#+#+#+++ธัมมานุสรณ์ ทำ ธรรม ไม+++###

ในการตัดสินข้อพิพาททั่วๆ ไปหรือแม้กระทั่งในกระบวนการยุติธรรม ก็เปิดโอกาสให้คู่ความได้แก้ต่างในข้อพิพาทแต่ละประเด็น พูดง่ายๆ คือ การฟังความทั้ง 2 ฝ่ายนั่นเองการที่คุณ ธัมมานุสรณ์ ส่งข้อความส่วนตัวไปยังบุคคลอื่นๆ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการกล่าวโทษ

 

ทำดี ได้ดี
ทำชั่ว ได้ชั่ว
ใครทำอะไรไว้ หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นหรอกครับ
ผมเองก็ไม่รู้นะครับว่าความจริงเป็นยังไง
แต่เชื่อว่าความดี จะคุ้มครองคนทำความดีครับ

 

ขอให้อยู่ขอบเขตที่พึงจะกระทำ เพื่อความสงบร่มเย็นของหมู่คณะ

ฝากไว้สักนิด

คำสอนหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก

"ใครจะว่าอะไรต่ออะไรก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่างนี้ก็สบายใจ อภัยให้เขาดีกว่าไปพยาบาทจองล้างกัน อภัยทานได้บุญแรงดีกว่า "

" เขาว่าอะไรเรา เขาสบายใจก็ให้เขาว่าไปเถอะ เราก็ไม่ยึดไม่ถือ ให้เขาว่าให้พออย่างนี้แล้วกิเลสเราก็หมดไปสิ้นไป หากเราไปต่อว่า เดี๋ยวมันไม่สบายใจ ให้อภัยอย่างนี้บุญมาก "

"เมื่อคนไหนโกรธรุนแรง เราก็นิ่งเสียเขาก็จะนิ่ง นิ่งด้วยกันก็ไม่แพ้ไม่ชนะ ทำอย่างนี้แหละจะพ้นทุกข์ "

" เขาว่าเราอย่างโน้นอย่างนี้ เราไม่โกรธนั่นแหละ เขาแผลงศรมาให้เราล้มตายแต่ศรนั้นกลับกลายเป็นขนม เป็นอาหารให้เรากิน ถือว่าเป็นเสียอย่างนี้ก็สบายใจ เพราะเราให้อภัยจึงเรียกว่าเป็น ผู้ชนะ "

" ถ้าโกรธขึ้นมาไม่สบายใจ ก็ให้สกัดกั้นเสีย ให้ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ความโกรธก็จะดับไป "

" ลูกศรเล็กๆยิงถูกช้าง ช้างไม่ตายหรอก หนังมันหนา ตัวมันใหญ่ ฉันใดก็ดี นักปฏิบัติ ต้องมีขันติความอดทนต่อสิ่งที่เขาว่าไม่ดีให้ได้ต้องทนทั้งหมด รักก็ต้องเฉย ชั่วก็ต้องเฉย ต้องเฉยทั้งนั้น "

ฉนั้นขอให้เพื่อนสมาชิกใจเย็นๆ อย่างได้บาดหมางใจกันเลย ไม่มีใครถูกใครผิด ยกจิตใจเราอยู่เหนือเหตุผล เราก็จะอยู่ด้วยกันอย่างสงบ แบบพี่น้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หวังว่าคงเข้าใจนะครับ


ด้วยจิตคาระวะ

อดุลย์ เมธีกุล

 

ผมแค่ออกมาปกป้องสิทธิ์ที่ผมพึ่งจะมีเท่านั้นเองครับ
ไม่ได้ต้องการขัดขวางการทำบุญของใคร..

