1. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109
    ช่วยดูให้หน่อยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10314.jpg
      SDC10314.jpg
      ขนาดไฟล์:
      551.4 KB
      เปิดดู:
      115
    • SDC10315.jpg
      SDC10315.jpg
      ขนาดไฟล์:
      455 KB
      เปิดดู:
      85
    • SDC10316.jpg
      SDC10316.jpg
      ขนาดไฟล์:
      694.6 KB
      เปิดดู:
      86
    • SDC10317.jpg
      SDC10317.jpg
      ขนาดไฟล์:
      629.1 KB
      เปิดดู:
      88
    • SDC10318.jpg
      SDC10318.jpg
      ขนาดไฟล์:
      395.5 KB
      เปิดดู:
      78
    • SDC10319.jpg
      SDC10319.jpg
      ขนาดไฟล์:
      485.3 KB
      เปิดดู:
      81
    • SDC10320.jpg
      SDC10320.jpg
      ขนาดไฟล์:
      489.9 KB
      เปิดดู:
      91
  2. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สมเด็จดี เกจิ
    พระชินารชยังไม่ชอบ
     
  3. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109
    หลวงปู่สุก เนื้อทองแดงเถื่อน หลังจาร รบกวนด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10331.jpg
      SDC10331.jpg
      ขนาดไฟล์:
      150 KB
      เปิดดู:
      80
    • SDC10333.jpg
      SDC10333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      234.3 KB
      เปิดดู:
      70
    • SDC10334.jpg
      SDC10334.jpg
      ขนาดไฟล์:
      165.8 KB
      เปิดดู:
      70
  4. เสถียน

    เสถียน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +1,084
    คงแท้มั้ง พี่
     
  5. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    รอพี่นิลศิลป์ จะชำนาญหลวงปู่ศุข
     
  6. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109
    เหรียญชุดนี้ใครสร้างและปลุกเสกครับขอความรู้ด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10358.jpg
      SDC10358.jpg
      ขนาดไฟล์:
      680.9 KB
      เปิดดู:
      75
    • SDC10359.jpg
      SDC10359.jpg
      ขนาดไฟล์:
      698.9 KB
      เปิดดู:
      152
    • SDC10360.jpg
      SDC10360.jpg
      ขนาดไฟล์:
      576.7 KB
      เปิดดู:
      70
    • SDC10361.jpg
      SDC10361.jpg
      ขนาดไฟล์:
      623.1 KB
      เปิดดู:
      85
    • SDC10379.jpg
      SDC10379.jpg
      ขนาดไฟล์:
      286.2 KB
      เปิดดู:
      88
    • SDC10380.jpg
      SDC10380.jpg
      ขนาดไฟล์:
      355.8 KB
      เปิดดู:
      88
  7. เก๋สองแคว

    เก๋สองแคว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +18
    ชอบ 2 เหรียญแรกครับ..อิอิ..อยากได้มั่งอ่ะ
     
  8. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109
    หลวงพ่ออะไรบ้างครับรบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10350.jpg
      SDC10350.jpg
      ขนาดไฟล์:
      481.2 KB
      เปิดดู:
      334
    • SDC10351.jpg
      SDC10351.jpg
      ขนาดไฟล์:
      585.7 KB
      เปิดดู:
      233
    • SDC10352.jpg
      SDC10352.jpg
      ขนาดไฟล์:
      272.1 KB
      เปิดดู:
      94
    • SDC10353.jpg
      SDC10353.jpg
      ขนาดไฟล์:
      287.2 KB
      เปิดดู:
      83
    • SDC10354.jpg
      SDC10354.jpg
      ขนาดไฟล์:
      589.5 KB
      เปิดดู:
      147
    • SDC10355.jpg
      SDC10355.jpg
      ขนาดไฟล์:
      495.3 KB
      เปิดดู:
      99
    • SDC10356.jpg
      SDC10356.jpg
      ขนาดไฟล์:
      549.7 KB
      เปิดดู:
      258
    • SDC10357.jpg
      SDC10357.jpg
      ขนาดไฟล์:
      465.7 KB
      เปิดดู:
      174
    • SDC10368.jpg
      SDC10368.jpg
      ขนาดไฟล์:
      378.3 KB
      เปิดดู:
      85
    • SDC10369.jpg
      SDC10369.jpg
      ขนาดไฟล์:
      337.7 KB
      เปิดดู:
      98
  9. BaByUltraMan

