วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์"หลวงพ่อผินะ ปิยธโร"

หลวงพ่อผินะ ปิยธโร<O</O
(วัดพระสนมลาววรวิหาร อ.หนองแค จ.สระบุรี)<O</O
พระผุ้ทรงอภิญญา พระผู้ละกิเลส มีจิตเป็นอัศจรรย์ <O</O
มีฤทธิ์อภิญญาเหลือเชื่อ วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์
<O</O
<O</O
จากการได้อ่านบทความเรื่อง หลวงพ่อผินะ ปิยธโร ของ อาจารย์ น.นาคราช ในหนังสือพุทธามหาเวท ทำให้ได้ทราบถึงปฏิปทาของพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง ที่มีอภิญญาเป็นที่น่าอัศจรรย์ วัตถุมงคลของท่าน มีรูปแบบที่แปลก ไม่เหมือนวัตถุมงคลของพระเกจิ อื่นๆ เช่นทำเป็นรูปดาว รูปดวงตา
ฯลฯ สามารถบนบอกได้ รวดเร็วทันใจ จะได้เล่าถึงความมหัศจรรย์ เกี่ยวกับวัตถุมงคลตลอดจนมวลสาร ของท่านต่อไป

 

หลวงพ่อผินะ ปิยธโร วัดพระสนมลาววรวิหาร หนองแค สระบุรี

 

หลวงพ่อผินะ ปิยธโร สมัยที่ท่านดำรงธาตุขันธ์อยู่ ท่านได้แสดง อิทธิปาฏิหาริย์ ให้ลูกศิษย์ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แก่สายตาอยู่บ่อยครั้ง เช่น ไม่ว่าผู้หนึ่งผู้ใดจะขอรับวัตถุมงคลจากหลวงพ่อ ต้องนอนภาวนาเอาวัตถุมงคลกำไว้ในมือ หลวงพ่อจะมอบคาถาให้ท่อง แล้วท่านก็จะนำทรายประมาณหนึ่งกำมือ มาโรยใส่ตาผู้นั้น ระยะห่างจากตาเพียง 7-8 นิ้วเท่านั้น</O
ทันทีที่ทรายถูกโรยใส่ตา มันน่าแปลกมหัศจรรย์ ทรายนั้นไม่ว่าจะมีปริมาณมากสักเท่าใด แม้เพียงอณูเม็ดเดียวที่โรยวิ่งตรงมายังดวงตา ของผู้ที่นอนภาวนาอยู่ ก็หาได้เข้าถึงตาไม่ กลับกระเด็นออกไปจนหมดสิ้น เหมือนมีอะไรมาปิดบังตาไว้
<O</O
แสดงว่าหลวงพ่อนั้นสามารถแสดงฤทธิ์อภิญญา แสดงความแตกฉาน ทางด้านมหาเวทวิทยาคมได้อย่างเอกอุ ซึ่งนับวันจะหายากมากในสังคมปัจจุบัน

 