ผมก็คนธรรมดา ที่หัวใจยังเต้นตุบ ๆ และมีความรู้สึกอยู่



เพราะฉะนั้นผมคงไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกโจมตีฝ่ายเดียวโดยที่ไม่ได้บอกข้อเท็จจริงหรอกครับ

ใครดีมาผมก็ดีตอบและร่วมโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

เรื่องบางเรื่องที่ปล่อยวางได้ ก็ควรวางเฉย
แต่
เรื่องบางเรื่อง หากวางเฉยแล้วจะนำภัยมาสู่ตนเอง
ทางออกคง จะใช้การวางเฉยไม่ได้จริงๆ ว่ามั้ยคะ

ประชาธิปไตย มีไว้เพื่อสิทธิและเสรีภาพ ที่ไม่เกินขอบเขต
ไม่ใช่เหรอคะ


ปล่อยให้น้องเค้าอธิบายอะไรไปบ้าง
เพราะเชื่อว่า ความอดทน ทุกคนคงมี
มากบ้างน้อยบ้าง ต่างกันไป

เคารพในความคิดของทุกท่าน
"เทียมกัน" ค่ะ​

 

หากคุณแสดงสิทธิ์ ผมไม่ห้ามนะครับ แต่ขอให้อยู่ในขอบเขตที่พึงกระทำ ผมเองก็เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ผมทำตามหน้าที่ลดความขัดแย้งหรือปัญหาที่เกิดขึ้น ภายในห้องพระเครื่อง เพียงเป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ย ให้เกิดความสงบเรียบร้อย หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

 

เรามาเจอกันในเวปพลังจิตก็เหมือนกับ การที่เราได้ทำบุญร่วมกันมาก่อน เคยเป็นพี่เป็นน้องกันมาก่อน อาจจะมีเรื่องขัดแย้งกันบ้าง ก็ขอให้ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดคุยกัน มีน้ำใจเป็นนักกีฬาครับ ใจเย็นๆ นะครับพี่น้องครับ...

 

ศรัทธา ก็คือ ศรัทธา อยู่วันยังค่ำ<O</O
บางคนศรัทธาแล้วจึงเชื่อ แต่บางคนก็ต้องหาทางให้เชื่อได้แล้วจึงจะศรัทธา<O</O
<O</O
ขออภัยท่านผู้ที่มีความศรัทธาเต็มเปี่ยมทุกท่านมา ณ โอกาสนี้<O</O
เข้าใจและลึกซึ้งกับคำๆ นี้ดี จนวันหนึ่งได้มาประสบกับตัวเองว่า <O</O

..บุญ บาป กรรม ศรัทธา เจตนา.. มันมีเพียงเส้นบางๆ กั้นอยู่เท่านั้น
<O</O
<O</O

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ <O</O
และเชื่อเสมอว่า<O</O
โลกไซเบอร์อย่างไรซะก็ยังแฝงไว้ซึ่ง

 

น้อมรับค่ะ

 

ค่ะ ทุกคนต่างก็ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

และถ้าบางอย่างดูเป็นการไปหมิ่นเหม่ใครโดยไม่ได้ตั้งใจ

ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ

 

เรื่องแบบนี้พูดยากครับ

เรื่องคนทะเลาะกัน ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง

บางท่านทำผิดจริง แต่พวกมากกว่า คนที่มาเล่าความจริงก็กลายเป็นมาใส่ร้ายไปซะงั้น



ผมโดนมาแล้ว เราอธิบายสิ่งที่รู้ ให้ความเห็นในอีกมุม

แต่พวกเค้ากลับมาต่อว่า เราก็รับฟังไว้ ยินดีรับฟังข้อแก้ตัวอยู่แล้ว

แต่ไอ้ประเภทที่ว่า พาพวกมารุมนี่ดิ เซ็ง เซ็ง เซ็ง

ท้ายที่สุดเราเงียบไปซะดีกว่า

แล้วก็คอยเตือนคนที่ไม่รู้ และเราเชื่อว่าเป็นคนกลาง ไม่ใช่พวกเดียวกับฝั่งนั้น

ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง ก็แล้วแต่ครับ

 

ไม่มีใครใหญ่เกินกรรมครับ ปีใหม่แล้ว เริ่มต้นกันใหม่เถอะครับ./

 

