วิเคราะห์เรื่องภัยพิบัติในปี ค.ศ.2012 จะเกิดอะไรในวันนั้น (โดยพี่เกษม)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Angel_Internet, 31 กรกฎาคม 2009.

  1. Angel_Internet

    Angel_Internet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +56
    จิ๊กข้อมูลมาจาก พี่เกษม อีกแล้วค่ะ ^_^

    วิเคราะห์เรื่องภัยพิบัติในปี ค.ศ.2012

    [​IMG]

    เรื่องวันพิพากษาโลก ที่ได้ถูกเลื่อนจากปี ค.ศ.2012 ไปเป็นปี ค.ศ.2017 นั้น ไม่ได้หมายความว่าปี ค.ศ.2012 จะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเลยนะครับ ผมคิดว่ามันยังจะต้องมีเรื่องร้ายแรงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพียงแต่ยังไม่ใช่ปีที่สิ้นสุดของการชำระโลกเท่านั้นเองครับ

    ในพุทธทำนายจากศิลาจารึกก็ได้บอกเอาไว้ว่า:-

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน

    ปี ค.ศ.2012 ตรงกับปีพุทธศักราช 2555 ถ้าเราลดจำนวนปีลง 48 ปีให้ตรงกับความเป็นจริงในพุทธทำนาย ก็จะตรงกับปี พ.ศ.2507 (ปีมะโรง) ซึ่งมีคำทำนายเอาไว้ว่า "คนจะเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน" ซึ่งแปลความหมายออกมาได้เป็นหลายอย่าง

    เช่นในปี ค.ศ.2012 ขั้วแม่เหล็กโลกอาจจะเกิดการพลิกกลับขั้วอย่างรุนแรง ทำให้พลังงานไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกสบายทุกอย่างบนโลกนี้ใช้การไม่ได้ เครื่องจักรกลทุกอย่างหยุดทำงาน เพราะความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ผู้คนบนโลกนี้จะเกิดความโกลาหล ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก ฯลฯ

    คำพยากรณ์โลกของ อ.เลือง มินห์ ด๋าง ได้บอกเอาไว้ว่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง สลับสับสนกันอย่างยุ่งเหยิงไฟฟ้าบนโลกจะขัดข้อง การติดต่อสื่อสารรับรู้กันทั่วโลกโดยอิเลคทรอนิค จะใช้การไม่ได้ภัยพิบัติหลายๆ อย่างจะเกิดขึ้น คนที่เคยสนุกสุขสบายจะทนต่อสภาวะนั้นไม่ได้ เดือดร้อนเรื่องที่พัก อาหาร เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ผู้คนจะเกิดความเครียด คลุ้มคลั่ง ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในวันนั้นน้ำ 1 ลิตรจะมีค่ามากกว่าทองคำ 1 กิโลกรัม และอาจจะไม่สามารถแลกซื้อได้ อาหารขาดแคลนมาก นับเป็นภัยอันตรายยิ่งกว่าสงครามใดๆ ภัยนี้จะคุกคามไปทั่วโลก ผู้คนที่ทนต่อสภาวะการณ์ดังกล่าวไม่ได้จะต้องตายไป และประมาณว่าอาจตายกว่า 70 เปอร์เซนต์ทั้งโลก

    จากคำทำนายนี้จะเห็นได้ว่าตรงกับเรื่อง แกนแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้ว
    ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก เครื่องมืออีเลคทรอนิคต่างๆ ใช้การไม่ได้โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมกระบวนการผลิตสิ่งอุปโภค บริโภคทุกอย่างในปัจจุบันนี้ก็จะใช้การไม่ได้ไปด้วย เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นั่นเอง

    การเตรียมตัวเพื่อรับกับเหตุการณ์นี้ เราควรจะเริ่มคิดตั้งแต่บัดนี้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรเมื่อต้องพบเจอกับสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปา ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าไว้คอยอำนวยความสะดวกสบายแบบในปัจจุบันนี้

    ที่มา คัดลอกข้อความบางส่วนมาจากหนังสือ"พลังจักรวาลรักษาโรค"<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2009
  2. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    "คนจะเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน"
    เรากลับนึกไปถึงเรื่องการใช้รถแฮะ จากเดินสองเท้าหรือการใช้เกวียนเทียม
    คนเกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นการคลานสี่เท้า(โดยรถยนต์)หรือคลานหลายๆเท้าโดยการใช้รถไฟ

    ยิ่งตอนรถติดหน่ะ คนคลานกันต่วมเตี้ยมๆเห็นได้ชัดเลย

    ก็ไม่รู้ความพลุกพล่านจากการใช้รถจนกลายเป็นสาธารณะที่ใช้กันไปทั่วโลก
    เริ่มต้นเมื่อใด[​IMG]
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คงไม่ใช่เรื่องการใช้รถยนต์หรอกครับ เพราะรถยนต์มีใช้มาเกือบร้อยกว่าปีแล้ว น่าจะหมายถึง ความเจริญทางเทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบัน ต้องหยุดชะงักลงมากกว่า เพราะสนามแม่เหล็กโลกจะมีผลโดยตรงกับเครื่องยนต์กลไกทุกชนิด ทำให้เครื่องยนต์ดับ รถยนต์ทุกชนิดวิ่งไม่ได้ เครื่องบินทุกชนิดบินไม่ได้

    นั่นก็หมายถึงคนทุกคนบนโลกนี้ต้องหยุดกิจกรรม การสัญจรไปมาแทบจะสิ้นเชิง พระท่านถึงเปรียบเทียบว่าเหมือนกันคนเราเปลี่ยนสถาพจากเดินมาเป็นคลานนั่นเองครับ ถ้าใครเคยอ่านเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่ลักพามนุษย์และสัตว์ ขึ้นไปทำการทดลองในยานอวกาศ คงจะเคยได้อ่านพบว่าเมื่อยานอวกาศเข้ามาใกล้รถยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์ดับลงทันที ไม่สามารถสตาร์สรถต่อไปได้