ท่านอาจารย์ น.นาคราช ได้เล่าว่า ท่านมารู้จักหลวงพ่อผินะ ก็เมื่อหลวงพ่อละสังขารไปแล้ว โดยเพื่อนสนิทศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อบอกเล่าให้ฟัง และกรุณามอบวัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะ มาให้ชิ้นหนึ่ง มีรูปร่างหน้าตาแปลกกว่าวัตถุมงคลโดยทั่วไป คือมีรูปร่างกลมๆรีๆ คล้ายรูปหัวใจ ด้านหนึ่งมีรูปดาวห้าแฉก อีกด้านหนึ่งมีรูปดาวแปดแฉก แล้วเพื่อนก็บรรยายสรรพคุณต่างๆของวัตถุมงคลให้ฟัง แต่ท่านอาจารย์ น. กลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก
แต่ด้วยความเป็นผู้ที่ช่างพิสูจน์ จึงลองนำมาติดตัว แล้วทำตามที่เพื่อนบอก ก็เริ่มทึ่งในอิทธิปาฏิหาริย์ที่มีอยู่ในตัววัตถุมงคล
วัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะ สามารถบนบอกอะไรก็ได้ นับว่าน่าทึ่งมาก โดยเฉพาะในด้านเมตตามหานิยมนั้นแรงมาก ทราบในตอนหลังว่า ท่านได้ใส่วัตถุอาถรรพณ์ที่หาง่ายแต่เอายาก ลงไปด้วย จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านมีอานุภาพรุนแรงมากทางเมตตามหานิยม
วัตถุมงคลรูปดาว ที่อาจารย์ น. ใช้บูชาอยู่ ทราบจากเพื่อนว่า ไม่ใช่รุ่นแรกๆของท่าน จึงทำให้อยากได้รุ่นแรกๆของท่าน แต่ก็หายาก อีกอย่างคือมีราคาแพงมากหลายหมื่นบาท แต่ด้วยความมีกิเลสอยากได้ จึงเสาะแสวงหา ยิ่งหาก็ยิ่งยาก บรรดาลูกศิษย์ที่มีวัตถุมงคลรุ่นแรกๆ ต่างก็หวงแหน จนมานึกได้ว่า เพื่อนให้รูปหลวงพ่อผินะ มารูปหนึ่ง จึงจัดดอกไม้ธูปเทียน เอาดาวอาถรรพณ์ กำไว้ในมือ ทำการบอกกล่าวท่านว่า

 

วัตถุมงคลอีกอย่างหนึ่งของหลวงพ่อผินะ คือ

 

="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600">
วัดพระสนมลาว เดิมเป็นวัดร้าง สร้างมาประมาณ 300 กว่าปี สร้างโดยพระบรมไตรโลกนาถ สร้างไว้ให้พระสนมลาว ในปี พ.ศ. 2029 วัดนี้ขาดผู้ดูแลมานาน ถูกปล่อยเป็นวัดร้าง มาจนในปี 2528 หลวงพ่อผินะ ธุดงค์ผ่านมาและจำพรรษาอยู่ที่นี่ และเริ่มบูรณะมาโดยตลอด การหารายได้ก็จากการทำวัตถุมงคล ท่านสร้างกุฏิวิหาร ไว้ปฏิบัติศาสนกิจ พระเณรต้องศึกษาสรีระวิทยา เพื่อแก้สัญญาพิปลาส(วิปลาส) ไม่ยึดติดในตัวตน เราเขา พิจารณาให้เห็นถึงไตรลักษณ์ ว่า เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
หลวงพ่อผินะ ท่านทำวิปัสสนากรรมฐาน แบบเพ่งอสุภ พิจารณาว่า สังขารเป็นของไม่เที่ยง เพื่อให้เกิดการปลง ไม่ยึดติดในสิ่งต่างๆรอบตัว ท่านมีดวงจิตที่มหัศจรรย์มาก แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้หลายรูปแบบ ผู้ที่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ล้วนประจักษ์แก่สายตากันมาโดยตลอด
ท่านมีวัตรปฏิบัติที่แปลกๆ สอนด้วยหลักธรรมที่เข้าใจง่าย ไม่สลับซับซ้อน ทุกคนที่ท่านสอน สามารถนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันได้
วัตถุมงคลที่ท่านแจก ก็ล้วนนำมาใช้ได้ เห็นผลทั้งแคล้วคลาดจากอันตราย ค้าขาย โชคลาภ เมตตามหาเสน่ห์
หลวงพ่อมรณภาพ ในปี พ.ศ. 2545 ประวัติของท่าน ลูกศิษย์กำลังทยอยรวบรวม
เพื่อให้ได้เนื้อหาใจความอย่างละเอียด

 

