รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ เชน ครับ

    ขอบคุณครับคุณ Xorce สำหรับคำยืนยันที่ผมเองข้องใจมานาน ปัจจุบันนี้ผมทิ้งไปนาน และได้เริ่มมาฝึกใหม่ทุกวันนี้ผมทำจิตเข้าไประดับนั้นอีกไม่ได้เลยครับ อาการที่ปัจจุบันเป้นอยู่คือ

    1 พอกำหนดลมหายใจเข้าออกไม่นานจิตก็รวมแต่ไม่รวมวูปวาบเหมือนเมื่อก่อนเพราะอะไรครับ
    2 อาการของปีติที่เคยเกิดรุนแรงตัวพุ่งขึ้นฟ้าบ้าง ตัวลอยบ้าง ตัวพองโตคับโลกบ้าง มันไม่เกิดอีกเลย แต่มีอาการแค่วันวูปๆลงไปนิดหน่อยแล้วก็สงบ..ทำไมเป้นยังงี้ครับ

    จริงๆ ถูกแล้วนะครับ เพราะปีติ เป็นแค่ทางผ่านเท่านั้นเองครับ
    ดังนั้นพอผ่านสมาธิระดับกลางไปแล้ว จิตก็จะไม่ค่อยเจอกับปีติแล้วครับ

    ถ้าเรายังอยากให้เกิดปีติ หรือรั้งจิตเอาไว้แค่ปีติ จิตเราก็จะสงบอยู่แค่นั้นครับ
    จะไม่ก้าวหน้าต่อไปครับ

    3 พอปีติเล็กน้อยหายไป ใจจะเบาสบาย นิ่ง ลมหายใจแผ่วเบามากเหมือนว่าไม่ได้หายใจ อาการนี้ใช่ ฌาณ 3 หรือป่าวครับ

    ใช่ครับ

    4 พอสักพักจิตจะสงบละเอียดลงไปกายค่อยๆหดเข้ามาๆๆจนแน่นปั๋งครับคราวนี้ ลมหายใจไม่รู้สึกหรือไม่สนใจมันเป็นเอง แล้วร่างกายก็โล่งเหมือนเป็นปล้องๆแล้วเกิดแสงสว่างอยู่ข้างหน้าจ้าไปหมดแต่ยังไม่ถึงสีขาว เหมือน อรูปที่เคยได้นะครับ...จิตขณะนี้ถึงฌาณ 4 ขั้นไหนครับ...ขอบพระคุณครับ และมีคำแนะนำอะไรมั่งครับ

    ฌาณ4 ละเอียดครับ อธิษฐานปักหมุดหลังจากเข้าถึงจุดนี้ได้นะครับ

    และอย่าอยากให้เกิด ปีติ หรือพอใจอยุ่กับแค่อาการของปีติครับ
    เพราะยังมีอารมณ์จิตที่ละเอียดกว่านี้ยิ่งๆขึ้นไปอีกครับ


    สุดท้ายนะครับ ในชีวิตปะจำวันบางครั้งหูจะชอบแว่วเหมือนมีคลื่นความถี่วิ่งเข้ามาดัง วิ๊งค์ๆๆๆ อาการแบบนี้คืออะไรครับผม ขอบพระคุณมากครับ<!-- google_ad_section_end -->

    จิตเป็นสมาธิ แม้จะไม่ได้นั่งครับ ดังนั้นบางครั้งจะมีอาการคล้ายหูดับ หรือหูอื้อ
    มีคนเป็นเยอะเหมือนกันครับ
     
  2. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto ครับ

    อ่อ ผมทำมาแล้วคับไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เพราะรีบทำครับ เพราะผมจะอธิบายอย่างไรก็ไม่เท่ากับเห็นในแบบที่ผมเห็นดีกว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ผมจับอารมณ์เย็นอย่างที่บอกได้แล้วครับเพียงแต่มันไม่นิ่ง แล้วผมก็เคย เป็นนะไอที่ว่า เป็นสีขาวๆสุดลูกหูลูกตาตอนนั้นไปนั่งสมาธิในถ้ำ ^^; ตอนบวชหน่ะครับ ส่วนตอนนี้ทำไม่ได้เหมือนตอนนั้นแล้วแต่อารมณ์มันก็ไม่ต่างกัน

    สาธุครับ ที่สามารถจับอารมณ์เย็นได้ อนุโมทนาด้วยครับ
    ตอนนี้จิตมีความเบาสบาย ไม่หนักแล้วครับ

    ทำแบบหยาบๆยังไม่ได้ทำแบบละเอียดอย่างจริงจังเท่าไหร่ เพราะ ตอนนี้ดึกแล้ว ^^; มันง่วงๆเลยปะติดปะต่อได้แค่นี้คับ พื้นเป็นแก้วมณีที่ สวยงานแม้แต่พื้นยังสวยขนาดนี้ ผมอาจจะผิดก็ได้ติชมได้นะครับ

    ถูกครับ ไม่ผิดหรอกคัรบ


    ผมมีแนวคิดถ้าหากผมได้ไปยังสถานที่ต่างๆ ผมก็จะจำในสิ่งที่ผมเจอได้พบได้ไปเห็นมา แล้วผมจะเนรมิตจำลองมันในรูปแบบ 3D เป็น animetion หรือทำเป็นหนังหรือไม่ก็เป็นภาพยนต์ไปเลย (ไม่ใช่การ์ตูนนะครับแต่จะทำให้สมจริงที่สุด) หรือภาพคล้ายๆแบบข้างบนนี้ เพื่อให้คนที่ไม่เคยเห็นได้เห็น พอเค้าได้เห็นเค้าก็จะเกิดแรงศรัทธาว่ามันมีจริงหรือก็อาจจะทำให้เกิดความสนใจและมาศึกษาธรรมและปฏิบัตธรรมกันมากขึ้น ผมถนัดด้าน 3D อยู่บ้างพอสมควรครับ แล้วอีกอย่าง คือผมได้แรงบันดาลใจมาจาก ที่ พระพุทธเจ้าท่านเปิด3โลกครับ คนเมื่ออดีตเค้าเห็นด้วยตัวเองแล้วเล่าต่อๆกันมาคราวนี้จะได้เห็นของจริงกันไปเลยแต่อยู่ในจอสีเหลี่ยมก่อนนะ^^ ไม่ต้องฟังปากต่อปากแล้วจิตนาการตามคำบอกเล่า ผมก็จะทำใส่ซีดีแจกครับ ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆเลยทั้งสิ้น เพื่อให้คนสนใจธรรมมะมากขึ้นเพราะผมชอบเรื่องไตรภูมิ มากๆ
    แต่ตอนนี้มีอยู่3อย่างที่ทำให้ผมยังไปไม่ถึงไหน คือ
    1.ผมยังปฏิบัติไม่ถึงไหนเลย ก็คงต้องภาวะนาว่าเมื่อไหร่ผมจะเข้าถึงพระธรรม

    ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆครับ อารมณ์ใจมีความเบาสบายขึ้นเรื่อยๆ ผิดกับตอนแรกๆเยอะเลย
    แค่นี้ก็เห็นผลจากการปฏิบัติแล้วครับ

    2.ผมต้องแบ่งเวลามานั่งทำซึ่งทางโลกผมก็ทำงานอยู่แล้วเวลาก็ไม่ค่อยมีมากแต่ก็พอมีอยู่บ้าง

    ทำในช่วงเวลาว่าง ก็ได้ครับ ตรงนี้ถือว่าเป็นธรรมทานครับ

    3.ของอย่างนี้จริงอยู่คับ มันอยู่ที่ใจแต่มันก็ต้องใช้เงินเป็นปัจจัยในการสร้างสรรงานออกมา อิอิ ผมคงต้องเก็บเงินซื้อซีดี มาเยอะๆเพื่อเอาไว้แจกแต่ไม่รู้ว่าจะผิดศีลไหมนะ เพราะมันเป็นลิขสิทธิ์ของผมเองนินา ^^;(ข้อนี้ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่)

    ไม่ผิดครับ

    โปรเจกนี้ผมว่าเป็นไปได้นะ แต่มันใช้เวลานานเป็นปีๆหรือหลายปีเลยทีเดียว เพราะ ผมทำคนเดียวนินา ^^; แต่ก็หาแนวร่วมอยู่เหมือนกัน ^^ (บางคนก็ว่าผมขี้โม้ ทำไมผมย้ำคิดย้ำทำหว๋า แต่ก็เรื่องจริงที่ผมมักจะทำอะไรเกินตัวและก็จะพูดเป็นไกล์ลายไว้ก่อน เพราะยังงี้จึงถูกหาว่าเป็นคนขี้โม้อยู่บ่อยๆแต่จริงๆผมทำได้จริงนะครับ ถึงจะขี้โม้ก็เถอะ) เมื่อก่อนผมเป็นคนไม่พูดมากนะ ~~ เพียงแต่มันอาจจะอัดอั้นถูกกดดันความคิดที่อยู่ก้นบึ้งก็เป็นได้ครับ

    อันนี้ต้องเลือกคนคุยครับ เพราะคนธรรมดาไม่เข้าใจ ถ้าเขาปรามาสเอาจะไม่ดีครับ

    ตอนนี้ผมคิดจะทำแดน นรกอยู่ กะจะวาดนายนิรบาลก่อน และก็เครื่องทรมาร แล้วก็สัตว์นรกที่กำลังถูกทรมาร เอานรกภูมิ ก่อนค่อยไปสวรรค์ทีหลังแล้วก็จะทำสถานที่ทุกสถานที่เลย ผมคงต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะๆกว่านี้ซะแล้วสิ ^^(ผมยังไม่ได้ทำหรอกคับได้แต่คิดเพราะผมยังไม่เคยไป :p )แต่ผมรู้ว่านรกชั้นสุดท้ายและก่อนสุดท้ายมันเป็นยังไงและผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่ารู้ได้ไงแต่ก็ไม่ชัดเจนง่ะคับ ~~;

    ผมคงจะคิดถูกนะที่จะทำสื่อซีดีธรรมะแจก

    ขอความคิดเห็นของพี่ชัดหน่อยครับ ว่ามันจะเป็นไปได้ไหมคับ ^^;

    การที่ผมทำแบบนี้คิดแบบนี้มันจะดีหรือไม่อย่างไรครับ

    (หาแนวร่วม อิอิ และผู้ที่สนใจครับ)
    ขอบคุณและอนุโมทนาครับ<!-- google_ad_section_end -->


    แนะนำให้ทำดินแดนที่สวยๆให้ครบก่อนครับ ทำไล่ตั้งแต่ชั้นบนสุด จนกระทั่งไล่ลงมาสวรรค์แต่ลละชั้นก่อนครับ

    ให้จิตได้เกาะที่สวยๆงามๆก่อนครับ

    เพราะถ้าจิตเห็นนรกก่อน หรือเห็นบ่อยๆ
    ถ้าจิตมันไปชินเข้ากับภาพนั้น จะแย่ครับ เกิดก่อนตายไม่เกาะเอาภาพนั้นขึ้นมานี่ไม่ดีแน่นอนครับ

    ดังนั้นให้ทำที่สวยๆก่อนครับ

    มีบางคนที่ได้มโนมยิทธินะครับ แต่จะพยายามไม่ไปดูนรกเลยครับ
    จะเกาะพระนิพพานจุดเดียว เพราะกลัวว่าถ้าจิตก่อนตายมันเผลอไปชินกับนรกเข้าจะไม่ดีครับ

    เราทำสวรรค์ พรหม นิพพาน ให้เป็นอนุสติ เป็นเครื่องระลึกถึงของบุคคลอื่น
    จะได้อานิสงค์มากครับ
    อย่างไรก็ขออนุโมทนาด้วยครับ

    ถ้าอย่างไรลองมาปรึกษาได้นะครับ คิดว่าจะช่วยให้คำแนะนำได้ครับ
     
  3. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ oze ครับ

    ขอบคุณ Xorce มากคับ

    ที่ช่วยตอบคำถาม

    ยินดีเสมอครับ

    ตอนนี้รู้สึกว่าบางครั้งที่ทำสมาธิก็ไม่มีลมหายใจแล้วคับ

    แต่ยังได้ยินเสียงอยู่<!-- google_ad_section_end -->

    เป็นฌาณ4หยาบ ครับ จริงๆไม่ต้องเอาถึงฌาณ4ละเอียดก็ได้ครับ
    ฌาณ4 หยาบก็สามารถใช้เจริญวิปัสสนาญาณ ตัดกิเลสได้เช่นกันครับ
     
