ขอความรู้เกี่ยวกับ ณาน 16 ขั้น

ผมหมายถึงผมจะไปรู้ได้ไงครับ มันไม่มีใครรู้ได้ครับนอกจากตนเองครับ

ก็เป็นแบบนี้แหละ เราจะไปรู้เรื่องของคนอื่น จริงๆ ได้ไง
มีแต่กิเลสในใจมันหลอกให้คิดไปโน่น คิดไปนั่น แล้วกิเลสมันก็คิดเอง
ตัดสินเอง ให้คะแนนเอง ยังไงมันก็ให้ตัวเองชนะวันยังค่ำ

เอ่อ... มีไหมที่กิเลสมันบอกว่า มันผิดเอง เพราะคิดไปเอง
ถ้ามี...ก็บอกด้วยนะ จะรีบมาคารวะ... งามๆ 1 ที

 

ถึงว่าไงทฤษฏีกับปฏิบัติมันดูเหมือนจะคล้ายกันแต่จริงๆแล้วปฏิบัติมันมี ทริกซ์มากกว่านั้น กลับไปลองทำที่บ้านดูว่า เอาสีทั้งเจ็ดสีรวมกันทำให้ได้สีขาวจริงๆแล้ว มันยากแค่ไหน อย่าเอาตำรามาใช้มาก เดี้ยวมันจะเป็นแต่รู้ในตำรานะครับแถมเป็นตำราที่รู้มาผิดๆอีก สีถ้าเป็นเนื้อสีรวมกันได้สีดำ แต่ถ้าเป็นแสงสีรวมกันได้สีขาว ที่บอกให้ไปลองทำที่บ้านคิดว่า คุณจะหาแสงสีได้ครบเจ็ดสีเหรอครับ
นานา ต้องยอมรับความจริงของธรรมชาติให้ได้ก่อนไปฝึกให้มากถ้าเชื่อผมก็ทำอย่างที่เตือนไปนั่นแหละแต่ถ้าไม่เชื่อก็ แล้วแต่นะครับ นานา

catt3catt3catt3

 

แล้วถ้า คนที่เรา(หวังดี) ตั้งใจอยากให้เขาได้เห็นมิจฉาทิฏฐิของตัวเอง
ทำไปทำมาโดน มิจฉาทิฏฐิ ตลบหลังอีกที ก็ พยายามรู้ตัวเองให้ไวไว นะ

ปล.บอกตัวเองเฉยๆ นะจ๊ะ กลัวมันโง่ อะ

 

catt3catt3catt3

แสดง ว่า เล่นเป็น ละ...ชิมิ ชิมิ...(ดูมันบ้า ดูมันวิปลาส ขาดสติ ไม่เลิก...)

ปล. พูดกะตัวเองเฉยๆ (อีกแระ... คราวหน้า จะละ ปล. ทิ้งไว้ในฐานที่เข้าใจกันนะ)

 

ใครอยากชนะใครก็เรื่องของเขาสิครับ กิเลสมันจะมีก็มีที่ตนเองอีกนั่นแหละ มัวไปควานหาของคนอื่นอยู่แล้วเมื่อไหร่มันจะเจอ มันก็จะเจอแต่ทุกข์จริงๆอย่างว่านั่นแหละครับ อย่าพึ่งเข้าใจไปไกลจนลืมความเป็นจริงเสียละครับ ผมตอบข้อสนทนาของพี่เพราะอะไรก็ถามใจพี่ดูครับ ผมอาจมีกิเลสมากมาย หรืออาจมีน้อยก็เป็นได้ใช่ไหมครับ แต่จะน้อยหรือมากจะถูกกิเลสหลอกหรือไม่ มันก็ติดอยู่ในตัวผมเอง อยู่ที่ว่าจะหลงเชื่อหรือไม่ก้อเท่านั้นครับ ถ้าหลงเชื่อก็จับมือกันไปกับกิเลส ถ้าไม่เชื่อมันก็แสดงว่าเรามีอำนาจเหนือมัน แต่คงไม่ทั้งหมดหรอกครับ ขี้เกียจอ้างแล้วเรื่อง สิ่งที่มีในตน เพราะว่า ถ้ามีจริงผมก็คงไม่มาเล่นอยู่อย่างนี้หรอกจริงไหมครับ มีเพียงสิ่งเดียวครับที่รู้ว่าจริงคือ ใครทำกรรมอะไรไว้กรรมนั้นส่งผลกับคนที่กระทำกรรมนั้นแน่นอนครับ ที่สำคัญ คืออย่าคิดมากเลยเกี่ยวกับผม

