อยากทราบความเป็นมาของคุณ"The Third Eyes " ตอนที่มีตาที่สาม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sun, 19 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    อยากทราบว่าทำอย่างไร ตาที่สามของคุณ The Third Eyes จึงเปิด (หรือว่าเป็นมาแต่กำเนิด?)
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เริ่มต้นด้วยการฝึกแบบพลังจักรวาล
    เอาจิตไปกำหนดที่ กระหม่อม
    ฝึกทำอยู่ 21 วัน
    ก็สงสัยว่า ทำไม เมื่อหลับตาก็ยังมองเห็นทางเดิน มองเห้นฝาผนังได้
    อันนี้มีประโยชน์ เพราะ ถ้าสอนฝึก คนตาบอด ที่สองตามองไม่เห็น
    แต่เขาก้จะเห้น ด้วยตาที่สามได้
    ภาพที่ออกมาจะเป้นสี ซีเปีย ลางๆๆ
    สีซีเปีย Sepia คือสีกระดาษแบบพิมพ์เขียวสีน้ำตาล
    ที่ทำเหมือนรูปเก่าโบราณ

    ต่อมาก็เห็นสีของคนเป็นชั้นๆๆ เหมือนขนมชั้น หุ้มตัวเหมือนเปลือกไข่หุ้มไข่
    ต่อมาก้ลองเพ่งมองกายคน
    ก็จะเห็นอวัยวะ ภายใน เหมือนตาเอ๊กซ์เรย์
    ใช้ตรวจโรคในคนได้

    ต่อมาก็เห็นอดีตชาติ เหมือนเราคลิกเม้ากลับไปดู
    ต่อมาอยากไปไหนก็ไปได้เร็วทันใจ ที่ เรียกว่า ถอดจิต
    แล้วก็ อะไรๆๆ ตามมาอีกแยะ แค่นี้ก็พอแล้ว
    เข้าใจว่า คนที่จะมีตาที่สาม
    จะต้องทำสมาธิอย่างเข้มข้น
    และต้องมีบุญเก่าด้วย
    คงจะตอบคำถามที่ถามมา ได้นะครับ
     
  3. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    โอ้ววววววววววว......
     
  4. Golf_Kung

    Golf_Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +146
    หุหุ
     
  5. จอกแหน

    จอกแหน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +873
    เมื่องมองเห็นขนาดนี้แล้วเรื่องกามราคะจะหมดไปหรือเปล่าครับ แค่เห็นว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลก ก็แหยงๆแล้วครับ
     
  6. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    สาธุขออนุโมทนากับคุณ "ตาที่สาม" ด้วยครับ (ผมก็เคยฝึกเพ่งที่จุดนี้แต่ไม่ได้ทำติดต่อนานขนาดนั้นก็เลยไม่ค่อยได้อะไรแค่รู้สึกถึงความรู้สึกเต้นตึ๊บๆที่สมองแล้วจิตก็สงบเห็นนิมิตแว็บๆบ้างนิดๆหน่อยๆครับ) สมมติว่าถ้าผมฝึกจนได้ตาทิพย์คล่องแคล่วอย่างคุณตาที่สามแล้ว ถึงตอนนั้นแม้ว่าจะเปลี่ยนกรรมฐานไปปฏิบัติอย่างอื่นแต่ความสามารถในเรื่องตาทิพย์ก็ยังอยู่ใช่รึเปล่าครับ)
     
