแห้งส้ินสภาพกลายเป็นผืนดินทะเลทราย กระแสลมพัดปลิวฝุ่นทรายไปไกลถึงประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย และ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ นายบัน กี-มุน เผยว่า เป็นหายนภัยทางธรรมชาติ ที่สะเทือนใจที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนโลกนี้ พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำในเอเชียกลาง ทั้ง 5 ประเทศ หาวิธีแก้ปัญหาโดยด่วน และให้คำมั่นว่ายูเอ็นจะส่งเสริมสนับสนุนเต็มที่

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อุซเบกิสถาน เปรยว่า การสร้างเขื่อนหลายโครงการในทาจิกิสถานจะทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าประเทศอุซเบกิสถานลดลงอย่างฮวบฮาบ เพราะรัฐบาลทาจิกิสถานมองว่าโครงการเขื่อนพลังน้ำจะสร้างรายได้เป็นกอบกำให้กับประเทศ

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2553

คาร์บอมบ์ถล่มอิรัก 3 ระลอก ตายหลายสิบ-เจ็บร้อยกว่าคน​

​

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และพลเรือนอย่างน้อย 31 ราย เสียชีวิตจากเหตุคาร์บอมบ์ 3 ระลอกติดต่อกันในกรุงแบกแดดของอิรัก บริเวณที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติหลายประเทศ...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 4 เม.ย. ว่า เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ 3 ครั้ง เกือบจะติดกันในกรุงแบกแดดของอิรัก จุดแรกเกิดใกล้สถานทูตอิหร่าน ส่วนอีก 2 จุด เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติหลายประเทศ รวมทั้งอียิปต์และเยอรมนี ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย พลเรือนเสียชีวิตด้วยอย่างน้อย 31 คน และยังมีผู้บาดเจ็บ 185 คน

ด้านโฆษกกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของอิรัก ระบุว่า คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้น ล็อคเป้าถล่มสถานทูตอียิปต์และอิหร่าน แต่ทั้งสองประเทศ ระบุไม่มีเจ้าหน้าที่สถานทูตของตน สังเวยชีวิตในเหตุโจมตีดังกล่าว

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2553

9 คนงานจีนรอดปาฏิหาริย์ เหมืองถล่มเกือบ 10 วัน​

​

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนพบผู้รอดชีวิตปาฏิหาริย์ 9 คน ติดอยู่ชั้นใต้ดินนาน 179 ชั่วโมง จากเหตุเหมืองถล่มน้ำท่วมทะลัก...

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ช่วงเที่ยงคืนเข้าสู่วันใหม่ที่ 5 เม.ย. หน่วยกู้ภัยชาวจีนช่วยกันดึงร่างเหยื่อที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ 9 คน จากอุบัติเหตุเหมืองถล่มน้ำท่วมทะลัก ที่เหมืองหวังเจียหลิง ตอนเหนือของจีน ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. หลังติดอยู่ข้างในร่วม 179 ชั่วโมง

โดยทั้งหมดอยู่ในอาการปกติ รู้สึกตัวดีมีสติจำชื่อตัวเองและบ้านได้ จากนั้นก็นำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองเหอจิน ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความดีใจที่เห็นผู้รอดชีวิตเป็นคนแรก

การช่วยเหลือดังกล่าว เกิดขึ้นหลังหน่วยกู้ภัยเห็นแสงไฟเล็ดลอดออกมาจากชั้นใต้ดิน จึงคิดว่ามีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่จากจำนวนคนงานที่ติดค้างร่วม 153 คน และยังคงปั้มน้ำออกจากถ้ำเหมืองต่อไปจนระดับน้ำลดลง

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2553

ปลาคาร์ฟโหด กระโดดกัดนักล่า หวิดเสียโฉม​

​

​

ภาพโดย เดลี่ เมล (www.dailymail.co.uk)​

โจดี บาร์นส์ นักล่าปลาคาร์ฟสาวในแม่น้ำอิลลินอยส์ เกือบเสียโฉม เมื่อปลาคาร์ฟที่เธอตั้งใจใจจะไปล่า พุ่งกระโจนจากน้ำเข้ามากัดบริเวณหน้าของเธอ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 มี.ค. เหตุการณ์ประหลาดนี้เกิดขึึ้นที่อ่างเก็บน้ำในแม่น้ำอิลลินอยส์ ซึ่งประชากรของปลาคาร์ฟเอเชียเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดกีฬาล่าปลาคาร์ฟด้วยธนู เนื่องจากปลาชนิดนี้มีนิสัยชอบกระโดดขึ้นมาเหนือน้ำเวลาเรือเข้ามาใกล้

แต่สำหรับ โจดี บาร์นส์ คู่หมั้นของ คริส แบรคเก็ตต์ แล้วมันเป็นคนละเรื่อง เพราะในขณะที่เธอกำลังง้างคันศรเพื่อเล็งเหยื่อนั้น ได้มีปลาคาร์ฟตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาจากน้ำและพุ่งกัดหน้าของเธอ จนลูกเรือต้องรีบเข้ามาช่วย

ทั้งนี้ไม่มีรายงานถึงชะตากรรมของเจ้าปลาคาร์ฟแสนดุตัวนี้ ว่าจบลงเช่นไร หลังจากที่ก่อวีรกรรมใส่นักล่าสาวจนเกือบเสียโฉม

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดแผ่นดินไหวที่ต้าถง 4.5 ริกเตอร์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 เมษายน 2553 14:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

กราฟฟิกแสดงจุดเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมืองต้าถง มณฑลซันซี​

ไชน่า นิวส์--เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่อำเภอหยางกาว เมืองต้าถงในมณฑลซันซี ขนาด 4.5 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 21.46 น. ของเวลาท้องถิ่น โดยบางพื้นที่ในมณฑลเหอเป่ย รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน​

