งาน "พระธาตุ" ของพวกเรา พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

ไม่นานนักหลวงปู่ก็เช็ดตัวเรียบน้อย พวกเราจึงได้น้อมถวาย

1.ผอบปิดทอง
-บรรจุพระบรมสารีริกธาตสมเด็จองค์ปฐม
-บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปัจจุบัน
-บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์
2.พระบรมสารีริกธาตุ 500 ซอง
3.พระธาตุข้าวบิณฑ์ 50 ซอง
4.หมวกถัก 2 ใบ
5.ปัจจัย
6.ส้ม 2 กิโลกรัม

 

จากนั้นเรากราบลาหลวงปู่ เดินออกจากสำนักสงฆ์เขาสามยอด
ตอนขามารถตู้มาส่งก็พยายามจำทางแล้วนะ
อีตอนขากลับเดินกันออกมาเเอง
ชักจะออกอาการ งงๆ ก็เหมือนเดิมถามทางเขาตลอด...
ก่อนถึงทางออกเราก็ได้ผัดไทยคนละจานเป็นเชื้อเพลิง

 

ในที่สุดเราก็ออกมาจนถึงทางเข้าโรงพยาบาล
ถามทางไปสำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณ
ทหารที่หน้าประตูแนะนำว่าขึ้นรถประจำทางสีน้ำเงิน
เราก็ขึ้นไป บอกกระเป๋ารถถึงปลายทาง
รถก็พาเราไปจนถึงวงเวียนพระนารายณ์ ก่อนเข้าศาลพระกาฬ
กระเป๋าแนะนำว่าลงรถที่วงเวียน
แล้วเดินวนไปอีกด้านเพื่อต่อรถ "วังม่วง"
รอรถไม่นานรถวังม่วงก็มา เราก็โดดขึ้นไป
ก็ยังใช้เคล็ดเดิม ถามทางไปสำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัญ เขาสาริกา...
กระเป๋ารถทำท่างงๆ อ้าว...เรายิ่งงงเพราะไม่เคยมา มีข้อมูลอยู่แต่นี้เอง
เลยโทรเช็คข้อมูลกันอีกที สรุป"ซอยพัฒนานิคม 8 สาย 2"
เลยเป็นอันเข้าใจ นั่งรถกันไปเกือบเข้าเขตสระบุรี
ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงเหมือนกัน...
ได้คำแนะนำว่าให้ "ลงสี่แยก แล้วใช้บริการมอเตอร์ไซค์"
เราก็ได้พี่วินพาขับย้อนทางเดิมไปอีกโขเหมือนกัน พาเข้า "ซอย 8 แยก สาย 2"
ระหว่างทางพี่วินก็เล่าเรื่องคนมาปฏิบัติกันเยอะ
โดยเฉพาะที่ "ถ้ำอริยสัจ" ซึ่งอยู่ "ซอย10"
แต่ความตั้งใจเราคือ "ถ้ำเอราวัณ"
ใช้เวลาอยู่ข้างหลังพี่วินนานพอดู น่าจะสักราว 20 นาทีได้
เราก็ถึงที่หมาย "สำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณ" เป็นสถานที่ที่สงบดีจัง
ตอนนี้มีพระเพียงสองรูป "หลวงพี่สืบ" และ "หลวงพี่อ๊อด"
เจ้าอาวาส "พระอาจารย์สมบัติ ภูริปัญโญ"
ท่านคงติดกิจนิมนต์ เพราะเราก็ไม่เห็นเหมือนกัน
เราได้น้อมถวาย
1.ผอบปิดทอง
-บรรจุพระบรมสารีริกธาตสมเด็จองค์ปฐม
-บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปัจจุบัน
-บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์
2.พระบรมสารีริกธาตุ 500 ซอง
3.พระธาตุข้าวบิณฑ์ 50 ซอง
4.หมวกถัก 1 ใบ
5.เหรียญทำน้ำมนต์ 15 เหรียญ
6.ปัจจัย

 

