ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ยุค"สามร่มโพธิ์ศรี"
โดยคุณอัญญาสิทธิ์​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Aunyasit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3069827", true); </SCRIPT> สมาชิก

สวัสดีครับ คุณเกษม

สถานที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ อยู่ ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ต.สีกาย อ. เมือง จ. หนองคาย ทางไป อ. โพนพิสัย(ที่คนเขาไปดูบั้งไฟพญานาค) อยู่ห่างจากเมืองหนองคาย ประมาณ 20 กม. ข้างหน้าทางเข้ามีป้ายพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ขนาดใหญ่ ครับ

ขณะนี้กำลังดำเนินการถมดินเพื่อสร้างมหาเจดีย์และมหาปราสาท ประดิษฐานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์
เมื่อถึงเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติ พระแก้วมรกตจะเสด็จมาทางนภากาศ มาอยู่ในเขตพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ครับ

ในโลกธาตุนี้ บารมีพระพุทธเจ้าห้าพระองค์สูงสุดแล้วครับ

ผมทราบเรื่องภัยพิบัติ จากหลวงปู่ทองทิพย์มานานแล้ว ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ทองทิพย์ จะรับรู้เรื่องภัยพิบัติกันทุกคน ก็รอกาลเวลากันเท่านั้นครับ

สำหรับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านให้ผมสร้างนั้น เช่น องค์พระเจ้าห้าพระองค์ มหาเจดีย์และมหาปราสาทประดิษฐานองค์พระฯ รวมทั้งลานปฏิบัติธรรมรอบๆองค์พระฯ นั้น ผู้ที่มีส่วนร่วมสร้าง หากใครสร้างด้วยจิตบริสุทธิ์และมีความศรัทธาจะสามารถอธิษฐานและมีอานิสงส์ส่งไปเกิดในยุคศาสนาของพระศรีอริยเมตตรัย ครับ

ผู้ร่วมสร้างสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ก็คือผู้ที่จะอยู่ในร่มโพธิ์ของพระศรีฯ (หนึ่งในสามของสามร่มโพธิ์ศรี) นั่นเองครับ

เรื่องภัยพิบัติ เป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม เป็นมติสวรรค์ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดไม่ได้ เทวดาเขาจะคัดเอาเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้นที่จะให้อยู่รอด เมื่อผ่านยุคภัยพิบัติก็จะเข้าสู่ยุค "สามร่มโพธิ์ศรี" ครับ<!-- google_ad_section_end -->

เรื่อง "สามร่มโพธิ์ศรี" นั้นที่จริงคือเรื่องของพระจักรพรรดิ์ ที่พระศรีฯ จะลงมายกยอพระศาสนา ที่พระศรีฯท่านมาเป็นพระยาธรรมิกราช ปกครองโลก พระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่เป็นคล้ายพระสังฆราชของโลก และพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่คล้ายนายกของโลก โดยมีเหล่า อัญญาสิทธิ์ และ อัญญาธรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ลงมาทำหน้าที่ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปฎิบัติรอพระจักรพรรดิ์ กันทั้งนั้นและมักอยู่ในที่ลี้ลับ แต่ถ้าปฏิบัติจิตถึงก็สื่อกันได้

รายละเอียดเรื่องสามร่มโพธิ์ศรี ผมกำลังรวบรวมจากคนในคณะหลายๆคน เพราะฟังมา ต่างวาระกัน แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังทีหลังครับ ที่สำคัญก็คือกาลของยุคพระจักรพรรดิ์ ใกล้เข้ามามากแล้ว ครูบาอาจารย์ ท่านมาบอกบ่อยๆให้เร่งปฏิบัติกัน พระศรีฯใกล้จะลงมาทำหน้าที่พระจักรพรรดิ์ แล้ว คำว่า "ใกล้" นี้ ในโลกภายในนั้นหากเป็น 5-10 ปีมนุษย์นั้น ถือว่าน้อยมาก

ที่ผมกำลังกังวลก็คือ กาลของพระจักรพรรดิ์ จะมาเร็วกว่าที่คิดมาก ครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ผมยังทำไม่เสร็จอีกมาก ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้ว่าเมื่อกาลของพระจักรพรรดิ์ใกล้เข้ามา หายนะจะเกิดขึ้นกับโลก เทวดาเขาจะทำฤทธิ์ โลกจะปั่นป่วนเท่าที่จำได้ ท่านบอกว่า "ประเทศอเมริกาจะเป็นเกาะเป็นแก่ง" ยุโรปต่อไปก็จะหายนะอยู่ไม่ได้ ต้องมาพึ่งแผ่นดินไทย (ต่อไป ไทยกับลาวจะกลับมารวมกัน) ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น หายไป ฯลฯ และ

