ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

อาการที่คุณเป็นเกิดจากตะกอนเลือดลม ก้อนเล็กๆจิ๋วๆ ไปขวางกั้นการไหลของเลือดลมในสมองและโดยเฉพาะก้านสมอง
ในสายที่ผมเรียนมา เรียกโรคนี้ว่า "โรคปัสะตึก"
เป็นอาการของลมอัมพฤกษ์อัมพาตอ่อนๆ

การแก้
แก้โดยเดินลมปราณประกอบการเคลื่อนไหว (สุวิเรียกวิชานี้ว่า ฤๅษีลีลา)
ซี่งแท้จริงมันก็คืออาณาปราณสติประกอบการเคลื่อนไหวนั่นเอง (การเดินจงกรม-ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิชานี้)

ส่วนยาที่ใช้รักษาก็คือ
"ยาวัชรธาตุ"
สรรพคุณ
แก้อาการแขนขาอ่อนแรง มึนงง ง่วงซึม
หายใจไม่เต็มอิ่ม โรคไม่หายใจเวลาหลับ
อัมพฤกษ์อัมพาต

 

ด่วนจ้า

ยา ๒๐๐๙ (ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 3) เสร็จแล้วจ้า

ติดค้างใครไว้ มาทวงยาได้เลยจ้า

 

มาเข้าแถวเป็นคนแรกเลยเจ้าค่ะ
หนูคันคอยิบๆ ไอเป็นระยะมาหลายวันแล้ว
อาจารย์ อย่าลืมแจ้งเรื่องน้ำกระสายยาด้วยนะคะ

 

เรียนท่านที่เคารพเจ้าคะ มีผู้ใดทดสอบตัวยา ปทุมาคืนชีพ แล้วหรือยังเอ่ย
อาจารย์จะผลิตได้เมื่อใดคะ คุณตาออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านแล้วค่ะ
แต่ทานอาหารเองยังไม่ได้เลย นอนได้อาหารทางสายน้ำเกลือ
อยากลองยาจริงค่ะท่านอาจารย์ ขอบพระคุณที่ตรวจสอบให้นะคะ

จองยาแก้แพ้เบอร์ 3 3ซองค่ะอาจารย์

 

เป็นเข่าเสื่อมมียารักษาให้หายขาดไหมค่ะ ปวดและทรมานกับโรคนี้มากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณสุวิ

ดิฉันอายุ 34 ปี ปัจจุบันเป็นเข่าเสื่อม ซึ่งหมอปัจจุบันวินิจฉัยแล้วว่าเป็นเข่าเสื่อม และไม่มียารักษาโรคนี้ให้หายขาด ไม่ทราบว่าคุณสุวิพอจะทราบว่ามีสมุนไพรไทยที่จะช่วยรักษาเข่าเสื่อมให้หายขาดได้ไหมค่ะ

ณัฐชา

 

เป็นเข่าเสื่อมมียารักษาให้หายขาดไหมค่ะ ปวดและทรมานกับโรคนี้มากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณสุวิ

ดิฉันอายุ 34 ปี คุณหมอปัจจุบันวินิจฉัยว่าเป็นเข่าเสื่อม โดยส่วนตัวยังไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเป็นเข่าเสื่อมด้วยอายุเพียง 34 ปี แต่เมื่อคุณหมอวินิจฉัยไปแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้ลองรักษาทางแผนปัจจุบันก็ยังไม่หายคุณหมอบอกว่าไม่มียาใดรักษาโรคนี้ให้หายขาด ดิฉันจึงลองรักษาแบบสมุนไพรด้วยการขูดหลังด้วยหยกเป็นการล้างพิษ กับรักษาสมุนไพรจีนดูค่ะในตอนนี้เพิ่งทำมาได้เพียงแค่อาทิตย์กว่า แต่ไม่แน่ใจว่าจะหายหรือไม่ จึงอยากสอบถามว่า