หลวงพี่ทั้งสองท่านก็เมตตาเข้ามาพูดคุยกับเราอย่างเป็นกันเอง
หลวงพี่อ๊อดเล่าว่าท่านก็เป็นหนึ่งในพระที่อยู่ในปราสาททองคำ
ในงานวันหล่อพระเจ้าองค์แสนด้วย...เราก็ยิ้มกันใหญ่เหมือนเจอพวกเลย
และท่านเมตตาแนะนำว่า นอกจากหมวกที่ถักกันแล้ว
ควรจะทำเสื้อโดยใช้ผ้าจีวรตัดด้วย เป็นเสื้อคอกลมแขนยาว
เพราะสามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์
กรณีที่พระท่านทำงานกลางแจ้งป้องกันแดด
หรือในช่วงอากาศเย็นก็ป้องกันความหนาวเย็นได้ดี
และท่านเองก็เคยสั่งตัดถวายวัดท่าซุงเป็นร้อยตัวแล้ว แต่ก็ยังขาดอีกมาก
ท่านบอกว่าท่านเอาจีวรเก่าๆ นั่นแหละมาตัดเย็บ
งานมหาบุญเข้าแล้ว พ่อแม่พี่น้อง จะช้าอยู่ไย...

 

ด้านข้างมีตู้จัดแสดงพระธาตุต่างๆ อยู่มากมาย
หลวงพี่บอกว่า ท่านจะนำพระธาตุไปบรรจุตามเจดีย์ต่างๆ ทั่วประเทศไทย
และประมาณวันที่ 9-19 ม.ค. 53 นี้ก็จะเดินทางไปอีสาน
เพื่อนำพระธาตุไปบรรจุตามพระเจดีย์ราว 50 วัด
เราก็ยิ้มหน้าบาน อนุโมทนาสาธุกับสิ่งประเสริฐที่ท่านช่วยกันทำอีกด้วย
อ้อ ถ้าใครมีหมวงที่ถักไว้แล้ว หรือถ้าตัดเสื้อจีวรได้
ก็สามารถส่งไปให้หลวงพี่ได้เลย
เผื่อท่านจะได้นำไปถวายต่อช่วงวันที่ 9-19 ม.ค. นี้ด้วย
สำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณ ต.ช่องเขาสาริกา อ.พัฒนานิคม ลพบุรี 089-5321048
หลวงพี่ทั้งสองรูปยังเมตตาคุยกับเราอีกพักใหญ่...ท่านเล่าว่า
หลายคนอยากจะให้ที่สำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
แต่เจตนาของเจ้าอาวาส "หลวงพ่อสมบัติ"
ท่านต้องการสอนธรรมมะให้แก่ผู้สนใจจริงๆ ให้เข้าใจถึงแก่นแท้ แล้วนำไปขยายต่อ
ท่านต้องการผู้ที่มีพื้นฐานธรรมที่แน่น มีคุณภาพ ไม่เน้นที่ปริมาณ
เราก็เห็นว่าที่นี่สงบและสับปายะ เหมาะสมแก่การปฏิบัติทางจิต ไม่วุ่นวายดี
ก็หวังว่าสถานที่นี้จะได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้ เป็นสถานที่แห่งธรรมตราบนานเท่านาน

 

ช่วงที่ผ่านมา มีหลายคนที่เข้าไปในถ้ำแล้วไปทำลาย ขุดค้นภายในถ้ำ
ต่อมาทางกรมป่าไม้เข้ามาดูแล และเข้มงวดมากขึ้น
การเข้าออก เข้าถ้ำ ปีนเขา การนำของป่าออกไปขายจึงไม่ง่ายนัก
หลวงพี่ทั้งสองท่านก็ยังเมตตาเราให้สามเณรพาเราขึ้นไปยังถ้ำเอราวัณ
เราต้องใช้อุปกรณ์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด สองมือสองเท้าปีนกันล่ะงานนี้
ผู้นำทางเราก็มีสามเณรซึ่งจำพรรษามา 5 พรรษาแล้ว
กับเจ้าฝ้าย สุนัขสีขาวแสนรู้
ทางก็ไม่ลำบากนักเพราะพื้นแห้ง แต่ก็ชันขึ้นเรื่อยๆ
เราต้องปีนขึ้นไปตามแง่หิน มีเสียงหอบเป็นพักๆ เหมือนกัน