ประเทศไทยจะดีได้ ก็ต่อเมื่อ "เกิดเหตุใหญ่" เสียก่อน การเมืองไทยคนจะฆ่ากันตายเป็นเบือ

แต่ที่เป็นอยู่ทางภาคใต้ตอนนี้คิดว่ายังไม่ใช่เหตุการณ์ที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ เคยถามท่านว่า "ไม่ให้เกิดไม่ได้หรือ" ท่านว่า "ปู่ยีเว่าไว้แล้ว ปานพระเจ้าเว่า เปลี่ยนแปลงไม่ได้"

หากใครสังเกตดีๆ ลมพายุนั้นคล้ายจักรหมุน หากใครเคยขี่จักรภายในจะเข้าใจว่าเป็นยังไง เท่าที่เห็นตอนนี้คือภายใน ปราบภายใน ก็ล้นออกมาภายนอก ใครมีกรรม เป็นเชื้อสายของพวกที่เขาปราบภายในก็จะได้รับผลกระทบ ถ้าจะไล่ลำดับ ก็ต้องไปตั้งต้นศึกษาระบบจิตวิญญาณที่หมุนเวียนอยู่บนโลกตั้งแต่ยุครามเกียรติ์แหละ

เอาเป็นว่าพวกอิสลามคือเชื้อยักษ์พวกนึง ฝรั่งก็เชื้อยักษ์อีกพวกนึง ทางเอเชียก็เป็นพวกเทวดา นาค ฯลฯ รวมทั้งลูกผสมเชื้อยักษ์ก็มีเช่นกัน ศาสตร์วิชาการที่มนุษย์ใช้อยู่บนโลกปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นวิชาของพวกเชื้อยักษ์เป็นคนคิด (ยิวกับยักษ์ เป็นภาษาลัญญลักษณ์) สุดท้ายศาสตร์วิชาการที่มนุษย์เอามาใช้ก็จะทำลายเบียดเบียนมนุษย์กันเอง

เกษม สมาชิก

กราบขอบพระคุณ คุณอัญญาสิทธิ์ มากครับที่ออกมาเปิดเผยสถานที่หลบภัยให้กับผู้มีบุญทั้งหลายได้รับทราบกัน เนื่องจากในขณะนี้มีหลายกลุ่มที่ได้เตรียมงานช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้นี้ มีทั้งสายพระ สายเทพ สายพญานาค สายมนุษย์ต่างดาว ฯลฯ

แต่ส่วนมากจะปิดเป็นความลับ ทำกันเป็นการภายในเฉพาะกลุ่มของตนเอง ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่ามีการเตรียมการณ์ไปอย่างไรบ้าง จึงทำให้การทำงานขาดการร่วมมือในแต่ละกลุ่มอย่างจริงจัง ต่างคนต่างก็ทำไปตามกำลังตนเอง เรียกว่าทำไปตามยถากรรม มีแรงเท่าไหร่ก็ทำไปเท่านั้นเอง

เมื่อกลุ่มของคุณอัญญาสิทธิ์ ได้ออกมาเปิดเผยตัวเป็นสาธารณะอย่างนี้ นับเป็นนิมิตรหมายที่ดียิ่ง ที่ผู้มีบุญทั้งหลายจะได้ทราบว่ายังมีกลุ่มของคุณอัญญาสิทธิ์ อีกกลุ่มหนึ่งที่จะเป็นที่พึ่งได้ในยามที่เกิดภัยพิบัติครับ<!-- google_ad_section_end -->

13-03-2010, 06:39 PM

ที่มาhttp://palungjit.org/threads/เตือนอีก11ปี-น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ.189136/page-3


<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ริกเตอร์ เขย่าภาคเหนือพม่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 มีนาคม 2553 16:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงระดับ 5.4 ทางตอนกลางของพม่า ในเช้าตรู่วันนี้(13 มี.ค.)

สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวระดับ 5.4 มาตราริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 5.49 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาในประเทศไทยครึ่งชั่วโมง มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองมอนยอ (Monywa) ไปทางเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ 115 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 105 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่พบรายงานว่ามีความเสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด.

ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000035419

 

ผมมีความรู้สึกว่าพระแก้วมรกต ท่านสร้างไม่ใช่แค่ พระองค์เดียว แต่มีองค์ที่แท้แค่องค์เดียวเท่านั้นนะ ส่วนยุค สามร่มโพธิ์ศรี ผมว่าท่านมากันครบหมดแล้วนะครับ 1 ท่าน ท่านรู้ตัวท่านเองแล้ว แต่อีก 2 ท่าน ท่านยังไม่ถึงเวลาที่จะรู้ตัว

 

======================================

10 ก.พ. 53 25ก.พ. 53


โห่ฮิ้วโห่.....ฮิ้ว

ยินเสียง---------แว่วแว่ว-------แห่ขันหมาก
ลุงอาจ----------รำนำ---------เขาแห่แหน
แขกเหรื่อ--------มากหน้า------ล้วนใส่แดง
อีกยายแม้น------ไปขอ---------สาวเจ้าใด

แมงกะไซ---------นำขบวน--------เดินนำหัว
รำมั่วซั่ว----------ไปรับ-----------ลูกนางอิน
ทั้งเพื่อนบ้าน------ชื่นชม----------ทั่วลานบิน
ต่างได้ยิน---------ลูกยายอิน-------เป็นคนรวย

ถึงกับปิด---------สนามบิน--------เลี้ยงฉลอง
ให้พวกพ้อง------ร่วมดื่มกิน--------สิ้นเงินแสน
แต่ทำให้---------อ้ายฝรั่ง---------คนข้ามแดน
ต้องดูแคน--------อีนางแม้น-------ดูมันทำ



องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

*** แก่นสารรามเกียรติ์ ****

คือ....สัจจะ
สิ่งที่สัตว์โลก...ต้องทำให้ให้กับตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อ่านแล้วซึ้ง....เก็บมาฝาก
(y)

*****************************
ความคิดเห็นที่ 68
พ่อจ๋า...ลูกยังจำภาพนั้นได้ติดตา
คืนนั้น....ดึกแล้ว....พ่อนอนไม่หลับ
พ่อให้คนพาพ่อไปนั่งริมแม่น้ำ...
พ่อทอดสายตาไปยังสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก
ในแววตาของพ่อ..เรียบเฉย..นิ่งดุษฎี
แต่ดูเหมือนมีร่องรอยกังวล..ปรากฎอยู่บนใบหน้าของพ่อ

ลูกรู้ได้ในใจทันทีว่า..พ่อคงคิดอะไรบางอย่างอยู่
ลูกเคยได้ยินหลวงตาบอกลูกว่า..พ่อของลูกนั้น
ไม่ใช่คนธรรมดา...พ่อของลูกมีธรรม 10 ประการ
พ่อบำเพ็ญเพียรในศีล ในธรรมตลอดมา..หลวงตายัง..
บอกอีกว่า...ให้ลูกๆทุกคน...จงเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อ
ลูกคนใดทำได้...ชีวิต..จะประสบแต่..ความสุขความเจริญ
หากลูกคนใด..ทำให้พ่อต้องเสียใจ..จงระวังไว้
เพราะนั่น..จะเป็นกรรม..และลูกคนนั้น..จะต้องชดใช้

พ่อเคยย้ำอยู่เสมอว่า..พ่อไม่อาจให้ลูกเป็นคนดีได้ทุกคน
แต่ลูกคนไหนที่ไม่ดี..พ่อขอร้องว่า..อย่าให้ลูกคนนั้นดูแลบ้าน
เพราะคนไม่ดี...ย่อมปกครองบ้านไม่ได้..เหตุเพราะไร้คุณธรรม

ลูกไม่รู้หรอก..ว่าพ่อมีอนาคตังสญาณที่หยั่งรู้อนาคตได้หรือไม่
แต่ลูกมั่นใจในตัวพ่อเสมอมา...ว่า..หากพ่อของลูกคนนี้ยังอยู่
ไม่ว่าใคร..คนไหน..ที่พูดไม่ดี คิดไม่ดี ทำไม่ดี...
ไม่ว่า..จะทำต่อตัวพ่อ..หรือลูกคนอื่นที่เขาเคารพพ่อ
ลูกคนนั้น..จะพ่ายแพ้ภัยตัวเอง..เสมือนหนึ่งขว้างลูกบอล
เข้ากำแพง...ยิ่งแรงเท่าไหร่..มันจะสะท้อนเข้าหาตัวเอง
แรงมากเท่านั้น