    BaByUltraMan เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,647
    สิวลี หลวงพ่อกวย ครับ จริง แท้ ไม่สามารถบอกได้
     
  10. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    [​IMG] [​IMG]
    ท่านเจ้าคุณพระวิบูลวิชิรธรรม (สว่าง อุตฺตโร) หลวงพ่อสว่าง วัดคฤหบดีสงฆ์ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร

    วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2009 เวลา 11:35 น. คณะศิษยานุศิษย์ ชมรมศิษย์หลวงพ่อสว่าง




    [​IMG]

    พระวิบูลวชิรธรรม นามเดิม สว่าง นามสกุล เจริญศรี นามฉายา อุตตโร นามบิดา ขุนเจริญสวัสดิ์ (เจริญ เจริญศรี) นามมารดา หอม หรือ ก้อนดิน เกิด ณ บ้านน้ำหัก ตำบลท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2426 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม เป็นบุตรคนที่ 5 ของขุนเจริญสวัสดิ์ (เจริญ เจริญศรี) แต่เป็นบุตรคนเดียวของคุณแม่หอมหรือก้อนดิน ทั้งนี้เนื่องจากโยมมารดาของท่านเป็นภรรยาคนที่ 2 ของขุนเจริญสวัสดิ์ (เจริญ เจริญศรี) นั่นเอง มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน 5 คน ซึ่งถึงแก่กรรมไปหมดแล้วก่อนที่หลวงพ่อจะถึงแก่มรณภาพเมื่อหลวงพ่อพระวิบูลวชิรธรรม เกิดได้เพียง 5 วัน โยมมารดาของท่านก็ถึงแก่อนิจกรรม ได้มีมารดาเลี้ยงดูแลท่านจนเติบใหญ่ ท่านก็เริ่มศึกษาเล่าเรียนอักขระสมัย และหนังสืออักขระขอม พอท่านอายุได้ 13 ขวบ ขุนเจริญสวัสดิ์บิดาก็ของท่านก็ถึงแก่กรรม มารดาเลี้ยงได้นำพระวิบูลวชิรธรรมไปฝากกับหลวงพ่อเผือก หรือพระครูบรรพโตปมญาณ วัดหัวดงเหนือ ตำบลหัวดง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ หลวงพ่อ ฯ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมูลกัจจายน์จนอายุได้ 20 หลวงพ่อพระวิบูลวชิธรรม อุปสมบทเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2445 ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ณ พัทธสีมา วัดขุนญาณ ตำบลคลองเมือง อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี พระญาณไตรโลกย์ (สะอาด) วัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยธรศรี วัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์พระปลัดแพ วัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอนุสาวนาจารย์พระอุปัชฉาย์ ให้นามฉายาว่า “อุตตโร” เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดศาลาปูน เป็นเวลา 2 ปี จึงกลับมาอยู่กับหลวงพ่อเผือก หรือพระครูบรรพโตปมญาณ ที่วัดหัวดงเหนือ ตำบลหัวดง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จากพระอาจารย์สด (พระครูสวรรค์วิถี) อยู่ 2 พรรษา แล้วได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์เป็นเวลา 2 พรรษา ต่อจากนั้นได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดเขาแก้ว (วัดมณีบรรพตวรวิหาร) อำเภอเมือง จังหวัดตาก อีก 2 พรรษา แล้วจึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่วัดท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เมื่ออาจารย์ปั้นเจ้าอาวาสวัดท่างิ้วได้มรณะภาพลง หลวงพ่อพระครูน้อย ขณะนั้นยังเป็นประทวนสมณะศักดิ์อยู่ ได้ตั้งให้หลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาสวัดท่างิ้ว ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ต่อมาในปี พ.ศ.2468 หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งห้เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษณ์บุรี และกิ่งอำเภอแสนตอ จังหวัดกำแพงเพชร (สมัยนั้นอำเภอคลองขลุงยังเป็นอำเภอขาณุอยู่ อำเภอขาณุยังเป็นกิ่งอำเภอแสนตอ ต่อมาราวปี พ.ศ.2493 จึงเปลี่ยนอำเภอแสนตอเป็นอำเภอขาณุวรลักษบุรีมาจนทุกวันนี้) แต่ยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่างิ้วอยู่อีกด้วย และยังอยู่ที่วัดท่างิ้วตามเดิม ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ใน พ.ศ.2468 ครั้นถึงปี พ.