เหนื่อยใจ เครียด

ตอนนี้เครียดมากเลย เรียนยาก การบ้านเยอะ เรียนระดับป ตรีอ่า
ทำไงดีเวลาในห้องเรียนเราก้ฟังครูไม่ค่อยรู้เรื่องเหม่อลอย คิดนู่นคิดนี่ กลับมาบ้านอยากอ่านหนังสือก้ทำไมได้ บางครั้งก้ขี้เกียด บางครั้งอ่านๆผ่านๆไปแต่มันก้ไม่เข้าหัว เซงจังเลย ใครมีคำแนะนำช่วยบอกด้วย

 

น้อง เอ๋ยยยยยยยย ทุกๆๆคนก็เครียด อารมณ์ทุกคนก็ยังมี แล้วทำไมน้องไม่อยู่กับปัจจุบันเล่า อี น๋อง ตั้งใจ อาจารย์ฟัง ให้ใจนิ่ง กลับบ้านทบทวนบทเรียน ทุกๆๆวัน เดี๋ยวมันก็จำได้เองละจ๊ะ ^^

 

ผมก็เรียนมาก่อนนะ....ก็เครียดเหมือนกันนะ...กับศาสตราจารย์ต่างชาติ...พูดไทยไม่ได้เลย...งงของจริง.....เครียดขนาดนอนไม่หลับ...ต้องกินยาแก้แพ้...เอาไม่อยู่...ไปหาหมอก็ไม่ให้ยา(ยังคิดในใจมันกลัวเราเอาไปมอมใครหรือวะ...ตูจะตายอยู่แล้ว...)....ฉนั้นกลับมา.....นั่งสมาธิ...ตั่งสติ...ฟังเทศน์..สวดมนต์...ตั้งความหวังให้น้อยลง...มีความเพียรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้(สุดความสามารถได้เท่าไรเท่านั้น).....จึงผ่านมาได้....ไอ่นี่เครียดพอไมครับ...ผมเคยท้อนะแต่ไม่เคยถอย...และขี้เกียจ....


กลับไปถามตัวเองนะครับ...กำลังเป็นอะไรอยู่...ทำอะไรอยู่...คิดอะไรอยู่...ตัวเองอยู่ที่ใหน...สติอยู่ที่ใหน....แก้ให้มันตรงเหตุ......อย่าหาเหตุผลให้ตัวเอง...คนอื่นในห้องเขาก็เรียนเหมือนกับเรานั้นหละครับ....;aa24

 

สาเหตุใหญ่คือ ไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ ในปัจจุบัน...
เป็นเหตุให้มีอาการนั่ง เหมอ...ใจลอย...ผลคือเรียนไม่รู้เรื่อง
อ่านหนังสือ ก็ไม่มีสมาธิ...จึงอ่านไม่รู้เรื่อง...
...
......วิธีแก้คือการเจริญสติ ในปัจจุบัน...
คือ หัดที่จะมีสติในปัจจุบัน...ซึ่งต้องฝึก..วิธีฝึกคือ...

...
ฝึกตามนี้ผลที่ได้ สติจะเข้าไปแก้เวลาเราเผลอ...นั่งเหมอหลงคิด...
สติจะได้กลับมาอยู่กลับการเรียน...
เวลาอ่านหนังสือ ก็ดูลมหายใจไปด้วย ..จะได้มีสมาธิในการอ่าน...
พร้อมกับหาอุบายในการช่วยจำ..เช่น จดข้อความสำคัญสั้นๆไว้ทบทวน...

ส่วนเหตุที่เครียดก็ถ้ามี สมาธิ ก็จะเห็นเหตุที่ทำให้เราเครียด..ว่าเพราะ อะไรถึงเครียด...ก็คงไม่พ้นว่า "ไม่ได้ดั่งใจที่อยากได้"
พิจารณาดูนะคับ...

