พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

บังเอิญ ผมมีหนังสือ "พระชัยยะวงศานุสสติ"

จัดพิมพ์ และเผยแพร่แก่บรรดาศิษยานุศิษย์ เนื่องในงาน....

"บำเพ็ญกุศลครบรอบสตมวาร(100 วัน)"
ของ "พระครูพัฒนกจจานุรักษ์" (หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา)
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน

27 สิงหาคม 2543

 

ในหนังสือ จะมีหัวข้อที่เกี่ยวข้อง คือ....

อัปปมาโณ สังโฆ

เป็นเกร็ดบันทึกต่าง ๆ เป็นหัวข้อๆ อันเกี่ยวข้องกับ หลวงปู่วงศ์ฯ

เมื่อเปิดไป หัวข้อที่ 29 ในหน้าที่ 201

ก็พบข้อความ ดังภาพข้างบน นี้....

 

ภาพของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ(พระวังหน้า).... จากในกระทู้นี้....
เปรียบเทียบกับ ภาพวาด ที่หลวงปู่วงศ์ฯ ท่านวาดขึ้นมา....

 

ปัจจุบัน ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเป็นผู้หนึ่งซึ่งเป็นครูฝึกศิษย์ในดง(เท่าที่ทราบจากท่านอาจารย์ประถม ครูฝึกศิษย์ในดงมีอยู่ 5 องค์ แต่ทราบนามของครูฝึกมีเพียงสองท่านเท่านั้น คือท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ กับหลวงปู่แจ้งฌาณ) แทนหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และท่านเป็นพระสงฆ์แล้ว ผู้ที่บวชให้ท่านเจ้าก็คือหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ครับ

เมื่อผ่านการฝึกตามลำดับ หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า หรือหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า หรือหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) จะมาเป็นผู้ที่ทดสอบว่าผ่านในระดับนั้นแล้วหรือยังครับ

 

ผมขอขอบคุณ คุณมหาหินครับ ที่ได้ให้ข้อมูล

ไม่ทราบว่า ยังพอมีหนังสือ "พระชัยยะวงศานุสสติ"
อีกหรือเปล่าครับ ผมขอซื้อ 1 เล่มได้ไหมครับ จะนำไปศึกษานะครับ

จากข้อมูลของท่านอาจารย์ประถม ไม่มีข้อมูลนี้อยู่นะครับ

 

อยากร่วมบริจาค 'ต่อชีวิตสามเณร' แต่ไม่ทราบว่าโอนไปแล้วจะแจ้งผ่านท่านใดคะ และสนใจพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทั้ง 5 องค์เสก กับพระนางพญาอยู่เหมือนกันนะคะ

ปล.สมาชิกใหม่ยังไม่ค่อยทราบกฎเกณฑ์เท่าที่ควรคะ
pu002@hotmail.com

 

ต้องการพระวังหน้า ครับ

คิดว่าจะไปธนาคารเพื่อร่วมบริจาค ค่า serverและพระไตรปิฎกออนไลน์ 1,000 บาท
จึงขอเรียนถามคุณสิทธิพงษ์ว่า จะบริจาควัดพระพุทธบาท 2,000 บาท เพื่อขอพระวังหน้า 1 องค์ กับพิมพ์อื่นอีก 1 องค์ จะได้หรือไม่ เข้ามาเวปพลังจิตช้าไปหน่อยครับ

 

ผมขอเรียนชี้แจงว่า ทำบุญ 1,000.- จะได้พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า(เป็นพระคะแนนร้อย) ซึ่งมีการลงรัก 3 แบบ คือ รักสมุ(เป็นรักพม่า สีน้ำเงิน) ,ชาด (เป็นรักจีน สีแดง) และรักของไทยเรา (สีดำ) เมื่อโอนเงินแล้วให้แจ้งกับคุณนักเดินทาง หรือคุณTOE บนกระทู้ขอความเมตตาช่วยต่ออายุพระ เณรครับ

ส่วนพระนางพญานั้น ไม่ใช่พระนางพญาที่เป็นพระกรุนางพญานะครับ

ส่วนพระพิมพ์อุ้มบาตร ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทั้ง 5 องค์เสกนั้น รายละเอียดผมจะลงให้ทราบอีกครั้งครับ