    นั่นก็เพราะพลังงานสนามแม่เหล็กของยานอวกาศ มีผลโดยตรงต่อการทำงานของเครื่องยนต์ทุกชนิดครับ เมื่อเรานำเอาเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับเรื่องสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกกลับขั้วอย่างกระทันหัน ย่อมจะมีผลรุนแรงกว่าพลังงานสนามแม่เหล็กจากยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว หลายเท่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย นอกจากนี้สนามแม่เหล็กโลกยังมีผลต่อเครื่องมืออีเล็คโทรนิคทุกชนิดอีกด้วย โดยเฉพาะโรงงานผลิตไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดอีกด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2009
  4. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    ถึงรถยนต์จะมีใช้นานแล้ว แต่เราสังเกตจากวิถีชีวิตของประชากรส่วนใหญ่ของโลกหน่ะ ปัจจุบันคนเกือบทั้งโลกไม่มีใครไม่รู้จักรถยนต์ รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนาหรือแม้ว่าจะยังไม่พัฒนาทั้งหลายด้วย แทบไม่มีใครจะไม่เคยใช้รถยนต์
    ถึงจะไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ก็สามารถอาศัยรถเมล์ รถประจำทาง รถโดยสารรับจ้างอย่างเช่น แท๊กซี่ ได้

    แต่อันนี้เราก็นึกเอามั่วๆน๊ะ เพราะพูดถึงคนคลานทีไร ก็นึกภาพการจราจร
    ที่มีรถค่อยแล่นต่อกันไปยาวเป็นหางว่าวทุกที


    oishi_



    แต่ถ้าคนทุกคนบนโลกนี้จะต้องหยุดกิจกรรม อันเนื่องมาจาก
    สิ่งอำนวยความสะดวกจำพวกที่ใช้ไฟฟ้าหรือที่อาจไม่ใช่
    โดยถูกคลื่นพลังงานจากอวกาศหรือการเปลี่ยนขั้วของแม่เหล็กโลก
    มารบกวนหรือทำลาย
    เราว่า คนคงไม่ค่อยๆเปลี่ยนจากเดินมาเป็นคลานหรอก
    แต่คงเปลี่ยนเป็นล้มตัวนอนแน่นิ่งแบบคนตายไปแล้วแน่ๆ
    อยู่ๆทิศเหนือก็กลายเป็นใต้ ตะวันออกเปลี่ยนเป็นตะวันตก
    แถมพายุสุริยะ นอกจากจะทำลายไฟฟ้า ก็อาจเกิดมีความร้อนทะลุผ่านชั้นบรรยากาศ
    คงร้อนจนเผาไหม้สิ่งมีชีวิตในแถบพื้นที่ที่เกิดได้อีก
    เราว่าหลายคนเจออาจจะช็อคจากยืนเป็นนอนตายไปเลย



    ตอนนี้ก็คอยรอดูต่อว่าตลิ่งที่ไหนจะพังบ้าง
    หรือว่าตลิ่งส่วนใหญมันเริ่มพังไปหมดแล้วหว่า [​IMG]
     
  5. Wonder Girls

    Wonder Girls สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +15
    ไม่มีไฟฟ้าใช้ งั้นการประปาฯ ก็ทำน้ำประปาไม่ได้สิคะ
    ไม่มีไฟฟ้าใช้ เราพออยู่ได้นะ แต่ไม่มีน้ำประปาใช้นี่ ตายแน่ๆ
    ไม่มีน้ำสะอาดกิน แค่ 3 วัน ก็ตายแล้วค่ะ !!
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกพลิกกลับด้าน


    [​IMG]


    เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์ ​

    แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่มนักธรณีฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) ในปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012 ​

    คำถาม - โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน

    การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม. หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยGas และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ​

    คำถาม - จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก

    โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ(บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล ​

    คำถาม - เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับพายุสุริยะ

    "ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ ​

    แต่หากโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก ​

    เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะหมดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในครั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมากจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเร็งและความร้อน ​

    คำถาม- เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก

    สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อแต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะแค่เพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่าง เช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว ให้เปรียบโดยการใช้ ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง ​

    คำถาม-แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป

    เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดิน จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง...​

    หายนะที่ได้กล่าวมานี้ อาจจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่กล่าวมา (หรืออาจร้ายแรงกว่า) ขึ้นอยู่กับว่า การที่ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวนั้นจะใช้เวลานานขนาดใหน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรื่องที่นำมาให้อ่านกันข้างบนนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เป็นสัญญาณเตือนให้เรา ต้องรักษาสิ่งแวดล้อมกันแล้ว ขอให้ทุกคนโชคดี

     
  7. Wonder Girls

    Wonder Girls สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +15
    ^_^ พี่เกษมค่ะ
    ถามเรื่องขั้วแม่เหล็กกลับขั้วหน่อยค่ะว่า
    โลกจะเกิดปัญหาเรื่องสนามแม่เหล็กกี่ปีเหรอคะ
    หรือว่าแค่แป็บเดียว
     
  8. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ

    คนเราหายใจเข้าไม่หายใจออก "เราก็ตาย"
    คนเราหายใจออกไม่หายใจเข้า "เราก็ตาย"

    ความตายไม่เคยห่างเรา อยู่แค่ลมหายใจเข้า - ออก เท่านั้นเอง คนที่กลัวที่วิตก ก็ลองคิดแบบนี้ดู ไม่จำเป็นต้องไปกลัวตายมากเกินไป เพราะอย่างไงก็ไม่พ้นตาย

    ถ้าหากยังกลัวอยู่ ก็ให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีสติ มีปัญญาประกอบ ย้ำ สติ+ปัญญา ส่วนที่เหลือก็ทำตามหน้าที่ ประเภทจะมาอย่างไร(จน ถึง รวย ฯลฯ) แต่ถ้าไปแล้วต้องให้ดี(สวรรค์ ถึง พระนิพพาน) จะได้ไม่เสียชาติ มีโอกาสที่เกิดแล้วมีศาสนา โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา

    ขออนุโมทนาครับ ^_^
     
  9. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ขออณุญาติให้ความรู้นะครับ
    ผมคงคิดว่าไม่มีท่านใดตอบได้นะครับ แต่ผมจะขอตอบนะครับ
    การเปลื่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก เพื่ออะไรนั้นต้องหาคำตอบก่อนนะครับ ทำไมต้องเปลื่ยนแปลง

