ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างปัญญา โดยการร่วมเป็นเจ้าภาพถวายหนังสือพระไตรปิฎก 45 เล่ม

เมื่อ 2 ทุ่มของเมื่อวานนี้ก็โทรหาหลวงพ่ออีกครั้ง แจ้งท่านว่าเนื่องจากพวกเรากันเงินไว้ส่วนหนึ่งสำหรับเข้ากองทุนการศึกษา แต่เนื่องจากมีเหตุฉุกเฉินขึ้นมาแบบคิดไม่ถึง ทำให้ต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปชำระค่าตู้พระไตรปิฎกที่เพิ่มขึ้นและมีค่าขนส่งเพิ่มมาอีก ทำให้เงินที่เหลือมีไม่มาก

ท่านแจ้งว่าไม่เป็นไร ก็ทำเรื่องถวายพระไตรปิฎกให้เสร็จ แล้วกองทุนก็ไว้คราวหน้าก็ได้ ข้าพเจ้าได้ฟังเช่นนั้น ก็รู้สึกสบายใจ

ที่ร้านค้าที่อำเภอเมือง เชียงใหม่นั้น ข้าพเจ้าไม่เคยติดต่อด้วย เนื่องจากหลวงพ่อท่านรับว่าจะติดต่อให้เอง และเป็นร้านค้าที่วัดพระบาทอุดม เคยสั่งสินค้ากันอยู่ ข้าพเจ้าจึงไม่อยากจะไปสืบเสาะขอเบอร์โทร เพื่อจะต่อว่า แต่เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้และทุกอย่างก็จัดการได้ลงตัวทุกอย่าง ประกอบกันคิดอยู่เสมอถึงคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ว่า กังวลน้อย บุญมาก กังวลมาก บุญน้อย

ดังนั้น วันนี้ข้าพเจ้าจะโทรหาหลวงพ่ออีกครั้งในช่วงบ่าย เพื่อสอบถามเรื่องตู้ทั้ง 3 ตู้ว่าถึงหรือยัง และจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

ส่วนเรื่องป้ายที่จะติดที่ตู้นั้น หลวงพ่อแจ้งว่ามีช่างมาส่งแล้ว และไม่คิดเงิน เนื่องจากทำถวายหลวงพ่อ ก็ขอโมทนาบุญกับผู้ใจบุญที่ร่วมทำป้ายให้แก่คณะเราด้วย

 

เพื่อนๆ พี่ๆ

วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ก่อนที่จะจบงานบุญนี้ ข้าพเจ้าจึงขอเรียนเชิญท่านใดที่ยังไม่ได้ร่วมบุญนี้ หากประสงค์จะร่วมบุญมากน้อยตามกำลังศรัทธา ก็สามารถโอนปัจจัยเข้าเลขที่บัญชีเดิมค่ะ เพราะโอกาสในการถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมกันครั้งเดียวถึง 3 ชุดนั้น หาได้ยากยิ่งค่ะ และเป็นมหากุศลสูงสุดไม่อาจประมาณได้ ผลบุญส่งถึงภพชาตินี้แบบรวดเร็ว ฉับพลัน ดังคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานว่า ตุลิตะ ตุลิตัง สีฆะ สีฆัง การทำบุญของพวกเราต้องไม่เนิ่นช้า ต้องเร็วๆ ไวๆ

ข้าพเจ้าจะเช็คยอดอีกครั้งช่วง 19.30 น. เพื่อแจ้งกับเพื่อนๆพี่ๆ ในกระทู้นี้ก่อนการเดินทางตอน 20.00 น. ค่ะ

 

ขอโมทนาในการถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมกันครั้งเดียวถึง 3 ชุด ซึ่งเป็นมหากุศลสูงสุดไม่อาจประมาณได้นั้น

มีคนฝากเงินไม่ประสงค์ออกนามมาร่วมทำบุญถวายหนังสือพระไตรปิฎก จำนวน 200 บาท จะโอนไปให้ตอนเย็นๆก่อน 19.30 น.ครับ

 

มาแล้วค่ะ หลังจากไปติดต่อเรื่องตู้พระไตรปิฎก เดี๋ยวดูรูปก่อนนะคะ





ร้านค้าตั้งอยู่ตรงข้ามประตูวัดจักรวรรดิ์เลยค่ะ

 

วันนี้มีผู้ใจบุญโอนปัจจัยมาอีก 100 / 200 บาท ขอโมทนาบุญด้วยค่ะ

ส่วนยอดทั้งหมดขอกลับมาก่อน จะแจ้งอีกครั้งค่ะ เนื่องจากขณะนี้รถตู้มาถึงแล้วและพร้อมจะเดินทางแล้วค่ะ

ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ที่ทำให้งานนี้สำเร็จลงได้

[b-wai]

 

ขอให้คุณโยและคณะเดินทางโดยสวัสดิภาพ ขอให้ทุกคนที่ได้ร่วมบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้เจริญในธรรม สาธุ