  7. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ปล.คือแบบว่าถ้าเป็นไปได้คุณตาที่สามพอจะหยั่งดูผมได้ไหมครับ ว่าผมมีจริตทางด้านอภิญญาพวกตาทิพย์อะไรแบบนี้รึเปล่า ถ้าผมไม่มีจริตทางด้านนี้ผมจะได้ไม่เสียเวลาฝึก ก็จะได้ทำกรรมฐานที่ผมถนัดต่อไป(คือมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมปล่อยวางความคิดทำจิตให้สงบทำในใจบ้างเป็นบางครั้ง.....คือความรู้สึกผมจะค่อนข้างชอบความสงบน่ะครับ) เพราะกรรมฐานที่ผมฝึกผ่านๆมาแม้ว่าจะมีนิมิตบ้างแต่ก็แค่ประปรายไม่ได้ชัดเจนหรือถึงขั้นหลับตาแล้วมองเห็นทางได้ ส่วนใหญ่จะหนักไปในทางมีสภาวะแปลกๆต่างๆมากกว่าครับ (และถ้าฝึกแบบมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมทำสมาธิไปเรื่อยๆอย่างที่ผมทำอยู่ ถ้าสติสมาธิแก่กล้าขึ้น พวกตาทิพย์หรืออภิญญาต่างๆจะเกิดขึ้นมาเองรึเปล่าครับ คือผมเคยมีสภาวะที่แบบว่าเหมือนพลังที่อยู่ข้างในมันจะปะทุออกมาเหมือนกับว่าเราจะได้อภิญญา แต่สภาวะนั้นมันน่ากลัวเกินไปจนผมกลัวว่าจะควบคุมพลังตัวเองไม่ได้ ด้วยความกลัวก็เลยอธิษฐานจิตขอให้พลังนั้นถูกเก็บเอาไว้ก่อนยังไม่ให้ออกมาจนกว่าเราจะพร้อมน่ะครับ พออธิษฐานจบสภาวะนั้นก็ค่อยๆเบาบางลงและก็ค่อยๆสงบลงไป จากนั้นเป็นต้นมาพวกนิมิตหรือสภาวะบางอย่างก็เหมือนกับหายไปจากตัวเราไปเลยล่ะครับนานๆจะขึ้นมาหรือรับรู้ได้ทีซึ่งน้อยมากถ้าเปรียบกับช่วงก่อนๆ จะรับรู้แค่เฉพาะบางเรื่องที่สำคัญๆและจะเป็นลักษณะรู้แบบบังเอิญซะมากกว่า เป็นสภาวะที่เคยเจอส่วนตัวมาแต่ยังไม่เคยให้ผู้มีญาณท่านใดช่วยเช็คสภาวะให้เลยล่ะครับ จริงๆก็อยากจะถามผู้รู้ท่านอื่นเหมือนกันแต่จนใจที่สภาวะนั้นผมไม่รู้จะใช้ภาษาพูดยังไงให้ออกมาตรงกับสภาวะ คิดว่าถ้ามีโอกาสได้เจอผู้ที่เช็คสภาวะคนอื่นด้วยจิตโดยไม่ต้องพูดได้ผมก็อยากจะถามดูเพื่อขอข้อมูลน่ะครับ)
     
  8. donn

    donn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +66
    คุณ The Third Eyes
    ใช้เวลาในการฝึกเริ่มต้นด้วยการฝึกแบบพลังจักรวาล
    เอาจิตไปกำหนดที่ กระหม่อม
    ฝึกทำอยู่ 21 วัน

    ผมรบกวนขอถามว่าวันละกี่นาทีครับ?
    ใช่วันละอย่างน้อยห้านาทีแต่ไม่เกินวันละ 30 นาทีรึเปล่า?
    หรือว่าไม่จำกัดเวลาในแต่ละวัน?