คืนนั้น..หลังจากพ่อกลับจากนั่งเล่นริมแม่น้ำ
ลูกนอนหลับ..และฝันดี
ฝันว่ามีทวยเทพเทวดา..นับร้อยนับพันมาหาพ่อ
พร้อมอวยชัยให้พรพ่อ..ขอให้มีอายุยืนนาน
ในฝัน...ลูกยังเห็นแสงฉัพพรรณทรังสีบนตัวพ่อ
เปล่งประกาย...เทียบเท่าเหล่าเทวดานั้นทีเดียว

พ่อจ๋า...ลูกๆทุกคน ขอบอกพ่อว่า........
บ้านหลังนี้..ตราบที่มีพ่อคนนี้อยู่.......
จะไม่มีเภทภัยพาลใดๆมาทำร้ายพ่อหรือคนในบ้านได้
ด้วยเดช..และบุญบารมีของพ่อ..คุ้มครอง

ไม่ว่าวันนี้..วันไหน...ชาตินี้..หรือ..ชาติไหน
ลูกทุกคน..ขอเกิดเป็นลูกของพ่อทุกชาติไป..
ลูกทุกคนจะรักภักดีต่อพ่อ..เหมือนที่พ่อรักลูกทุกคน
ขอพ่อจงเป็นสุขชั่วนิจนิรันดร์ด้วยเถิด..สาธุ

จาก........ลูกไทยทุกคน
ความในใจถึงพ่อ

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000034075

 

เคยมีคนบอกว่าในหลวงท่านถอดจิตได้​

ถ้าหากไม่ติดพระราชกรณียะกิจใดๆ ในหลวงท่านจะนั่งสมาธิตั้งแต่ 6 ทุ่มถึง 6 โมงเช้าทุกวัน ฟังทีแรกยังไม่อยากเชื่อเลย แต่ได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำที่ได้พูดถึงในหลวงว่า ท่านมีสมาธิดีมาก ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ตามธรรมดาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ) แห่งวัดท่าซุงจะอัดเทปถวายในหลวง เพื่อนำไปเปิดขณะปฏิบัติธรรม เท่าที่ทราบมาท่านเอาเทปของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำที่อัดถวายแขวนคอแล้วเดินจงกรมที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน บางครั้งท่านก็นั่งสมาธิโดยจับเสียงคลื่นเป็นอารมณ์กรรมฐานในหลวงท่านทรงแนะนำให้บุคคลใกล้ชิดได้ปฏิบัติธรรมด้วย เช่น พระราชวงศ์ องคมนตรี องครักษ์ หรือแม้แต่บุคคลที่ใกล้ชิดท่าน มีหลายพระองค์บอกว่าในหลวงเป็นผู้ทรงฌานคนหนึ่ง เวลาท่านไปไหนพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายองค์ขยับแล้วขยับอีก แต่ในหลวงท่านเพียงแค่กระพริบตาอย่างเดียว นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเลยได้เป็นชั่วโมงๆ พลตำรวจเอกที่เคยเป็นองครักษ์ของท่านคนหนึ่งก็เคยพูดว่า ในหลวงท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยนั่งสมาธิเห็นร่างของท่านเป็นเนื้อแดงๆ ลอกออกจนเห็นกระดูกสีขาวๆ มีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ในหลวงท่านเคยถอดจิต ( จะเรียกว่าถอดจิตก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะโอเลี้ยงหายไปครึ่งแก้ว ) มหาท่านหนึ่งที่มีบารมีมากสามารถต่อรองกับพระยายมเพื่อนำคนที่ตกนรกแล้วขึ้นมาได้ ในหลวงท่านถอดจิตมาหาก็เพราะต้องการให้ช่วยอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่เป็นเชื้อพระวงศ์ขึ้นจากนรก แต่ท่านนี้ไม่ยอมช่วยเพราะเหตุไม่ถูกกับอดีตนายกฯ คนนี้ แต่ที่น่าแปลกก็คือ ถ้าในหลวงท่านถอดจิตมา ( มาแค่จิตอย่างเดียว ร่างกายไม่ได้มาด้วย ) โอเลี้ยงคงไม่หายไปครึ่งถ้วยหรอกครับ เพราะเจ้าของบ้านให้คนไปซื้อมาถวายในหลวง แต่ที่นี่หายไปครึ่งแล้ว แสดงว่าในหลวงท่านหายตัวได้ครับ! ในหลวงท่านฝึกสมาธิจนถึงขั้นอภิญญา ซึ่งลูกศิษย์สายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมีหลายคนทำได้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เพียงแต่ว่าเขาไม่ค่อยแสดงฤทธิ์เท่านั้นเอง แต่ถ้าท่านรู้มากกว่านี้ ก็คือ ในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ ( พระโพธิสัตว์ คือ บุคคลที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ) และท่านก็มีบารมีมากพอที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่ๆ แล้ว ( ต่อจากหลวงปู่ ท..... และสมเด็จ ต..... ) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะหายตัวได้
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=86546