    การเปลื่ยนแปลงทำมาตลอดหลายปีแล้วครับ จะสิ้นสุดเมื่อโลกทำการพลิกขัว่แม่เหล็กโลกเสร็จสิ้นครับ คือหลังจาก 45 วัน 7 ราตรี

    การพลิกขั่วแม่เหล็กโลกไม่ได้ โหดร้ายขนาดที่เขียนๆกันอยู่นี้ครับ เพียงแต่ว่า ขั่วโลกเหนือจะไม่มีน้ำแข็งแต่จะไปมีที่ขั่วโลกใต้แทนครับ ซึ่งผลที่ตามมา มันก็จะทำให้เกิดภัยธรรมชาติมากมาย ครับ จนเข้าสู่ 45 วัน 7 ราตรีสุดท้ายถึงจะสิ้นสุด ส่วนเหตุผลว่าทำไมต้องเปลื่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก ไปอ่านดูที่กระทู้ผมเขียนนะครับ
     
  10. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    พายุฟ้าผ่าเราว่าก็น่ากลัว บางทีฟ้าผ่าแรงๆ ตัวบ้านที่ทำจากตึกจากปูน
    ยังสั่นสะเทือนแบบรู้สึกได้ชัดๆเลย ถึงแผ่นดินไม่ไหว แต่ถ้าเกิดฟ้าผ่าแรงๆบ่อยๆ เราว่าคงทำตึกร้าวได้แน่ๆเลย


    กระทู้อันไหนค่ะ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เรื่องขั้วแม่เหล็กพลิกกลับขั้วนี้ จะต้องใช้เวลานานกี่ปีกันแน่ แต่ในตอนนี้มันก็ได้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ มานานหลายปีแล้วครับ ซึ่งน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.2012 สังเกตุดูได้จากปลาวาฬ ปลาโลมา ได้ว่ายมาเกยตื้นที่ชายหาดเป็นจำนวนมาก เพราะพวกมันใช้สนามแม่เหล็กจากขั้วโลก เป็นตัวนำทิศทาง เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเริ่มแปรปรวน จึงทำให้พวกมันหลงทิศทาง ว่ายขึ้นมาเกยตื้นที่ชายหาดเป็นจำนวนมากครับ

    ถ้าเรามาพิจารณาจากคำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล คิดว่าขั้นตอนการพลิกกลับขั้ว ขั้นสุดท้ายของสนามแม่เหล็กโลกนี้ น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ดังนี้ครับ

    ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริม กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนกลมกลืนยิ่งขึ้น เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้ว ก็จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน!

    คำพยากรณ์นี้สอดคล้องกับคำทำนายของศาสนาอิสลาม ที่บอกเอาไว้ว่าในวันเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นั้น ผู้คนจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ซึ่งถ้าเกิดปรากฎการณ์โลกม้วนตัวตีลังกา เกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ทิศต่างๆ เกิดการกลับด้านขึ้นเนื่องจากโลกหมุนผิดทิศทางไปจากเดิมนั่นเอง จึงทำให้ผู้คนมองเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

    ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็กำลังค้นพบแล้วว่า สนามแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้ว จากขั้วโลกเหนือเป็นขั้วโลกใต้อย่างช้าๆ ถ้าในวันข้างหน้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 30 วัน ทั่วโลกก็จะต้องปั่นป่วนเรื่องกระแสไฟฟ้าบนโลกขัดข้องไม่สามารถใช้การได้ พร้อมกับต้องพบเจอเรื่องพายุฟ้าผ่าอย่างรุนแรงไปทั่วโลก ตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างแบบจำลองเหตุการณ์เอาไว้ครับ
     
  12. Sittirat

    Sittirat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +821
    ขอบคุณข้อมูลความรู้ของทั้ง 2 ท่าน คือ เกษม, ดูท่านอยู่นะครับ

    ผมไปอ่านกระทู้ของท่าน Chayutt เห็นท่าน Chayutt บอกว่า
    การพลิกกลับขั้วของโลกนั้นจะใช้เวลาแค่ 1 วินาที เท่านั้นเองนี่ครับ
    ตกลงมัน 1 วินาที, หรือ 30 วัน, หรือ 45 วัน ครับ

    .....ขอบพระคุณนะครับ
     
  13. Nibiru

    Nibiru สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +12
    คุณเกษม ช่วยตอบด่วนเลยครับ เรื่องนี้น่าสนใจมาก
    ตกลงการพลิกกลับขั้วของโลกนั้นจะใช้เวลา 1 วินาที, หรือ 30 วัน, หรือ 45 วัน ครับ
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เวลาแค่ 1 วินาที คงไม่สามารถพลิกขั้วแม่เหล็กโลกได้หรอกครับ ที่คุณชยุตแปลบทความจากมนุษย์ต่างดาว ที่บอกว่าโลกจะหยุดหมุน 1 วินาทีนั้น ผมคิดว่ามันเป็นคนละเรื่องกันกับเรื่องขั้วแม่เหล็กโลกนี่เลยครับ

    จุดประสงค์ที่มนุษย์ต่างดาวต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงของเขา เข้ามาทำให้โลกหยุดหมุน 1 วินาที ก็เพื่อจะให้น้ำทะเลเข้ามากวาดล้างมนุษย์โลก ที่กำลังใช้อาวุธนิวเคลียร์เข้าโจมตีกันอย่างเมามัน ให้หมดโอกาสที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้อีกต่อไป

    เนื่องเพราะน้ำมีสภาพเป็นของเหลว เมื่อโลกหยุดหมุน 1 วินาทีนั้น มันหยุดได้เฉพาะของแข็งคือพื้นดิน ของเหลวคือน้ำทะเล ลาวาจากใต้โลก มวลอากาศ มันไม่ได้หยุดหมุนตามโลก น้ำทะเลมันจึงล้นทะลักเข้ามาท่วมพื้นแผ่นดินส่วนใหญ่บนโลกนี้ครับ ขนาดภูเขาหิมาลัยที่ว่าสูงที่สุดในโลก ยังถูกน้ำทะเลท่วมได้ ก็เพราะสาเหตุนี้เองครับ ถึงแม้ว่าโลกจะหยุดหมุนแค่ 1 วินาที แต่ต้องไม่ลืมว่ากว่าจะเริ่มกลับมาหมุนได้ความเร็วอย่างในปัจจุบันนี้ ต้องเริ่มสตาร์ดตั้งแต่เกียร์ 1,2,3,4....จึงจะได้ความเร็วคงที่เหมือนเดิม ซึ่งอาจจะกินเวลาเป็นชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

