อาถรรพ์พระกรุ เรื่องจริงจากผู้แสวงโชค 1

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 7 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    เมื่อเอยถึงพระกรุบางคนไม่สนใจ เพราะเล่นไม่เป็นไม่รู้ดูอย่างไร ไม่รู้ดีอย่าง ไร ใครสร้างก็ไม่รู้ปลุกเสกหรือเปล่า ปัญหาร้อยแปด อันนั้นก็แล้วแต่ทัศนคติของแต่ละคน ไม่ขอวิจารณ์ แต่จะเล่าเรื่องการขุดพระกรุ ให้ฟัง แต่เดิมย้อนไปสมัยโบราณเมื่อมีการสร้างสถูป เจดีย์ ต่าง ๆ มักจะมีพระเครื่องบรรจุลงไปด้วย เพื่อ สืบทอดพระพุทธศาสนาไม่ให้ลูกหลานทอดทิ้งหรือลืมเสีย หรือ ไม่รู้จักพระ และหันไปห้อยกางเขน แทนดีกว่า ก็แล้วแต่ละคนไม่ขอวิจารณ์ แต่พระกรุที่บรรจุมักจะมีของมีค่าบรรจุลงไปด้วย เช่น ดาบทองคำ โถทองคำ เครื่องประดับทอง ประดับมุก อัญมณีมีค่าต่าง ๆ บรรจุรวมถึง สุดยอดปรารถณา ของนักขุด ก็คือ พระเครื่อง พระบูชา บางคนเปลี่ยนชีวิตตัวเอง จากการขุดพระขโมยพระ ทำให้เป็นคนมีกะตังค์ได้ในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ จากการขุดพระ ทำให้การขุดพระเป็นอาชีพน่าสนใจ ทำเงินได้เร็ว แต่ท่านรู้หรือไม่การขุดพระไม่ใช้เรื่องง่าย บางคนเอาชีวิตไปทิ้งเปล่า โดนเจดีย์ทับตาย บางคนเป็นบ้าไปเลยก็มี ไม่คุ้มกัน เรื่องมีอยู่ว่า พระกรุแรกที่เฮี้ยน คือพระกรุวัดพระศรี ฯ ลพบุรี ที่ขึ้นพระหูยานกรุใหม่ นั้นแหละ นักขุดชุดนี้มีอยู่ สี่คน ก็คนพื้นที่อีกนะแหละอยากรวย วางแผนกันไม่ให้ใครรู้พอตกค่ำก็เตรียม การกันอย่างหนึ่งที่ลืมเสียไม่ได้คือ ของเซ่นไห้วเจ้าที่เจ้าทาง ปู่โสม เฝ้าทรัพย์ เมื่อเตรียมพิธีเสร็จ นักขุดชุดนี้ก็คิดว่าคงไม่มีเรื่องเกิดขึ้นแน่ เพราะเซ่นไหว้แล้ว แต่เรื่องแปลกก็เกิดขึ้นเกิดลมพัดอย่างแรงตรงบริเวณนั้น ทำให้คนหนึ่งในทีมทักว่าให้หยุด แต่กระบวนความโลภของมนุษย์ย่อมมากกว่าความกลัวเสมอ ไม่สนใจขุดเลย ขุดไปได้ซักพักหนึ่งลึกพอประมาณ ลงไปได้อยู่สามคน มีคนดูต้นทางอยู่ด้านบนคอยดูตำรวจ และคอยส่งของต่าง ๆ ให้เพื่อนที่ลงไปขุด พวกที่ลงไปข้างล่างก็ตั้งหน้าตั้งตาขุด ลมข้างบนก็พัดแรงน่ากลัววังเวงพิกล ขุดไปพักหนี่งคนที่สามที่ลงไปก็ตะโกนให้คนที่ดูต้นทางช่วยส่ง บุ้งกี่ที่ตักดินแต่ปรากฏไร้เสียงตอบ จึงคลานขึ้นมาดูก็ตกใจ เพื่อนหายไปไหน ลมก็แรงฝุ่นก็เยอะมองอะไรไม่ชัดเลย แต่เพ่งมองเห็นบางสิ่งบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามา เมื่อเห็นจะ ๆ ก็ตะโกนบอกเพื่อนสองคนที่เหลือ ให้ขึ้นมาโดยด่วน เพราะเขาเห็นตะขามตัวอย่างใหญ่ ประมาณว่าเกิดมาก็พึ่งเคยเห็น ตัวใหญ่ขนาดนี้ ก็ไม่ใช้ตะขาบธรรมดานี้ครับ เขาเรียกตะขาบเจ้าที่ ตะโกนเสร็จก็วิ่งออกไปก่อนเลย ทิ้งเพื่อนสองคนที่ยังงงไม่หาย จู่มันหายไปไหนสองคน ไอ้คนแรกนะวิ่งไปก่อนเป็นกิโลแล้ว คนที่สองก็ตาม ๆกันไป เมื่อตะโกนต้องนานไร้เสียงตอบ คนแรกจึงบอกคนที่สอง ว่าให้ขึ้นไปดูไอ้สองคนแรกซิ มันหายไปไหน เดี๋ยวก็ไม่แบ่งส่วนให้หรอก คนที่สองจึงคลานขึ้นมาดู พอเห็นตะขาบยักษ์ก็ตกใจตะโกนบอกเพื่อนคนแรกทั้งลงไปลากขึ้นมาหนี้ไปด้วยกันเพราะถ้าอยู่สงสัยตายฟรีแน่นอน ทั้งลมทั้งตะขาบเป็นใจเหลือเกิน อยู่ไม่ได้แล้ววิ่งป่าราบพร้อมตะโกนไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว สำหรับพระกรุวัดพระศรีฯ กรุใหม่ 08 นี้เฮี้ยนถึงขนาดมีผู้ไปถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เติดรูปคล้ายวิญญาณ เป็นรูปคนไม่มีหัวได้ในบริเวณวัด เห็นแค่รูปใจก็แป้วแล้ว ไม่กล้าขุด แต่สำหรับพระหูยาน กรุใหม่ที่มีคนเข้าไปขุดได้คงเป็นเพราะเขารู้วิธีเซ่นไหว้ และเจตนาดี ทำให้สามารถได้พระออกมา ให้พวกเราได้บูชากัน แต่บางคนก็ต้องแลกด้วยชีวิตเพราะเจ้าของเก่าเข้าไม่ให้ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของแต่ละคนนะครับ
     
  2. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext>อาถรรพ์กรุพระ เมืองกาญจนบุรีเรื่อง 2</TD></TR></TBODY></TABLE>เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ฟังจากเพื่อนพ่อทีสนิทกัน เกี่ยวกับนักนิยมพระที่บางครั้งก็ต้องเข้าไปขุดพระเองด้วย เซียนคนนี้รู้จักชอบพอกับเพื่อนพ่อผมคนนี้เป็นอย่างดี แกจะชำนาญพระเครื่องสายเมืองกาญจนบุรี มาก ทั้งท่ากระดาน พระปิดตาวัดหนองบัว พระกรุสนิมแดง ต่าง ๆ เก่ง ถึงขั้นเป็นกรรมการกล้าเช่าหาพระท่ากระดานองค์หลาย ๆ แสน บาทแกเล่าให้ผมฟังว่าสมัยก่อนชอบติดสอยห้อยตามพวกเพื่อน ๆ ที่ชอบเสี่ยงโชคขุดพระ ต่าง ๆ ขุดมาก็หลายที่ มาเจอเจดีย์เก่าอยู่ที่หนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี พวกเขามีความเชื่อเรื่องการทรงเจ้า (อันนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล จะไม่เชื่อก็ได้ จะเชื่อก็ได้) พวกนักขุดกลุ่มนี้ไปขอคำแนะนำจากร่างทรง ซึ่งเป็นผู้ถือศีล บอกว่าใต้เจดีย์นี้ลึกลงไปจะมีของมีค่ามากมาย รวมทั้งพระเครื่องพระบูชา ของบรรพกษัตริย์ต่าง