ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เตือนทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง-ระวังพายุฤดูร้อน​

​

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อน-ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตราย กทม.ร้อยละ 20 ของพื้นที่มีฝน....

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.53 เมื่อเวลา 04:00 น. ว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปก คลุมทะเลจีนใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก ส่งผลทำให้ ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่ทำให้ต้นไม้หักโค่น และป้ายโฆษณาหรือที่พักอาศัยได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 3-4 เมษายนนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคเหนือ อากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง และเพชรบูรณ์ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาค และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงเป็นแห่ง ๆ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/region/74587

 

สหรัฐตัดช่วยเหลือเขมรเหตุเนรเทศผู้ลี้ภัยอุยเกอร์​

​

สหรัฐอเมริกายกเลิกโครงการจัดส่งรถบรรทุกทหาร 200 คัน เนื่องจากไม่พอใจที่ประเทศกัมพูชาเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยเกอร์ 20 คน กลับประเทศจีน เมื่อปีกลาย...

รัฐบาลสหรัฐระงับแผนจัดส่งรถบรรทุกทหาร 200 คัน กับรถพ่วงอีกจำนวนหนึ่ง ให้แก่ รัฐบาลกัมพูชา เหตุไม่พอใจรัฐบาลกัมพูชาเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยเกอร์ 20 คน กลับประเทศจีนเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังชาวอุยเกอร์เหล่านั้น พยายามขอสถานะผู้ลี้ภัยการเมืองจากการถูกปราบปรามกวาดล้างโดยรัฐบาลจีนในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางภาคตะวันตก

ทั้งนี้ เหตุประท้วงต่อต้านการปกครองของจีนอย่างรุนแรงและเกิดจลาจลที่ซินเจียง เมื่อ ช่วงเดือน ก.ค.ปีท่ีแล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 197 คน

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ.2553

นักวิทย์เผยคางคก เตือนแผ่นดินไหวได้​

​

นักวิทยาศาสตร์เผยผลการศึกษา หากไม่พบคางคกหลายวันติดกัน อาจเกิดภัยพิบัติรุนแรง เชื่อเป็นเพราะสัญชาตญาณการเตือนภัยของสัตว์...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ว่า นักวิทยาศาสตร์ เผยผลการศึกษาฉบับหนึ่ง ว่าด้วยการทำนายภัยพิบัติทางธรรมชาติ ระบุว่า สามารถสังเกตุเหตุแผ่นดินไหวได้จากคางคก ซึ่งหากไม่พบคางคกออกมากระโดดโลดเต้นเช่นปกติเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน นั่นแสดงว่าภัยพิบัติกำลังจะมาเยือน

นักชีวะวิทยา ระบุในวารสารสัตววิทยาว่า เมื่อปี 2009 คางคกในอิตาลีเคยหลบซ่อนตัว ไม่มีผู้ใดพบเห็นเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นจึงเกิดเหตุแผ่นดินไหวตามมา ซึ่งตามหลักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สัตว์หลายๆชนิด มีสัญชาตญาณในการล่วงรู้ดินฟ้าอากาศเพื่อเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น โดยมนุษย์อย่างเราสามารถนำสัญชาตญาณดังกล่าวมาใช้ได้ด้วยการสังเกตนั่นเอง

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ.2553

คนงานแท่นขุดช็อก สัตว์ประหลาด เกาะติดเรือดำน้ำ​

​

ภาพโดย เดอะ ซัน (www.thesun.co.uk)​

คนงานในเรือดำน้ำจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ต่างตกตะลึง เมื่อพบสัตว์รูปร่างประหลาดขนาดยักษ์ เกาะติดเรือมาจากใต้น้ำที่ความลึกถึง 2.5 กิโลเมตร โดยนักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า "แมงกะปิ" (Woodlice)..

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ว่า ตัวกะปิหรือแมงกะปิ (Woodlice) ขนาดยักษ์สร้างความตกใจให้กับบรรดาลูกเรือของเรือดำน้ำจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก โดยเจ้าสัตว์ขนาดลำตัวยาว 0.7 เมตร ซึ่งปกติอาศัยอยู่ในท้องทะเลที่ความลึก 2.5 กิโลเมตร นี้เกาะติดอยู่กับเรือเมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำ

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ เคร็ก แมคเคลน จากศูนย์สังเคราะห์การวิวัฒนาการแห่งชาติบอกว่าแมงชนิดนี้บางตัวอาจมีขนาดใหญ่กว่าตัวที่ติดมานี่เสียอีก

ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

^
^
^
^

โอ้วววว นี่เจ้าแมงกะปิยักษ์นี่มันยุคไหนกันคะเนี่ย

งั้นก็แสดงว่าใกล้เข้ามาแล้วสิคะ

แอร๊ยยยยย จะรับมือยังไงกับเชื้อโรคใต้ดินหละคะเนี่ย ?