 

เรื่องการบริจาควัดพระพุทธบาทนั้น ผมเองได้ยุติการแจกพระแล้วครับ แต่ผมเปลี่ยนแปลงการบริจาคเป็น บริจาคขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร แทนครับ รายละเอียด ผมจะลงให้ทราบครับ

 

ความเห็นเรื่องลิขสิทธิ์ภาพหลวงปู่ใหญ่ ครับ

ตามความเห็นของผม ลิขสิทธิ์ภาพของหลวงปู่ควรเป็นของอาจารย์ประถม และกรรมสิทธ์ในภาพเขียนควรเป็นของคนเขียนภาพ ครับ
เหตุผล อาจารย์ประถมท่านได้ตกลงทำสัญญาจ้างทำของ(จ้างวาดภาพ)กับอาจารย์ที่เป็นศิลปินเขียนภาพ โดยได้มอบค่าจ้างเป็นพระสมเด็จและเงินอีกจำนวนหนึ่ง และได้ขอภาพไปเป็นรูปถ่ายซึ่งผู้จ้างวานสามารถนำไปมอบเป็นสาธารณะหรือให้สิทธิกับใครก็ได้ ครับ

 

ผมขอเรียนชี้แจงเรื่องการแจกพระวังหน้าครับ

ผู้ที่ทำบุญ 1,000.-บาท ตามกระทู้ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=21733
จะได้พระพิมพ์ สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า 1 องค์ครับ

โดยแจ้งความประสงค์ขอรับพระได้ที่คุณนักเดินทาง หรือคุณ toe ครับ

รายละเอียดของพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ตามกระทู้ขอมอบพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าคะแนนร้อยแก่ผู้ร่วมทำบุญ สนส บ่อเงินบ่อทอง

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=27127​

ขอมอบพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าคะแนนร้อยแก่ผู้ร่วมทำบุญ สนส บ่อเงินบ่อทอง


<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->

เนื่องด้วยคุณ Sithiphong มีความประสงค์จะมอบพระให้ผู้ที่ร่วมทำบุญกับพระเณร สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารเพื่อพระเณร 90 กว่ารูป และนอกจากนี้เพื่อสมทบทุนก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารที่พัก สำหรับท่านที่บริจาคทุก 1,000 บาท ผมจะจัดส่งพระไปให้ 1 องค์

สามารถบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีต่อไปนี้
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี นางสาวฐิติวรรณ คุณานพรัตน์ (สังฆทานบิณฑบาท-ข้าวสาร-อาหารแห้ง)
สาขา บางนา
เลขที่บัญชี 015-4 32192-6
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์

สำหรับองค์พระ เป็นพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าพิมพ์คะแนนร้อยทั้งหมด 60 องค์ มี 3 แบบคือ
1. พระลงรักสีน้ำเงินหรือรักสมุ (เป็นรักพม่า) จำนวน 20 องค์
2. พระลงรักสีแดงหรือชาด (เป็นรักจีน) จำนวน 20 องค์
3. พระลงรักสีดำ (เป็นรักของไทย) จำนวน 20 องค์
ซึ่งทั้งหมดเป็นพระที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพิธีหลวงที่พระอุโบสถวัดบวรสถานมงคลในพระราชวังหน้า โดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นผู้เสกครับ

พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า คะแนนร้อยนั้น เป็นลักษณะที่เวลาการสร้างพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าซึ่งเป็นพระสมเด็จเป็นพิมพ์สี่เหลี่ยม ได้ 99 องค์ จะสร้างเป็นพระคะแนนเป็นพระสมเด็จเป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมแต่ขอบด้านบนโค้งทั้งสองด้าน 1 องค์ จึงเรียกว่าคะแนนร้อยครับ

หากท่านต้องการรับพระเพื่อไว้เป็นพุทธานุสสติ และเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว หลังจากโอนเงินแล้วกรุณาแจ้งที่อยู่สำหรับองค์พระด้วยครับ หรือจะ msg ก็ได้

รายละเอียดเกี่ยวกับการทำบุญ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=21733
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์พระ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445

หมายเหตุ เนื่องจากพระมีจำนวนจำกัด จะขอมอบให้เฉพาะผู้ที่บริจาคนับจาก ณ เวลาที่ผมประกาศเป็นต้นไปจนกว่าพระจะหมด


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พระที่มอบให้ผู้ร่วมทำบุญแต่ละสีมีหลายพิมพ์ ตามรูปข้างบนครับ แต่ละท่านอาจจะได้ไม่เหมือนกัน

สำหรับรายละเอียดของแต่ละพิมพ์ดูได้ที่ http://www.palungjit.org/board/showp...&postcount=212

************************

ส่วนพระพิมพ์สมเด็จวังหน้า และพระพิมพ์ยืนอุ้มบาตรเล็ก รวม5พระธรรมทูตเสก นั้น รายละเอียดดังนี้ครับ
หากท่านใด ทำบุญในกระทู้

ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร<O</O

ทำบุญ 1,000.- บาท ผมขอมอบ
1.พระสมเด็จวังหน้า ที่เป็นสีประจำวัน มีพระธาตุในองค์พระพิมพ์ จำนวน 10 ท่าน
หรือ
2.พระพิมพ์ยืนอุ้มบาตรเล็ก รวม 5พระธรรมทูต ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทั้ง 5 องค์เสก ซึ่งเป็นสีประจำวัน (ยกเว้นสีชมพู) จำนวน 10 ท่าน
รวมเป็น 20 ท่าน นะครับ

ให้แจ้งด้วยว่าต้องการพระพิมพ์ สีอะไร

โดยแจ้งความประสงค์ว่า
ขอบริจาคเงินทำบุญกับสำนักสงฆ์ บ่อเงินบ่อทอง จำนวนเงิน 1,000.-บาท โดยขอรับพระสมเด็จวังหน้า หรือพระพิมพ์ที่หลวงปู่ทั้ง 5 องค์เสก

ให้แจ้งทั้งสองกระทู้นะครับ
1.กระทู้ขอความเมตตาช่วยต่ออายุพระเณร และ
2.กระทู้พระวังหน้านะครับ ส่วนที่อยู่ให้แจ้งผ่านข้อความส่วนตัวมาให้ผมก็ได้ ถ้าไม่ต้องการแจ้งลงที่กระทู้ครับ








(จากกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้)
http://www.palungjit.org/board/showt...=22445&page=10<!-- / message --><!-- sig -->






​

​

 

สำหรับพระวังหน้านั้น เป็นพระที่สร้างขึ้นเมื่อปลายรัชกาลที่ 4 จวบจนสิ้นสมัยท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ พ.ศ.2428 <O</O
<O</O

ผมได้ศึกษาประวัติของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มาจากหนังสือหลายๆเล่ม หลายผู้เขียน จนกระทั้งสุดท้าย ผมได้มีโอกาสได้รู้จักกับท่านอาจาย์ประถม อาจสาคร ซึ่งท่านก็มีความเมตตาที่ได้สอนให้ผมได้รู้จักกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ผมได้หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ซึ่งเขียนโดยท่านอาจารย์ประถม อาจสาครและท่านพันเอกชม สุคนธรัต ท่านได้บอกว่า หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร นั้น ในคณะท่านมี 5 องค์ (ตามประวัติโดยย่อของหลวงปู่ที่ผมได้ลงในกระทู้นี้) ท่านอาจารย์ประถม ท่านเล่าให้ฟังว่า เวลาที่หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า มาหาหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้านั้น หลวงปู่พระโสณเถระเจ้าท่านจะเรียกหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าว่า หลวงพี่ ส่วนพระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร ที่มีรูปหลวงปู่นั่งมรณภาพในถ้ำ เป็นรูปโครงกระดูก) หรือหลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรือหลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า มาหาหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้านั้น จะเรียกหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าว่าหลวงพ่อ <O</O
<O</O

ส่วนพระพิมพ์ของหลวงปู่นั้น ท่านอาจารย์ประถม ท่านเล่าให้ฟังว่า พระของหลวงปู่ นั้น เริ่มมีการจัดสร้างขึ้นตั้งแต่ที่ เนปาล มีกรุของพระพิมพ์ของหลวงปู่อยู่ในภูเขาหิมาลัย (ท่านอาจารย์ประถมท่านเคยนำพระของกรุนี้ ตรวจสอบด้วยตนเองและนำไปให้ผู้ทรงญาณอีกหลายท่านตรวจสอบ ผลปรากฏว่าบางท่านเห็นเป็นภูเขาสูงที่มีน้ำแข็งปกคลุม บางท่านบอกว่าเข้าไปในถ้ำแล้วหนาวมาก ผลที่ตรวจสอบนั้นตรงกันหมด) ต่อมาก็มีการสร้างพระพิมพ์ขึ้นหลังจากที่คณะของหลวงปู่ได้เดินทางเข้ามายังสุวรรณภูมิ จนในสมัยรัชกาลที่ 4 (หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ท่านเห็นว่าท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญเคยมีความเกี่ยวพันกันในอดีตมา หลวงปู่ท่านก็มาหาท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ในปัจจุบันท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเป็นหนึ่งในห้าของครูฝึก เมื่อมีการฝึกตามระดับขั้นแล้วหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ,หรือหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า หรือหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ท่านจะมาเป็นผู้ที่ทดสอบกับศิษย์ว่า ผ่านในขั้นนั้นแล้วหรือยัง) จวบจนพ.ศ.2428 ซึ่งเป็นปีที่ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญทิวงคต หลังจากนั้นก็มีการสร้างพระพิมพ์ของหลวงปู่อีก แต่ในช่วงหลังนี้ หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ท่านเป็นผู้ที่เสกให้ พระพิมพ์ที่เราๆท่านๆคุ้นตานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพระพิมพ์ที่ยืนปิดตาบ้าง , นั่งอยู่ตอไม้บาง , นั่งสมาธิมีบาตรบนมือท่านบ้าง ,นั่งบนตอไม้มือปิดหน้าบ้าง และยังมีอีกหลายพิมพ์ การจัดสร้างนั้น หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ท่านให้ลูกศิษย์ของท่านเป็นคนทำพระพิมพ์ขึ้นแล้วท่านเป็นผู้ที่เสกให้ แต่การสร้างนั้นเป็นการสร้างพระพิมพ์ในยุคหลังแล้ว<O</O
<O</O

ครูฝึกของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนั้น มี 5 องค์ แต่ท่านอาจารย์ประถม ท่านบอกว่าทราบนามของครูฝึกเพียง 2 ท่านคือหลวงปู่แจ้งฌาณ กับท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ อีก 3 ท่านไม่ทราบนาม ในบางครั้งผู้ที่ได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนั้น จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่หลวงปู่ แต่ได้พบครูฝึกของหลวงปู่ก็เป็นได้ <O</O
<O</O

ส่วนท่านกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทเจ้านั้น ในสมัยท่านไม่ปรากฏการจัดสร้างพระพิมพ์ขึ้น เนื่องจากว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านได้ศึกษาค้นคว้าจาก <O</O
1.ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 13 <O</O
2.ตำนานเรื่องเครื่องโต๊ะและถ้วยปั้น พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ<O</O
3.ประวัติ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี<O</O
4.พระราชประวัติวังหน้า<O</O
5.ประวัติเจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี(ท้วม บุนนาค) เจ้าคุณกรมท่า ฉบับนายนัฐวุฒิ สุทธิสงคราม<O</O
อีกทั้งต้องศึกษาศิลปะของพระพิมพ์ว่ายุคใหนลักษณะเป็นอย่างไร และต้องตรวจทางด้านนาม (ตรวจว่าใครเป็นผู้เสกหรือเสกที่ไหน)ด้วยครับ<O</O
<O</O

จากเอกสารอ้างอิงดัง(เป็นเอกสารอ้างอิงในหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี ท้วม บุนนาค) กล่าวนี้ พอที่จะบ่งบอกได้ว่า การสร้างพระพิมพ์ในยุครัตนโกสินทร์ของวังหน้านั้น มีการจัดสร้างขึ้นในปลายรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ส่วนทางวังหลวงนั้นมีการจัดสร้างขึ้นในปลายรัชกาลที่ 4 จวบจนปลายรัชกาลที่ 6 ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยบอกผมว่า วังหน้า ร.1 ถือดาบ วังหน้า ร.5 ถือพู่กัน ท่านกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทเจ้านั้น พระองค์ท่านเก่งมากในเรื่องของการศึกสงคราม แต่ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเก่งมากในเรื่องของศิลปะทุกแขนง <O</O
<O</O