ๆที่ตกทอกกันมาหลายชั่วอายุคน พวกที่ขุดนี้ก็เชื่อตามนั้น เตรียมการอย่างดี มีทั้งพวกที่เป็นทหารมีอาวุธสงคราม เพื่อมาคอยป้องกันไม่ให้ถูกปล้นจากพวกโจรที่อาจจะคอยมาตัดหน้า ลักเอาของมีค่าต่อจากพวกเขา เมื่อมาถึงเวลาขุดช่วงดึก ประมาณ ตีหนึ่ง ได้ ผมคิดว่าที่ต้องขุดตอนดึกเพราะกลัวเดี๋ยวชาวบ้านจะมาเห็นและไปฟ้องตำรวจได้ เลยต้องทำตอนดึก ส่วนตัวคุณลุงที่เล่าเรื่องไม่กล้าลงใปบริเวณนั้น คงคอยดูอยู่ในรถห่าง ๆ เท่านั้น สักพักก็มีสมาชิกคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาคล้ายคนบ้าคลั่ง บอกว่าเห็นเงาคนลอยไปลอยมาเหนือเจดีย์ พอสอบถามอีกสองสามคนก็ได้ความว่าเห็นเหมือนกัน พอได้ยินแค่นี้สมาชิกกลุ่มหนึ่งก็ใจเสียแล้ว แต่ก็รั้นขุดต่อไปคนขุดก็ขุดไปได้ไกล เวลาขุดต้องขุดลงพื้นด้านล่าง และห่างจากองค์เจดีย์พอประมาณ ขุดเป็นทางลึกลงไป ในใจก็นึกว่าจะได้พบดาบทองคำราคาหลายล้านบาท กับพระบูชาสมัยอยุธยาองค์โต ตามที่ร่างทรงบอกไว้ แต่พอขุดไปได้ซักระยะหนึ่ง ก็ต้องตกใจ เพราะเขาขุดไปถึงใต้เจดีย์ พบก้อนอิฐก้อนใหญ่คล้ายแผ่นหินมาบังอยู่ แผ่นหินนี้แหละที่ร่างทรงบอกว่าถ้าขุดเจอเมื่อไร บนแผ่นหินจะพบดาบทองคำ โบราณ ในขณะที่ดีใจกันอยู่เพราะตรงกับคำทำนายของร่างทรง ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของเพื่อน ด้านบน จึงรีบขึ้นมาดู เขาไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ทหารที่นำมาช่วยคุ้มกัน แต่ละคนมีอาการหวาดกลัวตะโกนบอกเพื่อนๆ ที่อยู่คุมการขุดแต่ละมุม พร้อมตะโกนว่า พวกมันมาแล้ว นี้เป็นเหตุการณ์ครั้งที่สอง ที่ทำให้การขุดต้องชะงัก แต่ครั้งนี้แปลกออกไป เพราะเห็นกันหลายคนพร้อมได้ยินเสียง ทหารทุกคนขึ้นลำปืนพร้อมจะยิงต่อสู้ เขาจึงถามว่าจะยิงใคร ดึกป่านนี้แล้วไม่เห็นมีใครที่ไหนมา เสียงรถเสียงคนก็ไม่มี แต่สิ่งที่ทหารตอบกลับมา ทำให้เขาขนลุก และเริ่มคิดจะหยุดการขุด ทหารบอกว่าขณะที่เขากำลังขุดอยู่ นั้นก็มีลมแรง พัดมาแบบแปลก ๆ ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะสงบได้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ จากนั้นพวกเขาได้ยินเสียงโห่ร้องมาจากรอบทิศทาง เหมือนถูกล้อมไว้ เป็นเสียงฝีเท้าม้า เสียงดาบ โบราณฟันกันดังสนั่นท่ามกลางความเงียบ ซักครู่ก็ได้ยินเสียงดังกังวาล ว่าฆ่าพวกบุกรุกให้หมด พร้อมกับเห็นเงาคล้ายคนขี้ม้าในมือมีอาวุธโบราณพวกดาบ หอกต่าง ๆ กำลังวิ่งเข้ามาทางพวกเขา