    ส่วนเรื่องขั้วแม่เหล็กพลิกกลับขั้ว โลกตีลังกากลับหัวนั้น ผมว่าน่าจะเป็นคนละช่วงเวลากับเรื่องโลกหยุดหมุน 1 วินาทีนี้ครับ แต่ก็เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผมคนเดียว ซึ่งยังอาจจะผิดไปจากความเป็นจริงก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งเชื่อเรื่องที่ผมวิเคราะห์มานี้ไปทั้งหมดนะครับ ต้องฟังความคิดเห็นจากท่านอื่นๆ และข้อมูลด้านอื่นๆ เอามาประกอบกันไปด้วย จึงจะได้บทสรุปที่แน่นอนต่อไปครับ
     
  15. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ครับ คุณลองหาอ่าน 45 วัน 7 ราตรีดูนะครับ มีหลายท่านเขียนไว้แล้วครับ

    มันไม่มีอะไรแน่นอนที่คาดการณไว้ครับ เพราะความพร้อมในการกระทำมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างครับ เช่น
    พลังจากดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์มีจุดดำหรือจุดดับ ครบ 11 จุดเมื่อไหร่ครับ ตอนนี้ 6 จุดปี 2009 และปี 2012 จะเพิ่มเป็นจุดที่ 7 ครับ + พลังงานจากดวงจันทร์ และรวมไปถึงความพร้อมของเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละประเทศในโลกเราด้วยครับ

    ในปี 2012 นั้นที่จะเกิดภัยพิบัติมากขึ้น เพราะการเพิ่มขึ้นของจุดดำบนดวงอาทิตย์อีก 1 จุดครับแต่มันยังไม่ครบ 11 จุด ครับ ส่วนที่เอาคำทำนายมาลงในกระทู้ต่างๆ นั้นอย่าไปสนใจเลยครับ ไม่มีประโยชน์อันใดเลย จำไว้เพียงอย่างเดียวว่า โลกยังไม่ถึงกาลอวสาน เพราะว่าโลกคือจุดศูนย์กลางของเอกภพ นี้ จะโดนทำลายไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเอกภพทั้งระบบจะหายไปทันทีครับ
    ที่เกิดเหตุต่างๆทั่วโลกนั้นมี เหตุผลครับ ผมเห็นมีแต่เอาคำทำนายมาลงแล้วเหตุผลของมันคืออะไร เพราะว่าถ้าเรารู้เหตุ แล้วเราก็จะสามารถป้องกันได้ครับ
     
  16. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    กระทู้ ในห้องนี้ละครับ

    การสวดมนต์นั่งสมาธิรักษาศีลยังไม่พอต่อการรอดจากภัยได้จากอาจารย์ปริญญา ตันสกุลต้องทำอย่างไรขอ 20 ล้านคนไทย



    ไปถามได้เลยการเกิดภัยพิบัติ เกิดได้อย่างไร มันจะจบอย่างไร จะตอบให้ครับ
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Sittirat [​IMG]
    ขอบคุณข้อมูลความรู้ของทั้ง 2 ท่าน คือ เกษม, ดูท่านอยู่นะครับ

    ผมไปอ่านกระทู้ของท่าน Chayutt เห็นท่าน Chayutt บอกว่า
    การพลิกกลับขั้วของโลกนั้นจะใช้เวลาแค่ 1 วินาที เท่านั้นเองนี่ครับ
    ตกลงมัน 1 วินาที, หรือ 30 วัน, หรือ 45 วัน ครับ

    .....ขอบพระคุณนะครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อันนี้เป็นข้อมูลจากอาจารย์ปริญญา ที่แจ้งเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนนู้นครับ
    ตามรหัส 7:7:49 โลกจะตีลังกากลับขั้วใช้เวลาราว 2 เดือนเพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ รหัส 666


    [​IMG]

    การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่จะเกิดหลังจากการพลิกกลับขั้วแม่เหล็ก


    โลกจะพลิกตัวลงไปทางใต้ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ ขั้ว S กลับเป็น N ใข้เวลาราว 2เดือน ตามรหัส 49+7

    1.แนวแกนหมุนของโลกทำมุมกับแนวดิ่ง 32 องศา (เอียงเพิ่มอีก 8.5 องศาจากเดิม 23.5 องศา)ทาง NE*
    2.แนวแกนแม่เหล็กโลก จะย้ายไปอีก 3องศา (เดิม 11 องศา) + 3องศา
    3.ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก จะยกตัวสูงขึ้น 60.000 กม.
    4.น้ำหนักมวลบนผิวโลกจะลดลง
    5.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็น 22 เกาส์ (จากเดิม 14 เกาส์)
    6.โลกจะหมุนเร็วขึ้นจาก 24 ชม. เป็น 22 ชม.ต่อรอบ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2009
  18. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    จากกระทู้ของน้องเมย์
    ขอโทษนะครับผมลืมลิงค์


    เมย์พบพระผู้มี "อภิญญา" มีฤทธิ์มาก ท่านฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว (ก่อน พ.ศ. 2560)<!-- google_ad_section_end -->


    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"><!-- google_ad_section_start --><script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-2576485761337625"; /* 250x250, created 31/01/09 */ google_ad_slot = "7252767143"; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //--> </script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"> </script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>window.google_render_ad();</script><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; visibility: visible; width: 250px; position: relative; height: 250px;"><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: block; visibility: visible; width: 250px; position: relative; height: 250px;"></ins></ins>
    pig_cryy2

    เมย์พบพระผู้มีอภิญญาฤทธิ์นามว่า"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านฝากเตือนมาว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว น่าสงสารสัตว์โลก

