ปริศนา "ZERO POINT"... แหล่งพลังงานแห่งการดำรงอยู่ของสรรพสิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย kindred, 4 มกราคม 2010.

  1. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    อ่านมาทั้งหมด เข้าใจอันนี้อยู่อันเดียว อุเบกขา :d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2010
  2. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    คุณ somemaybe ลองใช้ จินตนาการ แทน ความเป็นเหตุเป็นผล ซิคะ
    มันก็คือการใช้สมองซีกขวา ให้มานำ ซีกซ้าย เพื่อขยายขอบเขตของความคิด
    สมองมี 2 ซีก ให้ทำงานร่วมกัน แต่ให้ใช้จินตนาการนำ

    ที่บอกนี่เหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่ายเลยนะคะ ขอบอกกก *-* ลองดูนะคะ
    ถ้าคุณทำได้แล้ว คุณจะเกิดความเข้าใจภายใน ซึ่งยากมากกกกกกที่จะพูดออกมาให้ใครเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจได้
    แล้วคุณจะรู้เองนะคะ ด้วยตัวของคุณเอง *-*
     
  3. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    การอธิบายความรู้สึกรัก ออกมาเป็นสารเคมี มันยากเหลือเกินนะครับ อิอิ..
    แต่เจ้าของบทความก็ทำออกมาจนได้
    เจ้าของกระทู้ก็แปลออกมาได้ดีเช่นกัน

    จะติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะครับ
    อย่าเพิ่งเบื่อแปลก่อนหละท่าน :)
     
  4. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    :dแหะ แหะ จริงๆ ยังอ่านอะไรไม่จบเลยค่ะ เปิดดูหน้าที่1อย่างรวดเร็ว
    และข้ามมาที่หน้าสุดท้าย หลังจากไปนั่งมึนอยู่ที่หน้าหนึ่งอยู่ตั้งนาน

    ตะกี้จะเปิดเข้าไปอ่านอีกที แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องอีกอยู่ดี
    เพราะโปรแกรมดูเนทมันรีสตาร์ทตัวเองเป็นรอบเท่าไหร่แล้วก็ไม่รูุ้

    แต่เท่าที่อ่านไปได้นิดๆหน่อยๆ
    ดูจะเป็นความรู้สึกที่ดื่มด่ำ ลึกล้ำ และบางทีก็ หวือหวา ทรงพลัง ใช้คำนี้น่าจะเหมาะ
    พลังที่เหมือนมีชีวิต ซึ่งเป็นชีวิตที่มีความเป็นชีวิต (จริงๆ)

    แต่น่าเสียดายที่เดี๋ยวนี้ชีวิตถูกทำลาย

    ชีวิตห่อเหี่ยวและมีความเป็นชีวิตชีวาน้อยลง

    ก็ยังเชื่อนะค่ะ ว่า
    จินตนาการที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเศร้า ร่วมกันสร้างโลกให้มีความงาม

    การทำให้เกิดมีพลังของชีวิต
    มันช่างแตกต่าง กับความเงียบสงบในแบบของศาสนาที่เคยไปสัมผัสในบางครั้งคราว
    จนบางทีรู้สึกเหมือนกับว่ามันสวนทางกัน

    อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะใช้จินตนาการผิดไปรึป่าว


    และขอบคุณที่ให้มาปั่นป่วนเจ้าค่ะ
    :d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2010
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ไม่ต้องประหลาดใจค่ะ ที่เกิดความมึน
    เพราะเจ้าของกระทู้เอง กว่าจะหลุดหน้า1 มาได้
    ก็เล่นเอามึนไปหลายวัน แก้อยู่หลายรอบ อาศัยเพื่อนๆช่วยเกลาความให้

    เพราะเรื่องที่หยิบมาคุย ค่อนข้างเป็นนามธรรมสุดฤทธิ์
    จึงจำเป็นต้องไปขวนขวายหาข้อมูลแบบพลิกแผ่นดิน
    ก็ได้มาแค่นั้นอะ....เลยๆ มาเลย เลยก็ได้ค่ะ ..อิอิ

    เพื่อนในทีม ยังบอกว่า กระทู้ชื่อไม่น่าสนใจ
    แถมหน้าแรกก็เต็มไปด้วยภาษามึนๆ
    ทำให้ คนเปิดเข้ามาแล้วเผ่นแน่บ ไปหลายราย อิอิ
    จริงๆจุดประสงค์กระทู้ แค่อยากเสนอแนวคิดต่างๆ
    ในการปรับสมดุลย์ให้กับตัวเองให้มากที่สุด

