เมื่อข้าพเจ้าไปขออโหสิกรรมกับ ''พระนางเรือล่ม''

​

หลังจากตรวจกรรมแล้ว พี่เค้าบอกว่าให้ไปแก้กรรมโดยไปขอขมาและขออโหสิกรรมกับเสด็จพ่อ ร.5 ที่ป้อมพระจุล แถวสุขสวัสดิ์ (เป็นเขตของทหารเรือ) และก็ไปขอขมาและขออโหสิกรรมพระนางเรือล่มที่วัดกู้ นนทบุรี พี่เค้าดูลายมือและบอกว่ามีรูปเรือขึ้นมา เค้าบอกว่าให้รีบไปไหว้พระนางเรือล่มเพราะเราเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในเรือล่มนั่นแหละ

ด้วยความอยากรู้ของเรา เราก็รีบไปไหว้ที่ป้อมพระจุลในวันนั้น พอเข้าไป เรามีความรู้สึกอยากร้องไห้งัยบอกไม่ถูก ทันทีที่ก้มกราบขอขมาและขออโหสิกรรม เราก็ร้องไห้ออกมา เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงได้ร้องไห้ แต่เรารู้ว่าเสด็จพ่อท่านรับรู้ที่เรามาขอขมาท่าน

หลังจากนั้นเราก็อยากพิสูจน์ต่อโดยการไปไหว้พระนางเรือล่ม ตอนที่พี่เค้าบอก เรารู้แค่ว่าท่านเป็นอัครมเหสีอันเป็นที่รักมากของกษัตริย์พระองค์หนึ่งแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของ ร.2 หรือ ร.5 (อย่างว่าคนไม่เก่งประวัติศาสตร์) การไปในครั้งนี้ เราแค่รู้ว่าศาลของท่านอยู่วัดกู้ แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ส่วนไหนของนนท์ คือ ไปมั่วเอาว่างั้นเถอะ พอไปถึงแยกปากเกร็ด เราก็โทรถามเพื่อนที่เค้าอยู่นนท์ เค้าก็บอกว่าไม่รู้จัก เดี๋ยวถามเพื่อนให้ ปรากฎว่าพี่อีกคนที่ไปด้วย เค้าบอกว่าให้ตรงไป เค้าบอกว่าต้องกลับรถใต้สะพาน และอยู่ที่เป็นตลาดหรือชุมชน เราก็หันไปถามว่าเค้าเคยไปเหรอ เค้าบอกว่าไม่เคยแต่เค้ารู้สึก (เค้ามีองค์)

ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเชื่อเค้าเท่าไร แต่ถามทางไปตลอด ปรากฎว่าต้องกลับรถใต้สะพานและหน้าซอยเป็นแหล่งชุมชนจริง ๆ แล้วที่น่าแปลกก็คือไม่มีป้ายบอกด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกำลังทำถนนรึป่าว เอาเป็นว่าสุดท้าย เราก็ดั้นด้นไปจนถึงวัดกู้ได้จริง ๆ แบบไม่น่าเชื่อ

 

​

พอเราไปถึงศาล เราก็ถึงบางอ้อว่าทำไมเราต้องไปขอขมาเสด็จพ่อ ร.5 และก็พระนางเรือล่ม เพราะจริง ๆ แล้วท่านเป็นมเหสีอันเป็นที่รักมากของ ร.5 แต่ต้องมาประสบอุปัทวเหตุเรือล่มจนทำให้สิ้นพระชนม์ในตอนที่ยังอายุไม่มาก คนจึงได้เรียกท่านติดปากว่าพระนางเรือล่ม

พอเราไปถึง เราก็ทำแบบเดิมคือ ก้มกราบขอขมาและขออโหสิกรรม ตอนที่ก้มลงไป วูบนึงเราเห็นภาพตอนที่เรือจะล่ม เรารู้แต่ว่าได้ยินเสียงคนกรีดร้องโวยวายลั่นไปหมด แล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยู่ในน้ำและหายใจไม่ออก แต่มันเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นเราก็ร้องไห้ออกมา ร้องเหมือนเสียใจอะไรมาก ๆ ด้วยความอายคนเฝ้าศาล เราจึงเดินหลบออกมาร้องไห้ริมน้ำ แล้วพี่คนที่ไปกับเราเค้าก็เดินมาบอกว่าเราเคยมีความสัมพันธ์อันใดกับท่าน แต่เราขอไม่เปิดเผยในที่นี้ ความจริงเราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เราไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเราจะเป็นคนที่อยู่ในเรือล่มประวัติศาสตร์ลำนั้นด้วย