    พระ ผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "หลวงปู่ประเสริฐ" อ่ะค่ะ

    "หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้ง และลูกศิษย์ ก็เห็นมาหลายคน
    ใคร เคยประสบด้วยตนเอง ช่วยมาโพสต์ในนี้ให้เพื่อนๆอ่านด้วยค่ะ (แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่อง อภิญญา ของหลวงปู่ เพราะมันเยอะ พิมพ์ไม่ไหว) แต่เมย์จะเล่าเรื่อง วาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ

    เม ย์ ไปพบท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง ไปกับกลุ่มของเพื่อนคุณพ่อค่ะ วันนั้นไปกันราว 10 คน พวกเรานั่งรถตู้ของเพื่อนคุณพ่อเมย์ นั่งรถตู้จากกรุงเทพ 8.00 น. กว่าจะถึง สำนักสงฆ์ของท่าน ก็เกือบเที่ยงอ่ะค่ะ เส้นทางวกวน เหมือนเขาวงกต เพราะสำนักสงฆ์อยู่บนเขาสูง (แถวนั้นเรียกว่า "ลำพญากลาง") สูงจากพื้นดินมากค่ะ เพราะทุกคนในรถตู้รู้สึก "หูอื้อ" ทุกคน พอไปถึงก็ยังไม่พบท่านหรอกค่ะ เพราะท่านอยู่ใน กุฏิ ด้านหลัง ซึ่งห้ามไม่ให้ใครเข้า สภาพของสำนักสงฆ์เรียบง่าย มีกุฏิ 2 หลัง, มีวิหารเล็กๆ 1 หลัง, มีโรงครัวเล็กๆ 1 หลัง, มีห้องน้ำราว 10 ห้อง ทั้งหมดมาจากเงินจากผู้บริจาค ของผู้ที่มากราบท่านทั้งสิ้น

    เพราะ หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. 2502 มาตั้งแต่ที่นี่ยังเป็นป่าอยู่เลย ยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ป่าทั้งนั้น พอท่านอยู่ไปก็มี ผู้คนไปกราบไหว้ รวมคนที่ไปกราบท่านจนถึงปัจจุบันก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 คนค่ะ

    แล้ว หลวงปู่ท่านก็เดินลงมา แล้วตรงมาที่กลุ่มของเมย์ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม (น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่ชั้นจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คน และคนอื่นๆ

    ท่าน ก็เริ่มเทศนาว่า... แท้จริง ประเทศไทย และ ทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับความหายนะครั้งใหญ่ จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 แต่ที่มันไม่เกิด ก็เพราะว่า มีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษาโลกมนุษย์ ช่วยกัน อธิษฐานจิต ให้เหตุการผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริง มันได้แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆเหตุการณ์ภัยธรรมชาตใหญ่ิ และความหายนะครั้งใหญ่ ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

    นับ แต่เวลาี้นี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถอธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไป ภัยธรรมชาติ และความหายนะครั้งใหญ่ จะค่อยๆปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูงท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมด และสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ

    ทุกอย่าง จะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบ จะถูกภัยธรรมชาติใหญ่ คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมาก จะเสียสติไปเลย เพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้ละกันนะ คนจะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 % ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะเหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆเท่านั้นเอง

    หลัง ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษย์ชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่ เรียกว่ายุคศิวิไลซ์ เนื่องจากคนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30 %) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็น มหาอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติ ในการดำเนินชีวิตใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้น ผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ บำเพ็ญบุญ-กุศล

    ท่าน ว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบๆทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆกันด้วยนะ ลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ชั้นก็มีเรื่องจะบอกเท่านี้แหละนะ เจริญพร.......ทุกคนก็กราบท่าน ด้วยความกลัว ใจหวิวๆ บอกไม่ถูกค่ะ

    ตอน จะกลับ เมย์ว่าจะถ่ายรูปของหลวงปู่ มาให้เพื่อนๆใน "เว็บพลังจิต" ดูซะหน่อย แต่ทางสำนักสงฆ์ ติดป้ายไว้ว่่า "ห้ามถ่ายรูป" อ่ะค่ะ ...เอาไว้เพื่อนๆลองไปกราบหลวงปู่ท่านเองละกันนะคะ เมย์บอกที่อยู่ให้แล้วอ่ะค่ะ

    เมย์ขอปิดท้ายค่ะ ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า พุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ
    ประเด็นอยู่ที่ ในวันภัยพิบัติ คนที่จะรอดชีวิต ต้องมีศีลมีธรรมจริงๆเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะรอดค่ะ

    pig_cryy2

    .
    .
    .
     
  19. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    <table width="1033" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top"><table class="flood" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" width="650" height="23">
    พ.ศ.2560 น้ำไม่ท่วมโลก​
    </td> </tr> </tbody></table></td> <td>
    </td> <td>
    </td> </tr> <tr> <td height="5">
    </td> <td>
    </td> <td>
    </td> <td>
    </td> </tr> <tr> <td height="377">
    </td> <td rowspan="3" valign="top"><table class="flood" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <!--DWLayoutTable--> <tbody><tr> <td width="14" height="863"> </td> <td valign="top" width="621">

    [​IMG]
    <hr>
    ท่านผู้ใดที่มีวิตกจริตสูง ขอได้โปรดผ่อนคลายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้แล้ว ขอให้ตั้งใจทำงานให้มากขึ้น และทำความดีในทุกโอกาส เรื่องที่ดีๆ ก็จะบังเกิดขึ้นเอง

    สำหรับท่านที่ประมาท ปฏิเสธมหันตภัยร้ายแรง ก็จะได้พบความจริง ไม่เกิน 11 ปี นับจากนี้ ค่อนข้างแน่นอน ใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการที่ต้องสูญเสียคนที่รักมากๆ ต้องได้พบการสูญเสียดังกล่าวแน่ ใครที่ไม่เคยสูญเสียสิ่งของล้ำค่า สุดรัก สุดหวงแหน จะต้องได้พบแน่ จะพบเห็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีครั้งใดแย่มากๆ เหมือนช่วง 11 ปีข้างหน้า แต่จะได้เห็นภาพชัดในปี 2551 ซึ่งจะมีเหตุการณ์หนักกว่าสึนามิ เมื่อ 26 ธันวาคม 2547 ที่มีคนตายไม่กี่แสนคน