1. ด้วยอายุเพียงเท่านี้มีโอกาสเป็นเข่าเสื่อมได้จริงหรือไม่ค่ะ
2. มียาสมุนไพรรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้หรือไม่ค่ะ
3. พอจะแนะนำคุณหมอสมุนไพรที่มีความเชี่ยวชาญหัวเข่าได้ไหมค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ณัฐชา

 

จริงๆ ดิฉันไม่ค่อยมั่นใจเลยนะเจ้าคะคุณตัวกลม ในการจับยาตัวนี้
เพราะจริงๆ แล้วข้าเจ้าก็ไม่ได้เก่งฉกาจ มาสแมนอะไรนักหนา
แต่เพราะมีคุณตารออยู่นะเจ้าคะ

ขอบอกก่อนว่า การจับยา เราเอาจิตเราเป็นที่ตั้ง นั่นหมายถึงเอายาตัวนี้ มาใช้รักษาตัวเรา โดยใช้จิตพิจารณา มันก็เหมือนเอามารักษาแค่ตัวเราคนเดียว
โดยใช้จิตเราคนเดียวเป็นหนูทดลองยา ว่าอย่างนั้น

และคำตอบออกมา คือ ยาตัวนี้เป็นยาดีค่ะ แต่สำหรับดิฉันในเรื่องการรักษาไม่ได้ผลนะคะ

ทีนี้เปลี่ยนใหม่ ใช้ยาตัวนี้ตัวเดิม แต่แทนที่จะใช้แต่ยา จะใส่บทสวดนโมฯ ลงไปด้วย ดูสิจะเป็นยังไง

คำตอบด้วยจิตคือดีมากเลยค่ะ

ดังนั้นมันเป็นยาดีอยู่แล้ว แต่ก่อนกินให้ถือซองยาแล้วให้คุณตาสวดมนต์ก่อนกิน 1 จบ นะคะ แล้วจึงเอายาเข้าปากน่าจะดีค่ะ

แต่ขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าเป็นความคิดเฉพาะกิจ ในจิตของดิฉันผู้เดียวในการจับยา

ต้องถามคุณดาวทะเลทราย และคุณสุวิด้วยค่ะว่ายังไง?

 

ขอบคุณมากเลยค่ะคุณอธิษฐาน เร็วทันใจจริงๆ
ตอนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะพูด คงเหนื่อย ได้ยินท่านพูด 2ครั้ง
้ลูกๆหลานๆ รวมทั้งตัวกลมไปทำบุญ ให้อยู่ค่ะ ถือว่าดีขึ้นมาก
จากที่สิ้นหวัง กำลังเตรียมหารูป (จัดงานศพ) ก็ไปนอนรู้สึกตัวที่บ้านแล้วค่ะ
ตอนกลับจากโรงพยาบาล เพื่อนบ้านรุ่นอาวุโส พากันมาบ้าน
สวดมนต์ต่อชะตาให้ด้วย มีน้ำใจมากเลย

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านการใช้งาน ย่อมมีการเสื่มสภาพเป็นธรรมดาช้าบ้างเร็วบ้าง<O</O
ถ้าเป็นสิ่งของ ก็เข้าโรงซ่อมเปลี่ยนอาไหล่ใหม่ ให้กลับคืนสภาพใช้ได้ดังเดิม<O</O
แนวคิดนี้ นอกจากเป็นแนวความคิดของพวกวิศวกรแล้ว ยังลามไปทุกสาขาอาชีพ<O</O
ไม่เว้นแม้แต่ หมอ
ถ้าชิ้นส่วนในร่างกายทำงานไม่ปกติ ถือว่าเสื่อมสภาพ ถ้าจะให้คืนดีใช้ได้ดังเดิมควรต้องเปลี่ยนอาไหล่ใหม่
<O</O