ศ.2470 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูวิบูลวชิธรรม” ครั้นทางราชการได้แยกอำเภอขาณุวรลักษบุรี เป็นอำเภอคลองขลุง กิ่งอำเภอแสนตอเป็นอำเภอขาณุวรลักษบุรี แล้ว หลวงพ่อ ฯ ได้รับใบตราตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาประจำตำบลคลองขลุงเมื่อปี 2500 คณะสงฆ์อำเภอคลองขลุงและประชาชนชาวตำบลท่าพุทรา ได้พร้อมกันไปอาราธนาพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระวิบูลวชิรธรรม ให้ขึ้นมาประจำอยู่ที่วัดคฤหบดีสงฆ์ ตำบลท่าพุทรา อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ดังนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระวิบูลวชิรธรรม จึงได้มาประจำอยู่ที่วัดคฤหบดีสงฆ์ จนตราบเท่าถึงอวสานแห่งชีวิตของท่าน เมื่อ พ.ศ.2501 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระวิบูลวชิรธรรมต่อมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2520 ท่านก็ได้เริ่มป่วยมีอาการไอมากผิดปกติ ท่านได้เรียกหมอชาวบ้านมาฉีดยาให้ และหลวงพ่อท่านมีความรู้ทางแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างดี ท่านก็ได้ใช้ทายกไปนำเครื่องยาสมุนไพรมาต้มยาฉันเอง อาการไอก็ไม่ทุเลาลงเท่าที่ควร พอวันที่ 19 มกราคม 2520 เวลาบ่าย นายแพทย์ปรีชา มุสิกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร ได้มาเยี่ยมนมัสการหลวงพ่อที่วัดคฤหบดีสงฆ์ ก็มาพบอาการไอของหลวงพ่อท่าน ไอมากผิดปกติจึงได้อาราธนานิมนต์หลวงพ่อไปตรวจฉายเอ็กซเรย์ดูที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ในวันที่ 19 มกราคม 2520 เวลา 15.00 น. หลวงพ่อก็ออกเดินทางจากวัดคฤหบดีสงฆ์โดยรถยนต์ของนายแพทย์ปรีชา มุสิกุล ดังกล่าว พอถึงโรงพยาบาลกำแพงเพชร แพทย์ก็ทำการตรวจฉายเอ็กซเรย์พบว่าปอดข้างขวาเป็นแผล แพทย์ลงความเห็นให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลวงพ่อก็อยู่รักษาตัวตามความเห็นของแพทย์ ในการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น อาการไอทุเลาลงบ้าง แต่ท่านฉันอาหารไม่ได้ มีอาการอ่อนเพลีย มีประชาชนมาเยี่ยมจากจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อุทัย ท่านจะพูดเสมอว่า เจ็บป่วย ตาย เป็นของธรรมดา มนุษย์ทุกรูป ทุกนาม ก็ต้องเจอ ทุกคนจะหลีกเลี่ยงความตายหาได้ไม่ หลวงพ่อมีสติดีอยู่ตลอดเวลาแม้ท่านนอนรักษาตัวอยู่ก็ให้พระภิกษุที่เฝ้าปฐมพยาบาลรับใช้อยู่จุดธูปเทียนบูชาพระทุกคืน มิได้ขาด ครั้นถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2520 เวลาเช้าพอตื่นขึ้นท่านบอกว่าวันนี้ดีกว่าทุกวัน รู้สึกสบายใจขอน้ำล้างหน้าพระหยิบให้ท่านก็รับเอาไปเสกแล้วก็ล้างหน้า แล้วพูดว่าอยากฉันน้ำมนต์ร้อยปีที่วัดคฤหบดีสงฆ์ จึงใช้ให้นายจำนงค์ คชวารี ไปเอา คนไปเอาน้ำมนต์ยังไม่กลับเลย ขณะนั้นเป็นเวลา 14.00 น.เศษ ท่านพูดว่าใจคอไม่ดี บอกให้พระสาครกับพระประสงค์จุดธูปเทียนแล้ว ตัว จ.ส.ต.สังคม คชฤทธิ์ ก็วิ่งไปตามหมอ หมอรีบมากันเป็นจำนวนหลายนายที่จำได้ก็มีหมอสมาน หมอไพโรจน์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอง ฯ และมีแพทย์อีก 2 นาย นางพยาบาลอีก 3 คน ได้มาช่วยกันปฐมพยาบาลและฉีดยา ตลอดทั้งหลวงพ่อพระครูนิยุติธรรมศาสตร์ เจ้าคณะอำเภอบรรพตพิสัย อยู่ในห้องด้วย พระสมุห์เสาร์ วัดคลองเจริญก็อยู่ด้วย ครั้นเวลา 14.30 น.ท่านก็สิ้นลมหายใจ ขณะที่ท่านนอนตะแคงพนมมือด้วยอาการอันสงบ มิได้ดิ้นรนกระวนกระวายแต่ประการใด ฉะนั้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2520 เวลา 14.30 น.ตรงกับวันอังคารขึ้น 13 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเส็ง เป็นวันเวลาที่ศิษยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือสักการะบูชาในท่าน ท่านได้ไปแล้วไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำให้ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายต้องน้ำตานองหน้าโศกเศร้าอาดูรเป็นอย่างยิ่ง ศิริรวมอายุได้ 94 ปี 7 เดือน 25 วันพรรษา 74 พรรษา ต้องขอขอบคุณข้อมูลประวัติและรูปถ่าย จากชมรมศิษย์หลวงพ่อสว่าง ครับ