ทั้งนี้ ต้าถงเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวดังที่ตั้งของ ถ้ำพุทธศิลป์หยุนกัง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนรรม ปี 2544​

สื่อท้องถิ่นรายงาน ประชาชนทั่วไปในเหอเป่ย ซึ่งมีพื้นที่ติดกับเทียนจิน และปักกิ่ง รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอ่อน ขณะที่ประชาชนในเขตเขื่อนในอำเภอซังอี้ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างแรง และได้ยินเสียง ประชาชนต่างวิ่งออกมานอกบ้านหลังแผ่นดินไหวสงบลง การสื่อสารได้ขาดหายไป​

ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000047035​

พุทธศิลป์ที่ถ้ำหยุนกัง​

​

​

​

 

เริ่มแผ่นดินไหวรุนแรงกันอีกระลอกครับ

สำหรับแนวเลื่อนแคลิฟฟอร์เนีย ค่อนข้างอ่อนไหวมาก มีโอกาสที่เพลทจะสไลด์ลงมหาสมุทรได้

พี่น้องคนไทยที่นั่น ระมัดระวังฟังข่าวสารกันเอาไว้ด้วยครับ อย่าได้ประมาท

 

อันนี้ผมลองคิดเล่นๆ ดูครับ ไม่มีทฤษฏี หรือ เอามาจากใครครับ

ผมมองเรื่องแผ่นดินไหว แต่ละที่ รู้สึกสอดคล้องกันบางเรื่องอยู่

อย่างตะก่อน ไหวแถวๆ ชิลี โซนอเมริกา ถ้าดูฝั่งตรงข้าม ก็คือเอเซีย จะไหว แถว ญี่ปุ่น และไต้หวัน ลงมา (ตามเส้นสีแดง)

ส่วนตอนนี้ เริ่มไหวแถว แคลิฟอร์เนีย ถ้าดูฝั่งตรงข้ามเช่นกัน ก็จะไหวแถวๆ ฟิลิปปินส์ลงมา ไปทางประเทศไทยด้วย (เส้นสีน้ำเงิน

มองแล้ว เหมือน "ไม้กระดก" ที่กระดก กันอยู่เลยครับ

 

นักวิทย์ชี้ ไทยเจออากาศ ร้อนสุดๆ 60 วัน

นักวิทย์ชี้ ไทยเจออากาศ ร้อนสุดๆ 60 วัน


ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย กล่าวภายในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง ผลกระทบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อประเทศไทย ว่า สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 20 -30 ปีข้างหน้า และจะค่อยๆ รุนแรงขึ้น เห็นได้จากอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะบริเวณทะเลอันดามันจะสูงกว่าอ่าวไทย เนื่องจากการเปลี่ยน แปลงของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และปริมาณฝนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยบริเวณชายฝั่งทะเลจะเกิดฝนตกถี่ขึ้น

เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นการเกิดโรคระบาดอาจเพิ่มขึ้น และจากการศึกษาแบบจำลองสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในอีก 30 -80 ปีข้างหน้า พบว่า จำนวนวันร้อนที่สูงกว่า 33 องศาเซลเซียสจะมีมากขึ้นประมาณ 30-60 วันต่อปีจากปกติ 20 วันต่อปี ทั้งนี้ จังหวัดที่มีวันร้อนมากที่สุด คือ อุทัยธานี เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ในหุบเขา รองลงมาคือ นครสวรรค์

ส่วนจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมากนัก คือ ขอนแก่น สกลนคร และชัยนาท สำหรับจำนวนวันเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสจะมี ประมาณ 30-40 วันต่อปีจากเดิมประมาณ 20-30 วันต่อปีเท่านั้น โดยจังหวัดที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันตกจะมีจำนวนวันเย็นมากที่สุด

“ประเทศไทยควรหามาตรการรับมือ กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควรศึกษาสภาพความสมบูรณ์ของป่าไม้ การนำพืชไปปลูกให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งต้องมีการจัดหาแหล่งน้ำ การดูแลสุขภาพและสาธารณสุขของประชาชน โดยเฉพาะการจัดการโรคและพาหะของโรคที่เกิดจากโลกร้อน” ดร.อานนท์ กล่าว​

 

​

ตะลึง! ทะเลเหือด
ภาพตีพิมพ์ "ทะเลอารัล" ที่สูญสิ้นไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงซากประมงถูกทิ้งไว้กลางผืนทรายแห้งแล้ง ไม่เห็นน้ำสักหยดในปี 1990 จาก An Inconvenient Truth ซึ่งเขียนขึ้นโดย อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผู้ผันตัวมาเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเต็มตัว สะท้อนความเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ที่โลกต้องตะลึง
อัล กอร์ บอกไว้ว่า กรณีทะเลอารัลบอกเล่าเรื่องราวง่ายๆ ที่ว่าการไม่คำนึงถึงธรรมชาติอาจก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง
ตัวอย่างเรื่องการพัฒนาระบบชลประทานอาจก่อผลกระทบที่เราคาดไม่ถึง เมื่อมนุษย์มีอำนาจพอที่จะปรับเปลี่ยนสภาพแม่น้ำได้ จากการที่มนุษย์ผันน้ำมาใช้มากเกินไป โดยไม่ใส่ใจธรรมชาติ ส่งผลให้แม่น้ำบางสายไม่สามารถไหลลงสู่ทะเลได้อีกต่อไป
เป็นกรณีเดียวกันกับที่สหภาพโซเวียต ผันน้ำของแม่น้ำใหญ่สองสายจากเอเชียกลาง ได้แก่ แม่น้ำอมูดาร์ยา และไซร์ดาร์ยา ที่เคยหล่อเลี้ยงทะเลอารัล นำไปใช้ในการชลประทานไร่ฝ้าย ที่สุดทะเลอารัลก็เหือดแห้ง เหลือเป็นเพียงอนุสรณ์สถานแก่โลกปัจจุบัน
ยืนยันได้ว่าแม้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะมีคุณูปการมากมายต่อมนุษย์ แต่ก็สร้างผลกระทบมหันต์เช่นกัน และเป็นมหันตภัยที่มาจากภาวะ "โลกร้อน" ที่คุกคามโลกมนุษย์ในขณะนี้
หลายคนอาจรู้สึกว่า มนุษย์ตัวจ้อยๆ คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือมีแรงหมุนโลกไปในทิศทางใหม่ได้ แต่ที่จริงแล้ว ทุกคนสามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลให้แก่ "โลก" ใบนี้ได้ ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึง อาทิ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดงาน, เดินหรือปั่นจักรยานแทนการใช้รถ, ไม่เสียบปลั๊กไฟฟ้าค้างไว้,ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย, ลดการเดินทางทางอากาศ, ลดการทิ้งขยะ, ...
เริ่มทำนับแต่บัดนี้ จากตัวเรา และขยายไปสู่คนรอบข้าง หยุด "โลกร้อน" ไปด้วยกัน
​