 

​

หลังจากเราหยุดร้องไห้แล้ว พวกเราก็มานั่งคุยกับคนเฝ้าศาลซึ่งเป็นสองคนแม่ลูก เค้าก็ถามว่าพวกเรามากันได้อย่างไร เราก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงมาถูก เค้าก็เล่าอย่างในกระทู้นั่นแหละว่าหลายคนไม่เคยมาเลย แต่ก็มาถูกเพราะท่านไปเข้าฝัน พวกเราก็ถามเค้าว่าเคยเห็นท่านบ้างมั้ย เค้าบอกว่าเคยฝันเห็นข้างหลังท่านครั้งเดียว แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เค้าจะมีหนังสือประวัติท่าน รูปของท่าน แล้วก็น้ำหอมกลิ่นที่ท่านโปรดจำหน่ายด้วย ด้วยความขี้สงสัยของพวกเราจึงได้ถามเค้าว่า รู้ได้งัยว่าเป็นน้ำหอมกลิ่นที่ท่านโปรด เค้าก็เล่าประวัติอันพิสดารของน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า มีอยู่วันนึงที่เค้าเฝ้าศาล เค้าได้กลิ่นที่หอมประหลาด เค้าบอกว่าเค้าพยายามดมหาทั้งดอกไม้ ทั้งอาหาร ดมจนทั่วก็ไม่เจอกลิ่นนั้น หลังจากนั้นเค้าก็ได้กลิ่นนั้นบ่อย ๆ ที่ศาลของท่านจนเค้าพยายามไปหาส่วนผสมของกลิ่นนี้มา เค้าผสมไปผสมมาก็ได้กลิ่นแบบที่เค้าเคยได้กลิ่นนี้ออกมา หลังจากนั้นเค้าก็นำกลิ่นนี้มาบูชาท่านเรื่อยมา ซึ่งพวกเราเชื่อมั่นว่าที่มาของน้ำหอมนี้ต้องมาจากการดลจิตดลใจของท่านแน่ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะผสมไปผสมมาจนได้กลิ่นนั้นออกมาเอง

ถ้าใครมีโอกาสไปสักการะที่ศาลของท่าน ลองถามถึงน้ำหอมกลิ่นที่ท่านโปรดนี้ด้วย เป็นน้ำหอมที่หอมมาก ๆ หอมแบบไทยโบราณ ไม่ใช่กลิ่นฝรั่งทั่วไป แต่หอมแบบดอกไม้ไทย ๆ เราก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่หอมเย็น ๆ หอมนาน หอมมากจริง ๆ

 

​

วันนั้นเรากลับจากศาลมาด้วยความปลื้มใจ เราได้เช่ารูปและน้ำหอมของท่านมาบูชาด้วย พอกลับถึงบ้าน ด้วยความที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่าย ๆ ของเรา เราถามท่านว่าถ้าเราเคยมีกรรมสัมพันธ์กับท่านจริง ๆ ขอให้ท่านแสดงให้เราเห็นหน่อย (พวกนิสัยไม่ดี ชอบลองของ)

ทันทีที่คลี่รูปท่านออกมา เห็นเพียงแค่ปลายเท้าท่านเท่านั้น เราก็วูบเลย นั่งอยู่ดี ๆ เราก็ลงไปนอนแล้วมือก็โบกไปโบกมาเหมือนคนกำลังจมน้ำ ตอนนั้นเราร้องไห้โวยวายให้คนช่วยด้วยความกลัวตาย เรากลัว กลัวมาก มันหายใจไม่ออก รู้เลยว่าคนจะตายมันกลัวตายอย่างนี้เอง ซักพักเราก็ลุกขึ้นมานั่งร้องไห้ แล้วก็บอกว่า ลูกยังไม่อยากตาย ๆ ๆ พูดอยู่อย่างนั้น แล้วก็ร้องไห้แบบเสียใจสุด ๆ ตอนนั้นเราคิดว่าคงตายไปแล้วล่ะ คงร้องไห้เพราะเสียใจที่ต้องตาย เราร้องไห้อยู่นานก็เริ่มมีสติ เราก็เลยมั่นใจว่าเราคงเคยเสียชีวิตพร้อมกับท่านในเรือล่มประวัติศาสตร์ลำนี้แน่ ก็ท่านมาทำให้เห็นซะขนาดนั้น