  4. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ ithai ครับ

    khun Xorce,
    บุญกุศล ใด ใด ที่เราได้ทำ เรา ขอมอบให้คุณ Xorce ขอให้คุณ เป็นผู้สั่งสมพลังบุญ ตลอดไป และ มีแต่สิ่งดีดียิ่งขึ้นไป ขอบพระคุณมากสำหรับคำตอบ และอยากขอความกรุณา ถ้า คุณ คำกล่าวอธิษฐาน ขอให้อยู่ในอารมณ์ เมตตา และ คำแผ่เมตตา สั้น สั้น แบบใช้ได้ในทุกสถานะการณ์ คงเป็นพระคุณอย่างสูง คะ

    ถ้าเป็นคำอธิษฐานนะครับ ปกติผมจะใช้

    ขอให้ทุกๆดวงจิต ทั่วทั้งสังสารวัฏ ได้เข้าถึงซึ่งความดีอันมีพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ

    เอ่อ รบกวนขอถามอีกข้อ คะ การที่เราได้ เห็นพระพุทธรูปสีทองใกล้กับตัวเรามาก หรือเห็นหลวงพ่อโสธรแบบชัดเจน เป็นการแสดงว่าที่เราปฏิบัติ อยู่ ถูกทางแล้วใช่มั้ย คะ ต้องรบกวนคุณด้วยคะ เพราะ อยากจะเข้าใจให้ชัดเจน และถ้ามีโอกาสกลับเมืองไทย ก็อยากจะไปฝึกเพิ่มเติมคะ<!-- google_ad_section_end -->

    ถูกทางครับ เป็นพุทธานุสติ ควบกับกสิณ
    คือการระลึกถึงภาพของพระพุทธเจ้าครับ

    ลองนำไปปฏิบัติเพิ่มนะครับ สามารถทำได้กับกสิณทุกกองนะครับ จะเป็นกสิณอะไรก็ตามทำได้หมดคัรบ
    ให้เรานึกภาพต่อไปนะครับ

    จากพระพุทธรูปสีทองนี้ ให้เรานึกต่อไปว่า
    สีของพระพุทธรูปค่อยๆซีดลงๆ จางลงๆ จนกลายเป็นพระทธรูปสีขาวทั้งองค์

    จากพระพุทธรูปสีขาว ก็ให้นึกต่อว่า พระพุทธรูปค่อยๆใสขึ้นๆ ใสขึ้นเรื่อยๆ
    จนกลายเป็นพระพุทธรูปเนื้อแก้วใส ทั้งองค์

    จากพระพุทธรูปเนื้อแก้วใส ก็ให้นึกต่อไปว่า ภาพพระพุทธรูป ค่อยๆ เปล่งแสงสว่าง
    เปล่งประกายระยิบระยับ เปล่งฉัพพรรณรังสี เปล่งประกายเปล่งแสงสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ
    จนกลายเป็นพระพุทธรูปเนื้อเพชร ใส ประกายระยิบระยับทั้งองค์
    พอภาพพระพุทธรูป หรือภาพกสิณเป็นเพชรแล้ว

    ก็ให้เราประคองภาพพระพุทธรูปเป็นเพชรเอาไว้
    และตั้งจิตอธิษฐานปักหมุดว่า

    ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งภาพพระพุทธรูป หรือภาพกสิณ เป็นเพชรนี้
    ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกภพชาติ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าต้องการ
    ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ

    อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง

    จากนั้นจึงค่อยๆ ถอนจิตออกจากสมาธิ
    และลองฝึกประคองภาพพระให้เป็นเพชร ทั้งยามลืมตา และหลับตาดูนะครับ

    จากเริ่มต้นจนถึงภาพพระพุทธรูปเป็นเพชร สามารถจะทำได้ภายในประมาณ ไม่เกิน10นาทีครับ
    แม้จะลืมตาอยู่ก็ทำได้ครับ เพราะเป็นจินตภาพ ที่เราเห็นในจิตครับ
    คิดว่าน่าจะสามารถทำได้ทุกๆคน ถ้าอย่างไรก็ลองนำไปปฏิบัติดูครับ
     
  5. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    อยากจะให้แนะนำ
    เรื่อง การฝึก อรูปณาญ เบื้องต้นหน่อยครับ
    และ
    รบกวนเรื่อง การฝึกวิปัสนา ด้วยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  6. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอบคุณมั๊กๆคับสำหรับคำชม คำชมเป็นสือและเป็นกำลังใจอย่างหนึ่งที่ดีมั๊กๆเพื่อให้มีแรงผลักดันสิ่งต่างๆที่ตั้งใจไปยังจุดหมายได้คับ อนุโมทนะคับ
     
  7. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ครับพี่ชัด ผมก็ว่ายังงั้นแหละคับแต่ตอนแรกที่ว่าอยากจะเขียน นรกเพราะ ทุกวันนี้มันไม่เกรงกลัวบาปกันเลยฆ่ากันยังกับผักปลา ค่าของชีวิตนั้นทำไมมันไร้ค่าอย่างนี้^^; ที่ผมทำนั้น เพื่อที่จะเตือนสติให้ทุกคนละการทำชั่วหน่ะครับ เพื่อให้พวกเค้าเกรงกลัวต่อบาป ^^; ยังงั้นผมค่อยๆทำลงไปอย่างที่พี่ชัดแนะนำก็แล้วกัน ทำชั้นบนๆโดยยึดพวกเราเป็นหลักก่อน คนอื่นๆค่อยทำชั่นที่ต่ำลงมาให้เค้าดูทีหลัง ขอบคุณคับ เดี๋ยววันอาทิตย์ก็จะค่อยๆเริ่มทำแระ ^^;คับ เพราะ ผมเคยระลึกได้แว๊บนึง ตอนที่อยู่บนสวรรค์ เคยเห็นครับ แต่มันก็ไม่ชัดเจนตามเคยเพราะจิตผมไม่ละเอียดพอ ก็จะลองทำออกมาดูครับ

    วันนี้ผมเผลอฆ่ามด ไปเกือบทั้งรังเลยอ่ะคับ -.- มาทำรังในห้องน้ำ ยังรู้สึกผิดอยู่เลยเนี๊ยะ เฮ้อ แต่ก็จะอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกมดๆนะ ^^;

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤษภาคม 2009
  8. tanalert

    tanalert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +141
    อยากทราบกำหนดการสอนสมาธิของท่านอาจารย์คณานันท์ ทวิโภค