 

​

ไทยมีเอี่ยวทำโลกร้อน ติดอันดับ 9 โลกปล่อยก๊าซสูงสุด
รศ.ดร.สิรินทรเทพ เต้าประยูร ประธานสายสิ่งแวดล้อม บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) กล่าวว่า ประเทศไทยติดอันดับ 9 ของโลก ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน ข้อมูลการวิจัยเมื่อปี 2543 ระบุว่า คนไทย 1 คนปล่อยก๊าซโลกร้อนมากถึงปีละ 2.18 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.8% เมื่อเทียบกับประชากรทั่วโลก
ขณะที่คนญี่ปุ่นปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 9.41 ตันต่อคน ส่วนยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ มีส่วนในการสร้างภาวะโลกร้อนคนละ 19.68 ตันต่อปี หากเมื่อพิจารณาตามภาคอุตสาหกรรมสำคัญ พบว่าก๊าซโลกร้อนมาจากกิจกรรมของภาคการผลิตไฟฟ้า 43% ภาคการขนส่ง 32% และภาคอุตสาหกรรม 25%​

 

======================================

5 เม.ย. 53


ฐานผาแบ่น

ความตั้งใจ--------รับคนไว้--------ที่หนึ่งพัน
เป็นเพราะผัง------ไม่อำนวย-------ช่วยเหลือคน
ต้องปรับลด-------จำนวนคน------ไม่ให้ล้น
เพื่อให้คน---------เข้าอาศัย-------สบายตัว

มาวันนี้---------ได้กำหนด-------ผู้อาศัย
ให้เหลือไว้------สักสามร้อย------ค่อยผสม
ถ้าหากว่า-------พื้นที่ว่าง--------ก็เพิ่มคน
เป็นกุศล--------นำผู้คน---------พ้นภัยพาล

ทั้งคนนอก---------คนข้างใน-------ได้ร่วมร้อย
เหลือสองร้อย------ให้จับจอง-------ไม่ขัดสน
หากได้ครบ---------ก็จะปิด---------ไม่รับคน
ไม่ให้ล้น-----------ฐานผาแบ่น------ให้เกินงาม

ถ้าสนใจ---------ก็เข้ามา--------พูดคุยกัน
ตัวผมนั้น--------เปิดสมัคร-------รับแนวร่วม
ให้คนดี----------มีศีลธรรม------เข้ามารวม
ให้หมดห่วง------ที่อาศัย---------ยามมีภัย




องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

วันนี้อยู่ๆจิ้งจกก็ตกลงมาเป็นสิบเลย ไม่ใช่รอบเดียวเป็นสิบรอบเลย

ตอนแรกคิดว่าจิ้งจกคงนึกเบื่อกระโดดเล่น แต่พอดูดีๆมันหล่นเลยนินา

ดังแป๊ะ แป๊ะ มันจะเกิดอะไรขึ้นไหมเนี่ย

 

นึกว่าผมจะเจอคนเดียว....แต่มันตกโดนตัวผม นี่สิ......โบราณบอกว่าเป็นลางไม่ดีเลย...:'(

 

เตือนเล่นของสูง 'ราชประสงค์' แยกอาถรรพ์ ถึงตาย!!​

​

ถึงตาย...ซินแซ-โหร ชื่อดังเตือนเสื้อแดง อิงไสยศาสตร์กับ 7 เทพ 4 แยกราชประสงค์ถึงตาย ส่วนเรื่องทักษิณจะกลับประเทศไทย แค่เรื่อง “ฝันกลางวัน” ​

ภายหลังการเคลื่อนทัพของกลุ่มเสื้อแดงไปยึดพื้นที่ แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นที่ที่มีเหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานมากมาย จนหลายฝ่ายมองว่าเป็นการใช้ไสยศาสตร์ จนเกิดกระแสวิพากวิจารณ์ถึงความเหมาะสมนั้น​

เล่นไสยเวทย์ แยกราชประสงค์ ไม่ดีระวังตาย​

อาจารย์วิศิษฐ์ เตชะเกษม​

อาจารย์วิศิษฐ์ เตชะเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยชื่อดังของไทย กล่าวกับ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงความอาถรรพ์ของ แยกราชประสงค์ว่า เป็นที่ดินที่มีการสาปแช่งว่าห้ามผู้ใดเข้ามาใช้สถานที่นี้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจจะถึงตาย​