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พายุหน้าแล้งเข้าถล่ม เชียงใหม่-พะเยา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เชียงใหม่ พายุถล่มอำเภอสันกำแพงและอำเภอใกล้เคียง ส่วนที่พะเยา เกิดพายุฝนลมพัดกระโชกแรง เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าและลูกเห็บตกกระจายไปทั่วหลายอำเภอ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. 29 มี.ค. เกิดพายุฝนลมหน้าแล้ง เข้าถล่มอ.สันกำแพงและอำเภอใกล้เคียงในจ.เชียงใหม่

ได้รับความเสียหายอย่างหนัก พายุฝนลมถล่มในครั้งนี้ประมาณ 10 นาทีจึงสงบลง ภายหลังพายุฝนและลมแรงสงบแล้ว มีห้องแถวเช่าเลขที่ 106/5 หมู่ 3 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง ได้รับความเสียหาย ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน สาเหตุมาจากหลังคาบ้านหลังอื่นปลิวมาใส่จนกระจกบ้านแตกได้รับความเสียหายดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนั้น รถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถตลาดอุ้ยทา ที่อยู่ใกล้กัน กระจกแตกละเอียด ไป 1 บาน

ส่วนลานวัดแช่ช้าง หมู่ 6 ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง มีต้นโพธิ์ล้มทับรถโตโยต้าปิกอัพสีแดงหมายเลขทะเบียน บ 3255 เชียงใหม่ บรรทุกไข่ไก่เต็มคันรถ เนื่องจากพ่อค้าเอารถมาจอดในวัดใต้ต้นโพธิ์ ทำให้รถหลังคายุบ ไข่ไก่แตกหมด ส่วนอ.สารภีมีต้นไม้ล้มขวางถนน และหลังคาบ้านปลิว ได้รับความเสียหายไปหลายหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นายวิชิต บุญกังวาน นายอำเภอสันกำแพง และนายมงคล สุกใส นายอำเภอสารภี

กำลังให้ทางเทศบาลและอบต.ออกไปสำรวจความเสียหาย และรายงานให้ทราบเป็นการด่วน เพื่อจะได้ดำเนินการช่วยเหลือกต่อไป ด้านอ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ มีเสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้มขวางถนน มีหลังคาบ้านประชาชนได้รับความเสียหาย หลายหน่วยงานกำลังออกไปสำรวจความเสียหายอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. ได้เกิดพายุฝน ลมพัดกระโชกแรง ฟ้าร้องฟ้าผ่าและลูกเห็บตกกระจายไปทั่วหลายอำเภอในจ.พะเยา

ล่าสุดพบอ.ภูกามยาว ถูกพายุฝนลูกเห็บกระหน่ำจนต้นไม้หักโค่นล้มกีดขวางถนนตามเส้นทาง และสายไฟฟ้าหลายหมู่บ้าน เช่นเดียวกันกับอ.เมือง ได้พัดเอาต้นไม้หักโค่นล้มทับเส้นทางถนนหลายสาย จนเป็นเหตุให้ยานพาหนะต้องหลบไปใช้เส้นทางอื่น ทางเทศบาลเมืองพะเยาได้เอาเลื่อยยนต์มาตัดกิ่งไม้ที่โค่นล้มทบถนนและสายไฟออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ศูนย์ราชการจังหวัดพะเยาได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

พายุลมฝนได้กระหน่ำพัดเอาต้นไม้ล้มทับใส่รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บจ 9933 พะเยา จอดไว้ด้านทิศตะวันออกของอาคารศาลากลางจังหวัดพะเยา โดยเป็นรถของชาวบ้านที่มาติดต่อราชการกับศูนย์ราชการฯ ได้รับความเสียหาย สำหรับเหตุการณ์ฝนตกกระหน่ำในพื้นที่พะเยานั้น ตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนที่เขตอ.แม่ใจ ทำให้ต้นไม้หักโค่นล้มทับถนนและสายไฟฟ้าหลายหมู่บ้านด้วยเช่นกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>3วันมอเตอร์โชว์ฟันยอดจองเพียบ สวนทางสถานการณ์บ้านเมือง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ร่วม7,000 คัน สวนทางกับสถานการณ์บ้านเมือง เผยส่วนใหญ่ได้แก่ปิกอัพและอีโค คาร์


วันนี้ (29 มี.ค.) นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์

เปิดเผยว่า ในช่วง 3 วันแรกของการจัดงานมอเตอร์โชว์นั้น ปรากฏว่า มียอดจองรถในงานรวมแล้วกว่า 6,600 คัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สวนทางกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พร้อมประชาชนได้ให้ความสนใจในการเข้าร่วมชมงานมากเป็นประวัติการณ์ เท่ากับว่าบางกอกมอเตอร์โชว์ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่เกิด ขึ้นในขณะนี้