 

เรา-พี่น้องไทยด้วยกันทุกคน อย่าทำบาป อย่าสร้างกรรมวิบัติให้ตัวเองและวงศ์ตระกูลด้วยการอสัตย์ คือไม่ซื่อต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้สร้างแผ่นดินให้เราอยู่เป็นอันขาด เพราะพวกเราควรเข้าใจด้วยว่า อันทศพิธราชธรรม คือพระจริยวัตร ๑๐ ประการที่พระเจ้าแผ่นดินทรงประพฤติปฏิบัติเป็นหลักธรรมประจำพระองค์ นั้น
นั่นคือสู่ชั้น-สู่เส้นทาง "บารมี ๓๐ ทัศ" คือธรรมสมบัติที่ทำให้ยิ่งใหญ่ เกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติได้ถึงซึ่งเส้นทางโพธิญาณในอนาคต และท่านควรทราบไว้ด้วยว่า จริยธรรม ๑๐ ประการ ของผู้เข้าสู่ภาวะ "พระโพธิสัตว์" นั้น คือประการใดบ้าง?
และถ้าทราบแล้ว ผมเชื่อว่า "ทุกคน" จะต้องเข้าใจ และเข้าถึงด้วยซาบซึ้งในพระจริยวัตรของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พระผู้อุทิศพระองค์ทรงเป็น "พ่อของแผ่นดิน" และของเราทุกคน ดังนี้ครับ
๑.พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า ร่างกายจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ

๒.พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า ครองชีพโดยไม่ปรารถนาว่าจะไม่มีภัยอันตราย

๓.พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีอุปสรรคในการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์

๔.พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีมารขัดขวางการปฏิบัติภารกิจ

๕.พระโพธิสัตว์ ถือว่าทำงานให้นานที่สุด โดยไม่ปรารถนาจะให้สำเร็จผลโดยเร็ว

๖.พระโพธิสัตว์ คบเพื่อน โดยไม่ปรารถนาจะได้รับผลประโยชน์จากเพื่อน

๗.พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาว่า จะให้คนอื่นต้องตามใจตนเองเสมอไปทุกอย่าง

๘.พระโพธิสัตว์ ทำความดีกับคนอื่น โดยไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน

๙.พระโพธิสัตว์ เห็นลาภแล้ว ไม่ปรารถนาว่าจะได้รับ

๑๐.พระโพธิสัตว์ เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ติเตียนนินทาแล้ว ไม่ปรารถนาที่จะตอบโต้

พระผู้ทรงปฏิบัติสู่เส้นทาง"โพธิสัตว์" | ไทยโพสต์

 

*** คนธรรมดา ***

ฉัน ไม่ได้ต้องการประชาธิปไตย...
แต่ฉัน ต้องการความสงบสุข ความเจริญ....เท่านี้ก็พอ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเป็นพระโพธิสัตว์"

เหตุผลต่อความเชื่อที่ว่าในหลวงทรงเป็นพระโพธิสัตว์ - ลานธรรมเสวนา - หน้า 1.65

 

สรุปว่า.....

พลังลบ คงทำอะไรไม่ได้ครับ

สบายใจได้นะครับ

 

ความรักความเข้าใจ คัยจะมีให้กันบ้างง~ คิๆ

 

มีพระแก้วอีกสององค์ที่อุบล ขอเชิญไปสรงนะครับ

 

พิษณุโลก-ไหว้พระขอพรให้ประเทศสงบสุข​

​

ในช่วงนี้การเมืองและความขัดแย้งในประเทศ เริ่มมีปัญหามากยิ่งขึ้น มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่หันหน้าไปไหว้พระขอพร ให้ประเทศชาติสงบสุขโดยเร็ว

