ไม่ทราบว่าเมื่อวานใครไปงานหล่อพระบ้างครับ

ผมมาจากแปดริ้ว ออกตอนตี5 มาถึงประมาณ9โมงกว่าๆ

ผมสงสัยครับ ยันต์เกราะเพรชสีเขียวที่ลูกศิษย์แจกหลังจากทำพิธีพุทธาภิเษก

มีพุทธานุภาพเหมือนกันไหมครับ

 

ขอตอบคุณเอก ครับ ผ้ายันต์เกราะเพชร ผืนสีขาว ตัวหนังสือ สีเขียวนั้น ไม่ใช่ของทางวัดท่าซุงครับ เพียงแต่นำเข้าพิธีที่วัด ครับ ส่วนพุทธคุณ เป็นพระเมตตา ของพระท่านครับ จึงมีอานุภาพครับ เพราะได้เข้าพิธี ครับ

 

ขอบคุณมากนะครับ

 

ถ้าเป็นงานหล่อพระวัดท่าซุงก็มีภาพมาให้ชมกันค่ะ

 

ไปมาค่ะ แต่ไม่ได้เอากล้องไปเลยไม่มีรูปมาลง มีแต่ความรู้สึกและบรรยากาศที่จะบรรยายเพื่อแบ่งปันค่ะ

ช่วงบ่ายไปฝึกมโนฯเต็มกำลังมาค่ะ หลังจากนั้น แฟนบอกให้รีบทานข้าวและให้รีบไปจองที่นั่ง เพราะพิธีพุทธาพิเษกคนจะเยอะ

มานั่งรอตั้งแต่บ่ายสามค่ะ ได้ที่นั่งที่พื้นหลังโบสถ แต่ก็ยังพอมีที่นั่ง ช่วงแรกนั่งแตกแดดเลยค่ะ เพราะที่นั่งโต๊ะถูกจับจองหมดแล้วค่ะ ขนาดนั่งพื้นยังเต็มเลยค่ะ 4โมงกว่าๆ ก็เหลือเพียงแค่ทางเดินให้เดินเข้าเท่านั้น

(พร่งนี้มาเล่าต่อนะคะ)

 

ไม่ทราบว่าใครได้สมเด็จองค์ปฐมจากพิธีนี้มาบ้างครับ ใครมีเยอะขอแบ่งสักสององค์ครับ

 

มีภาพเพิ่มเติมที่นี่ครับ.....................http://kaskaew.com/index.asp?conten...%C2%B8%D2%B9%D5+20+%C1%D5%2E%A4%2E53&keyword=

 

ทางวัดเหลือแต่องค์สีเงินครับ

 

รอบพระอุโบสถ

 

ไม่ทราบว่าต้องสั่งจองอย่างไรครับ จะขอบูชาสัก 3 องค์

 

วันนั้นผมก็อยากเช่าสมเด็จองค์ประถมเหมือนกันแต่ผม เอาเงินทำบุญหมดแล้ว ต้องเหลือติดตัวกลับบ้านบ้าง ก็เลยไม่ได้เช่า

 

มาเล่าบรรยากาศงานหล่อพระต่อค่ะ

สัก 5โมงเย็น คนจับจองที่นั่งเต็มหมดแล้ว ไม่มีแม้แต่ทางเดิน แม้มีที่ว่างแค่เพียง 1 ศอก คุณยายยังขอนั่งหน่อยเถอะ ซึ่งโดยมากคนที่มาก่อนจับจองให้คนที่รู้จัก ดังนั้น จึงต้องไปหาที่พื้นพอที่จะนั่งชันเข่าไปได้ หรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไประหว่างคนเพียงเพื่อให้ได้ร่วมพิธี
ขณะนั้น สายสิทธิ์ที่ว่างอยู่ของคนที่ยังมาไม่ถึงได้ถูกปลดและนำไปผูกของตนเอง เราจึงต้องถือเส้นสายสิทธุ์ของเราไว้ตลอดเวลา เกรงว่าจะมีใครคิดว่าไม่มีเจ้าของ
สัก 5 โมงจึงได้เริ่มพิธีพุทธาพิเษก คนที่นั่งอยู่บ้างก็เอาสายสิทธุ์มาพันรอบขวดน้ำเพื่อเป็นน้ำมนต์ บ้างก็มาพันรอบศีรษะของตนเอง บ้างก็พันรองของที่เตรียมมาเข้าร่วมพิธี (ส่วนเราพันรอบมือ) และร่วมสวดมนต์ จนกระทั่ง เกือบๆ 6โมง จึงได้นั่งสมาธิต่อหลังจากสวดมนต์จนถึง เวลา 6โมง หลังจากสัญญาณดัวว่าเสร็จพิธี ต่างก้อปลดสายสิทธิ์ของตนเองที่ถืออยู่เพื่อเก็บไว้บูชา (ส่วนเราได้มาเยอะมาก เพราะแฟนเอากรรไกรอันเล็กไปด้วย คนที่นั่งข้างๆ ต่างก็ขอยืมเพื่อนำส่วนของตนไปบูชา) หลังจากนั้นพระท่านประพรมน้ำมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี

พอเสร็จพิธี เรารีบเดินไปที่หน้าปราสาททองคำทันที เพื่อจับจองที่นั่งเพื่อร่วมพิธีหล่อพระ ขนาดเสร็จพิธีแล้วรีบเดินไป คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเยอะมากจนเกือบเต็มลาน (ส่วนเรานั่งตรงบันไดที่ปราสาททองคำ เพื่อได้เห็นพิธีอย่างชัดเจนในมุมสูง) พิธีหล่อพระเริ่มขึ้น และเสร็จสิ้นเวลา 2ทุ่มเศษๆ

หลังจากนั้นต่างก็แยกย้ายพักผ่อน
พอรุ่งเช้า 9โมงไปเช่าพระที่ได้ทำพิธีพุทธาพิเษกเมื่อคืนปรากฎว่า พระสมเด็จฯองค์ปฐมรุ่น 4เนื้อทองคำหมดแล้ว (หมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว) บูชาในราคา 35000บาท สำหรับเนื้อทองคำ เนื้อเงินในราคา 1พันบาท และเนื้อกระไหล่ทอง 800บาท (หากราคาผิดพลาดต้องขออภัย เพราะแฟนบอกมาอีกที)

แต่ทั้งหมดที่ได้กล่าวมา หมดตั้งแต่ 9โมงเช้าของวันุร่งขึ้นแล้วทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และกระไหล่ทอง แฟนจึงได้เช่าสมเด็จองค์ปฐมฯรุ่น 4 ชุบทองและชุบเงินอย่างละ1องค์ (บูชาองค์ละ 4 ร้อยบาท ถ้าจำไม่ได้ผิด) และรูปหล่อหลวงพ่อรูปหล่อหลวงพ่อปาน รวมทั้งท่านแม่ทั้งสอง

ทุกวันนี้ก็เสียดายที่ไม่ได้บูชาในคืนนั้นเลย คิดว่าเช้าคงยังจะพอมีให้เราได้บูชาบ้าง แต่ก็ยังดีที่มีสายสิทธุ์ในงาน และพระดังที่กล่าวข้างต้น รวมทั้งความประทับใจที่จะเก็บรักษาไว้ตราบนานเท่านาน