    คือผมก็ฝึกวิชานี้มาด้วยเหมือนกันครับ
    แต่จะมีท่าบริหารกายแบบโยคะ และชาร์จพลังคอสมิคเข้าจักระด้วย
    ยังไม่มีของแถมมาเป็นตาทิพย์เลยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  9. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คือเมื่อก่อนผมก็ฝึกคล้ายๆกับพลังจักรวาลนะครับ แต่ผมจะเพ่งที่จักรหัวใจหรือจักรที่ 4 ตรงบริเวณกลางทรวงอกซะมากกว่า ก็มีสภาวะมากมายครับ แต่มาปัจจุบันจะมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมซะมากกว่า แต่นานๆครั้งก็จะเปลี่ยนกรรมฐานบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ บางทีก็จะฝึกเพ่งไปตามจุดต่างๆที่เป็นจักรหลักๆทั้ง 7 เช่นกลางหน้าผากบ้าง กลางกระหม่อมบ้าง หรือบางทีก็ที่ท้องที่สะดือ หรือบางทีก็ดูลมหายใจ เป็นต้น ฯลฯ จะมีก็แต่กรรมฐานจำพวกที่ต้องสร้างนิมิตหรือสร้างภาพซึ่งผมจะไม่ค่อยถนัด เช่น พวกกสิณต่างๆ เป็นต้น ครับ ถ้าตัวอย่างที่ผมเอาเป็นแบบอย่างในอุดมคติก็ท่านมิลาเรปะ ที่ท่านฝึกสมาธิจนกระทั่งบรรลุถึงขั้นใช้อภิญญาได้ตามใจ ผมก็เลยคิดไว้ว่าถ้าผมมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมทำจิตให้สงบเป็นสมาธิและมีความเพียรอย่างต่อเนื่องบำเพ็ญตบะต่อเนื่องเป็นเวลาหลายๆปี พอกำลังสมาธิถึงขั้นหนึ่งแม้ว่าเราจะไม่ได้ฝึกกรรมฐานพวกกสิณแต่อภิญญาก็น่าจะผุดออกมาเองน่ะครับ (ส่วนสภาวะที่ผมเคยเล่าไว้ข้างบนที่ว่าเหมือนอภิญญาจะออกนั้นผมคิดว่าน่าจะเป็นของเก่าที่จะผุดออกมา เพียงแต่ว่าร่างในชาตินี้ยังไม่แก่กล้าเพียงพอจึงเกิดสภาวะเช่นนั้นก็เลยต้องอธิษฐานเช่นนั้น ถ้าอีกหน่อยผมทำความเพียรทำสมาธิให้มากขึ้น ถ้าตบะแก่กล้าพอจะควบคุมพลังเหล่านั้นได้แล้ว ถ้าจะมีเดี๋ยวก็คงมีเองครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้ทำความเพียรต่อเนื่องจริงจังอย่างนั้นสักทีเลยครับ ส่วนใหญ่ปัจจุบันจะทำแบบสบายๆว่างก็นั่งสมาธิบ้าง จะเน้นการมีสติอยู่กับปัจจุบันในสิ่งที่ทำมากกว่าครับ)

    ปล.ผมคิดว่ากรณีอย่างคุณตาที่สามน่าจะเป็นเพราะบารมีของเก่าด้วยจึงทำให้เกิดอานิสงส์เช่นนี้ ยังไงๆผมก็ขออนุโมทนาบุญในผลการปฏิบัติของคุณตาที่สามด้วยนะครับ
     
  10. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ใครที่นั่งฝึกสมาธิจิต จน จุดหว่างคิ้ว บนหน้าผากเต้นตุ๊บๆๆๆ
    แปลว่า ตาที่สามกำลังจะปะทุออกมาแล้ว
    ให้มาหาผม แล้วผมจะช่วยเร่งเปิดให้

    เมื่อเปิดตาที่สามแล้ว จะเห็นโลกอีกมิติ
    เป็นโลกแห่งวิญญาณที่ซ้อนกันอยู่
    การมีตาที่สาม ไม่ใช่มีไว้ให้เท่ห์
    ใครที่มีตาที่สาม เบื้องบนกำหนดไว้ เมื่อมี จะมีภาระ หนักขึ้น
    คือต้องช่วยคน ช่วยมนุษย์
    คนที่จะมีตาที่สามจะต้องพร้อมที่จะรับภาระ
    ต้องให้แน่ใจก่อนว่า ภาระ สังคมมนุษย์ ภาระครอบครัว
    จะไม่เป็นปัญหา
    การมีตาที่สาม เท่ากับอุทิศตนเพื่อ มนุษย์ขาติทั้งมวล


    มีคนถามว่า เมื่อมีตาที่สาม กำหนัด กามารมณ์ จะหมดหรือ ลดลงหรือไม่
    ลองคิดดู
    เมื่อมองสาวๆสวยๆๆ (โดยชายหนุ่ม)
    เมื่อมองหนุ่มมาดแมน (โดยสาว)

    สิ่งที่มองเห็น คือ เห็นเป็นโครงกระดูกเดินได้ เพราะ ตาที่สามเท่ากับเป็นตาเอกซ์เรย์ กำหนัด จะลดลงใหม เพราะเห็นสิ่งที่เป็นอนิจจัง

    แต่ก็ไม่แน่เสมอไป ในคนที่มีกำหนัดแรง
    เช่นหมอ ที่ตอนเรียน ผ่าศพมามากมาย
    ชำแหละทรากศพมามากมายเห็นทุกชิ้นส่วน
    เช่นหมอพรทิพย์ ที่ผ่าทั้งศพ สด
    ผ่าทั้งศพเน่า เละๆๆ โดยเฉพาะ ตอน สึนามิที่ภาคใต้
    หมอก็ยังแต่งงานมีครอบครัว มีลูก

    ผมเองนั้น ตอนเป็นหนุ่มยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีตาที่สาม ก็เลยต้องแต่ง
    ตอนนี้ แหะ ๆๆๆๆ มองเห็นเป็นอนิจจัง
    เลยบอกแฟนว่า ให้มาตั้งจิตกันว่า
    ขาติหน้าจะไม่มาพบ มาเกิด มาเป็นคู่กันอีก
    เมื่อไม่มาเกิด ก็คือ การไป นิพพานนั่นเอง

    คนบางคู่รักกันมาก มักจะสัญญากันว่า
    ขอพบกันทุกชาตินะ
    แล้ว...จะนิพพานได้ยังไง
    คิดผิด คิดใหม่ได้
    ครับ
     
  11. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณตาที่สาม

    ถ้าผมจะฝึกเปิดตาที่สามบ้างจะต้องทำอย่างไร ผมพอจะบุญพอที่จะฝึกได้ไหม
    แล้วคุณตาที่สามมีเบอร์ให้ติดต่อบ้างไหมครับช่วยส่งมาให้ผมทาง อีเมลนี้ด้วยครับ tossapornk@mektec.co.th

    ขอบคุณครับ
     
  12. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    สาธุขออนุโมทนากับคุณตาที่สามด้วยใจจริงครับ ตัวผมเองยังใช้ไม่ได้เพราะยังอยากมาเกิดอยู่เลยล่ะครับ (*o*)/

    การเต้นตุ๊บๆที่หว่างคิ้วนี้ เนื่องจากว่าผมเคยฝึกตามแบบของหลวงพ่อแป้น วัดไทรงาม ที่จ.สุพรรณบุรีน่ะครับ ท่านจะสอนให้กำหนดจิตไว้ที่ฝ่ามือแล้วก็ยกแขนขึ้นลง พอรู้สึกไปเรื่อยๆจะเกิดอาการเต้นตุ๊บๆที่ฝ่ามือ พอดูต่อไปเรื่อยๆความรู้สึกนี้ก็จะวิ่งไปตามมือมากระทบที่บริเวณหน้าอกแล้วก็ขึ้นไปยังสมองแล้วก็มาออกตรงระหว่างคิ้วเหมือนกัน ถ้าลองรู้สึกตัวทั่วพร้อมแล้วยกมือจับความรู้สึกไปเรื่อยๆไม่ต้องภาวนานะครับ จะสังเกตได้เลยว่าตรงระหว่างคิ้วจะมีอาการเต้นตุ๊บๆหรือมีความรู้สึกเชื่อมโยงกับการเคลื่อไหวของมือที่ยกขึ้นลงน่ะครับ

    ส่วนการฝึกจิตของ คุณแสง อรุณกุศล ที่ให้เพ่งจิตไว้ที่ระหว่างคิ้ว ผมก็เคยลองทำดูพอกำหนดดูสักพักก็จะมีความรู้สึกเต้นตุ๊บๆเหมือนกัน แต่จะไม่เหมือนกับตอนที่ผมฝึกยกมือ จะเต้นต่างกันนิดหน่อยน่ะครับ

    ปล.ไม่ทราบว่าคุณ "ตาที่สาม" รู้จักหลวงพ่อแป้น วัดไทรงามรึเปล่าครับ (น่าเสียดายตอนนี้ท่านมรณภาพไปแล้ว แต่ว่าลูกศิษย์ท่านก็มีมากมายทั้งพระทั้งฆราวาสทั้งคนไทยและต่างชาติท่านสอนมา 40 กว่าปีแล้วล่ะครับ หลวงพี่ที่สอนกรรมฐานให้ผมก็เป็นลูกศิษย์ท่านเหมือนกันครับ รู้สึกว่า หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ กับ หลวงพ่อสุทัศน์ วัดกระโจมทอง ก็เคยไปฝึกกรรมฐานกับหลวงพ่อแป้นด้วยล่ะครับ)
     
  13. kikkapoozuza

    kikkapoozuza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +261
    ดีจังนะคะ ที่พี่ๆ เพื่อนๆ สามารถฝึกได้ถึงขั้นนั้น เก่งจังค่ะ มีความเพียรกันสูงส่ง กิฟท์เพิ่งเริ่มหัดนั่งสมาธิได้ไม่นานเองค่ะ เลยยังไม่ค่อยได้ผลไรมากเท่าไหร่

    ที่เริ่มฝึกก็เพราะสมาธิสั้นแล้วก็ตกใจง่าย ตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว คือเริ่มมีสติแข็งมากขึ้น ไม่ค่อยตกใจง่ายๆ แล้วค่ะ กิฟท์จะพยายามฝึกต่อไปนะค่ะ

    มีข้อแนะนำก็แนะนำบ้างนะคะ kikkapoozuza@hotmail.com
    น้อมรับคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนเลยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  14. kikkapoozuza

    kikkapoozuza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +261
    ดีจังนะคะ ที่พี่ๆ เพื่อนๆ สามารถฝึกได้ถึงขั้นนั้น เก่งจังค่ะ มีความเพียรกันสูงส่ง กิฟท์เพิ่งเริ่มหัดนั่งสมาธิได้ไม่นานเองค่ะ เลยยังไม่ค่อยได้ผลไรมากเท่าไหร่

    ที่เริ่มฝึกก็เพราะสมาธิสั้นแล้วก็ตกใจง่าย ตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว คือเริ่มมีสติแข็งมากขึ้น ไม่ค่อยตกใจง่ายๆ แล้วค่ะ กิฟท์จะพยายามฝึกต่อไปนะค่ะ

    มีข้อแนะนำก็แนะนำบ้างนะคะ kikkapoozuza@hotmail.com
    น้อมรับคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนเลยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  15. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คือตามคำสอนของหลวงพ่อแป้นท่านจะสอนให้จับความรู้สึกที่มือที่ยกขึ้นลง เรียกว่ากายสัมผัส พอรู้สึกไปเรื่อยๆก็จะเกิดเป็นกระแสความรู้สึกเต้นตึ๊บๆที่ใจกลางฝ่ามือหรือที่นิ้ว อันนี้จะเรียกว่ากายวิญญาณ พอตามดูไปเรื่อยๆก็จะเห็นกระแสความรู้สึกนั้นวิ่งไปกระทบที่บริเวณทรวงอก(อันนี้เรียกว่ามโนสัมผัส) จากนั้นกระแสก็จะวิ่งต่อขึ้นไปยังสมองทำการตัดกระแสสัญญาและความคิดต่างๆ จากนั้นก็จะออกมาทางช่องทางระหว่างคิ้ว เรียกว่ามโนทวาร (สิ่งที่ออกมาคือมโนวิญญาณ) ครับ

    แต่ถ้าเริ่มต้นด้วยการรู้สึกตัวทั่วพร้อมเลยแล้วจับความรู้สึกการเคลื่อไหวของมือขึ้นลงพร้อมกับดูร่างกายส่วนอื่นไปด้วย อาจจะไม่เห็นรายละเอียดท่ามกลาง แต่จะเห็นกระแสความรู้สึกที่มือกับที่ตรงกลางระหว่างคิ้วสองจุดนี้ชัดเจนกว่าจุดอื่นครับ

    ในการเดินจงกรมก็เช่นเดียวกันให้เอาสติเพ่งไปที่ฝ่าเท้าแล้วก็คอยตามระลึกรู้ความรู้สึกของฝ่าเท้าที่ยกย่างเยื้องไปเรื่อยๆ สักพักก็จะเห็นความรู้สึกวึ๊บๆคล้ายๆที่ฝ่ามือเกิดขึ้น แล้วก็จะวิ่งเป็นกระแสมากระทบที่บริเวณทรวงอกและก็ส่งต่อไปยังสมองออกมาทางระหว่างคิ้วเช่นกัน(แต่สภาวะเหล่านี้จะเกิดเมื่อตามรู้สึกโดยเอาจิตจดจ่ออย่างตั้งใจสักระยะหนึ่ง ปกติทั่วไปประมาณหนึ่งวันถ้าทำจริงๆจังๆก็รุ้สึกได้แล้วล่ะครับ)

    แต่การจับความรู้สึกทั้งหมดนี้มีข้อแม้ว่าต้องห้ามบริกรรมนะครับ เพราะหลวงพ่อแป้นท่านสอนว่าการบริกรรมนั้นจะทำให้เกิดอัตตาและจะไปบังสภาวะธรรมภายในให้เราเห็นไม่ชัด ซึ่งผมก็เคยทดลองดูปรากฎว่าก็จริงนะครับ ความรู้สึกที่เต้นตึ๊บๆภายในกายเราเหล่านี้ถ้าช่วงไหนที่ผมสวดมนต์ก็จะเห็นไม่ค่อยชัดบางๆเหมือนกระแสความรู้สึกภายในกายไหลเวียนหรือเต้นไม่สะดวกติดๆขัดๆ แต่ถ้าลองไม่สวดมนต์หรือบริกรรมสักสองสามวันแล้วก็ตามเกาะความรู้สึกไปเรื่อยๆ ถ้าจะให้ดีก็ทำติดต่อสักอาทิตย์ ปรากฎว่ากระแสความรู้สึกเหล่านี้ทะลุทะลวงและไหลเวียนตลอดทั่วร่างไปมาชัดเจนมากเลยล่ะครับ

    ปล.วิธีการฝึกเช่นนี้หลวงพ่อแป้นท่านกล่าวว่าเป็นการฝึกวิปัสสนาล้วนๆ ซึ่งจะตัดกระแสความคิดและการปรุงแต่งได้ดี รายละเอียดจริงๆมีเยอะกว่านี้มากหนังสือของท่านถ้าอ่านแล้วอาจจะเข้าใจค่อนข้างยาก แต่ถ้าลงมือปฏิบัติเลยก็จะเข้าใจด้วยสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นครับ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ขอแนะนำให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆลองทดลองปฏิบัติดูนะครับ
     