    ผู้เขียน มิใช่ผู้วิเศษ ผู้เขียนมิใช่ศาสดาพยากรณ์ ผู้เขียนเพียงเป็นผู้นำสาส์นแห่งความจริงมาถ่ายทอดเท่านั้น

    ในยุคปัจจุบัน ขอให้นึกถึงสิ่งที่พระพุทธองค์เคยทรงสั่งสอนเกี่ยวกับเรื่อง "กาลามสูตร" ให้มาก คือ จงอย่าเชื่อเรื่องอะไรโดยง่าย แม้ผู้นั้นจะเป็นครูอาจารย์ของเรา เป็นผู้บอก จงอย่าเชื่อเพราะเป็นตำราที่เขียนบอกสืบต่อกันมา จงอย่าเชื่อเพียงเพราะผู้บอกเป็นนักปราชญ์ จงอย่าเชื่อเพียงเขาผู้นั้นนุ่งเหลืองห่มเหลือง และมีศีล 227 ข้อ ฯลฯ แม้กระทั่งผู้เขียน ท่านก็ไม่ควรเชื่อถือโดยง่าย ขอโปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน และการรับฟังเรื่องเหล่านี้ ต้องพิจารณาไตร่ตรอง พิจารณาโดยรอบคอบ พิจารณาโดยมีสติยั้งคิดให้มากๆ เป็นพิเศษ

    ในยุคนี้ เป็นยุคแห่งการหลอกลวงมากที่สุด เรียกได้ว่า เป็นยุคที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงมหาศาล ก่อนที่จะมีการปฏิวัติทางจิตวิญญาณครั้งใหญ่ ขอย้ำว่า "วันแห่งการพิพากษาโลก" ในช่วงอายุขัยของพวกเรา น่าจะได้พบค่อนข้างแน่ เพียงแต่วันเวลาอาจคลาดเคลื่อนออกไปเท่านั้น

    การกระทำใดๆ ที่ขาดหิริ และโอตตัปปะ หรือ "การกระทำที่ขาดความละอายแก่ใจ และไม่เกรงกลัวต่อบาป" จะทำให้มนุษยชาติต้องเผชิญความวิบัติครั้งใหญ่แน่ๆ
    ณ วันนี้ ยังไม่สายเกินไป ที่จะรีบกลับตัวกลับใจ จงละอายแก่ใจในการทำบาปทุกชนิด หรือสร้างความเดือดร้อนใดๆ ให้แก่ผู้อื่น

    ในวันนี้ หากมีโอกาสทบทวนช่วงชีวิตที่ผ่านมา ใครผู้ใดบ้าง ที่เคยมี บุญคุณต่อตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา พี่น้อง ลูกหลาน ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนมิตรสหายที่เคยรู้จักกันมาก่อน ใครผู้ใดที่เคยมีบุญคุณต่อเรา จงหาโอกาสไปตอบแทนบุญคุณของท่านเหล่านั้นโดย เร็วเถิด หากประมาทพลาดท่าแก่เวลาที่ผ่านไป เราอาจหมดโอกาสตอบแทนบุญคุณท่านเหล่านั้นในชาตินี้ จะต้องติดหนี้ไปชดใช้ในชาติต่อไปอีก ซึ่งไม่ดีเลย

    ที่ว่า "น้ำไม่ท่วมโลก" นั้น มิได้หมายความว่า ไม่มีมหันตภัยร้ายแรง ผู้เขียนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า "มหันตภัยร้ายแรง" กำลังจะมาถึงในอนาคตแน่ โดยพวกเราจะได้พบเห็นในช่วงอายุขัยของพวกเราเอง ทั้งนี้เพราะ "ครูบาอาจารย์ของผู้เขียน" ได้ยืนยันเรื่องดังกล่าวมาให้ทราบ และผู้เขียนได้ใช้สติปัญญา และทำกรรมฐาน สังเกตความผิดปกติที่ถือเป็นสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีเหตุ ร้ายแรงเกิดขึ้น เพียงแต่วันเวลาที่จะมีภัยร้ายแรงนั้น ไม่แน่นอน มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงในลักษณะลดลง แต่เดิมพวกเราคงเคยได้ฟังข่าวสารจากแหล่งต่างๆ ว่า
    "ประชากรโลก 6,000 ล้านคน จะมีเหลือเพียง 100 ล้านคนเท่านั้น"
    "ประเทศไทย จะมีคนตายประมาณ 50% ผู้รอดประมาณ 50% หรืออยู่รอดประมาณ 30 ล้านคน"
    ข้อมูลต่างๆ นั้น ค่อนข้างจะกล่าวเกินเลยมากไปหน่อย ผู้เขียนไม่เชื่อว่าจะเลยเถิดเกิดการตายมากขนาดหนักเช่นว่า
    ผู้เขียนขอบอกได้แต่เพียงว่า มหันตภัยร้ายแรงครั้งหน้า จะทำให้โลกบอบช้ำแน่นอน เปลือกโลกมีการแตกร้าว ยุบตัว และโก่งตัว แผ่นดินจมหายไปเป็นพื้นทะเล จากเดิม 3 ใน 4 ส่วนที่เป็นทะเล แนวโน้มคาดว่า จะเป็นทะเลประมาณ 5 ใน 6 ส่วน โดยเหลือพื้นดินและป่าเขา ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย และทำมาหากิน เหลือประมาณ 1 ใน 6 ของพื้นที่เปลือกโลกเท่านั้น โดยมนุษย์ชาวโลก ไม่ต้องวิตกกังวลมากนัก ​
    [​IMG]
    <hr>
    เพราะสถานภาพดังกล่าว จะคงอยู่ไปอีกมากกว่า 2,000 ปี ซึ่งแสดงว่า โลกใบนี้ ก็ยังคงเป็นโลกที่มนุษย์ใช้อยู่อาศัยได้แน่นอน ( ไม่อยากบอกว่า แท้จริงแล้ว ดาวเคราะห์โลก จะยังคงอยู่ในระบบสุริยะจักรวาลทางช้างเผือกอีกนานถึง 100 ล้านปีมนุษย์ เพียงแต่ยุคที่สามแห่งความเจริญทางเทคโนโลยีกำลังจะสิ้นสุด เมื่อข่าวการตัดต่อยีนส์ สายพันธุ์พืชกับยีนส์สายพันธุ์สัตว์พบความสำเร็จแล้ว อีกไม่ช้ามินานแน่ แต่ไม่เกิดขึ้นภายในปี 2551 แล้ว แต่อาจจะไปเกิดในปลายปี 2560 ( โปรดเก็บเอกสารนี้ไว้ตรวจสอบ และติดตาม )