ยิ่งคาดหวังมาก..ก็ทุกข์มาก
ไม่คาดหวังก็ไม่ต้องทุกข์
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด..ผลจะเป็นเช่นไรก็ยอมรับ
กังวล(คิดถึงอนาคต)ไปก็ทำให้..ปัจจุบันแย่ลง
สุดท้าย..อนาคตก็คงหาดีไม่ได้​

 

ที่เขาบอก จริงนะนั่น สติไปไหน เอามันกลับมา

 

ถ้าถึงเวลาต้องใช้ชีวิตในสังคมการทำงานจะรู้สึกว่าความเครียดที่ผ่านมาแค่จิ๊บจ๊อยเท่านั้นเอง นี่แหละค่ะชีวิต

 

ผมคิดว่าคุนยังขาดสมาธิ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการเรียนรู้ ทางพุทธสอนให้ปฏิบัติตามลำดับขั้นคือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ถ้าคุณมีศีลอย่างน้อยศีลห้าประจำใจ ศีลจะฟอกจิตใจให้คุนใสสะอาด ใจคุนจะใสโปร่งเบา นั่นเพราะคุนคิด พูด ทำ แต่สิ่งดีๆๆ หรือคือการมองโลกในแง่บวก คุนจะมีสุขภาพจิตดี
ขั้นต่อไปคุนจะได้ความตั้งมั่นอยู่กับปัจจุบันของจิต เหมือนการเอาความนึกคิดของคุนมาส่องผ่านแว่นขยายให้รวมตัวกันเป็นจุดเดียว นั่นคือคุนได้สมาธิ จิตที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวมีพลังมาก และเหมาะแก่การนำไปสิ่งที่ถูกที่ควร
ขั้นสูงสุดคือคุนจะเกิดปัญญา นั่นคือคุนจะมองทุกอย่างตามความเป็นจริง โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ของ โลภะ โทสะ โมหะ หรือกิเลส เหมือนกับหลอดไฟฟ้าที่ปราศจากฝุ่นละออง ย่ิอมให้แสงที่สว่างสดใส ปัญญานี้แหละจะช่วยขจัดปัดเป่าอวิชชาออกไปจากใจคุน คุนลองเริ่มจากขั้นแรกดูสิ

 

เราเรียนต่างประเทดเหมือนกันภาษาก็คนละภาษาอ่านก้อยาก ถ้านั่งสมาธิจะช่วยมั้ย

 

อย่าลัดขั้นตอนนะครับ

 

ช่วยได้มากเลยคับ....
...แต่ต้องทำความเข้าใจกันนิดหรึ่งก่อนนะคับ...

การทำสมาธิภาวนาโดยการนั่งหลับตา.. หรือที่เรียกว่า "ทำสมถะกรรมฐาน"..
เป็นการฝึกสติ.. ให้รู้จัก แยกตัว จิต(ตัวคิดตัวนึก ) กับ สติ (คือความระลึกรู้)..
ให้เราได้รู้จัก สองตัวนี้... เพราะ ขณะที่นั่งสมาธิ..จิต บริกรรมพุทโธอยู่..ก็จะเห็นอีกจิตหนึ่ง ที่คิดๆๆๆๆ ไปอนาคตบ้าง อดีตบ้าง...
... แหละคับ การนั่งเพื่อให้เราได้ทำความรู้จัก จิตเรา ถูกต้อง..เสร็จแล้ว
พอในชีวิตประจำวัน...ก็มาฝึกการ เจริญสติในประจำวันต่อ...นี่แหละคับถึงจะได้ประโยชน์ จากสมาธิอย่างเต็มที่...
...แต่ถ้าจะหวังว่า... สมาธิเป็นอะไรที่เหมือนกับ ปราฏิหาริย์ คือเอาแบบสำเร็จรูป...กลับบ้าน สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสัก 30 นาที แล้วก็หวังอานิสงค์ ตรงนั้นจะส่งผลตลอดวัน..เป็นไปได้ยากนะคับ เพราะ บุญจากการ ภาวนา ถือว่าเป็นบุญใหญ่สุด เยอะสุด ในการทำบูญก็จริงอยู่ (การภาวนา เป็นบุญ ที่ก่อให้เกิดปัญญา).. แต่ กรรมดีกุศลกรรม(บุญ) กรรมไม่ดีอกุศลกรรม(บาป) เขาต้อง รอต่อคิวกันนะคับ..อะไรจะส่งผลก่อนหลัง..ก็ว่ากันไปตามคิวของกรรมนั้น..
...ดังนั้น...ขอให้พยายาม ทำ "การเจริญสติในประจำวัน" ให้ได้...ประโยชน์จะได้เต็มที่ เพราะว่าเข้าไปตัด กิเลสตัวฟุ้งซ่านรำคราญใจ และตัวหลง(โมหะ) โดยตรง.ในปัจจุบันขณะที่กิเลสเกิดขึ้นมาเลยที่เดียว...

อานิสงค์ตรงนี้ ไม่ต้องรอต่อคิว รับกันทันตาเห็นเลยนะคับ..
เพราะ กิเลส ถูกดับ เมื่อสติเกิด แม้ไม่ได้ธรรม
ก็ได้สมาธิ กับมาอยู่กับปัจจุบัน..เอามาใช้ได้เลยทันที
...อย่าลืม...
สมาธิ ไม่ใช่เรื่องยาก..เป็นของที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้ว
แต่เราไม่ได้สนใจ ที่จะทำให้มากขึ้น ทำให้เจริญขึ้นเท่านั้นเอง
ลองพิจารณาดูคับ..สาธุ
​

 

พยายาม หาบทความตามเว็บไซต์ อ่านเพื่อคลายเครียด หรือจะไปหาหนังสือ ฟังเพลงผ่อนคลาย

หรือเครียดมาก ให้ไปร้อง คาราโอเกะเลยครับ คลายเครียดได้ชัวร์

 

อื้ม จะลองเอาไปปฏิบัติด้วยคนค่ะ รู้ๆๆๆๆ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ดีไม่ดี... อยู่ที่ใจเรา
หัวเราะ... เมื่ออยากหัวเราะ
ร้องไห้... เมื่ออยากร้องไห้
และต้องหัวเราะให้ได้หลังร้องไห้ทุกครั้ง!
อย่าทำอะไรที่ไม่อยากทำ...
จงทำอะไรที่ใจอยากทำ!


ตัวหนังสือ... เขียนผิด... ลบได้
การกระทำ... ทำผิด... เอาอะไรลบ


นึกว่าหมากำลังไล่ฟัดซิ...!
... จะได้รีบวิ่งรี่เข้าเส้นชัย...
... ล้มเมื่อไรจะได้รีบลุก...


ทุกย่างก้าว ของ ความฝัน คือ ก้าวอย่าง ของ ความเหน็ดเหนื่อย
ทุกก้าวย่าง ของ ความเหน็ดเหนื่อย คือ ก้าวย่าง ของ ความสำเร็จ


ต่อให้ทุกข์ที่สุด... ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้
เมื่อเรานั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์
ในเมื่อ... ชีวิต... มันยังมีชีวิต
ขอแค่อย่าทุกข์ก่อนเจอทุกข์
หลังทุกข์ อย่าทุกข์อีก
ให้ทุกข์ แค่ตอนทุกข์
แล้วทุกข์ที่สุด... ก็จะเป็นทุกข์แค่นี้เอง!


ให้ทำหน้าที่ทุกหน้าที่ด้วยหัวใจ
ให้หัวใจตระหนักในหน้าที่...
แล้วเราจะไม่รู้สึกว่าหน้าที่เป็นหน้าที่
แต่เป็นการกระทำที่เกิดจาก... หัวใจเรียกร้อง... ต่างหาก


ดีไม่ดี... อยู่ที่ใจเรา...
ถ้าใจเรา... คิดดี ก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ
ถ้าเรามองในทางที่ดี... ใจเราก็จะรู้สึกดี
ถ้ากำลังใจดี... สิ่งเลวร้าย... ก็จะคลี่คลายเป็น... ดี!


ขอบคุณที่มา:ธรรมมะกับหลวงพ่อจรัญ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อดทนอีกนิดเดียวค่ะ เด๋วจบก็จะได้มีงานทำ รับใช้สังคมแล้ว

สู้ๆๆนะคะ