    แล้วที่อ่านข้อความ คุณSomemaybe คุณไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากเลยค่ะ
    คุณเป็นธรรมชาติมากๆ พลังงานคุณชัดเจนดีค่ะ
    ลองใช้จินตนาการให้สอดคล้องกับพลังงานของตัวเอง ดูนะคะ
    เป็นอย่างที่ตัวเองเป็น แล้วจะไหลลื่นเองนะคะ

    แล้ว.... ข้ามมาเริ่มอ่านหน้าที่ 2 เลยก็ได้จ้า แหะ แหะ

    จริงๆแล้ว พลังชีวิตที่สูงสุดและมีอำนาจสุด คือพลังของความเงียบ
    ปราศจากการให้ค่าของความคิด แต่มันต้องเงียบโดยธรรมชาติ
    ไม่ใช่ถูกบังคับให้เงียบ จากกรอบหรือพิธีกรรม หรือแนวคิด

    การถูกบังคับ ทำให้เราไม่ไหลลื่นไปในความเป็นจริง

    ไม่ว่าจะเป็นศาสนา หรือวัฒนธรรม สังคม หรือ อื่นๆอีกมากมาย
    เป็นเพียงกรอบวินัย ของความเชื่อ เป็นแนวทาง
    ที่มีขีดจำกัด ของแต่ละกลุ่ม และวัฒนธรรม

    จิตวิญญาณมีความเป็นอิสระอย่างยิ่ง
    ถ้าจิตวิญญาณถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ ที่ไม่เป็นธรรมชาติ
    พลังงานชีวิต ย่อมไม่สามารถแสดงพลังงานที่แท้จริงออกมาได้
    "กล่อง" เหล่านั้น ครอบเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนเราเหมือนหุ่นยนต์
    ทำตามกันไป เพราะเค้าบอกว่า มันดี....????

    ลองคิดจากข้างนอก"กล่อง" นำขีดจำกัดในกล่องมาเป็นเครื่องมือของกลไกชีวิต
    แต่อย่าให้ชีวิตขึ้นอยู่กับ สิ่งที่อยู่ในกล่อง

    ใช้หัวใจของคุณนำทาง
    แล้ว จิตวิญญาณของคุณจะเป็นอิสระ

    มาป่วนได้ดีจริงๆ....อิอิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2010
  6. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    มาเป็นกำลังใจครับ ยินดีและดีใจที่ได้อ่านสิ่งที่คุณ เดรด กล่าว
     
  7. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    *0* แค่นี้ก็ดีมากแล้วค่ะ คุณ somemaybe ที่ให้ความสนใจ
    เพราะสถานภาพของแต่ละคนต่างกัน สิ่งที่รู้สึกและเจอระหว่างทางย่อมต่างกันไปด้วย
    เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ถึงความเป็นจริงที่จริงแท้เมื่อไหร่ คุณจะรู้ว่าถ้าพูดออกมาแล้วมันจะผิดไปจากที่รู้สึกจริงๆ

    แบบนี้เค้าไม่เรียกว่า "ป่วน" หรอกค่ะ เค้าเรียกว่า พูดคุยเพื่อการพิจารณาและพัฒนามากกว่า ... อิอิ

    ครั้นจะให้ทุกคนมีความเข้าใจในระดับเดียวกันมันเป็นไปแทบไม่ได้ เพราะมันวัดค่ากันไม่ได้ จริงมิ เพราะส่วนใหญ่ถ้าเราเป็นคนให้ค่า มันก็คือบรรทัดฐานของเราซึ่งในความเป็นจริง มันไม่ใช่เบบนั้นเลยด้วยซ้ำไป *0*

    เอาใจช่วยค่ะ คุณ somemaybe ไม่ต้องกลัวคุณ kindred จะเลิกแปลง่ายๆนะคะ ยังอยู่อีกนานค่ะ อาแจ้เค้าเหนียว เอ้ย อึด ค่ะ...อิอิ
     
  8. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143

    มันเป็นการยากสำหรับกุญแจไขตัวเอง
    ให้ไปสู่ความรู้สึกปลอดโปร่งและเป็นอิสระ


    ดีใจจังค่ะที่มีคนบอกว่าพลังงานของตัวเราเองมีความชัดเจนดี

    เพราะบ่อยครั้งเกิดสภาวะทวิขึ้นมาประจำ

    สุดโต่งชนิดที่ว่า ด้านหนึ่งใจมันอยากจะขยี้ดลกให้เป็นเสี่ยงๆไปเลย

    บางทีก็มีความรู้สึกว่าถึงความเชื่อ และความไม่เชื่อ แบบไม่เชื่อจริงๆ

    ก็เป็นกลับไปกลับมา

    จนปวดหัวที่จะคิดหาคำตอบหรือไปสนใจกับสิ่งที่ล่องลอยเข้ามาในหัว

    รู้สึกอยากตื่นขึ้นมั่งจัง

    มันคงรู้สึกดีและมีชีวิตชีวาดีไม่น้อย
     
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
  10. fidgi

    fidgi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +184
    หนูตามกลิ่นธูปมา..า..า..า..า..า.......[​IMG]