โดยตัวเลขยอดจองส่วนใหญ่นั้นมาจากทั้งรถยนต์ปิกอัพและรถยนต์นั่งโดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็กและอีโค คาร์นั้นได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภค

โดยอีโคคาร์จากค่ายนิสสัน หรือ นิสสัน มาร์ช นั้นมียอดจองแล้วกว่า 1,000 คัน ขณะที่มาสด้า 2 และรถเล็กยี่ห้ออื่นก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน พร้อมกันนี้ในส่วนรถยนต์ระดับหรูอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กันหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้อย่างอย่างแน่นอน ด้วยยอดจองรถในงาน 20,000 คัน เติบโตจากปีที่ผ่านมา 20% ส่วนผู้เข้าชมงานคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1.7-1.8 ล้านคน พร้อมเงินสะพัดกว่า 4.5-5 หมื่นล้านบาท.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

การขอน้ำจากแม่ธรณีและพญานาค

เมื่อหาได้วันดี ฤกษ์ดีแล้ว จะทำพิธีขอน้ำจากแม่ธรณีและพญานาค ด้วยเชื่อว่าแม่ธรณีเป็นผู้รักษาดินและพญานาคเป็นผู้รักษาน้ำ พิธีกรรมคือเตรียมสะทวง (กระทงหยวก) กว้างประมาณ ๑ คืบ ใส่ข้าวปลาอาหาร ผลไม้ เมี่ยง หมาก พลู บุหรี่ อย่างละ ๔ เตรียมขันตั้ง (กำนล) ใส่กรวยดอกไม้ ๔ กรวย กรวยหมากพลู ๔ กรวย ข้าวเปลือก ๑ กระทง ข้าวสาร ๑ กระทง ผ้าขาว ผ้าแดงอย่างละชิ้น เทียนเล่มบาท ๑ คู่ เทียนเล่มเฟื้อง ๑ คู่ เทียนน้อย ๔ คู่ ข้าวตอกดอกไม้ใส่พองาม เตรียมน้ำอบ น้ำหอม น้ำส้มป่อย ๑ ขัน แล้วเริ่มพิธีตามขั้นตอนดังนี้

- แผ้วถาง ปัดกวาดบริเวณที่จะขุดให้สะอาด
- ขุดบริเวณที่จะเป็นใจกลางบ่อกว้าง ๑ คืบ ลึก ๑ คืบ
- ยกพานคำนับแล้วกล่าวคำขอน้ำ
- จุดธูปเทียนทำพิธีพลี แล้ววางสะทวงลงก้นหลุม
- ประพรมบริเวณนั้นด้วยน้ำอบ น้ำหอม น้ำส้มป่อย

http://kaewpanya.rmutl.ac.th/

 

โห คุณน้องเรียกซะน่ารักในบัดดล -- แมงกะปิ 5555
ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ ว่าเอเลี่ยนที่เค้าจินตนาการในหนัง
จะมีของจริงด้วย แล้วมันกินอะไรอะคะ

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แผ่นดินไหวเปรู ตายแล้วกว่า 20 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบเนื้อหาข่าวอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เกิดเหตุหินและดินถล่ม ทับ หมู่บ้าน แห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเปรู โดยคาดว่ามีผู้เสียชีวิต พลเรือนอย่างน้อย 20 ศพและสูญหายอีก 25 ราย

เกิดเหตุแผ่นดินไหว ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเปรู สื่อเชื่อยอดผู้เสียชีวิตแน่นอนแล้ว 25 ราย และสูญหายอีกอย่างน้อย 25 ราย

"จนถึงตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 20 ศพ" ฮิโพลิโต ครูชากา หัวหน้าศูนย์ป้องกันกัยพลเรือนแคว้นฮัวนูโช บอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 50 รายจากดินถล่ม แต่ยังไม่ยืนยันจำนวนผู้สูญหายและคาดคะเนคร่าว ๆว่าน่าจะมีราว 25 คน

ด้านสื่อมวลชนบางสำนักรายงานว่า

มีผู้สูญหายในหมู่บ้านอัมโบ อาจพุ่งขึ้นไปหลายร้อยคน "ทั่วทั้งหมู่บ้านที่มีราษฎร 400 คน อันตรธานหายไป" จอร์จ เอสปิโนซา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแคว้นฮัวนูโช ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นเทเลวิชันก่อนหน้านี้ "บางส่วนอาจปลอดภัย แต่ส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน"

