ช่วยอธิบายเรื่องการทำสมาธิแบบ พิจารณากายหน่อยครับ

ตามหัวเรื่องเลยครับ รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบาย เรื่องการทำสมาธิแบบ พิจารณากายหน่อยครับ ประมาณว่าการบริกรรม เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ แล้วบริกรรมกลับไปกลับมา ขอถามเป็นข้อๆนะครับ

1. เป็นการทำสมาธิแบบสมถะใช่หรือเปล่าครับ
2. วิธีการทำสมาธิแบบนี้มีขั้นตอนอย่างไรบ้างครับ ขอละเอียดหน่อยครับ ต้องดูลมหายใจคู่กันด้วยหรือเปล่า
3. วิธีนี้ทำให้เราทำฌานได้หรือไม่ครับ
4. การทำสมาธิแบบนี้เราจะนำไปใช้ในชีวิตการทำงานประจำวันได้หรือไม่ครับ

พอดีเห็นมีการโพสวิธีการทำสมาธิแบบนี้เอาไว้ ขอถามเป็นความรู้ครับ ขอบคุณครับ​

 

คุณตั้มครับ การทำสมาธิแบบพิจารณากายนั้น เป็นบรรพแรกในมหาสติปัฏฐาน
ซึ่งว่าด้วยอานาปานสติกรรมฐาน เพื่อพิจารณาลมหายใจที่เป็นกายสังขาร(ปรุงแต่งกายให้ดำรงอยู่)

การที่เราจะพิจารณาอะไรที่กายนั้นเราต้องใช้จิตของเราพิจารณาสิ่งนั้นๆ
เมื่อรู้อยู่ที่ไหนในส่วนกาย จิตก็อยู่ที่นั่น

แต่ที่คุณยกมานั้น เป็นปัญจกรรมฐานที่พระอุปัชฌายะมอบให้พระบวชใหม่ทุกองค์
เอาไว้พิจารณาเพื่อเป็นการสำรวมและสังวรอินทรีย์ให้เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนาในกาลข้างหน้า
และเป็นองค์กรรมฐานที่มีกล่าวไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตรด้วยเช่นกัน

๑.ไม่ใช่สมถะอย่างเดียวที่ชอบพูดกัน เป็นทั้งสมถะและวิปัสสนาเพราะเป็นสัมมาสมาธิ

๒.ใช่ครับต้องควบคู่กับการปฏิบัติอานาปานสติกรรมฐานด้วยครับ
จะทำให้จิตได้เห็นพระไตรลักษณ์ในลมหายใจที่เข้าออกชัดเจน
และเห็นเวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ตามมา

๓. ได้ครับ เป็นฌานในสัมมาสมาธิ

๔.ได้ครับ เมื่อเราทำจนชำนาญคล่องแคล่วจนเป็นวสี
เมื่อกระทบอารมณ์ เรา(จิต)จะวางอารมณ์ลงได้จนจิตสงบได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ผมเสนอแนะว่าคุณควรศึกษาเพิ่มเติมจากมหาสติปัฏฐานสูตรให้กระจ่าง....

;aa24

 

ขอบคุณครับ อนุโมทนาในธรรมทานจ้า

พอจะมีวิธีการแบบละเอียดในการทำสมาธิแบบนี้ไหมครับ ถ้ามีผมรบกวนโพสให้หน่อยครับผม

 

ท่าน <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ธรรมภูต<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3090179", true); </SCRIPT> กล่าวไว้ค่อนข้างที่จะชัดเจนแล้ว.....ผมจะเพียงแค่อธิบายเพิ่มเติม......

ตามที่ท่าน <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ธรรมภูต<!-- google_ad_section_end --> ว่า "ปัญจกรรมฐานที่พระอุปัชฌายะมอบให้พระบวชใหม่ทุกองค์" ใช่ครับ....หลวงปู่ชา ท่านก็ได้สอนคณะศิษย์อย่างนี้....ความหมายของ ปัญจกรรมฐาน ไม่ได้หมายถึงว่าให้นำมาเป็นคำบริกรรมเท่านั้นนะครับหากแต่เป็นกรรมฐานที่ใช้พิจารณาด้วย...เป็นกรรมฐาน ในหมวดกายใน สติปัฏฐานสูตร....เรียกว่า ปฏิกูลบรรพ ครับ...ในกรรมฐาน ๔๐ เรียกว่า กายคตานุสสติกรรมฐาน ใน อนุสสติ ๑๐...กล่าวตามความหมายของคำก็คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ท่านกล่าวสลับไปมา....เพื่อให้ศิษย์ไปพิจารณาถึงความเป็นจริงของร่างกายนี้ว่าประกอบไปด้วยอะไร...มีสภาพเช่นใด คงอยู่หรือไม่อย่างไร...ควรยึดมั่นถือมั่นหรือไม่อย่างไร..ถือว่าเป็นกรรมฐานสำคัญครับ....จะให้เป็นสมถะวิธีหรือวิปัสสนาวิธีก็ได้ทั้งคู่.....

ส่วนเรื่องการทรงฌานในกรรมฐานกองนี้และใช้ใด้ในชิวิตประจำวันไม....อันนี้...แน่นอนครับ......เขาใช้กันมาสมัยใหนแล้ว......

