ถ้าผมสวดวัตรเช้าเเล้วต่อด้วยวัตรเย็นในตอนเช้าเลยจะได้ไหมครับ ? จะบาปไหม ?

ถามว่าบาปไหม? มันไม่บาปครับ เนื่องจากบาปคือความชั่ว

การทำวัตรเช้าและเย็็นนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เสมือนเราได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยกล่าวบทสรรเสริญคุณทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมถึงการสวดพระปริตรซึ่งเป็นพุทธพจน์หรือพุทธโอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการอุทิศส่วนกุศล (ในการทำวัตรเช้า)

ดังนั้นในช่วงเช้า เราทำวัตรเช้า สิ่งนี้คล้อยตามกับธรรมเนียมปฏิบัติ ในช่วงเย็น หากเราไม่สะดวก เราสามารถสวดตอนค่ำได้

การสวดบ่อยครั้งจะทำให้จิตของเราน้อมระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อยู่เสมอ

คุณจขกทอาจสงสัยว่าทำทีเดียวได้ไหม ผมเห็นว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการทานข้าว คุณเอาข้าวเช้าและข้าวเย็น มาทานตอนเช้า จริงอยู่เราอาจสามารถทานได้ทั้งหมด แต่ร่างกายของเราจะไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร เมื่อให้การสวดมนต์เป็นข้าว ร่างกายเป็นจิตใจ เราได้รับข้าวอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับจิตของเราได้สัมผัสกับคุณความดีที่ได้รับจากการสวดมนต์อยู่เสมอ จิตของเราก็จะน้อมไปทางกุศล

อนุโมทนาบุญของการสวดมนต์ ครับ

 

เวลาคือตัวกำหนดความเหมาะสม

นึกถึงสมัยเด็ก ๆ อาตมาแต่งชุดนักเรียนนอนเพื่อตอนเช้าจะได้ลุกไปโรงเรียน
ไม่ต้องเสียเวลาแต่งตัว

ยายถามว่า...ทานข้าวเช้าเสียคืนนี้เลยมั้ย พรุ้งนี้จะได้ไม่ต้องทานให้เสียเวลา


การสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นที่เราใช้อยู่ในประจุบันนี้แต่งใหม่โดย รัชกาลที่ 4 ทรงประพันธ์
แต่เดิมเราใช้บทเดียวสวดทำวัตร เช้า-เย็นเรียกบทสวดทำวัตรพระ

<TABLE align=center><TBODY><TR><TD>..........นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ
..........นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ
..........นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ

..........โย สันนิสินโน วะระโพธิมูเล มารัง สะเสนัง สุชิตัง วิเชยยะ
สัมโพธิมาคัจฉิ อะนันตะญาโณ โลกุตตะโม ตัง ปะณะมามิ พุทธัง
เย จะ พุทธ อะตีตา จะ เย จะ พุทธา อะนาคะตา ปัจจุปปันนา จะ
เย พุทธา อะหัง วันทามิ สัพพะทา
..........อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ-
สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา
เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
..........พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระ-
ณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม
ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ปาทะปังสุง วะรุตตะมัง พุทเธ
โย ขะลิโต โทโส พุทโธ ขะมะตุ ตัง มะมัง
..........อัฏฐังคิโก อะริยะปะโถ ชะนานัง โมกขัปปะเวสายะ อุชู จะ
มัคโค ธัมโม อะยัง สันติกะโร ปะณีโต นิยยานิโก ตัง ปะณะมามิ
ธัมมัง เย จะ ธัมมา อะตีตา จะเย จะ ธัมมา อะนาคะตา ปัจจุปปันนา
จะ เย ธัมมา อะหัง วันทามิ สัพพะทา
..........ส์วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิ-
ปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ
..........ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม
สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ธัมมัญจะ ทุวิธัง วะรัง
ธัมเม โย ขะลิโต โทโส ธัมโม ขะมะตุ ตัง มะมัง
..........สังโฆ วิสุทโธ วะระทักขิเณยโย สันตินท์ริโย สัพพะมะลัป-
ปะหิโน คุเณหิ เนเกหิ สะมิทธิปัตโต อะนาสะโว ตัง ปะณะมามิ สังฆัง
เย จะ สังฆา อะตืตา จะ เย จะ สังฆา อะนาคะตา ปัจจุปปันนา จะ เย
สังฆา อะหัง วันทามิ สัพพะทา
..........สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะ-
วะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามี-
จิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ
อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย
ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง
โลกัสสาติ
..........สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม
สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง สังฆัญจะ ทุวิธุตตะมัง
สังเฆ โย ขะลิโต โทโล สังโฆ ขะมะตุ ตัง มะมัง
..........อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง
ยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นมัสการพระคุณเจ้าครับ อิอิ
กินก่อนเลยดีีกว่าครับ หากพรุ่งนี้ไม่มีเวลาจริงๆ อิอิ
แต่ความเห็นของผม คือว่างตอนไหนก็สวดของเวลานั้นๆ
สวดเช้าก็ทำวัตรเช้า สวดเย็นก็ทำวัตรเย็น
เช้าไม่ได้ทำวัตรเช้า ก็เว้นไว้ครับ ไม่ได้เสียหาย
ไม่ใช่...ลามนะที่จะต้องละห.าดชดเชย อิอิ
สวดมนต์ผิดยังไม่บาปเลยครับ นับประสาอะไรกับสวดทำวัตรเช้าในตอนเย็น
อิอิ...

 

โหวดอีกเสียงว่า ไม่บาป....

 

เอาตามสดวกครับ....ผมบางครั้งวัดเย็นตี ๒ .....บางวันตี ๒ ก็สวดวัตรเช้า....มันแล้วแต่เราครับ.....คือจุดประสงค์จริงๆถ้าอยู่บ้านแล้วแต่เราเห็นสมควร....แต่ถ้าอยู่วัดก็ทำตามแบบวัด...วัตรเช้า...คือวัตรเช้า.....วัตรเย็นคือ วัตรเย็น......ถ้าน้องจะทำแบบวัดก็ได้....เป็นแบบแผนดี....

คือถ้าสวดด้วยกันมันจะยาวเท่านั้นเอง.....หรือถ้าอยากสวดพร้อมกันก็ได้...แล้วแต่เรา......ท่านไม่ได้บอกบังคับไว้ว่าวัตรเย็นห้ามสวดตอนเช้า......

ของอย่างนี้เขาถือกำลังใจเป็นสำคัญครับ....

 

สวดให้ถูกเวลาตามทำเนียมปฏิบัติผมว่าจะดีกว่านะครับ
หรือไม่ได้จริงๆ ก็ตัดส่วนที่ไม่ว่างออกก็ได้ครับ
อย่างเช่น สะดวกในตอนเช้า ก็ทำวัตรเช้าอย่างเดียว ไม่ต้องทำวัตรเย็น
แต่ถ้าทำครบก็ดีเลยครับ สาธุ โมทนาด้วย
ท่านผู้มุ่งมั่นในธรรมของพระตถาคตเจ้า ย่อมเป็นกุศลอันแรงกล้า เปี่ยมด้วยศรัทธาอันลึกซึ้งด้วยประการฉะนี้...อิอิ ปัญญา สัทธา วิริยะ!!!

 

ขอขอบคุณกับความเห็นของท่านทั้งหลายครับ แต่ผมมีคำถามเสริมต่อจากท่านที่ตั้งกระทู้คือว่า ผมถือศีล8เป็นบางวันทั้งบางวันก็ทำงานออฟฟิต หากว่าผมถือศีล8แต่ไม่ได้ทำวัตรเช้าเพราะไม่มีเวลา(ไม่สะดวก) จะถือว่าบกพร่องในการถือศีลไหม

 

ทำตามที่ครูบาอาจาร์ทำเป็นตัวอย่าง


ครูทำแบบไหน ศิษย์ก็ควรทำตามแบบนั้น


ทำวัตรเช้าก็คือทำวัตรเช้า


ทำวัตรเย็นก็คือทำวัตรเย็น


หากเช้าสวดไม่ได้ก็สวดแต่ทำวัตรเย็น


หากเย็นสวดไม่ได้ก็สวดแต่ทำวัตรเช้า


ไม่ถือว่าบกพร่องหรือผิดแต่อย่างใด

 

ควรปฏิบัติตามครูบาอาจารย์แหล่ะค่ะดีที่สุดไม่สดวกตอนเย็นก็ไม่เห็นจำเป็น สดวกเมื่อไหร่ก็สวดเมื่อนั้นแหล่ะค่ะ บางวันดิฉันติดธุระสวดมนต์เย็นห้าทุ่มครึ่งก่อนเที่ยงคืนยังเคยเลยอนุโมทนาสาธุ