ศพของเหยื่อบางรายถูกกู้ขึ้นจากแม่น้ำฮูอัลกาลาที่เอ่อล้นและไหลบ่าผ่านหมู่บ้านอัมโบ ขณะที่ศพอื่นๆหน่วยกู้ภัยดึงออกจากซากดินที่ถล่มลงมา สื่อมวลชนท้องถิ่นระบุ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยิงเอ็ม79 โลตัสพะเยา 2 ตูม กระจกร้านเอ็มเคสุกี้แตก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 3 เม.ย. พล.ต.ต.จรินทร์ อินสุวรรณโณ ผบก.ภ.จว.พะเยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัญญัติ เนตรสุวรรณ์ ผกก. สภ.เมืองพะเยา ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.32 ค่ายพญางำเมือง เข้าตรวจสอบห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสพะเยา ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินสายพะเยา-เชียงราย เลขที่ 669 หมู่ 3 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา หลังถูกคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิด M 79 ใส่เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความเสียหายที่บริเวณพื้นคอนกรีตซึ่งเป็นลานจอดรถอยู่ทางทิศเหนือของห้าง เป็นหลุมลึกประมาณ 5 ซ.ม. กว้าง 10 ซ.ม. อยู่ห่างจากตัวอาคารและจุดที่ตั้งถังแก๊ส ประมาณ 20 เมตร และอีกจุดหนึ่งพบภายในตัวอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านเอ็ม เค สุกี้ พบกระจกร้านแตกเสียหายจำนวน 2 บาน เสาอะลูมิเนียมของร้านแตกหักได้รับความเสียหาย โดยในที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าที่พบสะเก็ดระเบิดเป็นชนิด M 79 ตกกระจายเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้
นายบุญมี รายสาน อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 169 ม.18 ต.ต๋อม อ.เมืองพะเยา รปภ.ของห้างให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุได้เข้าเวรตามปกติ ต่อมาประมาณ 03.00 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิดที่บริเวณลานจอดรถด้านเหนือของห้าจึงปั่นจักรยานไปดู พบพื้นถนนคล้ายถูกระเบิดเป็นหลุมลึก จึงแจ้งผู้บังคับบัญชา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ระหว่างที่ตนกำลังนั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ป้อมยามห่างจากร้านเอ็มเคสุกี้ ห่างประมาณ 10 เมตร ก็เกิดระเบิดครั้งที่ 2 อย่างรุนแรง ที่บริเวณร้านเอ็มเคสุกี้ ตนตกใจมากจึงก้มลงหมอบกับพื้น เพราะกลัวได้รับอันตราย ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ทราบว่าเป็นใครเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธที่ใช้เป็นประเภท เอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก คนร้ายยิงจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ด้านหน้าห้าง ห่างจากอาคาร ประมาณ 200 เมตร เบื้องต้นยังไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์เพราะเป็นเวลากลางคืน ทั้งนี้จะได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดของห้าง และตามสี่แยกต่าง ๆ ในเมืองพะเยา เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดีโดย : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น่าจะกินปลาเล็กปลาน้อยหละกระมังคะ อิอิ

ถ้ามันโผล่มาจะให้หม่ามี๊เอาไปตำน้ำพริกกิน คงจะอร่อยน่าดูเลยคะ

 

เรื่องลาวาใต้โลกนี่ล่ะครับ ที่เป็นตัวการตัวจริง ที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่า ภาวะเรือนกระจก

ตัวการมาจากการขุดน้ำมันที่ทะเลเหนือ อย่างที่มีหลายคน "ส่งจิต"ลงไปสำรวจแล้วเห็นตรงกันครับ

ดังนั้นยิ่งขุดน้ำมันยิ่งขุดก๊าซธรรมชาติมาใช้มากยิ่งเร่งหรือทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องภัยพิบัติขึ้นครับ

 

พายุรูปหัวใจ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 35px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px" class=navtop height=30 vAlign=top>I´m thinking : นสพ.อังกฤษให้ไทยรั้งอันดับ 7 สถานที่อันตรายที่สุดในโลก</TD></TR><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 35px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px" height="100%" vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" height="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 15px; PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-TOP: 10px" class=contentall height="100%" vAlign=top width="100%" align=left>นสพ.อังกฤษให้ไทยรั้งอันดับ 7 สถานที่อันตรายที่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. เดลีเทเลกราฟ หนังสือพิมพ์ของสหราชอาณาจักรได้จัดอันดับสถานที่อันตรายที่สุดในโลก 20 แห่ง ภายหลังผู้ก่อการร้ายได้สังหารนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกในมุมไบ อินเดีย โดยประเทศไทยขึ้นรั้งอันดับ 7 ของโลก แม้ว่าจะมีลำดับต่อจากแชมป์โลกอย่างอิรัก หรือรองแชมป์คืออัฟกานิสถาน เชชเนีย แต่ก็เป็นการแซงขึ้นหน้าอิสราเอล ปาเลสไตน์ เลบานอน หรือปากีสถาน แม้กระทั่งอินเดีย ซึ่งเพิ่งเกิดเหตุร้ายในมุมไบ
ไทยซึ่งเคยเป็น 1 ใน ประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก ในฐานะสยามเมืองยิ้ม กลับกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเดลีเทเลกราฟให้เหตุผลว่า การชุมนุมทางการเมือง และการประกาศ พรก.ฉุกเฉินชั่วคราวมีผลกับทั้งสองสนามบินในกรุงเทพฯ ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล และบริเวณใกล้เคียงถนนราชดำเนินนอก รวมทั้งพื้นที่รอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐสภา เดือนที่ผ่านมาการต่อสู้ยังขยายไปยังชายแดนกัมพูชาที่ปราสาทพระวิหารอีกด้วย โดยความตึงเครียดยังคงมีอยู่สูง ความไม่สงบและการโจมตีเป็นระยะยังคงมีอย่างต่อเนื่องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแจ้งเตือนให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เหล่านี้ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น