    ข้อมูลจาก ThaiAmuletWeb.com
     
  11. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    [​IMG] [​IMG]

    เหรียญสมเด็จพระสังฆราชเจ้า สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส


    พระประวัติเบื้องต้น
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ และเจ้าจอมมารดาแพ ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ ปีวอก จ.ศ. ๑๒๒๑ ตรงกับวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๓ เมื่อวันประสูติ นั้นฝนตกใหญ่ พระบรมชนกนาถจึงทรงถือเป็นมงคลนิมิตพระราชทานนามว่า พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ หลังจากประสูติได้เพียงปีเดียว เจ้าจอมมารดาของพระองค์ก็ถึงแก่กรรมพระองค์จึง ทรงอยู่ในความเลี้ยงดูของกรมหลวงวรเสฐสุดา (พระองค์เจ้าบุตรี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ซึ่งเป็นพระญาติ ทรงเรียกว่าเสด็จป้า มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ต่อมา ทรงย้ายมาอยู่กับท้าวทรงกันดาร (ศรี) ผู้เป็นยาย
    เมื่อพระชนมายุ ๘ พรรษา ทรงเริ่มศึกษาภาษาบาลี ทรงศึกษาอยู่จนสามารถแปลธรรมบทได้ก่อนที่จะทรงผนวชเป็นสามเณร และทรงเริ่มศึกษาภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งเมื่อพระชนมายุ ๑๒ พรรษา นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาโหราศาสตร์กับครูที่เชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์มาแต่พระชนม์ยังน้อย

    ทรงผนวช
    เมื่อพระชนมายุ ๑๔ พรรษา ทรงผนวชเป็นสามเณรตามราชประเพณี ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับเจ้านายอื่นอีก ๒ พระองค์ สมเด็จพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์หม่อมเจ้าพระธรรมุณหิศธาดา (พระนามเดิม ศิขเรศ) เป็นประทานสรณะและศีล เมื่อทรงผนวชแล้ว มาประทับ ณ วัด บวรนิเวศวิหาร ทรงผนวชเป็นสามเณรอยู่ ๒ เดือนเศษ จึงทรงลาผนวช
    ครั้น พระชนมายุ ๒๐ พรรษา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๒๒ สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ทรงผนวชแล้วเสด็จมาอยู่จำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ถึงหน้าเข้าพรรษาของปีนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาทรงถวายพุ่มพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตามราชประเพณี และในคราวนั้น ได้เสด็จฯ ไปถวายพุ่มพรรษาแด่พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ซึ่งเพิ่งทรงผนวชใหม่ถึงกุฏิที่ประทับ พร้อมทั้งทรงกราบด้วยพระอาการเคารพ อันเป็นพระอาการที่ไม่เคยทรงปฏิบัติต่อพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์อื่นที่ทรงผนวช เป็นเหตุให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้นทรงตัดสินพระทัยไม่ทรงลาผนวชแต่วันนั้น

    ทรงทำทัฬหีกรรม อุปสมบทซ้ำ
    หลังจากทรงจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ พรรษาแล้ว ได้เสด็จไปจำพรรษาที่ ๒ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ในสำนักของพระจันทโคจรคุณ (ยิ้ม) ผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในระหว่างที่ประทับ ณ วัดมกุฏกษัตริยารามนั้นเอง ได้ทรงทำทัฬหีกรรม อุปสมบทซ้ำอีกครั้งหนึ่งตามธรรมเนียมนิยมของพระสงฆ์ธรรมยุตในครั้งนั้น โดยพระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เดช ฐานจาโร) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่ครั้งยังเป็นพระเปรียญอยู่วัดโสมนัสวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ณ โบสถ์แพ หน้าวัดราชาธิวาส เมื่อ วันที่ ๓ มกราคม ๒๔๒๒

    ทรงกรมและเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง
    เมื่อทรงผนวชได้ ๓ พรรษา ทรงเข้าแปลพระปริยัติ ธรรมหน้า พระที่นั่ง ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตมโหราฬ ห้องเขียวท่ามกลางประชุมพระราชาคณะผู้ใหญ่ ๑๐ รูป มีสมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นประธาน ทรงแปลได้เป็นเปรียญ ๕ ประโยค และทรงหยุดอยู่เพียงนั้น
    หลังจากทรงแปลพระปริยัติธรรมได้เป็น เปรียญ ๕ ประโยคแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระอิศริยยศเป็น กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทรงดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะรองในธรรมยุตินิกาย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ พระองค์ทรงเป็นเจ้าคณะรองในคณะธรรมยุตเป็นพระองค์แรกและทรงเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ทรงมีพรรษายุกาลน้อยที่สุด คือ ๓ พรรษาเท่านั้น

    ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร
    พ.ศ.๒๔๓๔ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์สิ้นพระชนม์พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดให้สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรสขณะเมื่อทรงดำรงพระอิศริยยศ เป็นกรมหมื่น ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารสืบต่อจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ นับเป็นเจ้าอาวาสพระองค์ที่ ๓
    ครั้น ปี พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงพระกรุณาโปรดเลื่อนพระสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต นับเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตพระองค์ที่ ๒ ทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตเมื่อทรงมีพรรษายุกาล ๑๕ พรรษา

    มหาสมณุตมาภิเษก
    พ.ศ. ๒๔๔๙ ทรงพระกรุณาโปรดเลื่อนพระอิศริยยศเป็น กรมหลวง ถึง พ.ศ. ๒๔๕๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ สืบพระบรมราชสันตติวงศ์เป็นรัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พอเสด็จการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมราชินี พระพันปีหลวงแล้ว โปรดให้ตั้งพระราชพิธีมหาสมณุตมาภิเษก ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงสถาปนาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรส เป็นสมเด็จกรมพระยา ทรงสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระมหาสมณะ (คือ สมเด็จพระสังฆราช) เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๔ ค่ำ ปีจอ ตรงกับ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๓

    ทรงปรับสถานภาพของคณะสงฆ์

    ในปีรุ่งขึ้น หลังจากทรงได้รับมหาสมณุตมาภิเษก คือ พ.ศ. ๒๔๕๔ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ก็ทรงปรับปรุงการปกครองคณะสงฆ์ครั้งสำคัญ คือ ทรงชี้แจงแก่เสนาบดี กระทรวงธรรมการถึงผลเสียที่เกิดจากการที่คฤหัสถ์ปกครองคณะสงฆ์ดังที่เป็นมาในอดีตและเป็นอยู่ในขณะนั้น
    และทรงแนะนำว่าควรจะถวายอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์แก่พระองค์ให้เป็นเด็ดขาดฐานะที่ทรงเป็นสมเด็จ
    พระสังฆราช เพื่อให้การปกครองคณะสงฆ์เรียบร้อย เพราะพระด้วยกันย่อมเข้าใจเรื่องของพระด้วยกันดีว่าคฤหัสถ์ซึ่งมิใช่พระ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ “ได้ทรงมอบการทั้งปวงซึ่งเป็นกิจธุระพระศาสนาถวาย แด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ผู้เป็นมหาสังฆปริณายก เพื่อทรงเป็นพระธุระปกครอง” ตั้งแต่เดือนกันยายน ร.ศ. ๑๓๑
    (พ.ศ. ๒๔๕๕) เป็นต้นมา สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของไทยที่ทรงปกครองคณะสงฆ์โดยตรงด้วยพระองค์เอง เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสังฆมณฑลของไทย กล่าวคือ เป็นการทำให้คณะสงฆ์หลุดพ้นจากการปกครองโดยคฤหัสถ์มาสู่การปกครองโดยพระด้วยกันเองเป็นครั้งแรก เป็นเหตุให้สมเด็จพระสังฆราชมีพระอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์โดยตรงแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบัน นับเป็นการปรับสถานภาพของคณะสงฆ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของคณะสงฆ์ไทย


    พระกรณียกิจพิเศษ
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระอุปัธยาจารย์ของพระมหากษัตริย์ ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เมื่อทรงผนวชเป็นพระภิกษุขณะทรงดำรงพระอิศริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ขณะทรงดำรงพระอิศริยยศเป็นสมเด็จเจ้าพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดช กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ นอกจากนี้ ก็ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระบรมวงศานุวงศ์อื่นๆ อีกหลายพระองค์

    สิ้นพระชนม์

    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงประชวรวัณโรค มีพระอาการเรื้อรังมาเป็นเวลานาน กระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๔ อันเป็นปีที่ทรงเจริญมายุครบ ๖๐ พรรษา อาการประชวรกำเริบมากขึ้น จึงเสด็จโดยทางเรือไปรักษาพระองค์ทางชายทะเลจนถึงจังหวัดสงขลา พระอาการยิ่งทรุดหนักลง ประจักษ์แก่พระหฤทัยว่ากาลที่สุดใกล้จะถึง จึงเสด็จกลับกรุงเทพฯ โดยทางรถไฟเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๔๖๔ ครั้งถึงวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๔๖๔ เวลา ๔ นาฬิกา ๓๕ นาทีก่อนเที่ยง (๑๐.๓๕ น.) ก็สิ้นพระชนม์ สิริรวมพระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา ๓ เดือนเศษ ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร ๓๐ ปี ทรงดำรงตำแหน่งที่สมเด็จพระสังฆราช ๑๐ ปีกับ ๗ เดือนเศษ ถึงเดือนเมษายน ๒๔๖๕ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถวายพระเพลิงพระศพ ณ พระเมรุท้องสนามหลวง


    ข้อมูลบางส่วนจาก
     
  12. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    พระสิวลี กับซุ้มกอ ทำเลียนแบบ
     
  13. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109
    ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่มอบให้เยี่ยมมากเลยครับ
    มาซ้อมตากันต่อดีกว่าครับ เต็มที่เลย ไม่ต้องยั้งมือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10382.jpg
      SDC10382.jpg
      ขนาดไฟล์:
      583.3 KB
      เปิดดู:
      86
    • SDC10383.jpg
      SDC10383.jpg
      ขนาดไฟล์:
      405.8 KB
      เปิดดู:
      80
    • SDC10389.jpg
      SDC10389.jpg
      ขนาดไฟล์:
      705.7 KB
      เปิดดู:
      84
    • SDC10391.jpg
      SDC10391.jpg
      ขนาดไฟล์:
      709.1 KB
      เปิดดู:
      85
    • SDC10387.jpg
      SDC10387.jpg
      ขนาดไฟล์:
      564.9 KB
      เปิดดู:
      85
    • SDC10388.jpg
      SDC10388.jpg
      ขนาดไฟล์:
      467.1 KB
      เปิดดู:
      70
    • SDC10416.jpg
      SDC10416.jpg
      ขนาดไฟล์:
      508.1 KB
      เปิดดู:
      69
    • SDC10417.jpg
      SDC10417.jpg
      ขนาดไฟล์:
      779 KB
      เปิดดู:
      69
  14. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    สมเด็จไม่ใช่สมเด็จโต
    เหรียญเสร็จ
     
  15. BaByUltraMan

    BaByUltraMan เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,647
    หลวงปู่ศุข ยัง เก๊ห่างไกลครับผม ด้วยความเคารพ
     
  16. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109
    ซ้อมตากันต่อครับท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10409.jpg
      SDC10409.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      75
    • SDC10410.jpg
      SDC10410.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      69
    • SDC10424.jpg
      SDC10424.jpg
      ขนาดไฟล์:
      362.1 KB
      เปิดดู:
      70
    • SDC10425.jpg
      SDC10425.jpg
      ขนาดไฟล์:
      403.7 KB
      เปิดดู:
      65
    • SDC10427.jpg
      SDC10427.jpg
      ขนาดไฟล์:
      478.4 KB
      เปิดดู:
      66
    • SDC10428.jpg
      SDC10428.jpg
      ขนาดไฟล์:
      315.2 KB
      เปิดดู:
      71
    • SDC10430.jpg
      SDC10430.jpg
      ขนาดไฟล์:
      487.2 KB
      เปิดดู:
      60
    • SDC10431.jpg
      SDC10431.jpg
      ขนาดไฟล์:
      542.3 KB
      เปิดดู:
      69

แชร์หน้านี้

Loading...