    ใครที่ว่า "แกนโลกจะพลิกคว่ำ" หรือที่ เอ็ดการ์ เคซี่ย์ กล่าวว่า จะเกิด Pole Shift" นั้น ผู้เขียนขอเรียนว่า "ผังเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว เพียงแต่เอียงไปจากเดิมไม่กี่องศา หายนะก็เกิดรุนแรงแล้ว ไม่ต้องถึงกับแกนโลกพลิกคว่ำ"

    เรื่องน้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ให้ติดตามดู มีแนวโน้มจะมีเกิดขึ้นสูงในหลายประเทศในระยะต่อไป และมีความถี่มากขึ้น

    เรื่องโรคระบาดสัตว์และพืช จะมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดนก หรือโรคซาส์ และโรคใหม่ๆที่จะติดตามมา บรรดาที่เป็นเนื้อสัตว์ และอาหาร หรือขนม ที่ทำจากนมหรือไข่สัตว์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไขสัตว์ จะเป็นศูนย์กลางแพร่เชื้อโรคระบาดมากกว่า พืชที่โดนสารพิษยาฆ่าแมลง ที่จะมาทำลายชีวิตมนุษย์ในโลกของเรา

    ท่านทั้งหลายโปรดทราบว่าเมล็ดพันธุ์พืช ที่มีการตัดต่อยีนส์ สายพันธุ์ใหม่ และสารเคมีที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโต คือ ตัวอันตรายที่จะทำลายมนุษยชาติในเอเชีย ซึ่งขณะนี้ในสหรัฐอเมริกา มีการตัดต่อยีนส์สายพันธุ์พืชและสัตว์ผสมกัน ปรากฏว่าใน ยุโรป นำยีนส์ของเมล็ดพันธุ์พืชที่นำมาตัดต่อกับยีนส์ของสัตว์ ซึ่งเพิ่มปริมาณผลผลิตสูงมาก แต่เมื่อนำไปให้สัตว์ทดลองบริโภค ปรากฏว่าสัตว์ส่วนใหญ่เป็นมะเร็ง กลุ่มประเทศในยุโรป จึงไม่ยอมนำเข้าเกี่ยวกับอาหารทั้งสัตว์ และพืชที่มีการตัดต่อยีนส์สายพันธุ์ใหม่ จากสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ตลาดใหญ่ของผลผลิตทางการเกษตรจากสหรัฐอเมริกา จึงทะลักเข้าสู่ประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยด้วย อาทิ เช่น กากถั่วเหลือง ที่มีการตัดต่อสายพันธุ์ใหม่ เป็นต้น เมื่อสัตว์กินอาหารนั้นๆ เข้าไป สารพิษที่ปะปนมาจะไม่ย่อยสลาย และจะกลายเป็นพิษร้าย เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ที่บริโภคเนื้อสัตว์ และสิ่งต่างๆ ที่ทำมาจากไขสัตว์ นม หรือไข่ของสัตว์ โดยมีสาร "ไดอ๊อกซิน" ปนเปื้อนในปริมาณสูงมาก เป็นต้น​
    [​IMG]
    <hr>
    อย่าหลงคิดว่า สัตว์ต่างๆ เลี้ยงในประเทศไทย ไม่เป็นปัญหา เหมือนกับอังกฤษในอดีต หรือเบลเยี่ยม ฝรั่งเศส อิตาลี ฮอลแลนด์ (เนเธอร์แลนด์) และเยอรมันในปัจจุบัน อย่าลืมปัจจัยใหญ่มาก คือ อาหารสัตว์นั้น นำเข้ามาจากประเทศใด หากเป็นอาหารสัตว์ที่มาจากกลุ่มประเทศยุโรป และสหรัฐอเมริกาต้องระวังให้มาก เพราะสารพิษในอาหารสัตว์ ใช้เวลาที่จะย่อยสลายสารพิษนั้น จะใช้เวลามากกว่า 10 ปี ผู้บริโภคเนื้อสัตว์ จะเป็นเหยื่อโรคร้ายดังกล่าว ให้ติดตามผลดูได้ไม่เกิน 2560 จะได้รู้กันว่าหมู่หรือจ่า ไม่ตาย ก็ความจำเสื่อม หรือทุพพลภาพ ภายใน 11 ปีนี้

    ภายใน 2 ปีเศษ ไม่เกินธันวาคม 2551 พวกเราจะได้รับรู้การตกของฝน ต่อเนื่องกัน 7 วัน 7 คืน (มีผลเสียหายมากกว่าฝนพันปีที่อดีตผู้ว่าจำลอง ศรีเมือง บัญญัติศัพท์ฝนตกที่มีน้ำท่วมใหญ่) ฝนครั้งสำคัญภายในช่วง 2 ปีเศษนี้ จะเป็นฝน 10,000 ปี จะมีให้เห็นสักครั้งในเขตเมืองไทย เราจะได้เห็นภาพหลังคาบ้านจมมิดน้ำ จะได้พบเห็นพื้นที่ในหลายๆ จังหวัดของประเทศไทย มีแต่น้ำเต็มไปหมด ดังนั้น น้ำท่วม มิดหลังคาบ้าน จึงมิใช่เรื่องใหญ่ในช่วงปี 2551 ซึ่งเป็นเพียงปีส่งสัญญาณเท่านั้น