ครับ
สาเหตุที่ผมถอยห่างออกมาจากคุณธัมมานุสรณ์นั้น มันก็มีอยู่หลายประเด็นครับ เช่นความไม่โปร่งใสในเรื่องบัญชีเงินที่มีการโอนเข้ามา เรื่องเกี่ยวกับวัตถุมงคล หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวของคุณธัมมานุสรณ์ที่ได้รับทราบมาจากคนที่เคยรู้จักกับคุณธัมมานุสรณ์หลายๆท่าน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับเรื่องที่คุณธัมมานุสรณ์เล่าให้ผมฟังเลย

หลายๆเรื่องมีพยานวัตถุ หลายๆเรื่องมีพยานบุคคล ซึ่งล้วนแต่ทำให้ผมเชื่อถือได้มากกว่าคำพูดลอยๆของคุณธัมมานุสรณ์ที่หลายๆเรื่องผมไม่เคยเห็นหลักฐานหรือการพิสูจน์จากคุณธัมมานุสรณ์เลย

การที่เราสงสัยและสอบถามคุณธัมมานุสรณ์ในสิ่งที่สงสัยเราก็ได้คำตอบมาในระดับหนึ่ง แต่มันก็ไม่ผิดนี่ครับที่ผมจะไปสอบถามกับบุคคลรอบข้างอื่นๆ ที่เคยเกี่ยวข้องกับคุณธัมมานุสรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคนที่สาธารณสุขพิษณุโลก เพื่อนเก่า และหลายๆคนที่เคยกระทบกระทั่งกับคุณธัมมานุสรณ์

ฝากถึงคุณธัมมานุสรณ์ อย่างไรก็ตามผมขอบพระคุณที่เคยนำพาไปพบสิ่งดีๆ และทำให้ผมได้สัมผัสคำว่าศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม แต่การจะรู้จักกับใครยาวๆ เราก็ควรจะคุยเรื่องที่ถูกต้องตามความจริงไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือเลว คนอย่างผมลองได้ศรัทธาใครแล้ว ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นอย่างไรในอดีตผมก็ยังรับได้ครับ ขอแค่บอกมาตามความเป็นจริง เพียงแค่ขอให้ข้อมูลที่ผมได้รับจากทุกฝ่ายมันตรงกัน แค่นั้นผมพอใจแล้วครับ แต่นี่มันแทบไม่ใช่อย่างนั้นเลย

และการที่คุณมากล่าวโทษเด็กๆโดยไม่รู้ความจริงที่แน่นอนมันก็ไม่ยุติธรรมเหมือนกัน
คุณบอกว่าน้องๆไม่ยอมถามให้กระจ่าง ลองดูดีๆนะครับ คุณก็ไม่ยอมสอบถามให้แน่ชัดก่อนเหมือนกัน

หากจะให้ผมเล่าว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ผมเสียความรู้สึกต่อคุณ มันก็หลายเรื่องอยู่ครับ เพียงแต่หลายๆเรื่องมันไม่เหมาะสมที่จะปรากฎต่อบุคคลทั่วไป ผมเลยเลือกที่จะไม่เล่าในที่นี้ ผมก็มีสำนึกพอที่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวของคุณไปบอกกล่าวกับคนทั่วๆไป เพราะผมรู้ว่ามันไม่เหมาะสม

คุณมักสอนผมในเรื่องความยุติธรรม แต่สิ่งที่คุณกระทำในหลายเรื่องมันไม่ใช่ความยุติธรรมเลย อย่างเรื่องวันเกิดของคุณ คุณก็ชวนเด็กๆทานอะไรด้วยกัน แต่เมื่อทานเสร็จคุณก็บอกให้ช่วยหาร ถูกต้องครับมันยุติธรรมในข้อเท็จจริง แต่มันยุติธรรมมั้ยในความรู้สึก
หรือการที่คุณช่วยคิดให้ว่าเด็กลงหุ้นกันขายน้ำอัดลม ได้ส่วนแบ่งผลกำไรคนละเท่าไร คุณใช้วิธีคิดเป็นชั่วโมงว่า ใครยืนขายนานกว่าก็ได้เงินเยอะกว่า ทั้งๆที่ลงเงินงวดแรกเท่ากัน แถมตอนท้ายคุณยังขอค่าเหนื่อยและค่าเสียเวลาในการมานั่งคิดส่วนแบ่งให้อีก ถูกต้องครับมันยุติธรรมในข้อเท็จจริง แต่มันยุติธรรมมั้ยในความรู้สึก เช่นนั้นผู้บริหารทั้งหลายก็ควรได้เงินน้อยกว่าคนงานสิครับ มันถูกนะครับ...แต่มันผิด