    อยากทราบกำหนดการสอนสมาธิของท่านอาจารย์คณานันท์ ทวิโภค ขอรบกวนช่วยแจ้งกำหนดการในเวปนี้ด้วยครับ
    ธนาเลิศ
    ;38;aa41
     
  9. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ choosake ครับ

    คำตอบค่อนข้างจะยาวนิดนึง
    เดี้ยวจะค่อยๆนำมาลงให้ทีหลังนะครับ
     
  10. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto ครับ

    ก่อนจะเริ่มทำ ให้เรากราบพระ และตั้งจิตขอบารมีพระพุทธเจ้าด้วยนะครับ
    ให้เราตั้งกำลังใจว่า สิ่งที่เราจะทำนี้ จะยังประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ให้ได้เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนา
    และจะเป็นปัจจัยให้เขาได้เข้าถึงซึ่งความดี อันมีพระนิพพานเป็นที่สุดในอนาคตกาลต่อไป

    เพราะฉะนั้น ขอให้ภาพทั้งหมดที่เราทำออกมา ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
    เป็นไปตามพุทธประสงค์ของพระพุทธองค์ทั้งหมด
    และให้เจ้ากรรมนายเวรของเรา ได้รับอานิสงค์ทั้งหมดด้วยครับ

    จากนั้นก่อนจะทำให้เราเข้าสมาธิก่อนด้วยครับ

    และหากอยากจะเผยแพร่เป็นธรรมทาน ผมคิดว่าจะสามารถช่วยได้ครับ
    เดี้ยวลองมาคุยเพิ่มอีกทีคัรบ
     
  11. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ tanalert ครับ

    ถ้ามีกำหนดการณ์เมื่อไหร่ เดี้ยวผมจะนำมาลงให้ทันทีครับ
     
  12. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ choosake ครับ

    ผมจะขอนำการฝึกอรูปฌาณ มาลงให้นะครับ

    ก่อนอื่นนะครับ ให้เราจับภาพพระพุทธรูป ให้เป็นเพชรใส ประกายพรึกก่อน

    จากนั้นให้เราจินตนาการว่า มีตัวเราอีกคนกำลังก้มลงกราบภาพพระพุทธรูปที่เราเห็น
    จากนั้นให้เราตั้งจิตขอบารมีพระท่านนะครับ

    ขอพระพุทธองค์ทรงเมตตาสงเคราะห์ ให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งอรูปฌาณทั้ง4ได้ด้วยเทอญ

    คราวนี้จะเริ่มแล้วครับ ให้เราจับภาพพระเป็นเพชรเหมือนเดิม

    เสร็จแล้วให้จินตนาการว่า ภาพพระพุทธรูป ค่อยๆหายไป
    [B][COLOR=black]ร่างกายของเราค่อยๆหายไป สรรพสิ่ง วัตถุ[COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]ทุกสิ่งทุกอย่าง ค่อยๆหายไป[/B][/FONT][/COLOR][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]โลกทั้งโลก [COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]จักรวาลทั้งจักรวาลค่อยๆหายไป[/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]เหลือแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า สีขาว [/COLOR][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]ที่แผ่ขยายออกไปอย่างสุดลูกหูลูกตา[/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]ความเวิ้งว้างว่างเปล่าแผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีประมณ[/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]มีแต่ความว่างเปล่าสีขาว ว่างสีขาวสงบนิ่ง[/COLOR] [/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]ไม่มีผนัง ไม่มีเพดานมาขวางกั้น มีแต่ความว่างเปล่า สีขาว ที่แผ่ขยายออกไปอย่างสุดลูกหูลูกตา[/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]เสร็จแล้วให้เราประคองจิตเอาไว้กับความว่างเปล่าสีขาวนี้ จากนั้น[/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]ให้เราตั้งจิตอธิษฐานปักหมุด เพื่อให้เกิดความคล่องในการเข้าสู่อารมณ์ใจนี้[/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งอรูปฌาณที่1นี้[/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]ได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกชั่วขณะจิต ทุกภพชาติ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าต้องการ[/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ[/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B]อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง จากนั้นให้เราจับภาพพระให้เป็นเพชรอีกครั้งนึง [/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=black]เพื่อเตรียมเข้าสู่อรูปฌาณที่สองต่อไป[/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#000000][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#0000ff][FONT=Microsoft Sans Serif][B][COLOR=#000000]ขอเวลาเรียบเรียงคำพูดแปปนึงครับ เดี้ยวจะนำมาลงให้ต่อครับ[/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B][/FONT][/COLOR][/B]
     
  13. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    พอดี รู้สึกว่า รูปณาณ ค่อนข้างคล่อง ระดับหนึ่ง (ถึงแม้ว่า จะถอดจิตไม่ได้ อธิฐานจิตไม่ได้ อธิฐานฤทธิ์ไม่ได้ ณาญ 8 งู ๆ ปลา ๆ สองตัวตรง ๆ นี้ยากเหลือเกิน[ขำ ๆ นะครับ]) สรุปแล้วเหมือนไม่ได้เรื่องอะไรเลย เหอะ ๆ
     