“ที่ตรงนั้นเคยเป็นทางแยกและเป็นคลองตรงจุดทางแยก ซึ่งส่วนใหญ่จะมีวิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ สมัยโบราณตอนแรกที่ตั้งโรงแรมเอราวัณก็ประสบปัญหามากมายถึงขั้นลมละลายกันบ่อย แต่หลังจากมีพระผู้ใหญ่ที่เป็นพราหมณ์ แนะนำให้ตั้งศาลพระพรหมที่ตรงโรงแรมเอราวัณ หลังนั้นสถานการณ์ต่างๆ ก็ดีขึ้น หรืออย่างที่ตั้งของโรงพยาบาลตำรวจเมื่อก่อนยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มักจะมีเหตุการณ์ตาย จนกระทั่งมีการตั้งพระนารายณ์ เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ได้ หรืออย่างสมัยก่อนตรงหัวมุมตรงนั้นก็มีการสร้าง“ห้างไทยไดมารู” ขึ้น แต่ก็ต้องเจ๊งระเนระนาด เนื่องจากว่าตรงห้างไทยไดมารูที่ตรงนั้นเดิมเคยเป็นสถานที่ศักสิทธิ์เป็นพระราชวังที่ประทับของ ร.4 ซึ่งตรงจุดนั้นก็มี การประทับพระตรีมูรติ โดยสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และก็มีการสืบทอด มาอันเชิญมาตั้งอยู่ในวังเพชรบูรณ์ตรง ถ.ราชดำริ ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นถือเป็นที่เฮี้ยนและก็มีการสาบแช่งไว้มากมาย” ​

สุดท้ายที่ดินสุดสวยก็กลายไปเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์ ฉะนั้นพอใครไปถึงตรงนั้นจะต้องรู้ว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ทีนี้การที่มีม็อบมาตั้งเวทีตรงนั้นเชื่อว่าเสื้อแดงมีการใช้ไสยเวทย์ด้วยกันหลายเรื่อง ​

​

“ที่เห็นได้ชัดมากก็คือ วันที่เสื้อแดงเทเลือด ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 วันนั้นเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยตามราชประเพณี ซึ่งวันนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือตัวแทน ซึ่งเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเป็นตัวแทนเข้าไปไหว้พระสยามเทวาธิราช ซึ่งวันนั้นเองที่เสื้อแดงเทเลือดกัน ไม่รู้ว่าจะเป็นการจงใจหรือไม่แต่อย่างไร เพราะนี่คือการทำอาถรรพ์ใส่กับประเทศชาติ อาถรรพ์แบบนี้เขาเรียกกันว่า “แช่งบ้านสาปเมือง”แต่ทีนี้การทำลักษณะนี้จริงๆ มันเป็นการกระทำอันตรายต่อคนทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพระสยามเทวาทิราชนั้นมีพระพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่มาก ใครที่เป็นคนคิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาได้ถือว่าแย่มาก การสาปแช่งบ้านเมืองตัวเอง ซึ่งบาปก็จะติดตัวไปจนตาย”​

นอกจากนี้ อาจารย์วิศิษฐ์ ยังพูดถึงประเด็จการการตั้งเวทีหันหลังให้พระพรหมนั้นไม่เป็นผลดีต่อคนทำแน่ๆ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านอยู่ด้วยความสงบสุข ​

“ทำแบบนั้นก็ถือเป็นการไปรบกวนเสียเปล่า พอรบกวนไปแล้วก็คิดว่าท่านจะบันดาลไม่ให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งตนก็จับตาดูสถานการณ์ของเสื้อแดงตลอด และวันที่ 5 นี้เองนั้น จริงๆแล้วเป็นวันที่ปราบดาภิเษกของ ร.1 และวันที่ 6 คือวันราชาภิเษกของพระองค์ท่าน ฉะนั้นมองว่าเป็นการเล่นเอาวันสำคัญเป็นการแก้เคล็ด อย่างไรก็ดี เชื่ออย่างหนึ่งว่าเสาหลักเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์ การที่มีคนทำพิธีเกี่ยวกับประเทศชาติเนี่ย เราคิดว่าบารมีเรามีมากพอ ในสมัยโบราณมีการทำกันระหว่างกษัตริย์ แต่นี่คือประชาชนทำจะเป็นเช่นไร สำหรับทางออกนั้น ผมอยากจะบอกว่า จริงๆคือการเล่นไสยเวทย์กันทั้งสิ้นไสยเวทย์จะบอกไว้นิดนึงว่าใครทำเข้ามันจะ ย้อนกับมาเล่นตัวเรา ซึ่งมันรุนแรงมาก ยิ่งกว่าไม่มีบ้านให้อยู่เหมือนกับตกอยู่ในขุมนรกเลยทีเดียว” อาจารย์วิศิษฐ์ กล่าว​

สี่แยกราชประสงค์ ฮวงจุ้ย “ใบพัด” เล่นไสย ไสยก็จะเข้าตัว​

ซินแส ธนากร ตันอาวัชนการ​

ซินแส ธนากร ตันอาวัชนการ ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต กล่าวว่า สี่แยกราชประสงค์ถือว่าเป็นอันตรายมากๆ เรียกกันว่าเป็นที่ที่มีฮวงจุ้ย “ใบพัด” เหมือนกับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อมีคนเยอะๆ ใบพัดก็จะหมุน ซึ่งตรงนั้นมีเทพเจ้ามากมาย ส่งผลให้เทพทุกองค์ต่างแสดงอำนาจกันใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะตีกันทะเลาะกัน นอกจากนี้แถวนั้นตรงโรงพยาบาลตำรวจยังเรียกกันว่าเป็นที่ประตูผีซึ่งเป็นอาถรรพ์​

