อานิสงส์ของการถวายพระไตรปิฎก

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย thanan, 7 มกราคม 2005.

  1. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,216
    คัดมาจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี


    วันหนึ่งท่าน พระสารีบุตร เวลานั้นชื่อ อุปติสสะ อาศัยที่ถวายพระไตรปิฎกไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นเหตุให้เป็น ผู้มีปัญญาเลิศ ทีนี้ความเป็นผู้มีปัญญาเลิศของพระสารีบุตร เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว เราอาจจะคิดว่า เป็นของมหัศจรรย์ เราพบว่า แก้วนี่ถ้าปราศจากละอองธุลี เข้ามาเบียดบังทำให้แปดเปื้อนมันก็ใส จิตของพระอรหันต์ก็ใส ประกอบไปด้วยประกาย คือหาอะไรเปื้อนไม่ได้ จึงเป็นผู้ทรงปัญญาเลิศ ตอนนี้เราก็ว่าอัศจรรย์แล้วแต่คิดไปอีกทีไม่น่าอัศจรรย์ เพราะเป็นพระอรหันต์

    นี่เราหลบกลับลงมา อีกครั้งหนึ่งตอนที่ พระโมคคัลลาน์ กับ พระสารีบุตร ยังเป็นลูกชาวบ้านอยู่เรา จะเห็นปัญญา พระสารีบุตร ที่ท่านทั้งสอง ไปดูมหรสพ แล้วเกิดอารมณ์เศร้าใจ วันอื่นนั้น สบายใจ ดีใจร่าเริง ให้รางวัล แก่ผู้แสดงมหรสพ แต่วันนั้น ทั้งสององค์ ต่างนั่งหน้าเศร้า หน้าสลด ไม่ร่าเริง ทั้งนี้เพราะดู ๆ มหรสพก็นั่งคิดไปว่า

    "เฮ้อ คนดูมหรสพนี่ไม่ช้าก็ตายหมดพวกแสดงนี่ไม่ช้าก็ตายหมด แถมเราเองก็ต้องตายเสียด้วยถ้าอย่างนั้น เราเกิดมาเพื่อ ตายอยู่ทำไมกัน เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด"

    ท่านก็มาใคร่ครวญว่า "ธรรมที่ทำให้คนที่เกิดมาแล้วตายได้มันมี ก็ต้องมีอะไรสักอย่าง ที่เป็นธรรม ที่ทำให้คนเกิดไม่ตาย ได้"

    หมายความว่า เมื่อมีมืดแล้ว ก็มีสว่างคู่กัน หรือ ทางพ้นแห่งความตาย ที่เราเรียกว่า โมกขธรรม

    ท่านทั้งสองตกลงใจกันว่า เราเปิดเถอะไปหา โมกขธรรม ธรรมที่เป็นเครื่องพ้น แห่งความตายดีกว่า จึงลาพ่อลาแม่ มีบริวารคนละ 250 เพราะ เป็นลูกมหาเศรษฐี ออกจากสำนักพ่อแม่ไป บริวารของทั้งสองท่าน รวมกันเป็น 500 หัวหน้าอีกสอง คือ ตัวท่านเอง เป็น 502 ท่าน เข้าไปอยู่ในสำนักสัญชัยปริพาชก ท่านสัญชัยปริพาชก ก็สอนสุดกำลัง ท่านทั้งสอง ก็เรียนเต็มที่ เพราะความมีปัญญาด้วยกันทั้งคู่ ปรากฏว่า ไม่ช้าท่านก็เรียนจบ แล้วก็มีความฉลาดเก่งกาจมาก

    ท่านสัญชัยปริพาชก ก็ให้เป็นอาจารย์สอนแทน แต่ว่าท่านทั้งสองนี่อาศัยที่มีบุญญาบารมีเต็มแล้ว ควรที่จะเป็นพระอรหันต์ จึงมาคำนึงพิจารณาว่า ความรู้ที่ได้จากสำนักนี้ ยังไม่จบ ยังไม่พ้นจากความตาย ธรรมที่ดีกว่านี้ต้องมีอีก

    นี่เพราะดวงปัญญาของท่านเดิม ที่เคยถวายพระไตรปิฎกแก่พระ

    ท่านทั้งสองจึงตกลงกันว่า "นี่เราช่วยกันแสวงหาโมกขธรรม ถ้าใครเจอะอาจารย์ ดีกว่านี้ ก็มาบอกกัน หรือใครไปพบธรรมในการค้นคว้าดีกว่านี้ละก้อ กลับมาบอกกัน"

    ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้า บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เวลานั้น ก็มีลูกศิษย์ปัจจวัคคีย์อยู่ 5 องค์ เป็นพระบริวาร เมื่อท่าน 5 ท่านบรรลุอรหันต์แล้ว พระพุทธเจ้า ทรงสั่งให้ไปประกาศ พระศาสนา แต่มีเงื่อนไขว่า ไปแล้วอย่ารวมกัน ให้แยกกันไปคนละที่

    บังเอิญ พระอัสสชิ มาสายนั้นพอดี ท่านก็บิณฑบาต อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น ต่อมาวันหนึ่ง พระสารีบุตร เวลานั้น ชื่อว่า อุปติสสะ ท่านออกไปจากสำนัก ก็พอดีเห็นพระอัสสชิเดินออกบิณฑบาตผ่านไป เห็นลีลาของท่าน ไม่ว่าจะเป็นลีลาการเยื้องกาย ก้าวเท้าซ้าย แกว่งเท้าขวา อิริยาบถใด ดูแล้วงามจริง ๆ เป็นจริยานิ่มนวล ท่านจึงคิดในใจว่า

    "พระสมณะองค์นี้น่าเลื่อมใส เราอยากจะรู้จักนักว่าเป็นลูกศิษย์ใคร สำนักของเรานี่มีลูกศิษย์เป็นพันเป็นหมื่น แต่จริยานิ่มนวลในการสำรวมในการเดิน การทอดจักษุแบบนี้ไม่มีหากว่า เราจะถามเวลานี้ในขณะที่ท่านบิณฑบาต ก็ไม่ควร"

    นี่ดูความเป็นผู้มีปัญญาของพระสารีบุตรท่านก็นึกต่อไป

    "มันเป็นเวลาที่ไม่ควร เราควรจะถามในเวลาที่ท่านกลับ"

    เห็นท่านเดินไป พระสารีบุตรนั่ง ตอนนั้น ท่านยังเป็นปริพาชก ยังไม่เป็นพระสารีบุตร ชื่อเดิมว่า อุปติสสะ ที่เขาเรียก สารีบุตร ก็เพราะว่า เดิมแม่ชื่อ สารี เวลาพระอัสสชิกลับมา ท่านก็ย่องเข้าไปยกมือไหว้แล้วก็ถาม

    "พระคุณเจ้าเป็นลูกศิษย์ของใคร อยู่สำนักของใคร ชอบใจธรรมะของท่าน ครูของท่านสอนว่าอย่างไร"

    พระอัสสชิท่านเป็นอรหันต์รุ่นแรกซะด้วย นี่เขาว่าขลังนะ แต่ความจริง พระอัสสชินี่ เป็นพระอรหันต์ สุกขวิปัสสโก เราจะจับกันได้ ก็ตอนพระอัสสชินิพพาน ตอนนั้น เป็นโรคกระเพาะ ครางอ๋อย บ่นบอกให้พระไป ตามพระพุทธเจ้ามา เพราะโรคมัน เบียดเบียนมาก ท่านก็ยืนมอง พระสารีบุตร ปั๊บเดียวก็รู้ว่าเป็น พระอรหันต์ เพราะอรหันต์นี่จิตสะอาดมาก ท่านก็นึก

    "ปริพาชกคนนี้ฉลาดมาก หากเราขืนพูดมากเดี๋ยวถูกต้อนจนมุม"

    ท่านก็เลยบอก "ปริพาชก เราเป็นผู้ใหม่ในพระพุทธศาสนา เราเป็นลูกศิษย์ ของพระสมณโคดม ท่านถามปัญหาของท่าน เราตอบแบพิสดารไม่ไหว เพราะเรายังใหม่อยู่ มีความรู้ไม่มาก "

    แต่ความจริงพระอรหันต์น ี่ไปไล่ท่านไม่จนหรอก ตอนนั้นพระสารีบุตรยังไม่เป็นพระอรหันต์นี่ ไล่อย่างไรก็ไม่จน เพราะพระอรหันต์นี่ ปัญญาเกิดจากการปฏิบัติ ไม่ต้องอาศัยหนังสือ เดี๋ยวนี้ปัญญาจะเกิดได้ ต้องอาศัยหนังสือก่อน พระสารีบุตรได้ยิน เช่นนั้นก็เลยบอกว่า "ท่านจะพูดเรื่องพิสดารทำไมเอาแค่หัวข้อย่อๆ ก็พอแล้ว"

    พระอัสสชิจึงกล่าวว่า "ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระพุทธเจ้าตรัสเหตุของธรรมนั้น"

    เพียงเท่านี้พระสารีบุตรก็เข้าใจทันที แล้วก็สำเร็จพระโสดาบัน

    นี่เราจะเห็นว่า ปัญญาของท่าน แม้แต่ยังไม่เป็นอรหันต์ เพียงธรรมโดยย่อ ก็เข้าใจทันที และก็สำเร็จพระโสดาบันปัตติผล ต่อมากลับมาพบพระโมคคัลลาน์ก็บอกว่า