โดยบรรยากาศที่วิหารหลวงพ่อพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ มีประชาชนจำนวนมาก ที่ต่างเดินทางมาไหว้พระขอพรพระพุทธชินราช เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งเพื่อร่วมอธิษฐานจิตให้ประเทศชาติสงบสุขโดยเร็ว หลังจากในช่วง 2-3 วันนี้ได้เกิดสถานการณ์ชุมนุมภายในประเทศ ทำให้เกิดการแตกแยกทางความคิด ทำให้ประชาชนชาวไทยยังมีปัญหาภายในประเทศอยู่ ซึ่งมีประชาชนและพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ที่ต่างหนีความวุ่นวายพาครอบครัว มาร่วมไหว้พระขอพร พร้อมทั้งท่องเที่ยวคลายร้อนกันอย่างคับคั่งทีเดียว

นอกจากนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาไหว้พระขอพรพระพุทธชินราช เพื่อให้ประเทศชาติสงบสุขแล้ว ยังร่วมอธิษฐานจิตถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯให้ทรงมีพลานามัยที่สมบูรณ์ยั่งยืนนาน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=17063

 

ศรีสะเกษ-ผวจ.ปล่อยขบวนรถน้ำแจกจ่ายชาวบ้านประสบภัยแล้ง​

​

ผวจ.ศรีสะเกษปล่อยขบวนรถน้ำ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้งในเขตพื้นที่ อ.ราษีไศล

ที่หอประชุมโครงการฝายราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปตรวจติดตามและรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ภัยแล้งในเขตพื้นที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งได้ปล่อยขบวนรถน้ำ จำนวน 13 คัน โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.โครงการชลประทานจังหวัด และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 ศรีสะเกษ เพื่อนำออกไปแจกจ่ายน้ำดื่มและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยแล้งในเขตพื้นที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 13 อบต. รวมทั้งสิ้น 190 หมู่บ้าน

หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านมะยาง หมู่ที่ 5 ต.หนองแค อ.ราษีไศล เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้าน พร้อมทั้งได้มอบสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้านผู้ด้อยโอกาส และแจกจ่ายน้ำดื่มให้แก่ชาวบ้านมะยาง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งในครั้งนี้อีกด้วย

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=17026

 

ญี่ปุ่น-เกิดแผ่นดินไหว 6.6 ริคเตอร์​

​

เกิดเหตุแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เบื้องต้นวัดขนาดความรุนแรงได้ 6.6 ริคเตอร์ เมื่อคืนวานนี้ ล่าสุดยังไม่มีรายงานความเสียหาย รวมไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จุดศูนย์กลางของเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวอยู่ลึกลงไปใต้มหาสมุทรฮอนชู ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น 40 กิโลเมตร เกิดขึ้นเวลา 23.8 นาฬิกา วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น วัดขนาดความรุนแรงเบื้องต้น 6.6 ริคเตอร์ แรงสั่นสะเทือน ทำให้อาคารสูงหลายแห่งในกรุงโตเกียวสั่นไหว ขณะที่สถานีรถไฟฟูกุชิมะ ผู้โดยสารต้องนั่งรออยู่ในตู้โดยสารรถไฟ เนื่องจากต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เพราะเกิดอันตราย อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รวมไปถึงการเตือนภัยสึนามิ

รายงานระบุว่า ทางการต้องปิดถนนเพื่อให้ตำรวจและพนักงานดับเพลิงลงพื้นที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวเพื่อตรวจดูความเสียหาย ขณะที่บริษัทโรงไฟฟ้าโตเกียว เผยว่าโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในโอนากาวะ และ ฮิกาชิโร ทำงานได้ตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=17097

 

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7046 ข่าวสดรายวัน


ราชนครินทร์เสวนา"ทางออกเมืองไทย" แนะนักการเมืองยึด"สัจจะ-ข่มใจ-อดทน-ละทุจริต"



ศ.ดร.กระมล ทองธรรมชาติ ปาฐกถาพิเศษ ในการเสวนาเรื่อง การพัฒนาการเมืองกับการเสริมสร้างธรรมาภิบาล(ทางออกการเมืองไทย) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.) ว่า หัวใจของการปกครองบ้านเมืองของนักการเมืองควรยึดหลักธรรม 4 ประการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ คือ 1.การรักษาสัจจะ ความจริงใจต่อตนเองและสังคม 2.การรู้จักข่มใจตนเอง 3.การอดทน อดกลั้นและอดออม 4.การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม รวมไปถึงการส่งเสริมการพัฒนาด้านการศึกษาให้มาก การเมืองจะได้ชัดเจนมากขึ้น และถ้าการเมืองนิ่งการศึกษาจะดีขึ้น

