ภัยที่หน้ากลัวมากคือ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ชานนคนไทย, 12 พฤศจิกายน 2009.

  1. lovelife

    lovelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +107
    โมทนา สาธุ ด้วยคะ
     
  2. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    *0* 555 ดีใจที่ได้เห็นความซื่อสัตย์ต่อตนเองค่ะ ลูกผู้ชายกันสุดๆ เยี่ยมจริงๆข้าพเจ้าก็ขอโง่ด้วยคนนะเจ้าคะ เพราะติดนู้น ติดนี่เยอะไปหมดเลย 555
     
  3. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    อันนี้ โดน สุด สุด :cool:
    ขออนุญาติลอกการบ้านนะคะ ลอก ลอก ลอก
    จงเป็น คนดี ไม่ใช่ คน default
    ขอขอบคุณ คุณ ณ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2009
  4. lovelife

    lovelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +107
    ชอบมากระทู้นี้จริง ๆ อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยคะ รู้ว่าตังเองยังมากด้วยความเขลา ความเลวอยู่ มากระทู้นี้เหมือนมีกำลังใจ ทางเว็บน่าจะเอาไปไว้ข้างหน้าเว็บบอรด์บ้างนะ ชอบที่ทุกท่านเขียนข้อความอ่านบ่อย ๆ ก็ไม่เบื่อ
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** นิสัย ****

    นิสัย...เป็น ตัวตนที่มองไม่เห็น
    นิสัย....เป็น สิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด<O:p
    นิสัย...เป็น ตัวตนของการกระทำเดิมๆซ้ำๆในอดีต

    เด็กเกิดมาพร้อมกัน จากท้องแม่เดียวกัน สถานที่คลอดที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน
    นิสัย ก็ไม่เหมือนกัน....เพราะ ตัวตนของการกระทำในอดีตไม่เหมือนกัน
    <O:p</O:p

    โลกนี้ เราบอกมี รูปธรรม กับ นามธรรม
    สังขารร่างกายเรา.... เรามองเห็น เราบอกกันว่าเป็น...รูปธรรม
    ส่วนนิสัย ...เรามองไม่เห็น เราบอกเป็น.... นามธรรม
    แต่ นิสัย นามธรรมที่มองไม่เห็นนี้...กลับนี้มีผลต่อรูปธรรม
    มีผลต่อร่างกายจนเกิด...การกระทำ เป็นพฤติกรรม
    แสดงว่า...นิสัย มันเป็นตัวตนใช่ไหม
    แล้ว ตัวตนที่มองไม่เห็น... ที่เรียกว่านิสัย มันมีผลต่อตัวเราใช่ไหม
    <O:p</O:p

    การกระทำที่ทำบ่อยๆ ....มันก็กลายเป็นนิสัย
    นิสัย...ก็คือ ตัวตนของการกระทำ นั่นเอง
    หรือที่เรียกว่า ....ตัวกระทำ นั่นเอง
    <O:p</O:p

    ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    อันนี้ คือ สัจจะธรรม...ที่มนุษย์ทุกคนควรศึกษาให้เข้าใจ
    เพราะ เป็นหลักเดียวที่ปักไว้อย่างมั่นคง...
    ..."หลักสัจจะธรรม"....
    <O:p</O:p

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    สิ่งที่หน้ากลัวมากที่สุดคืออะไรครับ(ผมถามท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง)ท่านตอบว่าก็คือตัวเราเอง
    ผมถามท่านต่อ...ตัวเราคืออะไร(ถามแบบคนไม่รู้ครับ)
    ท่านก็ตอบว่า...คือคนไม่ดีที่อยู่ในตัวเรา
    ผมก็ถามท่านว่า...ตัวเรามีคนไม่ดีด้วยหรึอครับ
    ท่านตอบ...มีเยอะ(คนไม่ดี)แต่เราไม่ยอมรับ
    ผมก็ถามท่านต่อ...มีอะไรบ้างครับ
    ท่านก็บอกให้...ผมคิดโดยนึกและพิจารณาโดยใช้สติดูก็จะรู้(โดยมองด้วยปัญญาและความเป็นกลางจากการปฏิบัติ)แล้วตอบไม่ต้องกลัวผิด...ท่านบอกก่อน...ที่จะถูก(คือตัวรู้)...ก็ผิดมาก่อนทุกคน
    ผมจึงตอบท่านว่า...ชอบคิดแต่เรื่องคนอื่นครับ
    ท่านตอบว่า...ใช่แต่ยังไม่ถูกต้อง
    ผมก็ตอบอีกว่า...กิเลสในตัวเราครับ
    ท่านตอบว่า...ใช่แต่ต้องแยกให้ถูกมีอะไรบ้าง(คนไม่ดีในตัวเรา)...มีต่อครับถ้าท่านใดตอบได้ตอบก่อนได้ครับผมจะมาบอกตอนหลังครับ
    จริงๆแค่ปลายจมูกแต่ใกล้...คำตอบของทุกท่านมีค่าสำหรับผมและเพื่อนๆสมาชิก...ผู้ให้ธรรมะและแนะนำธรรมกับผู้ไม่รู้เพื่อให้ผู้นั้นรู้ทางสว่าง
    และเกิดปัญญา...เป็นการให้เหนือสิ่งทั้งปวง...จากผมชานนคนไทยผู้ยังด้อยทางปัญญาทางธรรมขอบคุณมากครับ...สวัสดีครับ

    <O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2009
  7. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ผมก็ตอบอีกว่า...กิเลสในตัวเราครับ
    ท่านตอบว่า...ใช่แต่ต้องแยกให้ถูกมีอะไรบ้าง(คนไม่ดีในตัวเรา)..

    กิเลสมีทั้งสัมมากิเลส กับ มิจฉากิเลส
    ตัณหาก็มีทั้งสัมมาตัณหา กับ มิจฉาตัณหา

    อุปทานนี่ก็แสบสุดๆ เป็นต้นตอของอวิชชา
     
  8. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ...อุปาทานมันล่อหลอกให้ลืมหลง
    ให้ลืมองค์ลืมตัวตนปนเปสิ้น
    มันปลิ้นปลอกแลบลิ้นหลอกเป็นอาจิณ
    คนดีดีอาจแด่ดิ้นหวิ่นจากธรรม
    ...หลอกว่าเท็จเป็นจริงจริงเป็นเท็จ
    ช่างสรรหากลเม็ดเคล็ดชอกช้ำ
    ขาดสติไม่รู้ทันหัวคะมำ
    ต้องหัวคว่ำหัวทิ่มตำลงอบาย
    ...ทุกครูบาอาจารย์ท่านย้ำสอน
    อย่าไปป้อนอาหารมันก่อนจะสาย
    มันจะมารูปแบบไหนอย่าสนใจ
    ประคองจิตเราเอาไว้อยู่กับธรรม
    ...มันจะมาล่อหลอกยื่นคำชม
    พร้อมขนมชิ้นโตก็แค่ขำ
    อย่าเผลอลองเผลอลิ้มชิมเพียงคำ
    กลายเป็นตัวมืดดำที่กล้ำกลาย
    ...อุปฮุบเอาตีกรอบให้ลงหลุม
    ปาปากอ้าแยกเขี้ยวงุ้มตะกรุ่มใส่
    ทานเข้าปากยากจะออกแสนเหลือใจ
    ถอยออกได้คาถาง่ายคือปล่อยวาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2009
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ตัวทะยานอยาก ****

    คนเรามันอยากจะออกใหม่อยู่เรื่อยๆ...
    มีแล้ว ก็อยากจะได้อีก....ไม่รู้จักจบสิ้น
    พระพุทธเจ้าให้กำหนดข้อสัจจะ ....มาตัดลดให้ได้จริงวันละสัก ๑ ชั่วโมง
    ตัวทะยานอยาก...จะได้ลดน้อยลง จนหมดไปได้ในที่สุด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    เริ่มมีความติดกระทู้นี้แล้วซิ ธรรมะดีๆทั้งนั้นเลย *0*

    แล้ว "ความคาดหวัง" หรือ "ความหวัง" ล่ะคะ น่ากลัวมั๊ย
     
  11. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ความคาดหวัง กับ ความหวัง มันก็เป็นตัวกิเลสแบบหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นสัมมาหรือเป็นมิจฉาก็ได้ แต่ทั้งสองแบบก็ล้วนแล้วแต่ขวางการเข้าสู่เส้นทางสายพระนิพพาน แต่เนื่องจากเรายังไม่พร้อมเดินในทางสายพระนิพพาน ความคาดหวังกับความหวังก็ยังคงจำเป็นต่อการดำรงอยู่ของชีวิตในปัจจุบันเพียงแต่กรองมันอย่างไรเพื่อใหได้เฉพาะที่เป็นสัมมากิเลสก็โอเคแล้ว
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ทำลายความคาดหวังชอบพึ่งผู้อื่น ****

    ให้สัจจะต่อตนเอง ว่า ...
    .......ไม่เชื่อว่าผู้อื่นจะทำให้.......
    .......ไม่เห็นผู้อื่นเป็นที่พึ่ง.......
    .......เห็นว่าการกระทำของตนเองเป็นที่พึ่ง.......

    วันละข้อ วันละชั่วโมง
    ทำเป็นประจำทุกวันหมุนสลับกันไปเรื่อยๆ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2009
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หนทางหลุดพ้นทุกข์ ****

    มีวิธีเดียว...คือ ต้องตัดต้องลดนิสัย
    นิสัยจะหมดไปได้....เราต้องพยายามตัดให้ได้จริงทุกวัน
    วันละหน่อย วันละชั่วโมง...มันถึงจะลดลงได้จริง หมดไปได้จริง
    ถ้าเรารู้แล้ว ดูเฉยๆ....ไม่ตัดไม่ลดมัน ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะนิสัยก็คงอยู่เหมือนเดิม

    สัจจะปฏิบัติ... ในการตัดลดกิเลสนิสัยต่างๆ
    มนุษย์ทุกคน ทั้งพระ ทั้งฆราวาส.... ก็ต้องทำเหมือนกัน
    เพียงแต่ผู้มุ่งหลุดพ้น ทุกข์บรรลุอรหันต์...เขาจะตัดนิสัยจนหมด สิ้นอารมณ์ทุกอย่าง
    แต่ฆราวาส ถ้าได้ปฏิบัติแล้ว ...ก็จะสามารถรอดพ้นจากกรรมได้
    คือ เป็นหนทางพ้นทุกข์เหมือนกัน

    นิสัยในตัวเรา ยังมีมากมาย
    ถ้าไม่เริ่มตัดเริ่มลด ตั้งแต่วันนี้...แล้วท่านจะรอวันไหนอีก
    ท่านมั่นใจหรือว่า....ตายไปแล้ว จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก !!!
    สิ่งที่พลาดพลั้งบางอย่าง เราก็ยังไม่รู้ตัว

    สัจจะ คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ลูก
    ศิษย์ตอบกลับมาว่า 'ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุก
    คนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ '

    หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า

    'เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเรา
    เป็น คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ 'ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา

    'คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็
    เป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้า
    ถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็น
    เครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ '

    'มาถึงตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย
    เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ จนไม่
    อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คน
    อื่นยื่นให้ '

    'อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชน
    ตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร
    '

    'สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้
    สองครั้งก็เป็นเรื่อง ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่
    หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม
    เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเอง
    ออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอา
    ไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล '

    'แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ' ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้วเริ่ม
    สนทนาโต้ตอบหลวงตา

    'เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่
    เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเรา
    สัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาว
    สะอาดกว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่
    เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม'

    'เข้าใจครับหลวงตา' เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง

    สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    สรณะอื่น ไม่มี ชีวิตนี้เพื่อพระรัตนตรัย
    **** รู้จักขอบคุณเมื่อได้รับ ขออภัยเมื่อผิดพลาด คือสิ่งที่มนุษย์พึงกระทำ ****


    ปก... แม้มืดตื๋อ มืดมิด ก็มีสิทธิเข้าถึงธรรม...สวัสดีครับ

     
  15. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    เวลาที่เราว่าๆคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานตัวเราเอง
    สว่างตา...ด้วยแสงไฟ...สว่างจิตใจ...ด้วยแสงธรรม...สวัสดีครับ
     
  16. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    [FONT=Courier New, Courier, mono][​IMG][/FONT]​

    [FONT=Courier New, Courier, mono]ไม่ควรมองหาความผิดผู้อื่นหรือธุระที่เขาทำแล้วหรือยังไม่ทำ [/FONT]

    [FONT=Courier New, Courier, mono]ควรตรวจดูเฉพาะสิ่งที่ตนทำหรือยังไม่ทำเท่านั้น[/FONT]
    [FONT=Courier New, Courier, mono][/FONT]
    [FONT=Courier New, Courier, mono]พุทธพจน[/FONT]
    สวัสดีครับ
     
  17. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านท่านสอนลูกศิษย์อยู่เสมอๆว่า
    อย่าเที่ยวเพ่งโทษคนอื่น ให้เพ่งโทษตัวเราเองไว้
    ดูสิว่าตัวเราเองเป็นอย่างไร ถ้าคิดว่าตัวเองดีแล้วเก่งแล้วเราก็เลวเมื่อนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ธันวาคม 2009
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะตัดลดนิสัยเห็นผิด ****

    กำหนดสัจจะ ขึ้นมานำชีวิต นำการกระทำตนเอง ว่า....
    .......ไม่เห็นผู้อื่นผิด.......
    .......ไม่เห็นว่าตนดีแล้ว.......
    กำหนดปฏิบัติ วันละ ๑ ชั่วโมง ในแต่ละวัน
    ทำใหเป็นประจำ ทำได้ก็กลายเป็นธรรม
    ธรรมที่ติดตัวไปตลอดกาล

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ไม่ซ้ำเติมคนมีกรรม ****

    โลกนี้ ทุกคนก็ล้วนแต่เคย ทำผิดพลาด กันมา
    แต่เมื่อเขาทำผิดไปแล้ว เขารับกรรมเป็น ทุกข์ ไปแล้ว ...เราจะไปซ้ำเติมเขาอีกหรือ !!!!
    ถ้ากายวาจาใจเรา ยังซ้ำเติมเขา....ก็แสดงว่า เมตตา ในใจเรามันจมหายไปแล้ว
    จริงไหม ?

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    จริงด้วยค่ะ สมัยนี้คนเรามักรู้มาก แล้วก็คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่นเสมอ จึงได้เที่ยวไปตัดสินเพ่งโทษพิพากษาผู้อื่นไปตลอดทุกเรื่องทุกราวตลอดเวลา และมักคิดลบ มองผู้อื่นและสิ่งอื่นๆลบไปหมด เป็นสิ่งเลวร้ายไปหมด ทั้งๆที่บางอย่างเกิดจากสิ่งดีๆ คิดดี ทำดี พูดดี แต่มันกลายเป็นความคิดลบสำหรับผู้คิดไปเสียแล้ว เลยเกิดบุคคล 3 คนขึ้นเป็นตัวเรา และบางทีการทำดีกับคนอื่นก็อาจกลายเป็นการซ้ำเติมได้เพราะผู้รับขาดความเข้าใจอย่างแท้จริงและเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของการพิพากษา

    คนยุคนี้อาศัยแต่กฏหมายเข้ามาควบคุม จนลืมซึ่ง ศีลธรรมจรรยาในจิตใจโดยธรรมชาติของมนุษย์ไปเสียมาก เลยเป็นยุคแห่งความเสื่อมทางจิตใจอย่างแท้จริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...