รักแล้ว...รักเลย # แฟนซีผีตาโขน แรงศรัทธา ของชาวด่านซ้าย จ.เลย

ขบวนควายตู้ บ่งบอกวิถีท้องถิ่น ที่มีการหาเลี้ยงชีพด้วยการทำนา









เด็กน้อยในขบวนถั่งบั้ง หรือ คนป่ากระทุ้งพอง กระแทกลงกับพื้นถนนนั่นเอง

 

[MUSIC]http://www2.tat.or.th/festival/vdo/vdo/16.wmv[/MUSIC]

พักกันสักครู่....เดี๋ยวกลับมาต่อให้นะ...

แล้วจะรู้เที่ยวอีสานนี้ไม่น่าเบื่อ อย่างที่คิด ถ้าเราเที่ยวภาคอีสานต้องใช้เวลาศึกษา เพลินๆ แถมสนุกกลับไป ถึงเมืองเลยจะห่างจาก กทม. ประมาณ 450 กม.(เส้นด่านซ้ายนะ) ทำให้พรรณนาติดเสน่ห์เมืองแห่งนี้ไปเสียแล้ว ถึงต้องไปอยู่เนืองๆ

 

คุณพรรณนา จะบอกอะไรให้ บางครั้งกล้องธรรมดาก็สามารถถ่ายรูปสวยกว่ากล้อง DSLR นะ ขึ้นอยู่กับเจ้าของกล้องเรียกความสามารถของกล้องออกมาได้มากแค่ไหน ช่างเปรียบเนอะ "เห็นแต่ละคนพกกล้องมาเท่ากระบอกข้าวหลาม" ขำ ขำ
แล้วคุณพรรณนาก็ใช้ Panasonic LUMIX DMC FX-7 ซึ่งพี่ๆ ที่ทำงานขอบพี่ก็ใช้ แต่เป็นลูมิกซ์คนละรุ่น ภาพที่ถ่ายออกมาก็จัดว่าสวยเลยนะ ลองเลือกเล่นหลายๆ Mode ดู อาจจะได้ภาพในมุมมองใหม่ๆ

แหม ฝากชวนกันอย่างนี้ นานๆที พี่จะได้คุยกับคุณบุญตา ให้คุณบุญตาไปSurway ก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ....

 

ก็ที่พรรณนาเคยบอกกับพีสร้อยฟ้าครับ เวลาผมถ่ายเหมือนกับติดกับบัตรประชาชน ดูภาพธรรมดามาก เห็นบางคนถ่ายออกมาเออได้มุมที่แปลกดี..มุมกล้องสวย หรือที่เรียกว่าชั้นเทพนี่แหละ
ส่วนปรับโหมดแต่ละโหมดต่างกันอย่างไงครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เหมือนกัน

เชิญครับไป จ.เลย กันเถอะ สำหรับตัวพรรณนาคิดว่า จ.นี้ไม่มีอะไร แต่เที่ยวกันจริงๆ แล้วไปได้ทุกฤดูนะ อย่างหน้าร้อน ไปเที่ยวแก่งคุดคู้ เห็นหินกลางแม่น้ำโขง เที่ยวเชียงคาน ดูเมืองบ้านไม้เก่า

ออ...เดี๋ยววันที่ 25 - 27ก.ย. นี้ พรรณนากับเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองเลยอีกครั้ง จะนำภาพร่วมทริปมาลงนะ

? ถามพี่ๆเพื่อนๆในที่นี้ว่า จะให้พรรณนาเปิดกระทู้ใหม่ หรือ รวมไว้ในกระทู้เลย

 

ภาพส่งท้ายในงานผีตาโขนครั้งนี้















ส่วนในวันที่ ๒๘ มิ.ย. เป็นพิธีทางศาสนาร่วมทำบุญฟังเทศน์มหาชาติ
๑๓ กัณฑ์ ทีวัดโพนชัย แล้วมีขบวนแห่ต้นกัณฑ์เทศน์ ของหมู่บ้านต่างๆ
ในอำเภอด่านซ้าย พรรณนาไม่ได้อยู่ร่วมกลับมาก่อนนะ

****** แล้วพบกันงานผีตาโขนหน้า ม่วนซื่น โฮแซว เด้อ จ้า *****

 

เปิดกระทู้ใหม่ดีกว่า...

 

ลักษณะผีตาโขนและการทำหน้ากากผีตาโขน

[URLI="<EMBED height=344 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/bnf85xPOK58&hl=en&fs=1& allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>[/URLI]​

พรรณนาหาจากในรายการ เจอร์นี่ไทยแลนด์ ใน You Tube
น่าจะเห็นภาพมากขึ้น​

-----------------------------------------------------------------------​

การทำหน้ากากผีตาโขน​

1.
​

1.ส่วนหัวของหน้ากากผีตาโขนทำด้วยหวดนึ่งข้าวเหนียว
นำมาหักพับขึ้นให้มีลักษณะคล้ายหมวก ​

​

2.ส่วนหน้าทำจากโคนก้านมะพร้าว ถากเป็นรูปหน้ากาก แล้วเจาะช่องตา
สำหรับจมูกของผีตาโขนนั้น​

3. ได้ส่วนหัวและหน้ากากแล้วเจาะรูทำเป็นตาทั้ง 2 ข้าง​

​

4.เจาะช่องตาสำหรับจมูกของผีตาโขนนั้น ในสมัยก่อนจะมีขนาดเล็ก
คล้ายจมูกของคนธรรมดาทั่วไป ​

​

5. ปัจจุบันมักทำใน
ลักษณะยาวแหลมคล้ายงวงช้าง โดยทำจากไม้นุ่น
ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน นำมาแกะเป็นรูปทรงต่างๆ
ส่วนเขาทำมาจากปลีมะพร้าวแห้ง
นำมาตัดเป็นขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการ​

​

6. การประกอบส่วนต่างๆ ของหน้ากากนั้น ส่วนหัว หน้า และเขา ก็จะใช้เชือก
เย็บติดให้เข้าด้วยกัน
ส่วนจมูกจะยึดติดกับหน้ากาก โดยจะใช้ตะปูตียึดจากด้านใน การตกแต่งลวดลายต่างๆ ในปัจจุบันนิยมใช้สีน้ำมัน
ในสมัยก่อนที่ยังไม่ใช้สีน้ำมัน จะใช้สีจากธรรมชาติ เช่น ขมิ้น ปูนขาว ขี้เถ้า ปูนแดง เขม่าไฟ เมื่อตกแต่งลวดลาย
เสร็จแล้ว ด้านหลังจะใช้เศษผ้าเย็บต่อจากหน้ากากและหวดให้คลุมส่วนคอจนถึงไหล่ ​

​

7. หน้ากากผีตาโขนที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมอวดโชว์ การรังสรรค์หน้ากากครั้งนี้แล้วแต่จินตนาการณ์ของผู้ออกแบบ แต่ละบุคคล บางทีเขียนส่วนหัวหยอกล้อผู้พบเห็นให้สะดุดอ่านตาม ณ เหตุการณ์นั้นๆ จะเกิดขึ้น ​

 

ได้ครับ...พี่สร้อยฟ้า ผมจะเก็บภาพแล้วลงเนื้อหามาฝากนะ

 

จ่ะ จะคอยติดตามอ่านนะ...

ขอชมว่าเขียนกระทู้เก่งแล้วนะจ๊ะ....
อ่านเพลินๆ ดี

 

สีสดใสสดชื่นดี
น่าไปเที่ยวครับ
ตอนบ่ายผมโผล่มาโพสต์ทีนึงแต่เห็นปาดหน้า ก็เลยลบโพสต์ไป

 

ขอขอบคุณพี่สร้อยฟ้าที่ติดตามอ่าน พรรณนาอยู่เนืองๆ พี่สร้อยฟ้าก็เขียนเก่งด้านประวัติศาสตร์นะ พรรณนาไม่ค่อยถนัดเรื่องประวัติศาสตร์เท่าไหร่กลัวใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมแต่ก็สนใจอยู่ไม่น้อย

วันหลังจะรบกวนพี่สร้อยฟ้าชี้แนะหน่อยนะครับ

สำหรับเทคนิคต่างๆก็ได้จากพี่ๆในนี้หละครับ ลองผิดลองถูกเหมือนที่พี่สอนนั้นหละครับ

 

ไปกันครับปีหน้า หรือ ช่วงนี้ก็ไปได้นะแต่ไม่มีผีตาโขนหละ ไม่หน้าลบโพสต์เลย คุณบุญตาตั้งใจลงในพรรณนารู้สึกเป็นเกียรติแล้วครับ

ขอขอบคุณจริงๆๆ เด้อ หล่า

 

ลักษณะผีตาโขน​

​

1.ผีตาโขนแต่งกายด้วยชุดที่ทำจากเศษผ้านำมาเย็บติดกัน​

​

2.มี "หมากกะแหล่ง" (ลักษณะคล้ายกระดิ่ง ใช้แขวนคอกระบือ)
หรือกระดิ่ง กระพรวน กระป๋องผูกติดกับบั้นเอว แขวนคอ หรือถือเคาะเขย่า เพื่อให้เกิดจังหวะและมีเสียงดังเวลาเดิน
แบบขย่มตัว ส่ายสะโพก โยกขา และขยัยเอว
​

3.ผีตาโขนทุกตัวจะมีอาวุธประจำกาย เป็นดาบ หรือง้าวซึ่งทำจากไม้เนื้ออ่อน
โดยจะทำให้มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชายและ
ทาสีแดงตรงปลายเอาไว้หยอกล้อเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น ขบขัน
และสนุกสนานมิได้ถือเป็นเรื่องอุจาดลามกหรือหยาบคายแต่อย่างใด

​

 

ในงานผีตาโขนนั้นจะแบ่งได้ประเภท 2 ประเภท

1.ผีตาโขนใหญ่ จะสร้างด้วยโครงไม้ไผ่เหลาคล้ายๆสุ่มไก่แต่ใหญ่กว่ามากทำเป็นตัวคนขึ้นรูปร่างกาย จะมีคนอยู่ในผีตาโขนใหญ่ด้วย จะแบ่งเป็นเพศชายและเพศหญิง

สาเหตุที่มี “ผีตาโขนใหญ่” จำนวนจำกัด และไม่นิยมทำกันแพร่หลายเหมือนกับ “ผีตาโขนน้อย” นั้นเป็นเพราะชาวอำเภอด่านซ้ายมีความเชื่อว่า การทำผีตาโขนใหญ่จะทำมากกว่า 2 ตัวใน 1 ขบวนไม่ได้ ผู้มีหน้าที่ทำผีตาโขนใหญ่จะมีเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะคนอื่นไม่มีสิทธิทำ การทำก็ต้องได้รับอนุญาตจากผีหรือเจ้าก่อน ถ้าได้รับอนุญาตแล้วต้องทำทุกปีหรือทำติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี



ความที่ผู้เล่นผีตาโขนใหญ่ต้องเข้าไปอยู่ข้างในหุ่นนี้ ดังนั้นผู้ที่จะเล่นต้องเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่และสุขภาพแข็งแรงพอสมควร เพราะต้องใช้ลีลาท่าทางในการเคลื่อนไหวตัวผีตาโขนใหญ่ให้น่าดู มีศิลปะเพื่อให้ผู้ชมเกิดความสนุกสนานและประทับใจ



** ด้วยความเชื่อนี้ หากผู้ใดเคยใส่ผีตาโขนใหญ่หรือร่วมขบวนต้องทำต่อเนื่องกัน หากไม่มาร่วมจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ โดยข้อมูลดังกล่าวได้ฟังในวิดีทัศน์ห้องพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ณ วัดโพนชัย

2.ผีตาโขนน้อย” คือการเล่นผีตาโขนแบบใช้หน้ากาก และใช้ผ้าคลุมร่างกายให้มิดชิด เนื่องจากการทำหน้ากากผีตาโขนน้อยไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับการทำ “ผีตาโขนใหญ่” จึงทำให้เป็นที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย




ด้วยสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติมาช้านาน หากเสร็จสิ้นงานผีตาโขนแล้วเหล่าบรรดาผู้ร่วมขบวนแห่ที่สวมชุดผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนน้อยจะนำหน้ากากเหล่านั้นทิ้งที่แม่น้ำหมัน บริเวณท่าวังเวิน วัดโพนชัย เพราะเชื่อว่าเป็นการทิ้งเคราะห์ทิ้งโศกต่างๆลงกับแม่น้ำ แต่ปัจจุบันบางคนก็ไม่ได้ทิ้งหัวผีตาโขนน้อยเพื่อใช้ในปีหน้าต่อไป

 

เคยไปจังหวัดเลยแล้วนะ แต่ไปที่ภูเรือไปพักที่ภูเรือมา 2-3 ครั้งแล้วล่ะแต่ไม่เคยไปเที่ยวงานผีตาโขนเลย เคยไปพระธาตุศรีสองรักด้วยล่ะ แล้วก็ไปแวะทางขึ้นภูกระดึง(ยังไม่ได้ขึ้นภูกระดึกเลยล่ะ) แต่อยู่ที่ภูเรือจะเห็นยอดภูหลวงเหมือนกันนะมีคนชี้ให้ดูไม่รู้ใช่ป่าว ภูกระดึงด้วยแต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า

 

พี่เขียนไม่เก่งหรอก แต่โม้เก่ง... แต่ถ้าอยู่ในวงเพื่อนๆ พี่ก็จะเป็นพวกนั่งฟังเสียมากกว่าเพราะคุยไม่เก่ง


ดูขบวนแห่ผีตาโขน ถ้าแดดร้อนมากๆ สงสัยต้องมีคนเป็นลมแน่เลย...

 

ออ..ดีจังครับพี่บุษบากาญจ์ ที่เลยอากาศดีมากนะ มีทั้งประเพณี วัฒนธรรม สอดผสานทั้งภูต่างๆ ค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ ตอนงานผีตาโขนไป เที่ยวภูสวนทราย(นาแห้ว) มาแล้วหละบรรยากาศดีมาก เห็น ภูสอยดาวด้วยนะ
รูปพี่บุษถ่ายได้มุมสวยดีนะ

ผมนำภาพมาฝากพี่ๆเพื่อนๆในห้องนี้นะ






น้ำตกตาดเหือง น้ำตกกั้น ๒ แผ่นดิน (ไทย-ลาว)

 

คงมีบ้างที่แดดร้อน แต่จะอยู่ในที่ร่มได้นะ ที่ไปมายังไม่เห็นนะครับ เค้าจะเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักครับ

 

ไม่ได้ถ่ายเองหรอก หามาจากกูเกิ้ลจ้า

 

.........................................................................
ผมก็นึกว่าคุณบุษฯถ่ายเองครับ
เพราะบางภาพยังมีข้อมูลภาพ ข้อมูลการตั้งค่ากล้องอยู่ด้วย