สูตรเพิ่มความสำเร็จให้ชีวิต ด้วยวิธีสร้าง...กำลังใจ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย TUK2800, 9 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    สูตรเพิ่มความสำเร็จให้ชีวิต ด้วยวิธีสร้าง...กำลังใจ



    <CENTER>
    [​IMG]
    หลายๆ ครั้งในชีวิตเราเคยประหลาดใจไหมว่า ทำไมบางคนประสบเคราะห์กรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือเป็นโรคร้ายจนหมอบอกว่าไม่มีทางรอด แต่เขาเหล่านั้นกลับสามารถยืนหยัดต่อสู้จนประสบความสำเร็จในชีวิตหรือมีอายุขัยที่ยืนยาวต่อมาได้ หรือทำไมพระมหาชนกจึงมีความเพียรพยายามที่จะว่ายน้ำข้ามมหานทีวันแล้ววันเล่า แม้จะยังมองไม่เห็นฝั่ง หรือทำไมนักกีฬาพิการจึงสามารถเอาชนะความไม่สมประกอบของตนจนคว้าเหรียญทองมาได้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเรามีความมานะบากบั่น และมีความตั้งมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ ถ้าจะบอกว่าสิ่งนั้น คือ 'กำลังใจ' ของแต่ละคน เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกไม่ถึงหรือไม่ทันคิด

    'กำลังใจ' แม้จะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงพลังอันสำคัญนี้ หลวงวิจิตรวาทการได้เขียนในหนังสือชื่อ 'กำลังใจ' ว่าการที่คนเราจะเผชิญชีวิตหรือฟันฝ่าอนาคตให้ลุล่วงไปด้วยดีได้นั้น เราจะต้องมีกำลังถึง 3 ประการด้วยกัน คือ กำลังกาย กำลังความคิด และกำลังใจ

    [​IMG] กำลังกาย หมายถึง ความเป็นผู้มีอนามัยดี ร่างกายแข็งแรงซึ่งเป็นความสำคัญเบื้องต้น

    [​IMG] กำลังความคิด หมายถึง วิชาความรู้ และมันสมองที่ดี

    [​IMG] ส่วนกำลังใจ หมายถึง สมรรถภาพ(ความสามารถ) ของดวงจิต ที่เป็นเครื่องส่งเสริมและควบคุมให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปโดยเรียบร้อยเหมาะสม

    กำลังกายเป็นเรื่องของร่างกาย กำลังความคิดเป็นเรื่องของมันสมอง และกำลังใจเป็นเรื่องของดวงจิตโดยตรง กำลังทั้งสามนี้มีความสำคัญเท่าๆ กัน ผู้ใดก็ตามมีพร้อมทั้งสามกำลัง นาวาชีวิตของผู้นั้นย่อมแล่นไปได้ดีและบรรลุถึงที่หมายได้ไม่ยาก แต่หากจะขาดหรือบกพร่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วท่านว่า ขออย่าให้เป็นเรื่องขาดกำลังใจ เพราะถ้าขาดกำลังใจแล้วจะเอากำลังกายหรือกำลังความคิดมาทดแทนกำลังใจไม่ได้เลย

    ยกตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่งทำการค้าล้มเหลว มีหนี้สินล้นพ้นตัว เมียตีจาก ชายคนนี้หากขาดกำลังใจเขาก็จะรู้สึกท้อแท้ แม้จะยังมีกำลังกายดี มีกำลังความคิดที่จะใช้ความรู้ความสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อีกครั้ง แต่เขาก็จะไม่ทำและปล่อยชีวิตให้จมปลักกับความทุกข์และความโศกเศร้าอยู่ตลอดเวลา ตรงกันข้ามหากชายคนนี้เกิดเป็นโรคร้ายซ้ำแต่เขายังไม่หมดกำลังใจ เขาก็ยังสามารถใช้สมอง สติปัญญา และพลังที่เหลืออยู่ ฮึดสู้กับโรคร้ายและโชคร้ายอย่างไม่ย่อท้อ ที่สุดเขาก็จะสามารถเอาชนะชะตากรรมได้