 

อนุโมทนาด้วยคน

 

สาธุ โมทนาครับ

 

ปิดรับ ร่วมบริจาค หรือยังครับ


ร่วมโมทนาสาธุ ด้วย ครับ บุญใหญ่ แท้ๆ

 

โมทนาครับ

 

เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน

ขอเล่าเรื่องการเดินทางไปเพื่อถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมด้วยตู้พระธรรม

ออกเดินทางเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2549 เวลาประมาณ 20.00 น. รถตู้ที่เช่าจากธรรมะมงคลทัวร์ มีพี่วินัยเป็นคนนำทาง พาหนะครั้งนี้เป็นรถโตโยต้า คอมมูเตอร์รุ่นใหม่ มีที่นั่งตอนหลัง 13 ที่ ตอนหน้ารวมคนขับ 2 ที่ค่ะ คณะที่ไปครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกของชมรมเสียงธรรมจากชาวพุทธ นำโดยพระอาจารย์สมเกียรติ และ ท่านพระมหาสมบัติ พร้อมด้วยญาติโยมอีก 12 คน ที่นั่งเต็มเอี๊ยดค่ะ



วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549

เนื่องจากกะเวลาไว้ค่อนข้างเหลือมากไป จึงไปถึงที่วัดพระธาตุช่อแฮในเวลา 04.00 น. ฟ้ายังมึดค่ะ จึงถ่ายรูปมาให้ชมกันค่ะ

 

หลังจากนั้นได้รอจนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มสว่าง จึงไปต่อกันที่วัดพระธาตุจอมแจ้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน และได้สักการะประทักษิณ 3 รอบ




จากนั้นไปเที่ยวกันต่อที่แพะเมืองผีค่ะ ยังอยู่ที่จังหวัดแพร่นะคะ



ช่วงบ่าย หลังจากถวายเพลพระแล้วก็ไปทำบุญกันต่อที่วัดศรีโคมคำ




วิหารครูบาศรีวิชัยกำลังบูรณะใหม่ค่ะ

 

จากนั้นได้ไปชมวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย สร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย ขณะนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็ประดับประดาติดกระจกแล้ว ส่วนด้านในโบสถ์นั้นไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปค่ะ

มาชมรูปหลายๆมุมก่อนค่ะ










รูปสุดท้ายนี้คือห้องน้ำที่วัดค่ะ ดูสวยงาม แปลกตาและสะอาดมากๆค่ะ

 

และต่อจากนั้นคณะเราเดินทางเพื่อเข้าพักที่ภูชี้ฟ้ารีสอร์ตค่ะ

รูปแรกเป็นรูปที่ก่อนจะถึงที่พัก พอดีเห็นพระอาทิตย์กำลังตกดินและตกเร็วมากๆ จึงรีบถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ



มาชมรูปกันก่อนค่ะ

ตื่นกันตั้งแต่ ตี 4 ค่ะ เพื่อที่จะเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูชี้ฟ้า นักท่องเที่ยวก็มีบ้างแต่ไม่มากเท่าหน้าเทศกาลค่ะ ตรงมุมนี้ข้าพเจ้านั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น และไม่เสียเวลารอเปล่าๆ ได้ภาพสวยๆ มาฝากให้ชมกันด้วยค่ะ




พระสงฆ์ที่ไปกับคณะเรา จากซ้ายคือพระมหาสมบัติ ขวาคือท่านพระอาจารย์สมเกียรติ


กว่าพระอาทิตย์จะมาให้เห็นเต็มๆดวงนี้ ก็เกือบ 7.00 น.ค่ะ อากาศเย็น และลมพัดสบายๆค่ะ


ที่ตีนภูชี้ฟ้า เด็กชาวเขา นำเอาตุ๊กตาจีน พวงกุญแจ มาขาย

คณะเราพักกันที่นี่ค่ะ

 

หลังจากนั้นเวลา 9.00 น. ได้ลงจากภูชี้ฟ้าและไปเที่ยวต่อที่ตลาดแม่สายติดชายแดนพม่า

หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังอำเภอฝาง เพื่อไปที่วัดพระบาทอุดมเพื่อถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้พระธรรม จำนวน 3 ชุด ซึ่งไปถึงนั้นหลวงพ่อได้เตรียมป้ายชื่อติดไว้เรียบร้อยแล้ว คือถวายวัดพระบาทอุดม วัดจองแป้น วัดสระนิคม ข้าพเจ้าไปถึงก็รีบถ่ายป้ายไว้ก่อน ซึ่งขณะนั้นพระสงฆ์ท่านนั่งที่อาสนะเรียบร้อยแล้ว จึงถ่ายรูปไว้ 2 รูป อีก 1 รูปคือป้ายของวัดพระบาทอุดม ลืมถ่ายรูปมาค่ะ

ส่วนไฟล์เสียงนั้น เนื่องจากข้าพเจ้าได้ซื้อ MP 3 มาใหม่เพื่อใช้งานนี้โดยเฉพาะ ก่อนนำไปใช้ก็ทดลองแล้ว พออัดเสียงหลวงพ่อเทศน์เรื่องอานิสงค์เสร็จ และตอนเสร็จพิธี จะนำมาลองฟัง ปรากฎว่าปุ่ม Menu ค้างค่ะ ไม่สามารถฟังได้ และขณะนี้นำกลับมาลองเสียบกับคอมก็ไม่ขึ้นค่ะ เดี๋ยวจะลองส่งไปให้ช่างเช็คก่อนค่ะ

มาชมภาพกันค่ะ


ป้ายของวัดพระบาทอุดม จะเหมือนกับป้ายของวัดจองแป้นค่ะ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อเป็นถวายแก่วัดพระบาทอุดม


พระสงฆ์องค์ขวามือที่นั่งบนแท่นอาสนะคือท่านพระครูสุจิตตานุรักษ์ (เจ้าอาวาสวัดพระบาทอุดม) ถัดมาคือเจ้าอาวาสวัดสระนิคม และรักษาการเจ้าอาวาสวัดจองแป้นค่ะ


สามเณรที่ศึกษาที่วัด มาร่วมพิธีด้วยค่ะ


ถวายปัจจัยแก่สามเณรค่ะ


นำหนังสือจากตู้มาเป็นตัวแทนเพื่อนๆพี่ๆ ถวายคนละเล่มเป็นพิธีค่ะ

***ไฟล์เสียงมาเพิ่มเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 ******

เปิดดูไฟล์ REC01_32_44_MP3.MP3

 

ต่อค่ะ






พระสงฆ์จากซ้ายไปขวา
ท่านพระมหาสมบัติ / รักษาการเจ้าอาวาสวัดจองแป้น / พระอาจารย์สมเกียรติ / เจ้าอาวาสวัดสระนิคม (เจ้าคณะตำบลฝาง) และ ขวาสุดคือพระครูสุจิตตานุรักษ์ (เจ้าอาวาสวัดพระบาทอุดม และเจ้าคณะอำเภอฝาง)



กำลังขนย้ายเพื่อไปไว้ที่วัดสระนิคม

ขนย้ายเพื่อไปวัดจองแป้นค่ะ


พระพุทธบาทที่วัดพระบาทอุดมค่ะ

 

และหลังจากเสร็จพิธีแล้ว คณะเราได้เดินทางไปพักที่ดอยอ่างขาง และภาพนี้คือภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวค่ะ



ขณะนี้อากาศที่ดอยอ่างขางก็ถือว่าเย็นค่ะ อุณหภูมิอยู่ที่ 5 - 10 องศา

 

และเมื่อวานนี้ช่วง 15.00 น.ก่อนกลับได้เข้าสักการะพระพุทธบาท 4 รอยค่ะ




หลวงพ่อนำสวดบูชาพระพุทธบาท 4 รอย



พระอุโบสถวัดพระบาท 4 รอย สร้างได้วิจิตร ตระการตามากค่ะ และได้ข่าวว่าเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้จะมีการฝังลูกนิมิตกันด้วยค่ะ ข้าพเจ้าไปครั้งนี้ได้ปิดทองลูกนิมิตด้วยค่ะ

ส่วนการเดินทางขึ้นพระบาท 4 รอยนั้น เนื่องจากข้าพเจ้าและคณะไม่เคยไป คนขับรถก็ไม่เคยไป หนทางค่อนข้างโหดสำหรับคนไม่ที่ชินทาง และวัดห่างจากปากทางเข้า 36 กิโลเมตร และเป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา

ทราบมาว่าที่ปากทางเข้าที่ติดกับถนนใหญ่นั้น สามารถถามคนแถวนั้นเรื่องว่าจ้างรถ 2 แถว เหมากันขึ้นมาได้ค่ะ
และเดินทางกลับ แวะส่งพระมหาสมบัติที่วัดหริภุญชัยก่อน จึงเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เวลา 05.00 น.ค่ะ

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าที่พัก คณะญาติโยมทุกคน สละทรัพย์กันเองซึ่งเฉลี่ยกัน ค่ารถกับค่าน้ำมันคนละไม่เกิน 1,500 บาทค่ะ

 

ส่วนจำนวนเงินทั้งหมดนั้น

ข้าพเจ้าจะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะขณะนี้พอกลับมาถึงก็รีบโพสให้เพื่อนๆพี่ได้ทราบข่าวงานบุญของพวกเราที่ได้ทำอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงยังไม่ได้สรุปยอดเงินทั้งหมด

หากเป็นไปได้ ช่วงเย็นวันนี้จะแจ้งอีกครั้งค่ะ

(bb-flower

 

เห็นรูปถวายพระไตรปิฎกแล้วขนลุก สาธุ