ภัยที่หน้ากลัวมากคือ

รูปภาพมีคนหนุ่มและคนสาวพร้อมคนมีอายุ(คนแก่)ทุกอย่างไม่มีสายถ้าเราลงมือปฏิบัติ

ด้วยจิตใจทีเชื่อมั่นใน(คำสอนของพระพุทธเจ้า)และศัทธาในการทำความดีให้กับตัวเราเอง

และผู้อื่น...สวัสดีครับ

 

สวัสดีครับก่อนปีใหม่ผมจะไปปฏิบัติธรรมข้ามปี52-53คือวันที่30/12/52ถึง1/1/53ที่วัดน้อยเจริญธรรม(สิงห์บุรี)แต่ก่อนเคยเป็นวัดเก่าแก่(วัดสละบาป)และเป็นที่พักกำลังของทหารในอดีตเงียบสงบดีเพราะอยู่แถวทุ่งนาข้าว...ถ้าท่านใดสนใจจะไปปฏิบัติด้วยด้วยเชิญได้ครับpmมาบอกได้ครับเพราะผมขับรถไปเองครับมีที่ว่างประมาณ3ที่...มีภาพบรรยายในอดีตถึงปัจจุบัน(ก็มีผู้ศักธาหลายท่านไปช่วยสร้างและบูรณะต่ออายุพระพุทธศาสนา)....เชิญตามไปดูด้วยกันครับ...สวัสดีครับ

 

ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ปลายปี49

 

รูปภาพห้องน้ำที่เพิ่งสร้างปี51

 

<TABLE border=1 cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=#4b9339><TD hight="30">[SIZE=+2]<CENTER>หลวงพ่อเอนก อัตตมโน พระสุปฏิปันโนแห่งวัดน้อยเจริญธรรม สิงห์บุรี</CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>

***พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ-หลวงพ่อเอนก อัตตมโน แห่งวัดน้อยเจริญธรรม สิงห์บุรี***


หลวงพ่อเอนก อัตตมโน-พระผู้เจริญในธรรม เพื่อทางพ้นทุกข์ แห่งวัดน้อยเจริญธรรม ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี........

หน้าที่ของการเสาะแสวงหาพระกรรมฐาน ผู้มีปฏิปทาอันน่าเลื่อมใสนั้น เป็นหน้าที่หลักของกองบรรณาธิการโลกลี้ลับ เพราะเป็นภารกิจหลัก ที่จะได้นำเรื่องราวการปฏิบัติและเรื่องราวต่างๆ ที่พระกรรมฐานท่านได้ประสบมา เผยแพร่ให้กับท่านสมาชิกได้อ่าน และนำไปปฏิบัติตามได้ และในการนำเสนอเกี่ยวกับพระกรรมฐานนี้ ก็จะมีเรื่องราวที่แปลกและอัศจรรย์รวมอยู่ด้วยอย่างขาดไม่ได้ แต่ในที่สุดแล้ว พระกรรมฐานแต่ละรูป ท่านจะเน้นย้ำถึง"การรักษาศีล ปฏิบัติตนให้พ้นทุกข์" เพื่อจะได้เข้าสู่"พระนิพพาน" ตามรอยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่ตั้งโดยแท้ ดังเรื่องราวของ"หลวงพ่อเอนก อัตตมโน" ที่จะได้นำมาเสนอในฉบับนี้ก็เช่นกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ขอเชิญท่านสมาชิกติดตามได้ ดังต่อไปนี้......






มีแน่นอนครับยาว 14 หน้าเต็มๆ สนุกมากเหมือนอ่านนิยายกำลังภายในเลยละ ผมเล่าต่อละกัน......