“ที่สำคัญผมเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเขาตั้งเวทีหันหลังให้กับศาลพระพรหม ซึ่งสมัยก่อนท่านท้าวมหาพรหมเคยโดนผู้มีอำนาจจ้างคนมาทุบ เพื่อจะสร้างพระพรหมองค์ใหม่โดยจะใส่ชื่อตัวเองไปในนั้น เพื่อหวังว่าจะหนุนให้โชคตัวเองดี ซึ่งจริงๆ ท้าวมหาพรหมก็ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ และเขาก็ยึดตำแหน่งหันหลังให้พระพรหมหนุน โดยเป็นชัยภูมิที่เหนือกว่าคนอื่นหรือเรียกว่าอยู่ในตำแหน่ง "เคี้ยง" ของฮวงจุ้ย เป็นตัวอักษรที่เขียนยาว เป็นภาษาจีนกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หมายถึงว่าผู้หญิงใหญ่ที่สุด คงเอาท้าวมหาพรหมเป็นการหนุนหลังให้กับตัวเองเพื่อการรบ” ซินแซ ธนากร กล่าว​

​

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต บอกว่า หากผู้ชุมนุมทำอะไรกับรูปปั้นเทพองค์ใดองค์หนึ่งใน 7 องค์บริเวณนั้น เหตุการณ์จะวุ่นวายมากมายกว่านี้หลายเท่า​

“เทพที่เราเห็นมากมาย เขานำมาแก้เคล็ดกัน ซึ่งถ้าหากเกิดอะไรขึ้นแม้แต่นิดเดียวเหตุการณ์ตรงนั้นจะวุ่นวายมากๆ สำหรับวิธีแก้การที่จะทำให้ทุกอย่างสลายต้องมีเสียงกริ่ง หรือเสียงระฆัง จะสามารถทำให้ทุกๆ อย่างเย็นลงและเหตุการณ์ก็จะคลี่คลายสถนการณ์ลงได้”​

ทักษิณ วีระ ณัฐวุฒิ จตุพร ดวงตกระวังอันตราย​

อ.ภาณุ วัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล​

ด้าน ซินแสฮวงจุ้ยระดับประเทศอ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล กล่าวว่า การตั้งเวทีหันหลังให้กับพระพรหม และหันหลังให้กับ โรงพบาบาลตำรวจนั้นในทางฮวงจุ้ย นอกจากจะถือว่าไม่ดี ไม่ได้ จะไม่ได้รับการส่งเสริม หรือเกื้อหนุนในการทำศึกในครั้งนี้แล้ว ดวงของ วีระ มุสิกพงษ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, และ จตุพร พรหมพันธ์ ก็กำลังมีเคราะห์ดังนั้นจะทำอะไรก็จะไม่ประสบความสำเร็จดั่งใจ​

ทั้งนี้ อ.ภาณุวัฒน์ ยังกล่าวถึงคำนายของหมอดูชื่อดังว่า หลังวันที่ 26 เมษายน ปีนี้ ทุกอย่างจะจบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะกลับประเทศนั้น ทั้ง 2 คำทำนายที่ว่าไม่มีทางเป็นจริงได้เลย ​

“ผมยังยืนยันเหมือนเดิมที่เคยบอกว่าดวงคุณทักษิณจะไม่ได้กลับประเทศไทย ซึ่งจริงๆ วันที่ 26 เม.ย. 53 ดวงมันเป็นวันไม่เกื้อหนุนให้คุณทักษิน แถมวันที่ 27 เม.ย. 53 ก็เป็นวันชงกับแกนนำทั้ง 3 คนด้วย ซึ่งคุณวีระเกิดปีชวด ปีนี้จะเข้าเคราะห์ ณัฐวุฒิ กับ จตุพร คนหนึ่งปีมะเส็ง คนหนึ่งปีเถาะ อายุก็เข้าเคราะห์ทั้งคู่ไม่เกื้อหนุน พวกนี้ทำอะไรก็จะปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่ได้ดั่งใจ” อ.ภาณุวัฒน์ กล่าว​

อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ​

ด้าน อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ถ้าจะทำนายเหตุการณ์ในตอนนี้ต้องทำนายดวง 2 ส่วนใหญ่ๆ 1. ดวงเมือง 2. ดวง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร​

“ปัจจุบันดวงเมืองตอนนี้ไม่ค่อยดี เพราะว่าดาวอังคารอยู่ตรงราศีกรกฎ อยู่ในภพที่ 4 ของดวงเมือง แล้วก็ดาวพระเสาร์อยู่ในภพที่ 6 ซึ่งเป็นภพอริของดวงเมือง แล้วก็ราหูอยู่ในราศีธนู ในภพที่ 9 ของดวงเมือง ไปทับดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ 26 เมษา ดาวพฤหัสก็จะย้ายเข้าไปสู่ราศีมีน ราศีมีนก็จะไปทับราหู ทับดาวพุธ ทับดาวศุกร์ แล้วดาวพฤหัสกับดาวเสาร์นั้นเกิดมาเล็งกัน ฉะนั้นเหตุการณ์ทางการเมืองมันก็มีปัญหาที่รุนแรง ซึ่งพอไปศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็จะไปดูสถิติเก่าๆ ก็จะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางการเมืองมาตลอด ​

เช่น การยุบสภา การยึดอำนาจ มันเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง 1. ราหูทับดาวพฤหัสต่างทับกันเองเรียกว่า “สมาสัปต์” เป็นการโคจรที่พันกันเหมือนเกลียวเชือกจะให้ผลที่รุนแรง ประการที่ 2. ดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ในดวงเมืองและดาวมฤตยูจะเล็งกัน ทายว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในปีนี้ เพราะว่าลีลาดวงดาวคล้ายๆ กับตอน “กบฎแมนฮัตตั้น” ดังนั้นผมเคยจั่วหัวไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าให้รัฐบาลเลือกเอาระหว่างยุบสภา หรือจะเลือกให้โดนยึดอำนาจ”​