สำหรับ 20 สถานที่อันตรายที่สุดในโลกที่เดลีเทเลกราฟประกาศตามลำดับ คือ

1. อิรัก
2. อัฟกานิสถาน
3. เชชเนีย
4. แอฟริกาใต้
5. จาไมกา
6. ซูดาน
7. ไทย
8. โคลัมเบีย
9. เฮติ
10. อีริเทีย
11. สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
12.ไลบีเรีย
13. ปากีสถาน
14. บุรุนดี
15. ไนจีเรีย
16. ซิมบับเว
17. อินเดีย
18. เม็กซิโก
19. อิสราเอลและเขตยึดครองปาเลสไตน์
20. เลบานอน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตลาดสินค้าแฟชั่นย่านประตูน้ำปิดกระทบยอดขายกว่า 20 ล้านบาท/วัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 3 เม.ย.- นายคมสรรค์ วิจิตรวิกรม ประธานศูนย์บริการส่งออกโบ๊เบ๊

กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงย่านราชประสงค์ ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าย่านประตูน้ำที่ผู้ประกอบการรายย่อยรวมประมาณ 2,000 ราย คาดว่าจะได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่าวันละ 20 ล้านบาท เพราะในย่านค้าส่งสินค้าแฟชั่นที่ประตูน้ำ มีศูนย์การค้าสินค้าแฟชั่นที่สำคัญได้แก่ ศูนย์ค้าส่ง The Platinum Fashion Mall

ซึ่งภายในมีร้านค้าที่มีเจ้าของรายย่อยรวมกันประมาณ 600 ราย ประตูน้ำเซ็นเตอร์ อาคารใบหยกอีกประมาณ 700 ร้านค้า

ซึ่งตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ ได้ปิดให้บริการ และเจ้าของร้านค้าส่วนใหญ่ ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์จึงปิดร้านค้าไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและปลอดภัย. - สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แห่ชมดวงอาทิตย์บนเขาพนมรุ้ง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นักท่องเที่ยวผิดหวังไม่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง หลังท้องฟ้าปิดเมฆมาก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ กว่า 300 คน

มาเฝ้ารอชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ครั้งแรกของปี ตามที่นักดาราศาสตร์ได้คำนวณ และคาดการณ์ไว้ว่า ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ในวันที่ 2-4 เม.ย. เวลาประมาณ 06.03 น. แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวย ท้องฟ้าปิดมีเมฆมาก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นปรากฎการณ์ดังกล่าวได้

แต่นักท่องเที่ยวที่มารอเฝ้าชมปรากฏการณ์ดังกล่าวหลายคนบอกว่า ถึงแม้จะไม่สามารถมองเห็น ก็ไม่รู้สึกเสียใจ เพราะถือว่าได้มีโอกาสมาเที่ยวชมความงดงาม และมหัศจรรย์ของปราสาทพนมรุ้ง ประกอบกับวันนี้เป็นวันเปิดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งด้วย

นายมนตรี ธนภัทรพรชัย หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง กล่าวว่า สำหรับผู้ที่พลาดชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้งในวันนี้ สามารถขึ้นมาชมได้อีกในวันที่ 4 เม.ย. และสามารถชมดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูพนมรุ้งครั้งต่อไป ได้ในวันที่ 8-10 ก.ย. และดวงอาทิตย์ตกตรงครั้งสุดท้ายของปี ในวันที่ 5-7 ต.ค.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ศอ.รส.ลั่นห้ามเข้า-ออกราชประสงค์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top> คมชัดลึก :ศอ.รส.ประกาศ ห้ามบุคคลเข้า-ออก บริเวณแยกราชประสงค์