 

ปฏิกูลบรรพ
​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายนี้แหละ เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นไป เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงมา มีหนังเป็นที่สุดรอบเต็ม ด้วยของไม่สะอาดมีประการต่าง ๆ ว่า มีอยู่ในกายนี้
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อใน กระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร
ไถ้มีปากสองข้าง เต็มด้วยธัญญชาติต่างอย่างคือ
ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ถั่วเขียว ถั่วเหลือง งา ข้าวสาร
บุรุษผู้มีนัยน์ตาดี แก้ไถ้นั้นแล้ว พึงเห็นได้ว่านี้ข้าวสาลี นี้ข้าวเปลือก นี้ถั่วเขียว นี้ถั่วเหลือง นี้งา นี้ข้าวสาร ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมพิจารณาเห็นกายนี้แหละ เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นไป เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงมา มีหนังเป็นสุดรอบ เต็มด้วยของไม่สะอาดมีประการต่าง ๆ ว่ามีอยู่ในกายนี้ ผม ขน ฯลฯ ไขข้อ มูตร ดังพรรณนามาฉะนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ <O</O

<O</O​

สติปัฏฐานสูตร ๑๒/๘๔
<O</O​

 

รู้สึกหากว่าผมจำไม่ผิด....ครั้งก่อนน้องเคยถามเรื่อง อานาปานุสติกรรมฐาน.....

แล้ววันนี้น้องก็ถามเรื่อง กายคตานุสสติกรรมฐาน......

พี่แนะนำให้น้อง....ใช้กรรมฐานกองใดกองหนึ่งในการปฏิบัตินะครับ......อย่าได้ลังเลสงสัยเลือกฝึกหลายกอง....ถ้าอย่างนั้นน้อง....อาจไม่ได้อะไรเลย.....

กรรมฐานทุกกองดีหมดครับ.....เลือกเอาอันใดอันหนึ่งทำไปให้ดี......

และหากอยากรู้เพิ่มเติม พี่จะให้เวบลิงค์พระสูตร สติปัฏฐานสูตร นะ...ไปศึกษาเอา...

อ้างอิงจาก....พระไตรปิฏก ฉบับ ปฏิบัติ...
http://www.larnbuddhism.com/grammathan/tripitakapatibat/<O</O

 

อนุโมทนาครับ เอาไว้วันหลังจะอัพไฟล์ หลวงปู่สิม เทศน์เรื่อง วิปัสนากรรมฐานอันละเอียด รอ ไฟล์อยู่ครับตอนนี้ แห่ะๆ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=4QyJxinflLI]YouTube - พิจารณาสังขาร.wmv[/ame]

 

ขอบคุณมากครับพี่ ภาณุเดช คือว่าผมมีปัญหาในการทำกรรมฐานน่ะครับ คือผมลองสังเกตุตัวเองว่าถ้าเริ่มที่การจับลมหายใจเลย ผมจะนิ่งยากมาก คือจิตมันไปโน่นไปนี่บ่อยครับ ตามจิตไม่ทันครับ

หลังจากผมอ่านกระทู้ที่มีการโพสเรื่องการนำการพิจารณากายมาเป็นกรรมฐาน ผมก็เลยลองดูเผื่อจะถูกกับจริต ผมลองมาได้ 2 วันแล้วครับ หลังจากผมภาวนาแบบนี้แล้ว กลับไปกลับมา (ไม่ได้ยึดกับลมหายใจตอนเริ่มทำ) มันทำให้จิตไม่วิ่งออกไปอีก มันเหมือนกับต้องใช้สมาธิในการภาวนา ถ้าไม่มีสมาธิก็จะภาวนาผิดน่ะครับ จิตเหมือนถูกกำกับไว้ด้วยการภาวนาครับ
พอจิตมันนิ่งดีระดับนึง ผมจึงค่อยเปลี่ยนมากเป็นการอานาปานสติเหมือนเดิมครับ เหมือนว่ามันนิ่งแล้วจิตมันไม่ค่อยอยากไปไหนน่ะครับ เมื่อคืนนี้ผมนั่งนิ่งดีครับ (ถึงจะยังไม่ไปถึงไหน) แต่รู้สึกได้ครับว่ามันพัฒนาขึ้น เมื่อคืนนั่งได้เป็นชั่วโมงเลยครับ เมื่อเช้าผมก็นั่งใช้วิธีเดิม รู้สึกว่าไม่ง่วงด้วยครับ

พี่ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ว่าการทำสมาธิแบบวิธีที่ผมทำถูกหรือเปล่าครับ หรือว่าใช้หลายวิธีมากเกินไป

ขอบคุณพี่มากนะครับ สำหรับคำแนะนำดีๆตลอด ส่วนมากพี่จะตอบผมเป็นคนแรกๆเลย ^ ^ โมทนาสาธุ ในธรรมทานครับ ผมคงต้องฝึกอีกมากครับ พื้นฐานไม่ค่อยจะมี แนะนำด้วยครับ

 

ขอบคุณทุกคำตอบด้วยจ้า กัลยาณมิตร หาได้จากที่นี่จริงๆ ^ ^

 

ถูกครับ....ทำต่อไป...