ตอนนี้ว่าน่ากลัวแล้ว แต่ อ.ภิญโญ บอกว่า วันที่ 20 ก.ค.ที่จะถึงนี้น่ากลัวกว่าวันที่ 26 เม.ย.นี้ซะอีก ​

“อย่างที่หมอดูเขาทายกันว่าวันที่ 26 เม.ย.คุณทักษิณ จะกลับมาประเทศไทยก็เพราะว่าดาวพฤหัสเข้าสู่ช่วงวินาศของดวงเมือง ทำให้คนอยู่เบื้องหลังชะตาเมืองคุ้มชะตาเมืองไม่ได้ มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง ภายใน 1 ปีนับจากนั้นแน่ๆ ส่วนคุณทักษิณดวงแกมีการเปลี่ยนแปลงลักขณาอยู่ราศีกันต์ แต่ดาวเสาร์ทับลักขณาก็อย่างที่บอกว่าดาวเสาร์เป็นดาวทุกข์ มีความตึงเครียด และดาวเสาร์จะให้ผลร้ายกับคุณทักษิณ โดยเฉพาะหลังวันเกิดความเสาร์จะกลายเป็นกาลิกินีทับลักขณา ซึ่งต้องระวังเรื่องสุขภาพ เรื่องโรคภัยไข้เจ็บมีดาวมฤตยูเล็งอยู่ มีเกณฑ์ที่จะถุกลอบทำร้าย การเปลี่ยนแปลงมันมีอยู่ตลอด คุณทักษิณมีการย้ายบ้านอยู่ตลอด เลยคิดว่าไม่มีเกณฑ์ที่จะได้มา หรือเป็นนายกรัฐมนตรีใน 1-2 ปีนี้แน่นอน” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติกล่าวสรุป​

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/pol/75082

 

​

​

​

​

​

​

​

<center></center> ​

เห็นสาย เลือดไทย​

ในสายตาบอกสายสัมพันธ์

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย

จะเกิดภาคไหนก็ ไทยด้วยกัน

เชื้อสายประเพณีไม่มีกัด กั้น

เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือ ไทย

ทะเลแสนงาม ในน้ำมีปลา

พืชพันธุ์เกลื่อนตาตามไร่นารวงทองไสว

สินทรัพย์มีเกลื่อนกล่น

บรรพชนให้ไว้เราลูกหลานไทยจงร่วมใจรักษาให้มั่น

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย

จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน

เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น

เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย

รักกันไว้เถิด รักกันไว้เถิด รักกันไว้เถิด

แหลมทองโสภาด้วยบารมี

ปกเกล้าเราไทยนี้ร่มเย็นเป็นศรีผ่องใส

ใครคิดบังอาจหมิ่นถิ่นทององค์ไธ้

เราพร้อมพลีใจป้องหมู่ไทยและองค์ราชันย์

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย

จะเกิดภาคไหนก็ไทยด้วยกัน

เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น

เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย

จะเกิดชาติไหนก็ไทยด้วยกัน

เชื้อสายประเพณีไม่มีกัดกั้น

เกิดใต้ธงไทยนั้น ปวงชนทุกคนคือไทย

...................................................................................

อยากให้คนไทยทุกคนร้องเพลงนี้ด้วยหัวใจ

ที่รักชาติโดยไม่ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

ขอให้คนไทยรักกันเหมือนเดิมทีเถอะครับ , ค่ะ
.......................................................................
ขอบพระคุณแหล่งที่มา

สกู๊ป รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย - คลิปแมส

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=604 align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

ความเชื่อทางโชคลาง



​

</TD></TR><TR><TD width=37> </TD><TD width=519>
คนไทยแต่โบราณมาแล้วเชื่อกันว่า เหตุการณ์บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้น เป็นลางบอกให้รู้อนาคตได้ ซึ่งในเรื่องขุนช้างขุนแผนนี้ เมื่อบุคคลในเรื่องจะต้องประสบเคราะห์กรรม ก็มักจะมีลางบอกเหตุล่วงหน้าเสมอ เช่น

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=515 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=259>“จับไม้เท้าก้าวย่างขยับกาย</TD><TD width=30></TD><TD width=226>เห็นจิ้งจกตกตายลงตรงหน้า</TD></TR><TR><TD align=left>นกแสกแถบเสียดศีรษะมา</TD><TD> </TD><TD>หลวงตานิ่งขึงตะลึงคิด</TD></TR><TR><TD align=left>เอ๊ะอย่างไรท่าทางเป็นลางร้าย</TD><TD> </TD><TD>ระงับกายกลับนั่งลงตั้งจิต</TD></TR><TR><TD align=left>หลับตาร่ายคาถาแก้นิมิต</TD><TD> </TD><TD>ขยับยืนยักทิศไปอุดร”
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อเถรขวาดจะเดินทางไปแก้แค้นพลายชุมพล ก็มีลางร้ายคือ จิ้งจกตกลงมาตายตรงหน้า และนกแสกบินเฉียดหัวไป แต่เถรขวาดก็ยังไม่ยอมเลิกความคิด ในที่สุดตนเองก็ต้องตาย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=515 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=259> “เงื้อดาบจะฟาดให้ขาดกลาง</TD><TD width=30></TD><TD width=226>พอจิ้งจกทักขวางไม่ห่างที่</TD></TR><TR><TD align=left>เงื้อมดอดใจไม่ฆ่าตี</TD><TD> </TD><TD>เคราะห์ดีแล้วมึงจะรอดตัว”</TD></TR></TBODY></TABLE>

คนโบราณถือว่า จิ้งจกทักเป็นลางบอกเหตุที่ไม่ดี เมื่อจะลงมือกระทำสิ่งใด ถ้ามีเสียงจิ้งจกร้องก็มักจะหยุดกระทำ เช่นเดียวกับขุนแผนที่เงื้อดาบจะฟันขุนช้างกับนางวันทองอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงจิ้งจกร้องก็หยุดทันที

