ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ผมไม่เชื่อในสิ่งที่คุณนิติภูมิเขียนว่ามันจะเป็นไปตามนั้น

    เหตุปัจจัยอีกหลายอย่างที่ทางคุณนิติภูมิไม่เคยได้เอาเข้ามาอธิบายร่วม
    1. ประเทศอื่นๆที่มีปัญหาเป็นเพราะเขายังมีวิบากกรรมที่มากอยู่หรือเปล่า
    2. ผู้คนของเขาเองมีศีลมีธรรมกันดีอยู่หรือเปล่า
    3. ประเทศของเขามีพระมหากษัติรย์ที่มีธรรมสูงเท่าของในหลวงเราหรือเปล่า
    4. เขามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์(เทพเทวาพระเกจิอาจารย์)คอยช่วยปกป้องดูแลเหมือนประเทศเราหรือเปล่า
    5. เขามีนักปฏิบัติธรรมมากๆเหมือนกับของเราหรือเปล่า
    6. อื่นๆอีก

    ผลทุกอย่างเกิดจากเหตุแต่ไมใช่แค่เหตุเพียงไม่กี่อย่างแล้วสรุปเอาว่าต้องเกิดผลอย่างนี้ดูมันขาดน้ำหนักไปหน่อย
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บทความของคุณนิติภูมิ นวรัตน์ วิเคราะห์ไปตามหลักเศรษฐศาสตร์เท่านั้น ไม่ได้นำปัจจัยด้านอื่นๆ เข้ามาประกอบกันไปด้วย จึงไม่ตรงตามความเป็นจริงซะเลยทีเดียว แต่ก็มีส่วนที่ถูกต้องอยู่บ้างเหมือนกัน

    ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงจริงๆ คือปัญหาเรื่องสงครามจากการแย่งชิงทรัพยากรทางธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งผลิตอาหาร น้ำมัน ก๊าซ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่างๆ ในการดำรงชีวิต ที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากปัญหาโลกร้อน ทำให้ลมฟ้าอากาศวิปริตแปรปรวนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ไม่สามารถเพาะปลูก ผลิตอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของคนทั้งโลกนี้ได้

    ประเทศที่กำลังทางทหารมากกว่า ก็จะส่งกองทัพเข้ามายึดครองทรัพยากรที่จำเป็นต่างๆ ของประเทศที่มีกำลังทางทหารที่ด้อยกว่า เพื่อเอามาเลี้ยงดูประชากรในประเทศของตนเองให้เพียงพอแก่ความต้องการ คล้ายๆกับปัญหาการแย่งชิงน้ำของเกษตรกรทางภาคอีสานของไทย ที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างหนักอยู่ในขณะนี้

    ประเทศไทยเราเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก มีข้าวปลาอาหาร พืขผักผลไม้อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ทำให้ไม่รู้ถึงความทุกข์ยาก อดอยากขาดแคลนอาหาร หรือความหิวโหยของคนในประเทศ ที่ประสบกับภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง จนไม่สามารถผลิตอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของคนในประเทศของตนได้

    เมื่อประเทศไทยอ่อนแอ เพราะคนในประเทศมัวแต่มาทะเลาะกัน ก็จะเป็นเหตุให้ประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่หวังดีฉวยโอกาสตอนที่เราไม่ทันระวังตัว ส่งกองทัพเข้ามายึดครองพื้นที่ตามชายแดนไทยได้โดยง่าย ประเทศไทยอาจต้องถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนตามที่คุณนิติภูมิบอกเอาไว้ก็เป็นได้ แต่ถ้าคนในประเทศไทยตระหนักรู้ถึงภัยอันตรายอันใหญ่หลวงนี้ เลิกทะเลาะกัน หันหน้ามาสามัคคีกัน ก็จะไม่มีประเทศไหนที่จะมายึดครองประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

    แต่ปัญหามันก็อยู่ที่ว่า แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ เพื่อให้คนไทยมีความสามัคคีกันได้เหมือนเดิม?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ร้อยเอ็ด-แล้งหนัก ต.อุ่มเม้า ขาดน้ำกินน้ำใช้ 15 หมู่บ้าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภัยแล้ง จ.ร้อยเอ็ด ขยายวงกว้าง ประชาชนในเขต ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตร จำนวน 15 หมู่บ้าน เดือดร้อน 7,523 คน เนื่องจากแหล่งน้ำที่ใช้ในการทำน้ำประปาแห้งขอด

    โดยความแห้งแล้งหนักที่สุดที่บ้านป่าสุ่ม หมู่ 7 ซึ่งขอน้ำประปาหมู่บ้านมาหลายปีแล้วแต่ไร้การเหลียวแล ต้องขอน้ำจากเทศบาลตำบลอุ่มเม้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552 กว่า 30 เที่ยว สิบตรี ไพฑูรย์ สุทธิประภา กรรมการหมู่บ้านป่าสุ่ม บอกว่าชาวบ้านขาดน้ำดื่มน้ำใช้ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากไม่มีประปาหมู่บ้าน ทั้งๆที่ขอไปตั้งแต่ปี 2550 แต่ไร้การเหลียวแลจากการประปาส่วนภูมิภาค และมาทราบภายหลังว่ามีผู้อำนาจโยกประปาหมู่บ้านป่าสุ่มไปอยู่ที่บ้านยางน้อย หมู่ 10 แทนทั้ง ๆ ที่ไม่เคยขอ วอนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยด้วย ช่วงนี้ต้องขอขอบคุณเทศบาลตำบลอุ่มเม้าที่นำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านแทบทุกสัปดาห์ ​

    ด้านนายหิรัญ นนทภา นายกเทศมนตรีตำบลอุ่มเม้า กล่าวภายหลังนำคณะสื่อมวลชนไปดูสาเหตุที่ชาวบ้านตำบลอุ่มเม้า ประสบปัญหาภัยแล้งไม่มีน้ำกิน-น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากฝายกั้นลำน้ำห้วยกุดแคน หมู่ 4 บ้านนาคำ ต.อุ่มเม้า ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำระยะทางกว่า 8 ก.ม.รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำธวัชชัย อ.ธวัชบุรี ผ่านหมู่บ้าน พังเสียหายมาตั้งแต่ปี 2550 ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังชลประทานร้อยเอ็ดหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้รับการเหลียวแล​

    เบื้องต้นชาวบ้านนำกระสอบทรายไปปิดกั้นเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้แต่ก็ต้านกระแสน้ำไม่ได้ ประกอบกับมีชาวบ้านที่เห็นแก่ตัวลักลอบมาพังฝายจนไม่มีน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรในหน้าแล้ง ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซ่อมฝายให้อยู่ในสภาพเดิมด้วย เพราะในอนาคตเทศบาลตำบลอุ่มเม้ามีนโยบายจะพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงามเพราะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ​

    รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้จังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่ประสบภัยแล้งจำนวน 16 อำเภอ 143 ตำบล 1,525 หมู่บ้าน สำหรับอำเภอที่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งแล้วมีอำเภอเมือง,จังหาร, โพธิ์ชัย, เชียงขวัญ, โพนทอง, หนองพอก, เมยวดี, เสลภูมิ, อาจสามารถ,, ทุ่งเขาหลวง, ธวัชบุรี, เมืองสรวง, สุวรรณภูมิ, โพนทราย, เกษตรวิสัย, , และศรีสมเด็จ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 82,290 ครัวเรือน จำนวน 314,618 คน​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2553​

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    นายนิติภูมินี่ถือว่าเป็น....นอสตราดาโม้ดวงหนึ่งของประเทศไทย นะครับ

    บางเรื่องก็พูดดีมีสาระ บางเรื่องตีไข่ใส่สี บางเรื่องก็ไปลอกตำราต่างประเทศ
    แถมยังเป็นคนประเภท 2 สี วันก่อนเหลือง วันนี้แอบมาเป็นแดง ตามกระแส น่ะครับ