แนวคิดนี้ ทำให้มีข้อเสนอให้ผ่าตัดเปลี่ยนอาไหล่ใหม่
แล้วไอ้เจ้าอาไหล่ที่ว่าก็ไม่ใช่ผลิตภันฑ์ที่แท้จริงมันเป็นของเทียมทั้งสิ้น
ผู้ที่เข้ารับการเปลี่นอาไหล่ใหม่ ร้อยละ ร้อย ล้วยมีชีวิตที่ผิดไปจากเดิมมากบ้างน้อนบ้าง<O</O
โดยเฉลี่ย ที่ได้ใกล้เคียงเดิมมีไม่มาก ประมาณ ๑๐-๒๐%
และอีก ๒๐-๓๐%ล้วนผิดปกติ<O</O
และห้าสิบห้าสิบ ล้วนแลวลง
<O</O

เมื่อสุวิเรียนหมอทางเลือกจนจบแล้ว จึงรู้ว่า
ไอ้ที่เรียนมานะ ไม่ใช่หมอทางเลือก แต่มันเป็นหมอไม่มีทางเลือกซะมากกว่า<O</O
<O</O

ปกติร่างกายมนุษย์ ถูกออกแบบไว้สุดยอด สามารถซ่อมตัวเองได้
เพียงมีข้อแม้ขบวนการซ่อมจะสมบูรณืได้ต้องอยู่ภายใต้ภาวะสมดุลย์<O</O
<O</O

ถ้าดุลย์ภาพสูง การซ่อมตัวเองจะกลับคืนดีดังเดิม ไม่ผิดเพียน<O</O
ถ้าดุลย์ภาพรองลงมา การซ่อมตนเองก็ด้อยลงตามส่วน<O</O
<O</O

หมอแบบสุวิ จะรักษาโดยจัดดุลยภาพของร่างกายให้เข้าที่<O</O
แล้วร่างกายคนไข้ก็จะรักษาตัวเองให้เข้าที่<O</O
<O</O

การจัดดุลยภาพมีสองอย่าง<O</O
<O</O

๑. ดุลยภาพทางกาย แบงได้สองอย่าง<O</O
๑.๑ ทางโครงสร้างของร่างกาย เช่นความสมดุลย์ของร่างกายซีกซ้ายและขวา<O</O
๑.๒ ทางธาตุประกอบของร่างกาย คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ<O</O
<O</O

๒. ความสมดุลย์ทางจิต วิญญาน<O</O
<O</O

ในกรณีของท่านผู้ที่ถามมานี้ อยู่ในข้อที่ ๑.๑<O</O
การรักษา ของสุวิทำเพียง<O</O
ปรับสภาพร่างกายให้สมดุลย์ อาการต่างๆก็หายแล้ว
หยูกยา สมุนไพร แทบไม่ต้องใช้เลย<O</O
แต่หากมีอาการปวดเข่าปวดข้อทนไม่ได้ก็อาจต้มสมุนไพรกินบ้างเพื่อบันเทาอาการปวด<O</O
แต่สมุนไพรไม่อาจจัด ดุลยภาพในโครงร่างกายมนุษย์ได้
แต่สมุนไพรจะจัดดุลยภาพในเรื่องธาตุ ดิน น้ำ ลม และไฟที่ประกอบเป็นกาย
</O
สมุนไพรที่ใช้กินแก้อาการปวดข้อ ปวดเข่าได้ดี<O</O
๑.ใบชาจีนอย่างดี(อู่หลง) ๑ หยิบมือ<O</O
๒.หญ้าหนวดแมว ๑ หยิบมือ<O</O
๓. มะละกอดิบ ๑/๒ - ๑ ลูก
<O</O

วิธีทำกิน (ยาน้ำต้มมะละกอ)<O</O
ใบชาและหญ้านวดแมว ลวกน้ำร้อน แล้วพักไว้<O</O
มะละกอดิบทั้งเปลือก ล้างน้ำ ผ่า เขี่ยเมล็ดออก(ใส้ที่เป็นไยขาวยังคงเอาไว้)
หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่น้ำต้มให้สุก ช้อนเอาเนื้อมะละกอออกทิ้งไป<O</O
เอานำมะละกอเดือดๆ ชง ชาจีน+หญ้าหนวดแมว กินเฉพาะน้ำตอนอุ่นๆ
กินวันละ ๒-๔ ครั้ง ๆ ละ ๑ ถ้วย(ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ ซีซี)<O</O
<O</O

เพียงเทานี้อาการปวดข้อ ปวดเข่าก็จะบันเทา ดีขึ้น บางท่านอาจหายเลย<O</O
แต่ไม่หายขาดนะบอกซะก่อน เป็นเพราะต้นเหตุยังไม่ได้ถูกบำบัด

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตัวกลมๆ
เรียนท่านที่เคารพเจ้าคะ มีผู้ใดทดสอบตัวยา ปทุมาคืนชีพ แล้วหรือยังเอ่ย
อาจารย์จะผลิตได้เมื่อใดคะ คุณตาออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านแล้วค่ะ
แต่ทานอาหารเองยังไม่ได้เลย นอนได้อาหารทางสายน้ำเกลือ
อยากลองยาจริงค่ะท่านอาจารย์ ขอบพระคุณที่ตรวจสอบให้นะคะ

จองยาแก้แพ้เบอร์ 3 3ซองค่ะอาจารย์


</TD></TR></TBODY></TABLE>

โธ่เอ๋ย ๆๆๆๆ..
เคยบอกว่า ณ จุดศูนย์กลาง เรากำหนดตัวคนไข้เข้ามานั่ง อาจเป็นตัวเราเองก็ได้

ทำไมไม่เอาตัวคนที่ต้องการตรวจเช็คเข้ามานั่ง(ตัวคนไข้)
ดันเอาแต่ตัวเองเข้ามา แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่ายานั้นใช้กับคนไข้ได้หรือเปล่า

อย่าบอกนะว่าไม่รู้จักคนไข้ผู้นี้
ก็เขาเป็นคุณตาของคุณตัวกลม
เพียงกำหนดคุณตัวกลมขึ้นมา แล้วกำหนดสาวถอยเข้าไปว่า คุณตาที่คุณตัวกลมๆกล่าวถึง
เท่านี้ก็ถึตัวคนไข้แล้ว
เท่านี้เราก็ตรวจเช็คได้แล้วว่า ยาใช้กับเขาได้หรือไม่

เฮ้อ...ใจอ่อนหวะ แอ รึอ่อนใจ

 

เรื่องของยาปทุมาคืนชีพ ชื่อมันค่อนข้างหวือหวาไปหน่อย

ขอเรียกง่ายๆว่า ยาดอกบัว ดีกว่า

ว่าจะตั้งชื่อสั้นๆว่า ปทุมทิพย์ อ.ตาที่สาม อี กลับนึกไปถึงยกทรง และทรวงอก
เรื่องเป็นไงมาไงจะเล่าให้ฟังมันยุ่งอุดตะรุด

วันนั้น ได้เอาพลังยาตัวนี้ไปทดสอบกับ อ.ตาที่สาม ได้ความดังนี้

อ. เฮ้ย เข้าท่าวะ ยามันบำรุงซะอ้วนปี๋ ยาไม่ค่อยดี มันบำรุงมากไป ดูซิอ้วนเร็วเกินมันจุกอกตาย อกก็โต(อ.ใช้คำอื่นนะ)

สุวิ. จารย์ ยานะเขาเอาไว้รักษาคนที่ผอมแห้งแรงน้อยจะตายแหล่มิตายแหล่ มันต้องบำรุงหน่อย ให้ฟื้นตัว อ.คนที่พะงาบๆนะได้ยานี้จะฟื้นไห๊ม