    เตรียมการให้พร้อมเกี่ยวกับอาหารสำรองระยะยาวในยามจำเป็น ในปี 2551 ถ้ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น จะได้นำมาบริโภคในยามขาดแคลน เพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดได้นานวันหน่อย​
    ขอให้ท่านจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ถ้าภัยร้ายแรงเช่นว่า อาทิ เกิด ฝนตกหนัก 7 วัน 7 คืนติดต่อกัน ทำให้น้ำท่วม 1-2 เมตร ในบริเวณพื้นที่ที่ท่านและ
    ครอบครัวอยู่อาศัย โดยท่านทราบล่วงหน้า 1-2 วัน ท่านจะเตรียมป้องกันปัญหา เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัวท่านได้อย่างไร ขอเพียงตัวอย่างทดสอบตัวอย่างเดียวก่อน ใครมีทางออกที่คิดว่าดีที่จะให้เป็นวิทยาทานแก่เพื่อนในทางธรรมได้ กรุณาแจ้งให้ประธานชมรมศาสนาและการกุศลทราบด้วย เพื่อจะพิจารณานำเผยแพร่ สำหรับเป็นแนวทางร่วมด้วยช่วยกันในการเตรียมการป้องกันปัญหาของภัยพิบัติที่ กำลังจะมาถึงใน 2 – 3 ปีข้างหน้า​
    [​IMG]
    ในช่วงที่ผ่านมา มีพายุหลายลูกถล่มหลายเมืองในสหรัฐอเมริกา จนต้องมีการประกาศเป็นเขต “ภัยพิบัติแห่งชาติ” ความจริงที่เสียหายเพียงแค่นี้ เป็นเพียงเศษ 1 ใน 100 ส่วนที่จะเกิดในอนาคต อันใกล้แก่สหรัฐ-อเมริกา ขอให้ติดตามดูเหตุการณ์ต่อไป และเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจแบบฟองสบู่ในสหรัฐอเมริกาจะแตกในปลายปี 2551 ซึ่งประเทศใดก็ตาม รวมทั้งประเทศไทยด้วย ต้องเตรียมการเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากสกุลหลักดอลล่าร์อเมริกัน เป็นเงินตราต่างประเทศอื่นให้มากขึ้น เพราะถ้าตะกร้าเงินส่วนใหญ่ ยังมีดอลล่าร์อเมริกันมาก "ความเสียหาย" ที่มากกว่าที่เกิดขึ้นแล้ว ก็อาจมาเยือนได้ ภายใน 2 - 3 ปีนี้ก็คงจะได้เห็นกัน

    ช่วง ธันวาคม 2551 คงต้องระวังอุกกาบาต แม้อานุภาพจะไม่มากตามการคาดหมายเดิม เพราะอานุภาพมีเพียงเท่ากับปริมาณระเบิดปรมาณู 1,000 เท่า ที่สหรัฐอเมริกานำไปทิ้งที่เกาะฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 เท่านั้น มิใช่ 80,000 เท่าตามการคาดหมายเดิม
    แต่ อุกกาบาต ขนาดใกล้เคียงกันนี้ เมื่อปี 1908 เคยตกที่ป่าดงดิบในไซบีเรีย ทำให้บริเวณป่าดงดิบนั้น กลายสภาพเป็นพื้นที่แห้งแล้ง มีน้ำแข็งปกคลุมหนามาจนถึงปัจจุบัน

    และในเดือนธันวาคม ของปี 2551 ก็มีความเป็นได้ว่าจะมีคลื่นยักษ์ในทะเล ที่เรียกว่า "สึนามิ" จะมีความสูงของคลื่นประมาณ 100 ฟุต ขนาดตึกสูงประมาณ 10 ชั้น โหมกระหน่ำชายฝั่งทะเลของหลายประเทศ (เหตุการณ์เกิดขึ้นกับประเทศใด คงต้องติดตามดู เพราะอีกเพียง 2 – 3 ปี เท่านั้นเอง) และมีน้ำท่วมในหลายประเทศ
    เหตุการณ์ในอิหร่าน อาจส่อเค้าความขัดแย้งรุนแรงมากในช่วงนี้ โลกแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว อเมริกาจับมือกับอังกฤษ ส่วนรัสเซีย จับมือกับจีน ก็เป็นเหตุการณ์ส่งท้ายปี 2551 ที่น่ากลัวอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ บรรดาผู้นำทางจิตวิญญาณ กำลังเร่งปฏิบัติขอรับกรรมจากภัยพิบัติร้ายแรงจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวก็ แย่แล้ว โดยขออย่าให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เลย

    - โรคระบาดสัตว์ และระบาดคนจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในกลางปี 2551
    - และในต้นปี 2551 จะปรากฏรายงานเรื่องต่างๆ ให้มนุษย์ชาติทราบว่า
    - ระแสแม่เหล็กโลกปั่นป่วน ชี้ผิดทิศทาง
    - แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด มีพายุ และน้ำท่วมใหญ่หลายประเทศ
    - ปัญหาระบบการสื่อสารข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนกันมาก
    เขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีมีโอกาสปริแตกค่อนข้างมาก
    - สิ่งแวดล้อมที่ต้องสังเกต ก่อนภัยร้ายแรงเกิด จะพบว่า
    - หมา นก และปลาดุก จะมีอาการทุรนทุรายอย่างผิดสังเกต 3 วันติดกัน
    - นกที่บินอยู่บนท้องฟ้า บินชนตึกตกลงมาตายมากผิดสังเกต
    - ท้องฟ้า จะมีแสงและสีผิดไปจากปกติธรรมดา ทั้งกลางวันและกลางคืน
    - บรรยากาศโดยทั่วไป จะมีความวังเวงผิดสังเกต เป็นต้น​
    <hr>

    บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ
    ประธานชมรมศาสนาและการกุศล



    พ.ศ.2560 น้ำไม่ท่วมโลก
    ที่มา
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  20. wrong

    wrong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +126
    น่าตื่นเต้นจัง โชคดีที่มันเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของพวกเรานะครับ พวกเราจะได้อยู่ร่วมเหตุการณ์สำคัญของโลก ได้เจอของจริง
    ถ้ารอดไปได้ ก็จะมีเรื่องไว้เล่าให้คนรุ่นหลังฟัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...