ทำให้ตกใจตะโกนบอกเพื่อนให้เตรียมต่อสู้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวหน้านักขุดก็รู้แล้วว่าสมบัติของเจดีย์นี้มีเจ้าที่เฝ้าอยู่และไม่ยอมที่จะให้ของมีค่าแกพวกเขา เพราะมีการเตือนถึง สองครั้ง ครั้งที่สามสงสัยจะไม่มีชีวิตอยู่แน่แล้ว คิดได้แบบนี้ ก็ตัดสินใจไม่ขุดแล้วบอกเพื่อน ๆ ที่มาว่าสงสัยขุดไป อาจจะไม่คุ้มเอาชีวิตมาทิ้งเปล่า เก็บของแล้วกลับเถอะ เป็นอันว่าไม่ได้มีการขุดต่อแต่อย่างไร ทั้ง ๆที่เกือบจะถึงจุดมุ่งหมายแล้ว แล้วเพื่อน ๆ ละครับ ไม่อยากรู้หรือว่าถ้าขุดต่อไปจนพ้นแผ่นปูนแล้วจะพบอะไร มีอะไรซ่อนอยู่ในเจดีย์นี้จะตรงกับกำทำนายหรือเปล่า ไม่มีใครรู้แต่ทีแน่ ๆ ถ้าเจอะดาบทองคำ พระทองคำ ต่าง ๆ จริง ท่านจะกล้านำออกมาหรือไม่ ถ้าไม่กลัวความเฮี้ยนแบบนี้ ก็ลองไปขุดได้เลยครับ
     
  3. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่นิยมพระเครื่องทุกคนส่วนหนึ่งที่สนใจพระเพื่อนำมาคุ้มครองตัวเอง และเป็นศิริมงคล เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ทำความดี ประเทศไทยเราเป็นแผ่นดินทีมีความเชื่อทางด้านคุณไสย์ อาถรรพ์มานาน บางคนพกพระไว้ป้องกันภูติผีปีศาจ ด้วยก็มี และต้องมีแน่นอน ผมก็คนหนึ่ง คิดว่าเพื่อนๆ ยังคงจำได้ ช่วงที่มีข่าวลงหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการขุดทองที่เมืองกาญจนบุรี เป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่ เรื่องมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งขื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว กับเพื่อน อีก4 คน มีผู้หญิงด้วย ทั้งหมดคิดจะแสวงโขค ด้วยการขุดทองโกโบริ จึงตัดสินใจร่วมมือกันขุดทอง สถานที่ก็คืออุโมงที่เป็นทางรถไฟเก่า (ได้ฟังแค่นี้เป็นผมก็ไม่เอาแล้ว) สมัยก่อนเกิดสงคราม ทหารตายกันเป็นภูเขา ทั้งไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น ที่สำคัญตายโหง วิญญาณอาจไม่ไปเกิดก็ได้ ทั้งหมดขุดเข้าไปลึกพอสมควร แต่ข้างในอากาศไม่มีต้องนำถังอากาศหายใจเข้าไปด้วย ขณะกำลังขุดอยู่ ทุกคนต้องหยุดขุดชั่วขณะ เพราะเสียงที่กำลังเคลื่อนเข้ามาสร้างความหวาดผวา พอสมควร มันคือเสียงหวีดของรถไฟ ระยะไม่ไกล ทั้งหมดมองหน้ากัน เสียงมาได้อย่างไร พร้อมกับได้ยินเหมือนเสียงเอะอะโวยวาย ไปทั่ว (เป็นผมก็ถอนปฏิบัติการนี้แล้ว ไม่อยู่แน่นอน) แต่ด้วยความอยากได้ทอง ก็ตั้งใจข่มความกลัว