เมื่อสัมพเวสีและเหล่าผู้ไร้ตัวตนทั้งหลายมารับส่วนบุญจากข้าพเจ้า

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย สะใภ้เพชรบูรณ์, 14 มิถุนายน 2009.

  1. สะใภ้เพชรบูรณ์

    สะใภ้เพชรบูรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +424
    สวัสดีค่ะชาวพลังจิตทุกท่าน ดิฉันไม่ทราบว่ามาตั้งกระทู้ตรงกับเรื่องที่จะเล่าหรือเปล่าอ่ะนะคะ แต่ถ้าไม่ตรงหมวดหมู่ก็ขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยค่ะ
    เพราะว่าไม่รู้ว่าจะเอาไปลงที่ กรรม หรือว่า เรื่องผีดีนะ เพราะคิดว่ามันสำพันธ์กันน่ะค่ะ

    ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่มีสัมผัสพิเศษเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ (ตั้งแต่สมัยเด็ก)
    แต่สมัยเด็กจะมีความรู้สึกเหล่านี้มาก อาจเป็นเพราะว่าเรายังจิตบริสุทธิ์อยู่ก็ได้นะคะ แต่พอโตขึ้น (จวนจะแก่อยู่แล้ว อิอิ) ก็มีความรู้สึกเหล่านี้ลดน้อยลงแต่ก็ยังรู้สึกได้อยู่

    ดิฉันเป็นคนภาคเหนือค่ะ เป็นเด็กมาจากบ้านนอก (แต่ไม่คอกนานะคะ) เพราะว่าที่บ้านของดิฉันมีอาชีพค้าขายค่ะ ทำกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า เลยตกทอดมาถึงพ่อ พ่อแกก็ขายของแบบนี้มา 30 กว่าปีแล้วค่ะ ที่บ้านก็เลยอยู่กันแบบพอเพียงมาตลอด ดิฉันเป็นลูกคนเล็ก พ่อแม่ก็อยากจะให้ลูกเป็นอะไรที่ไม่น้อยหน้าคนอึ่น อยากให้เรียนจบสูง ๆ เหมือนลูกคนอึ่นเขาบ้าง เลยส่งดิฉันไปเรียนต่างจังหวัดค่ะ ในระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในภาคเหนือเหมือนกันแต่คนละจังหวัด

    มาอยู่ต่างจังหวัดต้องปรับตัวอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งการกินการอยู่ ยอมรับค่ะว่าดิฉันเหงามาก ๆ และกลัวด้วย เพราะว่ามันแปลกที่ ฟุ้งซ่านไปหมด จนมาวันหนึ่งดิฉันก็ได้คำแนะนำจากรุ่นพี่ที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ให้เข้าชมรมที่เป็นธรรมมะสร้างสรรค์ หรือว่าชมรมพุทธ อย่างที่ใคร ๆ เขารู้จักกัน ชมรมที่นี่เขาจะส่งเราไปเข้ากิจกรรมที่เกี่ยวกับธรรมมะในสถานที่จริง การทำสมาธิ วิธีการภาวนา ก็ทำให้จิตใจดิฉันดีขึ้นมากเลย ช่วงนั้นเลยถือโอกาสถือศีล 8 มาตลอด 6 เดือนเต็ม

    และช่วงนั้นเอง ช่วงประมาณ ต้นปี พ.ศ 2551 ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง โดยที่ดิฉันไปเองเพราะว่าช่วงนั้นปิดภาคเรียน ดิฉันมาคนเดียวค่ะโดยที่ไม่มีใครติดตามมาด้วย เพราะว่าดิฉันไม่ชอบให้ใครมาติดตาม คือ ไม่อยากให้มีห่วงน่ะค่ะ หากเขาเป็นอะไรขึ้นมา ดิฉันกลัวว่าจะเดือดร้อน เลยขอไปคนเดียวจะดีกว่า พอมาถึงวัดนั้นมีบรรยากาศสงบมากๆ ร่มรื่น มีแม่ชีและอุบาสิการวม 2 คน พระและเณรแยกต่างหากค่ะ มาอยู่ที่นั่น 6 วันเต็ม ๆ เลย แม่ชีและอุบาสิกาที่นั่นใจดีมากค่ะ อยู่ที่นั่นไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย เรามาอยู่ที่นั่นก็เหมือนเป็นเด็กวัดเลยค่ะ