    อ่านแบบผ่านๆ นะ เล่นเอามึน เดี๋ยวขออนุญาตปลิ้น เอ๊ย พริ้นท์ไปอ่านนะ
    ก็เจ๊อ่ะใช้สี rainbow มากเลย เดี๋ยวอ่านเป็นกระดาษดีก่าาาาาเน๊อะ
    แต่ไม่รู้อุปาทานหรือเปล่านะ ฟัง Chakra Balancing Meditation
    ไปได้แป๊บหนึ่งแล้วจักระ 7 มันตุ๊บๆ เลยอ่ะ ตุ๊บๆ แบบเคลื่อนที่มาข้างหน้าด้วย
    คือพอฟังแล้วมันพุ่งขึ้นกลางกระหม่อมเลย พอมาฟัง Love signal
    ก็รู้สึกหนักหน้าผาก แต่บังเอิญอันนี้ฟังไม่จบ (เพราะมัวแต่ไปคุยโทรศัพท์อยู่ อิอิ...)
    อาจจะอุปาทาน แต่เพลงของ Glenshee เนี่ย เพราะมากๆ ขอบอก
    สไตล์คล้ายๆ ของ secret garden เลย

    เดี๋ยวอันนี้ขออนุญาต save ไปอ่านทำความเข้าใจก่อนนะ
    ท่าทางจะเข้าใจยากส์ไปสำหรับไปสำหรับน้อง ต้องขออ่านหลายๆ หนหน่อย
    ขนาดเจ๊ยังมึน แล้วน้องจะเหลือเร๊อะ..[​IMG]

    </EMBED>
     
  11. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ชื่นใจจริงๆ ที่น้องรัก จำกลิ่นธูปของพี่ได้...
    เรื่องตัวหนังสือ สี Rainbow มันมีสาเหตุ เล่าแล้วจะเชื่อไหมล่ะ

    จริงๆพี่เองเรียกว่าสีลูกกวาดจ้า
    เป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวในการสื่อสารด้านจิตวิญญาณ
    จากจิตวิญญาณผู้นำทางของตัวเอง(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)

    การโพสต์ข้อมูลในกระทู้นี้ ไม่ใช่ว่าตัวเองว่างจึงมาเขียนได้
    ข้อมูลบางอย่างแปลไว้นานแล้ว แต่ทำไมไม่เอามาลงไม่รู้เหมือนกัน
    ส่วนบางอัน แปลเดี๋ยวนั้นโพสต์เดี๋ยวนั้น ก็มี
    ตอนนี้ปล่อยเลยตามเลยแล้วจ้า ไม่วางแผนแล้ว
    จะโพสต์อะไรต่อหรือไม่โพสต์ก็ยังไม่รู้เลย แล้วแต่ผู้นำทางจะพาไปแล้วค่ะ

    เรื่องเพลงกระตุ้นจักระ ส่วนตัวเอง ตอนฟังครั้งแรกเหมือนต้องมนต์
    ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง รู้สึกแต่พลังงานที่สั่นสะเทือนไปตามจักระต่างๆ
    โดยเฉพาะตอนท้ายๆ มันวิ้งๆๆ เหมือนอะไรจะปะทุออกมาจากร่าง
    เลยเอามาลงให้ลองฟังกัน ก็มีน้องfidgi นี่แหล่ะที่ มาบอกว่ารู้สึกเหมือนกัน

    ส่วน Love signal ดนตรีจะเป็นเสียงซินดิไซเซอร์ เป็นดนตรีประเภทข้ามคู่เสียง
    สังเกตุดูซิค่ะ ว่ามันวิ้งๆ อีกเช่นกัน คลื่นนี่ความถี่สูง มันเลยเจาะทะลุทะลวงลงไป
    เราจึงรู้สึกได้ ถึงบอกว่าให้ฟังแบบ อย่าคิด แล้วจะรู้สึก

    ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่มากระตุ้นให้เข้าใจในเรื่องการทำงานของพลังงาน
    แบบว่าอ่านทฤษฎีแล้ว ก็ควรต้องปฏิบัตินิดนึง ไม่งั้นก็แค่อ่านแล้วผ่าน ไม่ได้อะไร

    ส่วนที่น้องบอกว่า มันแน่น อึดอัด ก็เกิดจากเราไปจดจ่อมัน
    เพราะจักระที่7 จะรับรู้ได้เร็วและชัดสุดเพราะปลายท่อเปิด
    จริงๆก็มันทำงานทุกจักระ แหล่ะ แต่เรารับรู้ไม่ละเอียดพอ
    การไหลเวียนของปราณ นี้ คือพลังชีวิต ที่ไหลเคลื่อนตามลมหายใจ