**เมื่อครั้งยังเป็นฆราวาส**

ในเรื่องของการได้มาบวชเป็นพระนั้น จริงๆแล้ว ไม่ได้เจตนาที่จะเข้ามาบวช เพราะว่าไม่มีโอกาส คิดว่าชาตินี้ทั้งชาติ คงไม่มีโอกาสได้ห่มผ้าเหลือง เพราะอาชีพการงานก็มาเต็มหมด.......หลวงพ่อเรียนจบวิศวะที่ชลประทาน ประมาณ 40 ปีแล้ว พอจบแล้วก็ทำงาน รับราชการอยู่ชลประทาน มาตลอด 10 ปี และก็ไปอยู่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตอีก อยู่ตั้งแต่รุ่นบุกเบิกเลย ตั้งแต่เขื่อนภูมิพลมาเลย และก็มายันฮี พระราม 6 จากนั้นก็ออกมาอยู่บริษัท เป็นบริษัทออกแบบ ที่ทำมาก็มี "โอเรียนเต็ล,ดุสิตธานี" และก็เรียนสำรวจที่จุฬาฯ เรียนแผนที่ที่กรมแผนที่ทหาร ออกจากบริษัท ก็มาทำงานก่อสร้างอีก เริ่มโครงการของการประปานครหลวงที่อุโมงค์ใต้ดิน ออกแบบและก็วางให้เสร็จเรียบร้อยเลย พอออกจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก็มาทำรับเหมาเอกชน ครั้งสุดท้าย ก็มาทำ"มักกะสันคอมเพล็กซ์" ที่การรถไฟจะให้เช่าที่ พอถึงตอนนี้ก็มาป่วย.......



**วิบากกรรมชีวิต ป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ**

ส่วนชีวิตครอบครัวนั้น อาตมาไม่มี และขณะนี้ ที่อาตมาป่วย ก็ไม่รู้สาเหตุ หาสาเหตุไม่ได้ ป่วยเมื่อประมาณปี 2528 ตอนนี้อาตมาอายุ 63 บวชตั้งแต่ปี 2529......อาตมาป่วย ก็ไม่รู้สาเหตุ อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการป่วย พอไปให้หมอตรวจ ก็หาสาเหตุไม่ได้ รักษาไม่ได้ อาการที่เป็นก็คือ อยู่เฉยๆ ก็หมดแรง ก็ไปรักษาที่ รพ.ราม พระมงกุฏ จุฬาฯ ไปจนครบทุก รพ. ก็หาสาเหตุไม่ได้ พอถึงเวลา ก็หมดแรงไปเฉยๆ เหมือนจะตาย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพื่อนๆเขาก็ให้ไปนั่งรับเงินเดือนเฉยๆ ที่บริษัท ตัวเราก็มานั่งพิจารณาว่า เราไปรบกวนเขาหรือเปล่า? อาชีพการงานเราก็ทำไม่ได้ ก็เลยย้ายจากรุงเทพฯ รพ.อนันต์ อยู่ที่ลพบุรี อยู่เดือนหนึ่ง อากาศดี เพราะอยู่บนเขา พอหมอตรวจอีก ก็หาสาเหตุไม่เจอ หมอจะส่งเข้ากรุงเทพฯอีก เราก็เพิ่งออกมาจากกรุงเทพฯ จะส่งกลับเข้าไปอีก เลยพิจารณาว่า เราคงจะไม่รอดแล้ว ก็มาปรึกษาญาติที่เขาดูแลอยู่ ให้เขามาติดต่อหลวงพ่อ "วัดสละบาป" เจ้าคณะอำเภอค่ายบางระจัน.....

เริ่มสนุกแล้วมั๊ยล่ะ......ติดตามต่อไปนะครับ....



**เพราะใกล้เผาผี จึงมาอยู่วัด**

"วัดสละบาป"- นี้เป็นชื่อเก่าของ "วัดน้อยเจริญธรรม" ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ อายุประมาณ 700 ปีมาแล้ว เป็นวัดร้าง มาอยู่เพื่ออาตมาจะปฏิบัติธรรม เพราะคิดว่า เราใกล้ที่เผาผีแล้ว เราก็เตรียมเงินค่าเผาผีไว้ด้วย ค่าถวายพระเท่าไหร่ เตรียมไว้พร้อมหมด แล้วก็ไปขอบวชเพื่อปฏิบัติธรรม เราคงอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ตอนที่บวชนี่ หาคนถือผ้าไตรก็ไม่ได้ เพราะทั้งวัด มีคนถือศีลอยู่ประมาณ 50 คน แต่หาผู้ชายไม่มีเลย มีแต่ผู้หญิง ก็เลยต้องวานแม่ชีเข้าโบสถ์ ตอนที่บวช ก็ถือไม้เท้าไม้ค้ำเข้าไปด้วย ใช้สองอันเลย พระอุปัชฌาย์ท่านก็บวชให้ บวชเพื่อปฏิบัติธร
</TD></TR><TR width="100%"><TD width="90%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