    แต่ที่แน่ๆถูกป้าเช็งด่า.....เพราะเป็นพวกสิบแปดมงกุฏ....ครับ

    เรื่องนี้ใครมีคลิปเสียงก็จะรู้เองว่าจริงหรือไม่....เพราะในอินเตอร์เนทเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมา...ดังมาก

    แต่ไม่ว่าจะเป็นความเห็นของใครก็ช่างเค้าเถอะ ครับ.....
    เราเป็นพุทธบริษัท ใช้โยนิโสมนสิการ ตรึกตรองข้อมูลที่ผ่านเข้ามาเป็นดีที่สุด
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประกาศเตือนภัย
    "พายุฤดูร้อน"

    [​IMG]

    ฉบับที่ 8 (39/2553) ลงวันที่ 26 มีนาคม 2553

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก และ อุณหภูมิจะลดลงอีก 4-6 องศา ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่ทำให้ต้นไม้หักโค่น และป้ายโฆษณาหรือที่พักอาศัยได้รับความเสียหายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 26-28 มีนาคมนี้

    สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ไว้ด้วย

    ที่มา www.tmd.go.th/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  6. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    เมื่อประมาณ 1,600 - 2,000 ปีที่แล้ว หรือในราวพุทธศตวรรษที่ 8 ภูมิสัญฐานธรณีของพื้นดินในปริเวณนี้ เป็นแนวสันทรายทะเลตม น้ำทะเลขึ้นสูงกว่าในปัจจุบันราว 10 เมตร น้ำทะเลท่วมถึงนครปฐมและค่อยงวดลงมาเมื่อราว 1,000 ปีที่แล้ว หรือในราวพุทธศตวรรษที่ 15 ลงมา


    [​IMG]
     
  7. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    แฟนเพื่อนข่มขืน.....อ่านนะ ต้องอ่าน....
    (จะไม่ส่งต่อก็ดูใจดำไปหน่อย)

    เพื่อนๆคะ
    เรามีเรื่องอยากเล่าไว้เพื่อเตือนใจลูกผู้หญิงทุกคน
    ช่วยฟอเวิดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นะคะ
    เราอยากให้เราเป็นรายสุดท้าย...

    เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดว่า
    เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองทุกครั้งที่เราได้รับFWD
    เมลมาเราเกิดความรู้สึกรำคาญและกดลบทิ้ง
    ทำให้เวลามีการเตือนอะไรเราก็ไม่เคยสนใจไม่เคยรับรู้ว่ามี'
    ภัยสังคมรอบตัว

    เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเราไปรู้จักผู้ชายคนนี้ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งโดย
    บังเอิญเราไปกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนทั้งๆ
    ที่ปกติเราก็ไม่ได้เป็นคนเที่ยวกลางคืนนะ
    แต่วันนั้นเรามีนัดพบเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันนาน
    และเสียงโหวตของคนอยากไปที่นี่ก็มากกว่า
    เราก็เลยต้องไปเจอเพื่อนที่นั่นทั้งๆที่ไม่ได้อยากไปเลย
    เพื่อนเราหลายคนก็พาแฟนมาเปิดตัวซึ่งเราเองไม่เคยมีแฟน
    เราไปคนเดียวก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนไม่เจอกันนาน
    แต่เราก็นั่งได้ไม่นานเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้านเพราะว่าเหม็นกลิ่นบุหรี่มาก
    (เราเป็นภูมิแพ้)และเราก็ไม่ชอบเสียงหนวกหู
    พูดกันก็ต้องตะโกนอ่ะเลยบอกเพื่อนๆว่า
    ขอตัวกลับก่อนเอาไว้วันหลังค่อยเจอกันใหม่
    แฟนเพื่อนเราคนหนึ่งก็อาสาเดินออกไปส่งขึ้นแท็กซี่
    เพราะว่าไม่อยากให้เราเดินคนเดียวออกจากร้านไป
    เพราะเราไม่คุ้นสถานที่เลย และร้านนี้ก็ไกลจากบ้านมากๆ

    แต่พอเราเดินออกมาจากร้านไม่นาน รู้สึกตัวอีกที
    เราก็ตื่นขึ้นมาอีกทีอยู่บนเตียงในโรงแรมแล้ว....
    เรามองตัวเอง...ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน...เนื้อตัวเป็นจ้ำๆ
    เรารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรายังกะหนังไทยเลยเนอะ
    แต่มันคือเรื่องจริงนี่คือตัวเรานี่เราหรือเนี่ย...
    เราไม่คิดว่าครั้งแรกของเราที่ทนุถนอมมากว่ายี่สิบปีจะต้องมอบให้แก่สัตว์
    นรกตัวนี้ เรารวบรวมสติได้ในเวลาอันรวดเร็ว
    บอกกับตัวเองว่าเราไม่สามารถย้อนเวลาคืนมาได้แล้ว
    เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นกับเราอีก
    ถ้านรกตัวนี้ตื่นขึ้นมา...
    เราอาจจะถูกมันข่มขืนอีกก็รอบได้
    เราเลยรีบแต่งตัวแล้วหวังจะออกจากโรงแรมให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะตื่น
    เราจะวิ่งๆๆเอาร่างอันโสมมของเราไปให้พ้นจะสถานที่แห่งนี้ให้ได้

    เราจะต้องเอาเรื่องมัน เราจะบอกที่บ้านอย่างไรดี....
    ป่านนี้พ่อแม่เราจะห่วงขนาดไหนที่ลูกไม่กลับบ้านทั้งคืนโดยไม่ติดต่ออะไร เลย
    เราจะแจ้งความดีไหมเพื่อนเรารู้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น
    สารพัดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของเรา

    ทันใดนั้น..เราก็เห็นโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของมัน
    เราเลยรีบคว้าติดตัวออกมาด้วยหวังเป็นหลักฐานให้รู้ชื่อ
    สกุลว่ามันคือใครที่อยู่
    เบอร์มือถือที่จะติดต่อเอาเรื่องมันได้เมื่อเราแต่งตัวเสร็จ
    เราเลยคว้าเอาออกมาด้วย

    ระหว่างทางที่นั่งแทกซี่เราร้องไห้ตลอดทางจนคนขับถามเราว่า
    'หนูๆเป็นอะไรรึปล่าว'เราได้แต่ตอบไปว่าไม่ได้เป็นอะไร
    เพิ่งเลิกกับแฟนเฉยๆ(จะให้เราบอกอย่างไร ว่าเราเพิ่งถูกข่มขืนมา...)

    ระหว่างนั้นเราได้ยินเสียงคนขับหวังดีคอยพูดปลอบใจเราแต่ฟังไม่ได้ศัพท์
    เท่าไรนักเพราะในใจครุ่นคิดแต่เรื่องที่เราจะต้องบอกพ่อแม่เมื่อ
    เรากลับถึงบ้านให้ได้ว่าเราเป็นอะไร
    ทำไมไม่กลับบ้านเรา...ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

    เราบอกให้คนขับแวะร้านขายยาซื้อโพสตินอร์มา
    เราไม่เคยคิดเลยว่าเราเองคนนี้นะหรือ
    ที่เคยรู้สึกภาคภูมิใจกับความบริสุทธิของตัวเอง
    เรานี่หรือที่เคยรู้สึกเย้ยหยันลูกผู้หญิงด้วยกันเวลาที่พบกระทู้ตามเวบ
    บอร์ดว่าาอะไรกินป้องกันการท้องหลังการมีเพศสัมพันธ์ได้

    เราเคยขยะแขยงคนเหล่านี้เพราะมองแต่เพียงว่า
    เขาเหล่านั้นไม่รักนวลสงวนตัวรักสนุกเพียงชั่ววูบ
    แต่ก็เรานี่แหละที่วันนี้ต้องกลับมาเป็นฝ่ายกล้ำกลืนบอกคนขายยาว่าต้องการ
    ยาโพสตนอร์...