    เมื่อไปจดจ่อ ก็จะเกิดการหยุดชะงัก เพราะระบบในร่างกายเราประสานกันไปหมด
    จนถึงระดับเซลล์ และเล็กลงเรื่อยๆ จนเป็นแค่กลุ่มพลังงาน
    มันก็เหมือนเราไปขวางเขา เค้าก็หยุดซิคะ เค้าเขินนิ ก็เหมือนรถติดสะสม เพราะปราณจะไหลต่อเนื่อง พอมาสะดุด มันก็เพิ่มๆๆๆ
    มันติดกันยาวเหยียด แต่ละคันจะไปก็ไปไม่ได้ มันก็อึดอัดดิ

    เพราะงั้นแค่ รับรู้ และรู้สึกเบาๆก็พอ
    ไม่ต้องไปจ้องแบบจะให้เห็นเป็นก้อน เป็นดวง เป็นแสง เป็นกงจักรหมุนๆโผล่ออกมาค่ะ
    เค้าทำงานของเค้าปกติอยู่แล้ว เราช่วยเค้าแค่ในการควบคุมลมหายใจ
    และการไม่ฟุ้งซ่านจากความคิด จะไปช่วยให้พลังงานเป็นระเบียบขึ้นเท่านั้น
    มันก็จะ flow ขึ้น แบบว่าทางสะดวกหนะค่ะ

    เน้น อย่างเดียว ต้องสบายที่สุด
    เมื่อติดขัด ต้องปล่อย ไม่ต้องกลัวไม่รู้สึก ถ้าจิตนิ่งพอ ยังไงก็รับรู้ค่ะ

    ปล. โปรดอย่าเชื่อ คนเขียนนะคะ ไม่งั้นติดกรอบไม่รู้ด้วย
    ทำเอง คิดเอง ประสพเอาเองจ้า ไม่เหมือนกันจ้า แล้วจะรู้เองจ้า
     
  12. fidgi

    fidgi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +184

    ขอบคุณค่ะเจ๊
    รับทราบ และจะ (ลอง) นำไปปฏิบัติดูจ้า
    ปกติเป็นคนมีปัญหาเรื่องการหายใจมากๆ
    พอหายใจเข้าได้ยาวๆ โดยไม่สะดุด
    เวลาหายใจออกก็มักจะมีปัญหา (ทุกที)
    เหมือนลมถูกแบ่งออกเป็นช่วงๆ คงต้องฝึก (หนัก)
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  13. kung

    kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +770
    ขอบคุ้นนนน ขอบคุณ และขอบคุณ


    นึกคำใดไม่ออกนอกจาก ขอบคุณ สำหรับข้อมูลในกระทู้นี้ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Awakening Consciousness,
    DNA Activation, Cellular Upgrades ... Neo Human
    http://mayanprophecy2012.blogspot.com/2008/12/awakening-consciousness-dna-activation.html

    [​IMG]

    พวกเรากำลังอยู่ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
    จากสิ่งมีชีวิตที่มี DNA แบบคาร์บอนเบสส์ 2 สายพันกันเป็นเกลียวเวียนขวา
    (เป็นสายโพลีนิวคลีโอไทด์ (polynucleotide) เรียกว่า เกลียวคู่ (double helix)
    มาสู่ สิ่งมีชีวิตทีมีโครงสร้าง DNA เป็นผลึกใส (crystalline beings) 1,024 สาย (ในที่สุด)
    เพราะว่า มีเพียงสารคริสตัลเท่านั้นที่สามารถคงอยู่ได้ในมิติที่สูงขึ้น
    อันที่จริงพวกเรามีร่างกายที่ผสมผสานด้วย เกลียวเชือก DNA ที่ใกล้เคียงกับของชาวซีเรีย (Syrian DNA)
    มันสามารถประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยความสัมพันธ์ และจะเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย


    -----------------------------------------------------------------------------------
    อธิบายเสริม : ดีเอ็นเอ (DNA) เป็นชื่อย่อของสารพันธุกรรม มีชื่อแบบเต็มว่า กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก
    (Deoxyribonucleic acid) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิก
    (กรดที่พบในใจกลางของเซลล์ทุกชนิด) ที่พบในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
    ได้แก่ คน (Haman), สัตว์ (Animal), พืช (Plant), เชื้อรา (Fungi),
    แบคทีเรีย (bacteria), ไวรัส (virus) ( ไวรัส จะไม่ถูกเรียกว่าสิ่งมีชีวิตเป็นเพียงอนุภาคเท่านั้น) เป็นต้น
    [​IMG]
    ดีเอ็นเอ (DNA) บรรจุข้อมูลทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นไว้
    ซึ่งมีลักษณะที่ผสมผสานมาจากสิ่งมีชีวิตรุ่นก่อน ซึ่งก็คือ พ่อและแม่ (Parent)
    และสามารถถ่ายทอดไปยังสิ่งมีชีวิตรุ่นถัดไป ซึ่งก็คือ ลูกหลาน (Offspring)<O:p