ศ.ดร.กระมลยังกล่าวถึงทางออกทางการเมืองว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะทำได้ยาก และถ้าหากเป็นเช่นนี้อยู่ผลกระทบย่อมเกิดแน่นอน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองและแน่นอนผู้ที่จะรับผลกระทบนั้นคือประชาชนชาวไทย

สำหรับมุมมองของนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มรร. ในเวทีเสวนาคิดว่า ทางออกทางการเมืองที่น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสม คือทุกฝ่ายควรเคารพกฎหมายและกติกาของสังคม เพราะนักการเมืองและประชาชนบางส่วนไม่ค่อยเคารพในกติกาที่ใช้ร่วมกัน การกำหนดกฎหมายก็คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่เคารพกฎหมายที่เป็นกติกาซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด และประชาชนส่วนใหญ่ยังได้รับข้อมูลข่าวสารหลากหลาย ทั้งเป็นข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จ อย่าไรก็ดีกระบวนการทางยุติธรรมถือว่าเป็นที่สุดของความยุติธรรมและน่าเชื่อถือที่สุด กล่าวคือ กระบวนการยุติธรรมก็อาศัยกฎหมายในการพิพากษาคดีต่างๆ

ฆ่าตัวตายพุ่งวิกฤตการเมือง-ศก. หวั่นแนวโน้มเพิ่ม-เหตุขาดความเอื้ออาทรต่อกัน



พิษณุโลก - นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ปัญหาสุขภาพจิตและปัญหาสังคมมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เวลาที่สังคมมีปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องปากท้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การขัดแย้งทางความคิด ความรุนแรง การมีสมาชิกในครอบครัวเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง โรคร้ายแรง โรคทางจิตเวช ติดสุรา พิการ ลูกมีปัญหาการเรียนหรือพฤติ กรรม ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชนทั้งสิ้น ในทางกลับกันการที่คนในสังคมมีปัญหาสุขภาพจิต ก็มักจะส่งผลให้สังคมมีความเกื้อกูลกันน้อยลง ขาดความเมตตาและความเอื้ออาทรต่อกันกลายเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ การแก้ปัญหาสุขภาพจิตและการทำให้สังคมมีความน่าอยู่ ผู้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งบุคลากรภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนนำความรู้ในการเสริมสร้างพลังสุขภาพจิต ฝ่าวิกฤตในสถานการณ์ปัจจุบัน สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ลดความตึงเครียดในจิตใจและช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพจิต และความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่าอัตราการฆ่าตัวตาย ในปี 2551 เรามีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ คาดการณ์ว่าในปี 2553 อัตราการฆ่าตัวตายจะต้องเพิ่มขึ้น เพราะจากการคาดการณ์จากเหตุวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ก็พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายมีมากขึ้นในปี 2542 มีอัตราฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นปีละ 3,000 ราย ถ้าจากการประเมินสถานการณ์ เราไม่ทำอะไร อัตราคนฆ่าตัวตายจะเพิ่มจากปีละ 3,000 ราย เพิ่มเป็น 5,000-6,000 รายต่อปี ดังนั้นสื่อท้องถิ่นจึงมีบทบาทสำคัญมาช่วยเหลือตรงจุดนี้

 

ตอนนี้เมืองไทย มีสามก๊ก เกิดขึ้นแล้วน่ากลัวจัง

 

*** โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต ****

การกระทำ....ลิขิตตัวเอง
ดินฟ้าอากาศ...ขึ้นกับใจคนเรา
ไทยเราสามารถแตกแยกเป็น....๔ พวกได้
ถ้า...บ้านเมืองขาดสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัจจะโลกุตตระธรรม หนทางก้าวข้ามกรรมที่จะปรากฏ ****

ถ้าศึกษาพิจารณาให้ดี...
จะพบว่า..."ข่มใจ-อดทน-ละทุจริต"....สามารถเกิดขึ้นจริงได้ด้วย "สัจจะ"
ขึ้นอยู่กับว่า...เราจะเอาหัวข้อธรรมอะไร...มานำชีวิตตนเอง ในแต่ละชั่วโมง แต่ละวัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "