เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เปรียบเทียบกับไก่ บ้านผม.."ไก่เบตง"..ที่อยู่ใต้สุดของประเทศ
    ไก่เบตง เป็นไก่พิเศษ เลี้ยงที่เบตง ที่ มีภูมิอากาศ
    และอาหารตามธรรมชาติ...ที่ไม่เหมือนใคร...
    ตอนเช้าทุกเช้า จะมีหมอกหนา มองเห็นไม่เกิน 10 เมตร
    ความชื้นสุงมาก..เย็นเหมือน ติดแอร์
    พวกแมลง และ สัตว์บิน สัตว้เลื้อยตามดิน..มีธาตุอุดม แบบไหล่เขา
    ........................................................................
    ไก่ จึงกินอาหารพิเศษ..จึงทำให้ เนิ้อไก่ มี รสชาตและ
    ลักษณะพิเศษไม่เหมือนที่อื่น..เวลากิน มันจะไม่มันมาก ลื่น และนิ่มคอ
    เปรียบได้ กับ ปลาช่อน ของสิงห์บุรี ที่ มาจาก ลำน้ำแม่ลา
    ..................................................................
    ไก่ จากเบตง..ไม่ทันพอขายส่ง...
    จึงมีคนคิดเลี้ยงโดยหาภูมิประเทศ ที่ คล้ายกัน
    ซึ่งมีอยู่ สอง ที่ คือ แม่สอด จังหวัด ตาก และ ที่ กาญจนบุรี
    ดังนั้นไก่ เบตงที่ คนส่วนใหญ่ กินกัน ส่วนใหญ่จะมาจาก สอง เขตที่ ว่า
    แต่รสชาตจริงๆๆสู้ที่ เบตง ต้นตำรับไม่ได้
    .............................................................
    ถ้าใครไป ที่เบตง..ไปที่สวนสาธารณะ บนเขา
    จะพบรูปปปั้นแม่ไก่ เบตง ขนาดสูง ตึกสอง ชั้น อยู่ สอง ตัว
    เป็นการยืนยันว่า ที่ นี่ ของแท้
    ................................................................
    ใครที่ไปเบตง ต้อง กิน อาหารพิเศษ ที่ที่อื่นไม่มี นอกจากไก่เบตงแล้ว
    กบเบตง ขนาดนั่ง สูง เท่า ขวดเหล้าแม่โขง หนักเป็น กิโล
    .ผักน้ำ ที่ ปลูกได้ เฉพาะที่..ปลูกได้เฉพาะ ธารที่มีน้ำไหลเท่านั้น
    .....................................................................
    กินอิ่มก็ไปดูตู้ไปรษณีย์ ที่ ใหญ่ที่สุดในโลก
    และไปดู นางนางแอ่นมากกว่า ล้านตัว ที่ จะมาเกาะ สายไฟทั่วทั้งเมือง
    ไปเดินใต้สายไฟ...ให้ นกแอ่นขี้ใส่หัว...จึงจะชื่อว่า มาถึงเบตง
    ...........................................................................
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ถ่ายรูปกับไก่เตี้ยเสร็จ ก็เดิน เข้าไปในอุโบสถ ที่อยู่ด้านหลัง
    สัมผัสพลังพุทธ ได้ ปกติไม่มีอะไร เด่น เป็นพิเศษ..
    ใส่เงินทำบุญเสร็จ..ก็ออกมาเดินดู รอบๆๆ ที่ จัดเป็นสวนหย่อม เล็กๆๆ
    .........................................................................
    คุณจิรศักดิ์ ออกไป เข้าโบสถ์เล็กๆๆที่อยู่ด้านข้าง
    สามตา ไม่ได้ ตามเข้าไป...พอออกรถออกมา
    จิรศักดิ์ เล่า ว่า " พอผ่านหน้าโบสถ์เล็ก..
    มองเห็น พระ ประธาน องค์เล็กๆๆ..รู้สึกมีพลัง มาเรียกและดึงเข้าไป
    จึงต้องเข้าไปใกล้ๆๆ...พอเข้าไปใกล้ๆๆ พบว่า ท่านมีพลังแรงมาก
    ท่านให้พลัง มากจนล้น..."
    .........................................................................
    ออกรถมาไกลแล้ว จึงค่อยบอก...จะกลับไป ก็เสียเวลา..จึงต้องเลย ตามเลย
    ดังนั้น ต่อไป ถ้าใครไปที่วัดไก่เตี้ย สุพรรณ อย่าลืมไป ที่ โบสถ์หลังเล็ก
    ที่อยู่ข้างๆๆโบสถ์ใหญ่...อาจจะได้ อะไร ดีดี มา
    ...........................................................................
     
  3. ZeGiNe_SiN

    ZeGiNe_SiN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270

    .........ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อความดีๆ ทำให้รู้สึกดีๆไปด้วย ^^ เรื่องสัตว์อื่นไม่ทราบค่ะ ไม่เคยลอง ไม่คิดว่าตัวเองจะฟังรู้เรื่องค่ะ คิดตลอดว่า เป็นเรื่องบังเอิญอ่ะค่ะ
    ............อย่างที่อาจารย์ตอบว่า เป็นเรื่องปกติของคนมีฌาน 4 แต่หนูไม่ค่อยได้นั่งสมาธิเท่าไหร่ จึงคิดว่า ตัวเองคงไม่มีบุญได้ฌาน 4 อ่ะค่ะ คิดว่าคงคิดไปเอง (มั้ง) ม่ายยแน่ใจค่ะ