    ดีเอ็นเอ (DNA) มีรูปร่างเป็นเกลียวคู่ คล้ายบันไดลิงที่บิดตัวทางขวา
    หรือบันไดเวียนขวา ขาหรือราวของบันไดแต่ละข้างก็คือการเรียงตัวของนิวคลีโอไทด์ ( Nucleotide )
    นิวคลีโอไทด์เป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วยน้ำตาล ( Deoxyribose Sugar ),
    ฟอสเฟต ( Phosphate )
    (ซึ่งประกอบด้วยฟอสฟอรัสและออกซิเจน) และไนโตรจีนัสเบส (Nitrogenous Base)
    เบสในนิวคลีโอไทด์มีอยู่สี่ชนิด ได้แก่ อะดีนีน (adenine, A) , ไทมีน (thymine, T) ,
    ไซโทซีน (cytosine, C) และกัวนีน (guanine, G)

    ขาหรือราวของบันไดสองข้างหรือนิวคลีโอไทด์ถูกเชื่อมด้วยเบส โดยที่ A
    จะเชื่อมกับ T ด้วยพันธะไฮโดรเจนแบบพันธะคู่ หรือ double bonds และ C
    จะเชื่อมกับ G ด้วยพันธะไฮโดรเจนแบบพันธะสามหรือ triple bonds
    (ในกรณีของดีเอ็นเอ) และข้อมูลทางพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ เกิดขึ้น
    จากการเรียงลำดับของเบสในดีเอ็นเอนั่นเอง<O:p

    หน้าที่ของDNA สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลทางพันธุกรรม(Heredity)
    ของสิ่งมีชีวิตได้โดยอาศัยการเก็บในรูปของรหัสพันธุกรรม (genetic code)
    ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่เซลล์ต้องการแบ่งตัวนั้นส่วนของDNA ก็จะมีการจำลองตัวเอง (replication)

    และยังมีหน้าที่ในการควบคุมการแสดงออกของสิ่งมีชีวิตโดยอาศัยการทำงานขอยีน
    ซึ่งเป็นหน่วยอยู่บนDNA แต่ละยีนควบคุมลักษณะที่สิ่งมีชีวิตแสดงออกแตกต่างกันออกไป

    ที่มา...ดีเอ็นเอ (DNA) คืออะไร
    -----------------------------------------------------------------------------------<O:p
    <O:p
    และไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์อย่างเราเท่านั้นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงได้
    แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกกำลังจะกลายเป็นผลึกคริสตอล
    ปลาทั้งหมดในทะเล ดอกไม้บนต้นไม้ในสวนของคุณ นกที่บินอยู่บนท้องฟ้า

    แม้แต่สัตว์เลี้ยงของพวกคุณ ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนไป ไม่มีอะไรตายหรือถูกทำลายลงไป
    เพราะว่าพวกเราทั้งหมดกำลังเคลื่อนเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการดำรงอยู่<O:p

    สภาวะใหม่จึงจำเป็น เนื่องจากว่า พวกเราทำให้เกิดโลก3 มิตินี้ขึ้นมาจากแนวคิด
    ทั้งทางกายภาพ ทางจิตใจ และทางอารมณ์ที่เหมือนอยู่ในความตาย
    การปล่อยให้มันเป็นไปจึงเป็นส่วนใหญ่ของกระบวนการเปลี่ยนแปลง
    สำหรับผู้ที่ไม่สามารถนำคุณค่าและเส้นทางเก่าๆ ของการมีชีวิต
    ไปสู่ความแตกต่างอย่างใหม่ที่สมบูรณ์ของชีวิตหลังความตายได้

    ดังนั้น กระบวนสู่การเปลี่ยนแปลงนี้จึงได้ผลักดัน ให้เราให้ปลดปล่อย
    ความสัมพันธ์ในปัจจุบัน งาน, อาชีพ, ครอบครัว,ทรัพย์สมบัติ, และอื่นๆ ไป
    ถ้าพวกเขาไม่สามารถสนับสนุนชีวิตใหม่ของพวกเราได้

    นั่นคือ การยอมรับความกังวล ความรู้สึกหวาดกลัว
    เพราะว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มันได้เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว
    แม้คนส่วนใหญ่จะไม่ตระหนักถึงมัน ในเวลานี้

    การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทางกายภาพของพวกเรา
    ถูกเร่งให้เร็วขึ้นด้วย อาการหลายๆอย่างเหล่านี้ จะเป็นไปอย่างชั่วคราว<O:p

    </O:p
     
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อาการเหล่านี้บางอย่าง เช่น

    --อาการคล้ายไข้หวัด – ตัวร้อน เหงื่อชุ่มตัว การปวดตามไขข้อกระดูก ...ฯลฯ
    และอาการเหล่านี้จะไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ

    --ปวดหัวข้างเดียวแบบไมเกรน – ความเจ็บปวดหลายอย่างที่ไม่สามารถระงับได้ด้วยยาแก้ปวด<O:p

    -- อาการท้องร่วงเป็นครั้งเป็นคราว<O:p

    --มีอาการน้ำมูกไหลเกิดขึ้นบ้าง – จาม อยู่แทบตลอด 24 ชั่วโมง
    โดยที่อากาศไม่ได้หนาว หรือเป็นไข้ <O:p

    --วิงเวียนศรีษะ<O:p

    --รู้สึกมีเสียงกังวาลในหู(วิ๊งๆๆๆ)<O:p</O:p

    --ใจสั่นแรง<O:p

    --รู้สึกสั่นไปทั้งตัว – โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืน
    หรือเมื่อกำลังอยู่ภาวะผ่อนคลาย<O:p

    --เกิดการกระตุกกล้ามเนื้ออย่างแรง

    – เกิดความเจ็บปวดในร่างกายมากขึ้น และบ่อยๆที่หลัง<O:p

    --รู้สึกซ่า ตามมือตามเท้า ขาแขน<O:p

    --กล้ามเนื้อมือ อ่อนแรง – สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในระบบวงจร<O:p

    --หายใจขัดๆเป็นครั้งคราว – และ/หรือ หายใจแรงและเสียงดัง
    ในขณะอยู่ในภาวะที่ผ่อนคลาย<O:p

    --ระบบภูมิคุ้มกันโรคเปลี่ยนแปลง<O:p

    --ระบบต่อมน้ำเหลืองเปลี่ยนแปลง<O:p

    --รู้สึกเหนื่อย- หรือ อ่อนเพลียแม้จะออกแรงเพียงเล็กน้อย<O:p

    --ต้องการนอน – ยาวนาน และมากกว่า ปกติ<O:p

    --เล็บหัวแม่เท้า และผม ยาวเร็วผิดปกติ<O:p

    --เกิดความกดดันโดยไม่มีเหตุผล<O:p

    --ขุดค้นเข้าไปในอดีต – และ มองดูความสัมพันธ์
    เกิดความเข้าใจในอะไรบางอย่าง ขึ้นมาส่วนตัว

    --รู้สึกอยาก ทำให้สะอาดบริสุทธิ์ ทั้งกาย ใจ อยากล้างบาปครั้งมโหฬาร<O:p

    --ตึงเครียด กังวล และอยู่ในระดับความกดดันสูง
    เนื่องมาจากว่า พวกเรา รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่าง กำลังจะเกิดขึ้น
    แต่ไม่รู้ว่า มันคืออะไร???<O:p

    อาการบางอย่างเหล่านี้ เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก
    หลายๆคนรีบไปปรึกษาแพทย์ ด้วยความตะหนกตกใจ
    ผู้มีอาชีพเกี่ยวกับการบำบัดโรคด้วยการจับกระดูกสันหลัง นักสมุนไพร
    และมันก็เป็นธรรมดาที่จะได้รับการบอกกล่าวว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ
    และนี่คือความจริง อาการทั้งหมดนี้จะเป็นไปเพียงชั่วคราว
    และมันบ่งบอกถึง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพกำลังเกิดขึ้น<O:p

    คำแนะสำหรับบรรเทาอาการเยียวยารักษา สิ่งที่เกิดขึ้นข้างบน คือ<O:p

    --ปล่อยให้มันเป็นไป ไม่ต้องไปต่อต้าน ดึงดัน<O:p

    --คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย จงพักเสียแล้วก็หลับยาวๆ<O:p

    --ดื่มน้ำมากๆ เพื่อขจัดพิษ และให้สิ่งเหล่านี้จะระเหยออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น<O:p

    --ลดระดับแรงกดดัน โดยปลดปล่อยอารมณ์ที่ตึงเครียด โดยใช้
    โสมวาเลอเรียน (valerian..ยาเพื่อความกังวลและนอนไม่หลับ)<O:p

    --ลดระดับแรงกดดันโดยใช้ Fenugreek(สารสกัดจากเมล็ด Fenugreek
    ซึ่งเป็นพืชในยุโรปมีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้เล็ก
    ดูดซับกรดส่วนเกินจึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในคนไข้เบาหวาน
    และบรรเทาอาการของโรคกระเพาะเกี่ยวกับระบบต่อมน้ำเหลือง
    และช่วยในการขจัดพิษ<O:p)