  14. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ผมก็ได้อนิสงค์ไปด้วย กับคำถามนี้ครับ แต่ ก่อนอื่นเลยผมเคยเข้าไปในภาพสีขาวสุดลูกหูลูกตาเลยครับ ตอนนั้นผมบวชและได้ไปนั่งทำสมาธิในถ้ำที่วัดปฏิบัติแห่งนึง เป็นสีขาวๆตอนแรกรู้สึกอึดอัดสักพักตัวโยกเอง แล้วก็ไม่นานก็เห็นเป็นสีขาวๆสุดลูกหูลูกตา หลังจากศึกมาแล้วก็ไม่ค่อยจะได้ปฏิบัตินั่นสมาธิอีกเป็นพักใหญ่ จนมาเมื่อปลายปีที่แล้วเดือน ธ.ค. มั้งครับผมก็นั่งอีกทีนี้ นั่งวันๆ 5-6 ชม.เลย ก็เจอหลายๆรูปแบบตอนนั้นยังไม่รู้แนวทางปฏิบัติแต่ก็แค่เอาสมาธิเข้าว่า โดยที่ไม่รู้หลักการปฏิบัติ แต่ก็เข้าถึง แบบว่า ที่มันเวิ้งว้างว่างเปล่าและผมก็เห็นที่ พระโสดาบัน พระอนาคามี พระเยอะแยะมากมายมารวมกันแม้กระทั้ง พระพุทธเจ้า ทุกองค์ผมเห็นเป็นสีทอง สว่างสดใสเปร่งประกาย นั่งขัดสมาธิลอยอยู่บนอวกาศจะว่าไปอวกาศก็ไม่เชิงผมไม่แน่ใจ แต่เป็นที่โล่งๆว่างเปล่า กำลังนั่งแสดงธรรม แต่ไม่มีใครพูดอันใด ผมก็อยู่ห่างๆประมาณ7-8เสาไฟฟ้าถ้าเปรียบเทียบในโลกมนุษย์ก็คงประมาณนั้นแหละมั้งคับ ถ้านับเป็นเวลาที่ผมอยู่ที่นั้นก็ประมาณ 3-4 นาทีครับ ประมาณนั้นครับ แต่ก็รู้สึกไกลมากที่นั่น ผมรู้สึกว่าผมเป็นดวงๆอะไรกลมๆแต่อีกในนึงผมก็ใส่ชุดสีขาว แต่ไอที่ใสชุดสีขาวรู้สึกว่ามันจะอยู่อีกที่ มันแยกไม่ออกแต่ก็มีแสงถึงจะน้อยกว่าพระทั้งหลายแต่ผมก็มีแสงในตัวนะออกไปทางสีขาวๆถึงจะไม่มากนักแต่ก็สว่างพอควร นั้นเป็นสิ่งที่ผมประทับใจครั้งแรกครับ แต่ผมไม่ได้ปักหมุดแต่อย่างใดแต่จำได้แม่นยำถึงอารมณ์นั้น และใจที่มันคาใจว่านี่ใช่นิพพานรึเปล่ามันก็เลยหลุดครับเพราะความลังเลสงสัยเกิดขึ้นถึงจะพยายามคงอารมณ์ไว้แต่สมาธิก็ตก ภาพที่เห็นนั้นหายไป+ความรู้สึกรอบๆตัวที่เรานั่งสมาธิเริ่มชัดเจน ตอนแรกไม่รู้สึกอะไรเลยครับ จะว่าภาพก็ไม่เชิงครับมันแยกยากจริงๆ
    ข้อนี้พี่ชัดไขข้อข้องใจข้อนี่หน่อยได้ไหมครับว่ามันเป็นมโนภาพ หรือว่าแค่ ปิติที่มันฟุ้ง หลายท่านบอก ฝึกนั่งไม่เท่าใดไปถึงนิพพานแล้วเหรอ ไม่ใช่หรอกมั้งคงจะเป็นเรื่องของปิติ

    และผมก็เชื่อว่าคงจะเป็นปิติ และก็กลับมานั่งนับ1ใหม่เข้า ฌาณ1.2.3.4 ใหม่ เพราะฟังคนเยอะมากไป ตอนนี้ผมพอจะรู้ตัวแล้วคับ ^^; เพราะคำตอบของพี่ชัดข้างบนมันทำให้ผมพอจะรู้สึกตัวบ้างแล้ว เพราะ ผมกลับมาเริ่มใหม่ทั้งๆที่มันควรจะไปไกลว่านี้แล้ว เพราะเป็นคนเชื่อคนง่าย ^^; เขาว่าอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้นตามที่เขาพูดมาอาจจะเป็นเพราะผมยังใหม่และก็ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไรในพระธรรม อันไหนที่ขัดแย้งกับความคิดของเรา เราก็พยายามคิดว่าเราถูกต้อง คือเป็นคนมี มานะธิถิ ครับ สะกดผิดก็ขออภัย แต่ตอนนี้เริ่มที่จะละได้เกือบจะหมดแล้วครับ เหลือก็เพียงแต่โลกียะ เพียงอย่างเดียว ความมักมากในกามรมณ์ ข้อนี้ลดได้บ้างไม่ได้บ้างสุดแล้วแต่^^;แต่ก็จะพยายาม

    ตอนนี้ผมเลยไม่แน่ใจครับ เคยตั้งหัวข้อแล้วด้วย ^^ แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
    ถ้าหากปักหมุดนั้น กับที่เราจำได้แม่นยำถึงอารมณ์นั้นเวลาที่เข้าถึงก็ให้เรานึกถึงอารมณ์ในตอนนั้น ได้หรือเปล่าครับ หรือว่า ต้องเริ่มนั่งใหม่ อันนี้เดี๋ยวผมก็ทำรูปมาให้ดูอีกครับเพราะที่ผมเห็นนั้นมันสว่างและก็ชัดกว่า ตอนที่ผมเห็นนิพพานที่เป็นทางเข้าซะอีกเพียงแต่ไม่มีพื้น ^^;
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2009
  15. sirapob

    sirapob สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +16
    อยากฝึกกสิณ แต่ว่าเพ่งยังไงก็จำไม่ได้ จึงท้อมาก จึงอยากขอแนวทางในการฝึกครับ

    ช่วยสงเคราะห์ด้วยนะครับ สาธุ....
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ที่บอกว่าเพ่งนั้น ที่จริงกสิณคือการ จับภาพกสิณนั้นเอาไว้ในจิต คิดไว้เสมอภาพนั้นไม่คลาดจากจิตใจเรา ด้วยอารมณ์จิตที่เบาๆ สบายๆครับ หากเพ่งหรืออารมณ์หนักไป จะทรงกสิณเอาไว้ไม่ได้ครับ

    ให้อ.ชัช มาขยายต่อครับ
     
  17. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12 ครับ

    ผมก็ได้อนิสงค์ไปด้วย กับคำถามนี้ครับ แต่ ก่อนอื่นเลยผมเคยเข้าไปในภาพสีขาวสุดลูกหูลูกตาเลยครับ ตอนนั้นผมบวชและได้ไปนั่งทำสมาธิในถ้ำที่วัดปฏิบัติแห่งนึง เป็นสีขาวๆตอนแรกรู้สึกอึดอัดสักพักตัวโยกเอง แล้วก็ไม่นานก็เห็นเป็นสีขาวๆสุดลูกหูลูกตา