    *** แล้วจะมาเล่าเรื่อง แปลกๆ ให้ฟังนะคะ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2009
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เป้าหมายต่อไป เป็นเป้าใหญ่...คือวัดพร้าว
    เป็นวัดที่ใหญ่และค่อนข้างดัง...แต่หายากพิลึก
    ต้องขับรถ วนไป วนมา สองสามรอบ
    ในที่สุดก็พบ ว่า ต้องเข้า ทางเล็กๆๆ ที่อยู่ข้างสะพานข้ามแม่น้ำ
    ทางเข้าก็แสนจะแคบ จนไม่คิดว่า จะเป็นทางเข้าวัด
    แต่พอ ขับโผล่เข้าไป...ก็เหมือน ผ่านคอขวด...
    พอผ่านก็เป็นที่โล่งและกว้าง...มองเห็น ว่า คึกคักพอสมควร
    มีรถผู้มาไหว้พระ ค่อนข้างมาก
    ..........................................................
    พอจอดรถได้..เบื้องหน้า เป็น แผงซุ้มขายของ
    ของ บรรดา พ่อค้า-แม่ค้า จรหลายสิบซุ้ม..
    และมีศาลาลงน้ำ เลี้ยงปลาวัด
    ซึ่งก็คงเหมือนวัดทั่วๆๆไป..คือ ปลาสวาย
    .......................................................
    มองหาป้าย บอกแสดงการเข้าชมพื้นที่
    ลูกศร ชี้ไป ทางซ้าย...ไปศาลากราบพระ
    ลูกศรชี้ไปทาง ขวา...ไปดูค้างคาวแม่ไก่
    .........................................................
    เมื่อมาวัด...สิ่งแรกที่ ต้องทำก่อน คือ กราบพระ
    ก็พากันเดินไปทางซ้าย..เห็นศาลาสร้างใหม่ ขนาดกลาง
    มีรองเท้าผู้คน มากกว่า สิบคู่วางอยู่ที่ หน้า บันได..แสดงว่าดี
    ................................................................
    พวกเราสี่คน ก็ ถอดรองเท้า และเข้าไป พร้อมๆๆกัน
    แค่โผล่เข้าไป ก้าว แรก..ทุกคน ก็ชะงัก ด้วยความตะลึง
    เพราะ พลังพุทธ ที่ สัมผัสได้..บอกได้ เลยว่า เป็น ของใคร
    เป็นพลังที่เย็นเจี๊ยบแบบโดนลมแอร์เครื่องใหญ่
    .................................................................
    ความเย็นนั้นเข้าไปที่ สันหลัง..เข้าไปในกระดูก จนตัวแข็ง
    ตัวชา อยู่กับที่ พักใหญ่ๆๆๆ...นี่คือ พลัง พุทธ แห่ง พระศรีอริยเมตไตร
    พลังแห่งพุทธแห่ง อนาคตกาล...ที่ได้ทับซ้อนเข้ามาแล้ว
    .......................................................................
    พุทธศาสนา จะคงอยู่ได้ 5,000 ปี
    ยุคพุทธโคดม โคตะมะผ่านไปแล้ว ครึ่งหนึ่ง คือ 2,500 ปี
    ช่วงรอยต่อ ทับซ้อน จะว่างอยู่เป็นระยะเวลาสั้นๆๆ
    และได้รับการปกป้องดูแล โดยเหล่า เทพ เทวดา และ นาค
    .....................................................................
    ดังนั้นช่วง 52 ปี ที่เลย พศ 2,500......จึงมีเทวดา และนาค
    มาเกิดเป็น มนุษย์กันมาก...เพื่อ ค้ำจุนศาสนา
    ตามที่ พระพุทธโคดมโคตะมะ ได้ ขอไว้
    ......................................................................
     
  5. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เป้าหมายต่อไป เป็นเป้าใหญ่...คือวัดพร้าว
    เป็นวัดที่ใหญ่และค่อนข้างดัง...แต่หายากพิลึก
    ต้องขับรถ วนไป วนมา สองสามรอบ
    ในที่สุดก็พบ ว่า ต้องเข้า ทางเล็กๆๆ ที่อยู่ข้างสะพานข้ามแม่น้ำ
    ทางเข้าก็แสนจะแคบ จนไม่คิดว่า จะเป็นทางเข้าวัด
    แต่พอ ขับโผล่เข้าไป...ก็เหมือน ผ่านคอขวด...
    พอผ่านก็เป็นที่โล่งและกว้าง...มองเห็น ว่า คึกคักพอสมควร
    มีรถผู้มาไหว้พระ ค่อนข้างมาก
    ..........................................................
    พอจอดรถได้..เบื้องหน้า เป็น แผงซุ้มขายของ
    ของ บรรดา พ่อค้า-แม่ค้า จรหลายสิบซุ้ม..
    และมีศาลาลงน้ำ เลี้ยงปลาวัด
    ซึ่งก็คงเหมือนวัดทั่วๆๆไป..คือ ปลาสวาย
    .......................................................
    มองหาป้าย บอกแสดงการเข้าชมพื้นที่
    ลูกศร ชี้ไป ทางซ้าย...ไปศาลากราบพระ
    ลูกศรชี้ไปทาง ขวา...ไปดูค้างคาวแม่ไก่
    .........................................................
    เมื่อมาวัด...สิ่งแรกที่ ต้องทำก่อน คือ กราบพระ
    ก็พากันเดินไปทางซ้าย..เห็นศาลาสร้างใหม่ ขนาดกลาง
    มีรองเท้าผู้คน มากกว่า สิบคู่วางอยู่ที่ หน้า บันได..แสดงว่าดี
    ................................................................
    พวกเราสี่คน ก็ ถอดรองเท้า และเข้าไป พร้อมๆๆกัน
    แค่โผล่เข้าไป ก้าว แรก..ทุกคน ก็ชะงัก ด้วยความตะลึง
    เพราะ พลังพุทธ ที่ สัมผัสได้..บอกได้ เลยว่า เป็น ของใคร
    เป็นพลังที่เย็นเจี๊ยบแบบโดนลมแอร์เครื่องใหญ่
    .................................................................
    ความเย็นนั้นเข้าไปที่ สันหลัง..เข้าไปในกระดูก จนตัวแข็ง
    ตัวชา อยู่กับที่ พักใหญ่ๆๆๆ...นี่คือ พลัง พุทธ แห่ง พระศรีอริยเมตไตร
    พลังแห่งพุทธแห่ง อนาคตกาล...ที่ได้ทับซ้อนเข้ามาแล้ว
    .......................................................................
    พุทธศาสนา จะคงอยู่ได้ 5,000 ปี
    ยุคพุทธโคดม โคตะมะผ่านไปแล้ว ครึ่งหนึ่ง คือ 2,500 ปี
    ช่วงรอยต่อ ทับซ้อน จะว่างอยู่เป็นระยะเวลาสั้นๆๆ
    และได้รับการปกป้องดูแล โดยเหล่า เทพ เทวดา และ นาค
    .....................................................................
    ดังนั้นช่วง 52 ปี ที่เลย พศ 2,500......จึงมีเทวดา และนาค
    มาเกิดเป็น มนุษย์กันมาก...เพื่อ ค้ำจุนศาสนา
    ตามที่ พระพุทธโคดมโคตะมะ ได้ ขอไว้
    ......................................................................
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ดังนั้น..จึงไม่เป็นที่แปลกใจ..ที่ในปัจจุบัน เริ่มมีวัด ที่เข้าใจเรื่องนี้
    เริ่มมีการสร้างรูปบูชาขององค์พระศรีอริยเมตไตร..ไว้ในโบสถ์หลายแห่ง
    ...........................................................................
    หลังจาก ตกตะลึง การสัมผัส พลัง แห่ง พุทธ พระศรีอริยเมตไตร
    พวกเราสี่คน ก็ค่อยๆๆคลานเข้าไป กราบ รูปพระพุทธ
    ที่ สร้างเป็น พุทธศิลป์...ตามกำลังวันเกิด ประจำสัปดาห์
    ..................................................................
    พุทธศิลป์ ทุกองค์ ครบ เจ็ดวัน เป็นรูป ที่ ทรงเครื่องแบบกษัตริย
    มีมงกุฏ มีเสื้อทรง และเครื่องประดับ....ทำได้ สวยงามมาก
    มีขนาดสูง เกือบเท่า ตัวคนจริง..ใส่ไว้ใน ครอบ กระจก
    ป้องกันผู้คน ปิดทอง รดน้ำ...เพราะจะทำให้เสื่อมลงได้
    ............................................................
    พวกเราสี่คน ก็ ค่อยๆๆคลานไปกราบ จนครบ ทุก ปางตามวันเกิดที่ สร้างไว้
    ด้วยจิตที่ มั่น และศรัทราในพลังอำนาจแห่ง พุทธ พระศรีอริยเมตไตร
    คลานไป จิตก็เบิกบานไป...ดีใจที่ก่อนตายในภพภูมินี้..เราได้มีโอกาส
    ได้ สัมผัส พลัง แห่ง พระพุทธองค์แห่ง อนาคต...อันเป็น สัญญาณว่า
    เมื่อ พระศรีอริยเมตไตร ทรงอุบัติลงมา..พวกเราทั้งสี่ จะได้ ลงมาด้วย
    สาธุ....สาธุ....สาธุ
    .........................................................................
     