(3เม.ย.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) เวลา 23.10 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอ.รส. ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุม ศอ.รส. เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะการเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดทางการจราจรบริเวณแยกสี่ราชประสงค์ ทั้งนี้ โดยนายปณิธาน กล่าวว่า กรณีที่มีบุคคล หรือ กลุ่มบุคคลได้ทำการชุมนุมโดยปิดกั้นกีดขวางพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และ พื้นที่โดยรอบ ศอ.รส. มีมติให้ประกาศห้ามบุคคลเข้า หรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือ สถานที่ โดยกำหนด



ทั้งนี้ พ.อ.สรรเสริญ ได้อ่านคำประกาศของ ศอ.รส. ในการห้ามบุคคลเข้า หรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือ สถานที่ที่กำหนด ฉบับที่ 5

ตามที่ได้มีการประกาศ ห้ามบุคคลเข้า หรือ ให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือ สถานที่กำหนด รวมถึงการห้ามการใช้เส้นคมนาคมหรือ การใช้ยานพาหนะ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน และปราบปรามระงับยับยั้ง และ แก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อให้การดำรงชีวิตของประชาชนโดยทั่วไปเป็นไปปกติสุขแล้วนั้น ปรากฎว่าได้มีบุคคล และกลุ่มบุคคลทำการชุมนุมโดยปิดกั้น และกีดขวางพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ และพื้นที่โดยรอบที่เป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ ทำการปลุกระดมยุยงปลุกปั่นสร้างสถานการณ์เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน ซึ่งมิใช่การชุมนุมโดยสงบตาม รธน. อาศัยอำนาจตามความในข้อ 2 และวรรคท้ายของข้อกฎหมายออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ให้ออกประกาศกำหนดเพิ่มเติมดังนั้น

ข้อ 1 ให้บุคคลที่เป็นแกนนำหรือผู้ที่จัดให้มีการชุมนุม และผู้ร่วมการชุมนุมออกจากพื้นที่ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ดังต่อไปนี้ ก.ถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชประสงค์ ถึงแยกประตูน้ำ ข.ถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชประสงค์ ถึงสถานีรถไฟฟ้าราชดำริ ค.ถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่แยกราชประสงค์ ถึงแยกปทุมวัน ง.ถนนสุขุมวิท ตั้งแต่แยกราชประสงค์ ถึงแยกชิดลม


ข้อ 2 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ


ข้อ 3 ให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตร หรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการประกาศนี้

ข้อ 4 ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 3 เม.ย. 2553
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผอ.ศอ.รส.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นว่าพระสยามเทวาธิราชนั้นมีจริง

เราจงพร้อมใจกันอธิษฐานด้วยกุศลผลบุญที่เราได้ทำมาแล้วด้วยดี ขอให้เทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์พระองค์นี้ทั้งที่ทรงมี ณ ภายนอก และที่ทรงเกิด ณ ภายในใจทุกคน จงได้ทรงคุ้มครองป้องกันภัย และโปรดประสิทธิ์ประสาทความสมบูรณ์พูนสุขให้แก่ประชาชนชาวสยามทั่วกันเทอญ..<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ก็มีศาลท่านอยู่ เหล่าชมรมศิษย์เก่าทหารเรือฯ และประชาชนได้ร่วมกันสร้าง
ไว้เป็นที่ระลึกถึงความดีและบารมีท่าน

เทวดาที่รักษาที่นี่ ก็คือทหารแห่งพระสยามฯ คนดีมีสัจจะ หรือ คนชั่วที่จะกลับใจ ให้ไปอธิษฐานบอกต่อท่าน แล้วชีวิตก็จะดีขึ้น

 

======================================

4 เม.ย. 53


วันที่ 2 ที่ผ่านมา ผมได้ลงบทความเชิญชวนท่านสมาชิกที่ยังหาที่ไปไม่ได้มา
เป็นแนวร่วมในการหนีภัยในอนาคต มีท่านสมาชิกจากต่างประเทศ มีใจที่จะ
ช่วยร่วมออกเงินการเจาะน้ำบาดาลโดยติดต่อผ่านหลาน ลาซาซา แนวร่วมที่
อยู่ขอนแก่น ผมขอน้อมรับด้วยใจและขอขอบคุณมา ณ.ที่นี้ รายนี้เป็นรายที่ 6
แล้วที่มีใจ แต่ผมปฏิเสธไปทุกราย

จุดประสงค์หลักของฐานผาแบ่นคือ ต้องการสมาชิกที่มีความเชื่อว่าในอนาคต
จะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในเรื่องงานและออกเงินสำหรับ
ครอบครัวตัวเองและเงินส่วนกลางในการจัดเตรียมเรื่องน้ำ อาหาร ยา เต็นท์
พยาบาล โรงครัว ที่สำหรับสวดมนต์ทำสมาธิ ที่ตากเสื้อผ้าและอื่นๆที่มีความจำ
เป็นในการดำรงค์ชีวิต