 

ไม่ต้องกลัวหรอกครับว่ามันจะโง่ จริงๆแล้วมันโง่มาตั้งนานแล้วครับ เพียงแต่มันยอมรับไม่ได้เองเดี้ยวเอาไปเล่าให้ใครฟังไม่ได้ ถ้ายอมรับว่าตนเองโง่ แต่ที่แน่ๆ ผมเองก็โง่ ที่หลงไปกับ ลีลาความสวยงามของข้อความ ต่างๆนานา ที่ดูดีมีศิลป จนบางทีเหมือนคนเสียสติ แยกความจริงกับ ความลวงไม่ออก แยกอะไรก็ไม่ออก อย่าไปหวังเลยครับ สัมมาทิฐิมันไกลเกินไป เพราะว่าของธรรมดาพื้นๆยังแยกไม่ออก แล้ว มิจฉา กับ สัมมา ที่คนเราใช้พูดกันตรงไหนความจริงตรงไหนความเท็จก็ไม่รู้หรอกถึงได้เป็นแบบนี้ไงครับ และแล้วผมก็ต้องบอกว่า ตอนนี้รู้สึกเหมือน โง่ ยกกำลังสามเลยครับ

 

กิเลสพี่ขวัญนะ ถ้าเชื่อมันแล้วทำตามมัน มันก็สนองให้มีความสุขชั่วคราว

ถ้าไม่เชื่อมัน ไม่ทำตามมัน มันก็เป็นงี้ ถ้ารู้ทันมันได้ ก็ทนๆมันไป
เดี๋ยวมันก็ไปเรื่องอื่นเอง ถ้ามันรู้ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล มันมาก็มาท่าใหม่อีก
พอรู้ทันมัน ก็ทำเป็นแบบนี้ รอทีเผลอก่อน..

 

ก็ ปุถุชน นี่นะ ... สัมมาทิฏฐิ ในอริยมรรค ยังไม่เกิด
ท่องไว้ ท่องไว้...

 

รู้จักแต่ มิจฉาทิฏฐิ เท่านั้นแหละ จริงๆ นะ... ไม่ได้โม้

 

อีกแล้ว ครับท่านผู้ชม

 

ถ้ามันเป็นความจริงก็เป็นแต่ความจริงในตัวในจิตใจของพี่ครับ อย่ากังวลครับ ผมไม่อยากกล่าวความมากไปกว่านั้นครับ พี่ต้องพิจารณาเอาเองแล้วครับเรื่องนั้นว่า ที่พี่รู้พี่เห็นนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และเห็นแล้วได้อะไรบ้างจากการเห็นครับ

 

อุ้ย ..นานากร กลัวตำราที่เป็นกระดาษ เฉยๆ เพราะว่า เพราะว่า มันจะตกผลึก
ทำให้นานากร ยึดไว้น่ะค่ะ นานากร มีตำราเล่มใหญ่นะ
แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า มีนานากร คนเดียวเท่านั้น ที่จะอ่านตำราเล่มนี้ได้
คนอื่น ๆ เขาคิดว่าเขาอ่านออก ก็แปลกเหมือนกัีนนะ

 

รู้จักอะไรก็ได้นะครับ แต่ขอให้รู้จักสิ่งนั้นจริงๆ อย่าเอาแบบกึ่งๆ มันไม่มีอะไรหรอกครับที่กึ่งๆ มีแต่ ไวไว เท่านั้นที่กึ่งสำเร็จรูป แต่ก็มีอีกหลายอัน นั่นมันไม่ใช่ธรรมะครับ ธรรมะไม่มีกึ่งๆ มีแต่พั้วลงไปเลย ไม่ดำก็ขาว ไม่ขาวก็ดำครับ ขอให้พี่ได้มองเห็นความจริงด้วยตัวพี่เองครับ อย่ามากังวลกับเรื่องของผมหรือผู้ใดครับ ทุกคนล้วนเป็นไปตามกรรมที่ตนก่อเอาไว้ทั้งสิ้นครับ เมื่อไม่สร้างเหตุผลนั้นก็ไม่เกิดครับ เมื่อสร้างเหตุอยู่เรื่อยๆ ผลมันก็ตามมาเรื่อยๆ ก็คิดพิจารณานะครับ ว่าคำว่าความหวังดีเขาใช้กับใครใช้กับอะไร ก่อนใช้ออกไป เพราะผมเองก็คงกล่าวได้เพียงเท่านี้ครับ สำหรับพี่

 

ไปรู้ในสิ่งที่ควรรู้ให้มันจริงเสียก่อนนะครับ จะได้เอาไปสอนคนอื่นได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้นครับ สิ่งใดเคยพลาดผิดไปก็ระลึกและแก้ไขไปแล้วกันครับ หากไม่ระลึก นึกเป็นเรื่องที่เขาทำๆกันก็ได้ไม่เป็นไร ก็กรรมใครกรรมมันนี่ครับ ผมก็กล่าวกับคุณได้เท่านี้จริงๆ

 

รู้ตัวเอง ก็ได้รู้จักตัวเองไง
พอรู้ตัวเอง มันก็ไม่มีเวลาไปรู้คนอื่น
แต่พอเผลอสติ มันก็ทิ้งบ้าน วิ่งไปรู้คนอื่นอีกละ

ที่รู้จริง ก็มีแต่เรื่องรู้ตัวเองนี่แหละ
ที่ไปรู้เรื่องคนอื่นนี่ กิเลสมันจัดให้ แล้วดันทิ้งบ้านตามมันไปอีก
เห็นอะไรแล้วมีสติรู้สึกตัวได้ ก็ได้เกิดปัญญา จิ๊บๆ ถึงแม้จะยังปหานมันไม่ลง
แต่ก็ได้ ประสบการณ์ เรียกว่า ลงภาคสนามซ้อมนวมกับกิเลสในใจตน

ที่เห็นก็มีแต่ประโยชน์ของพี่ขวัญ ประโยชน์คนอื่นไม่เห็นนะ ไม่มีจักษุฯ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width=100 border=0><TBODY><TR vAlign=center align=middle><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สหายธรรมทั้งหลายเอ๋ย....พึงกำหนดใจพิจารณาดูสักหน่อยหนึ่งว่าแต่ะละคนต่างกรรม ต่างที่มา ต่างกำลังใจ จะแก้ไขใด ๆ นั้นไม่ได้ต้องเป็นตัวเขาคนนั้นแก้ไขกันเอง จะสัมมาทิฐิก็ดี มิจฉาทิฐิก็ดี พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อักขาตาโร ตถาคตา (ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก) หากแม้นเราไม่ทำไม่ปฏิบัติตามก็ไม่เป็นผล เอาเป็นว่าทุกท่าน แนะนำแล้วก็แล้วกัน อย่าต่อกรรม ต่อวาทะกันเลยนะ ใจมันจะไม่สงบเย็น จะให้เขาคิดเช่นเรานั้นมันยาก เป็นเราที่ต้องพยายามเข้าใจเขาต่างหาก "พระราชดำรัสในหลวงตอนหนึ่งมีอยุ่ว่า" "ไม่ใช่หน้าที่เขาจะต้องมาเข้าใจเรา แต่เป็นเราต่างหากที่ต้องพูดให้เขาเข้าใจ" สุดท้ายแล้วเขาจะเข้าใจหรือไม่ก็ต้องหยุดอยุ่ที่อุเบกขา เพราะกรรมใครกรรมมัน

หวังว่าสหายธรรมผุ้มุ่งหวังความเจริญทางใจทั้งหลายคงเข้าใจ (จริงๆแล้วผมก็ไม่อยากแจมเล้ย..พับผ่าสิมันเสี่ยงต่อการโดนตอก) ขอจงเจริญในธรรม

 

นั้นซิ พี่เค้ง นานากร ว่างั้นนะ หมายถึงให้เรารู้จริง ๆ ก่อนใช่ไหม แล้วค่อยไปสอน
หรือไปรับรองคนอื่น ๆ คำว่ากรรมใคร กรรมมัน นั้นคือคำพูดของคนที่หมดหนทางแล้ว เพราะเขาจะรอแค่รับผลกรรม หรือปลง แต่หากวิปัสนาลึก ๆ ไปอีกเราจะพลิกกรรมของเราอย่างไร เรา จะนำกรรมของเรามาสอนเราอย่างไร
นี่ล่ะ ที่นานากร ต้องไปเรื่อย ๆ แบบเรียงหรือไม่เรียงก็ได้ เฮียเค้ง

 

นี่คนนี้อ่านคนอื่นได้ แต่อ่านในกระทู้นะ หุ หุ หุ

อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่ายึดมั่นในสิ่งที่คิด...

เพราะคิดถึงทุกข์ แล้วคิดมันทำไม....เนาะ

 

คำว่ากรรมใคร กรรมมัน นั้นคือคำพูดของคนที่หมดหนทางแล้ว

คำนี้ พูดได้ดีมาก