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ศาลานั้นค่อนข้างกว้าง...ทางขวามีหมู่รูปปั้น ของ เจ้าอาวาสในอดีต
    มีอยู่ สามองค์ และมีหลวงปู่ทวดแห่งวัดช้างให้ ด้วย
    ลองค่อยๆๆ สัมผัส ด้วยจิต เพื่อ ดูว่า องค์ไหน..เป็นอย่างไร
    ..................................................................
    มาสดุดอยู่ที่องค์กลาง...มีพลังดูดแรงเหลือ เชื่อ
    พวกเราสัมผัสได้...ก็รู้ว่า องค์นี้ไม่ธรรมดา
    อ่านป้ายชื่อ ด้านหน้าเขียนไว้ว่า "หลวงปู่ เซ้ง"
    .........................................................
    ก็เลยต้อง นั่งลงไหว้ และทำสมาธิ ลงตรงหน้า
    ได้พลังซู่ซ่า ดี...พอได้ ที่ ก็ไป ยืนที่ด้านหลัง
    เอามือจับชายผ้าเหลือง หลวงปู่...ได้ผล
    .......................................................
    แค่วูบเดียว...หลวงปู่พาขึ้นไปดู ข้างบนเลย
    เราจึงได้ เห็น สวรรค์ และวิมาณบนฟ้า
    เป็นการย้ำว่า สวรรค์ บนฟ้ามีจริง...
    เมื่อสวรรค์มีจริง....นรกก็ต้องมีจริง
    .................................................
    ผมสามตา ทำก่อน...อีกสามคนที่เหลือ ก็เอาบ้าง
    เป็นอันว่า..ได้ขึ้นสวรรค์ ทั้งเป็น ครบ ทั้ง สี่คน
    ใครอื่น อยากเห็นสวรรค์..ก็ลองไป จับ ชายผ้าเหลือง ของ หลวงปู่ เซ้ง
    แล้ว บอกท่านด้วยจิต ว่า "หลวงปู่ พาขึ้นไปดู สวรรค์หน่อย"
    ถ้าใครบุญถึง และมากพอ..ก็คงไม่ผิดหวัง
    .......................................................................
     
  8. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เสียเวลาอยู่ในศาลาบูชา ค่อน ข้างนาน..เพราะสะใจ ที่ได้ มา
    นี่เป็นวัดที่ สอง ที่ได้ ไป และพบ องค์พระศรีอริยเมตไตร
    ต่อมาจากวัดไลย์ ตลาดท่าโขลง ลพบุรี
    ................................................................
    ออกจากศาลามา..ก็เดินไป ทางขวา..ตามป้ายบอกทาง
    ไปดู ค้างคาว แม่ไก่ นับ หมื่นตัว
    เราก็เดินไป ตามทางเดิน...สองข้างทางเป็นป่า ละเมาะ สั้นๆๆ
    เหมือนเดินในสวน...ไปได้ สัก 300 เมตร ก็เห็นต้นยางใหญ่
    สูง ประมาณ ตึก6 ชั้น..มีอะไร เป็นก้อนๆๆ ห้อยโตงเตง ตัวค่อนข้างใหญ่
    เกาะกันอยู่เต็ม..มองผ่านๆๆ เป็น ร้อยๆๆตัวขึ้นไป
    ........................................................................
    นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ได้ พบเห็น ค้างคาวแม่ไก่ เกาะอยู่กันเป็น ฝูง เป็น นิคม
    ครั้งแรก เมื่อ ยี่สิบปี ก่อน ตอนทำงานอยู่ กับ กฝผ
    การไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย.ทำโครงการท่อส่งน้ำ
    จาก คลองเจ้า บางบ่อ ไป ยัง โรงไฟฟ้า บางปะกง จังหวัด ฉะเชิงเทรา.
    ..........................................................................
    แนววางท่อส่งน้ำขนาด 16 นิ้ว ต้องผ่านพื้นที่ชาวบ้าน
    เราจึงต้องไปทำการสำรวจ การจ่ายค่าชดเชย ในการวางท่อ น้ำ
    ที่กว้าง สองเมตร ยาวตลอด..ช่วงวัดเขาดิน เป็นดง ต้นจาก หนาแน่นมาก
    เราต้องชดเชยให้ ชาวบ้าน ต้นละ 10.-บาท..ตามที่ขุดจริง
    ....................................................................
    ต้นจาก ขึ้นกันหนาแน่นมาก ลุยเข้าไป ยาก
    มีค้างคาวแม่ไก่ มหาศาล นับหนื่นตัว
    เกาะเตี้ยๆๆอยู่กับ ต้นจากที่สูงไม่เกิน สอง เมตร
    ................................................................
    เราจึงได้เห็น ภาพประจำวัน ที่ ค่อนข้างทารุณ
    ชาวบ้านที่ ชอบดื่มเหล้าโรง ก็จะไปที่ ต้นจากที่อยู่ไม่ไกล
    จับเอาตัวค้างคาว มาได้ง่ายๆๆเพราะอยู่เตี้ย และไม่บินหนี
    เพราแสงสว่างเคือง ตา ค้างคาว ที่ ต้องบินหากิน ตอนกลางคืน
    ......................................................................
    พอจับมาได้ ก็เอาแก้ว เหล้า มาวาง..จับค้างคาวแม่ไก่ ที่ หนีไม่ได้.
    เอามีดคม เชือดคอ เหมือนเชือดไก่...
    เลือดค้างคาวก็ไหลกระฉูดลงแก้วเหล้า
    พอได้ที่..ก็กระดก แก้ว ดื่ม อย่างสะบายอารมณ์
    บอกว่า กินแล้ว ซู่ซ่า แข็งแรง..เตะปีบดังสะบายๆๆ
    ......................................................
    เขาเมตตายกแก้วมาให้ ด้วย..เราหริอจะทนได้
    ก็ต้องปฏิเสธ และขอบคุณเขาไป
    แต่ที่นี่เป็นวัดพร้าวที่ ทีกลุ่มค้างคาว นี่ อยู่ สูง บนต้นยางใหญ่...
    โอกาสที่ จะถุกชาวบ้านจับเอามาเชือดคอ คงจะไม่มี
    ก็รอดตัวไป
    ............................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2009
  9. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ขณะเดินไปที่ต้นยางดู ค้างคาวเกาะ มองแต่ด้านสูง
    ไม่ได้มองต่ำ..พอจบ ก็เอาตาลงมามอง ทั่วๆๆบริเวณ
    พอมองกวาดก็สะดุ้ง เพราะ แถวรอบๆๆต้นยาง มีแต่ฮวงซุ้ย ฝังศพ
    มองเห็น ฮวงซุ้ยที่เพิ่งทำความสะอาด เพื่อ รอ รับ ลูกหลาน
    ที่ จะมาวันเชงเม้ง ต้น เมษายน 2552 นั่นเอง
    ..........................................................
    อ้าว...อ้าว...อ้าว...ถูกหลอกให้มาเดินในป่าช้าเสียแล้ว
    บรรยากาศแบบป่าช้าเย็นๆๆ สยิวๆๆก็เข้ามาเลย
    รีบเดินกลับมา..สวนทางกับคนอีกกลุ่มที่ถูกหลอกให้เดินมาเช่นกัน
    ..............................................................................
    ในป่าช้ามี ค้างคาวตัวใหญ่ ที่น่าเกลียดน่ากลัว..หากินบินกลางคืน
    ข้างล่างเป็น ป่าช้าผีดุ...วันใดผีดุกระหายเลือด
    สมคบกับค้างคาวออกหากินด้วยกัน...นั่นคือที่มาของ ค้างคาวผีดูดเลือด
    หรือ "แวมไพร์ Vampire" นั่นเอง
    ....................................................................
    ต่อไปในอนาคต ถ้ามีคน นอนตายแบบตัวแห้ง ไม่มีเลือดในตัว
    ให้สันนิษฐานไว้เลยว่า เป็น ค้างคาวดูดเลือด จากวัดพร้าว
    .....................................................................
    วัดพร้าว นี่ก็แปลก มีทั้งพระศรีอริยเมตไตร บารมีสูงส่ง
    มีทั้งค้างคาวผี...สยองใจดีจัง
    วันต่อมา คุณ จักรพล พบเพื่อนสนิท ..
    เธอ ถามว่า ตอนสงกรานต์ไปทำบุญที่วัดไหนมา
    จักรพลก็ตอบว่า ไป ที่วัด พร้าว สุพรรณบุรี
    ...................................................................
    เธอร้องกรี๊ด ทันที ว่า "..บ้านฉัน อยู่หน้าวัดพร้าว.
    แต่ฉันไม่ได้ เข้าไป ถึงแม้จะอยู่หน้า บ้าน.ก็ตาม
    เพราะ วัดพร้าว ด้านหลังเป็น ป่าช้า..ผีดุ มากๆๆ
    ...โธ่...โธ่...เดินไปให้ผี หลอก จนได้..."
    เธอว่า มาอย่างนั้น
    ....................................................
    วัตตะสังโฆ..ไปสู่ที่ ชอบๆๆเถอะ....ฮื๊ย....ฮื๊ย...ฮื๊ย.
    ...........................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2009
  10. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    [​IMG]

    ต้นนี้แหละที่เอาใบมาครับ

    [​IMG]

    บริเวณด้านหน้าคุ้มครับ

    [​IMG]

    ปฏิบัติตามหาขุนแผนครับ.....555

    [​IMG]
    [​IMG]

    บรรญากาศภายในคุ้มครับ

    [​IMG]
    [​IMG]

    เจอแล้วขุนแผน

    [​IMG]

    ต่อยักษ์.........555

    [​IMG]

    อีกมุมนึงครับ

    [​IMG]

    หลวงพ่อพระลอยครับ

    [​IMG]

    อันนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไร เรียกหลวงพ่อปวดหัวแล้วกัน

    [​IMG]

    พระนอนครับ

    [​IMG]
    [​IMG]

    สวยไหม

    [​IMG]
    [​IMG]

    คณะทัวร์

    [​IMG]