<HR><TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 1
รมครั้งสุดท้าย เพราะคิดว่า เราไม่มีเวลาแล้ว เตรียมจะเผาแล้ว พิจารณาแล้ว นี่ญาติๆ เขาก็รังเกียจเหมือนกันนะ เพราะเขาก็มีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบ เขาจะต้องเสียเวลา มาดูแลเรา เราก็มาคิดสลดสังเวชตัวเอง ถ้าเราอยู่ใกล้วัด มันก็ใกล้ที่เผา มันง่าย สะดวก พอตายก็เผาเลย แล้วก็เตรียมปัจจัยไว้ ค่าสวดเท่าไหร่ ค่าโลง เตรียมไว้หมดเลย ถวายพระเท่าไหร่?......


**ปฏิบัติตลอด 24 ชั่วโมง**

พอบวช ก็เป็นช่วงเข้าพรรษาพอดี บวชวันนี้ ตอนเย็นก็เข้าพรรษาเลย แล้วก็ยืน-เดิน-นั่งนอนตลอด บิณฑบาตก็ไม่ได้ ต้องหุงข้าวฉันเอง อาตมาใช้ยืน-เดิน-นั่ง-นอน ทำตลอด 24 ชั่วโมง และก็สวดมนต์ทำวัตรเย็น นี่ทำตลอด ไม่เคยขาด แล้วก็เพิ่มอีก พอฉันเสร็จ ก็สวดอีก ตอนฉันเพลก็สวดอีก แล้วก็ไปเดิน แล้วก็กลับมานั่ง นั่งแล้วก็นอน-ยืน-เดิน-นั่ง-นอนตลอด คือ วันหนึ่ง จะไม่คุยกับคนอื่นเลย อยู่มาจนครบ 1 เดือนพอดี....

*** อัศจรรย์สมเด็จโต มาเทศน์โปรด***

เมื่อครบ 1 เดือน ก็มาพิจารณาดูว่า เราไม่น่าอยู่มาได้ถึงเดือนเลยนะ ผลสุดท้าย ก็เกิดนิมิต จากการที่เราปฏิบัติ "สมเด็จโต" ท่านมาเทศน์โปรด ท่านพาพระมาเต็มเลย เกิดนิมิตขึ้นมา พระนี่ซ้อนกันเป็นแบบเจดีย์เป็นชั้นๆ ขึ้นไปเลยนะ มาเทศน์โปรดสอนอยู่คืนหนึ่ง ครบเดือนแรกนะ ตอนที่อาตมาปฏิบัติยืน-เดิน-นั่ง-นอน อาตมา ก็เรียนไปด้วยนะ "ปริยัติ-ปฏิบัติ-ปฏิเวธ" ไปพร้อมเลย คือ พระบวชใหม่นี่ต้องเรียน ต้องเรียนเหมือนเราบวชใหม่ทั้งหมด ตามกติกาของคณะสงฆ์เรา ต้องไปเรียนหมดทุกอย่าง ทำกิจวัตรครบทุกอย่าง.......



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หลวงพ่อเอนก อัตตมโน(เจ้าอาวาสวัดน้อยเจริญธรรม)อ.บ้านบางระจัน จ.สิงห์บุรี ​

 

ตอนนี้ทางวัดน้อยเจริญธรรมกำลังก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมกรรมฐาน และ สร้างสิ่งก่อสร้าง เช่น ห้องน้ำ และ ศาลา ต้องการปัจจัยเป็นจำนวนมาก ขอร่วมเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคปัจจัยเพื่อพุทธศาสนา สามารถโอนเงินได้ที่โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ชื่อบัญชี พระเอนก อัตตมโน เป็นค่าก่อสร้าง ธนาคารกรุงเทพ สาขาสิงห์บุรี เลขที่บัญชี 314-0-875-62-0 ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ...สวัสดีครับ

 

<TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>**บรรพบุรุษอยู่ที่นี่มากกว่า 700 ปี**

ส่วนความรู้สึกผูกพันนั้น ทีแรกก็ไม่รู้ คือ จริงๆแล้วบรรพบุรุษเราอยู่ที่นี่ มีกระดูกอะไรอยู่ที่นี่เต็มหมดไปเลย ที่นี่เป็นสุสานขนาดใหญ่เลย 700 ปีแล้วนะวัดนี้ พระนเรศวร-ก็เคยมาตั้งทัพที่นี่ สมเด็จโต -ก็เคยมาอยู่ที่นี่ ที่นี่น้ำยังไม่เคยท่วม....

อาตมาอยู่ที่นี่ก็ 23 เดือนพอดี วัดน้อยเป็นชื่อตามประวัติศาสตร์ ตามกรมศาสนาที่เขามีหลักฐานอยู่ วัดนี้มีโฉนด มีเนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา ตอนนี้มีพระเหลืออยู่ 2 รูป ไปธุดงค์ยังไม่กลับ.....

ณ ปัจจุบันนี้ สมเด็จฯท่านก็ยังมาเมตตาหลวงพ่ออยู่ ท่านก็อยู่ที่นี่ คือ หลวงพ่อไปไหน สมเด็จฯท่านไปด้วยทั้งนั้นแหละ....





**ฝากข้อคิดจากประสบการณ์**

คนส่วนมาก เขาจะคิดว่าเหมือนนิยาย อาตมาถึงไม่อยากเปิดตัวไง ให้ปิดทองหลังพระดีกว่า เพราะอย่างนี้ อาตมาถึงอยากชวนกันเข้ามาวัด เพราะมันทำใจได้อยากในการลืมบ้าน และการฟังธรรม นี่ก็ไม่ง่าย คนจะฟังธรรมได้นี่ จะต้องมีพื้นฐานใกล้เคียงกัน ถึงจะฟังธรรมได้ สนทนาธรรมได้ มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังโปรดไม่ได้.......

สมเด็จฯท่านปรารถนา ให้คนที่เกี่ยวข้องกับท่านทั้งหมด ให้พ้นทุกข์ ท่านดึงหมดเลย เพราะท่านเป็น พระโพธิสัตว์ คนไม่เข้าใจว่า พระโพธิสัตว์เป็นยังไง? มันถึงต้องมารวมตัวกัน คือ ทำอะไรเกี่ยวกับสมเด็จฯ ปั๊บเดียว มันก็จะใหญ่ขึ้นไปเอง หลวงพ่อทำงาน นี่มีแต่งานใหญ่ งานเล็กไม่เคยเลย ทำแต่ระดับหมื่นล้าน พันล้านขึ้นไป ลงงานแรกสมัย 2500 ก็เป็นร้อยล้านแล้ว พองานที่สอง ก็ห้าร้อยล้าน งานมักกะสัน นี่ก็สี่หมื่นล้าน โรงงานน้ำมันกุ๊ก หลวงพ่อก็ไปคุมให้......(มีต่อ)



**ปรารถนาให้ญาติโยมรักษาศีล**

ให้ญาติโยม-พยายามรักษาศีล 5ให้ได้ ศีล-ทั้งนั้น นำทรัพย์มาให้ ศีล-ทั้งนั้น นำโชคมาให้
</TD></TR><TR width="100%"><TD width="90%"></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