เพราะความยุติธรรม คือ ความถูกต้องตามความเห็นของบุคคลทั่วไปผู้มีเหตุผล ไม่ใช่หรือครับ

วรวัฒน์ ส่ำสมบูรณ์ชัย
นิสิตสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์และนิติศาสตร์บัณฑิต
มหาวิทยาลัยนเรศวร

 

ผมหมดศรัทธาในตัวคน แต่ไม่ได้หมายความว่า
หมดศรัทธาในพระรัตนตรัยครับ สมเด็จพระพุทธชินราชหลวงปู่สรวง หลวงปู่ปาน
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระนเรศวรมหาราชฯลฯ เป็นพยานได้
และผมจะขอนำขอดีๆที่ท่านทั้งหลายแนะนำมาไปปฏิบัติ
ท้ายที่สุดผมก็คิดว่า
ขอให้อยู่ขอบเขตที่พึงจะกระทำ เพื่อความสงบร่มเย็นของหมู่คณะ
เหมือนที่คุณ อดุลย์ บอกก็แล้วกันครับ

 

โมทนาด้วยค่ะ
แต่ทำไมต้องกลัวเค้าเข้าใจผิดหล่ะคะ งง

 

ไม่ขอต่อความยาวสาวความยืดค่ะ ​

ขอยืมเอาคำพูดของลุงมาใช้หน่อยละกัน (ลูกศิษย์หลวงปู่ปาน ยังไม่ได้บวชเป็นพระ แต่ปฏิบัติและบวชใจมานานกว่า 39 ปี เรียกได้ว่ารู้ใจคนจากวิชาดั้งเดิมของหลวงปู่ปานก็ว่าได้ อยู่ที่พิษณุโลก เนี่ยแหละค่ะ และที่สำคัญมีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ รวมถึงคุณธัมมานุสรณ์ เองก็เคยเอ๋ยปากขอฝากตัวเป็นศิษย์มาแล้ว แต่ลุงไม่เห็นว่าไง แค่ยิ้มๆ ค่ะ)^^​

ขออนุญาติหน่อยนะคะลุงตี๋​

ลุงเค้าไม่เคยว่าให้ร้ายใครแม้สักคน ไม่เคยพูดถึงใครในทางเสียหาย​

จนวันนึงที่พวกเราไปหาลุงตี๋ลุงตี๋บอกกับพวกเราว่า​

"คนคนนี้หน่ะ..พาพวกเอ็งไหว้พระ แต่ใจมันยังไม่ไหว้พระเลย"​

คำพูดแค่นี้ก็ขมวดประเด็นไว้ได้หลายอย่างค่ะ​

พ่อหนูบอกหนูเสมอว่า
ของจริงนิ่งเป็นใบ้..ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง​

ไม่ใช่พวกเราไม่กล้าเปิดเผยตัวเองแต่อย่างไรนะคะ
พวกเรานิ่งในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะกินเวลามาเกือบ 3 ปี
แต่ที่สุดนั้น ล้วนแล้วมาจากคำว่า "ลูกศิษย์หลวงพ่อ"สรรพนามที่เราต่างก็ใช้ร่วมกันอย่างภาคภูมิใจค่ะ ​

ไม่ว่าการกระทำหรือแม้แต่คำพูดที่อาจจะไปหมิ่นเหม่ หรือ ให้ร้ายใครโดยไม่ได้ตั้งใจ ขอการอโหสิกรรมให้พวกเราด้วย พวกเราทำดีที่สุดแล้วค่ะ​