    ทิ้งไว้รูปสุดท้ายงามๆครับเดี๋ยวมาต่อ
     
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คุณ วิษณู แวะเข้ามา ใส่รูปประกอบเรื่อง ที่เล่ามาทั้งหมด.
    ใครที่คิดนึกภาพไม่ออก...ก็คงเข้าใจได้ ดี ขึ้น.
    รูปคงทะยอยกันขึ้นมา ตามหลังเรื่องที่เล่าทั้งหมด
    รูปสุดท้ายเป็นรูปของ หลวงปู่ศุข แห่งวัดมะขามเฒ่า
    ก็เป็นการบอกล่วงหน้าว่า ต่อไป จะไป ทัวร์ วัดอะไร ที่ ชัยนาท
    (มีต่อ)
     
  12. ZeGiNe_SiN

    ZeGiNe_SiN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    เอาเรื่องประสบการณ์ครั้งแรก ที่เห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็นนะคะ

    -----------------ครั้งแรกที่เห็นองค์ในของร่างทรง เป็นพระแม่อุมา-----------------

    .........ที่สำนักทรงเจ้าแห่งหนึ่ง ที่จ.ชลบุรี จัดให้มีการบูชาพระแม่อุมาและพระศิวะ ด้วยการสรงนม เมื่อถึงคิวเราก็สรงนมตามๆเค้า เสร็จแล้วก็นั่งต่อหน้าร่างทรงที่ทรงพระแม่อุมา แล้วก็หลับตาขอพร หลังจากลืมตาขึ้น ถึงกับผงะค่ะ เพราะว่าที่ตัวเองเห็นนั้นไม่ใช่ร่างทรงค่ะ

    ............แต่เห็นเป็น พระแม่อุมาค่ะ ท่านสวยมากค่ะ สง่ามาก ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยเมตตา ทรงสาหรีสีชมพู ตัดกับผิวขาวแกมทอง ดูสว่าง พระแม่กำลังโน้มตัว พร้อมทั้งยื่นพระหัตถ์ท่านมาที่มือของเราที่หงายมือทั้งสองระดับอกเพื่อจะขอพร แล้วเราก็ก้มหน้าลงเพื่อจะดูว่า พระแม่จะแตะมือเรามั้ย จะมีอะไรมาที่มือรึเปล่า ปรากฎว่า ท่านไม่ได้แตะค่ะ ฝ่าพระหัตถ์ท่านกับมือเราห่างกันประมาณ 2 นิ้วเห็นจะได้ แต่รู้สึกอบอุ่นค่ะ พอเงยหน้าขึ้นไป ก็กลับเห็นเป็นร่างทรงคนเดิมค่ะ ตกใจอยู่เหมือนกัน ก็เลยถามร่างทรงไปว่า "ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่า พระแม่ ทรงสาหรีสีอะไรคะ" ร่างทรงท่านนั้นก็ตอบว่า " ปรกติ ทรงสีทอง " ก็เลย งงๆ มะกี้เห็นสีชมพูนี่หว่า ก็เลยคิดว่า ตัวเองคงตาฝาดอ่ะ ประกอบกับแดดแรงด้วย ทำให้เป็นไปได้ที่จะ ตาฝาด สงสัยคิดไปเอง

    .................มานั่งพักในที่ร่ม หลังจากสรงนมให้ทั้ง 2 ท่านแล้ว ก็กลับมาคิดย้อนดูว่าเกิดไรขึ้น ทำไมเห็น คิดเองมั้ยน้า ตาฝาดจริงเหรอ ทำไมชัดมาก แต่ก็ไม่ได้บอกใคร เพราะกลัวเค้าจะว่าเรา บ้าเอาได้

    .............หลังจากจบพิธี พระแม่อุมาและพระศิวะ ก็ลากลับ เหลือไว้แต่เพียงผู้มาร่วมพิธีและร่างทรง 2 ท่าน ส่วนร่างทรงทั้ง 2 อยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้า และนั่งพักพร้อมทั้งเสวนากับผู้มาร่วมพิธีนี้ ส่วนเราก็เอาแต่มองดูร่างของพระแม่อุมา เพราะคอยคิดว่า จริงเหรอ เราเห็นจริงๆ หนะเหรอ ในร่างนี้จริงๆ เหรอ ร่างทรงเป็นคนค่อนข้างอวบ แต่องค์พระแม่อุมานั้น รูปร่างสมส่วน เราตาฝาดไปรึป่าวนะ

    .................เหมือนร่างทรงพระแม่อุมาจะรู้ว่าถูกมอง ท่านมองกลับมาพร้อมด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม และเดินมาหาเรา ชวนคุยโน่นคุยนี่ไปเรื่อย ๆ จบลงด้วยคำพูดที่บอกว่า
    ..... "ไม่ต้องสงสัยหรอก เมื่อกี้พระแม่ทรงสาหรีสีชมพู แต่ปรกติท่านทรงสาหรีสีทอง" .>>>>o_O อึ้งสิคะ รู้ได้ไง ว่าเราคิดอะไรอยู่ ก็ถามกลับไปไม่รอช้าเลย
    ..... "ทราบได้อย่างไรคะ ว่ากำลังสงสัยอยู"
    ......"ไม่รู้เหมือนกันจ้า รู้สึกอย่างนั้น ก็เลยพูดออกมา มันแว่วๆมาอ่ะจ้า" =0=

    ............จึงตัดสินใจเล่าให้ร่างทรงท่านนี้ฟัง เค้าได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่า "ดีใจด้วยนะ ที่ได้เห็นพระแม่ ไม่ใช่ทุกคนนะจ๊ะที่จะได้เห็น ขนาดป้าเป็นร่างทรงเอง ป้ายังไม่เคยเห็นเลย แสดงว่า บุญเก่าเราเยอะนะเนี่ย ปฏิบัติเยอะๆนะจ๊ะ จะได้ไว้ช่วยคน"


    ** ครั้งแรกที่เห็น บอกได้คำเดียวค่ะ อึ้ง ทึ่ง งง สงสัย คิดว่าตัวเอง ตาฝาดแน่ๆ แต่แปลกมากค่ะ ตรงที่ผู้ถูกเห็น พูดตรงกับสิ่งที่เราเห็น **