    หรือถ้าหากเขาขาดกำลังความคิด คือไม่มีความรู้ในธุรกิจจนต้องล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถ้าเขายังมีกำลังใจอยู่ เขาก็จะมีใจไปขวนขวายหาความรู้เพิ่ม และมุ่งมั่นจนชนะอุปสรรคทั้งหลายได้ อีกตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย คือ เรื่องของความรัก เราจะเห็นได้ว่าชายหนุ่มหรือหญิงสาวหากอกหัก มักจะการขาดกำลังใจที่จะดำรงชีวิตอยู่ แม้จะมีความรู้ หน้าตาดี ร่างกายแข็งแรง แต่หลายคนกลับคิดไม่ตก หันไปทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายในที่สุด ในทางตรงกันข้ามผู้ที่สมหวังในรักก็จะมีแรงใจที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวจนเป็นปึกแผ่น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า 'กำลังใจ' เป็นพลังที่สำคัญยิ่ง และมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการดำเนินชีวิตของเราให้ไปสู่ความสำเร็จได้นานัปการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน การทำงาน หรือความรัก ดังที่กล่าวมาแล้ว

    โดยทั่วไปกำลังใจของคนเรานั้นจะมี 2 แบบ คือ

    [​IMG] 1. กำลังใจแบบที่เกิดขึ้นเอง มักเกิดในสภาพจิตที่รุนแรง หรือเกิดจากความสะเทือนใจอย่างหนัก และมักให้โทษมากกว่าคุณ เนื่องจากเป็นกำลังใจที่เกิดจากอารมณ์ต่างๆ เช่น ความโกธร ความกลัว ความตกใจ ความเกลียด และความหึงหวง เป็นต้น กำลังใจที่ว่านี้ท่านว่าเป็นกำลังใจที่โลดโผน เกิดขึ้นชั่วแล่นแล้วก็ดับหายไป เช่น ภริยาบางคนกลัวสามีมาก แต่เมื่อถูกทำร้ายมากๆ เข้าก็อาจโกรธจนลืมตัว และเกิดกำลังฮึดสู้จนแทงสามีตายได้ หรือในเวลาไฟไหม้ ความตกใจก็สามารถทำให้บางคนยกของหนักได้ทั้งๆ ที่ยามปกติทำไม่ได้ เป็นต้น กำลังเหล่านี้ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของกำลังใจที่เกิดขึ้นในชั่วขณะนั้น ซึ่งมักอยู่ไม่นานและไม่ค่อยให้คุณ

    [​IMG] 2. กำลังใจแบบที่เราก่อให้เกิดขึ้นหรือสร้างขึ้น จะเป็นกำลังใจที่ให้คุณและมีความยั่งยืนกว่า เพราะเกิดจากดวงจิตที่ตั้งมั่นจะมีชีวิตอย่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่ปล่อยไปตามยถากรรม อีกทั้งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยแก้ปัญหาความยากลำบากในชีวิต และยังช่วยเพิ่มพูนกำลังกายและกำลังความคิดได้อีกด้วย

    ตามธรรมดาการที่จะรู้ว่าใครมี 'กำลังใจ' หรือไม่ ย่อมต้องมีเหตุแสดงให้เห็น เช่น เมื่อเกิดปัญหาชีวิต เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ คนที่มีกำลังใจจะไม่กลัวและพร้อมจะต่อสู้เพื่อให้อุปสรรคเหล่านี้หมดไป หรือสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ย่อท้อ ผิดกับคนที่ขาดกำลังใจมักจะมีอาการตรงข้าม อันเนื่องมาจากเกิดความกลัว ความขลาดที่จะเผชิญปัญหา จึงเกิดวิตกจริต รู้สึกหดหู่ซึมเศร้าอยู่เป็นนิตย์ มองเห็นแต่ปัญหา หาทางออกไม่เจอ อย่างไรก็ดีกำลังใจเป็นสิ่งที่สร้างให้เกิดขึ้นได้ และทำได้หลายประการดังที่กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จะได้ยกตัวอย่างบางวิธีมาเสนอดังต่อไปนี้