อีกทั้งหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) เขียนโดยปรัศนี ประชากร ซึ่งเป็นนามปากกาของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ได้วิเคราะห์ชีวประวัติของเจ้าคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วิเคราะห์การสร้าง ,มวลสารต่างๆ ,เรื่องช่างสิบหมู่ ,มีการจำแนกวรรณพระพิมพ์สมเด็จวังหน้า สมเด็จพระปัญจศิริ ,พิธีการพุทธาภิเษกของวังหน้า และอีกหลายๆเรื่องครับ แต่ถ้าท่านใดสนใจที่จะได้นั้น ผมคงต้องให้ท่านไปซื้อกับท่านอาจารย์ประถมเองครับ ผมเองเคยไปขอซื้อจากท่านเนื่องจากเพื่อนขอซื้อ ท่านบอกว่า ให้คนที่อยากได้ มาซื้อกับท่านเอง ผมก็เลยจนแต้มครับ หนังสือเล่มนี้ท่านอาจารย์ประถม ท่านได้นำไปมอบให้กับหอสมุดแห่งชาติ (ที่อยู่เทเวศน์) 2 เล่มครับ ลองไปหาอ่านกันได้ แต่ข้อมูลในหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) เขียนโดยปรัศนี ประชากร นี้ จะนำลงในเว็บไซด์ของหลวงปู่ด้วยในโอกาสต่อไปครับ<O</O
<O</O

ส่วนประวัติของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,ประวัติพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าและพระพิมพ์นั้น ทางกลุ่มลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม จะนำขึ้นเว็บไซด์ของหลวงปู่ประมาณ ต้นเดือนมีนาคม 2549 (หากไม่มีอะไรขัดข้อง) แล้วผมจะนำความคืบหน้ามาแจ้งอีกครั้งนะครับ<O</O

 