    "เวลานี้พบโมกขธรรมแล้ว เจออาจารย์ใหม่ด้วย"

    พระโมคคัลลาน์ก็ถาม "ธรรมนั้นได้มาอย่างไร"

    พระสารีบุตรก็บอกตามนั้น พระโมคคัลลาน์ ก็ได้พระโสดาปัตติผลเหมือนกัน นี่เราจะเห็นว่า ปัจจัยที่ได้ ถวายพระไตรปิฎก ไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้มีปัญญา ประเสริฐกว่าบุคคลอื่น เหมือนกันแต่ทว่าไป โดนคนที่เขาถวาย พระไตรปิฎกเหมือนกัน ก็เห็นจะไม่เหลื่อมล้ำกว่ากันแน่ เคยไปเทศน์ชนกัน เทศน์บางที เรื่องคืบเดียว 3 วันยังไม่จบ เพราะ มีข้อไล่ กันไป ไล่กันมาไม่จบอย่างนี้ ก็พิสูจน์ได้ว่า พวกนี้เขาฝึกฝนปัญญามาด้วยการถวายพระไตรปิฎกในพระศาสนา

    นี่เป็นอันว่า การที่ญาติโยมเอาพระไตรปิฎก กับเชิงเทียนมาถวายวัด เชิงเทียนนี่ก็เป็น ประทีปโคมไฟ พระไตรปิฎกก็เป็น ตัวปัญญา ฉะนั้นอานิสงส์ที่จะพึงได้ก็คือ

    1.ทิพจุกขุญาณ

    2. ปัญญาเลิศ

    สำหรับท่านที่เป็นผู้ร่วมรายการด้วยการโมทนาก็เป็น ปัตตานุโมทนามัย เราเป็นคนมีปัญญาไม่ถึงหัวแถวอยู่กลางๆแถว หรือท้าย ๆ แถวก็ได้ พวกที่จะได้ทิพจักขุญาณ ก็เหมือนกัน บุญใดที่เขาทำแล้วเรา ยินดีด้วย เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย ดูตัวอย่าง พระนางพิมพา ไม่เคยทำบุญเองเลย พระพุทธเจ้าทำคนเดียว แต่พระนางพิมพาโมทนาตลอดกาล เวลาพระพุทธเจ้าเป็นอรหันต์ พระนางก็เป็นอรหันต์ได้ เพราะปัตตานุโมทนาอันนี้เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2010
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    โมทนาครับ ยังมีต่อแบบละเอียดอีกนะครับ เรื่องอานิสงส์ของการถวายพระไตรปิฎก เอาเป็นว่าเพียงอักขรตัวเดียวก็เหลือกินแล้ว อยู่ในหนังสืออานิสงส์ 108 กัณฑ์ แต่เสียดายตอนนี้ไม่มีอยู่ที่ตัว ใครมีข้อมูลแจ้งเป็นธรรมทานจะดียิ่งเลยครับ ลองเคยเทียบกันดูในหมวดทานแล้วน่าจะเหนือกว่าวิหารทานอีกนะครับ
     
  3. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    " เรื่องอานิสงส์ของการถวายพระไตรปิฎก เอาเป็นว่าเพียงอักขรตัวเดียวก็เหลือกินแล้ว "

    ผมเคยอ่านเจอในบางเว็ปในอดีต และพยายามค้นหาอีกเพื่อจะเอามาโพส แต่ค้นหาไม่เจอ

    จำได้คร่าวๆว่า พระพุทธเจ้า ตรัสว่า เรื่องอานิสงค์ การสรางพระไตรปิฏกถวาย มีอานิสงค์มากมหาศาล เทียบเพียง 1 ตัวอักษร
    แม้แต่พุทธญาณเอง ก็ไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของอานิสงค์นี้

    -------------------------
    การทำบุญขึ้นอยู่กับจิตด้วย

    พระโกทัญญะ ในอดีตชาติ เวลาทำบุญ จิตปราถนาขอทำบุญเป็นคนแรก เวลาทำบุญจะทำเป็นคนแรก

    พอเกิดมาในสมัยพระพุทธเจ้า อานิสงค์ส่งผล ให้ได้เป็นพระอรหันต์หรือบรรลุธรรมองค์แรกของพุทธศาสนา (สาวกที่บรรลุอรหันต์องค์แรก)
    --------------------------

    พระไตรปิฏกที่เรากำลังสร้างกัน มีอานิสงค์พิเศษ
    ผู้สร้างและผู้ร่วมสร้าง มีจิตปราถนาว่าจะสร้างให้ดีที่สุดในโลก ใหญ่ที่สุดและมีอะไรใหม่ๆเป็นครั้งแรกของโลกตั้งแต่มีพุทธศาสนาเกิดขึ้นมาและออกแบบเพื่อคนจำนวณมากๆและเผยแผ่ไปได้กว้างไกลและเราชักชวนผู้ร่วมสร้างอย่างเป็นสาธารณะ

    ** แรกเลย ผู้สร้างและผู้ร่วมสร้างมีกำลังจิต-กำลังใจและและแรงปราถนาสูงและกำลังศรัทธาสูงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...
    ( มากขนาดไหนให้ดูที่ ก.ไก่ ว่าลากยาวมาก )
    ถ้าไม่สูงจะไม่ปราถนาแบบนี้เพราะว่าของยากมาก...
    มีอิทธิบาท ๔.. ผ่าฟันอุปสรรค์เยอะแน่นอน..ไม่หมูแน่นอน..
    ผู้ร่วมสร้างมีกำลังศรัทธาสูง เพราะว่าสังเกตุได้จาก มาร่วมสร้าง ผู้สร้าง no name.

    การสร้างใช้เวลานาน และได้เห็นและอ่าน ทำให้จิตได้จดจำบุญนี้ จิตระลึกถึงบุญนี้ได้ง่ายและอยู่เรื่อยๆ

    อานิสงค์ ก็อาจจะเกิดเป็นผู้มีปัญญามาก จะมีอะไรเกี่ยวเนื่องกับความเป็นที่สุดของโลก มีกำลังใจสูงมาก เป็นอัฉริยะ มีความสามารถบางอย่างสูงสุดของโลก สามารถคิดค้นหรือสร้างอะไรใหม่ๆให้กับโลกได้ แล้วเป็นคนมีชื่อเสียงมีบริวารมาก แล้วเกิดมาอยู่ในพุทธศาสนาและเป็นสัมมาทิฐิ ลึกซึ้งในธรรม..ถ้าเกิดเป็นสาวกพระพุทธเจ้าก้อาจจะเป็นผู้เป็นเลิศในทางใดทางหนึ่ง ( น่าจะเป็นเลิศทางปัญญา )
     
  4. บัวทิพย์

    บัวทิพย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +38
    พระไครปิกฎที่ถวายพระ คนที่ถวายควรจะเรียนด้วย เพราะจะได้อานิสงฆ์ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
    ถ้าเรียนแล้วเราก็ได้ปัญญา ใช้ได้ทั้งชาตินี้และติดตัวไปชาติหน้า ตอนนี้เปิดสอนที่วัดมหาธาตุ สนามหลวง
     
  5. bimmy

    bimmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2005
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +199
    อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
     
  6. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    โมทนาด้วยครับวิริยาธิกะก็ต้องการปัญญาเลิศเช่นกันครับ
     
  7. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อนุโมทนา สาธุ ครับผม
     
  8. slogan

    slogan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +46
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. midnightblue

    midnightblue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +100
    อนุโมทนาสาธุ
     
  10. felies

    felies เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,370
    สู้ตายครับผม !!
     
  11. GAN9

    GAN9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +1,249
    โมทนาครับ
     
  12. ปัชฌา

    ปัชฌา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +1,428
    ขออนุโมทนาสาธุในทุกวันๆสำหรับผู้ทำดีและสิ่งดี
     
  13. gitti

    gitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,035
    โมทนาด้วยคนจ้า
     
  14. sendurworks

    sendurworks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +317
    สาธุ ขออนุโมทนาบุญ กับคุณธนัท และคุณวีระชัยด้วยนะครับ
     
  15. ligore

    ligore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +5,807
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">อนุโมทนา สาธุ</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. nang1111

    nang1111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2006
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +95
    ขออนุโมนาด้วยค่ะ
     
  17. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ
    ในผลบุญกุศลที่ทำมาแล้วด้วยดี
    ของทุกท่าน ทุกรูป ทุกนามนะครับ
     
  18. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มีส่วนแห่งบุญนี้และที่ร่วมอนุโมทนาทุกท่าน
    สาาาาา ธุ
    สาาาาา ธุ
    สาาาาา ธุ
    ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O:p</O:p
     
  19. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,409
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,434
    อนุโมทนาครับ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และในอนาคตไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ พร้อมเหล่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกท่านทุกองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ สาธุ มหาสาธุ
     
  20. wan60

    wan60 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +590
    อนุโมทนากับจขกท. และทุกท่านด้วยครับ
    อนาคตอยากร่วมสร้างพระไตรปิฎก ฝากเพื่อนๆ ทุกท่านช่วยผลักช่วยดันด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...