    อรูปฌาณครับ

    หลังจากศึกมาแล้วก็ไม่ค่อยจะได้ปฏิบัตินั่นสมาธิอีกเป็นพักใหญ่ จนมาเมื่อปลายปีที่แล้วเดือน ธ.ค. มั้งครับผมก็นั่งอีกทีนี้ นั่งวันๆ 5-6 ชม.เลย ก็เจอหลายๆรูปแบบตอนนั้นยังไม่รู้แนวทางปฏิบัติแต่ก็แค่เอาสมาธิเข้าว่า โดยที่ไม่รู้หลักการปฏิบัติ แต่ก็เข้าถึง แบบว่า ที่มันเวิ้งว้างว่างเปล่าและผมก็เห็นที่ พระโสดาบัน พระอนาคามี พระเยอะแยะมากมายมารวมกันแม้กระทั้ง พระพุทธเจ้า ทุกองค์ผมเห็นเป็นสีทอง สว่างสดใสเปร่งประกาย นั่งขัดสมาธิลอยอยู่บนอวกาศจะว่าไปอวกาศก็ไม่เชิงผมไม่แน่ใจ แต่เป็นที่โล่งๆว่างเปล่า กำลังนั่งแสดงธรรม แต่ไม่มีใครพูดอันใด ผมก็อยู่ห่างๆประมาณ7-8เสาไฟฟ้าถ้าเปรียบเทียบในโลก
    มนุษย์ก็คงประมาณนั้นแหละมั้งคับ ถ้านับเป็นเวลาที่ผมอยู่ที่นั้นก็ประมาณ 3-4 นาทีครับ ประมาณนั้นครับ แต่ก็รู้สึกไกลมากที่นั่น ผมรู้สึกว่าผมเป็นดวงๆอะไรกลมๆแต่อีกในนึงผมก็ใส่ชุดสีขาว แต่ไอที่ใสชุดสีขาวรู้สึกว่ามันจะอยู่อีกที่ มันแยกไม่ออกแต่ก็มีแสงถึงจะน้อยกว่าพระทั้งหลายแต่ผมก็มีแสงในตัวนะออกไปทางสีขาวๆถึงจะไม่มากนักแต่ก็สว่างพอควร นั้นเป็นสิ่งที่ผมประทับใจครั้งแรกครับ แต่ผมไม่ได้ปักหมุดแต่อย่างใดแต่จำได้แม่นยำถึงอารมณ์นั้น และใจที่มันคาใจว่านี่ใช่นิพพานรึเปล่ามันก็เลยหลุดครับเพราะความลังเลสงสัยเกิดขึ้นถึงจะพยายามคงอารมณ์ไว้แต่สมาธิก็ตก ภาพที่เห็นนั้นหายไป+ความรู้สึกรอบๆตัวที่เรานั่งสมาธิเริ่มชัดเจน ตอนแรกไม่รู้สึกอะไรเลยครับ จะว่าภาพก็ไม่เชิงครับมันแยกยากจริงๆ

    ที่เห็นพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระอริยสาวกนั้น เป็นพระนิพพานแน่นอนครับ
    แต่ว่าเรากำลังมองด้วยกำลังของอรูปฌาณ ทำให้แบ็คกราว หรืออารมณ์ ยังเห็นเป็นพื้นที่ว่างๆอยู่
    เหมือนกับว่าเราทรงอยู่ในอรูปฌาณ และกำลังมองออกมาจากอรูปฌาณน่ะครับ
    เพราะพระนิพพานจริงๆ จะไม่โล่งๆ ว่างๆครับ จะมีรายละเอียดเยอะกว่านั้นครับ

    ข้อนี้พี่ชัดไขข้อข้องใจข้อนี่หน่อยได้ไหมครับว่ามันเป็นมโนภาพ หรือว่าแค่ ปิติที่มันฟุ้ง หลายท่านบอก ฝึกนั่งไม่เท่าใดไปถึงนิพพานแล้วเหรอ ไม่ใช่หรอกมั้งคงจะเป็นเรื่องของปิติ

    เราเห็นแล้ว ใครเขาบอกว่ายังไม่ถึง ไม่เห็น ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ

    และผมก็เชื่อว่าคงจะเป็นปิติ และก็กลับมานั่งนับ1ใหม่เข้า ฌาณ1.2.3.4 ใหม่ เพราะฟังคนเยอะมากไป ตอนนี้ผมพอจะรู้ตัวแล้วคับ ^^; เพราะคำตอบของพี่ชัดข้างบนมันทำให้ผมพอจะรู้สึกตัวบ้างแล้ว เพราะ ผมกลับมาเริ่มใหม่ทั้งๆที่มันควรจะไปไกลว่านี้แล้ว เพราะเป็นคนเชื่อคนง่าย ^^; เขาว่าอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้นตามที่เขาพูดมาอาจจะเป็นเพราะผมยังใหม่และก็ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไรในพระธรรม

    ปัญหา คือ คนที่มาตอบเราน่ะครับ ไม่ได้ฝึกมโนมยิทธิ หรือวิชชาสาม
    เพราะถ้าหากฝึก มโนมยิทธิ และวิชชาสามมาแล้ว ย่อมจะไม่บอกว่าเป็นอาการปีติแน่นอนครับ

    อันไหนที่ขัดแย้งกับความคิดของเรา เราก็พยายามคิดว่าเราถูกต้อง คือเป็นคนมี มานะธิถิ ครับ สะกดผิดก็ขออภัย แต่ตอนนี้เริ่มที่จะละได้เกือบจะหมดแล้วครับ เหลือก็เพียงแต่โลกียะ เพียงอย่างเดียว ความมักมากในกามรมณ์ ข้อนี้ลดได้บ้างไม่ได้บ้างสุดแล้วแต่^^;แต่ก็จะพยายาม

    ก็พยายาม ลด ละ บรรเทา และตัดกิเลส ตามที่เราสามารถจะทำได้ในสถานะภาพของเราครับ
    ไม่ต้องฝืนมากจนเกินไป เพราะว่า ตราบใดที่เรายังเป็นฆราวาสอยู่ ก็จะทรงอารมณ์จิตได้ถึงระดับพระอนาคามีครับ
    จะทรงอารมณ์ระดับพระอรหันต์ ตัดกิเลสหมดเลยยังไม่ได้ครับ
    แต่อย่างน้อยที่สุด อารมณ์ระดับพระโสดาบันควรจะทำให้ได้ครับ
    ไหนลองไปทำการบ้านมานะครับ อารมณ์ที่จะต้องทรงในระดับพระโสดาบันนี้ มีอะไรบ้างครับ