เวลานี้ที่ฐานฯ ได้ทำการขุดบ่อสำหรับเก็บมูลไว้ 12 บ่อแล้ว ซื้อโอ่งยักษ์ไว้
16ใบ กำลังจะว่าจ้างเจาะน้ำบาดาลซึ่งในตอนแรกตกลงกันที่ราคา 40,000
บาท ในความลึก 40เมตร เมื่อสำรวจจริงต้องเจาะลึก80-100เมตร ต้องใช้เงิน
ในการเจาะ 100,000บาท ยอดเงินที่แนวร่วมเดิมช่วยกันออกจึงไม่พอ ผมและ
หลานลาซาซาจึงเพิ่มเงินกองกลางคนละ10,000บาท เวลานี้รวมแล้วได้ร่วม
70,000บาท คงคอยอีกสักพักก็สามารถว่าจ้างได้

ขอขอบคุณสมาชิกที่แนะนำเรื่องขอน้ำจากองค์แม่พระธรณี การขอผมคิดว่า
ต้องขอในกรณีที่พื้นที่นั้นๆไม่มีน้ำเลยแต่ที่ฐานฯมีและความลึกที่จะเจาะเหมาะ
สำหรับคนที่จะตามไปอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งปริมาณและความใสของน้ำคงจะ
พอเพียงในการใช้




องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

ถ้าจะพิสูจน์กันในทางวิทยาศาสตร์แนะนำให้เข้าไปที่Google.com แล้วค้นหาคำว่า"แกนโลกพลิก" ค่ะ เขาบอกว่าจะเกิดประมาณวันที่ 21 /12/12 ค่ะ

 

สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดตราด เตือน เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาน้ำกร่อยในกระชัง ระวังปลาช็อคน้ำจาก ภาวะฝนตกหนักในช่วงนี้ (4/4/2010)
นายประจวบ ลีรักษาเกียรติ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดตราดมีลมมรสุมเข้ามาในช่วง 2-3 วันนี้ ทำให้เกิดฝนตกชุก มีผลต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อยในแหล่งที่ติดกับบริเวณเขตน้ำจืดอาจทำให้น้ำในแหล่งน้ำมีความเค็มต่ำ และความเป็นกรดด่างหรือพีเอชของน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าฉับพลัน สัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงกันโดยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ ปลาเก๋า ซึ่งเป็นปลาที่สามารถอยู่ได้ในความเค็มต่ำสุดที่ 10-15 ส่วนในพันส่วน ขึ้นไป หากคุณภาพน้ำมีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ปลาไม่สามารถปรับตัวได้ทันเกิดอาการช็อคได้ จึงพบว่าปลาในกระชังและบ่อเลี้ยงเกิดการตายและได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นแนวทางการแก้ไขถ้าพบการตายของปลาเป็นจำนวนมาก ปลาที่มีขนาดใหญ่ ควรจับขาย แต่ถ้าเป็นปลาที่มีขนาดเล็กควรย้ายไปเลี้ยงในบริเวณอื่นที่มีคุณภาพน้ำเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตปลา ในกรณีที่เป็นบ่อดินควรเติมวัสดุปูนในปริมาณ 10-30 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อปรับความเป็นกรดด่างของน้ำ ทั้งนี้หากพบปัญหาดังกล่าวเกษตรกรสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3954-3335

 

<TABLE cellSpacing=2 width="100%"><TBODY><TR vAlign=top><TD><OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=9,0,28,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=235 height=385>
























<embed width="235" height="385" src="./animation/thai.swf?ver=2010-04-04" quality="high" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" FlashVars="file=.%2Fanimation%2Fthai_query.php%3Fd%3D2010-04-04" type="application/x-shockwave-flash" ></embed></OBJECT></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="98%" 0?><TBODY><TR><TD><TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR class=PH><TD class=PTL> </TD><TD class=PLH>ลักษณะอากาศทั่วไป </TD><TD class=PRH> เมื่อเวลา 16:00 น.วันนี้</TD><TD class=PTR> </TD></TR><TR><TD></TD><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR class=PMT><TD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TD class=PM><DD>บริเวณความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง
ส่งผลให้มีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้
ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้
ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่ทำให้ต้นไม้หักโค่น ป้ายโฆษณาหรือที่พักอาศัย
ได้รับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ </DD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF></TD><TD class=PRF></TD><TD class=PBR></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR class=PH><TD class=PTL> </TD><TD class=PLH>พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล </TD><TD class=PRH> ตั้งแต่เวลา 17:00 น.วันนี้ - 17:00 น.วันพรุ่งนี้ </TD><TD class=PTR> </TD></TR><TR><TD></TD><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR class=PMT><TD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TD class=PM>อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. </TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF>รายละเอียดเพิ่มเติม</TD><TD class=PRF>ออกประกาศ 04 เมษายน 2553 17:00 น.</TD><TD class=PBR></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD><TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR class=PH><TD class=PTL> </TD><TD class=PLH>อากาศ 7 วันข้างหน้า </TD><TD class=PRH> 04 เม.ย. 53 - 10 เม.ย. 53</TD><TD class=PTR> </TD></TR><TR><TD></TD><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR class=PMT><TD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TD class=PM>คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 4-6 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าว และมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้ในระยะนี้ และในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้

ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 4 และ 7-9 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนชาวเรือตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปขอให้ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ</TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF></TD><TD class=PRF>ออกประกาศ 04 เมษายน 2553</TD><TD class=PBR></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR class=PH><TD class=PTL> </TD><TD class=PLH>อากาศ 7 วันที่ผ่านมา </TD><TD class=PRH> 26 มี.ค. 53 - 01 เม.ย. 53</TD><TD class=PTR> </TD></TR><TR><TD></TD><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR class=PMT><TD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TD class=PM>บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในระยะครึ่งแรกของช่วงจากนั้นอ่อนกำลังลง โดยมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนในระยะครึ่งหลังของช่วงกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในวันที่ 29 มี.ค. และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกาในวันที่ 31 มี.ค. ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงในระยะครึ่งแรกของช่วงหลังจากนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นจนมีอากาศร้อนทั่วไปอีกครั้งและมีฝน ส่วนภาคใต้มีอากาศร้อนในหลายพื้นที่และมีฝนเพิ่มขึ้น</TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF>ข้อมูลย้อนหลัง</TD><TD class=PRF>ออกประกาศ 02 เมษายน 2553</TD><TD class=PBR></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR class=PH><TD class=PTL> </TD><TD class=PLH>อากาศรายเดือน </TD><TD class=PRH> ประจำเดือน พฤษภาคม 2553</TD><TD class=PTR> </TD></TR><TR><TD></TD><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR class=PMT><TD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TD class=PM>คาดหมาย
เดือนนี้เป็นเดือนที่เปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ลักษณะอากาศจะแปรปรวน ประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงต้นเดือนกับจะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ จากนั้นฝนจะเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและการกระจายโดยจะมีฝนหนักบางพื้นที่ เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก และลมใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะเริ่มเปลี่ยนเป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยในระยะครึ่งหลังของเดือน สำหรับภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายกับมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกของภาค ทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนฝั่งอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในเดือนนี้ อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลอันดามันซึ่งอาจทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และมีแนวโน้มการเคลื่อนตัวทางเหนือค่อนไปทางตะวันออก เข้าใกล้ด้านตะวันตกของประเทศไทยได้ ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งคลื่นลมในทะเลจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ติดตามข่าวอากาศประจำวันจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย ประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจเกิดพายุฤดูร้อนได้ในระยะครึ่งแรกของเดือน โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก จึงขอให้ดูแลสิ่งปลูกสร้างให้แข็งแรงไว้ด้วย </TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF></TD><TD class=PRF>ออกประกาศ 01 เมษายน 2553</TD><TD class=PBR></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>

 

ภัยธรรมชาติที่รู้สึกได้ชัดมากๆ ทุกวันนี้คือความร้อน ความแล้งค่ะ

 

คนใดใช้ชื่อไทยอยู่

เรื่องที่ผ่านมา ทำให้นึกถึงเพลงนี้

คนใดใช้ชื่อไทยอยู่
กายก็ดูเหมือนไทยด้วยกัน

ได้อาศัยโพธิทองแผ่นดินของราชันย์
แต่ใจมันยังเฝ้าคิดทำลาย

คนใดเห็นไทยเป็นทาส
ดูถูกชาติเชื้อชนถิ่นไทย

แต่ยังฝังทำกินกอบโกยสินไทยไป
เหยียดคนไทยเช่นทาสของมัน

(สร้อย) หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน
คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน

คนใดยุยงปลุกปั่น
ไทยด้วยกันหวังให้แตกกระจาย

ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย
เพื่อคนไทยแบ่งฝ่ายรบกันเอง

คนใดหลงชมชาติอื่น
ชาติเดียวกันเขายืนข่มเหง

ได้สินทรัพย์เจือจานก็ประหารไทยกันเอง
ที่ชาติอื่นเกรงดังญาติของมัน

(สร้อย) หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน
คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน

คนใดขายตนขายชาติ
ได้โอกาสชี้ทางให้ศัตรู

เข้าทลายพลังไทยให้สลายมางสู้
เมื่อศัตรูโจมจู่เสียทีมัน

คนใดคิดร้ายราวี
ประเพณีของไทยไม่ต้องการ

เกื้อหนุนอคติเชื่อลัทธิอันธพาล
แพร่นำมันมาบ้านเมืองเรา

(สร้อย) หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน
คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน