ผมขอขมาแล้วน่ะครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tesla, 23 มีนาคม 2010.

  1. tesla

    tesla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +49
    หากพวกท่านทั้งหลาย สังเกตุ คำพูดก่อนที่ผมจะเริ่มเรื่อง กระผมได้กล่าวก่อนแล้วน่ะครับ ก่อนที่จะพูดเรื่องหลวงพ่อจง ว่า" ถ้าผมพูดอะไรผิดพลาดประการใดหรือทำให้ขัดเคืองใจประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย " หากไม่เพียงพอผมก็ขออโหสิกรรมน่ะที่นี้แด่พี่น้อง ชาวพลังจิตทุกท่านด้วยที่ทำให้ท่านทั้งหลายขัดเคืองมโนจิตท่านทั้งหลายเพราะผมก็ชาวพุทธท่านหนึ่งและก้ไม่ได้ปฎเสธเรื่องพวกนี้ว่าไม่มีอยู่จริงเพราะผมก็ประสพมาบ้างและหาใช่คนศาสนาอื่นไม่ แต่ผมขอฝากเรื่องหนึ่งให้พี่น้องชาวพลังจิตทุกท่านได้อ่าน

    เรื่องบาตรปุ่มไม้จันทน์
    [๒๙] สมัยต่อมา ปุ่มไม้แก่จันทน์มีราคามาก ได้บังเกิดแก่เศรษฐี
    ชาวเมืองราชคฤห์ จึงราชคหเศรษฐีได้คิดว่า ถ้ากระไรเราจะให้กลึงบาตรด้วยปุ่มไม้
    แก่จันทน์นี้ ส่วนที่กลึงเหลือเราจักเก็บไว้ใช้ และเราจักให้บาตรเป็นทาน หลัง
    จากนั้น ท่านราชคหเศรษฐีให้กลึงบาตรด้วยปุ่มไม้แก่นจันทน์นั้น แล้วใส่สาแหลก
    แขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ผูกต่อๆ กันขึ้นไป แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า สมณะหรือพราหมณ์
    ผู้ใด เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ จงปลดบาตรที่เราให้แล้วไปเถิด ฯ
    แต่แล้วก้หามีใครกระทำได้ บุคคลเหล่านั้นล้วนอวดอ้างตนทั้งสิ้น ไร้ซึ่งสิ่งที่ยืนยัน จนใครแม้แต่ราชคหเศรษฐี "พระอรหันต์คงไม่มีจริงแล้วกะมัง"
    [๓๐] ขณะนั้น ปูรณะกัสสปเข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐีแล้ว กล่าวว่า
    ท่านคหบดี อาตมานี้แหละเป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ ขอท่านจงให้บาตรแก่
    อาตมาเถิด ท่านเศรษฐีตอบว่า ท่านเจ้าข้า ถ้าพระคุณเจ้าเป็นพระอรหันต์และ
    มีฤทธิ์ ก็จงปลดบาตรที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั่นแลไปเถิด
    ต่อมา ท่านมักขลิโคสาล ท่านอชิตเกสกัมพล ท่านปกุธกัจจายนะ
    ท่านสัญชัยเวลัฏฐบุตร ท่านนิครนถ์นาฏบุตร ได้เข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐี
    แล้วกล่าวว่า ท่านคหบดี อาตมานี้แหละเป็นพระอรหันต์ และมีฤทธิ์ ขอท่าน
    จงให้บาตรแก่อาตมาเถิด ท่านเศรษฐีตอบว่า ท่านเจ้าข้า ถ้าพระคุณเจ้าเป็นพระ
    อรหันต์และมีฤทธิ์ ก็จงปลดบาตรที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั่นแลไปเถิด ฯ

    เรื่องพระปิณโฑลภารทวาชเถระ
    [๓๑] สมัยต่อมา ท่านพระมหาโมคคัลลานะกับท่านพระปิณโฑลภาร-
    *ทวาชะ ครองอันตรวาสกในเวลาเช้าแล้ว ถือบาตรจีวร เข้าไปบิณฑบาตในเมือง
    ราชคฤห์ อันที่แท้ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์
    แม้ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ จึงท่านพระปิณโฑลภาร
    ทวาชะ ได้กล่าวกะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ไปเถิด ท่านโมคคัลลานะ
    จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้นของท่าน แม้ท่านพระโมคคัลลานะก็กล่าวกะท่าน
    พระปิณโฑลภารทวาชะว่า ไปเถิด ท่านภารทวาชะ จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้น
    ของท่าน จึงท่านพระปิณโฑลภารทวาชะเหาะขึ้นสู่เวหาส ถือบาตรนั้นเวียนไป
    รอบเมืองราชคฤห์ ๓ รอบ ฯ จนทำให้ ราชคหเศรษฐี ได้ประจักษ์ตาว่าพระอรหันต์นั้นไซร้มีจริง พระได้ประจักษ์ต่อพยานที่อยู่ต่อหน้าพร้อมหลักฐาน ที่เห็นอยุ่ตรงหน้า

    หรือแม้แต่ที่พระพุทธเจ้า ผจญมารก็ยังต้องมีพระแม่ธรณีเป็นพยานว่า รัตน์บัลลังค์ของพระพุทธองค์ทรงได้ มาจากบุญธิการของพระองค์เองที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญตั้งแต่อดีตกาลจนถึงที่พระองค์ สินธัตถะ ที่จะได้บำเพ็ญบรรลุเป็นพระพุทธเจ้านี้

    แม้แต่สมัย พระเจ้าอโศกมหาราช พระผู้ใหญ่ในสมัยนั้นในการทดสอบภิกษุและภิกษุณีที่เข้ามาบวชว่าใช้ผู้ดำรงครองธรรมในพระพุทธศาสนาหรือเปล่าเพื่อป้องกันเหล่าเดียรเถียรนอกศาสนามาทำให้ศาสนาเสื่อมเสียโดยปัจจัยคำสอนนอกศาสนาที่ผิดๆ

    หรือแม้แต่คำสอน ของพระพุทะองค์
    กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
    1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
    2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
    3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
    4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
    5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
    6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
    7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
    8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
    9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
    แต่สิ่งที่สำคัญกล่าวท้ายจริงๆคือ ต้องรู้จริงพิสูทจ์ก่อนถึงจะเชื่อ แต่ก็หาลบลู่ไม่
    แต่เนื้อหาของกระผม ดูเป็นการลบลู่จริงอยู่แต่แท้จริงต้องการเข้าใจในสิ่งนั้นต่างหากเล่า เพราะกระผมสังเกตุ จีวรพระท่านถ้าสังเกตุดูจะมีจีวรข้างหนึ่งของท่านบังเอาไว้ทางด้านซ้ายแถมมือทั้ง 2 ปิดสนิทเลยทำให้ตัวผมนี้แคลงใจ ยิ่งเพราะรายอื่นๆที่ผมเห็นผ่านทางทีวี เปิดโปง ทำลักษณะนี้คล้ายๆกัน แต่ก็มี บุคคลที่มีนามว่า พระที่ 12 PaLungJit.com - ดูรายละเอียดส่วนตัว: พระที่12ได้นำรูปดังกล่าวมาให้ดูประจบกลับได้รู้ว่าสมัยนั้นไม่มีเครื่องทุนแรงแบบนั้นไซร้ ซึ่งผมก็ได้พิจารณาแล้วว่าคงไม่ใช่อย่างที่กระผมคิด ประดุจดังกระผมเป็น ราชคหเศรษฐี หรืออีกกรณีอีกแบบที่ท่านพระมหากัสปะเถระซึ่งขณะนั้นท่านยังคงดำรงเป็น ชฎิล ที่ยังแคลงใจว่าพระพุทธเจ้าได้บบรรลุพระนิพพานแล้วหรือ พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าที่ทรงบรรลุธรรมอันเป็นนิพพานและเปรียมด้วยฤทธิ์จริงหรือ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงฤทธิ์และโปรดธรรมให้ประจักษ์ จึงมีดวงสว่างเห็นธรรมถึงแม้ผมจะไม่ได้เท่า พระมหากัสสัปะเถระนั้นไซร้แต่ผมก็รู้แจ้งในสิ่งที่ผมแคลงใจแล้วว่าเป็นจริงดังทีท่านเป็น อย่างบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
    ช่วงท้าย อย่าหาผมต่อว่าพวกท่านเลย เท่าที่ผมได้เห็นพวกท่านยังขาดบารมี อย่างหนึ่งที่ท่านพึ่งมีถึงมีก็บาง ได้แก่เมตตาบารมี ขันติบารมี อุเบกขาบารมี
    แต่เอาเถอะ กระผมคิดเอาเถอะเดี้ยวพวกท่านก็ได้เอง ถ้าพวกศรัทธาโดยมีหลัก ปัญญาบารมี พวกท่านย่อมพึงมีได้ เหมือนกระผมที่ได้เห็นจริงแล้วทุกประการย่อมพึงมีอยู่แล้วน่ะขณะนี้แม้จะไม่ดีเลิศอะไรนักหนาก็ตาม ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปฎิเสธว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีจริง

    ส่งท้าย การทำนุบำรุงศาสนามากมาย หาใช่แค่สร้างวัดหรือโบสถ์ หรือวิหาร ทางวัตถุ อย่างเดียวไม่แต่หากการบำรุงพุทธศาสนาที่แท้จริง คือการเจริยรอยตามแนวทางหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาและความเมตตาค้ำจุนโลกพร้อมทั้งการช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์และสุขกับเราต่างหาก ที่เป็นการทำนุบำรุงศาสนาที่แท้จริง ดังนั้นผมขอเชิญพวกท่านทั้งหลายร่วมบริจาคเงินที่ <table id="table27" style="border-width: 0px;" border="1" width="100%"><tbody><tr><td style="border: medium none;">บัญชีบ้านเด็กธรรมรักษ์</td></tr><tr><td style="border: medium none;">ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์</td></tr><tr><td style="border: medium none;">เลขที่ 180 2 495451 หากพวกท่านยังแคลงใจว่าคนอย่างผมอยู่ที่พวกคุณขนานนามผมว่า ไม่เคารพในพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า น่าสงสาร<!-- google_ad_section_end --> อกุศลจิต หรือขนานนามที่แรงไปกว่านั้นก็คือ จะไปที่โลกันต์นรก เป็นคนไม่น่าเชื่ออย่างยิ่งในสายตาพวกท่าน ก็มาลิงค์นี้ หรือทำบุญที่ หรือหรือทำกับhttp://www.unicef.org/thailand/tha/ ก้ได้ffice:eek:ffice" /><o>:p></o>:p>
    สุดแล้วแต่พวกท่านคนอย่างผมคนหนึ่งต้องลง อเวจีโลกันตร์ เพียงเพราะเป็นคนช่างสงสัยในหลักที่ใช้สติก่อนเชื่อและประจบกลับว่าผมเป็นคนกล่าวล่วงเกิน การทำนุบำรุงศาสนา ด้วยการชักชวนนี้ กระผมว่าคงไม่ต้องมีหลัก กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 ก็คงถึงคราวสลาย และทุกคนคงเลิกทำนุบำรุงศาสนาในการบำรุงศาสนาแบบที่ผมชักชวนนี้และไปทางวัตถุแทน ขอ จบบริบูรณ์ <o>:p></o>:p>
    <o>:p></o>:p>
    ลงนามแฝง นักบุญคนหนึ่งที่ผู้นอกรีต ไม่ได้เลิศเลอ
    </td></tr></tbody></table></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2010
  2. tesla

    tesla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +49
    หรือหรือทำกับhttp://www.unicef.org/thailand/tha/ ก็ได้ (เกิดการผิดพลาดนิดหน่อย)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ก็ยังน่าสงสารอยู่ดี และท่าทางจะน่าสงสารมากขึ้นกว่ากระทู้ที่แล้วอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2010
  4. ผู้เห็นภัย

    ผู้เห็นภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +476
    คุณเกิดไม่ทันท่าน คนละยุค คุณเล่นผ่ากอตั้งกระทู้แบบนี้

    ขึ้นมาแบบนี้เลย ทำไมไม่ศึกษาความเป็นมาของท่านไห้ดี ไห้ละเอียดเสียก่อน คนแถวสุพรรณ

    อยุธยา และคนไทยทั่วทุกภูมิภาค ที่รู้จักท่านต่างก็บูชาความดีท่านเอาไว้เหนือหัว

    ปฎิปทา การประพฤติ ประติบัติของท่าน ท่านเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมา

    สัมพุทธเจ้าโดยแท้ คุณไม่มีข้อมูลอะไรเลย เกี่ยวกับท่าน

    การที่คนเราจะทำ หรือจะลงความเห็นอะไรสักอย่าง มันต้องเข้าไปในรายละเอียด

    เข้าไปพิสูจน์ หาข้อมูล ไม่ไช่อยู่ๆก็มาทะลุกลางปล้องแบบที่คุณทำอยู่

    คุณเกิดไม่ทัน คุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คุณทำอะไรไม่ได้เลย มีทางเดียว

    ก็คือคุณต้องไป
    คนคว้า ไปถามคนรุ่นๆเก่าว่าเค้าพูดถึง หลวงพ่อจงกันแบบไหน นั้นแหละหลักฐาน ข้อเท็จจริง ที่หลงเหลืออยุ่ พอที่จะหาได้


    แล้วคุณก็เอา ข้อเท็จจริง นั้นมาไตร่ตรอง ที่เราพูดกันนี่มันเป็นวัตถุ มันเป็นรูปธรรม

    ไม่ไช่นามธรรม

    แต่ธรรมะที่หลวงพ่อจงเข้าถึงจริงๆๆ เป็นนามธรรม ใจคุณนั่นแหละ ทำไห้ถึง

    ปฎิบัติไห้ถูก ถ้าใจคุณเข้าถึงเสียแล้ว คุณก็พอจะรู้ว่าหลวงพ่อจง ท่านเป็นพระดีขนาดไหน

    ถ้าคุณเอากามาสูตร10ประการมาไช้ตรงนี้ เวลานี้ มันผิดที่ ผิดทาง ผิดเวลา

    ถ้าจะอ้างกามาสูตร คุณจะต้องไม่ตั้งกระทู้แบบนี้ขึ้นมา เพราะอะไร คนที่มีกามาสูตร

    10 อยู่ในหัวใจจริงๆๆ ก็คือ นักคิด นักค้น หรือนักวิทยาศาตร์ดีๆนี่เอง

    ตัวคุณนั่นแหละ ต้องลงไปเลย โดยการปฏิบัติ อย่างแท้จริง ไห้ได้ ไห้ถึง ธรรมะวิสัย

    ขององค์สมเด็จพิชิตมาร จริงๆเสียก่อน แล้วจึงค่อย เอาสกาลามสูตรมาอ้าง

    เท่าที่ผมดูคุณ อ่านคำโพสของคุณ คุณยังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณก็เอากาลามสูตรมาอ้างเสียแล้ว

    ยังไม่เข้าถึงแก่นธรรมจริงๆ อะไรเลย

    สิ่งที่คุณเอามาพูดทั้งหมดณ.ที่นี้ มันเป็นสัญญา ล้วนๆๆ คือการจำได้เหมายรู้ เห็นจำมา แล้วก็ไช้คำพูดไปตามสัญญาที่ได้มา

    ไม่ไช่ตัวปัญญา เป็นแค่สัญญา

    ปัญญาคือการรู้แจ้ง เห็นจริง หรือการรู้แจ้งเห็นจริง ตลอดสาย ไม่มีอะไรติดขัด

    ก็คือรู้แจ้งแทงตลอดนั่นเอง


    เราเกิดไม่ทันท่าน คุณพูดแบบนี้มันลบ ไม่ไช่บวก

    พระที่นอกรีด เหม็นโฉ่ คุณก็ทัน ผมก็ทัน คุณพูดแต่สิ่งที่เราพอจะทัน พอจะรุ้ ในยุคสมัยเดียวกัน ในสมัยปัจจุบัน
    ผมว่าคุณใส่ใจตรงนี้จะดีกว่าไหม

    หลวงพ่อจง ชื่อเสียงท่านขจร ขจาย มีแต่ด้านดี มีแต่คุณงามความดี มีแต่คุณประโยช์ต่อพระศาสนา และประชาชน

    คุณจะมา ที่เค้าเรียกกันว่า ดิสเครดิต ท่าน ที่ล่วงลับไปแล้ว ท่านไม่ได้อยู่แล้ว

    ผมถามคุณ คุณจะทำไปเพื่ออะไร จะทำไปทำไม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2010
  5. เด็กช่างสงสัย

    เด็กช่างสงสัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +139
    ปฏิบัติกสิณน้ำ ให้ได้ก่อนครับ ค่อยพิจารณาว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อดี
     
  6. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,388
    ขอ ขมา ดี แล้ว ครับ
     
  7. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    อ่านกระทู้ ที่เค้าตั้ง ไห้ละเอียด อ่านดีๆนะครับ

    ผม............Mr.Warning.
     
  8. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    หลวงพ่ออโหสิ .....ให้หมดเลยไม่คิดโกรธ



    [​IMG]


    เจริญพร
     
  9. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    การนำเอากาลามสูตร มาใช้ผิดที่ ผิดเวลา

    นอกจากจะไม่เหมาะสม ยังไม่รู้จักการใช้ในกาลสมควร

    ยังเข้าใจผิดที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าฯ ทรงประทานพระสูตรนี้ด้วยวัตถุประสงค์อะไร

    ทางที่ควรที่ถูกต้อง

    ควรเข้าไปพิสูจน์ค้นคว้าข้อมูล หลักฐาน หาข้อเท็จจริง ในสถานที่จริง

    สอบถามผู้รู้ คนรุ่นๆเก่าว่า...เค้าพูดถึง หลวงพ่อจง ว่าอย่างไร...

    ท่านฯ ทำคุณประโยชน์อะไรไว้บ้างในพระศาสนา

    แล้วคุณก็เอา ข้อเท็จจริง นั้นมาไตร่ตรอง พิจารณา

    นี่....จึงเรียกว่า ผู้มีปัญญา ไม่ใช่ผู้หลงปัญญา
     
  10. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    สงสัยอะไรในเรื่องที่ไม่น่าสงสัย บางสิ่งบางอย่างอาจต้องพิจารณากันมากถึงเวลาและเหตุการณ์ในตอนนั้น แต่ที่สำคัญเลย หากเราไม่รู้ความจริงอย่าหาเรื่องใส่ตนเองเลยดีที่สุดเอาเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่เกิดขึ้นแยกแยะดีชั่วให้ได้ ไม่ใช่ไปแยกแยะดีชั่วของผู้อื่นอีกทั้งเป็นพระอริยะเจ้า
    ปัญญาญาณอะไรนั่นไม่พูดเพราะต้องแยกแยะก่อนว่าสมควรหรือไม่สมควรถาม และสงสัยไปแล้วไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้คำตอบมันให้ประโยชน์แก่เราหรือคนที่สงสัยนั้นแค่ไหน หากไม่ได้อะไรเลยไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยก็ไม่ควรสงสัยหรือไม่ควรไปพิจารณามันครับ
    การที่แสดงอะไรออกมานั้นเราไม่สามารถทราบเหตุผลท่านได้ แต่หากทำเพื่อลาภสักการะย่อมเป็นบาปและผิดพระวินัยครับ แต่เราแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านมีเจตนาเช่นใดในตอนนั้นผมก็ฝากใหเพิจารณาเช่นกัน และขอบคุณที่ยกพระสูตรและกามลามสูตร๑๐มาให้ดูกันครับ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    โดยความเห็นส่วนตัว ผมมีความเห็นดังนี้ ว่า
    คุณ tesla มีพุทธจริต ดี

    แต่ว่า ยังต้องศึกษาอีกมาก เพราะ การมีกาลมสูตร นี้ จะต้องไม่เชื่อ วิทยาศาสตร์ ด้วย

    เพราะว่าอะไร เพราะว่า วิทยาศาสตร์ เราก็ฟังเขามาเหมือนกัน

    ครู เขาสอนเรามา เราก็เชื่อ แล้วเราก็คิดว่า เราฉลาด เราเป็นนักวิทยาศาสตร์

    เรายังไม่รู้ไม่เห็นอะไรอีกมาก
    ส่วน เรื่องขอขมา ก็ไม่ต้องกังวลอะไรหรอกครับ เราไม่ได้มีเจตนา จะลบหลู่ดูหมิ่น
    เรา สงสัย ด้วยสติปัญญาของเรา ก็ถือว่า ทำได้ ไม่ได้ไปคดโกงใคร
    ไม่ได้ไปด่า ทอ ให้ใครเสียหาย ด้วยความไม่จริง
     
  12. ปราบจราจล

    ปราบจราจล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +220
    คุณขันธ์ อาจจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนนะครับ


    คำว่านักวิทศาตร์จริงๆเลย ก็คือ นักวิจัย นักทดลอง นักค้นคว้า ไม่ไช่นักเชื่อ

    ไม่ไช่ ฟังเค้ามาแล้วเชื่อเลย อันนี้ไม่ไช่นักวิทยาศาตร์นะครับ

    แม้กระทั่งเรื่องผี นักวิทยาตร์แท้ๆ เค้าก็ไม่ปฎิเสธ


    แต่เค้าจะบอกว่า ยัง สรุปคำตอบไม่ได้ ยังไม่มีเครื่องมือที่จะพิสูจน์ได้

    กฎวิทศาตร์ เป็นกฏตายตัวครับ เช่น น้ำระเหย ไป กลายเป็นไอ

    แล้วก็รวมตัวเป็นก้อนเมฆ แล้วก็ตกลงมากลายเป็นน้ำฝน ที่เรารู้กันแบบนี้ ก็มาจากนักวิทยาศาตร์ รุ่นเก่าๆนะครับ และก็เป็นจริงตามนั้น ไม่ไช่พญานาค หรือเทวดาไห้น้ำ ตามตำราสมัยก่อนที่ว่ากันมา

    จะทำอย่างไร ก็นอกเหนือจากนี้ไปไม่ได้

    และที่คุณขันธ์ใช้อยู่นี่ หรือคอม ก็มาจากการคิดค้น ของนักวิทยาศาตร์

    คอมนี่ก็อยู่ในกฏของนักวิทยาศาตร์ พอกด log in จะกลายเป็น log out ไม่ได้

    อะไรก็ตาม ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ หรือทดลอง ไห้ออกมา หาข้อสรุปได้จริง

    นักวิทยาศาตร์ จะไม่ สรุปผล ลงไปเลย หรือฟันธงเลยทีเดียว

    แต่จะบอกว่า ยังสรุป และไห้คำตอบไม่ได้ นี่นักวิทยาศาตร์แท้

    เป็นแบบนี้ครับ ถ้าไม่เป็นแบบนี้ ก็ถือว่ายังไม่ไช่

    เรื่องการปรามาส ขนาดเจ้าตัวยังรู้เลย ว่าตัวเค้าปรามาส ใจเค้ารู้อยู่ เค้าถึงประกาศ
    ไห้ได้รับรู้กันทั่ว เค้าก็มีความเป็นลูกชายไช้ได้เลยทีเดียว

    แล้วคุณขันธ์จะไปตอบแทนเค้าได้อย่างไรกัน

    กราปรามาส พอขอขมา กรรมก็จบตรงนั้น คือต้องขอขมาพระรัตรนตรัย

    นะครับ

    พุทโธ ธรรมโม สังโฆ มีคุณอนันต์ ก็มีโทษมหันต์เช่นเดียวเช่นกันนะครับ

    เพราะความสอาด ความบริสุทธิ์ ความดี หาประมาณไม่ได้

    แตะนิดเดียวก็มีโทษครับ ถ้าเป็นเพชรแท้ หรือ เป็นพระอริยเจ้า

    ทางที่ดี ขอขมาดีน่ะแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2010
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ ปราบจราจล คุณ นี่ท่าทาง จะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

    คุณจะไปให้ ใครต่อใคร ขอขมา พระรัตนไตร คุณก็ต้องรู้จักคำว่า ปรามาสก่อน

    ผมจะยก ข้อปรามาส ในพระไตรปิืฎกให้ดู

    ชอบด่า ชอบบริภาษ เพื่อนพรหมจรรย์ ชอบติเตียนพระอริยเจ้า

    ผมอ่าน ความของ นาย เทสลา นี้ ผมก็เห็นว่า เขาสันนิษฐาน อันเป็นลักษณะของปัีญญา ที่ไม่ได้เชื่อสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเขาเล่าอ้างว่า พระท่านนั้นท่านนี้ เป็นอริยะ

    และที่สำคัญ เขาไม่ได้ไปด่าใครว่า คนนั้นเป็นแบบนี้คนนี้เป็นแบบนั้น

    คำว่า ปรามาส คุณไปศึกษาให้ดีๆ

    ถ้าปรามาสนี้รวมถึงว่า ห้ามวิจารณ์ ห้ามพูด แม้แต่นิด นี่ก็เข้าข่าย วิชามาร คือ ทำให้เขากลัวจนไม่กล้า ใช้ปัีญญาวินิจฉัย
     
  14. ปราบจราจล

    ปราบจราจล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +220
    คุณขันธ์ คุณนี่มันนิ่มจริงๆเลย

    เกาะตำรา เอาตำรามาอ้าง

    ถามจริงเหอะ คิดเองเป็นไหม ในหัวคุณน่ะ มีอะไรบ้าง

    common sense ง่ายๆ คุณยังคิดเองไม่เป็น

    สามัญ สำนึกง่ายๆ คุณคิดเป็นไหม นอกจากอ้างตำรา

    ถ้าไม่มีตำรา ไม่ต้องทำมาหากินกันเลย ว่างั้น

    ที่เจ้าของกระทู้ เค้าทำอยู่ เค้าก็ตอบรับ ว่าเค้า ปรามาส หรือ ล่วงเกิน

    คนปกติ ธรรมดาทั่วไป ผม หรือคนที่มาโพส ทุกคนก็พูดไปในทางเดียวกัน

    ว่าปรามาส คุณคิดไม่เป็น คุณโง่จริง หรือคุณแกล้งโง่กันแน่

    เรื่องแค่นี้ คุณคิดไม่ออก สามัญสำนึกไปไหนหมด

    หัดใช้สมองตัวเองซะมั่งนะ อย่าเอาแต่อ้างตำรา ว่าแบบนั้น

    ว่ามาแบบนี้ มา
    จะเข้าโรงอยู่แล้วนะ คุณน่ะ หัดไช้สมองตัวเองบ้าง

    ผมบอกตรงๆไม่อยากจะพูดนะ
     
  15. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    กล่าวได้ดี แรงนิด แต่ก็เห็นด้วย พรานยึ้มเห็นด้วย

    tesle ผมขอขมาแล้วน่ะครับ
     
  16. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ท่านขนาดไม่อยากจะพูดยังยาวเป็นหางว่าวเลย สุโค่ย
     
  17. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ถามจริง ๆเถอะแล้วคุณเกิดทันท่านหรือครับคุณตา
     
  18. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ใครสอนให้ชาวพุทธทะเลาะกันเถียงกัน น่าเบือหน่ายจริง ๆ จขกท ก็อธิบายไปแล้วน่าจะสงบได้แล้วล่ะ
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตำรา อ้างไม่ได้ คุณก็อย่าไปเอาพระไตรปิฎกมาอ้างอะไรเลย

    คุณจะใช้ common sense หรือพูดง่ายๆ ว่า ใช้ความรู้สึกเป็นหลัก

    ทีนี้ ถ้าคน มีระดับ common sense ต่ำ และ มี อคติสูง อย่างคุณ

    ก็เห็นทีว่า ศาสนาพุทธคงจะ กระท่อนกระแท่น แน่

    คุณมี สองมาตรฐาน เพราะว่า ไปบอกให้ คนอื่นเขามาขอขมาพระรัตนไตร แต่ปรากฎว่า ตนเอง กลับไม่เชื่อในพระไตรปิฎก ที่มี ครบ ทั้ง คำพูดพระศาสดา คำพูดของพระอรหันตสาวก และ พระธรรมครบถ้วน

    นี่แหละ ที่เรียกว่า คนพาล
     
  20. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    การเอาตำรามาอ้างก็ดี เอาคำหลวงพ่อมาอ้างก็ดี ไม่ใช่ประเด็นหรอก
    เพราะ ธรรม ที่เราปฏิบัติกันนี้ ก็มาจากพระพุทธเจ้าทั้งหมด
    ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เรา หมั่นตรวจตรา ใจตัวเอง บ่อยแค่ไหน

    การขมา นับว่ากล้าหาร แต่เราไม่ขอวิจารณ์อะไรมาก
    เพราะความสำนึก ย่อมเกิดกับผู้พูดเอง เท่านั้น
    เพ่งเลง ตัวเอง ดีกว่า ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...