ขอลงประวัติพระอริยะสงฆ์ นะครับ

http://www.manager.co.th/Dhamma/PriestBrowse.asp


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" bgColor=#f5ebcc border=0><FORM name=PriestSelectForm action=viewnews.aspx><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><SELECT onchange="if(document.PriestSelectForm.NewsID.options[document.PriestSelectForm.NewsID.selectedIndex].value.length > 0) document.PriestSelectForm.submit();" name=NewsID> <OPTION value="" selected>เลือกอ่านประวัติพระอริยสงฆ์</OPTION> <OPTION value=6000000054681>หลวงปู่ แหวน สุจิณฺโณ</OPTION> <OPTION value=1314051598310>หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ</OPTION> <OPTION value=1362597435712>หลวงปู่กินรี จนฺทิโย</OPTION> <OPTION value=6000000052323>หลวงปู่ขาว อนาลโย</OPTION> <OPTION value=1793151634930>หลวงปู่คำดี ปภาโส</OPTION> <OPTION value=1184175550937>หลวงปู่จันทร์ เขมิโย</OPTION> <OPTION value=1601367628573>หลวงปู่จันทร์ สิริจนฺโท</OPTION> <OPTION value=1834428846835>หลวงปู่จูม พนฺธุโล</OPTION> <OPTION value=1504427015780>หลวงปู่ชอบ ฐานสโม</OPTION> <OPTION value=1654994642733>หลวงปู่ชา สุภทฺโท</OPTION> <OPTION value=1447545301913>หลวงปู่ดุลย์ อตุโล</OPTION> <OPTION value=1302168714999>หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม</OPTION> <OPTION value=1702029860019>หลวงปู่ทวด</OPTION> <OPTION value=1381658715009>หลวงปู่ทองรัตน์ กนฺตสีโล</OPTION> <OPTION value=6000000054076>หลวงปู่บัวพา ปญฺญาภาโส</OPTION> <OPTION value=1811302626132>หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต</OPTION> <OPTION value=1262457054853>หลวงปู่ฝั้น อาจาโร</OPTION> <OPTION value=6000000054095>หลวงปู่พระมหาปิ่น ปญฺญพโล</OPTION> <OPTION value=1700440758466>หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี</OPTION> <OPTION value=1913314598797>หลวงปู่เทียน จิตฺตสุโก</OPTION> <OPTION value=6000000054678>หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ</OPTION> <OPTION value=6000000054513>หลวงปู่มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน</OPTION> <OPTION value=1945006239413>หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร</OPTION> <OPTION value=1818622267245>หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล</OPTION> <OPTION value=1193284386396>หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต</OPTION> <OPTION value=1155885756015>หลวงปู่ลี ธมฺมธโร</OPTION> <OPTION value=1616093224286>หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ</OPTION> <OPTION value=1778223961590>หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร</OPTION> <OPTION value=6000000054666>หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม</OPTION> <OPTION value=1660666334628>หลวงปู่สิม พุทธาจาโร</OPTION> <OPTION value=1552039015292>หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ</OPTION></SELECT> </TD></TR></FORM></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่ดุลย์ อตุโล </TD><TD>หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ </TD><TD>หลวงปู่ แหวน สุจิณฺโณ </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร </TD><TD>หลวงปู่สิม พุทธาจาโร </TD><TD>หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล </TD><TD>หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ </TD><TD>หลวงปู่ลี ธมฺมธโร </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต </TD><TD>หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร </TD><TD>หลวงปู่มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่พระมหาปิ่น ปญฺญพโล </TD><TD>หลวงปู่ฝั้น อาจาโร </TD><TD>หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่เทียน จิตฺตสุโก </TD><TD>หลวงปู่ทองรัตน์ กนฺตสีโล </TD><TD>หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่ขาว อนาลโย </TD><TD>หลวงปู่จันทร์ เขมิโย </TD><TD>หลวงปู่จันทร์ สิริจนฺโท </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่ชอบ ฐานสโม </TD><TD>หลวงปู่ชา สุภทฺโท </TD><TD>หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่กินรี จนฺทิโย </TD><TD>หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ </TD><TD>หลวงปู่ทวด </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่คำดี ปภาโส </TD><TD>หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ </TD><TD>หลวงปู่บัวพา ปญฺญาภาโส </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=white><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=top align=middle bgColor=#f5ebcc><TD>หลวงปู่จูม พนฺธุโล </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พุทธประวัติพระพุทธเจ้า
http://www.manager.co.th/Dhamma/viewbrowse.aspx?BrowseNewsID=8014&Page=1

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกธรรมะ | พุทธประวัติ</TD><TD vAlign=baseline align=right></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=left width=7></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=right width=6></TD><TD vAlign=top align=middle background=images/bg_headline.gif><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=right width=3></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD class=PageTab vAlign=baseline align=left>20 ข่าว/เรื่อง หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า </TD><TD class=PageTab align=right>1 | 2 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=left width=3></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ตอนที่ 20 ปรินิพพาน
พุทธประวัติ
15 ต.ค. 45 16:04 น.
บัดนี้พระพุทธองค์ทรงเห็นว่า วันเวลาสำหรับการท่องเที่ยวสั่งสอนสัตว์ในโลกนี้จวนจะสิ้นสุดลงแล้ว ก่อนแต่จะเสด็จล่วงลับไป พระองค์ทรงประสงค์จะให้คำแนะนำแก่ภิกษุทั้งหลายเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับจะได้คงอยู่เป็นเครื่องแนะนำตักเตือนภิกษุสงฆ์ หลังจากที่พระองค์ไม่สามารถจะอยู่ตักเตือนด้วยพระองค์เองสืบไป ดังนั้นพระองค์จึงตรัสสั่งให้พระอานนท์เรียกประชุมสงฆ์ทั้งปวง ณ ที่แห่งหนึ่งใกล้ๆ นครราชคฤห์ แล้วตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายในที่ประชุมนั้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ตอนที่ 19 เทวทัต
พุทธประวัติ
15 ต.ค. 45 16:04 น.
พระพุทธองค์ทรงมีสาวกองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่พอพระทัยของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง และในทำนองเดียวกัน สาวกองค์นั้นก็มีความเคารพและมีความรักใคร่พระองค์อย่างสูงสุด สาวกผู้นี้มีนามว่า

