ถ้าเรานั่งสมาธิมานานหลายปีเเล้ว เเต่เรายังบ้าผู้หญิง อยากนอนกับผู้หญิงไปเรื่อยๆนี่ถือว่าเรามาผิดทางรึเปล่าครับ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 9 พฤศจิกายน 2008.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เพราะว่า ยังไม่เคยทำความเข้าใจกับตัวเองเลยว่า เราหลงเรื่องพวกนี้ไปได้อย่างไร ตอนไหน หลงไปได้ด้วยอาการอย่างไร จิตหลุดจากความสงบที่ว่านั้นออกไป ส่งไปตามสาว ๆ เหล่านั้นได้อย่างไร ไม่เคยมาเฉลียวใจดูตรงจุดนี้เลย สติก็ไม่มี มีแต่ความอยาก พออยากจะสงบก็ไปแล้วไปนั่ง ไปนอน ไปเดิน ไปทำตามความอยากที่จะสงบนั้น ไม่รู้เลยว่า ตัวเองขาดสติแล้วเกิดความอยากตอนไหนก็ไม่รู้ อยากปุ๊บเป็นไปปั๊บ นั่งปั๊บเลย การกระทำทุกอย่างเลยกลายเป็นการให้อาหารกิเลสแทนที่จะละกิเลสได้ ต้องมาหัดเจริญสติให้ต่อเนื่อง เพื่อให้มีสติรู้รู้เท่าทันความคิด จิต ว่าเขามีหน้าที่อย่างไร ทำงานสัมพันธ์กันอย่างไร ทำความเช้าใจและคลายความหลงตรงนี้ให้ได้เสียก่อน ถ้าเข้าใจจริง ๆ แล้วมันถึงจะวางได้เป็นชั้น ๆ ไปอีกที

    ก็ค่อย ๆ ฝึกหัดไปตั้งแต่การมีสติรู้จักอ่านตัวเองให้ออกบ่อย ๆ เป็นต้นไปเลยก็แล้วกันครับ
     
  2. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    ฝึกหัดสมาธิให้เหมือนชาวนาทำนา เขาไม่รีบร้อนเขาหว่านกล้า ไถ คราด ปักดำ โดยลำดับ ไม่ข้ามขั้นตอนแล้วรอให้ต้นข้าวแก่

    ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เห็นเมล็ดไม่เห็นรวงเลย แต่เขาก็มีความเชื่อมั่นของเขาว่า จะมีเมล็ดมีรวงวันหนึ่งข้างหน้าแน่ๆ เมื่อต้นข้าวแก่แล้วออกรวงมาจึงเชื่อแน่ว่าจะได้รับผลแน่นอน

    เขาไม่ไปดึงต้นข้าวให้ออกรวงเอาตามใจชอบ ผู้ไปกระทำเช่นนั้นย่อมไร้ผลโดยแท้


    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     
  3. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ผมก้อเป้น หนักด้วย !
    แต่ตอนนี้ก้อพยายามทำให้ลอลงอยู่เหมือนกัน
    การเสพกามเป้นเรื่องทางโลก ผมว่าท่านปกติ
    แต่อาจจะมากไปหน่อย ผมเองก้อรู้สึกตัวเช่นกันครับ
    ลองพยายามกันต่อไปนะครับ เอาใจช่วย

    ผมลองใช้วิธีนี้ ดูรู้ว่าสวย น่ารัก ก้อให้รู้อยู่แบบนั้น
    พิจารณาดูซักพักบางทีมันก้อ อาจละได้บ้าง
    และบางทีก้อต้องเริ่มที่ตัวเราเองด้วย
    ฟืนที่ปราศจากเชื้อเพลิงและอากาศ ย่อมไม่ติดไฟ
    ฉันใด กามคุณที่ไม่เอาใจไปสอดส่ายหา พะวงหา
    ไม่ไปคิดพิจารณา(ในทางกาม) ย่อมลดน้อยถอยลงไป ฉันนั้น
    ผมเองก้อแย่ครับเรื่องนี้ ยากจริงๆ
    ดังพุทธพจน์ที่ว่า "กามคุณเปรียบเสมือนยางเหนียว ผู้ใดติดแล้วย่อมแกะออกยาก "
    ขออนุโมทนากันทุกๆท่าน ที่เสนอความเห้นที่ถุกต้องครับ
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,478
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    จริงๆอันตัวผมนั้นตัดไปได้เยอะเเล้วครับ ตั้งเเต่ผมนั่งสมาธิทุกวันบวกกับการอ่านธรรมะ ผมเห็นได้ชัดเลยว่า เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆ เเม้ใจผมอาจยังชอบอยู่ เเต่กับเรื่องกามกิจ ผมกลับไม่รู้สึกฟูฟ่องเหมือนก่อนครับ พยายามลดอยู่ คาดว่าในอนาคตคงเอาอยู่กว่านี้ ยังไงก็ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนที่เข้ามาชี้เเนะครับ ขอบคุณมากครับทุกคน สู้ต่อไปครับ
     
  5. สาวกสังโฆ

    สาวกสังโฆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +12
    เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อสตรีสำหรับชายผู้จะประพฤติพรหมจรรย์นี้ พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้อย่างไร


    ก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพาน
    ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามว่า
    “พวกข้าพระองค์จะปฏิบัติต่อสตรีอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”


    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “อย่าดู”


    “เมื่อจำต้องดู จะปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”


    “อย่าพูด้วย”


    “เมื่อจำต้องพูด จะปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”