    ************นี่แค่ครั้งแรก มีอีกหลายครั้งค่ะ แล้วจะเล่าให้ฟัง ************
     
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ออกจากวัด พร้าว ตอนใกล้เที่ยงพอดี
    จึงไปแวะทานอาหารเที่ยงแถว เดิม บางนางบวช
    เป็นสถานีบริการน้ำมัน ปตท ขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำ น้อย
    พอเสร็จก็มุ่งสู่วัดลำดับต่อไปผ่านบึงฉวาก ที่โด่งดัง
    ...........................................................
    ในเรื่อง สถานที่แสดงพันธุ์ปลา นานาชนิดมีอุโมงปลา
    ที่เราต้องเดิน ลอดใต้ แล้ว แหงนหน้าขึ้นมอง ใต้ท้องปลา
    เห็นแต่ท้องปลาสีขาววับๆๆ ไม่มีสีอื่น
    ...............................................................
    เมื่อ หลายปีก่อนไป เที่ยว ประเทศ อิตาลี
    ข้ามไป เที่ยวเกาะ คาปรี...ที่ มีบลูกร๊อตโต้ น้ำทะเลสีฟ้า
    นั่งกินเครื่องดื่มในชั้นใต้ดิน..เหนือ หัวขึ้นไป เป็นอ่างว่ายน้ำ ปกติ
    .........................................................................
    แต่พิเศษ ตรงที่ อ่างน้ำอยู่เหนือ หัวเรา..มีกระจกใสหนากั้นน้ำไว้
    เราจึงนั่งมองสาวๆๆ นุ่งสั้น บิกินีว่ายน้ำ เหนือ หัวเรา
    เหมือนกับที่เรามองปลาในอุโมง ที่ บึงฉวาก
    แต่ งงๆๆที่ ทำไม เวลามอง แล้ว ให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน
    หรือ ว่า นั่น เป็น ปลา....และนี่เป็นคนสาวๆๆ ในชุดที่ หาดูได้ ยาก
    .......................................................................
     
  14. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ขับรถผ่านมาถึง ทางแยกเข้า อำเภอ หันคา
    เลยไป อีก ประมาณ หก กม.ราก็มาใกล้จุดหมาย ที่อยากมา
    มองเห็นแต่ไกล เป็นรูปโลหะหล่อ ของ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า
    ยืนสูงเด่น..ตากแดด มองเห็น โครงสร้าง เพื่อ มุงหลังคา
    นี่คือ "วัดหัวตะพาน " ซึ่งเป็นอีกวัดหนึ่ง ที่หลวงปู่เคยมาจำพรรษา
    นอกจากวัด มะขามเฒ่า ที่อยู่ห่างออกไป อีก กว่า ๕๐ กม .
    ............................................................
    เนื่องจาก ถนนเป็นถนนขนาดใหญ่ การกลับรถ ต้องไปไกล นับกิโล
    กลับรถมาได้ ก็เลี้ยวเข้าไปในวัดไป จอดที่ ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่
    เบื้องหน้า เป็น ศาลายาว มี พระ แม่ชี นั่งรอ ผู้คน มาไหว้พระ
    บริจากทองเหลืองเพื่อหล่อ ส่วนที่ ขาดให้ครบ ถ้วน
    ......................................................................
    เมื่อสี่ปีก่อน เพิ่งมีการลงมือ ก่อสร้าง
    ครั้งแรกที่ขับรถผ่าน มองเห็นเป็น หลวงปู่ ยืนสุง อยู่ริมถนน
    สัมผัสได้ พลังมากก็จอดรถ ลงไปดูใกล้ๆๆ..ว่า เป็นใคร
    ตอนแรก ยืนเต็ม องค์ มีสีขาว ก็จำไว้
    .............................................................
    อีกสามวันต่อมา รูปปั้นหลวงปู่ สีขาว สูง สง่า ประมาณ ๗ เมตร
    ล่องหน หายไป...ก็ตกใจ หลวงปู่เหาะหนีไปแล้ว หรือ อย่างไร
    ก็จอด แวะเข้ามาถาม ว่า หลวงปู่ หายไปไหน
    คำตอบ.." ที่ทำไว้ เป็นปูนหล่อ เท่า ของ จริง
    ตอนนี้เอาลงมาเพื่อ ทำแบบหล่อ ทองเหลือง จริง.."
    ...............................................................
    เราจึงถึงบางอ้อ...และทราบว่า ถอดแบบออกมาได้ ๗ ชิ้น
    จะต้องมีการหล่อ ๗ ครั้ง เพื่อให้ครบทุกส่วน
    โดยจะหล่อ ส่วนที่เป็น ศีรษะก่อนที่ วัดต้นทาง นี้
    และส่วนอื่นๆๆจะกระจายไป ตามวัดอื่นๆๆ
    เพื่อ กระจายพลังศรัทรา ให้ ทั่วถึง
    .......................................................
    (มีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  15. ลูกลิง

    ลูกลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +3,791
    [​IMG]
    เดิมที่แถวนั้นเป็นวัดเก่าครับ แล้วมีหลวงปู่องค์นึง นั่งสมาธิแล้วเห็นไดโนเสาร์
    ก็เลยไปบอกทางราชการ ให้มาขุดดู ท่านก็ไปชี้ตำแหน่งที่ท่านเห็นก็ปรากฏว่าพบโครงกระดูกไดโนเสาร์จริงๆ ปัจจุบันท่านยังอยู่ครับ วัดจะอยู่เลยขึ้นไปข้างบนเขาอีกนิดนึง ปัจจุบันแขนท่านเสียไปข้างนึงครับ มาร่วมยืนยันว่าที่นี่น่ามาเที่ยวชมมากๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    คุณ ZeGiNe_Sin ง่ะ ทำไมตั้งชื่อนี้ล่ะคะ ดีค่ะมีเรื่องเล่าหลากหลายดี มาที่บูธ042ค่ะ
    เดี๋ยวได้ไขปริศนาหลายๆอย่างที่คาใจ

    ขอบคุณคุณลูกลิง ปีใหม่ที่ผ่านมา เขาให้เข้าฟรี(คนแยะ จอดรถเสียตังค์ให้
    ชาวบ้าน อิอิ จอดใกล้กะกองขี้ควาย อืมมม ธรรมชาติดีเหมือนกัน )
    โชคดีของคนไปเที่ยว เปิดแอร์เย็นสบายแต่ค่าไฟรู้สึกจะหลายแสน