พวกหนูก็รักและเคารพหลวงพ่อและเชื่อในคำสอนของหลวงพ่อไม่น้อยไปกว่าใครแน่นอนค่ะ ​

นางสาวอรพรรณ พยัฆกุล
จบปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ สาขาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยนเรศวรปี 2550
ปัจจุบันศึกษาต่อปริญญาโท สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้ทุนวิจัยจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)​

 

ขอแสดงความเห็นหน่อยค่ะ

น้ำขออนุญาตนำภาพถ่ายที่น้ำได้ไปวัดไพรพัฒนามานะค่ะ ขอความกรุณาค่ะ เมื่อเห็นร่างที่ไร้วิญญาณขององค์หลวงปู่สรวงแล้ว อยากให้เรื่องนี้ยุติด้วยดีค่ะ ปรับความเข้าใจกันนะค่ะ ใจเย็นๆ ค่ะ ไม่ใช่เพื่ออะไรหรอกค่ะ แต่เพื่อดวงวิญญาณของหลวงปู่สรวงนะค่ะ ท่านจะได้เป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์ลูกหาตลอดไปค่ะ ท่านคงไม่อยากเห็นลูกศิษย์ของท่านทะเลาะกันค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

ฝากบอกคุณ ธัมมานุสรณ์ นะครับ
อย่าลืมชี้แจงบุญ 17 อย่าง ทีเกี่ยวกับกฐิน ปี 51 ด้วยนะครับ
ว่ากันมาตรงๆเลยครับ คุณก็เป็นถึงอาจารย์คนอื่นแล้วนะครับ
ไม่ต้อง PM ไปแก้ตัวกับใครต่อใครหรอกครับ
มันดูไม่โปร่งใส

 

มีนิทานสอนใจ ในหนังสือเข็มทิศชีวิต 2 ของคุณ ฐิตินาถ ณ พัทลุง ที่ให้ข้อคิดหลายอย่างจากเหตุการณ์คล้ายกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ผมนั่งพิมพ์อยู่นานเพราะพิมพ์ไม่เก่ง 55


ชูศรีกับชูใจ

ชูศรีถูกคนที่โกงเธอใส่ร้ายป้ายสีเธอในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงจนเธอเสียหาย ชูศรีลุยกลับ แฉความจริงทั้งหมดเล่นคืนกันให้ตายกันข้างหนึ่ง เพื่อกู้ชื่อเสียงตัวเองกลับมา

ชูใจโดนเหมือนกัน แต่เธอสงบนิ่งไม่ยอมตอบโต้ หยุดพิจารณาภายในตัวเอง ตั้งแต่รากเหง้าว่ามีคุณสมบัติอะไรดึงดูดคนแบบนี้ เหตุการณ์แบบนี้เข้ามาในชีวิตตนเอง

การที่คนๆ หนึ่งเข้ามาในชีวิตเรา แสดงว่าเขามบางสิ่งบางอย่างที่เราชอบ การที่เขาแสดงตัวจริงออกมา ตัวเขาเป็นเพียงสื่อช่วยชี้ให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ในใจเรา เราจะได้เรียนรู้และละคุณสมบัติไม่ดีอันนั้นเสีย

ถ้าเราไม่เรียนรู้ก็เหมือนไม่ยอมสอบเลื่อนชั้น เราจะดึงดูดเรื่องแบบเดิมคนแบบเดิมกลับมาอีก เพื่อมาสอนเรื่องเดิมจนเราเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน เปลี่ยนวิธีตอบสนอง วิธิคิด ทํา ตอบโต้

เวลาที่ต้องเปลี่ยนผลลัพธ์ในชีวิต เราต้องเปลี่ยนที่เหตุไม่ใช่ที่ผล
เหมือนที่ไม่ชอบฟังเพลงที่ได้ยิน เราไปต้องเปลี่ยนแผ่น cd เพลงในเครื่องเล่น ไม่ใช่โวยวายกับเสียงเพลง