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=515 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=259>“เมียยกมือไหว้แลไปดู</TD><TD width=30></TD><TD width=226>ไม่เห็นหัวผัวอยู่แค่บ่า</TD></TR><TR><TD align=left>ตกใจวิ่งไปแล้วโศกา</TD><TD> </TD><TD>พ่อฟังเมียว่าอย่าเพ่อไป”</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขุนเพชรอินทราจะไปตามจับตัวขุนแผนซึ่งลักพานางวันทองไป ก็มีลางร้ายคือ ภรรยามองเห็นว่าขุนเพชรอินทราไม่มีหัว ซึ่งปรากฏว่าไปถูกขุนแผนฆ่าตายในป่านั่นเอง

ที่มา http://www.paktho.ac.th/student/kun/z_believe.html
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เม็กซิโก-แผ่นดินไหวใกล้ชายแดนสหรัฐ​

​

​

​

เกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นบริเวณชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ ช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.2 ริคเตอร์ขึ้น ส่งผลให้ชาวเม็กซิโก 2 คนเสียชีวิต หลายเมืองไม่มีไฟฟ้าใช้ และบังคับให้ต้องมีการอพยพผู้คนออกจากโรงพยาบาลและบ้านพักคนชรา

แผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริคเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ใต้ชายแดนสหรัฐลงมาเพียงเล็กน้อย โดยอยู่ใกล้กับเมืองเม็กซิกาลี เมืองเอกของรัฐบาฮากาลีฟอร์เนียนอร์เต้ ของเม็กซิโก โดยอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในเขตนี้ในรอบหลายทศวรรษ โดยทำให้ประชาชนอย่างน้อย 20 ล้านคนสั่นไหว ยอดผู้เสียชีวิตมีเพียงน้อยนิด ส่วนใหญ่เป็นเพราะพลังงานจากแผ่นดินไหว เคลื่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเม็กซิกาลี มุ่งสู่เขตที่มีประชากรน้อยกว่า

เจสสิกา ซีกาล่า นักธรณีฟิสิกซ์จากสำนักสำรสวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ หรือ USGA กล่าวว่า เราค่อนข้างโชคดีที่พลังงานเคลื่อนไปทิศทางนั้น ในแผ่นดินไหวทุกครั้ง ดินจะเริ่มเคลื่อนไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งที่แน่นอน แผ่นดินไหวครั้งนี้เริ่มขึ้นทางตอนใต้ของเมืองเม็กซีกาลี และรอยแยกเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-แผ่นดินไหวช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลกระทบมากที่สุดกับเมืองเม็กซีกาลี ศูนย์กลางทางการค้าที่วุ่นวายบริเวณชายแดนเม็กซิกโกติดกับรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ

ชายคนหนึ่งในเมืองนี้เสียชีวิตเมื่อบ้านของเขาที่อยู่ชานเมืองพังลงมาทับเขา และผู้ชายอีกคนเสียชีวิตเมื่อเขาวิ่งลงไปบนถนนด้วยความตื่นตกใจแล้วถูกรถชนเสียชีวิต อีกฟากฝั่งหนึ่งของชายแดนในเมืองเคเล็กซิโค ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตำรวจท้องที่ออกลาดตระเวนท้องถนนที่กลาดเกลื่อนไปด้วยเศษกระจกและเขตธุรกิจใจกลางเมืองก็ถูกปิดเนื่องจากความเสียหาย-เคท ฮัตตัน นักไหวสะเทือนวิทยาแห่งสถาบันเทคโนโลยี แคลิฟอร์เนีย หรือ CIT ในเมืองแฟเซเดน่า กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์วัดอาฟเตอร์ช็อคได้ประมาณ 100 ครั้ง แต่ไม่มีความเสียหายใหม่ ๆ เกิดขึ้นจากอาฟเตอร์ช็อคเหล่านี้

ประชาชนอย่างน้อย 100 คน ได้รับบาดเจ็บ เม็กซีกาลี ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากถูกวัตถุตกใส่ ไฟฟ้าดับทั่วทั้งเมือง-คนไข้ทั้ง 300 คนของโรงพยาบาลประจำเมืองเม็กซีกาลีถูกอพยพออกมา เนื่องจากเกิดความเสียหายกับโครงสร้างของตัวอาคาร ซึ่งไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ด้วย ผู้ป่วยบางรายถูกนำตัวไปยังคลีนิกภาคเอกชน แต่ส่วนใหญ่ถูกนำไปพักเป็นการชั่วคราวตามเต้นท์

ในเมืองเคเล็กซีโค ที่มีประชากร 27,000 คน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองเม็กซีกาลี สภาเทศบาลของเมืองได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน-ผู้บัญชาการตำรวจของเมืองเคเล็กซีโน เปิดเผยว่า ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในย่านธุรกิจ ที่อาคารบ้านเรือนสร้างในยุคทศวรรษหลังปี 2473 และ 2483 ไม่สามารถทนแรงแผ่นดินไหวขนาดนี้ได้ แผ่นดินไหวรู้สึกได้ไปไกลถึงนครลาสเวกัส มลรัฐเนวาดาที่อยู่เหนือขึ้นไปมาก แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้บาดเจ็บ

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

7 ที่ตั้งเทวรูปมงคล ที่พึ่งทางใจของคนกรุง​

​

3–4 วันมานี้ ปกติย่านแยกราชประสงค์จะครึกครื้นไปด้วยคนไทยและต่างชาติที่แวะเวียนมาเที่ยวเดินเต็มฟุตบาทไปหมด โดยเฉพาะ 7 จุดซึ่งเป็นที่ตั้งของเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ทุกคนมักนิยมมาสักการะเพื่อเสริมมงคลให้ชีวิตกัน