    ตอนนี้ผมเลยไม่แน่ใจครับ เคยตั้งหัวข้อแล้วด้วย ^^ แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
    ถ้าหากปักหมุดนั้น กับที่เราจำได้แม่นยำถึงอารมณ์นั้นเวลาที่เข้าถึงก็ให้เรานึกถึงอารมณ์ในตอนนั้น ได้หรือเปล่าครับ หรือว่า ต้องเริ่มนั่งใหม่ อันนี้เดี๋ยวผมก็ทำรูปมาให้ดูอีกครับเพราะที่ผมเห็นนั้นมันสว่างและก็ชัดกว่า ตอนที่ผมเห็นนิพพานที่เป็นทางเข้าซะอีกเพียงแต่ไม่มีพื้น ^^;<!-- google_ad_section_end -->

    เราสามารถปักหมุด และเข้าอารมณ์นี้ได้เลยครับ
    แต่อารมณ์นี้ยังเป็นลักษณะของอรูปฌาณอยู่นะครับ

    ถ้าเราจะใช้อรูปฌาณ ในการตัดกิเลส หรือจะทรงเอาไว้ เพื่อรักษาจิตให้สะอาด
    อันนี้สามารถจะทำได้ครับ
    แต่ถ้าจะคิดว่าอารมณ์นี้ เป็นพระนิพพาน อันนี้ยังไม่ใช่ครับ แต่ใกล้แล้วครับ

    สำหรับอารมณ์พระนิพพานนะครับ จะต้องสามารถเห็นรายละเอียดของวิมาน บนพระนิพพานได้อย่างชัดเจนครับ
    ยิ่งเราสามารถเห็นรายละเอียด และความชัดเจน ของวิมาน ได้มากเท่าไหร่
    อารมณ์ใจของเราก็จะยิ่งเกาะพระนิพพานมากเท่านั้นครับ
    ต้องกลับไปตอนที่เห็นทางเข้าน่ะครับ และต้องทำให้ชัดขึ้นครับ

    ลองหาเวลาไปฝึกมโนมยิทธิ เพิ่มเติมดูนะครับ
    คิดว่าคราวนี้น่าจะทำได้ดี อย่างแน่นอนครับ
     
  18. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ sirapob ครับ

    อยากฝึกกสิณ แต่ว่าเพ่งยังไงก็จำไม่ได้ จึงท้อมาก จึงอยากขอแนวทางในการฝึกครับ

    ช่วยสงเคราะห์ด้วยนะครับ สาธุ....<!-- google_ad_section_end -->

    จริงๆแล้ว คำว่าเพ่งกสิณนี้
    ให้เราเพียงแต่นึก คิด หรือว่าจินตนาการถึงภาพ ของกสิณก็เท่านั้นเองครับ
    ไม่จำเป็นจะต้องนำ ดวงตาของเราไปจ้อง หรือว่าเพ่งไปที่สิ่งนั้นนะครับ

    เดี้ยวลองไปฝึกใหม่นะครับ คราวนี้ให้เราทำใจเบาๆ สบายๆ
    และนึกถึงภาพกสิณของเรา ด้วยอารมณ์ใจสบายๆนะครับ

    ยิ่งใจของเรา เบา สบาย ไม่บีบ ไม่เพ่ง มากเท่าไหร่
    เราจะยิ่งเห็นภาพกสิณในจิตของเรา ชัดมากขึ้นเท่านั้นครับ

    ลองนำไปปรับดูนะครับ คราวนี้ขอให้ใช้อารมณ์สบายๆนะครับ
     
  19. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    มันเยอะมากครับสั้นๆล่ะกันครับ อารมณ์ของพระโสดาบัน เป็นอารมณ์ที่มีปัญญาเล็กน้อย มีสมาธิเล็กน้อย มีอารมณ์ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป ยังไม่ถึงฌาน 4 ก็สามารถจะเป็นพระโสดาบันได้
    คำว่าปัญญาเล็กน้อยก็เพราะว่า มีอารมณ์ชนะสังโยชน์ 3 ประการเบื้องต้น แต่เพียงอย่างอยาบๆเท่านั้น ลดแต่ไม่ได้ถึงขั้นตัด
    1. สักกายทิฏฐิ คือยัง รู้สึกมีในขันธ์ 5 ขันธ์5 ยังมีอยู่ แต่เตรียมพร้อมและเข้าใจว่าจะต้องตาย ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ยังไงก็ต้องตาย
    2.วิจิกิจฉา คือ ความลักเลสงสัย ในพระโสดาบันไม่มีในวิจิกิจฉา เพราะมีปัญญาในการคิด ว่า หลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดความสุข
    3.สีลัพพตปรามาส คือ พระโสดาบัน ย่อ ถือศีลให้บริสุทธิ์ ตามฐานะของตนเอง ถึงจะเป็นฆราวาสก็มีศีล 5 เป็นปรกติ เพียงแต่ก็ยังมี
    รัก มีแต่งงาน แต่อยู่ในศีลในธรรมไม่นอกใจ ไม่หลายผัวหลายเมีย ผิดศีลกาเมในพระโสดาบันไม่มี จะมีก็อยู่ในขอบเขต อยู่ในศีลอยู่ในธรรม
    อยากรวย แต่ก็รวยโดยอาชีพสุจริตไม่คดโกงไม่ขโมยของใครที่จะทำให้เป็นการผิดศีล
    ยังมีความโกรธ ความโกรธในที่นี้เพียงแค่ ไม่ถูกใจ ก็โกรธแต่ไม่พยาบาทอาคาต หรือ ประทุษร้าย ซึ่งนำพาไปสู่การผิดศีล
    เพราะฉะนั้น สรุปเรื่องของศีลนั้น พระโสดาบัน ถือศีลยิ่งกว่าตัวตาย ถ้าตายกับศีลขาด เลือกตายดีกว่าที่จะศีลขาด

    พระโสดาบันจัดเป็น 3 ขั้น
    1.สัตตักขัตตุง สำหรับที่ท่านเป็นพระโสดาบันมีอารมณ์ยังอ่อน จะต้องเกิดและตายในระหว่างเทวดาหรือพรหมกับมนุษย์อีกอย่างละ 7 ชาติ เป็นมนุษย์ชาติที่ 7 และเข้าถึงความเป็นอรหัตผล
    2.โกลังโกละ คือ ท่านที่เป็นพระโสดาบันมีอารมณ์ปากลาง จะต้องเกิดและตายในระหว่างเทวดาหรือพรหมกับมนุษย์อีกอย่างละ 3 ชาติ เป็นมนุษย์ชาติที่3 และเป็นพระอรหันต์
    3.เอกพีชี คือ ท่านที่เป็นพรโสดาบันมีอารมณ์ที่เข้มแข็ง เกิดเป็นพรหมหรือเทวดาชาติเดียว แล้วก็เกิดเป็นมนุษย์และ ก็เป็นพระอรหันต์