<HR><TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 7
อย่างอื่นไม่มี ไปบ้านทุกครั้ง ก็จะบอกโยม จะให้ศีลโยม เพราะนำความสุขมาให้ ศีล-ทั้งนั้น นำโชคมาให้ อย่างอื่นไม่มี เพราะศีล 5-คือ ศีลความเป็นมนุษย์ จะมีอยู่ 5 ข้อ คือ เราก็ทำได้ยาก ทีแรกเราว่ามันง่าย ลองแบ่งเป็นข้อละ 20% วันหนึ่งเราสำรวจตัวเอง ว่าเรามีความเป็นมนุษย์ กี่% บางวัน เราก็ทำได้ บางวัน ก็ทำไม่ได้ พระนี่-ไม่ใช่มาห่มผ้าเหลืองอย่างเดียวน่ะ ถือศีล 5 นี่เขาเรียก พระโสดา แต่คำว่า "โสดา" นี่มี 2 อย่าง "โสดาปัตติมรรค"- หมายถึงว่า เราปฏิบัติอยู่ กำลังเดินอยู่ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถ้าโยมเต็มร้อยเมื่อไหร่ อานิสงส์มันจะเกิด เขาเรียก โสดาปัตติผล พระนี่-ก็มีหลายระดับ ถ้ามีพระอย่างเดียว ไม่มีพระโสดานี่ อดนะ โยมที่ใส่บาตรให้ฉันนี่ คือพระโสดทั้งหมดเลย ในเมืองไทยเรา มีพระโสดา เต็มบ้านเต็มเมืองเลย แล้วก็รวยทุกวัน กินกันไม่หมด โยมไปวัดไหน ก็เหมือนกันหมด......




**ตายแล้ว เอาทรัพย์ไปได้ ด้วยการบริจาคทาน**

แล้วโยมสังเกตไหมว่า มีพระวัดองค์ไหน เอาทรัพย์ไปได้มั่ง ทีนี้ชาวพุทธเรานี่ มีวิธีที่จะเอาทรัพย์ไปได้ วิธีที่จะเอาไป เอาไปได้ 4 อย่าง เอาอะไรไปได้บ้าง เครื่องนุ่งห่ม-อาหาร-ที่อยู่-ยารักษาโรค ความจำเป็นของมนุษย์มีอยู่ 4 อย่าง นี่คือ ที่พระรับได้ แล้วโยมจะนำไปได้ นี่ก็ 4 อย่าง คือ บริจาคทั้ง 4 อย่าง บริจาคทาน......

บริจาคทาน-ก็มีอีกอย่าง คือ บริจาควิชาการ อันนี้ก็ได้อานิสงส์ เพราะเราได้ให้ความรู้คนอื่นเขา เราก็ได้บุญได้อานิสงส์ จากการบริจาคทาน ทีนี้บางคนไม่เข้าใจ อย่างโยมนี่ทำ ทำได้ แต่ถ้าพระไปทำ นี่ไม่ได้ละ เดือดร้อน มันเป็นโลกียะ คือ พระนี่ บุญจะไม่เอา บุญอยู่เต็มวัด นี่ให้โยมเอาไปเยอะๆเลย เอาไปให้หมดเลย กองไว้ที่วัด แต่บางคนมาไม่เอาบุญไป จะเอาอย่างอื่น ก็ไม่รู้จะเอาอะไรให้ ตรงนี้ก็ต้องทำให้ได้ คือ ให้รักษาศีล 5ให้ได้ ให้เป็นพระโสดา แล้วก็ให้พูดความจริงกัน แล้วทุกคนจะมีความสุขหมด.....ทุกวันนี้ ที่ครอบครัวไม่มีความสุข ก็เพราะเรื่องนี้ ในบ้านไม่พูดความจริงกัน ลูกโกหกพ่อ พ่อโกหกลูก เรื่องก็ยุ่ง ผัวโกหกเมีย เมียโกหกผัว ยุ่งหมด แต่ถ้าพูดความจริงแล้ว มันจะมีความสุขทั้งหมดเลย แล้วถ้าทุกคน เป็นชาวพุทธนี่ จะไม่จน รวยทุกคน เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ชวนให้มาบวช ให้เรามาศึกษา แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ ถ้าโยมเป็นพระโสดาเต็มขั้นเมื่อไหร่ โยมจะมาเอง......







**เรื่องของสิ่งมงคล ล้วนแต่ได้มาเอง**

เรื่องแบงก์นี่ เดิมจริงๆ อาตมาก็ไม่รู้ว่านี่คืออะไร ? ที่บอกว่าพระแก้วท่านให้ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเอง แต่ใครที่ได้ไปนี่ เขารวยกันทุกคน ได้งานระดับหมื่นล้าน ได้งานออกแบบต่างประเทศ เขาก็กลับมาทอดผ้าป่าที่นี่ บางรายเขาก็มาหาเอง มาบริจาคเอง โดยที่เขาก็ไม่รู้ ไม่ได้มีการบอกต่อ เขามาบริจาคเอง ทำปิ่นโตมาส่ง จีวรเขาก็เอาไปซักให้

อย่างเถ้าแก่พงษ์เพชร ก็รู้จักกัน อาตมาก็บอกให้เขาทำบุญเพิ่มพระ แต่ก่อนเป็นคนเข็นถ่านขาย แล้วต่อมาก็ไปเป็นลูกจ้างที่เหมืองแร่ ไปขุดดีบุก พออีกวันหนึ่ง เขาไปเจอศพพระ ในถ้ำที่เมืองกาญจนบุรี เขาไปเจอ ศพหลวงปู่ที่ตายมา 300 ปีแล้ว นั่งแข็งทื่อ บังเอิญเขาไปรับรู้ เข้าทรงได้ ปรากฏว่าอดีตชาติ เคยเป็นลูกหลวงปู่ หลวงปู่ก็บอกให้ขุดเข้าไปอีกในตรงนั้นแหละ ขุดไปก็ไม่เจออะไร หลวงปู่ก็บอกให้ขุดต่อไปอีก เขาก็ขุดต่อไปอีกครึ่งเดือน จนไปเจอเป็นยุ้งเลยทีนี้ รวยกลายเป็นเศรษฐีเลย เขาก็สร้างพระถวาย.......




**หรือจะเป็นสมบัติเทวดา**

แต่เรื่องที่เขียนนี้ ไม่ใช่เขียนได้เลย ต้องรอก่อน รอวันเพ็ญเดือนหก ที่อาตมาทำนี่ อาตมาคิดว่าเป็น "สมบัติเทวดา" เทวดาเขาใส่บาตรมาให้ ทำแล้วก็แจกคนที่ได้ไป ก็คือ เข้าของทั้งนั้น ถึงเวลา เขาก็มาเอาเอง ทุกคนเป็นเทวดา หมาก็เป็นเทวดา คนก็เป็นเทวดา เราไม่ได้อยู่คนเดียว แมวก็เป็นเทวดา แต่ละภูมิไม่เหมือนกัน การเป็นอยู่ก็ไม่เหมือนกัน สวรรค์นี่ทั้งหมด 16 ชั้น ก็ไล่ไปสิ เราอยู่นี่ชั้นมนุษย์ ชั้นมนุษย์ยังลำบากขนาดนี้ ลองพิจารณาดูว่า ทำไมการเป็นอยู่ถึงไม่เหมือนกัน มันเกี่ยวกับกรรม นี่กรรมเข้ามาละ แล้วกรรมมันมาจากไหน ? เหตุที่มาจากกรรม ก็คือ ชาวพุทธเรานี่ จะรับมาทุก 7 วัน สมัยพระพุทธเจ้ามาเลยนะ ทุก 7 วัน ต้องรับมา ถึงวันโกนนี่ พระต้องโกนหัวกัน โยมก็มาล้างบาปกัน หยุดทำบาป แล้วมาล้างบาปทุก 7 วัน
</TD></TR><TR width="100%"><TD width="90%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<!--cached-Fri, 25 Dec 2009 10:05:24 +0000-->

ภาพนรกตามฝาผนังวัดจีน เพื่อเตือนสติมนุษย์ให้กระทำกรรมดี ประกอบด้วยนรก
หลายขุม เช่น นรกตัดแขน ตัดขา นรกกระทะทองแดง สังฆาตนรก

 

ชีวิตคนแสนสั้นแต่ เรากับคิดว่ายังมีเวลาอีกมาก

แต่ที่ไหนได้มาคิดอีก ก็ใก้ลวันเข้าโลงแล้ว

หรึอเราจะรอให้วันนั้น มาถึงคือความ...ต..

แล้วมีคนพูดตรงหูว่า(ญาติ) หายใจเข้าพุทธ...หายใจออกโธ

คิดถึงบุญที่เราได้เคยทำมา หรึอว่าเราจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติด้วยตัวเราเอง

จะเลือกแบบไหนดีครับ สวัสดีครับ

 

ป่าธรรมชาติคู่กับ นักปฏิบัติธรรม

ธรรมะคู่กับ ทุกๆคนที่จะนำไปประพฤติปฏิบัติ

แต่ตัวเราคู่กับ อะไรครับ

 

ภาพที่บรรยายให้เห็นได้หลายความรู้สึกของเราชาวพุทธ

 

ภาพความหมายของดอกบัว ให้คำตอบได้ดีกับผู้ประพฤติปฏิบัติ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>การทำลายจิตใจเป็นบาป

​

คำสอนของพระอาจารย์บุญกู้ อนุวฑฺฒโน​

หลวงปู่สอนว่าการทำลายจิตใจคนเป็นบาปเหลือหลาย
การให้กำลังใจคนเป็นกุศลมหาศาล ​

ไม่มีใครช่วยให้เราพ้นเกิดตายได้
จะต้องใช้วิชาพระ ละเกิดตายด้วยตนเอง​

มีพระเครื่องแขวนที่คอก็ดี
แต่ก็ควรมีพระรัตนตรัยแขวนที่ใจคุณด้วย​

เมื่อน้ำขุ่นมัว ไม่ใส คุณย่อมแลไม่เห็นกรวดทราย หอย ปู ปลา
ฉันใดเมื่อจิตคุณขุ่นมัว คุณย่อมไม่เห็นประโยชน์ตนฉันนั้น​

สำรวมมือ สำรวมขา สำรวมจิต สำรวมตา
หลับตาแต่ไม่ลืมตัว ดีกว่าลืมตาแล้วลืมตัว​

พัฒนาสิ่งใดไร้ค่า ถ้าไม่พัฒนาจิตไปด้วย​

ผู้ที่ชอบให้ย่อมเป็นเจ้าหนี้ ผู้ที่ชอบขอย่อมเป็นลูกหนี้
ผู้ที่เอื้อเฟื้อคือผู้มั่งมี ผู้ที่ตะหนี่คือผู้ยากจน​

อยากพ้นทุกข์ให้วางสุขในโลก
อยากพ้นโศกให้วางสุขในเสน่หา
จะดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ จะสูงต่ำก็อยู่ที่ทำตัว​

คนวิ่ง เห็นอะไรไม่ชัดเจน
จิตวุ่นวาย รู้อะไรไม่แจ่มแจ้ง
จิตหยุดวุ่นวาย จิตจึงเห็น
จิตใสเย็น จึงเกิดญาณทัศนะ​

สมัยนี้ผู้ทรงความรู้มีมาก
ที่หาได้ยากคือผู้ทรงธรรม​

จิตคนเราเหมือนลิง นิ่งไม่ได้
คุมจิตไว้จะได้สมอารมณ์หวัง
สำรวมตาระวังปากรู้จักฟัง
จิตคอยยั้งเพ่งกรรมฐานงานสำคัญ​

การภาวนาแม้เหนื่อยยาก
ยอมลำบากอย่าท้อถอย
สุดทางที่รอคอย
คืออมตสุขสิ้นทุกข์ใจ​

 

หลักจริยธรรม
(หลักจริยธรรม) ได้แก่ได้แก่ความกตัญญูกตเวที คือการรู้จักบุญคุณและตอบแทน อันเป็นหลักธรรมพื้นฐานทั่วไปของมนุษย์เพื่อการดำรงอยู่อย่างปกติสุข ดังนั้นทุกคนจึงมีหน้าที่ต่อกันด้วยการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมของพระพุทธเจ้า คือการปฏิบัติหน้าที่ต่อกันด้วยหลักทิศ ๖ เช่น

• พ่อแม่ทำหน้าเลี้ยงดูลูก (บุพพการี) บุตรธิดาจึงมีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณตอบด้วยการดูแลท่านไม่ทำให้ท่านเสียใจ ดังนั้นพ่อแม่จึงตอบแทนด้วยการเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก
• ครูทำหน้าที่สั่งสอนศิษย์ ศิษย์จึงมีหน้าที่ตั้งใจเล่าเรียนตอบแทน ดังนั้นครูจึงตอบแทนศิษย์ด้วยการตั้งใจสั่งสอนศิษย์
• ภรรยาดูแลลูกรักษาบ้านทำงานบ้านไม่บกพร่อง สามีจึงควรตอบแทนด้วยการไม่ดุด่าหรือไม่นอกใจ ภรรยาก็ตอบแทนด้วยความรักและจริงใจ
• ผู้ว่าจ้างให้ทรัพย์ในการดำรงชีวิต ลูกจ้างจึงควรตอบแทนด้วยการตั้งใจทำงานรับใช้ด้วยความซื่อสัตย์ ผู้ให้ทรัพย์จึงควรตอบแทนด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือควบคุมให้เหมาะสมถูกต้องตามจรรยาบรรณอาชีพของสถาบันเขา
• สังคมมีบุญคุณหน้าที่ในการไม่ให้มีการทำร้ายกันและกันให้ปัจจัยในการดำรงชีวิตแยกตามหน้าที่ความชำนาญของแต่ละบุคคล ประชาชนเป็นหนี้สังคมจึงควรเป็นพลเมืองดีเป็นการตอบแทนสังคม ประเทศชาติต้องตอบแทนด้วยการปกครองตามหลักธรรมาภิบาล
• ศาสนาสั่งสอนให้คนในสังคมไม่โหดร้ายและมีเมตตาต่อกัน เราจึงควรเป็นคนดีตอบแทน

 

กิจวัตรที่จำเป็นของพุทธศาสนิกชน[FONT= ][/FONT]

1.หมั่นไปวัดตามโอกาสที่เหมาะสม เพราะวัดเป็นสถานที่ที่สงบ ซึ่งจะส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมเพื่อขึ้น[FONT= ][/FONT]

2.หมั่นฟังธรรม เมื่อมีโอกาสควรใส่ใจในการฟังธรรมอยู่เสมอ เพราะการฟังธรรมเป็นเหตุให้ได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ส่วนที่ได้รู้ก็จะช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้น[FONT= ][/FONT]

3.พยายามสนใจศึกษา และรักษาศีลให้ดียิ่งขึ้น โดยพยายามนำหลักคำสอนของศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน [FONT= ][/FONT]

4.ตั้งจิตใจให้เป็นกุศลในขณะฟังธรรม มิใช่ฟังธรรมในลักษณะติเตียน ขัดแย้ง พยายามฟังให้ก่อเกิด บุญ มิได้ก่อเกิดบาป[FONT= ][/FONT]

5. ทำบุญกุศลตามหลัก และวิธีการของพระพุทธศาสนา ไม่แสวงบุญนอกคำสอนของพระพุทธเจ้า ควรปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า[FONT= ][/FONT]

6. ขวนขวายทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในทุก ๆ ทาง คือถ้าสามารถช่วยเหลือพระพุทธศาสนาได้ด้วยวิธีใด ก็ตาม ก็ควรรีบกระทำ...อย่างแรกทำที่ตัวเราก่อน...สวัสดีครับ

 

ขั้นที่1. เพราะยังยึดยังติดจึงไม่อาจหลุดพ้นจึงเกิดภัย

ขั้นที่2. แม้นคิดว่าอยู่ในความว่างเปล่าแล้วจะปลอดภัย

ขั้นที่3. ในความว่างจึงไม่ถือว่าเป็นความไร้สภาวะอันใด

ในความไร้ซึ่งสภาวะอันใด จึงล้วนไม่มีภัยอันใดเลย

ตื่นเถิดเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายและ ก้าวข้ามความว่างเปล่านี้ออกมา

ท่านจะเห็น อย่างที่ท่านควรจะเห็น

สวัสดี และขอบคุณด้วยจิตรคารวะ

 

ที่พึ่งอย่างอื่นไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งสูงสุดของข้าพเจ้า