อาจารย์ น. นาคราช ได้เล่าเรื่องอภินิหารในวัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะ เพิ่มเติมว่า เพื่อนของท่าน คนที่ให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะ แก่อาจารย์ น. มีอาชีพค้าขาย ในตัวเขามีปลัดขิกหัวชะมด อยู่ตัวเดียว และพกติดตัวตลอด
เขาเล่าให้ฟังว่า ทุกวันก่อนมาค้าขาย จะจุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อก่อนเสมอ คือบอกตรงหน้ารูปถ่ายแล้วก็ว่าคาถากำกับปลัดขิกหัวชะมด บอกขอหลวงพ่อและคุณปลัด ให้ช่วย แล้วก็มาเปิดร้านตามปกติ
เขาบอกว่าเขาค้าขายดีมาก พอเวลาผู้คนเงียบๆ เขาก็จะเอาปลัดขิกมากำไว้ในมือ เอานิ้วถูที่หัวปลัด พร้อมว่าคาถากำกับ สักพักก็จะมีผู้คนมาอุดหนุนเขาตลอด ทำให้ร้านของเขาขายดีเพียงร้านเดียว เขาบอกว่าปลัดขิกของหลวงพ่อผินะ ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
อีกเรื่อง เขาเล่าว่า ด้วยความเจ้าชู้ของเขา ทำให้เกิดชอบและถูกใจสาวข้างร้าน แต่ไม่กล้าจีบ กลัวเขาไม่เล่นด้วย กลัวเสียฟอร์ม จึงใช้คุณปลัด ตามที่หลวงพ่อสอนมา คือ ก่อนไปพบหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาจะว่าคาถากำกับก่อนตามเคล็ด แล้วเอาปลัดขิกพกติดตัว โดยใส่ในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปหาสาวคนนั้น พอเจอหน้าก็ให้อธิษฐานในใจอีกว่า

 

เรื่องที่เล่ามาให้ฟัง แสดงให้เห็นว่า ถ้าผู้สร้างวัตถุมงคลท่านใดเก่งจริง ทำได้ตามตำราจริง เราๆท่านๆ ก็สามารถนำมาใช้ได้จริงเหมือนกัน ต่างกับวัตถุมงคลสมัยนี้ สร้างกันออกมาเยอะใช้ไม่ได้ผล เพราะผู้สร้างไม่เก่งจริง และมาสร้างตามตำรา
อีกอย่างคือ อยู่ที่ตัวเราด้วย ส่วนหนึ่ง คือต้องเคารพศรัทธา เชื่อมั่น เวลาอธิษฐานจิตต้องนิ่ง รวมจิตให้มีกำลังก่อน แล้วจึงว่าคาถา บอกกล่าว จึงจะได้ผล เวลาใช้ติดตัว ก็ต้องใช้ทุกวัน บอกกล่าวทุกวัน ไม่ใช่ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง บุคคลประเภทนี้ 10 ชาติ ก็จะไม่ได้พบกับพุทธคุณเลย เพราะจิตไม่มั่น ไม่เคารพศรัทธา จิตสอดส่าย ไม่นิ่ง อาจารย์ น. นาคราช กล่าวในที่สุด
หมายเหตุ จะทยอยนำภาพวัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะ มาลงให้ชมกันนะครับ

 

ดวงดาวอาถรรพ์ หลวงพ่อผินะ

 

ปลัดขิกหัวชะมด หลวงพ่อผินะ

 

ดาวอาถรรพณ์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แม่เนื้อหอม

 

หลวงพ่อผินะ ท่านเป็นพระผู้ทรงอภิญญา มีฤทธิ์ทางใจเป็นอัศจรรย์ ท่านสำเร็จกสิณ 10 สามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆได้ ตามประสงค์ รู้วาระจิตของคนอื่น ปลุกเสกวัตถุมงคลขึ้นมาเหมือนมีชีวิตจิตใจ สามารถบนบอกได้ ขอได้ พูดกันรู้เรื่อง ขอให้มีของท่าน อะไรก็ได้ ใช้ได้เหมือนกัน
<O</O
แต่ทุกวันนี้นับวันจะหายาก แต่ก็ยังโชคดี ที่ยังไม่มีของปลอม ทำให้ง่ายแก่การเสาะหา
ลองหามาบูชาสักชิ้น ไม่แน่ อาจถูกโฉลกกับท่าน ช่วยท่านได้ ของพวกนี้ไม่ลองไม่รู้ ต้องทดลองให้รู้จริง ในสังคมปัจจุบัน ต้องพึ่งของพวกนี้ ให้ช่วยเราได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แต่ต้องเป็นของจริง ไม่ใช่ของอุปโหลกเสริมแต่งขึ้นมา<O</O
เวลาหาก็พยายามสอบถามผู้รู้ก่อน ศึกษาก่อน ให้รู้แล้วค่อยเสาะหา จะได้ไม่โดนหลอก ขอบอกนะครับว่า ให้รีบหาเสีย เพราะตอนนี้ยังพอหาได้ ไม่ได้เขียนเชียร์นะ แต่เห็นว่าใช้บูชาติดตัวแล้วเห็นว่าดี จึงบอกกล่าวกัน (อาจารย์ น.นาคราช ผู้กล่าว)<O</O