    [​IMG]ขจัดความกลัว โดยทั่วไปคนจะกลัว 4 เรื่อง คือ กลัวผี กลัวคน กลัวภัยเฉพาะหน้า และกลัวเหตุร้ายจะมาถึง คนที่มีความกลัวอยู่ในนิสัยหรือที่เรียกว่า 'คนขลาด' นั้น ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต แม้จะมีความพร้อมในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ หรือทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นเราอาจจัดความกลัวได้ 2 วิธีคือ วิธีของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงสอนว่าสิ่งที่ขจัดความกลัวได้ผลที่สุดคือ การแผ่เมตตาจิต ปลูกฝังไมตรีให้เป็นธรรมะประจำใจ เพราะทันที่ที่เรามีเมตตาจิตเราจะไม่กลัวสิ่งใดมาทำอันตราย เพราะเราจะคิดดีต่อผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา จึงเสมือนมีเครื่องคุ้มกันภัยและคุ้มกันใจให้หายกลัว

    ส่วนอีกวิธี คือ วิธีแบบจิตวิทยา เป็นการสอนวิธีขจัดความกลัวโดยให้เชื่อในความเป็นจริง คือ ให้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เช่น เรากลัวบางคนเพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร แต่หากศึกษาให้รู้ประวัติ รู้นิสัยใจคอของเขา ก็จะหายกลัว เป็นต้น ความกลัวเป็นศัตรูร้ายแรงของกำลังใจ การฝึกขจัดความกลัวจะเป็นหนึ่งในวิธีสร้างกำลังใจโดยตรง ยิ่งเรากลัวน้อยลงเท่าไร เราก็ยิ่งมีกำลังใจมากขึ้นเท่านั้น

    [​IMG]ขจัดความหวาดวิตก ซึ่งเป็นภัยร้ายที่ทำลายทั้งสุขภาพและความคิด ดังนั้นเราจะต้องแก้โดยหัดมองโลกในแง่ดี คิดในทางบวก คิดว่าต้อง 'ทำได้' อยู่เสมอ เพราะหากเรามัวแต่กลัวปัญหาอุปสรรค และคิดว่าทำไม่ได้ ก็จะเกิดปริวิตกและทอนกำลังใจตนเอง อีกทั้งจะต้องหาอะไรทำอยู่เสมอ อย่าปล่อยตัวปล่อยใจให้ว่าง ความวิตกก็จะหมดไปเพราะมัวแต่ทำงานไม่มีเวลาไปคิดฟุ้งซ่าน ไร้สาระ

    [​IMG]การเป็นตัวของตัวเอง คือ มีความคิดอ่านเป็นของตนในทางที่มีเหตุมีผล มีความถูกต้องเหมาะสม หรือพูดง่ายๆ ว่ามีหลักการของตนเอง ไม่ยอมให้ใครชักจูงให้ผันผวนไปจากแนวคิดของตน คนเหล่านี้คือผู้ที่มีกำลังใจแท้ คือ มีกำลังใจที่จะต่อสู้ และกำลังใจที่จะหักห้ามตนเองไม่ให้ทำผิดจากหลักการที่ตั้งไว้

    [​IMG]การสร้างนิสัยสดชื่น ความสดชื่น เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ และพร้อมเติบโตก้าวหน้าต่อไป ทำให้ผู้อยู่ใกล้มีความสุขสดชื่นไปด้วย แม้ว่าในความเป็นจริงเราอาจจะมีทุกข์ แต่หากเราเอาแต่โศกเศร้าทุกข์ร้อน นอกจากจะทำให้เรารู้สึกอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ผู้คนก็จะพากันหนีห่าง ดังนั้นเราจึงควรสร้างนิสัยสดชื่นไว้อยู่เสมอ ด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้สดชื่นแจ่มใส เช่น ปลูกไม้ดอกในบ้าน หัดมองโลกในแง่ดี/ขบขัน ประกอบคุณงามความดี เช่น ทำบุญ จะทำให้รู้สึกอิ่มเอิบสดชื่นเช่นกัน

    นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว เรายังสามารถเพิ่มพูนกำลังใจให้มากขึ้นด้วยการนำข้อคิด คำคม คำสอนที่เป็นคติจากหนังสือ คำพูด หรือการดำรงชีวิตที่ดีของผู้อื่นมาเป็นแบบอย่างได้ เช่นคำคมที่ว่า อัจฉริยะมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเกิดจากหยาดเหงื่อและความเพียรพยายาม /อย่าทำความชั่วเพราะคิดว่าผิดนิดเดียว และอย่าละเว้นทำดีเพราะคิดว่าได้กุศลน้อยนิด เป็นต้น

    การสร้างกำลังใจด้วยวิธีการต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว แม้จะต้องฝืนใจทำบ้างในเบื้องต้น แต่เชื่อว่าถ้าเราฝึกบ่อยๆ ให้เกิดความเคยชินจนเป็นนิสัย ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนเข้มแข็งและมี 'กำลังใจ' อันเป็นพลังผลักดันให้ชีวิตประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านต่อไป

    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    </CENTER>

    <HR>แบ่งปันช่วงเวลาพิเศษของคุณด้วย Photo Gallery Windows Live Photo Gallery
     
  2. พุธกลางคืน

    พุธกลางคืน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอบคุณมากค่ะ จะนำไปใช้สร้างกำลังใจให้ตนเองค่ะ
     
  3. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ขอบคุณครับ
     
  4. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    หยุดพักสักนิด..แล้วค่อยคิดเดินต่อไป


    บางครั้งเราก็ต้องยอมหยุดชั่วขณะ

    เพื่อรอที่จะเดินต่อไป
    ไม่ใช่ดันทุรัง…
    เพื่อที่จะต้องหยุดตลอดไป

    บ่อยไป..ที่เราเจอความยุ่งยาก และวุ่นวาย
    จนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลัง
    ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไรก่อนหลัง
    บางครั้งอุปสรรคก็เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ
    ซึ่งมาอย่างไม่มีเหตุผล ไม่นึกไม่ฝัน มาอย่างไม่มีคำอธิบาย
    และบางครั้งมันค่อยๆ มา แต่บางครั้งมันก็ถาโถมมาพร้อมๆ กัน
    ถ้าเจออย่างนั้นก็คงเป็นยากที่จะรับมือ

    เมื่ออะไรร้อยอย่างพันอย่างดาหน้าเข้ามา
    ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่มีใครสักคนโยนเชือกวงใหญ่มาครอบตัวเราไว้
    แล้วหมุนเชือกให้เกลียวพันกันยุ่งเหยิง
    ความตกใจจะทำให้สติของเรากระจัดกระจาย
    และตื่นตระหนกกับความอึดอัด และคับแคบ
    เหมือนไม่มีทางออก เหมือนไม่มีอากาศหายใจ
    จนต้องวิ่งวนหาทางออกอยู่อย่างนั้นด้วยความตื่นกลัว และไม่รู้ตัว
    เหมือนคนที่ตกใจเวลาเจอเหตุการณ์ที่รุนแรง ที่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง
    รู้เพียงแต่ว่าต้องวิ่งๆๆ ต้องหนี ต้องร้อนรน
    โดยไม่มีทางรู้เลยว่าขณะที่วิ่งไม่รู้ทิศอยู่นั้น
    เชือกยิ่งจะพันตัวเรามากขึ้น และจะมัดเราไว้อย่างแน่นหนาในที่สุด