 

ผมต้องขอกราบขออภัย เรื่องพระพิมพ์สมเด็จวังหน้า ซี่งมีสีประจำวันนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า สีชมพู (เป็นสีประจำวันอังคาร) และสีแสด (เป็นสีประจำวันพฤหัส) นั้น ผมไม่เหลือไว้เลย เนื่องจากนำไปบรรจุกรุหมดแล้ว ผมมีเหลือแต่ที่เป็นพระตัวอย่างครับ แต่ผมจะส่งรุ่นสมเด็จวังหน้าเนื้อขาวไปให้แทนนะครับ ถ้ามีผู้ที่สนใจในสีชมพูและสีแสดครับ

 

ปลาฉลามในชีวิต<O</O
<O> </O>
> >> >> อีกมุมมองหนึ่งของการใช้ชีวิต ... ปลาสด .....
> > >> >>
> > >> >> > คนญี่ปุ่นชอบเนื้อปลาสด
> > >> >>
> > >> >> > แต่ทะเลหรือแหล่งน้ำแถบญี่ปุ่นนั้น
> > >> >>
> > >> >> > ไม่มีปลาชุกชุมมานานหลายทศวรรษแล้ว
> > >> >>
> > >> >> > ดังนั้น เรือประมงทั้งหลายจึงมีขนาดใหญ่ขึ้น
> > >> >>
> > >> >> > เพื่อให้สามารถหาปลาได้เพียงพอต่อการบริโภค
> > >> >>
> > >> >> > ชาวประมงออกไปหาปลาในน่านน้ำที่ไกลออกไป
> > >> >>
> > >> >> > ยิ่งออกจากฝั่งไปไกล ก็ยิ่งใช้เวลานานเวลานำปลากลับมา
> > >> >>
> > >> >> > ถ้าออกทะเลไปนานเกิน 2-3 วัน ปลาก็จะไม่สด
> > >> >>
> > >> >> > และคนญี่ปุ่นไม่ชอบรสชาติแบบนั้น
> > >> >>
> > >> >> > วิธีแก้ปัญหาก็คือ
> > >> >>
> > >> >> > บริษัทประมงทำการติดตั้งตู้แช่แข็งเอาไว้บนเรือ >> >>
> > >> >> > พอจับปลาได้ก็เอาใส่ไว้ในตู้แช่แข็งตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในทะเล
> > >> >>
> > >> >> > ทำให้พวกชาวประมงสามารถ ออกไปหาปลาได้ไกลจากฝั่งมากขึ้น
> > >> >>
> > >> >> > แต่ว่าคนญี่ปุ่นก็สามารถแยกความแตกต่าง
> > >> >>
> > >> >> > ในรสชาติของเนื้อปลาสดกับเนื้อปลาแช่แข็งได้อยู่ดี
> > >> >>
> > >> >> > และพวกเขาก็ไม่ชอบปลาแช่แข็งเสียด้วย ปลาแช่แข็งจึงมีราคาถูก
> > >> >>
> > >> >> > เมื่อเป็นเช่นนั้น บริษัทประมงจึงทำการติดตั้งแท้งค์น้ำ
> > >> >>
> > >> >> > แล้วเอาปลาที่จับได้ใส่ลงไป
> > >> >>
> > >> >> > แต่พอถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา
> > >>และต้องโคลงเคลงอยู่ในแทงค์นานๆเข้า
> > >> >>
> > >> >> > ปลาก็ไม่ยอมว่าย มันอ่อนล้าแล้วก็เซื่องซึมลง
> > >> >>
> > >> >> > แม้จะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม
> > >> >>
> > >> >> > โชคไม่ดีที่คนญี่ปุ่นก็ยังสามารถแยกความแตกต่าง >> >>
> > >> >> > ในรสชาติของเนื้อปลาได้อยู่เหมือนเดิม
> > >> >>
> > >> >> > ปลาเหล่านั้นไม่ให้รสชาติความสดใหม่เสียแล้ว