ชูใจอ่อนน้อมกับสิ่งที่ชีวิตส่งมาให้ หยุดวุ่นวายกับการปกป้ปงตัวเอง ค้นลึกลงไปภายใน เพราะในทุกเหตุการณ์ จักรวาลมีของขวัญให้เราเสมอ เราต้องนิ่งพอที่จะเห็นข้อความ เห็นของขวัญที่จักรวาลตั้งใจมอบให้

ชูศรีกระโดดออกตอบโตทันที เป็นเรื่องง่ายใครๆก็ทําได้ ใช้ฝีมือจัดการชื่อเสียงภายนอก ได้หรือไม่ได้ไม่แน่ใจ แต่จิตวิญญาณภายในเธอรู้ว่าเธอเป็นเหมือนเขา อยู่ในเกมเดียวกัน ไม่ดีเท่ากันทันที

การออกไปแสดงความไม่ดีของเขาเพราะความเดือดร้อนในใจของเราเองอาจจะรักษาชื่อเสียงไว้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าเนื้อแท้ของเราไม่ดีจริง สิ่งไม่ดี คนไม่ดีแสดงตัวออกมาให้เรารู้ก็ดีแล้ว เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อให้เราเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างและมีชีวิตที่ดีขึ้นเสมอ

ยึดมาก รักมาก เหตุการณ์อกหักก็ต้องแรงมาก เราจะยอมปล่อยความยึดถือเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เราต้องมีศรัทธราในกฏของธรรมชาติว่าทุกอย่างที่ปรากฏมีเหตุมีต้นตอมาจากใจของเราเอง แก้ได้จากใจเราก่อนและทุกอย่างภายในจะเปลี่ยนตาม

มุ่งมั่นกับการณ์ขัดเกลาในใจเราจริงๆ แล้วเราจะได้ผลเดี๋ยวนี้ทันที เป็นความอบอุ่นในจิตวิญญาณ เป็นของจริงที่ใครขโมยไปไม่ได้ แล้วของจริงที่ดีงามในใจเรานี่แหละที่จะเนรมิตรสิ่งดีงามภายนอกที่สอดคล้องกันกับความดีงามภายใน

ชูใจนิ่งสงบ แผ่ความรักออกไปกว้างๆ วันนั้นเองมีคนติดต่อขอซื้อผลงานของเธอเผยแพร่ เธอกําลังมีความสุข ปรารถนาจะมอบสิ่งดีงามให้ผู้อื่น เธอให้ราคาที่คนซื้อตกใจกลัวว่าเธอจะไม่ได้กําไร แต่ชูใจมอบให้เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้คน

ครั้งนั้นชูใจได้รับทั้งกล่องทั่งเงินมากเกินกว่าเธอและใครๆจะคาดคิด

ชูใจพบว่าเวลาทีคนโกงเรา ทําร้ายเรา เรานี่แหละเปิดโอกาส เปิดช่อง ไว้วางใจแหละหลวม ไม่ปกป้องตัวเอง ไม่รอบคอบสร้างแรงจูงใจให้เขาโกง ให้เขาหลอก ให้เขาทํา เพราะฉนั้นเธอก็ต้องรับผล เพื่อเรียนรู้ใหม่และเติบโต

เขาจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่ระหว่างเขากับเธอ เขารู้เธอรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร


เราจะกระทบกระเทือนเสียงจากภายนอกตราบเท่าที่เราไม่มั้่นใจในความดีงามของตัวเอง เมื่อรู้ชัดถึงสิ่งที่เราเป็น เราจะเป็นอิสระจากสถานการณ์ภายนอกทั้งปวง

 

สาธุ เป็นความโชคดีของท่านเจ้าของกระทู้ แม้นในยามมีปัญหายังมีเพื่อนสมาชิกที่เข้าใจ และให้กำลังใจ ให้แนวคิดในทางธรรรมที่รักษาใจของตนเอง กัลยณมิตรหาได้ง่ายในหมู่ผู้ที่ประพฤติและปฏิบัติธรรม

อนุโมทนากับคุณอัสดงส์ และกัลยณมิตรทุกท่านครับ