    ลองหยุดสักพักดีไหม…หยุดให้หัวใจได้หายเหนื่อย
    หยุดให้เวลาตัวเอง ให้สติได้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
    แล้วอาจจะมีเวลาทบทวนว่า นาทีนี้เราต้องทำอะไรเป็นสิ่งแรก
    การหยุดอยู่นิ่งๆ สักครู่ จะทำให้เรารู้ว่า
    เราต้องมองเชือกที่กำลังมัดเราอยู่อย่างยุ่งเหยิงอย่างพิจารณา
    มองหาปลายเชือกหรือต้นเชือกให้เจอ แล้วค่อยมาตัดสินใจว่า
    เราจะเริ่มคลายที่ปลายเชือกหรือต้นเชือกง่ายกว่ากัน
    หยิบออกมาสักทางแล้วค่อยๆ ย้อนปลายเชือกออกไปทีละนิด
    ย้อนออกไปทางที่มันพันเข้ามา
    ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักก่อน หายเหนื่อยแล้วค่อยลุกขึ้นมาทำต่อ
    ค่อยๆ คลายมันต่อไป แม้ว่ามันจะยังไม่คลายไปทั้งหมด
    แต่ก็ยังพอมีพื้นที่ให้เราได้เคลื่อนไหวในระดับหนึ่ง

    การทำงานหรือทำอะไรบางอย่างที่เรามุ่งที่จะทำให้เสร็จ
    ทำๆๆ โดยไม่รู้จักหยุด อาจจะทำให้งานนั้นเสร็จไวก็จริง
    แต่เราก็จะเหนื่อยเกินกว่าความเป็นจริง แล้วงานก็จะไม่ดีจริง

    บางเวลา…
    เราก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามชีวิตทุกครั้ง
    แค่เราหยุดนิ่งๆ สักพัก แล้วชีวิตจะหยุดรอเรา

    บางทีโลกทั้งใบ...

    ก็ไม่รู้ว่ามีใครยอมทนแบก...

    ขนาดเพียงเสี้ยวของการมีชีวิตอยู่...

    ยังสาหัสสากรรจ์เหลือเกิน...

    คงมีเพียงแรงใจ...และกำลังใจในส่วนก้นบึ้งของหัวใจ...

    ที่บอกให้อดทน...และก้าวเดินต่อไปให้ถึงที่สุด...

    แม้จะยากท้อแท้...เพียงใด...




    ขอบคุณบทความจากทำดีดอทเน็ต(ธัมมทินน์)

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    ข้อคิดชีวิตมีสุข




    1. เราไม่ได้มีชีวิตเพื่อการเฝ้านั่งเสียใจร่ำไห้ หรือ พูดถึงแต่สิ่งที่เราทำผิดพลาดในอดีต รู้จักให้อภัยตัวเองในสิ่งที่เราทำผิดพลาด แล้วไม่นึกถึงมันอีก

    2. เรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น ในสิ่งที่เขาทำผิดพลาดในอดีต แล้วไม่พูดถึงมันอีก

    3. การปล่อยวางไม่ใช่เป็นการยอมแพ้ ตรงกันข้าม เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากส่วนลึกของหัวใจของเราวันละน้อย เพื่อเอาชนะความอ่อนแอ

    4. ชีวิตไม่ได้เติบโตจากการทำให้ทุกสิ่งได้ดั่งใจของเรา แต่เป็นการยอมรับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตของเราอย่างกล้าหาญ รักและเข้าใจทุกสิ่งที่เราได้ตัดสินใจทำลงไปทุกครั้ง

    5. เรียนรู้ความจริงว่าเราไม่สามารถบังคับผู้อื่นให้คิดและทำในสิ่งที่เราต้องการได้ เพราะแม้แต่ตัวเราเอง ยังทำให้เป็นอย่างที่เราต้องการไม่ได้เลย