> > >> >>
> > >> >> > เพราะว่ามันไม่ได้ว่ายมาหลายวัน
> > >> >>
> > >> >> > คนญี่ปุ่นชอบรสชาติความสดของปลาใหม่ๆมากกว่าปลาเฉื่อยๆแบบนั้น
> > >> >>
> > >> >> > บริษัทประมงญี่ปุ่นแก้ปัญหานี้อย่างไร?
> > >> >>
> > >> >> > พวกเขาจะจับปลาที่ให้รสชาติของความสดใหม่กลับประเทศอย่างไร?
> > >> >>
> > >> >> > หากคุณจะให้คำปรึกษาแก่อุตสาหกรรมประมง คุณจะแนะนำอย่างไร?
> > >> >>
> > >> >> > เสือ... ไม่ยอมกินเหยื่อที่ตายแล้ว
> > >> >>
> > >> >> > คน.... ก็ไม่ชอบกินปลาที่ตายแล้วเหมือนกัน
> > >> >>
> > >> >> > บางที่.. การเป็น "ของตาย" มันก็ไม่น่าสนใจอะไรอีกต่อไป...!!
> > >> >>
> > >> >> > ทางแก้ปัญหาเรื่องปลาของญี่ปุ่น ... ง่ายนิดเดียว
> > >> >>
> > >> >> > ชาวประมงญี่ปุ่นเค้าจะใส่ปลาไว้ในแทงค์
> > >> >>
> > >> >> > แล้วก็ใส่ "ปลาฉลาม" ลงไปในแต่ละแทงค์ด้วย
> > >> >>
> > >> >> > ปลาฉลามอาจกินปลาไปนิดหน่อย
> > >> >>
> > >> >> > แต่มันทำให้บรรดาปลาส่วนใหญ่มีชีวิตชีวามากขึ้น >> >>
> > >> >> > ปลาก็ผจญกับเรื่องท้าทาย ไม่เบื่อหน่าย ไม่เป็นปลาที่รอวันตาย
> > >> >>
> > >> >> > ความท้าทายที่พอดี...
> > >> >>
> > >> >> > ทำให้เราสนุกกับปัญหา สนุกกับสิ่งกระตุ้นใหม่ๆ ที่เข้ามา
> > >> >>
> > >> >> > พอคิดถึงเรื่องท้าทายต่างๆแล้วก็จะรู้สึกมีพลังขึ้นมา
> > >> >>
> > >> >> > ตื่นเต้นที่จะลองวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ แล้วก็รู้สึกสนุกกับมัน
> > >> >>
> > >> >> > มันเป็นสัญญาณ บ่งบอกว่า... คุณยังมีชีวิตอยู่
> > >> >>
> > >> >> > และนั่นละ ...มันก็เป็นการท้าทาย ของ
> > >>คนที่จะมากินปลาด้วยเหมือนกัน
> >
> > >> >> > วันนี้ คุณหาปลาฉลาม มาใส่ในชีวิตคุณบ้างหรือยัง ??




ส่วนรูปด้านล่างนั้น เป็นรูปภาพลวงตา ลองมองดูกันเล่นๆครับ

 

ผมขอทราบอีเมล์และเบอร์โทรมือถือด้วยครับ

 

ถ้าไม่สะดวกที่จะคุยผ่านกระทู้ ก็ให้ใช้ข้อความส่วนตัวก็ได้นะครับ
ส่วนอีเมล์เป็นของหน่วยงานที่ผมทำงานอยู่ ซึ่งทางหน่วยงานไม่อนุญาตให้บอกกับบุคคลภายนอกหน่วยงานครับ

ถ้าสนใจจะทำบุญแล้วรับพระนั้น ให้แจ้งผ่านกระทู้ได้ครับ ส่วนที่อยู่แจ้งผ่านข้อความส่วนตัวก็ได้ครับ

 

ผมได้จัดส่งพระไปให้แล้วนะครับ เมื่อเช้านี้(27กพ.49) คิดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะถึงครับ

 

สนใจจะบริจากและรับพระครับ ผ่าน scb ขอเบอร์บัญชีด้วยครับ หรือติดต่อผ่าน mkk57@hotmail.com 018952148 ครับผม