    ส่วนที่เป็นหลุมไดโนเสาร์ในวัด ไม่ทันได้ขึ้นไปดูเลยค่ะ ขนาดเดินเฉพาะที่จัดแสดง
    ก็2 ชม. คนที่ไปด้วยเขาก็รอเง้ก เลยเกรงใจ หาโอกาสแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆเสียด้วย
    เสียดายไม่ได้ไปกราบพระ แต่ยังดีที่คุณลูกลิงมาเล่าให้ฟัง ใครไปก็แวะไปทำบุญทีวัด
    แล้วเดินดู หลุมจริง ตามด้วยพิพิธภัณฑ์ภูกุ้มข้าวนะคะ สมเด็จพระเทพฯทรงเสด็จเปิดให้
    ก็ไดโนเสาร์ชื่อ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ นี่นา
     
  17. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คุณลูกลิง หายไปนาน...ตั้งแต่ตำแหน่งงานหน้าที่ ใหญ่ขึ้น
    และต้องอยู่ส่วนกลาง ออกต่างจังหวัด นานๆๆไม่ได้
    คนเรายิ่งใหญ่.ก็ต้องยิ่งบริหาร...ยิ่งใช้สมอง.
    ยิ่งสูงมากๆๆ..วันๆๆจะมีแต่การประชุม..ชีวิตคนน่าเหนื่อยนะ
    ..........................................................
    เพิ่งจะเล่า เรื่อง ค้างคาวดูดเลือดที่ วัดพร้าว สุพรรณ
    ทีนี้ เป็น ที้เร็ก ไดโนเสาร์ ยักษ์จาก กาฬสินธุ์..ไม่ดูดหรอก
    เขมือบ ทั้งตัว เลยแหล่ะ...คอยดูเถอะ..ซี่โครงอย่างนั้น
    เดี๋ยวมันก็จะโคลนนิ่ง ตัวเองออกมา ไล่งาบผู้คนให้ดู
    เอื๊อก...เอื๊อก....เอื๊อก
    ..................................................................
     
  18. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)
    ......................................................
    จากศาลาโรงยาว..ที่มีโต๊ะ ผู้มาบริจาก เงิน ..และทำทานกุศล
    ค่า ก่อ สร้าง หลังคาคลุม รูปปั้นหลวงปู่ ศุข

    ทางขวามือสุด..
    มีรูปปั้น หล่อโลหะ ขนาดเท่า ตัว จริง ของหลวงปู่ยืนอยู่
    และด้านขวาของหลวงปู่ ศุข มีรูปปั้นของ ศิษย์เอก อันลือนามของท่าน
    เสด็จเตี่ย หรือ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประทับ อยู่..
    ในชุดนายทหารเรือ...เต็มยศ
    ...................................................................
    ข้าพเจ้า เดินรี่ เข้าไป ก่อนที่ หลวงปู่ศุข...
    นั่งลงกราบที่ หลังเท้าของหลวงปู่
    พร้อม น้ำตาซืม ไหลออกมา..เพราะ สาแก่ใจมานานแล้วว่า..
    ในอดีตชาติ เคยเกี่ยวข้องอย่างไร กับ หลวงปู่...
    วันนี้จึงได้ มากราบอีกครั้ง...นั่งสงบอารมณ์ อยู่หลายนาที
    ............................................................
    คุณจักรพล สมาชิกคนสำคัญ ของ ชมรม..
    รี่เข้าไป กราบหลวงปู่ เป็นอันดับ ต่อมา
    แล้วไป หมอบคาอยู่ที่ หลังเท้า ของ เสด็จเตี่ย..กรมหลวงชุมพรฯ
    คาอยู่อย่างนั้น...คนที่ อายุ เลย เลขห้า ไป แล้ว..
    ก็กลายเป็น เด็ก ห้า ขวบไปในบัดดล..สะอึกสะอื้น อยู่อย่างนั้น
    อย่างสาแก่ใจ สุดๆๆๆ...ที่คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ
    ..................................................................
    ในยุคที่ เสด็จเตี่ย ยัง มีพระชนม์ ชีพ อยู่
    จักรพล เกิดมาในยุคนั้น และเป็น นายทหารต้นห้อง
    คอยรับใช้ พระองค์ แทบจะทุกเรื่อง
    ในปัจจุบันแม้ เสด็จเตี่ย จะสิ้นไปแล้ว..ดวงวิญญาณ ของ พระองค์
    ยังคงสถิตย์ อยู่...และยังทรงใช้งาน ติดต่อ อยู่ กับคุณจักรพล
    ...................................................................
    เหมือนกับว่า..การสิ้นพระชนม์ ไม่ได้มีการแยกออกไป
    ดังนั้นย่อมเป็นเรื่อง ธรรมดา ที่ ข้าเก่า นายเก่า ได้มาพบกันในวันนี้
    การมาพบกัน ในส่วนลึกๆๆแล้ว ย่อม กินใจ และสท้อนอารมณ์ได้ ดี
    ว่าทำไม คน ห้าสิบกว่า มานั่งร้องไห้ เป็น เด็ก ห้า ขวบ..ได้
    ...................................................................
    เชื่อไหมว่า..ขณะที่กำลังพิมพ์ ข้อความนี้..
    คนเล่า ร้องไห้ ไปด้วย เมื่อ นึกถึงภาพ ที่ ข้าเก่า นายเก่า
    สองวิญญาณ มาพบกัน..ในมิติที่ต่างกัน
    มิติที่ต่างกัน...กั้นพลังจิต และความคิดถึงไม่ได้
    .............................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ปล่อย คุณจักรพล..จมอยู่ในอารมณ์ ที่ ลึกซื้ง
    พวกเราอีก สามคน ก็ ออกสำรวจบริเวณ วัดที่ ค่อน ข้างกว้าง
    ....................................................................
    วัดนี้แต่เดิม เป็นท้องนาและสวน ของ นายคง
    วันหนึ่งหลวงปู่ศุข มาเข้าฝัน..บอกว่า ขอที่ดิน แปลงนี้ ให้ ท่านเถอะ..
    ท่านจะมาสร้างวัด...นายคง ที่ มีจิตศรัทรา หลวงปู่ อยู่แล้ว
    ก็ ยกให้ ตามที่ หลวงปู่ขอมา..วัดจึงได้ เริ่มตั้งแต่บัดนั้น
    ............................................................
    หลังจากที่ นายคง เสียชีวิต..จึงมีการสร้างศาลาเล็กๆๆกลางวัด
    มีรูปปั้นนาย คง ขนาดเท่าตัวจริง นั่งอยู่บนศาล
    แต่งตัว แบบกำนัน ชาวบ้าน คาดผ้าขาวม้า ที่เอว
    ข้าพเจ้า เคย ซื้อผ้าขาวม้า มาเปลี่ยนให้ เมื่อ หลายปีก่อน
    ทุกครั้งที่แวะมา ก็เห็นผ้าขาวม้า ใหม่อยู่เสมอ ..
    แสดงว่า มีคน ซื้อมาถวาย ท่าน เป็นประจำ..ก็ได้ โชคลาภไป
    ................................................................
    ข้าพเจ้า มาที่นี่ หลายครั้ง...เคยสังเกตุชาวบ้านพากันเดินเป็นแถว .
    ไป ยัง ด้านหลัง ศาลาที่ รอผู้คนมาทำบุญ..
    ถามเขาว่า กำลังทำอะไรกัน...คำตอบ...เขามาไหว้ นางตานี..
    แม่ตานีให้ โชคชาวบ้านเป็น ประจำเรื่อง หวยเบอร์
    ......................................................................
    เออ..ได้ยินมานานแล้ว ว่า กล้วยตานี บางต้น มีวิญญาณมาอยู่
    และ ช่วยเหลือ ชาวบ้าน เสมอ ที่ มาขอความช่วยเหลือ
    เราเองก็ไม่เคยเจอ..ก็อยากรู้ว่า เรื่องที่เล่านี้ เป็นจริงใหม
    .......................................................................
    ก็เดินไปยืนใกล้ กอต้นกล้วยตานี ที่ มีอยู่ 5-6 ต้น
    มองเห็นชาวบ้าน ถวายพวงมาลัยสี/ ขนมหวานใส่กล่อง/ ฯลฯ
    พอเข้าไปใกล้..เอ..เข้าท่า แฮะ..มีพลัง กระตุก ยึก ยัก พอใช้
    แสดงว่า มีอะไร บางอย่าง ที่ มีพลัง อยู่ในต้นกล้วยที่ ว่า นี้ จริงๆๆ
    ......................................................................
    ก็เลยลองใช้ตาที่สามมอง ดู
    เออ..มีจริงๆๆด้วย เป็น ผู้หญิงสาว แบบโบราณ นุ่ง ผ้าถุงสีลายหมาก
    ใส่เสื้อ สะพาย มีสะไบ พาด..ท่าทางใจดี...เธอหันมายิ้ม
    บอกมาทางจิตว่า .."ดีใจที่พบคนที่ มีบุญ..ที่นี่เหนื่อยมาก
    เพราะ ต้องช่วยชาวบ้าน..เขาลำบากด้วยกันทั้งนั้น.."
    ...........................................................................
    ข้าพเจ้า ก็ ตอบกลับไป ทางจิต.." ช่วยไป เถอะ..ช่วยคนได้ บุญ นะ"
    แล้วก็มองกวาดไป รอบๆๆ อีกครั้ง
    อ้อ..กอกล้วยที่ อยู่หลัง ห่างออกไป อีกสองเมตร..
    มีเด็กชายผมจุกอายุเทียบ 8-9.ยืนอยู่..คงจะเป็นลูก นางตานี
    เอ..กล้วยตานี กับ เด็กชายผมจุกในต้นกล้วยตานี
    จะเรียกว่า ยังไง ดีหล่ะ..."จุกตานี "...ดี มั๊ย
    ............................................................
     