อ. (เปลี่ยนคนไข้ใหม่ที่กำลังพะงาบๆลงแทน) เอ..เข้าท่า มันฟื้นตัวนะ โฮ้มันบำรุงอึ๋มไปทั้งตัว อกโตขึ้นด้วย(สงสัย อ.เอาผู้หญิงเป็นตัวคนไข้แน่เลย)
อ. โห้..ไอ้ที่ตายก็กลับฟื้น

สุวิ อะไรตาย จารย์ (ตอนนั้นนึกไปถึงตัวกลมๆ ที่เคยพูดถึงน้องที่ผอมแห้งแบบลูกเกตุติดผนัง กำลังคิดว่า เอ..ยานี้อาจช่วยเธอได้)

พอได้ยิน อ.พูดว่าไอ้ที่ตายก็กลับฟื้น ใจกลับพลิกกลับ คิดไปถึงเรื่อง นกเขาที่คนเลี้ยงใส่ใจประคบประหงมเท่าไหร่ๆ มันก็ไม่ยอมฟื้นคืนชีพ
สุวิ จริงเป่า จารย์ ไอ้ที่ตายก็กลับฟื้น
อ. ฟื้นซิ มันยังไม่ตายนี่

สุวิ ฮ้า...อย่างนี้มันต้องแต่งยาช่วย ยาตามเพิ่มเติม อีกหน่อย ไอ้ที่ตายก็จะฟื้น
คนที่รู้จักอีกหลายคนคงโดดตัวลอย จู้ฮู้กรู

ตกลงคืนนั้น ได้ลองนั่งผสมยาให้นกเขา(ไม่ใช่นกเรา)ลองกินดู
โห้.. ทั้งนกเขานกเรามันร้องแข่งกันทั้งคืน ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกัน
ฮิฮิ..

 

ขอสอบถามเรื่องหัวเข่าเสื่อมต่อค่ะ

ถ้าเป็นเช่นนั้นการจัดแบบโครงสร้าง 1.1 ทำอย่างไรค่ะ ใช่การจัดกระดูกหรือเปล่าค่ะ และถ้าต้องการจะให้คุณสุวิรักษาจะสามารถติดต่อได้ที่ไหนค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

ขอสอบถามเรื่องหัวเข่าเสื่อมต่อค่ะ

ถ้าเป็นเช่นนั้นการจัดแบบโครงสร้าง 1.1 ทำอย่างไรค่ะ ใช่การจัดกระดูกหรือเปล่าค่ะ และถ้าต้องการหายขาดโดยบำบัดที่ต้นเหตุจะต้องทำอย่างไรและใช้ระยะเวลานานแค่ไหนค่ะ และถ้าต้องการจะให้คุณสุวิรักษาจะสามารถติดต่อได้ที่ไหนค่ะ

ขอบคุณค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

 

ที่หน้า ๒๕ และหน้า ๕๐ มีวิธีติดต่อสุวิอยู่

 

ขอบพระคุณค่ะอาจารย์สุวิ คุณอธิษฐานเจออาจารย์ติวเข้มเสียแล้ว ขอบคุณในความพยายามนะคะ
55555555สำเร็จๆๆๆๆ ยาใหม่เพิ่มอึ๋ม เมื่อไหร่จาได้ยาจริงล่ะคะเนียะ ท่านผู้ชายก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หุๆ

 

ลืมนึกถึงวิธีนี้ไปเจ้าค่ะ

ครู (คุณสุวิ) สอนดี แต่ศิษย์มันบ่อได้เรื่อง คิดอะไรแคบๆ ขออภัยเจ้าค่ะ

คุณตัวกลมได้คำตอบแล้วเนอะ ขอโทษด้วยจริงๆ ขอโอกาสแก้ตัวใหม่ภายหน้าคงไม่ว่ากันนะจ๊ะ

 

ถ้าเราแบ่งระดับความเจ็บป่วยของหวัด ๒๐๐๙ ออกเป็นห้าระดับ (สุวิลองแบ่งระดับเอง เพื่อง่ายในการพูดคุย)
ระดับ ๑ เริ่มปวดหัวตัวร้อน มีน้ำมูก
ระดับ ๒ เริ่มครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ปวดเนื้อตัว เริ่มเข้า ร.พ.(แต่ยังไม่เช็คอินเข้านอน)
ระดับ ๓. เริ่มหายใจขัด ไข้ไม่ลด (เข้านอน ร.พ.)
ระดับ ๔. เริ่มหายใจเองไม่ได้ ปอดติดเชื้อ
ระดับ ๕. ทุกระบบรวน เข้า ICU

ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด ขยี้ ทุบ วางหัวนอน ป้องกันการติดเชื้อได้เริ่มต้นได้
น้ำส้มสายชู อสร. แก้ระดับ ๑ และระดับ ๒เริ่มต้น ได้
ยาต้ม ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด แก้ระดับ ๑ ๒ ๓ ได้
ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 2 (รุ่นใหม่) ของสุวิ แก้ระดับ ๑ ๒ ๓ และ๔เริ่มต้นได้ (รุ่นเก่าแก้ได้ระดับ ๑ เอง)
ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ ๓ (ยา ๒๐๐๙) ของหมดสุวิ แก้ระดับ ๑ ๒ ๓ ๔ และ ๕เริ่มต้นได้
ถ้าระดับ ๕ เต็มตัว ต้องใช้ ยาแก้โลหิตเป็นพิษ เป็นกระสายยาของยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 3 (ยา ๒๐๐๙) ละลายเป็นน้ำจับค่อยๆกรอกเข้าปาก

ยาแก้โลหิตเป็นพิษ
๑. หญ้าหนวดแมว ๓ บาท
๒. ทองพันชั้ง ๓ บาท
๓. ขิงแก่ หนัก ๑ บาท
๔. ตะไคร้ หนัก ๑๐ บาท

ใส่น้ำต้ม ใส่น้ำ ๓ ส่วน ต้มเหลือ ๑ ส่วน
กินครั้งละ ๑ ถ้วยกาแฟ(๑๕๐-๒๐๐ cc) พร้อมยา ๒๐๐๙ จำนวน ๗ เม็ด วันละ ๔ มื้อ

 

ขอปรึกษาปวดหัวเข่าซ้ายค่ะ

สวัสดีค่ะคุณสุวิ

อยากจะขออนุญาติเล่าการปวดเข่าตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ อาการเริ่มต้นในตอนแรกเกิดจากการเจ็บเส้นที่ด้านหลังน่องเวลานั่งยอง ๆ มันเหมือนเจ็บ ๆ ขัด ๆ ที่เส้นเวลานั่งยอง ๆ แต่พอขยับนิดหน่อยก็หาย บวกกับอาการเย็นข้างในหัวเข่าและรู้สึกเมื่อยๆ อ่อนล้าเวลาเจออากาศเย็นหรือฝนตก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาประมาณ 2 ปี แต่มาเป็นหนักก็คือต้นปีนี้เดือนมีนา ซึ่งเป็นหนักมากเวลาที่เดินนาน ๆ จะรู้สึกปวดเข่า จึงไปหาหมอแผนปัจจุบันที่มาเลเซีย (ทำงานอยู่ที่นี่ค่ะ) คุณหมอทำการเอ็กซเรย์ตรวจแล้วไม่พบอะไร จากนั้นกลับมาเมืองไทยไปทำการเขี่ยเส้น หลังจากเขี่ยได้ 2 ครั้งอาการแย่กว่าเดิมคือ ทิ้งน้ำหนักไปทางซ้ายไม่ได้ ขึ้นลงบันไดไม่ได้ และพับเข่าไม่ได้เลย จากนั้นไปหาหมอที่ศิริราชเพื่อตรวจเข่าอีกครั้ง คุณหมอบอกเป็นเข่าเสื่อมแนะนำให้ทานกลูโคซามีน+กายภาพบำบัด เพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น แล้วบอกว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาดให้ทำใจ หลังจากนั้นมาดิฉันก็ลองปรับเปลี่ยนวิธีการกิน การใช้ชีวิตประจำวันใหม่ รู้สึกว่าหัวเข่าเริ่มดีขึ้น คือสามารถขึ้นลงบันไดได้แล้ว แต่อาการปัจจุบันที่ยังคงเหลืออยู่คือพับเข่าไม่ได้ รู้สึกหนัก ๆ หน่วง ๆ เวลาเดินจะมีเสียงกระดูกดังแกร็ก ๆ และถ้านั่งนาน ๆ เวลาลุกขึ้นแล้วเดิน จะรู้สึกปวดที่บริเวณตะตุ่มและหนักที่ฝ่าเท้า มีอาการปวดที่หน้าหัวเข่า (ไม่แน่ใจว่าปวดที่ลูกสะบ้าหรือไม่ซึ่งอันนี้จะปวดมาก) เวลาเดินยังมีอาการเหมือนเข่าหลวมอยู่ อาการที่เหล่ามายังคงอยู่ยังไม่หายค่ะ จึงอยากเรียนถามคุณสุวิว่า

1.ดิฉันเป็นเกี่ยวกับอะไรค่ะถ้าไม่ใช่เข่าเสื่อม
2.ดิฉันพอจะมีทางรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ไหมค่ะ
3.อยากให้คุณสุวิช่วยแนะนำการออกกำลังกายเพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกาย เนื่องจากตอนนี้ยังทำงานอยู่มาเล ก็ต้องทนทุกข์กับโรคนี้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กว่าจะกลับเมืองไทยก็ต้องรอพักร้อน
4.อยากขอให้คุณสุวิช่วยอธิบายเกี่ยวกับการรักษาแบบโครงสร้างของร่างกาย เช่นความสมดุลย์ของร่างกายซีกซ้ายและขวา ดิฉันยังไม่เข้าใจค่ะ

ปัจจุบันนี้กินยาจีนซึ่งคุณแม่แนะนำแล้วก็ไปขูดหลังเมื่อครั้งที่กลับไทยค่ะแต่ทำได้แค่ครั้งเดียวค่ะ จึงยังไม่เห็นผลชัดเจน

อยากจะขอความกรุณาจากคุณสุวิช่วยตอบคำถามที่ดิฉันตั้งไว้เป็นข้อ ๆ ได้ไหมค่ะ

ขออนุโมทนาบุญในกุศลผลบุญครั้งนี้ด้วยนะค่ะ ขอให้คุณสุวิประสบแต่ความสำเร็จมีสุขภาพกายและใจแข็งแรงค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

ตอบ ข้อ ๑.
ถ้าคุณนึกย้อนหลังได้นานๆ ลองนึกดู ก่อนเกิดอาการเมื่อ ๒ ปีก่อน
คุณจะรู้สึกปวดขัดที่สะโพก และกระเบนเหน็บก่อน แต่อาการปวดนั้นพอทน ขยับตัวเปลึ่ยนอริยาบถก็ค่อยยังชั่ว (ตอนนี้กระดูกข้อสะโพกเริ่มเคลื่อน)
หลังจากนั้นอาการเริ่มพัฒนาขึ้น เริ่มปวดน่อง ข้อพับเข่าด้านข้าง (ตอนนี้ขาท่อนล่างเริ่มเคลื่อน)
อาการเจ็บขัดที่สะโพก จะลดลงดูเหมือนหาย
เมื่อขาท่อนล่างเคลื่อน กระดูกเข่าก็จะเริ่มบิดตัว เมื่อการบิดตัวเกินจุดหนึ่ง อาการปวดเข่าก็จะเริ่มมากขึ้น