  16. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    คุณตาที่ 3 ครับ ผมไม่ค่อยได้นั่งสมาธิแต่ชอบสวดมนต์นานๆ และกำหนดลมหายใจ ในเวลาที่ว่าง บางครั้งจะมีอาการหนักตรงระหว่างคิ้ว มันมีอาการเต้นยวบๆ ตึงๆ บางครั้งก็เสียว มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนผมบวชเข้าพรรษาผมได้ฝึกกรรมฐานแบบของคุณ WIT และก็เป็นเหมือนที่คุณ WIT บอกมาจนถึงปัจจุบัน แม้ตอนพิมพ์ข้อความนี้ก็ยังเป็นเลยครับ ผมยังไม่เห็นอะไรเลยยากให้คุณตาที่ 3 ช่วยดูหน่อยว่าพอจะเปิดได้ไหม เพราะผมมีสัจจะกับเบื้องบนว่าถ้าจะให้ผมทำงานให้ ผมขอตาที่ 3 เพื่อช่วยคนด้วย ผมยังโสด(สนิท)ไม่มีครอบครัวครับต้องการที่จะสร้างกุศลให้เกิดในภพชาตินี้ หากยังไปนิพพานไม่ได้ก็ขอใช้ชีวิตที่เหลือให้เป็นประโยชน์ เพื่ออุทิศกุศลให้กับพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นการตอบแทนคุณท่าน ถ้าผมมีโอกาสเปิดได้ผมจะไปพบคุณตาที่ 3 ได้ที่ไหนครับ
     
  17. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คุณ 431240ฟังคุณเล่าน่าสนใจ ถ้าว่างมาคุยต่อกับผมที่ยูเนียนมอลล์ ลาดพร้าวซอย 1 ระหว่าง10.00-17.00 นเฉพาะวัน จันทร์ อังคาร และพุธชั้นสอง ห้อง ซี 24เป้นห้องที่มีคนมาร่วมคุยธรรมะ กัน ถ้าว่าง ก็มาครับคิดว่าตัวจริง คงเหมือนในรูปนะครับ
     
  18. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ขอบคุณครับ คุณตาที่ 3 เป็นรูปผมจริงๆ ในปัจจุบัน ถ่ายตอนต้นเดือนนี้แหละครับ แต่ผมอยู่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช คงต้องหาเวลาไปขอความรู้กับคุณตาที่ 3 ให้ช่วยแนะนำการฝึกด้วยครับ
    พบขอรบกวนถามหน่อยครับ คนเราสามารถขอพลังจากพระพุทธรูปบูชาให้เข้าสู่ตัวได้ไม่ครับ ผมเคยเป็นอยู่ครั้งหนึ่งไหว้พระที่ทำงาน พอเริ่มต้นสวดเท่านั้นแหละครับ สภาพร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าหายไปแบบทันทีทันใด กลับกลายมามีเรี่ยวแรงและสดชื่นทันที ผมเลยงงว่าเกิดอะไร เพราะปกติจะรู้ได้แค่กระแสพลังที่แผ่ออกมาจากองค์พระเท่านั้น ขอรบกวนถามเป็นความรู้ครับ
     
  19. jinnivan

    jinnivan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +250
    สาธุด้วยครับผม นั่นแหละคือสิ่งที่ผมกลัว ผมกลัวผี หุหุหุ ยังทำใจไม่ได้ อย่าพึ่งดีกว่า เหอ เหอ

    ที่เขาบอกว่าเหนือหัวของคนไปหนึ่งฟุตจะมีพระพุทธอยู่ จริงปะครับ
     
  20. มินมิน~*

    มินมิน~* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +989
    คุณตาที่ 3 ค่ะ ที่บอกว่า เต้นตุ๊บๆหว่างคิ้ว มันเป็นอาการงัยมั่งค่ะ
    คือตอนแรกๆดิฉันเคยนั่งสมาธิแล้ว กำหนดไปที่แถวหน้าผากอะค่ะ จนมันเต้นตุ๊บๆอะค่ะ ไม่รุ้ว่าใช่ อาการเดียวกะที่ คุณ ตาที่ 3 บอกหรือเปล่าอะค่ะ เต้นตุ๊บๆจนทนไม่ค่อยไหวเลยอะค่ะ จนตอนหลังเลยเลิกแล้วไปกำนหนดที่ ปลายจมูกแทนอะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...