    --บรรเทาอาการกล้ามเนื้อกระตุก ด้วยการใช้ยาสมุนไพร Valerianและ โคลนอาบน้ำ
    ผสมดีเกลือฝรั่ง ซัก1ถ้วยตวง ลงในการอาบน้ำร้อน
    ดีเกลือฝรั่ง มีสูตรทางเคมีว่า MgSO4.7H2O ดีเกลือชนิดที่เป็นเกลือซัลเฟตของแมกนีเซียม
    หรือเรียกว่า "แมกนีเซียมซัลเฟต" เรียกเป็นภาษาสามัญแบบฝรั่งว่า Epsom salts ทำได้ทุกวัน<O:p

    --โปรดระลึกไว้ว่า แม้ว่าจะเกิดอาการใจสั่น หรือหายใจลำบาก
    ซึ่งเกี่ยวข้องกับจักระหัวใจ และจักระลำคอ
    นี่เป็นการที่ร่างกายกำลังกำจัดสิ่งกีดขวางออกไป และเป็นอาการชั่วคราว<O:p

    --คุณไม่ได้กำลังจะตาย แค่กำลังเปลี่ยนแปลง
    อย่างไรก็ตาม ไปปรึกษาแพทย์ ถ้าคุณไม่มั่นใจ<O:p

    --ถ้าคุณ ไม่รู้ว่าจะไปหา Valerian หรือ Fenugreek ที่ไหน
    ลองไปที่ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ชื่อง่ายๆที่คุณพอจะนึกออกเวลาอยากผ่อนคลาย
    พลังงานการเยียวยาทั้งหมด จะเคลื่อนผ่านมาทางเสียงของชื่อนั้น
    แค่เพียงคุณเอ่ยชื่อนั้นๆ ออกมา หรือนึกขึ้นในใจ มองให้เห็นมัน<O:p

    --ถามเทพผู้นำทางของคุณ ถึงวิธีที่จะปลดปล่อยความเจ็บปวด
    พวกเขาเหล่านั้นอาจกำลังรอให้คุณถาม อาการส่วนใหญ่จะเป็นอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์
    แล้วจะอันตรธานหายไป บางอาการอาจต้องมีการรักษาครั้งต่อครั้ง

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกคน
    มีผู้ใหญ่จำนวนเปอร์เซนต์ที่เล็กน้อยมาก ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
    เข้าสู่ รูปแบบคริสตอลแล้ว และมี DNA 1,024 สาย ปรากฎขึ้นมาใหม่
    บ้างมีรายงานว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งสูงขึ้น 3 นิ้ว และมีเท้าใหญ่ขึ้น

    เด็กๆที่อายุต่ำกว่า 7 ปี ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์นี้ด้วย
    หรือ จะมีกระบวนการเปลี่ยนผ่านอย่างสั้นๆ
    เด็กๆที่เกิดมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ได้เกิดมาพร้อมกับ DNA ที่เต็มสูตรแล้ว
    บางคนเพียงเริ่มที่จะเคลื่อนผ่านการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และหลายๆคนก็ได้เริ่มไปแล้ว<O:p

    กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ คือ การตื่นขึ้น หรือเป็นกระบวนการยกระดับจิตสำนึก
    พวกเราจำเป็นต้องอยู่เหนือความกลัว และเรียนรู้ที่จะรัก รักที่แท้จริง
    ที่เริ่มจากตนเอง เพราะเราจะไม่สามารถรักและไว้ใจใครหรืออะไรได้อย่างแท้จริง
    ถ้าเราไม่สามารถที่จะรักและไว้ใจตนเองได้ก่อน

    Source : Brother Veritus' Website
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  16. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ตัด "ฉับ"

    มาซึมซับต่อ แหะๆ

    น่าสนใจมากทีเดียวฮะ *0* แต่รู้สึกบ่อยๆว่า ผมคงไม่รอดไปถึงตอนนั้นฮะ

    รู้สึกว่าต้องตายไปก่อนแน่ๆ เลยฮะ *-*
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ไวจริงๆ พับผ่าดิ...แม่เสือปืนไว

    ตอนนี้ มีผู้คนมากมายที่รู้สึกว่าตัวเองพอแล้ว รู้สึกไหม นั่นหล่ะ...
    รู้สึกว่า ไม่อยากทำอะไรเพื่อตนเองแล้ว นั่นหล่ะ...
    รู้สึกว่า ตนเองต้องอยู่เพื่อผู้อื่นแล้ว และรู้ดีว่า ยุคศิวิไลซ์กำลังมาถึง

    แล้วคนแบบนี้ จะตายไปเฉยๆ อย่างสูญเปล่า ได้ไง
    ถ้าอยู่แล้วมีประโยชน์ เค้ายังไม่ให้ตายหรอก
    เสียดุลย์ ทางจิตวิญญาณทรัพยากรบุคคล กันหมดอะดิ....
     