    วันไหนเขาทำบุญเลี้ยงพระก็ลุกเช้าหน่อยมาช่วยเขาเตรียมของ ปัดกวาด ทำความสะอาดถ้วยจาน รับบุญจนมือเปื่อยทุกวัน อิอิ แต่ก็อิ่มบุญค่ะ เพราะว่า เวลาพระบิณฑบาตรเสร็จก็จะขึ้นมาบนศาลา แล้วมาสวดให้พรน่ะค่ะ ดิฉันเรียกไม่ถูกเหมือนกัน หรือไม่ตอนทำบุญเลี้ยงพระเสร็จ ก็จะมานั่งไหว้รับบุญแบบนี้ทุกวันเลยค่ะ รู้สึกว่าเราได้บุญไปเต็ม ๆ เลย

    อย่างที่ว่าแหล่ะค่ะ ตามที่ดิฉันได้รับรู้มานะคะว่า ใครที่เป็นพระบวชใหม่เข้าวัดวันแรกหรือว่าวันที่ 2 มักจะเจอดีใช่ไหมคะ ดิฉันเชื่อค่ะ ในวัดต้องมีผีแน่นอนค่ะ ถึงแม้ว่าหมาไม่หอนก็มีนะคะ ขอบอกตรงนี้เลย แต่ดิฉันไม่ได้เจอดีหรอกค่ะ....แต่ดิฉันเรียกเขามา แห่ะๆๆ หลาย ๆ คนอาจจะหาว่าดิฉันบ้าบอหรือไร อยู่ ๆ มาเรียกเขามา ไม่กลัวหรือ... จุ๊ ๆ ๆ ๆ อย่าเอ็ดไปค่ะ !!!
    ดิฉันจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้แหล่ะ!!!

    คึนแรก...ดิฉันอาบน้ำแต่หัวค่ำ นั่งสนทนาธรรมกับพระอาจารย์และแม่ชีเรื่อยไปจนเกือบ 5 ทุ่ม ก็มุดมุ้งเตรียมตัวจะเข้านอนที่นอนของดิฉันอยู่บนศาลาค่ะ แม่ชีและอุบาสิกาจะไปนอนอีกที่หนึ่ง หากจากดิฉันประมาณ 4 - 5 ก้าว พอมุดมุ้งกราบพระแล้วจะเตรียมตัวเข้านอน นอนเล่นไปได้แปปหนึ่งประมาณเกือบเที่ยงคึนก็รู้สึกเสียวสันหลัง เพราะว่าบรรยากาศโดยรอบมันมึดและเงียบมาก เพราะทุกคนหลับกันหมดแล้ว จะไม่ให้เสียวสันหลังได้ไงคะ ดิฉันก็คนนิคะก็กลัวเป็นนะ

    เพราะว่าถักจากที่ดิฉันนอน ห่างจากตัวดิฉันไปประมาณซักไม่เกิน 20 ก้าว เป็นเมรุเผาศพ เมรุนั้นไม่ได้อยู่ซอกหลีบตรงไหนของวัดเลย แค่ดิฉันนอนหัวหน้าไปทางเมรุก็เห็นชัดแจ๋วเลยค่ะ -*- ซึ่งวันนั้นก็ได้มีพิธีการเผาไปเมื่อตอนเย็นวันนั้นเอง ก็เกิดความกลัวอ่ะสิคะ ก็มีดิฉันคนเดียวนิที่ยังตึ่นอยู่ หากว่าผีจะหลอกก็หลอกดิฉันคนเดียวนี่ล่ะค่ะ หลอกคนอึ่นเขาจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะคะ

    ดิฉันเลยนึกขึ้นได้ค่ะ ว่าต้องเบิกบุญ เลยตัดสินใจลุกขึ้นนั่งแล้วทำจิตใจให้นิ่งไว้ค่ะ เสร็จแล้วก็เริ่มเลยค่ะ ดิฉันพูดว่า

    "ด้วยอำนาจของพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย ขอให้บุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าเคยทำทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ทั้งหมด มอบให้กับสัมพเวสีทั้งหลายที่อยู่ในศาลาแห่งนี้ ในบริเวณรอบนอก ถนน เมรุ และที่ต่าง ๆ รวมไปถึงเทพเทวาอารักษ์ กินรี เปรต อมนุษย์เจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่ไร้ตัวตนที่ข้าพเจ้าสามารถแผ่ไปถึง ขอให้มารับบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้ด้วย หากว่าได้รับแล้วจงกล่าวอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้า และขอให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิตยิ่ง ๆ ขึ้นไป สำหรับวันนี้ข้าพเจ้ามาดีต่างคนต่างอยู่ ก็ขออย่ามารบกวนกัน และขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าตลอดระยะเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ด้วยเทิญ.."

    จากนั้นก็นั่งภาวนาไปซักพัก ไม่นานหรอกค่ะรู้สึกเลย ไม่เกิน 5 นาที
    ดิฉันก็เปลี่ยนจากการนั่งภาวนาเป็นการนอนภาวนาซะเลย เพราะอะไรน่ะหรือคะ
    เหอๆๆ ตรงบริเวณที่ดิฉันนอน ด้านล่างจะเป็นใต้ถุนใช่ไหมคะ ถึงแม้ดิฉันจะหลับตาปี๋พยายามภาวนาอยู่ แต่ดิฉันก็ยังรู้สึกถึงบรรยากาศข้างล่างค่ะ เหมือนตลาดนัดเลย มาออกันเต็มบริเวณที่ดิฉันนอนอยู่เลย เพราะว่าเขาขึ้นศาลาไม่ได้ มากันเยอะมาก มาออตรงที่ดิฉันนอนตรงด้านล่างประมาณ 3 แถวเป็นรูปเกือกม้า ล้อมรอบตัวดิฉันน่ะค่ะ ถ้าให้คำนวนจำนวนที่เขามาก็ประมาณไม่เกิน 50 ท่าน แต่ยังไงมากกว่า 20 ขึ้นไปแน่นอนค่ะ

    พวกเขามาออกันอยู่ไม่รู้นานแค่ไหน ดิฉันตึ่นมาอีกทีก็เช้าแล้วและวันนั้นก็เป็นวันพระพอดีค่ะ เลยรับบุญเลี้ยงพระกัน เลยเอาไปเล่าให้พระและแม่ชีฟัง เขาบอกว่าดีแล้ว เขาจะได้รับบุญ และเขาคงแปลกใจด้วยว่า ใครวะอยู่ ๆ ไม่เคยเห็นหน้าแล้วมาบอกให้เรารับบุญ เขาก็คงงง ๆ ด้วยล่ะค่ะ

    วันต่อมาดิฉันก็เบิกบุญตามปรกติ แต่เขาเหมือนจะอนุโมทนาอยู่ไกล ๆ นะคะ ไม่ได้มาออกันแล้ว คืออนุโมทนาในที่ของเขาน่ะค่ะ ตอนแรกที่เขามาเขาคงไม่รู้จักเรามังคะ แต่ดิฉันก็อยู่รอดมาได้ 6 วันกลับถึงหอพักที่มหาวิทยาลัยอย่างปรกติสุขค่ะ

    เรื่องของดิฉันก็มีอยู่เท่านี้ค่ะ.....................
     
  2. Ta WHK

    Ta WHK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,133
    ค่าพลัง:
    +6,078
    น่ารักจัง ทั้งบทความทั้งเจ้าของกระทู้ อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  3. นุภาวัฒน์

    นุภาวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    774
    ค่าพลัง:
    +270
    คุณครับ ที่นำประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง ขออนุโมทนาบุญด้วยคนครับ
     
  4. look-kajeab

    look-kajeab สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาด้วยคนนะคะ การเป็นผู้ให้ทำให้เรามีความสุขค่ะ
     
  5. +||_แร๊ปรักชาติ_||+

    +||_แร๊ปรักชาติ_||+ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2008
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +20
    wowwwwwwwwwwww
    เจอแบบนี้เป็นนู๋
    ประสาทกินกันพอดีเลยค่ะ
     
  6. Ream

    Ream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +215
    ดีครับได้อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า ตัวเรานี้ต้องทำบุญเยอะๆ แต่ไม่เคยเจอกับประสบการณ์อย่างนี้ครับ ปกติผมจะสวดมนต์และ นั่งสมาธิทุกคืน ประมาณหนึ่งชั่วโมง หรือ ชั่วโมงครึ่ง ยังไม่เก่งครับ นั่งนานกว่านี้ไม่ไหวครับ มันปวดขามาก และเสร็จแล้วก็อุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล ทุกครั้ง อยากมีประสบการณ์ไปปฏิบัติธรรมที่วัดเหมือนท่านบ้าง แต่ไม่มีโอกาสซักที
    โมทนาในบุญกุศลด้วยครับ สาธุ
     
  7. เวิ้นเว้อ

    เวิ้นเว้อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    อนุโมทนา ด้วยคนค่ะ

    เบิกบุญ เหมือนเบิก เงินใน Bank เลยนะคะ

    ต้องหมั่นขยันทำบุญ จะได้มีบุญไว้ให้เบิก กันนะคะ

    น่ารักจังค่ะ
     
  8. สะใภ้เพชรบูรณ์

    สะใภ้เพชรบูรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +424
    สวัสดีค่ะสมาชิกทุกท่าน หลังจากที่ดิฉันได้เสนอเรื่องราวไปก็มีคนเข้ามาอ่านกันไม่มากก็น้อยนะคะ เดี๋ยววันนี้ดิฉันขออนุญาติเล่าต่อละกันนะคะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวของดิฉันเองค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่น่ากลัวเท่ากับเรื่องแรก แต่ก้อคงน้อยกว่านะคะ


    เริ่มเรื่องเลยละกันค่ะ เมื่อตอนปี พ.ศ 2546 ช่วงปลาย ๆ ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ดิฉันดรอปเรียนในในระดับ ปวส เพราะว่าตอนนั้นอยากจะทำงาน ก็อยากมีตังอะนะ เลยบอกที่บ้านว่าไม่อยากเรียนแล้ว อยากทำงานมากกว่า ทั้งที่ว่าที่บ้านก็อยากให้ดิฉันได้เรียนเพื่อที่จะได้ทำงานที่ดี ๆ ต่อไป แต่ยังไง ๆ แล้วนะคะ คนมันจะไปมันก็ต้องไปใครก็ฉุดไม่อยู่ล่ะคุณผู้อ่านว่าไหมล่ะ


    จากนั้นมาดิฉันก็ได้ทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยทำหน้าที่เป็นคนเปิดเพลง เพราะว่าร้านอาหารแห่งนั้นเป็นร้านอาหารใหญ่เหมือนกัน และจะมีบริการคาราโอเกะให้กับลูกค้า หน้าที่ของดิฉันเริ่มต้นจากเวลา 12.00 - 20.00 ต้องต่อสู้กับลูกค้าหลายรูปแบบขอแซงคิวกันก็มี แย่งไมค์กันก็มี บางคนเมาก็ยังมาหาเรื่องดิฉันอีก ปวดหัวค่ะ บางทีดิฉันก็ทนไม่ไหวก็มีนะ แต่ต้องอดเอาไว้ เพราะว่าอย่างไรเสียจะทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีต่อเราและทางร้านไม่ได้ เพราะว่าหน้าที่น่ะค่ะ มันก็ต้องทำเนาะ อย่างที่หลาย ๆ คนคงเข้าใจจิตใจนี้ดี ดิฉันทำมาจนแขกที่มาประจำรู้จักดิฉันและดิฉันก็จำหน้าเขาได้


    พอตอนกลางคึนเลิกงานก็จะมีคนมาเปลี่ยนเวร ก็เป็นเวลาอิสระของดิฉันแล้วอยากไปไหนก็ตามใจดิฉันล่ะ 5555++ แต่ว่าช่วงวันอาทิตย์ดิฉันต้องอยู่ดึกเพราะว่าเป็นวันหยุดของเวรดึกน่ะค่ะ ก็จะเป็นแบบนี้อาทิตย์เว้นอาทิตย์ แบบว่าผลัดกันหยุดอ่ะนะคะ (ถ้าไม่หยุดเลยเดี๋ยวก็รวยแย่สิคะ อิอิ)


    มีอยู่คึนหนึ่ง ดิฉันเข้าเวรแทนเวรดึกที่ต้องหยุดวันนั้นเลิกประมาณ 01.30 ก็เก็บของ พอดีแขกที่ยังไม่กลับก็ชวนดิฉันนั่งดึ่มด้วยกัน ดิฉันนั่งอยู่เดี๋ยวหนึ่งจึงขอตัวกลับเพราะว่าดึกมากแล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูหนาวช่วงดึก ๆ บรรยากาศโดยรอบเย็นมาก ๆ ลองนึกดูก็แล้วกันค่ะ ขี่มอไซด์คนเดียวเปล่าเปลี่ยวอุรา ในใจก้อนึกภาวนาเมื่อไหร่จะถึงบ้านซักที (วะ)


    สายลมหนาวพัดมาตามแรงลมปะทะหน้า และร่างกายสั่นสะท้านไปหมด ดิฉันก็เริ่มตัวสั่นหงิก ๆ เพราะพิษลมหนาว ขี่รถมาถึงครึ่งทางและ...ดิฉันก็นึกขึ้นได้ "ร้องเพลงดีกว่าเรา" ก็เลยร้องเพลงเรื่อยเปื่อย บอกก่อนเลยว่าไม่ได้ร้องเพลงแก้หนาวนะคะ แต่ว่าทางข้างหน้าก่อนที่จะถึงบ้านของดิฉันอีก 4 กม มันเป็นทางโค้ง โค้งค่อนข้างจะเยอะ และโค้งนี้มีกิตติศัพท์ที่ชาวบ้านแถว ๆ นั้นเรียกว่า โค้งผีสิง หรือว่าโค้ง 100 ศพ


    พูดถึงทางโค้งนี่ก่อนนะคะว่า ทางโค้งนี้ทางบ้านดิฉันเขาล่ำลือกันมาว่าเจ้าที่ทางนี้จะต้องเอาคนมาเป็นบริวารปีละ 1 คน ซึ่งก็จริงตามนั้น ส่วนมากจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือว่าคนถิ่นนี้ แต่จะไม่ค่อยมีคนจากถิ่นอึ่นมาตายที่นี่ และยังไม่พอยังต้องมีตัวตายตัวแทนกันอีก


    มาถึงตรงนี้...หลาย ๆ ท่านคงนึกออกแล้วใช่ไหมคะว่าดิฉันร้องเพลงไปทำไม อากาศก็หนาวทรวงออกอย่างนี้ แน่นอนค่ะดิฉันร้องเพลงปลอบใจตัวเองว่ามันไม่มีอะไร ดิฉันกลัวผีค่ะ เพราะว่ามันดึกแล้ว กอร์ปกับที่ดิฉันนึกถึงคำของพ่อของดิฉันที่หลอกดิฉันไว้ตอนที่จะออกเที่ยวกลางคึนว่า "ช่วงประมาณตี 1 ตี 2 เป็นเวลาของผี ผีจะออกมาในเวลานี้กัน" เอาล่ะสิ.....งานเข้าเลย ดิฉันก้อใจหวั่น ๆ


    แต่ทำไงได้ล่ะ.....ก็มันทางผ่านนี่นา ไม่กลับบ้านทางนี้จะกลับทางไหนล่ะ ไปทางไฮเวย์อ้อมไกล รถเยอะอีก เผลอ ๆ จะตายก่อนกลัวอีกด้วยซ้ำ นึกได้ก้อร้องเพลงแบบไม่รู้ว่าท่วงทำนอง เนื้อเพลงไปอยู่ท่อนไหนต่อท่อนไหน ไม่รู้ว่าเพลงอะไรด้วยซ้ำ ร้องแบบตะโกน ๆ แล้วสิ่งที่ดิฉันไม่นึกว่ามันจะเกิด ก็เกิดขึ้นค่ะ (ลืมบอกไปว่าทุกครั้งที่ดิฉันต้องกลับดึกจะร้องเพลงทุกครั้ง)


    ตรงทางโค้งที่ว่านี้ จะมีต้นไม้ใหญ่ ๆ อยู่ต้นหนึ่ง และมีศาลเตี้ยอีก 2 ศาล
    ดิฉันขี่รถไม่เร็วเท่าไหร่นัก พอมาถึงตรงต้นไม้ที่ว่า หางตาดิฉันกลับมองเห็นสิ่ง ๆ หนึ่ง
    ตามถนนจะมีไฟกริ่งอยู่แล้วตามถนน จึงสว่างค่ะ สิ่ง ๆ นั้นที่ดิฉันเห็นเป็นเหมือนลูกกลม ๆ มันมาจากต้นไม้ใหญ่นั่นค่ะ ดิฉันขออธิบายก่อนนะคะว่าต้นไม้นั้น คงไม่มีลูกใหญ่ขนาดนั้น และต้นไม้นั้นอยู่ตรงข้างทางซึ่งจะเป็นเนินลงไปนิดหน่อย


    แต่สิ่งนั้นที่ดิฉันเห็นเป็นลูกกลม ๆ สีดำสนิท ขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลแต่จะออกรี ๆ หน่อย มันเกิดขึ้นไวมาก มันกลิ้งหลุน ๆ ทั้ง ๆ ที่ ๆ ตรงนั้นมันจะไม่สามารถกลิ้งอย่างตั้งใจแบบนี้ได้ ถ้าเป็นลูกไม้ธรรมดามันตกจากต้นถึงกลิ้งได้ก็จะกลิ้งไม่ไกลจากต้นแม่นัก แต่นี่พี่แกดันกลิ้งหลุน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตั้งใจจะมาชนที่ล้อหลังรถมอไซด์ของดิฉันค่ะ "ปึ้ง!!" ดิฉันตกใจค่ะ กริ๊ดค่ะกริ๊ด.............รถเซไปเซมาเล็กน้อยแต่คุมอยู่ ดิฉันจึงชะลอรถและหันหลังไปมองปรากฏว่า


    เบื้องหลังของดิฉันมีแต่ความว่างเปล่าค่ะ ไม่มีอะไรในกอไผ่ ดิฉันตาฝาดงั้นหรือ ดิฉันไม่ได้เมา ดิฉันมีสติ แต่สิ่งนั้นมันต้องเป็นสิ่งไม่ธรรมดาแน่ดิฉันคิด ถ้าเป็นสิ่งธรรมดาและมาชนล้อรถจริง ๆ มันต้องอยู่กลางถนนสิ มันหายไปไหนได้อย่างไร


    พอตอนเช้าเอาเรื่องมาเล่าให้แม่และพี่สาวของดิฉันฟัง พวกเขาก็ลงความเห็นกันว่า ไอ้สิ่ง ๆ นั้นน่าจะเป็นหัวคนที่ตายไปแล้ว จะมาเล่นงานดิฉันแต่ไม่สำเร็จ ก็บอกแค่ให้ดิฉันระวังตัวเอาไว้ เห๊อออออ....คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเน้ออออออออ หากว่าวันนั้นดิฉันขี่รถไว ๆ อาจจะเสร็จเจ้าผีตนนั้นแล้วก็ได้ ป่านนี้คงหาคนมาแทนที่อยู่ก็เป็นได้นะคะ

    เดี๋ยวถ้ามีโอกาสเดี๋ยวดิฉันจะเอาเรื่องตึ่นเต้น ๆ มาให้อ่านกันอีก อย่าลืมเข้ามาบ่อย ๆ นะคะ..............
     
  9. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ประสบการณ์เยอะจริงๆ ตอนที่แผ่สวดบุญให้วิญญาณ คิดตามไปด้วยขนลุกซู่เลย
     
  10. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ขอบคุณครับ ขอให้มีความสุขกับบุญกุศลที่ทำนะครับ อนุโมทนาครับ
     
  11. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +426
    ขอบคุณที่เล่าให้อ่านกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...