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ต่อมาเมื่อ ต้นปี 2552...มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาให้ ตรวจออร่า
    พบว่า ไม่ธรรมดา..มีเทพประจำตัว แรงมาก..
    เขาก็รู้ตัวว่า เขาเอง แรงพลังจิตสูง..เขามาเพื่อ เช็คว่าเรา แน่จริง หรือไม่
    ในที่สุดก็ยอมรับ..และ ขอให้ไป ตรวจฮวงจุ๊ย บ้านเขาด้วย
    อยู่ แถวสาธุประดิษฐ์..ที่ไกลเอาการ เพราะ บ้านข้าพเจ้า อยู่เมืองนนทบุรี
    ..............................................................................
    ถึงเวลาก็ไป ตามนัด.หาไม่ยากเพราะเขาเขียนแผนที่ไว้ ค่อนข้างละเอียด
    พอไปยืนประตูหน้าบ้าน.มีพลังมาแรงกระโชก เป็นการทักทาย..ในทางดี
    เราก้าวเข้าประตูไป..พลังมาทางซ้าย...หันไปมอง..
    ...........................................................................
    เออ..เอาอีกแล้ว กอกล้วยตานี..ส่งพลังมาทักทาย..เราก็มองด้วยตาใน
    ตรงไปที่ ต้นกล้วยที่ ใหญ่ที่สุด..ก็เห็น สาวไทยอายุ ราว30ปี
    อยู่ในชุดไทย โบราณ แต่ง สีฟ้า..อยู่คนเดียงว..ไม่มีลูก ไม่มี จุกตานี
    ก็ทักทายกันไป..แลกอวยพรกัน
    ......................................................................
    เดินตรวจไปหลัง บ้านที่ มีที่กว้างทำเป็น สวนหญ้า
    มุมซ้าย มีกอ กล้วยตานีอีกแล้ว
    อ้าว ....บ้านนี้ เล่น ปลูกกล้วยตานี หน้าบ้าน และ ท้ายบ้าน
    เป็นการ ยันหน้า.ยันหลัง...ดวงบ้านจะได้ แข็ง
    ..................................................................
    มองอีกที คราวนี้ นางตานี ในชุดโบราณ เช่นกัน
    แต่ดูจะอายุมาก เกิน 50แต่ง ตัว ผ้าถุง พร้อม สะไบ สีน้ำตาล
    เป็นสัญญลักษณ์ ว่า กักทรัพย์ ไม่ให้ รั่วไหล
    ส่วนนางตานีสาวด้านหน้า สีฟ้า..เรียกทรัพย์ เข้าบ้าน
    ..............................................................
    นี่เป็นครั้งที่ สอง ที่ได้ พบ และสนทนาทางจิต กับนางตานี
    และขอยืนยันว่า ในกล้วยตานีบางต้น..จะมีนางตานีอยู่
    แต่จะใจดี/ หรือ รังแกคน/ปลอมตัวเป็นสาว
    มาหลอกชายหนุ่มให้ไป นอนด้วย.ก็แล้วแต่ กรณีย์
    .................................................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...