ทั้ง ๆที่เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าหยุดดีกว่า เพราะรู้สึกไม่ดีแล้ว ทั้งลมก็พัดวูบวาบ มืดก็มืด น่ากลัวจะตาย แต่ก็ฝืนใจขุดต่อ จนเมื่อนาทีสุดท้ายทุกคนได้ยินเสียงดินถล่ม ทันทีที่ถินถล่มเพื่อนของเขาสองคนถูกคินทับ เปอร์เซนต์รอดเป็น ศูนย์ อีกสามคนวิ่งหนี้กันสุดชีวิตด้วยความมืด จึงจูงมือกันวิ่ง ออกมาสุดชีวิต มาจนถึงที่ ๆคิดว่าปลอดภัยคือหน้าถ้ำ ชายผู้นี้ที่รอดชีวิตหันมามองข้างหลัง เอะทำไมมีเค้าคนเดียวแล้วอีกสองคนทำไมไม่มาด้วย เมื่อเป็นช่นนี้คงไม่ต้องมานั่งคิดแล้วละครับว่าเพื่อนไปไหน ตายแน่นอนเพราะไม่มีอากาศ เขาเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต เสียเพื่อนไปหมด 4 คนอย่างน่าขนพองสยองเกล้า ถึงเรื่องที่น่าจะเป็นความอาถรรพ์ แต่สิ่งเดียวที่เขาคิดว่าทำให้เขารอด และบอกกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่าน่าจะเป็นพระเครื่องที่พกไป พระอะไรไม่รู้ แต่เขาบอกว่า ปกติชอบพระเครื่องวันที่จะไปตัวเองก็กลัว เลยพกพระไปช่วบคุ้มครองกันชนิดที่ว่าถ้าเป็นเครื่องบิน ก็เรียกว่าเต็มอัตราศึก มีปลัดขิก 20 ตัว ตะกรุด หลายสิบดอก เบี้ยแก้ พระเครื่องรวม ๆ 20 องค์ (เลยไม่รู้ว่าตกลงองค์ไหนช่วยกันแน่ พี่แกเล่นพก แบบรวมสุดยอดไว้ที่ตัวเองคนเดียว ส่วนเพื่อน ที่ตายก็คงจะใช้คติ พระอยู่ที่ใจเหมือนเดิม เลยไม่พกอะไรที่เป็นของมงคลเข้าไปเลย )นี่ถ้าพี่คนที่พกพระเยอะขนาดนี้แล้วเกิดเป็นอะไรไปอีกคน คงทำให้พวกเราได้บทเรียนพิเศษ ว่าพกเยอะขนาดนี้ยังไม่รอด ฉะนั้นต้องพกเยอะกว่าแกอีก เอาซัก 50 องค์ไปเลยจะได้มีอำนาจต่อรองกันมากขั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า (คุณกันเล่น ๆ อย่าเครียด) แต่นี้เรื่องจริงนะครับ
     
  4. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    ขออนุโมทนาค่ะ
    ...
    สนุกดี
    แต่ ถ้าเป็น คนในขบวน คงไม่สนุกแน่ๆๆ
    กรุพระ ถือว่า เป็นสมบัติ ของแผ่นดินไปแล้วค่ะ
    นอกจาก คนที่เป็นเจ้าของ จริงๆๆ จึงจะมีสิทธิ์ ขุดได้
    แต่ใครจะกล้าเสี่ยง
    .......
    อย่าโลภ ดี่ที่สุด
    เกิดมา ก้อมีแต่ตัว อย่าไปโลภเลย สาธุ
     
  5. pisit_kanjana

    pisit_kanjana สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    จริงครับ กรุวัดพระศรี ลพบุรี ยังมีเฝ้าอยู่ชัวร์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...