    คนขายหยิบให้เราด้วยคำพูดว่า'น้อง..
    ทีหลังกินยาคุมดีกว่านะมดลูกจะได้ไม่พัง'
    ด้วยสายตาเหยียดหยามอยู่ไม่น้อย...
    แล้วเราจะทำอย่างไร..เราจะบอกเขาได้อย่างไร
    ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเรา..
    เราได้แต่ก้มหน้ารับสภาพไป.....

    เราขึ้นแทกซี่คันเดิมที่จอดรออยู่ให้ขับส่งไปถึงที่บ้าน
    เมื่อถึงบ้านวันนั้นเป็นวันเสาร์
    พ่อแม่เราไม่ได้ออกไปทำงานเรารีบบอกพ่อแม่ว่าเป็นลม
    มีคนนำส่งรพ.ติดต่อพ่อแม่ไม่ได้นี่เพิ่งฟื้นกลับมา
    พอดีในกระเป๋ามีเบอร์เพื่อนที่รพเขาเลยตามเพื่อนมาได้คนนึง
    มารับตัวและจ่ายค่ารักษาไปแล้ว
    เราไม่รู้ว่าเขาเชื่อหรือไม่แต่เราคิดออกได้เท่านี้จริงๆ...
    และรีบบอกพ่อแม่ว่าขอไปนอนพักที่ห้องนอนก่อน

    พอขึ้นห้องนอนเรารีบหยิบเอามือถือและกระเป๋าสตางค์ของนรก
    นั่นออกมาดู แล้วเราก็ต้องตกใจที่พบว่าตัวเองเป็นกำลังเป็น
    นางเอกคลิปวิดิโออยู่

    มัน...มันถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่ออะไร
    เพื่ออวดคนเพื่อแบลคเมล์เราหรืออะไร..
    และไม่ใช่แค่เราคนเดียวยังมีเพื่อนเราในนั้น
    มีคนอีกเกือบสิบคนที่ตกในสภาพเดียวกับเรา
    นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนเราคนนี้พยายามคะยั้นคะยอนัดพบเพื่อนเก่าเพื่อ
    ให้แฟนตัวเองได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆหรือปล่าวเนี่ย

    เราเลยโทรไปถามเพื่อนเรา
    เหมือนเพื่อนเราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมันไม่ยอมรับโทรศัพท์
    และเลิกติดต่อกับเราอีกเลยเล่ามาถึงจุดนี้

    อยากให้เพื่อนๆทุกคนระวังตัวให้ดีอย่าไว้ใจเพื่อนตัวเอง
    อย่าให้ใครไปส่งเราตามลำพังและหากเกิดอะไรขึ้นต้องมีสติ
    หากมีโอกาสหยิบมือถือหรือกระเป๋าสตางค์มันออกมาพร้อมกับตัวด้วยก็
    ได้เผื่อจะได้มีหลักฐานให้รู้ว่ามันคือใคร

    เรากล้าพิมพ์เพราะเราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
    ตอนนี้เรากำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกา
    ป้าเรามีร้านอาหารที่นี่และคิดว่าจะทำงานที่นี่เลย
    คงไม่ต้องได้พบเจอกับมันอีกเราจึงกล้าเล่าให้ฟัง
    และมันก็คงทำมาเยอะจนจบมือใครดมไม่ได้หรอกว่าเราคือใครเว้นแต่จะถามจาก
    เพื่อนเรานั้นแต่เราส่งข้อความไปให้เพื่อนเราว่า
    ถ้ามันบอกว่าเราคือใคร
    เราก็จะเอาคลิปของมันออกเผยแพร่เช่นกัน
    เราขู่มันไปให้สมกับความชั่วที่มันทำกะเรา
    เราก็ไม่แคร์แล้วเพราะว่าเรามีหลักฐานคือ
    คลิปวิดิโอที่พร้อมเล่นงานมันทุกเมื่อ
    นี่ก็อีกภัยพิบัติ แต่ไม่ขอแสดงหน้าเขานะครับ
     
  8. พรหลวงพ่อ

    พรหลวงพ่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,286
    ประเทศไทยไม่มีทางที่จะถูกแบ่งแยกได้แน่นอนผมเชื่อแบบนั้น
     
  9. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เรียน ผู้มีเกียรติทุกท่าน


    ขอนัดหมาย เวลาประชุม วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2553
    เวลา 10.30 น. ณ ชั้น 13 ฝ่ายข่าว ทีวีไทย อาคารชินวัตร 3 (สสท.)


    ไตรภพ (อ.เข้ม)
    089-700-1130

    (ร่าง)
    การหารือ แลกเปลี่ยน เชิงยุทธศาสตร์ เพื่อ เปลี่ยน (อนาคต) ประเทศไทย
    สู่สังคมคุณภาพและคุณธรรม ด้วยศาสตร์พระราชา

    ผู้ร่วมหารือ
    ๑. ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร - ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
    - ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
    มูลนิธิเศรษฐกิจพอเพียง
    - ประธานอำนวยการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
    มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์

    ๒. ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ เลขาธิการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง

    ๓. คุณจิรา บุญประสพ ทีวีบูรพา

    ๔. คุณอนุกูล สอนเอก นักปีนเขาเอเวอร์เรส / โครงการสำรวจลุ่มน้ำเจ้าพระยา
    โดยเรือคยัค ๕๐๐๐ กิโลเมตร

    ๕. อาจารย์ไตรภพ โคตรวงษา ผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
    มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
    สมาชิกสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ (สสท.)

    ประเด็นหารือ

    ๑. ยุทธศาสตร์ ทีวีไทย (สื่อสาธารณะ) กับการเปลี่ยน (อนาคต)
    ประเทศไทยสู่สังคมคุณภาพและคุณธรรม ด้วยศาสตร์พระราชา โดยพลังเบญจภาคี (ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและสื่อ)

    ๒. ทีวีไทย (สื่อสาธารณะ) โดดเด่น เป็นกลาง แตกต่าง ทางออกประเทศไทย บทบาทสื่อผู้นำพาสังคม ออกจากวิกฤติ (วิกฤติ ๔ ประการ สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ วิกฤติโรคระบาดในพืช ในสัตว์ ในคน วิกฤติเศรษฐกิจ(ข้าวยากหมากแพง) วิกฤติการเมืองการปกครอง) สู่สังคมคุณธรรม และเพื่อประโยชน์สุขของ (สาธารณะ) มหาชน


     
  10. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    กลุ่มคนที่คิดคดทรยศชาติ และสถาบัน ต้องมีอันเป็นไปทุกคน
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ภัยแล้งรุนแรง (ระดับ 4) ในประเทศไทย

    2010-03-27 04:02:56 - Drought - Thailand

    EDIS CODE: DR-20100327-25475-THA
    Date & Time: 2010-03-27 04:02:56 [UTC]
    Area: Thailand, , Statewide,
    !!! ALERT !!!
    Damage level: Serious (Level 4)

    Not confirmed information!
    Description:

    Thai officials said Friday disaster areas have been declared in 53 provinces due to water shortages brought on by a severe drought. The Interior Ministry's Disaster Prevention and Mitigation Department said a total 1,755,100 households, or 6,482,602 people, have been affected by the extreme dry season, the Bangkok Post reported Friday. The drought has also caused damage to 58,300 acres of farmland in the 53 provinces, officials said. The officials said rescue workers with the department have distributed 20.6 million gallons of water in the area and performed installations, repairs and upkeep on 3,645 weirs, 3,985 reservoirs and 689 water pumps.
     
  12. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    27 มี.ค. 53


    ตลาดถูกปิด-------ใครสั่งปิด-------ขอคำตอบ
    ช่วยวานบอก------ชาวประชา------น่าสงสัย
    หรือเพราะว่า------ของขายดี-------จึงปิดไว
    ผมจะได้----------ซื้อของตุน------เก็บไว้กิน



    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    5 หน่วยงานจัด ฮ.เสริมทัพทางอากาศ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ก.สธ. จับมือกับ 5 หน่วยงานใหญ่ ลงนามปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินด้วยอากาศยาน หวังเสริมทัพโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ 100 ลำ กู้ชีพฉุกเฉินหากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบของบ้านเมือง

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามข้อตกลงร่วมใช้เฮลิคอปเตอร์ด้านการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศกับ 5 หน่วยงานใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กองทัพ รวมไปถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งทั้ง 5 หน่วยงานนี้ตกลงที่จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการเสริมทัพทางอากาศ หากเกิดสถานการณ์การเมืองฉุกเฉิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก ระดมเฮลิคอปเตอร์ถึง 101 ลำ ประกอบด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 35 ลำ กระทรวงทรัพย์ฯ 15 ลำ กองทัพ 50 ลำ และเอกชนอีก 1 ลำ ดูแลการแพทย์อย่างเต็มที่

    ทั้งนี้ทั้ง 5 หน่วยงานจะออกปฏิบัติการทันที หากกระทรวงสาธารณสุขร้องขอ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ในภาวะเร่งด่วนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีทีมแพทย์ฉุกเฉิน และพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขสมทบในการปฏิบัติทางเฮลิคอปเตอร์ทุกครั้งในการลำเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล อีกทั้งสามารถร่วมสมทบช่วยผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย ซึ่งสามารถประสานงานผ่านสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มทันทีวันนี้

    สำหรับสถานการณ์การชุมนุมนายจุรินทร์ เผยตัวเลขผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ถึงเที่ยงคืนวันที่ 25 มีนาคม มีผู้ป่วยจากการชุมนุม 185 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด และท้องเสีย แล้วพบว่ามีผู้ป่วยอีก 9 คน ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เหตุจากการทะเลาะวิวาท และปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน รวมไปถึงผลกระทรวงจากการโดยสะเก็ดระเบิด M-79 พบโรงพยาบาลราชวิถี 1 คน, วชิระพยาบาล 1 คน, โรงพยาบาลกลาง 1 คน, โรงพยาบาลพระมงกุฎ 2 คน, โรงพยาบาลตำรวจ 2 คน, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น 1 คน, และโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 1 คน

    อย่างไรก็ตามนายจุรินทร์ ยังได้ย้ำเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม หากรู้ตัวว่าป่วยเป็นไข้หวัด ควรหลีกเลี่ยงการชุมนุมโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะนำไปสู่การแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ขณะนี้พบว่ามีสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ติดเชื้อแล้ว ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในการทำข่าวการชุมนุมที่ผ่านมา โดยเชื่อว่ายังมีผู้ป่วยอีกหลายคนที่ติดเชื้อนี้ แต่ไม่แสดงอาการ

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2010
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พิจิตร-นาข้าวเริ่มแห้งตาย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    นาข้าวชาวนาหลายพื้นที่เริ่มขาดน้ำ ในขณะที่ชาวนาบางราย ว่าจ้างแบคโฮ ขุดลอกร่องน้ำยื้อชีวิตต้นข้าว

    สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดพิจิตร ชาวนาบางรายในตำบลสายคำโห้ อำเภอเมือง พิจิตร ก็ถึงกับต้องว่าจ้างรถแบคโฮ มาขุดร่องน้ำ เพื่อให้น้ำไหลไปใกล้ที่นาของตนเองให้มากที่สุด เพื่อจะสูบน้ำเข้านาเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าว หลังจากที่ในขณะนี้นาข้าวจำนวนมาก โดยเฉพาะในที่ดอน เริ่มขาดน้ำแล้ว เนื่องจากน้ำผิวดินในขณะนี้จนหมดสิ้น และบางแห่งน้ำใต้ดินสูบไม่ขึ้น ทำให้นาข้าวจำนวนมากกว่า 5 หมื่นไร่ เริ่มยืนรอต้นตาย หากยังไม่มีฝนตกลงมาในช่วงนี้

    สำหรับจังหวัดพิจิตร ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยแล้งทั้ง 12 อำเภอ 65 ตำบล 586 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 26,408 ครัวเรือน นาข้าวได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง 150,000 ไร่เศษ และพืชไร่อีกกว่า 4 หมื่นไร่ ซึ่งการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้นทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ ได้นำน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ไปแจกจ่ายช่วยเหลือกว่า 1 ล้านลิตร

    ข่าวทีวีชอง 3 วันเสาร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พายุฤดูร้อนพัดถล่มสตูล บ้านเรือนพังเสียหายอื้อ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

    เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล และพื้นที่ อ.ควนโดน ทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายหลายหลังคาเรือน จนท.เร่งออกช่วยเหลือแล้ว..

    เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่ อ.ควนโดน จ.พัทลุง ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะที่บ้านของนางบีบี มาลินี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.1 ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล เสียหายเกือบทั้งหลัง และยังมีบ้านเรือนชาวบ้านถูกพายุพัดเสียหายบางส่วนอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย

    ส่วนในพื้นที่ ม.6 ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน ถูกพายุพัดเสียหาย 1 หลัง นอกจากนี้พายุยังได้พัดบ้านพักตำรวจ สภ.ควนโดน หลังคาปลิวว่อน และพัดเต็นท์ที่จอดรถยนต์ของ พ.ต.ท.กฤษณะ พรรณรักษ์ รอง ผกก.สภ.ควนโดน ทำให้เต็นท์พังทับรถยนต์กระบะ ได้รับความเสียหาย

    ขณะที่ในพื้นที่ ม.1, 4, 6,7 ในเขตเทศบาล ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล พายุพัดบ้านเรือนพัง จำนวน 10 หลัง นายสมหมาย ละใบสะอาด นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล เร่งนำสิ่งของไปช่วยเหลือแล้ว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เรือรบเกาหลีใต้จมลูกเรือสูญหาย 40 คน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    เรือรบโชนันระวางน้ำหนัก 1,200 ตัน ของกองทัพเรือเกาหลีใต้ ซึ่งมีลูกเรือ 104 คน จมลงในทะเลเหลือง ใกล้เกาะแบงเนียง นอกชายฝั่งตะวันตกของประเทศ บริเวณใกล้เขตน่านน้ำรอยต่อกับเกาหลีเหนือเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังเกิดการระเบิดเป็นรูกว้างที่ใต้ท้องเรือด้านท้ายลำ โดยไม่ทราบสาเหตุ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เรียกประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กองทัพกล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้เกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า ลูกเรือบางส่วนได้รับความช่วยเหลือปลอดภัย แต่ยังมีสูญหายอีกประมาณ 40 คน กองทัพเรือเตรียมส่งทีมกู้ภัยนักประดาน้ำ ดำลงในตอนเช้าตรู่ของวันนี้ (27 มี.ค.) เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ รวมทั้งอาจจะกู้ศพลูกเรือที่เสียชีวิต

    ด้านโฆษกกองบัญชาการคณะเสนาธิการทหารร่วม (เจซีเอส) กล่าวว่า ไม่สามารถยืนยันรายงานของสำนักข่าวยอนฮับได้ เพียงแต่ได้รับรายงานลูกเรือโชนันสูญหายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตัวเลขความสูญเสียอย่างเป็นทางการ จะมีการประกาศในช่วงบ่ายของวันนี้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยิงถล่มธนาคารกรุงเทพ สาขาพะเยา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

    เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 มี.ค. พ.ต.ท.เกียรติพงษ์ คำปินใจ สารวัตรเวร สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา รับแจ้งจากนายมัส ปินใจ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาดอกคำใต้ ถนนสายดอกคำใต้-พะเยา ใกล้กับตลาดในเขตชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก. พ.ต.ท.วิทยา อุตบุรี รองผกก.สส. พ.ต.ท.วิสิษฐ์ นิวาส นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.พะเยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นอาคารของธนาคาร ด้านหน้าติดกับถนนเป็นคอนกรีตสูงและด้านบนสุด มีรูปครุฑบนพื้นคอนกรีตสีน้ำเงินส่วนตัวอาคารส่วนใหญ่เป็นสีขาว
    จากการตรวจสอบรูปครุฑพบที่ผนังคอนกรีตสีขาว มีคราบเขม่าของดินระเบิดเป็นบริเวณกว้าง 2 แห่ง ส่วนบนพื้นสีน้ำเงินมีจุดที่ถูกสะเก็ดระเบิดและรอยกระสุนปืนยิงเป็นจุดๆ จนคอนกรีตกระเทาะออกมาเห็นด้านในสีขาวชัดเจน และรอยกระสุนยังกระจายไปตามตัวอาคารด้านหน้าซึ่งอยู่ติดกับถนน นอกจากนี้ยังมีกระจกชั้นบนตัวอาคารทั้งชั้นบนและล่าง ถูกกระสุนเจาะรวมกันกว่า 10 รู

    ตรวจสอบบริเวณถนน บนไหล่ทางของถนนซึ่งเป็นสี่ช่องจราจรในฝั่งตรงกันข้ามกับธนาคารห่างจากอาคารธนาคารประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 26 ปลอก เกลื่อนไปทั่วบริเวณ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนร่องรอยระเบิดนั้นยังไม่มีร่องรอยชัดเจนเหมือนกระสุนปืนซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด และมีหลักฐานที่พอจะตกในพื้นที่เกิดเหตุบ้างหรือไม่

    สอบสวนชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ได้ยินเสียงรถยนต์ไปจอดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามถนนกับธนาคาร จากนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จากนั้นจึงมีเสียงปืนยิงดังสนั่นสลับเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง แต่เนื่องจากเป็นช่วงกลางดึกและไม่ใช่ชุมชนหนาแน่นจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ รวมทั้งส่วนใหญ่ที่ได้ยินเสียงอยู่ระหว่างนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านจึงไม่กล้าออกมาดู เพราะเกรงจะถูกทำร้าย กระทั่งช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ธนาคารไปเปิดอาคารทำให้เห็นสภาพของธนาคารดังกล่าว ขณะที่ตำรวจขอเวลาในการตรวจสอบข้อมูลอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นสันนิษฐานของสาเหตุว่ามาจากการสร้างสถานการณ์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พม่าตะเพิดนักข่าวซีเอ็นเอ็นออกนอกประเทศ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

    ทางการพม่าสั่งเนรเทศนายแดน ริเวอร์ ผู้สื่อข่าวของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ออกนอกประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงข่าวสารพม่า ระบุว่า นายแดน ริเวอร์ ซึ่งเดินทางไปยังกรุงเนย์ปิดอว์ เมืองหลวงใหม่ของพม่า เพื่อรายงานข่าวการเฉลิมฉลองวันกองทัพพม่าที่จะมีขึ้นในวันนี้ (27 มี.ค.) จะถูกเนรเทศเนื่องจากมีชื่ออยู่ในบัญชีดำ ฐานรายงานข่าวจากพม่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในช่วงเดือน พ.ค. 2551 นอกจากนั้นริเวอร์ยังเป็นหนึ่งในผู้สื่อข่าวต่างชาติเพียงไม่กี่คน ที่รายงานข่าวอย่างเปิดเผย หลังเกิดภัยพิบัติพายุไซโคลนนาร์กิสถล่มพม่า ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 138,000 คน และถูกเนรเทศออกจากพม่าในเวลาไม่กี่วันหลังจากนั้น

    เจ้าหน้าที่พม่าเผยอีกว่า นายริเวอร์ได้รับอนญาตด้วยเหตุบังเอิญ ให้กลับเข้าไปในพม่าได้อีกครั้งในเดือนนี้ เนื่องจากเกิดความผิดพลาด ที่สถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ ที่เป็นฐานการทำงานของนายริเวอร์ในปัจจุบัน และล่าสุดนายริเวอร์ถูกส่งตัวจากกรุงเนย์ปิดอว์ ไปยังกรุงย่างกุ้งเมืองหลวงเก่า เพื่อรอการขับออกนอกประเทศ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นเมื่อใด.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับแล้ว-มืออาก้าถล่มทองหล่อ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 มี.ค. ที่สน.ทองหล่อ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต. อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.ทองหล่อ

    ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสนธยา จาดคล้าย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ซ.ประชาอุทิศ 21 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. และนายอภิชาติ จาดคล้าย อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.179/2553-180/2553 ลงวันที่ 25 มี.ค.53 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ,พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้พร้อมของกลาง เสื้อแจ๊กเกตสีดำ 1 ตัว เสื้อยืดสีดำ 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่ กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 7 นัด รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีน้ำตาลเข้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และหมวกนิรภัย สีดำ อีก 1 ใบ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ถล่มอาก้า - นายสนธยา จาดคล้าย และนายอภิชาติ จาดคล้าย สองพี่น้อง
    ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อจับกุม หลังร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้า
    ยิงถล่มบ้านนักธุรกิจ ย่านทองหล่อ โดยสืบจากหลักฐานภาพวงจรปิด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มที่บ้านเลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 และบ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม.

    ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสุพจน์ เตชะวิบูลย์ และนายสุรพงษ์ เตชะวิบูลย์ พี่น้องนักธุรกิจ โรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกล่องกระดาษ จ.พระนครอยุธยา จนได้รับความเสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.น.5 ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยาน เป็นหลักฐาน จนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงขออนุมัติหมายจับ ก่อนติดตามจับกุมตัวทั้ง 2 ไว้ได้พร้อมของกลาง

    จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังคงให้การภาคเสธ ว่าเป็นเพียงแค่คนดูต้นทางให้มือปืนเท่านั้น

    ซึ่งจากการทดลองนำเสื้อผ้าที่ยึดได้และเปรียบเทียบกับภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดแล้วใกล้เคียงกันมาก จึงส่งของกลางให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจหาเขม่าดินปืน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้จ้างวาน และผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป สำหรับสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการติดหนี้ธุรกิจที่มีวงเงินสูงถึง 80 ล้านบาท ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ถูกห้ามดื่มเหล้า-ผูกคอตาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

    เมื่อเวลา 07.10 น.วันที่ 27 มี.ค. ร.ต.ท.วรเทพ คำดี ร้อยเวรสภ.เมืองลำปาง รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้านลำปางกลางฝั่งตะวันตก หมู่ 3 ต.ปงแสนทอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับแพทย์เวรร.พ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเบญจรงค์ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม่มีเลขที่ อยู่ระหว่างก่อสร้าง ในบ้านพบศพนายประธาล พินธิสืบ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน ใช้เชือกผูกคอโยงกับขื่อในบ้าน เสียชีวิตมาประมาณ 4 ชั่วโมง พบจดหมายวางอยู่ เขียนถึงญาติว่า ในเมื่อดื่มเหล้าไม่ได้ก็ขอจบชีวิตด้วยความตาย
    สอบสวนนางเรือน พินธิสืบ อายุ 58 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกันให้การว่า ตนมาเก็บผักในสวนที่อยู่ติดกับบ้านผู้ตาย และสังเกตเห็นว่าเสียงเงียบไปอีกทั้งเสื้อผ้าที่เคยตากทั่วไปในบ้านถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อย จึงตะโกนถามแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงเดินเข้าไปดูถึงกับตกใจเมื่อพบว่า นายประธาลใช้เชือกผูกคอตายไปแล้ว จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบและมาตรวจสอบ ซึ่งนายประธาลเป็นคนดีขยันทำงานมีอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์ ที่มีฝีมือมากคนหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้เลิกรากับภรรยา ก็เสียใจมาโดยตลอดไม่ทำการทำงานเอาแต่กินเหล้าจนกระทั่งเป็นโรคประสาทอ่อนๆ ทางญาติก็ได้นำตัวไปรักษาที่ร.พ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ แต่ไม่หาย จนต้องแยกตัวมาสร้างบ้านอยู่คนเดียว ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และล่าสุดผู้ตายกลับมาจากการไปรักษาตัวที่ร.พ.สวนปรุง เนื่องจากโรคประสาทกำเริบ และกลับมาก็มาดื่มเหล้าอีกครั้ง โดยญาติต่างว่ากล่าวตักเตือนตลอดเวลา และครั้งสุดท้ายที่เห็นผู้ตายเมื่อช่วงดึกของคืนที่ผ่านมาผู้ตายเดินไปมาทั่วหมู่บ้าน จากนั้นกลับเข้ามาในบ้านก่อนจะมาผูกคอตายดังกล่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยิงถล่มธนาคารกรุงเทพ สาขาพะเยา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>

    เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 มี.ค. พ.ต.ท.เกียรติพงษ์ คำปินใจ สารวัตรเวร สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา รับแจ้งจากนายมัส ปินใจ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาดอกคำใต้ ถนนสายดอกคำใต้-พะเยา ใกล้กับตลาดในเขตชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก. พ.ต.ท.วิทยา อุตบุรี รองผกก.สส. พ.ต.ท.วิสิษฐ์ นิวาส นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.พะเยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นอาคารของธนาคาร ด้านหน้าติดกับถนนเป็นคอนกรีตสูงและด้านบนสุด มีรูปครุฑบนพื้นคอนกรีตสีน้ำเงินส่วนตัวอาคารส่วนใหญ่เป็นสีขาว
    จากการตรวจสอบรูปครุฑพบที่ผนังคอนกรีตสีขาว มีคราบเขม่าของดินระเบิดเป็นบริเวณกว้าง 2 แห่ง ส่วนบนพื้นสีน้ำเงินมีจุดที่ถูกสะเก็ดระเบิดและรอยกระสุนปืนยิงเป็นจุดๆ จนคอนกรีตกระเทาะออกมาเห็นด้านในสีขาวชัดเจน และรอยกระสุนยังกระจายไปตามตัวอาคารด้านหน้าซึ่งอยู่ติดกับถนน นอกจากนี้ยังมีกระจกชั้นบนตัวอาคารทั้งชั้นบนและล่าง ถูกกระสุนเจาะรวมกันกว่า 10 รู

    ตรวจสอบบริเวณถนน บนไหล่ทางของถนนซึ่งเป็นสี่ช่องจราจรในฝั่งตรงกันข้ามกับธนาคารห่างจากอาคารธนาคารประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 26 ปลอก เกลื่อนไปทั่วบริเวณ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนร่องรอยระเบิดนั้นยังไม่มีร่องรอยชัดเจนเหมือนกระสุนปืนซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด และมีหลักฐานที่พอจะตกในพื้นที่เกิดเหตุบ้างหรือไม่

    สอบสวนชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ได้ยินเสียงรถยนต์ไปจอดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามถนนกับธนาคาร จากนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จากนั้นจึงมีเสียงปืนยิงดังสนั่นสลับเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง แต่เนื่องจากเป็นช่วงกลางดึกและไม่ใช่ชุมชนหนาแน่นจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ รวมทั้งส่วนใหญ่ที่ได้ยินเสียงอยู่ระหว่างนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านจึงไม่กล้าออกมาดู เพราะเกรงจะถูกทำร้าย กระทั่งช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ธนาคารไปเปิดอาคารทำให้เห็นสภาพของธนาคารดังกล่าว ขณะที่ตำรวจขอเวลาในการตรวจสอบข้อมูลอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นสันนิษฐานของสาเหตุว่ามาจากการสร้างสถานการณ์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หมอดูอีที ทำนายจะเกิดการจราจลนานถึง 2 สัปดาห์ในประเทศไทย
    (เป็นเพียงคำทำนาย ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน)

    [​IMG]

    อีก 1 กลยุทธ์...ที่มักจะถูกนำออกมาใช้ในการต่อสู้...นั่นคือ คำพยากรณ์...ทุกฝ่ายจะใช้คำทำนายให้เป็นประโยชน์กับฝ่ายตน คำทำนายจะทำให้ไพร่พลนักรบ...มุ่งมั่นในชัยชนะ...คำทำนายทำให้ฮึกเฮิม...สงครามใหญ่ๆ หลายๆ ครั้งในอดีต...ประเทศ 2 ประเทศยกกองทัพเข้าหํ่าหันเพราะแต่ละฝ่ายต่างเชื่อในคำทำนายของ...หมอดูฝ่ายตน...ไม่มีใครเข้าทำสงครามทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้...ขณะนี้...ได้มีคำทำนายเกิดขึ้น...ว่ากันว่ามาจากหมอดูพิการชาวพม่า...ที่ลือกันว่าแม่นเหมือนจับวาง...ว่ากันว่า...นายเสนาะ เทียนทอง...ซึ่งมีบุคลิกที่ค้านกับการเชื่อในคำทำนาย...เคยลองของกับ หมอดูอีทีว่า...ถ้าแม่นจริงต้องทายตัวเลขในธนบัตรที่อยู่

    ในกระเป๋าสตางค์...เหมือนปาฏิหาริย์...หมอดูหญิงพิการ...จดตัวเลขส่งให้...ตัวเลขทุกตัวของหมอดูอีที...ตรงกันกับธนบัตรที่...นายเสนาะ เทียนทอง...ควักออกมาตรวจสอบไม่กี่วันก่อน...หมอดูอีที...ให้คำทำนายมากับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่บินไปพบในเมืองพม่า...และเมื่อถามถึงการเมืองในประเทศไทย หมอดูอีที...ได้พยากรณ์มาแล้วก่อนหน้าว่า ไทยกับกัมพูชาจะมีปัญหา และทำนายว่า ก่อนสิ้นปี 2552 ไทยกับกัมพูชาจะปะทะกันรุนแรงด้วยอาวุธ จะมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

    ส่วนในประเทศไทย...หมอดูอีทียืนยันจะมีสถานการณ์นองเลือดเกิดขึ้น ช่วงแห่งการต่อสู้ล้มตายจะกินเวลาประมาณ 2 สัปดาห์

    ปี 2553 จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่..โดยที่ฝ่ายทหารจะถอยห่างจากการเมือง...พรรคใหญ่ในขณะนี้จะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้ง แต่ฝ่ายต่อต้านจะยังมีอยู่ แต่ชั่วขณะหนึ่งก็จะโรยราหมดแรง เมื่อถามถึง ทักษิณ ชินวัตร...หมอพิการชาวพม่า...ฟันธงว่า..เมษายน 2553 ทักษิณ จะกลับมาอยู่ในประเทศไทย ก่อนวันสงกรานต์

    วิเคราะห์จาก...ปรากฏการณ์ปัจจุบัน...กับการขับเคลื่อนของแต่ละกลุ่มฝ่ายทางการเมือง...น่าห่วงว่าคำพยากรณ์น่าจะเป็นจริง...เสรีภาพที่อยู่เหนือตัวบทกฎหมาย...แผ่นดินจึงไร้กติกา...ถ้าการฆ่ากันระหว่างคนไทยกับคนไทย...เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้...ประชาชนคนไทยจะเหลือเท่าไหร่...จากยอด 64 ล้านคน...วันที่ เขมร กับ เขมร...ลุกขึ้นมาไล่ล่าเข่นฆ่ากัน...กว่า 3 ล้านชีวิต สิ้นสูญไป...ภาวนากันไว้ให้ดีๆ อย่าให้หมอดูอีที เธอทายแม่น