  18. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    ที่ผ่านมา ตัวเองรู้สึก มีประมาณดังนี้

    --รู้สึกมีเสียงกังวาลในหู(วิ๊งๆๆๆ)
    --ใจสั่นแรง
    --รู้สึกสั่นไปทั้งตัว – โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืน
    หรือเมื่อกำลังอยู่ภาวะผ่อนคลาย
    --เกิดการกระตุกกล้ามเนื้ออย่างแรง
    – เกิดความเจ็บปวดในร่างกายมากขึ้น และบ่อยๆที่หลัง
    --รู้สึกซ่า ตามมือตามเท้า ขาแขน
    --กล้ามเนื้ออ่อนแรง
    – มือ เหตุมาจากการเปลี่ยนแปลในระบบวงจร
    --หายใจขัดๆเป็นครั้งคราว – และ/หรือ หายใจแรงและเสียงดัง
    ในขณะอยู่ในภาวะที่ผ่อนคลาย
    --ระบบต่อมน้ำเหลืองเปลี่ยนแปลง
    --รู้สึกเหนื่อย- หรือ อ่อนเพลียแม้จะออกแรงเพียงเล็กน้อย
    --ต้องการนอน – ยาวนาน และมากกว่า ปกติ
    --เล็บหัวแม่เท้า และผม ยาวเร็วผิดปกติ
    --เกิดความกดดันโดยไม่มีเหตุผล
    --ขุดค้นเข้าไปในอดีต – และ มองดูความสัมพันธ์
    เกิดความเข้าใจในอะไรบางอย่าง ขึ้นมาส่วนตัว
    --รู้สึกอยาก ทำให้สะอาดบริสุทธิ์ ทั้งกาย ใจ อยากล้างบาปครั้งมโหฬาร
    --ตึงเครียด กังวล และอยู่ในระดับความกดดันสูง
    เนื่องมาจากว่า พวกเรา รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่าง กำลังจะเกิดขึ้น
    แต่ไม่รู้ว่า มันคืออะไร???


    แต่ทั้งหมดที่ว่ามา ส่วนใหญ่มันผ่านไปแล้ว
    ตอนนี้รู้สึกเหมือน นั่งรอที่ป้ายรถเมล์
    รอรถมารับ ชะเง้อรอคอย
    รอ แล้ว ก็ รอ
    ได้ยินเสียงตัวเองพ้อ
    ไหนว่าจะมารับ
    น้ำตาเริ่มเอ่ิอ มุมปากเริ่มเบ่ะๆ
    นึกในใจ ตกรถซะล่ะมั๊งเรา
    :'(
    ใช่ กลัวตกรถ
    เลย ตัดสินใจ
    ไปยืนรอกลางถนน
    กินข้าว อาบน้ำ ปะแป้ง งีบ กลางถนน ซะ
    กลัว รถมา แล้วไม่เห็น หรือ หลับอยู่
    ให้มั่นใจ รถมาเมื่อไหร่
    ให้รถเสยไปแปะหน้ารถ เลย
    เอาให้ ชัวร์ ว่า ได้ไป ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  19. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    -.- ทำไมผมอ่านที่คุณ Threeam พูด แล้ว ขำก๊ากเลยอ่าาา

    ไม่แน่น้า...พวกเราอาจจะกำลังอยู่ในรถตุ๊กๆ ซักคน (ซักคัน ค่ะ พิมพ์ผิด สงสัยเบลอ ง่วงจัด)ก็ได้นะฮะ เจ้าแสงคำ

    ป้ายบอกทางว่าเราไปถึงแล้วก็ นู้นนน เส้นเวลาใน 3 มิติของเรา ก็ปี 2012 นู้นนนแหน่ะ



    แจ้เดรดฮะ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆฮะ รู้สึกมานานแระฮะ พอมาเจอข้อความที่คุณชยุตแปลมาล่าสุดนี่ ก็คิดๆอยู่เหมือนกานนฮะ มันชักจะยังไงซะละฮะ

    ดึกแระฮะ เจ้าฮะ ผมขอไปนอนก่อนนะฮะ *0*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  20. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214

    ใช่...........เลย
    มันเป็นอย่างนี้มาพักใหญ่แล้ว
    ค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละอย่างมาเป็นปีแล้ว
    รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ช่วยให้เกิดความกระจ่าง
    ตอนนี้ก็กำลังรอพาหนะอะไรสักอย่างมารับไปเหมือนกันค่ะ
    กลัวตกหล่นเหมือนกันค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...