 

ปีนกันมาครู่หนึ่ง คราวนี้ถึงทางลงกันล่ะ
จากตรงนี้ลงไปจะเจอช่องแคบๆ ต้องคลานกันเข้าไป
ภายในถ้ำมีห้องโถงใหญ่หลายห้องที่เดียว
มีหินงอกหินย้อยงดงามมาก ดูภาพกันเอาเองก็แล้วกัน
ในตอนสุดท้ายเราได้นั่งสมาธิหน้าพระเจดีย์ธาตุกันด้วย
สงบเงียบมาก รวมถึงมืดสนิทที่มองไม่เห็นแม้กระทั้งมือตัวเอง

 

หินงอกหินย้อยภายในถ้ำ2

 

หินงอกหินย้อยภายในถ้ำ 3

 

เราใช้เวลาอยู่ในถ้ำพอสมควรก่อนออกมา
นั่งพักดื่มน้ำสักครู่...
หลวงพี่อ๊อดก็บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปกราบครูบาอาจารย์อีกท่าน
"หลวงปู่วิชัย" หรือ รู้จักกันในนาม "หลวงปู่ถังแดง"
เราดีใจกันใหญ่ เรื่องกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ถือว่าเป็นบุญของพวกเรา
มีหรือจะปฏิเสธ หลวงพี่อ๊อดเมตตาพวกเรามากๆเลยทีเดียว
จากสำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณราว 15 นาที เราก็ไปถึง
สำนักสงฆ์องค์สัจจะธรรม
สิ่งแรกที่เจอคือฝูงหมาเป็นจำนวนมากเท่าที่เห็นน่าจะมากกว่า 20 ตัว
หลวงพี่อ๊อดเล่าว่าหลวงปู่ถังแดงท่านเมตตามาก
พวกสัตว์ต่างๆ ท่านก็เมตตาเลี้ยงไว้
เสียค่าอาหารเดือนละเป็นแสนบาทเลยทีเดียว
แม้กระทั่งวัวยังหนีจากโรงฆ่าสัตว์มาอยู่กับท่าน
เมตตามีท่านมหาศาลเลยจริงๆ ยิ่งได้พบเจอท่าน
เราก็ยิ่งได้รับรู้ถึงบารมีแห่งความชุ่มเย็น
บารมีแห่งเมตตาที่ออกมาจากจิตของท่าน
เป็นไปได้ว่าคำเรียกขาน "หลวงปู่ถังแดง" อาจจะมาจากเมตตาของท่าน
ที่หิ้วถังแดงนำอาหารไปเลี้ยงสุนัขจรจัดทั้งหลาย (คิดเอาเอง)
ซึ่งท่านทำจนเป็นกิจวัตรไปแล้ว

 

หลวงพี่อ๊อดได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุแบบซอง
และหมวกถักที่เราถวายหลวงพี่ในตอนแรก
นำมาถวายหลวงปู่อีกต่อ กุศลสองเด้ง
เราก็เลยได้ถวายปัจจัยสร้างกุศลกับหลวงปู่ด้วย
หลวงปู่ท่านยังเมตตาจานมือสองข้างและหน้าผากให้พวกเราด้วย

 

เรากราบหลวงปู่ถังแดงออกมา
หลวงพี่อ๊อดก็เมตตาพาเรามาจนถึงที่รอรถเข้ากรุงเทพฯ
เรากราบลาหลวงพี่อ๊อด พี่ตุ้ม และพี่คนขับ
พวกเรารู้สึกซาบซึ่งและขอกราบขอบพระคุณในเมตตาของทุกท่านเป็นอย่างสูง
วันนี้เป็นวันที่คุ้มค่าอีกวันของพวกเรา
เราขอร่วมอนุโมทนาบุญทุกประการกับทุกๆ ท่าน
ที่ทำมาดีแล้วตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และในอนาคต
ขออนุโมทนา

 

อยากไปบ้างครับ
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้อง ณ ด้วย

ทุก ๆ บุญ ทุก ๆ ประการ สาธุ....ค่ะ

_/\_

 

เมื่อวานคุยกับน้องณ.คราวหน้าถ้ามีวันหยุดหลายวัน มากราบหลวงปู่ฟัก ท่านอยู่เขาวงพระจันทร์ และหลวงปู่ศรี วัดหน้าพระลาน จ.สระบุรีกันค่ะ

 

ได้รับพระบรมฯสัณฐานต่างๆ พระปัจเจกธาตุ พระอรหันตธาตุ จากส่วนกลางที่ส่งมาร่วมบุญกับวัดมิ่งเมือง จ.เชียงราย เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับหนังสือวิชาฯและพระธาตุข้าวบิณฑ์ ที่จะถวายพระอาจารย์วัดศรีมิ่งแก้วหัวฝาย จ.เชียงราย เรียบร้อยแล้วครับ

 

มีน้องจากเพชรบูรณ์โทรมาหา อยากให้ลงเรื่องคำอธิฐานเพื่อให้งานถวายพระบรมสารีริกธาตุ เกิดอานิสงค์สูงสุดทั้งเพื่อส่วนรวมมีพระพุทธศาสนา

และเพื่อเกิดอานิสงค์สูงสุดต่อหมู่คณะที่ได้ร่วมจิตร่วมใจไปน้อมถวายวัดต่างๆบ้าง ไปบรรจุในพระมหาเจดีย์บ้าง ในองค์พระพุทธรูปที่จัดสร้างขึ้นบ้าง

ก็จะได้อธิบายรายละเอียดให้ดังต่อไปนี้ครับ

 

องค์พระบรมสารีริกธาตุ ที่เราน้อมนำไปถวายนั้น

หากเราตั้งจิตด้วยศรัทธาความตั้งใจ ด้วยความเคารพ ด้วยความนอบน้อมดังปฏิบัติต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เราสรงพระบรมสารีริกธาตุด้วย น้ำลอยดอกมะลิหรือน้ำสะอาด ประพรมองค์ด้วย น้ำมันหอม มีน้ำมันจันท์เป็นต้น

จากนั้นบรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุ ใน ผะอบ หรือเจดีย์ ตามกำลังของเรา หากผะอบ พระเจดีย์ปิดทอง ก็จะได้อานิสงค์ ถวายทองคำบูชาพระพุทธองค์ไปด้วย

เวลาที่เราอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ไปถวาย เรานำผะอบหรือเจดีย์ไว้บนพานทอง (ปัจจุบันมี พานพลาสติกรมทอง ราคาถูกลงมากใบละ 20-50 บาทเท่านั้น หากเรามีกำลังทรัพย์น้อย)

คล้องพวงมาลัยล้อมพระบรมสารีริกธาตุเป็นการบูชาด้วยดอกไม้เครื่องหอม

จากนั้นรวมตัวกันไปถวายโดยการร่วมกันตั้งจิตอธิฐาน

ก่อนการอธิฐานทุกคนกำหนดกาย วาจา ใจให้สะอาดบริสุทธิ์ กำหนดใจว่า เราทุกคนมีศีลที่บริสุทธิ์ มีพรหมวิหารสี่ครบถ้วน มีจิตอันเป็นมหากุศล

แล้ว น้อมใจทำสมาธิ ว่าเรากราบ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยะเจ้า และขออัญเชิญเทวดา พรหม ท่านเมตตามาร่วมถวายและรักษาพระบรมสารีริกธาตุ เกิดเป็นบุญกุศล ความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นไป

แล้วจึงตั้งใจอธิฐาน

"ข้าพเจ้าทั้งหลายขอตั้งจิตอารธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยะเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ เทพพรหมเทวา สิ่งศํกดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลจักรวาล ทั้ง สามภพสามภูมิ หนึ่งพระนิพพาน มีท่านท้าวสหัมบดีพรหม ท้าวสักกะเทวราช ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ พระยายมราช ท้าวอนันตนาคราช แม่พระธรณี แม่ธาตุทั้งสี่ ทรงเป็นพยานว่า

ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุและทั้งเครื่องบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ไว้ ณ ................................... แห่งนี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ทำนุบำรุงพระบวรพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตราบจน 5000 วัสสา

ขอพุทธบารมีแห่งพระบรมสารีริกธาตุ ได้โปรดเมตตาสงเคราะห์ให้ สถานที่แห่งนี้จงเจริญรุ่งเรืองในธรรม น้อมนำศรัทธาให้ผู้มาปฏิบัติธรรม มาสักการะกราบไหว้ พระบรมสารีริกธาตุ จงเข้าถึงซึ่ง ความเป็นสัมมาทิฐิ เข้าถึงมรรคผลพระนิพพานได้โดยฉับพลันทันใด

สถานที่นี้จงสงบเย็นด้วยศานติ รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงด้วยอำนาจแห่งพุทธบารมี ยังความอุดมสมบูรณ์สันติสุขร่มเย็น ให้เกิดขึ้นด้วยธรรม ผู้คนเข้าถึงบุญ เข้าถึงกุศลได้โดยง่าย

ยังอานิสงค์ให้พึงเกิดไพศาลต่อชาติ ต่อแผ่นดิน ต่อพระพุทธศาสนา และแด่องค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์

ขอให้มหากุศลนี้ อำนวยผลให้หมู่คณะของข้าพเจ้าทั้งหลาย มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกทางธรรม ทั้งอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิฏาน ธนสาร สมบัติ จงปรากฏงอกงามด้วยอำนาจแห่งบุญ ใน มนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ สมบูรณ์พูนผลทับทวียิ่งขึ้นทุกชาติไปตราบเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ด้วยบุญอันเนื่องด้วยพระบรมสารีริกธาตุนี้ จงเป็นเครื่องปิดอบายภูมิทั้งปวง ปิดบาปอกุศลกรรม มิจฉาทิฐิทั้งปวงไม่ให้แปดเปื้อน กาย วาจา ใจของข้าพเจ้า ในทุกชาติภพ ดวงบุญ ดวงธรรม ดวงปัญญา ดวงสัมมาทิฐิจงส่องสว่าง ยังอภิญญาสมาบัติกรรมฐานเก่าให้รวมตัวกัน จนเกิดความก้าวหน้าในธรรมรุดหน้ายิ่งขึ้นไปไม่มีความตกต่ำในชีวิตทั้งทางโลกทางธรรมด้วยเทอญ"

แล้วจึงน้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุพร้อมกัน

จากนั้นจึงร่วมใจอธิฐานแผ่เมตตา โดยกำหนดจิตในเมตตาอัปปันนาฌานไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ พร้อมกับการกล่าวคำแผ่เมตตา ตามแนวทางของครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพศรัทธา

 

ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดน้อยเจริญธรรม จ.สิงห์บุรี

เรากลับมาถึงวัดช่วงเย็น ณ ก็ไปทำความสะอาดกวาดลานวัดอยู่ครู่หนึ่ง
น้องและเพื่อนพี่ชานนก็มาสมทบ
หลังจากร่วมกันทำวัตรเย็นเสร็จ เราก็ร่วมถวาย
1.ผอบปิดทอง
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม 1
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 1
บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ 1
2.พระบรมสารีริกธาตุ 600 ซอง
3.พระธาตุข้าวบิณฑ์ 300 ซอง
4.หมวกไหมพรม 2 ใบ
5.ผ้าไตรจีวร
6.ปัจจัย
หลวงพ่อก็เมตตาสอนให้พวกเราทำน้ำมนต์ให้ตัวเอง แล้วนำไปอาบ







<!-- google_ad_section_end -->

 

ในปีใหม่นี้ งานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ทุกๆท่านร่วมใจกัน คงจะกระจายกว้างขวางออกไปอีกมากครับ

อยากให้ทุกๆท่าน ไม่ว่าจะมีส่วนช่วย ทั้งกำลังกาย กำลังใจ และที่ติดตามอ่าน โมทนาบุญ

ก็ขอให้ปรากฏอานิสงค์บริบูรณ์สมบูรณ์ทุกอย่างทุกประการครับ