    โดยคุณ พญาไม้ 19 Nov 2552 19:55 น

    ที่มา http://www.bangkok-today.com/node/3341
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เมื่อช่วงเมษายนปีที่แล้วก็ทำนายว่าเมืองไทยจะนองเลือดคนตายมากแต่ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่
    เที่ยวนี้ทำนายอีกแล้วจะเชื่อได้อย่างไรครับ ผมว่าอนาคตังคะญานของหมอดูท่านนี้น่าจะ....เลยไม่แม่น
     
  20. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    มิจฉาวาจา...จากการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ
    Posted by indexthai , ผู้อ่าน : 4938 , 22:19:33 น.วันเสาร์ ที่ 26 กรกฎาคม 2551


    กลไกที่เกิดจากการที่ตลาดหุ้นตกหนัก
    1) สภาพคล่องของระบบจะเสียหาย สภาวะทางการเงินจะตึงตัว ทำให้ภาคการผลิตจริงล้มลง ตามมาด้วยสถาบันการเงินล้มลง คนตกงาน
    2) ทำให้ค่าเงินเสียหาย ประเทศไทยมีการผูกค่าเงินไว้ตายตัว จะทำให้ค่าเงินแข็งเกินจริง มีการขายหุ้นออกมามากขึ้น เพื่อได้เงินบาท เพื่อนำไปซื้อเงินเหรียญสหรัฐ (ทำให้ได้เงินเหรียญมาก / เพราะบาทแข็งเกินจริง) ยิ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นตกหนักลงไปอีก เงินบาทไม่ได้รับความเชื่อมั่น ทำให้คนทั่วไปและนักลงทุนทิ้งเงินบาทและทรัพย์สินในรูปเงินบาท
    3) ทำให้มูลค่าสินทรัพย์เสื่อมค่า หลักประกันเสื่อมค่า เงินเฟ้อสูง เกิดความยากจนทั้งระบบ หรือทั้งประเทศ
    เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับประเทศใด ก็เป็นแบบเดียวกันทุกประการ
    ตลาดหุ้นหากตกประมาณ 30 - 40 เปอร์เซนต์ถือเป็นเรื่องธรรมดา
    แต่หากตกเกิน 50 เปอร์เซนต์ เป็นเรื่องที่ผิดปกติ
    เหตุที่ตลาดหุ้นไทยตกแรงถึง 88 เปอร์เซนต์ เป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก เกิดจากเครื่องมือที่ผิดปกติ
    1) SET Index มีโครงสร้างที่ไม่ถูกต้อง จึงเบี่ยงเบนสูง อ่อนแอสูง และถูกปั่นได้ง่าย ไม่มีตลาดหุ้นใดในโลกที่ไม่ถูกปั่น เพียงแต่ตลาดหุ้นใดจะปั่นได้ง่ายและยากเท่านั้น
    2) การนำระบบ Maintenance margin และ Forced sell มาใช้ในปี 2536 ส่งผลให้มีการลากหุ้นไปเชือดในต้นปี 2537 มีการเทขายหุ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดการบังคับขายหุ้นนักลงทุนอย่างบ้าคลั่ง ซ้ำเติมให้ตลาดหุ้นตกหนักลงอีก
    3) การตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในปี 2528 เมื่อสภาพคล่องของระบบการเงินเสียหาย หรือสถาบันการเงินขาดสภาพคล่อง ทำให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ต้องอัดฉีดสภาพคล่อง(ปล่อยกู้)ให้สถาบันการเงิน
    ในที่สุดสถาบันการเงินไม่สามารถยืนอยู่ได้ ล้มลง ช่วงแรกล้มลง 54 แห่ง ทุกวันนี้สถาบันการเงินล้มลงแล้วกว่า 70 แห่ง เงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ปล่อยกู้ให้สถาบันจึงกลายเป็นหนี้เสีย ทางการจึงออกกฎหมายเข้าควบคุมสถาบันการเงินทั้งหลาย(ยึด) เอามาแปลงสภาพ และขายออก คนไทยซื้อได้น้อยมาก เนื่องจากไม่มีเงิน คนไทยต่างจนลงเพราะเงินบาทเสียหาย ต่างชาติจึงซื้อไปเป็นส่วนใหญ่ ทางการได้ตั้งป.ร.ส.มาจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ หนี้และทรัพย์สินถูกรวบรวมมาขายให้สำนักบริหารหนี้ต่างๆ
    แต่เงินที่ได้มาจากการขายทอดตลาดสถาบันการเงินที่เสียหาย ไม่พอใช้หนี้ที่ไปกู้เงินมาอัดฉีดสถาบันการเงิน ไม่พอที่จะคืนเงินฝากของผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินที่ล้มลง มีการออกพันธบัตรเงินกู้เพื่อกองทุนฟื้นฟูฯ หลายชุด นำไปคืนเงินกู้และผู้ฝากเงิน เป็นที่มาของหนี้สาธาณะประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท รวมกับหนี้สาธารณะที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ทำให้ปัจจุบันนี้มีหนี้สาธารณะประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท
    <TABLE style="WIDTH: 100%" cellSpacing=1 cellPadding=1 border=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตก 50 เปอร์เซนต์อย่างที่กล่าว แต่ตลาดหุ้นไทยตกถึง 88 เปอร์เซนต์ เหตุที่ตกแรงก็เนื่องจากเหตุผลที่กล่าวข้างต้น รวมทั้งการบริหารจัดการที่ไม่ถูกต้องตามมาภายหลังอีก
    Hedge Fund รู้กลไกเหล่านี้ทุกอย่าง
    รู้ว่าได้เกิดความเสียหายกับค่าเงินบาทแล้ว ค่าเงินบาทไม่ได้รับความเชื่อมั่น เขาก็ขายหุ้นออกตลอดเวลา ..ได้บาทมา ก็เอาไปซื้อดอลลาร์ ..ได้บาทมา ก็เอาไปซื้อดอลลาร์ ..ได้บาทมา ก็เอาไปซื้อดอลลาร์ ..เป็นที่มาของเงินไหลออกจากประเทศไทย ซ้ำเติมให้ตลาดหุ้นตกหนักลงอีก
    การนำระบบ Maintenance margin และ Forced sell มาใช้ ยิ่งหุ้นตกหนัก ก็ยิ่งมีการบังคับขายหุ้นนักลงทุนมากขึ้น ซ้ำเติมให้ตลาดหุ้นตกลงอีก
    สุดท้าย มีการลอยค่าเงินบาท พวก Hedge Fund จึงไม่เสียหาย แต่คนไทยเสียหายทั่วหน้าทั้ง 63 ล้านคน
    เงินไหลออกจากประเทศ ส่งผลให้ทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศลดลงตลอดเวลา
    ทุนสำรองฯของประเทศไทยเคยมีประมาณ 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
    เดือนมิถุนายน 2540 ก่อนลอยค่าเงินบาทหนึ่งเดือน ทุนสำรองของประเทศไทยเหลือประมาณ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ
    เดือนกรฎาคม 2540 เดือนที่มีการลอยค่าเงินบาท ทุนสำรองฯ การเงินระหว่างประเทศไทยเหลือต่ำสุด 1,144 ล้านเหรียญสหรัฐ
    ไทยต้องเข้าโครงการณ์ไอเอ็มเอฟ และได้มีการลอยค่าเงินบาทในวันที 2 กรกฎาคม 2540
    นั่นคือ ตลาดหุ้นนั่นเอง ที่เป็นต้นเหตุให้ประเทศไทยต้องเข้าโครงการณ์ไอเอ็มเอฟ ประเทศไทยเข้าโครงการณ์ไอเอ็มเอฟมา 2 ครั้งแล้ว เมื่อตลาดหุ้นตกหนัก สภาพคล่องของระบบเสียหาย ค่าเงินบาทเสียหาย ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ไหลออกจากประเทศไทยแทบหมด จึงเข้ารับความช่วยเหลือทางการเงินจากไอเอ็มเอฟในที่สุด โดยรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และทักษิณก็ได้ผลประโยชน์มหาศาลจากการซื้อดอลลาร์เก็บไว้ก่อนลอยค่าเงินบาท
    หลังจากการลอยค่าเงินบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนมาสู่ค่าที่แท้จริง ค่าเงินบาทตกจาก 26 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ลงมาที่ 56 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หรือเงินบาทอ่อนลงมากที่สุดถึง 54 เปอร์เซนต์
    หลังการลอยค่าเงินบาท เงินบาทก็หยุดไหลออก แล้วเปลี่ยนมาเป็นไหลเข้าแทน

    ......................

    เหตุที่ประเทศไทยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมดก่อนกำหนดถึง 2 ปี

    <TABLE style="WIDTH: 100%" cellSpacing=1 cellPadding=1 border=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    หลังจากพังทลายของตลาดหุ้นไทย 6 ปี ปี 2000 (2543) ปลายรัฐบาลชวน เกิดการพังทลายรุนแรงของตลาดหุ้นแนสแดกซ์ของอเมริกา ตลาดแนสแดกซ์ตก 78 เปอร์เซนต์

    เรื่องนี้อธิบายได้ด้วยกลไกเดียวกัน
    ตลาดหุ้นไทยตกแรง เงินไหลออกจากประเทศไทย
    ตลาดหุ้นสหรัฐตกหนัก เงินไหลออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ไหลออกมาท่วมโลก (และท่วมประเทศไทย)

    สภาพคล่องเสียหาย เอกชนและสถาบันการเงินล้มลงเช่นเดียวกัน
    http://www.oknation.net/blog/rivermoon/2008/07/27/entry-1

    เศรษฐกิจสหรัฐเป็นระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ใหญ่ที่สุดในโลก เงินก็ใหญ่และมาก ตลาดหุ้นสหรัฐตกแรง ทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐไม่ได้รับความเชื่อมั่น และไหลออกจากสหรัฐอเมริกา ไหลไปท่วมประเทศต่างๆทั่วโลก รวมทั้งไหลเข้ามาท่วมประเทศไทย
    ทำให้ทุนสำรองฯ ของประเทศต่างๆทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทุนสำรองฯของประเทศไทยก็เพิ่มขึ้น ประเทศใดที่เข้าโครงการณ์ไอเอ็มเอฟ เป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ สามารถนำไปใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด

    ทุนสำรองฯของไทย (รวมทองคำ)
    <TABLE style="WIDTH: 100%" cellSpacing=1 cellPadding=1 border=1><TBODY><TR><TD>ช่วงท้ายรัฐบาล


    </TD><TD>ทุนสำรองฯสุทธิ (ล้านเหรียญสหรัฐ)


    </TD></TR><TR><TD>พลเอกชวลิต ยงใจยุทร


    </TD><TD>8,962


    </TD></TR><TR><TD>นายชวน หลีกภัย


    </TD><TD>30,526


    </TD></TR><TR><TD>พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร


    </TD><TD>73,926


    </TD></TR><TR><TD>พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์


    </TD><TD>106,541


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย


    ทุนสำรองฯที่เพิ่มขึ้นเพราะการพังทลายของค่าเงินเหรียญสหรัฐ ไม่ได้เพิ่มขึ้นเพราะความเชื่อมั่นในรัฐบาลทักษิณแต่อย่างใด ทุนสำรองฯในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์เพิ่มมากกว่ารัฐบาลทักษิณเสียอีก

    ประเทศที่เข้าโครงการณ์ใอเอ็มเอฟในช่วงเวลาใกล้เคียงกับประเทศไทยได้แก่ อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ก็สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมดเช่นเดียวกัน

    การที่ประเทศไทยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด ก่อนกำหนด 2 ปี ไม่ใช่เป็นความสามารถของนายกคนใด สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามความผิดปกติในระบบเศรษฐกิจไทย และระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
    การใช้ไอเอ็มเอฟได้หมด ทักษิณเพียงสวมรอยแอบอ้างว่าเป็นฝีมือตนเอง
    ประเทศไทยและทักษิณก็ยังไม่ทราบเกิดอะไรกับระบบเศรษฐกิจไทย
    ทุกวันนี้การไม่ผูกค่าเงินบาทไว้ตายตัว หรือค่าเงินบาทอยูในระบบลอยตัว ทำให้อันตรายที่จะเกิดกับระบบเศรษฐกิจไทยน้อยลงแล้ว
    แต่ตลาดหุ้นและสิ่งผิดปกติในตลาดหุ้นไทย ยังคงเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจไทยเหมือนเดิม และมากกว่าเดิม
    ความเสียหายแบบเดิมๆก็จะหวนกลับมาสู่ประเทศไทยอีก


    นายกฯ ทักษิณ "พูดบ่อยครั้ง" แม้ขึ้นจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ท้องสนามหลวง กับกลุ่มนปก.ก็บอกว่า "เป็นความสามารถของเขาเองที่ทำให้มีการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด"
    การย้ำพูดบ่อยครั้ง ทำให้คนไทยทั้งประเทศจำฝังใจ ว่า นายกทักษิณเก่ง ที่สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด
    หนี้ไอเอ็มเอฟ 12,296 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5.4 แสนล้านบาท อัตราแลกเปลี่ยนที่ 44 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็นเงินไม่ใช่น้อย การใช้หนี้ไอเอ็มเอฟหมด เป็นเรื่องสะเทือนเลื่อนลั่นประเทศไทยแน่นอน เขาคือวีระบุรุษของประเทศไทย การใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด ไม่ใช่ฝีมืออะไรของเขา
    ที่ไม่พูดคือหนี้สาธารณะ ที่มีอยู่ประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท ไม่ได้มีทีท่าว่าจะทำให้ลดลงแต่อย่างใด ไม่เห็นทำให้หายไปเหมือนหนี้ไอเอ็มเอฟบ้าง การหว่านเงินประชานิยม และการนำประโยชน์รัฐไปแลกกับผลประโยชน์ตน การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ตัดทอนรายได้รัฐลง เพื่อประโยชน์ธุรกิจส่วนตน การขาดวินัยทางการคลัง ส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น
    ชาวบ้านก็ชอบใจประชานิยม แต่หารู้ไม่ว่าความไม่เชื่อมั่นต่อประเทศไทยได้ก่อตัวและสะสมตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


    "นายกฯทักษิณ เป็นคนใช้หนี้ไอเอ็มเอฟหมด เป็นคนสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ราคายางสูงขึ้น แล้วมาตะโกนขับไล่นายกฯทักษิณทำไม"
    เป็นความเชื่อที่บริสุทธิ เชื่อเพราะขาดข้อมูล ขาดความรู้ ขาดความเข้าใจ
    ไม่เพียงตำรวจและอันธพาลเท่านั้นที่เชื่อเช่นนี้ นายกฯสมัคร สุนทรเวช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลีรมว.กระทรวงการคลัง นายจักรภพ เพ็ญแขแกนนำนปก. นักวิชาการที่มีชื่อเสียง รวมทั้งคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศก็เชื่อเช่นนี้เช่นกัน
    เป็นความเชื่อ ..ที่เกิดจากมิจฉาวาจา ของคนคนเดียว..
    ทำให้คนไทยแตกแยกทั้งประเทศ แตกแยกมากเป็นประวัติการณ์ของประวัติศาสตร์ชาติไทย

    http://www.oknation.net/blog/indexthai/2008/07/26/entry-2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...