สรุปอาการที่คุณเป็นคือ
อริยาบถในการทำงาน การนั่งในท่าเดียวนานๆ เช่นนั่งตะแคงพิมพ์ คอมฯ นานๆ นั่งตะแคงตัวขับรถทางไกล
ล้วนเป็นอริยาบถที่ทำให้กระดูกข้อสะโพกเคลื่อนทั้งสิ้น(เคลื่อนเพียงเล็กน้อย)
จะทำให้เกิดอาการปวดขัดที่กระเบนเหน็บและสลักเพชรสะโพก(แล้วแต่ลักษณะกานตะแคงตัว)
และอาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆพัฒนาตัวเองไป ปวดน่อง และข้อเข่าตามลำดับ
นี่คือสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นโรคนี้

ตอบ ๒.
การรักษาโรคนี้ให้หายขาดทำได้หรือไม่
ยากที่จะรับรองได้ว่าซ่องคืนดีได้ ๑๐๐% หรือไม่
แต่อาการนี้ ถ้าได้รับความร่วมมือจากคนไข้ดีพอ และหมอเก่งพอ อาการจะกลับคืนดีได้ถึง ๙๐%
การรักษา ต้องแก้ที่เหตุ
๑. อริยาบถ เวลานั่งทำงานนานๆ ต้องจัดให้สมดุลย์
๒. จัดกระดูกข้อสะโพกให้เข้าที่ แล้วจัดกระดูกข้อเข่า และนวดจัดกล้ามเนื้อเส้นเอ็น (ทำพร้อมกัน)
ถ้าได้หมอที่เก่ง อาการจะดีขึ้นทันที กว่า ๗๐% (นวดครั้งเดียว)
๓. จัดท่าบริหารให้เหมาะกับโรค จะช่วยดอาการและทำให้โรคหายเร็วขึ้น
ท่าบริหารมีสองท่า
ท่าหนึ่งเหมาะกับกระดูกเข่าเคลื่อนแบบเอียงออก
อีกท่าหนึ่งเหมาะกับอาการโรค เข่าเอียงเข้า
ต้องตรวจเช็คว่าข้อเข่าที่เคลื่อนเป็นแบบใด
เพราะการใช้ท่าบริหารผิด จะทำให้อาการโรค ทวีเป็นมากขึ้น

ตอบ ๓
ท่าที่ใช้บริหาร ติดไว้ก่อนเดี๋ยวหาให้

ตอบ๔.
ให้ยืนส่องกระจกดูตัวเอง ลากเส้นแบ่งครึ่งร่างกายในแนวดิ่ง
ตั้งแต่กลางหน้าผาก ผ่านปล่ายจมูก กึ่งกลางคาง คอหอย กลางอก สะดือ หัวเหน่า ฯลฯ
เส้นตรงที่ลากผ่านจุดดังกล่าวเอียงไปมาหรือไม่(ถ้าร่างไม่สมดุลยืจะเห็นชัด)
แล้วพยายามจัดท่าทางให้ตรงที่สุด
และใช้ท่าโยคะต่างจัดร่างกายซีกซ้าย ขวาให้สมดุย์

 

ง่ะ ขอโทษทำไมล่ะคะ มีน้ำใจขนาดนี้ ตัวกลมต้องขอบคุณต่างหาก
อาจารย์สุวิก็ให้ความรู้ทุกคน แต่ตัวกลมยังไม่สามารถ เลยเน้นคุณอธิษฐานโดย
ตรง ดีออกนะคะมีผู้สอนและเตือนขนาดนี้ คราวหน้าขออย่ามีเคสหนักเลย เพี้ยงๆ

เอ่อ ตัวกลมว่าตัวเองสมดุลย์เลยค่ะ แบบว่าพุงมันป่องพอๆกะสะโพกเลย หน้าหลังเท่ากัน เฮ้อ