    6. อย่าเสียเวลาคิดแค้นเคืองโกรธในการกระทำของผู้อื่นที่ส่งผลให้เราทุกข์ใจ ให้อภัยเขาเสีย และหากอยากรู้สึกดีขึ้น ก็นึกถึงคำสอนในพุทธศาสนาว่า ใครทำกรรมใดไว้ ผู้นั้นย่อมได้รับผลนั้นได้ด้วยตนเอง

    7. วัตถุหรือภาพลวงตาภายนอกไม่เคยสามารถเติมเต็มหัวใจใครได้ การตั้งหน้าตั้งตาหาวัตถุ หรือความพึงพอใจจากการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพื่อหวังว่าจะทำให้เรารู้สึกเต็มและมีความสุข นั่นเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ การรับวัตถุทำให้เรามีความต้องการไม่รู้จบ ขณะที่การได้รับความรักความเข้าใจจากคนที่รักอย่างเต็มเปี่ยมจะทำให้เรามีหัวใจที่ "เต็ม" จนไม่ต้องไขว่คว้าหาวัตถุมาเติมเต็มหัวใจอีก



    .....

    บางตอนจากหนังสือ "เข็มทิศหัวใจ"

    ศิริรัตน์ ณ พัทลุง ต.สุวรรณ



    ขอบคุณบทความจากธรรมจักรดอทเน็ต

    <!-- / message -->
     
  6. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=600 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>พลังจากแรงบันดาลใจ... </TD></TR><TR><TD><TABLE width=590 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    " บันดาลแรง.. บันดาลใจ"

     
  7. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=600 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>เดินต่อไป...ใจยังสู้ </TD></TR><TR><TD><TABLE width=590 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    "อย่ากลัวล้มทั้งๆ ที่ยังไม่เริ่มเดิน"
    Don't think that you're gonna lose when you don't even start. ณัฐจิระ ฮอนดา

    "ความผิดพลาดในอดีต คือบทเรียนสำหรับในอนาคต"
    The falling of yesterday are the learning of tomorrow. โรเบอร์โต บักจิโอ

    "ผมยอมไม่ได้ ถ้าไม่ได้พยายาม"
    I can't accept not trying. เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

    "แม้แต่ปลา ต้องว่ายทวนน้ำเพื่ออยู่รอด"
    Fish swim against the tide to survive. นักปราชญ์

    "ถ้าไม่ใช่คุณแล้วใคร ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวนี้แล้วเมื่อไหร่"
    If not you who? If not now when? แกรี่ เฮอร์เบิร์ท

    "ทางเดียวที่จะถึงเส้นชัย คือก้าวต่อไปข้างหน้า"
    The only way to reach the goal is moving forward. นักกีฬาสมัครเล่น

    "ผมไปได้ทุกที่ ขอเพียงแต่ต้องไปข้างหน้า"
    I'll go anywhere as long as it's forward. ดร.ลีฟวิ่งสโตน

    "อย่ากลัวที่จะก้าวยาวๆ เมื่อต้องข้ามอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่"
    Don't be afraid to take a big step...you can't cross a chasm in two small jumps. เดวิด ลอยด์ จอร์จ

    "ถ้าเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีรอยเท้าเป็นของตนเอง"
    To dare is to lose one's footing momentarily. Not to dare is to lose oneself. มูลเรลสตอรด

    ----------------------------------------------------
    จาก คู่มือสู้ชีวิตด้วยตนเอง ชุดที่ 3 มีความสุข...สนุกกับความสำเร็จ
    รวบรวมเรียบเรียงโดย เบญญาวัธน์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.tamdee.net/note/view.php?No=1248
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    สู้ๆๆต่อไปนะคะ ^__^
     
  9. TJ69

    TJ69 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +152
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
    _________________________

    " ความสุขคือการให้ มิใช่การครอบครอง "
     
  10. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    อนุโมทนาบุญกับสาระดีดีด้วยครับ

    ______________________
    "อย่ากลัวล้มทั้งๆ ที่ยังไม่เริ่มเดิน"
     
  11. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    อนุโมใทนาค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...