หลังจากนั้นเราก็บูชาท่านกับเสด็จพ่อเรื่อยมา บอกตรง ๆ ว่าตั้งแต่ที่เราไปไหว้ท่านในครั้งนั้นแล้ว เรารู้สึกว่าท่านคอยตามคุ้มครองเราอยู่ตลอดเวลา มีอยู่ครั้งนึง เราไปถามที่ร้านกรอบรูปว่ามีรูปท่านกับเสด็จพ่อรึป่าว เค้าบอกว่าไม่มี แต่เค้าจะสั่งให้ เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงไม่กลับไปเอาแล้วมั้ง มีอยู่วันนึงเราเข้ามาอ่านกระทู้นี้ เราก็ร้องไห้อีก แล้วเราก็รู้สึกว่าท่านบอกว่ารูปท่านมาแล้ว ด้วยความอยากรู้ว่าเราไม่ได้คิดเอง เราก็เลยรีบไปที่ร้านรูปนั้น ปรากฏว่ารูปท่านมาแล้วจริง ๆ ด้วย เราก็เลยเอากลับมาบูชาสองรูป เป็นรูปเดี่ยวรูปนึงและรูปคู่กับเสด็จพ่อรูปนึง ไว้จะถ่ายมาลงให้ดู ตอนนี้เราอยากได้รูปขาวดำของท่านที่ถ่ายคู่กัน หายากมาก ๆ ถ้าใครมีช่วยกรุณาส่งมาให้ด้วย จะขอบคุณมาก

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ เราคิดว่าหลายคนคงคิดว่ามันเหมือนในหนังในละครเลย เรายังคิดเลยว่าเหมือนเรื่องเจ้ากรรมนายเวร เรื่องนางบาปไรทำนองนี้ มันไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ กับเรา เพื่อน ๆ หลายคนคงไม่เชื่อ แต่เราขอบอกว่าเราได้ขออนุญาตท่านแล้วที่จะนำเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรานี้มาลง และก็ขอให้เสด็จทั้งสองพระองค์เป็นประจักษ์พยานแก่ข้อมูลที่เราได้นำมาลงในครั้งนี้ด้วย

สุดท้ายนี้ กรรมอันใดที่ลูกได้ล่วงเกินเสด็จทั้งสองพระองค์ ลูกขอกราบขอขมาและขออโหสิกรรม ณ ที่นี้ด้วย ขอเสด็จทั้งสองพระองค์เมตตาและคุ้มครองลูกคนนี้ด้วย

 

โมทนา สาธุ ครับ
อ่านแต่ละตอนขนลุกซู่ตลอดเลยครับ ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แปลกดีเหมือนกัน

 

ขออนุญาตนำเรื่องของพระนางเรือล่มที่ได้จากหนังสือ "นางอันเป็นที่รักในพระพุทธเจ้าหลวง" มาลงเพิ่มเติมจากข้อมูลที่คุณแป้งได้เคยลงไว้ค่ะ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=160171

เป็นยอดดวงพระราชหฤทัย
ครั้นเมื่อพระองค์เจ้าสุนันทาฯ เจริญพระชนม์ได้ 17 ชันษา ทรงถวายพระองค์เป็นพระมเหสีในสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เวลานั้นพระบรมราชสวามีแก่ชันษากว่า 7 ปี
พระองค์เจ้าสุนันทาฯ ทรงรับราชการรับใช้สนองพระเดชพระคุณชิดใกล้เป็นที่สนิทเสน่หาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งนัก ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้ตามเสด็จและรับใช้ใกล้ชิดดั่งเป็นปิยมหาราชินีเสมอ นอกจากทรงมีพระรูปโฉมงดงามแล้ว ก็ยังทรงมีพระสติปัญญาฉลาดล้ำ ทรงมีพระอัธยาศัยจริงจังเด็ดขาด ปฏิบัติข้อราชการและรับสั่งด้วยความเฉียบคมชัดเจนเสมอป็นที่ประจักษ์แก่หมู่ข้าหลวงชาววังทั่วไปซึ่งเล่าขานกันว่าพระอุปนิสัยรับสั่งเฉียบคมนี้ทรงมีตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์แล้ว
สำหรับพระขนิษฐาอีก 2 พระองค์ คือ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนาและพระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรีนั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงก็ได้ทรงรับเป็นพระมเหสีด้วย แม้พระองค์เจ้าสว่างวัฒนาผู้เป็นพระขนิษฐามีพระราชโอรสก่อน และพระราชโอรสก็เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ด้วย แต่พระขนิษฐาก็ยังต้องทรงเกรงพระทัยและเคารพในพระองค์เจ้าสุนันทาฯ
ต่อมาเมื่อพระองค์เจ้าสุนันทาฯ ทรงพระครรภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยิ่งทรงมีพระเมตตาและห่วงใยพระมเหสีผู้เป็นที่สนิทเสน่หาพระองค์นี้ยิ่งขึ้น ทรงใส่พระทัยตลอดเวลาและเสด็จมาประทับเฝ้าพระอาการในช่วงที่ประสูติพระราชธิดาด้วย
เมื่อประสูติพระราชธิดา "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ฯ" แล้วสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงก็ทรงพระราชทานของขวัญแก่พระองค์เจ้าสุนันทาฯ เป็นนาฬิกาฝังเพชรและพระธำมรงค์ประดับเพชร 2 วง ซึ่งนับว่าสูงค่ากว่าของขวัญที่เคยพระราชทานแก่พระมเหสีและเจ้าจอมอื่น ๆ ทั้งปวง

 

พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระกันแสง
ต่อมาเมื่อทรงทราบว่าพระมเหสีผู้เป็นที่รักสิ้นพระชนม์แล้วพระองค์ถึงกับทรุดพระวรกายและรับสั่งให้แพทย์หลวงทำการแก้ไขด้วยหวังว่าพระมเหสีจะฟื้นคืนพระชนม์ชีพ และให้ชาวบ้านมาช่วยแก้ไขอีกจนบ่าย 3 เศษ
ยามเมื่อเชิญพระศพกลับพระนครนั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระกันแสง สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงประทับอึ้ง ตรัสอันใดมิออก ทรงโศกสลด มิได้บรรทมหลายวันหลายคืน พระพักตร์ซีดและพระเนตรแดงช้ำ พร่ำอาลัยรักในพระมิ่งมเหสีและพระราชธิดาน้อย ซึ่งกำลังอยู่ในพระชันษาน่ารัก
ความอาดูรนี้ปรากฎในบันทึกพระประวัติของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ว่า
"...ในระหว่างนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระปริวิปโยคมีความเศร้าโศกเป็นอันมาก จนไม่มีใครจะเข้ารอพระพักตร์ ได้มีพระกระแสรับสั่งให้ปิดพระทวารกั้นเป็นพิเศษ...ฯลฯ
...ขณะที่ทรงได้ยินเสียงกลองชนะประโคมพระศพขึ้นครั้งไร ก็ทรงพระกันแสงพิลาปร่ำรำพันไปต่าง ๆ นานา จนกระทั่งประชวรพระวาโยไป เจ้าหมื่นไวยวรนารถ (เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี) ก็เข้านวดฟั้นคั้นพระบาท และคอยเอาน้ำหอมกับทรงดมรอพระนาสิกไว้ให้คลายพระประชวร..."
เล่ากันว่าเจ้าคุณจอมมารดาแพซึ่งเป็นหม่อมห้ามคู่บารมีมาแต่แรกอาจจะขัดตาประสาหญิง จึงแกล้งให้ข้าหลวงในตำหนักของท่านเล่นละครเรื่องลักษณวงศ์ เลือกบทตอนพระลักษณวงศ์เปิดพระโกศนางทิพเกษร หมู่ข้าหลวงชาววังจึงร้องบทละครบทนั้นกันลั่นไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วนัก รับสั่งห้ามเด็ดขาดมิให้ผู้ใดร้องบทละครนี้อีกสืบไป บทละครนั้นมีว่า

"...เปิดพระโกศมิ่งมิตรพิศพักตร์
โศกสลักทรวงไหม้ฤทัยหมอง
สะอื้นอ้อนกรกอดพระโกศทอง
ชลเนตรตกต้องพระปรางนาง..."

 

อนุสรณ์สถานแห่งรักด้วยอาลัยยิ่ง
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินต่างโศกสลดกันไปทั่วในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเองก็ทรงตรมระทมทุกข์ ถึงขนาดเสด็จไปทรงเปิดพระโกศ เพื่อทอดพระเนตรพระศพของพระองค์เจ้าสุนันทาฯ อยู่หลายคราว
หลังจากพระราชทานเพลิงศพแล้วทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์และอนุสาวรีย์ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระองค์เจ้าสุนันทาฯ ทั้งที่น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี และที่พระราชวังบางปะอิน อันเป็นสถานที่ที่พระนางทรงโปรดปรานยิ่ง และสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงให้จารึกคำแสดงความอาลัยด้วยลายพระหัตถ์ ดังนี้

"ที่รฤกถึงความรัก แห่ง สมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อรรคมเหษี อันเสดจทิวงคตแล้ว ซึ่งเธอเคยมาอยู่ในสวนนี้ โดยความสุขสบายแลเปนที่เบิกบานใจพร้อมด้วยผู้ซึ่งเปนที่รัก แลที่สนิทอย่างยิ่งของเธอ อนุสาวรี นี้สร้างขึ้น โดย จุฬาลงกรณ์ บรมราช ผู้เปนสวามี อันได้รับความเศร้าโศกเพราะความทุกข์อันแรงกล้าในเวลานั้น แทบจะถึงแก่ชีวิต ถึงกระนั้นก็ยังมิได้หักหาย จุลศักราช 1243"

เวลานั้นสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระองค์เจ้าสุนันทาฯ ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีและโปรดเกล้า ฯ สถาปนาพระองค์เจ้าสว่างวัฒนา เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชเทวี" พระองค์ต่อไป

 

ตอนที่เอารูปท่านขึ้นไปแขวน ท่านดีใจมาก ท่านบอกว่าจะให้โชคให้ลาภทุกคน เราก็ไม่กล้าบอกใคร กลัวคิดไปเอง เมื่อวานนี้เลขท้ายสองตัวออกเลขที่บ้านเราเอง

 

คุณ soonyata ครับ ผมอยากทราบว่า ใครเป็นคนตรวจกรรมให้คุณ ตัวผมเองอยากแก้กรรมให้ถูกต้องบ้าง ไม่ทราบว่าท่านนั้นพอจะสงเคาระห์ผมได้บ้างไหมครับ

 

ฝากภาพนี้ให้ คุณ soonyata ครับ

 

เราบอกได้คำเดียวว่าเรา "ขนลุกค่ะ" อ่านแล้วอดที่จะทราบซึ้งไปกับความรักที่พระองค์ท่านมีให้กับพระนางอันเป็นที่รักไม่ได้จริงๆ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำเรื่องราวพระราชประวิติของพระนางเรือล่มมาลง เราเป็นคนนึงที่ชื่นชอบและศึกษาเกี่ยวกับพระราชประวัติของรัชกาลที่ห้ามาโดยตลอด และเรารู้สึกทราบซึ้งกับความรักที่ทั้งสองพระองค์มีให้กัน ได้แต่ภาวนา ขอให้ทั้งสองพระองค์ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ได้ครองคู่กัน และอย่าได้มีสิ่งใดมาทำให้ทั้งสองพระองค์ต้องมาพรากจากกันอีก

 

อ่านเรื่องราวของคุณแล้วรู้สึกได้ถึงความผูกพัน ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่รับรู้ได้....
เมื่อประมาณสองปีที่แล้วได้ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวเหมือนหญิงไทยโบราณใส่จูงกระเบน ผมสั้นกุด ได้ฝันว่าท่านได้เอ่ยปากว่า "จะไปอยู่กับแม่ไหมลูก" แล้วก็ตกใจตื่น เราก็ไม่คิดอะไรมาก คิดว่าคงดูละครมากไป แต่ต้องถ้าวความถึงความแปลกของตัวเองก่อนว่า ก่อนหน้านั้นหลายปีไปเที่ยวหาเพื่อน แล้วได้มีโอกาสไปดูร่างทรง"คุณสมชาย" แถวชลบุรี ท่านบอกว่าไม่สามารถดูให้เราได้ มองเราไม่เห็นมืดไปหมด ทําให้ทุกคนแปลกใจ แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะอาจจะมีเคราะห์ ก็ไปทําบุญต่อดวงชะตา จนดิฉันได้มาเยี่ยมน้าสะใภ้ของดิฉันซึ่งท่านเป็นร่างทรงของพระแม่รัศมีได้ทักทายว่าดิฉันมีองค์ของ "พระแม่นางเรือล่ม" ให้มารับขันธ์ซะ แต่ดิฉันก็ไม่ได้เชื่ออะไรมาก แต่ก็ไม่ลบหลู่ จนผ่านมานับปี ดิฉันได้ไปดูดวงกับหมอดูแถวนนท์ ซึ่งหนึ่งปีจะเปิดให้ดูหนึ่งครั้ง ยังไม่ทันได้ถามวันเดือนปีเกิด พอเห็นหน้าดิฉันก็ทักทันทีว่า "ไปรับขันธ์รึยัง" ทําให้ดิฉันรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที หมอดูท่านนี้บอกว่า ตอนนี้ท่านกําลังจะลงมาเต็มตัวแล้ว ให้เรารีบไปรับขันธ์รับท่านมาบูชาซะแล้วจะทําให้ชีวิตดีขึ้น ได้คุยกันดิฉันเลยถามว่ารู้ได้อย่างไร เขาก็บอกว่าดิฉันหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็น
แล้วก็พูดมาว่าถ้าเราเคยไปดูร่างทรงก็จะโดนทักเสมอ แต่ต้องเป็นทรงของเทพเท่านั้นนะถึงจะเห็น ถ้าเป็นทรงคนธรรมดาจะมองไม่เห็น เพราะเขาบารมีตํากว่าเรา พอได้ยินอย่างนี้ก็ทําให้นึกถึงทรงคุณสมชายทันที เพราะเป็นแค่ทรง วิญญานคนธรรมดาไม่ใช่เทพ อีกครั้งก็เมื่อเดือนพฤษภาแฟนดิฉันบวช ก็มีหมอทําขวัญมาดูดวงให้ก็ทักว่าดิฉันเป็นคนที่มีดวงของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ก็เปรียบเหมือนราชินี แต่ดิฉันก็ฟังไว้เฉยๆ จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ได้ไปเยี่ยมน้าคนที่เป็นร่างทรง พอดีที่เสด็จแม่รัศมีลงประทับทรง ก็ได้เข้าไปหาท่าน ก็ได้ทําการยกครูด้วยดอกไม้ทูปเทียนเหมือนกับทุกคนที่ทํา แต่ขณะยกครูที่ต้องยกพานดอกไม้เหนือหัวเสด็จแม่ก็ได้ร่ายคาถา ดิฉันก็รู้สึกปวดบ่ามากทั้งตัวและบ่าก็ค่อยๆโน้มลง แล้วแขนก็สั่นอย่างแรง แล้วดิฉันก็ล้มลงกราบพร้อมกับร้องไห้อย่างหนัก โดยรู้ตัวทุกอย่างว่าทําอะไร แต่ก็บังคับไม่ได้ พอเสด็จแม่จับลุกขึ้นมาก็หนาวมากจนสั่น เสด็จแม่ก็ถอยญาญให้ ไม่ถึงห้านาทีก็หายหนาว เสด็จแม่ก็บอกว่าท่านมาเตือนให้รู้ว่าต้องรับขันธ์เพื่อรับท่านมาบูชาได้แล้ว องค์ท่นมาในภาควัยกลางคนไม่ใช่สาวๆ ให้เราไปหาองค์เหมือนของท่านมาวันที่จะทําพิธีด้วยตามที่เราชอบ ส่วนอย่างอื่นน้าของดิฉันจะเป็นคนเตรียมของในพิธีทุกอย่างให้เองเพราะเป็นสํานักอยู่แล้ว แล้วท่านก็ได้ทักแฟนดิฉันด้วยว่าเป็นคู่บุญคู่บารมีกันให้เปรียบเสด็จพ่อ ร5 เป็นเสมือนพ่อ ให้บูชาท่านด้วย และเมื่อวันอาสาฬที่ผ่านมาดิฉันก็ไปที่วัดกู้ เมื่อดิฉันได้เห็นรูปของพระองค์ท่านก็นึกถึงภาพผู้หญิงที่มาเข้าฝันทันทีว่าเหมือนกันจริงๆ เพียงแต่ที่ในฝันนั้นจะดูมีอายุกว่ารุปที่เห็น พอดิฉันกับแฟนได้ไปสักการะท่านที่ศาลริมนําน้าคนที่ดูแลศาลก็ทักดิฉันกับแฟนอย่างแปลกว่าให้บูชาท่านให้ดีแล้วจะมีคนมาขอความช่วยเหลือเอง สิ่งที่เล่าให้ฟังทั้งหมดถ้าใครไม่ประสบพบเจอกับตัวเองก็คงไม่เชื่อ แต่ดิฉันก็คงต้องทําตามพระประสงค์ของพระแม่นางเรือล่มเพื่อเป็นการบูชาสักการะ และถือเป็นการแผ่บูญแผ่กุศล และความเมตตาของท่านให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไป

 

ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต........ที่ได้มารับรู้.

สวัสดีค่ะ
เราได้อ่านเรื่องราวของคุณ ที่เพื่อนส่งมาให้.
เราอยากบอกว่า นี่คือเรื่องจริงค่ะ. (ขณะที่เราอ่านก็ร้องไห้แทบขาดใจไม่ต่างกัน)
หากคุณต้องการจะติดต่อกับท่านและขอขมาแบบตัวต่อตัว ด้วยตัวของคุณเอง เพื่อความมั่นใจ และความสบายใจว่า ตัวคุณเองนั้นได้ขอขมาท่านแล้ว รบกวนติดต่อกลับหาเราด้วยนะคะ
เราช่วยคุณได้ค่ะ.
เราต้องการช่วยเหลือคุณจริง ๆ ค่ะ.
คุณคงอยากรู้นะคะว่าเราเป็นใครและมีความสัมพันธ์กันอย่างไรกับพระองค์ท่าน. ท่านเป็นหนึ่งครูบาอาจารย์ของเราค่ะ พระองค์ท่านได้ตักเตือนและสั่งสอนเราก่อนมาใช้ชีวิตที่นี่. พระองค์ท่านได้ให้ชีวิตไหม่กับเรา.
บุญรักษา.

http://hahamasako.diarycafe.com/
pass : hahamasako
ปล. นี่คือไดอารี่ของเราค่ะ เราเป็นแม่บ้านอยู่ต่างแดน.
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ.

 

โอย ใจสั่น ขนลุกไปหมดแล้ว ขอไปตั้งสติก่อน เดี๋ยวมาตอบใหม่

 

สวัสดีค่ะ ย้อนกลับไปร่วมปีเศษ ได้มีโอกาสไปกราบท่านทั้ง 2ที่วัดนี้ด้วยเหตุบังเอิญแกมบังคับค่ะ เข้าไปแบบไม่รู้ ไม่เห็น แต่รู้สึก หดหู่ ยังถามเพื่อนว่าเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ให้จารึก จดจำ แต่ทำไม่วัดนี้ถึงโทรมมาก

แต่ก็มีความรู้สึกว่า บอกไม่ถูกค่ะ ไม่ทราบจะบรรยายอย่างไรดี

 

พอได้อ่านเรื่องของคุณ sompiew กับคุณ hahamasako แล้วใจสั่นขนลุกมาก ๆ บางทีพวกเราเคยผูกพันกับเสด็จแม่ท่าน ท่านรักท่านคิดถึง ท่านก็มาเยี่ยมเยียนบ้างจะเป็นไรไป เมื่อวันอาทิตย์ก่อน เราไปร้าน SE-ED ไปตรงมุมศาสนา แวบนึงก็เห็นหนังสือเล่มนึงวางอยู่โดด ๆ ทับหนังสือที่อยู่บนชั้นที่เรียงอย่างเป็นระเบียบ (เหมือนมีคนหยิบมาอ่านแล้วไม่เก็บเข้าที่) เราเห็นหน้าปกก็จำได้ว่าเป็นเสด็จพ่อ ร.5 กับเสด็จแม่สุนันทา หยิบมาดูชื่อเรื่อง "ย้อนอดีตบันทึกลีลาวดี" ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเสด็จแม่ท่านนั่นแหละเพราะคนเขียนเรียนที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุนันทา และก็เค้าก็มีความผูกพันกับท่านเช่นเดียวกัน อีกอย่างเค้าระบุว่า "รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้มูลนิธิ สุนันทากุมารีรัตน์ (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี)" เราก็เลยซื้อมาแล้วก็แอบขำในใจ แหม ท่านคงอยากให้อ่านเลยจัดการหยิบออกมาให้เสร็จสรรพ ตลกดี

ความจริงคนที่เคยผูกพันกับพระมหากษัตริย์และพระมเหสีในอดีตก็มีมาก บางคนอาจเคยเป็นสนมท่าน บางคนอาจเคยเป็นลูกหลานท่าน บางคนก็อาจจะเคยเป็นข้าราชบริพารรับใช้ใกล้ชิด คนเหล่านี้จึงมีความรู้สึกแปลก ๆ เวลาที่ได้ยินเรื่องราวหรือได้กราบไหว้บูชาท่าน เป็นความรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกคุ้นหู บางทีก็ร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ (ทั้ง ๆ ที่เราก็ว่าเราไม่ได้รู้สึกเสียใจนะ ทำไมจึงร้องไห้ก็ไม่รู้) อย่างตอนที่ไปอยุธยานี่ ไปนั่งไหว้สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ต่างคนต่างมา สี่คนนั่งร้องไห้กันใหญ่ ไม่ได้รู้จักกันเลย คงเป็นเพราะชาวอยุธยาตอนช่วงเสียกรุงนั้นกลับมาเกิดกันมาก จึงยังมีความทรงจำและความรู้สึกผูกพันตกตะกอนอยู่ข้างใน ความจริงก็ไม่น่าแปลกอะไร พวกเราต่างคนก็ต่างเวียนว่ายตายเกิดกันมาตั้งไม่รู้กี่ชาติแล้ว ก็อาจจะมีบ้างซักชาตินึงที่เราอาจเป็นเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ก็เป็นได้

 

ด้วยรักที่พระองค์ทรงมีอย่างท่วมท้น
ต่ออาณาประชาราษฏร์
สายสัมพันธ์แห่งความห่วงใย
ยังโยงยึดไว้ไม่ขาดตอน
ถึงเวลา เมื่อวันนั้นมาถึง
เราจักกลับมา
เพื่อลูกหลานและบริวารของเรา
ได้อยู่สุขสบาย

แม้จะเคยทุกข์เพียงใด
เคยเจ็บปวดมากแค่ไหน
เราจักไม่ทอดทิ้งเธอ
ผู้จงรักภักดี แม้ชีวิตก็ยอมสละให้

 

อนุโมทนา ครับ
แจกไฟล์ - รวมภาพพระพุทธรูป ที่สำคัญของประเทศไทย - รวมรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก และพระอริยสงฆ์ - รวมรูปภาพ พระอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ที่เคารพ ศรัทธา
http://thaihotbiz.com/dmc/budha-picture-book.zip

พระนิพพาน จากคำครูอาจารย์
http://www.geocities.com/pranipan/

VDO ของสัตว์ต่างๆ ที่จะต้องถูกนำมาเป็นอาหารให้เราได้กิน เรื่องจริงที่หลายคนไม่เคยเห็น ว่าน่าสงสารแค่ไหน อานิสงส์ ๑๐ ประการ ของการไม่กินเนื้อสัตว์ ( อันนี้ผมผิมตามหน้าปก CD นะครับ )
1. เป็นที่รักของบรรดาเทพพรม ตลอด จนมนุษและสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์ เหี้ยมโหดเคียดแค้นในใจลงได้
4. ปราสจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด
7. ยามหลับนิมิครเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม เป็นศิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ้งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งนิพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตญาณจะมุ่งสู่คติภพ

http://thaihotbiz.com/dmc/ก่อนที่จะมาเป็นอาหารให้เราได้กิน2.zip

ดาวธรรม ถ่ายทอดสด รายการธรรมะ 24 ชม. ทั่วโลกและเสนอ Case Stady กฏแห่งกรรม

http://www.dmc.tv/multimedia.php?mediaURL=http://203.146.251.191/vcont100k_2


วัดถ้ำเขาวง อ. บ้านไร่ จ. อุทัยธานี
ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง สวยงามมาก และ ได้ทำบุญด้วย คือ ที่วัดถ้าเขาวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี พวกเราศิษย์เก่า มช. ไปเมื่อ 23-24/10/47 ที่ผ่านมา สวยงามมาก และยังเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมด้วยน่ะ ขับรถสะดวกมาก อาหารการกิน ก็เยอะ รับรองใครที่ชอบโพสต์ ถ่ายรูป เก็บภาพประทับใจ ตากล้องต้องบ่นว่าเมื่อยแล้วล่ะ เพราะว่าทุกมุมสวยไปหมด เผอิญพวกเรากลับมาเมื่อวันอาทิตย์ รูปยังไม่เรียบร้อย ค่อยขึ้นเน็ตให้ดูน่ะ ว่าสวยงามขนาดไหน (วิวหรือ สถานที่น่ะ) ไม่เสียค่าเข้าชม มีการถวายสังฆทานด้วยน่ะ มีให้อาหารปลา มีสระน้ำ และขากลับเดอนทางผ่านทางสุพรรณบุรี ยังแวะเที่ยวบึงฉวาก และอ่างเก้บน้ำกระเสียว วัดป่าเลไลย์ และ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ให้อีกด้วย ได้ทั้งความรู้ ทำบุญสนุกสนาน ถ่ายรูปเต็มที่ และ คุ้มค่ากับการท่องเที่ยวอีกด้วยน่ะ ดูรูปภาพที่นี่ครับ

http://thaihotbiz.com/dmc/tumkawwong.zip

สำคัญคือ ที่นี่มีถ้ำ สงบเงียบ เตรียมไว้ให้นั่งสมาธิ วิปัชชนา โดยสามารถไปนอนค้างคืนได้ เช่นไปเย็นวันศุกธ์กลับเย็นวันอาทิตย์เป็นต้น เพราะเราจะได้เข้าสู่ธรรมชาติ ไกลความวุ่นวายในเมือง สงบสุขกับธรรมชาติที่แท้จริง

แถมท้าย แจกไฟล์
- รวมภาพพระพุทธรูป ที่สำคัญของประเทศไทย
- รวมรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก และพระอริยสงฆ์
- รวมรูปภาพ พระอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ที่เคารพ ศรัทธา

http://thaihotbiz.com/dmc/budha-picture-book.zip


อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุสุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้าขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุสุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวงขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุสัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวงขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุสัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตาโหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