เวลานี้คนกรุงคงต้องหาที่พึ่งทางใจไปสักการะบูชาที่อื่นแทน 7 ที่ตั้งเทวรูปศักดิ์สิทธิ์แถวแยกราชประสงค์ เพราะช่วงนี้พื้นที่นั้นยังคงเป็นฐานที่ตั้งของม็อบแดงมา 4 วันแล้ว ซึ่งสถานการณ์ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะสลายตัวเมื่อไร ทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยที่เคยไปกราบไหว้จึงไม่มีให้เห็น

ดอกไม้ ธูป เทียน เสียงเพลงรำแก้บน เป็นสิ่งที่คนแถวนั้นได้สัมผัสกันจนชิน วันนี้อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นนึกถึงภาพเหล่านั้นไปก่อน รอช่วงสถานการณ์สงบคงได้กลับมาไหว้ เคารพ และขอพรจากท่านกับ 7 ที่ตั้งของเทวรูป ที่พึ่งของคนทุกคนกันเสียที ซึ่งวันนี้เลยนำเกร็ดของตำนานของ 7 ที่ตั้งเทวรูปนี้มาให้ชมกันพลางๆ ไปก่อน

1. ท้าวมหาพรหม เอราวัณ สี่แยกราชประราชประสงค์

​

บริเวณหัวมุมของหน้าโรงแรมเอราวัณ ทุกๆ วันจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ที่แวะมาสักการะขอพรเรื่องการเรียน การงาน ธุรกิจ หรือแล้วแต่จะขอ ซึ่งนิยมไหว้ด้วยธูป 16 ดอก แบ่งเป็น 4 ดอกต่อ 1 ทิศ เทียน 4 คู่ และดอกดาวเรือง 4 พวงต่อ 1 ทิศ เมื่อสมหวังตามพรที่ขอ ก็นิยมแก้บนด้วยการจ้างให้นางรำมารำแก้บนให้ ซึ่งจากประวัติของพระพรหมองค์นี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่สร้างโรงแรมเอราวัณ แต่ไม่ได้มีการทำพิธีบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนั้นก่อน เลยต้องมีการบวงสรวงที่เหมาะสม พร้อมกับสร้างพระพรหม และขอพรท่านเพื่อช่วยขจัดอุปสรรคให้หมดไป

2. พระตรีมูรติ และพระพิฆเนศวร ด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

​

สำหรับหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์เป็นที่ประดิษฐานของ "องค์พระตรีมูรติ" และ "องค์พระพิฆเนศวร" โดยคนส่วนใหญ่เชื่อว่าองค์พระตรีมูรติจะประทานพรในเรื่องของความรัก ถ้าขอพรด้านนี้จากท่านก็จะสมหวัง

​

ส่วนทางด้าน"องค์พระพิฆเนศวร" เป็นเทพแห่งศิลปะทั้งมวล เป็นเทพพระองค์แรกที่ต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เพื่อทำให้กิจการการงานต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆ โดยในการไหว้ "องค์พระตรีมูรติ" ต้องใช้ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง 2 เล่ม ดอกกุหลาบ 9 ดอก

3. ศาลเจ้าที่ และศาลตายาย ด้านข้างอาคารเซ็นทรัลเวิลด์

​

ศาลตายายเป็นศาลที่ตั้งไว้เสริมบารมีของสถานที่บริเวณนั้น เพื่อโชคลาภเงินทอง ในการสักการะนั้นต้องจุดธูปนำน้ำผลไม้ น้ำ น้ำชา นำไปไหว้

4. พระนารายณ์ทรงสุบรรณ (ทรงครุฑ) ด้านหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

​

พระนารายณ์ทรงสุบรรณ ผู้ที่ไปกราบไหว้นั้นเชื่อว่าเป็นเทพที่ช่วยปกป้องคุ้มครอง และประทานโชคลาภ ในส่วนของการสักการะนั้นจะต้อง ใช้ธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ ดอกดาวเรือง 1 พวง

5. พระอินทร์ หน้าห้าง อัมรินทร์พลาซ่า

​

พระอินทร์มีฐานะเป็นพระผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก ดิน ฟ้า อากาศ และสงคราม ยามใดที่มีเรื่องเดือดร้อนขึ้นบนโลกมนุษย์ เชื่อกันว่าอาสนะของพระองค์ที่เคยอ่อนนุ่มก็จะแข็งกระด้าง ซึ่งในการสักการะ ใช้ธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ ดอกดาวเรือง 1 พวง

6. พระลักษมี ดาดฟ้าชั้นสี่ ห้างเกษรพลาซ่า

​

พระลักษมีเป็นเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ฮินดูอีกเช่นกัน ซึ่งคนส่วนมากที่มาสักการะ จะขอพรท่านเกี่ยวกับความดีงาม และความมั่งคั่งร่ำรวย โดยในการสักการะใช้ธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ ดอกบัว 3 ดอก

7. พระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

​

มีอีกนามว่า “หริ” แปลว่าผู้ดูแลแห่งจักรวาลถือเป็นเทพสูงสุด ซึ่งประดิษฐานอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถานที่ราชการ การเข้าไปสักการบูชาต้องนำเอาของไปเอง ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาสักการะ จะกราบไหว้ขอพร และใช้ธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ และดอกดาวเรือง

ช่วงนี้ ดอกไม้พวงมาลัย ธูป เทียน ที่วางถวายเทวรูปต่างๆ คงน้อยลงไปมาก ก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะกลับมาสู่ความปกติโดยเร็ว เพราะหลายๆ คน คงคิดถึงแยกราชประสงค์ ย่านแห่งองค์เทพเจ้าที่ประทานพรความสุขคืนมาเสียที

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา 7 ที่ตั้งเทวรูปมงคล ที่พึ่งทางใจของคนกรุง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์