    คำอธิบายของ3ขั้นนี้ผมขอยกมาเลยแล้วกันนะครับ
    หากว่าท่านจะถามว่า พระโสดาบันทั้งสัตตักขัตตุง โกลังโกละ และเอกพีชี มีอารมณ์ต่างกันอย่างไร
    ก็จะขอตอบว่า พระโสดาบันขั้นสัตตักขัตตุง มีจริยาคล้ายชาวบ้านธรรมดามาก ยังมีอารมณ์รุนแรงในความรัก ยังมีอารมณ์รุนแรงในความโลภ ในความโกรธ ในความหลง แต่ทว่าเป็นผู้มั่นคงในศีล ไม่ละเมิด
    สำหรับพระโสดาบันขั้นโกลังโกละ ขั้นโกลังโกละนี้มีอารมณ์เยือกเย็นมาก หรือว่ามีความมั่นในคุณพระรัตนตรัย มีศีลมั่นคงมาก ความจริงเรื่องศีลนี่มั่นคงเหมือนกัน แต่ว่าจิตท่านเบาบางในด้านความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความคำนึงถึงอารมณ์อย่างนี้มีอยู่แต่ก็น้อย ถ้ามีคู่ครองเขาจะโทษว่า กามคุณท่านจะลดหย่อนลงไป ความสนใจในเพศ ความสนใจในความโลภ อารมณ์แห่งความโกรธ อารมณ์แห่งความหลงมันเบา กระทบไม่ค่อยจะมีความรู้สึก
    สำหรับพระโสดาบันขั้นเอกพีชี ในตอนนี้อารมณ์ของท่านผู้นั้น จะมีอารมณ์ธรรมดาอยู่มาก ขอท่านทั้งหลายโปรดอย่าลืมว่า พระอริยเจ้าจะเป็นฆราวาสก็ดี จะเป็นพระก็ดี จะเป็นเณรก็ดี จะเป็นคนมีจิตละเอียด ไม่ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และไม่ขัดคำสั่ง ไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบวินัยและกฏหมาย อันนี้เป็นอารมณ์ของพระโสดาบัน ที่ท่านทั้งหลายจะพึงทราบ
    สำหรับเอกพิชีนี่ ความจริงมีอาการจิตใจใกล้พระสกิทาคามี แต่ทว่าสิ่งที่จะระงับไว้ได้นั้น กดด้วยกำลังของศีล มีความรู้สึกว่าเราจะต้องประคับประคองศีลของเราให้แจ่มใสอยู่เสมอ มองดูความรักในระหว่าเพศ หรือว่าความร่ำรวย หรือว่าความโกรธ หรือหลงในระหว่างเพศ หลงในสภาวะต่าง ๆ เห็นว่าเป็นของไร้สาระ มีอารมณ์เบาในความปรารถนาในสิ่งนั้น ๆ แต่ทว่าก็ยังมีความปรารถนาอยู่
    เอาละ บรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระบรมครู เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ วันนี้คงไม่ได้อารมณ์แห่งการปฏิบัติ แต่ทว่าอารมณ์แห่งการปฏิบัติ ในความเป็นพระโสดาบันท่านฟังกันมาแล้วสองคืน ผมเองมีความรู้สึกว่า ท่านทั้งหลายคงจะรู้สึกว่าง่ายสำหรับท่าน แต่ถ้าหากว่าเห็นว่าอารมณ์ของพระโสดาบันยากนี่ ถ้าเป็นพระเป็นเณร ผมไม่ถือว่าเป็นพระเป็นเณร ผมถือว่าเป็นเถน เถนในที่นี้หมายความว่ามี สระเอ นำหน้า มีถอถุง และ นอหนู เขาแปลว่าหัวขโมย คือ ขโมยเอาเพศของพระอริยเจ้ามาหลอกลวงชาวบ้าน ตามปกติพระกับเณรนี่ต้องทรงศีลบริสุทธิ์อยู่แล้ว
    เอาละ พุดไปเวลามันเกินไป 1 นาที ก็ขอพอไว้แต่เพียงนี้ หวังว่าท่านทั้งหลายคงจะเข้าใจ ต่อแต่นี้ไปขอท่านทั้งหลายตั้งกายให้ตรง ดำรงจิตให้มั่น จะอยู่ในอิริยาบถใดก็ตาม นั่งก็ได้ ยืนก็ได้ เดินก็ได้ นอนก็ได้ตามอัธยาศัย ทรงกำลังใจควบคุมความเป็นพระโสดาบันของท่านไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่ท่านเห็นว่าสมควร สวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤษภาคม 2009
  20. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ่อ ผมเรียงผิดหน่ะคับ จะเรียงให้ใหม่นะครับ

    ครั้งที่1 ตอนบวชเมื่อ1ปีที่แล้ว เห็นสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา

    ครั้งที่2 หลังจากนั้นมาผมก็มาหางานทำที่กรุงเทพแต่ก็ได้นั่งในช่วงปลายๆปีที่แล้วเดือน ธ.ค. เห็นพระพุทธสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมทั้งสาวก ในที่ๆโล่งกว้างๆ

    ครั้งล่าสุดครั้งที่3 เมื่อเดือนที่แล้วหรือ2เดือนที่ผ่านมานี่แหละครับ ได้เห็นปากทางเข้าพระนิพพานตามที่เคยได้เขียนและวาดภาพให้ดูแล้วครับ จริงก็เห็นชัดเจนเหมือนกันครับเพียงแต่แสงสว่างมีมากสวยมากจนทำให้ผมมองเห็นได้เพียงเท่านั้น ครับ ^^;


    ตอนนี้ก็ปฏิบัติเรื่อยๆหน่ะครับพี่ชัด เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง แต่หลังๆ งานก็พอมีแต่มีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้ไขจึงไม่ค่อยได้นั่งสมาธิเลย ก็เลยกำหนดจิตในเวลางาน ตอนที่ว่างๆ หรือพักสายตาหน่ะครับ แต่จริงๆก็ทรงไว้ทั้งวันแหละ แต่เอาใจไปใส่กับงานมากไปหน่อย ^^;

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤษภาคม 2009
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...