 

ดวงตาอาถรรพณ์ หลวงพ่อผินะ

 

<TABLE border=0 width=550 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top>นั่งขัดสมาธิถอดจิต-มรณภาพ "หลวงพ่อผินะ" สังขารไม่เน่า </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#999999 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>

หลวงพ่อผินะ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 width=550 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>ย้อนหลังกลับไป เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2545 ชาวบ้านต่างเดินทางไปที่วัดสนมลาว หมู่ที่ 2 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี
ด้วยเกิดเหตุปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์ ภายหลังการมรณภาพลงอย่างสงบของ "หลวงพ่อผินะ ปิยธโร" สิริอายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดสนมลาว ร่างหลวงพ่อผินะนั่งหมดลมหายใจในท่านั่งขัดสมาธิอย่างสงบ เหตุที่ไม่ปกติเพราะท่านมรณภาพเวลาประมาณ 05.14 น. แต่เวลาล่วงเลยกว่า 12 ชั่วโมงแล้วร่างกายเนื้อตัวท่านยังอ่อนนิ่ม ไม่คล้ายดังคนที่หมดลมหายใจแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้หลวงพ่อผินะได้ทำหนังสือเขียนสั่งไว้ มีใจความว่า "เมื่อฉันละสังขาร ขอให้ปฏิบัติตามนี้ คือ ห้ามฉีดยาศพโดยเด็ดขาด ให้เก็บศพไว้ในสภาพนั่งขัดสมาธิ ให้บรรจุศพไว้ในที่เตรียมไว้ ณ สุสานผินะ ไม่ต้องมีการสวดศพ ไม่ต้องบอกคนมาก ห้ามเผาศพโดยเด็ดขาด" สั่ง ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2545 ลงชื่อ พระผินะ ปิยธโร พระอาจารย์ใหญ่ประธานคณะปฏิบัติธรรม วัดสนมลาววิหาร
พระพิศาลมงคลวัตร เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี (ธรรมยุต) กล่าวว่า ได้ทำการบรรจุศพในวันที่ 16 ตุลาคม 2545 และทำตามที่ท่านสั่งไว้ โดยสั่งช่างทำโลงแก้ว บรรจุศพในท่านั่งขัดสมาธิ และนำไปตั้งไว้ที่สุสานผินะ ที่ท่านสั่งให้สร้างไว้แล้ว

ประวัติหลวงพ่อผินะ ปิยธโร มีนามเดิมว่า ทวาย หาญสาริกิจ เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2456 บ้านหัวลำโพง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี
วัยเด็กหลวงพ่อมีโรคประจำตัวรักษาไม่หาย หลังการร้องไห้ทุกครั้ง จะต้องมีอาการชัก จนหน้าเขียว โยมมารดาพาไปหาหมอรักษาโรค แต่อาการไม่ดีขึ้น ครั้นพอหมดหนทางจึงได้พาบุตรชายไปหาหลวงพ่อสิน เจ้าอาวาสวัดหนองเตา ต.โนนขี้เหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี
หลวงพ่อสินระบุว่า ชื่อทวาย เป็นกาลกิณี ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นผินะ มาจากคำว่าผิน แปลว่า หันหน้า, หันหลัง, เปลี่ยนทิศทาง, ไม่แยแส, หรือเลิกคบกัน นับแต่นั้นอาการดังกล่าวได้ทุเลาลง
พ.ศ.2481 บิดาได้ล้มป่วยและเสียชีวิต จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เพื่ออุทิศส่วนกุศล พออายุครบบวชจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดหนองเต่า โดยมีพระครูอุดมคุณาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอทัพทัน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาอำนวย เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ในระหว่างเป็นพระภิกษุพระผินะได้ขออนุญาตเจ้าอาวาสออกไปจำพรรษาที่วัดเกาะเทโพ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ได้ศึกษาพระธรรมจากหลวงตาคำ ให้รู้ถึงสังขารร่างกายมนุษย์และสัตว์ ล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ร่างกายเน่าเปื่อย
พ.ศ.2481 ท่านสอบได้นักธรรมตรี และออกธุดงค์ ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐาน ณ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ก่อนจะเดินธุดงค์ไปในหลายจังหวัด ในภาคเหนือ ใต้ ประเทศพม่า ลาว เขมร อินเดีย
พ.ศ.2485 พระผินะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่น วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และพระอาจารย์อีกหลายรูปที่ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์
พ.ศ.2527 หลวงพ่อผินะจาริกธุดงค์ผ่านมาถึงวัดโบราณ บ้านสนมลาวเขาโบถส์ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นวัดร้าง
แต่มีสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้จำพรรษาที่วัดแห่งนี้
ปัจจุบันกลายเป็นวัดสนมลาว และกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ
หลวงพ่อผินะเคยปรารภกับคณะศิษยานุศิษย์ว่า สถานที่แห่งนี้มีความเหมาะสมใช้เป็นที่ละสังขาร และได้มอบหมายให้จัดสร้างเตรียมไว้ล่วงหน้า เป็นอ่างน้ำด้านล่าง ที่ใส่สังขารอยู่ด้านบน อันเป็นปริศนาธรรม หมายถึงการอยู่เหนือพ้นน้ำ ดังเช่น บัวสี่เหล่าที่พระพุทธองค์ได้ทรงกล่าวเทศนาไว้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ เหนือการตาย เวียนว่ายตายเกิด
สำหรับสุสานที่เก็บสังขารหลวงพ่อผินะ คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดสร้างเจดีย์ ลักษณะคล้ายองค์พระปฐมเจดีย์ครอบไว้ สูงประมาณ 10 เมตร ด้านหน้ามีรูปหลวงพ่อผินะ ใต้ฐานเจดีย์เป็นน้ำ มีปลาแหวกว่าย
ทุกวันจะมีสาธุชนที่ศรัทธาเลื่อมใสเดินทางมากราบไหว้สังขารหลวงพ่อผินะที่บรรจุในโลงแก้วอยู่เป็นประจำ
ในโอกาสนี้วัดสนมลาววรวิหารเตรียมจัดพิธีทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงมุทิตาจิตและอุทิศส่วนกุศลแด่หลวงพ่อผินะ ในช่วงเทศกาลออกพรรษา ประจำปี 2548

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellPadding=5 width=500 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=center>

​

​

</TD><TD vAlign=center width=20></TD><TD vAlign=center> </TD></TR></TBODY></TABLE><HR SIZE=1 width=550>
<TABLE border=0 width=550 align=center><TBODY><TR><TD>ที่มา : ข่าวสด (วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๘)</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุญาติ มาช่วยลุง mount ครับ

 

ขออนุญาติ มาช่วยลุง mount ครับ แก้วตา-ดวงใจ ผมมีอยู่ 20 องค์ แท้จากวัด ได้มา ปี 44 ผ่านมาก็ 4 ปีแล้ว

 

ขอบคุณ คุณ Paravatee ที่มาช่วยกัน เผยแพร่ เรื่องราวของหลวงพ่อผินะ และ วัตถุมงคลของท่าน

ขออนุโมทนา สาธุ ครับ
หากมีภาพวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ก็ลงให้ชมกันบ้างนะครับ ขอบคุณครับ

 

ดวงใจเศรษฐี ขนาดบูชา หรือ ที่ประทับใจ<V

 

o

 

คาถาบูชาวัตถุมงคลของพ่อผินะ

" นะเตสุเต " สวดเท่าอายุ ปิดท้ายด้วย "มหาสุเตนะชา"

อธิษฐาน ตามจิตปรารถนา

<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><V<v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 403.5pt; HEIGHT: 585pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\name\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://www.amuletinter.com/shop/leela%2028/images/4997_2_Untitled4.jpg"></v:imagedata></v:shape>