    “ต้องตั้งสติไว้”*



    * ตั้งสติ ในที่นี้หมายถึงการควบคุมจิตให้คิดต่อสตรีในทางที่ดีงาม เช่น รู้สึกว่าเป็นแม่ในสตรีที่อยู่ในวัยแม่
    รู้สึกว่าเป็นพี่สาวน้องสาวในสตรีที่อยู่ในวัยพี่สาวต้องสาว รู้สึกว่าเป็นลูกสาวในสตรีที่อยู่ในวัยสาว (ที.ม.อ. ๒๐๓/๑๘๙-๑๙๐)


    ที่มา-พระไตรปิฎก (มจร.) ๑๐/๒๐๓/๑๕๑
     
  6. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    ก็ไม่แปลกอะไร สำหรับระดับโลกียฌาณ

    แต่ลองทำแบบนี้ดูสิ

    กำหนดรู้ลมหายใจทุกอิริยาบทตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นจนหลับ

    คุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องอายใครเพราะไม่มีใครรู้กับคุณหรอก แถมคนที่มาห้ามคุณน่ะแหละจะเป็นคนบ้าซะเอง (ห้ามไม่ให้คุณหายใจ) เพียงแต่คุณแค่กำหนดรู้ก็พอ ยังไม่ต้องภาวนาก็ได้
     
  7. ร่าเริงใจ

    ร่าเริงใจ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +7
    ในนึกถึง สุนัข ครับ เพราะว่าการเกิดมาเป็นสุนัขนั้น ส่วนหนึ่งจากกรรมที่ผิดศิลของ 3 (ถ้าคิดว่าไม่อยากกำหนดชีวิตเราให้เป็นเช่นนี้ครับ) ค่อยๆทำครับ เป็นกำลังใจให้ สาธุ
     
  8. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ยัง เป็น ปุถุชน ครับ
    ผม ว่า สมัยก่อน
    คุณ ต้อง ไม่เบา
     
  9. สาวกสังโฆ

    สาวกสังโฆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +12
    พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสถึงคุณและโทษของรูป(สตรี)ไว้อย่างไร



    ภิกษุทั้งหลาย อะไรเล่า เป็นคุณแห่งรูปทั้งหลาย คือ

    หญิงสาวในสกุลต่างๆ(กษัตริย์ พราหมณ์ คหบดี ฯลฯ) อายุ ๑๕, ๑๖ ปี

    ไม่สูงหรือต่ำเกินไป ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป ไม่ดำหรือขาวเกินไป

    ก็ในสมัยนั้น หญิงสาวผู้นั้น ย่อมเป็นผู้งดงาม เปล่งปลั่งอย่างยิ่ง

    ภิกษุทั้งหลาย การที่สุข โสมนัสเกิดขึ้น เพราะอาศัยความงาม ความเปล่งปลั่ง

    นี้ชื่อว่าเป็นคุณแห่งรูปทั้งหลาย
     
  10. สาวกสังโฆ

    สาวกสังโฆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +12
    อะไรเล่า เป็นโทษแห่งรูปทั้งหลาย คือ



    ๑.) เมื่อสมัยอื่นหญิงสาวนี้ มีอายุ ๘๐, ๙๐ หรือ ๑๐๐ ปี โดยกำเนิด

    เป็นคนแก่หง่อม มีซี่โครงดังกลอนเรือน มีหลังงอ ถือไม้เท้า เดิน งกๆ เงิ่นๆ กระสับกระส่าย

    ฟันหัก ผมหงอก หัวโกร๋น หัวล้าน หนังเหี่ยว มีตัวตกกระ

    ความงดงาม ความเปล่งปลั่ง ที่เคยมีแต่ก่อนนั้น หายไปแล้ว

    โทษ(ของรูป)ก็จึงปรากฏชัด

    แม้ข้อนี้ ก็ชื่อว่าเป็นโทษแห่งรูปทั้งหลาย


    ๒.) เมื่อหญิงสาวนั้นเกิดเจ็บป่วย มีทุกข์ เจ็บหนัก นอนจมขี้เยี่ยวของตน

    ต้องให้ผู้อื่นพยุงลุกขึ้น ต้องให้ผู้อื่นช่วยประคอง

    ความงดงาม ความเปล่งปลั่ง แต่ก่อนนั้นหายไปแล้ว

    โทษก็ปรากฏชัดแล้ว

    แม้ข้อนี้ ก็ชื่อว่าเป็นโทษแห่งรูปทั้งหลาย


    ๓.) เมื่อหญิงสาวนั้นเป็นซากศพ ตายแล้ว ๑ วันบ้าง ๒ วันบ้าง ๓ วันบ้าง

    พองขึ้นอืด มีเนื้อเขียวคล้ำ น้ำเหลืองไหลน่าเกลียด

    ถูกทิ้งไว้ให้สัตว์น้อยใหญ่ แทะทึ้ง กัดกิน

    มีเศษเนื้อ, เส้นเอ็น เหลือติดกระดูกกะรุ่งกะริ่ง

    จนเหลือแต่ โครง, กอง, หรือ ท่อน กระดูกขาวโพลน กระจัดกระจายกันอยู่
    ซึ่งสุดท้าย ก็ผุป่นเป็นผุยผง

    ความงดงาม ความเปล่งปลั่ง แต่ก่อนนั้น หายไปแล้ว

    โทษก็ปรากฏชัดแล้ว

    แม้ข้อนี้ก็ชื่อว่าเป็นโทษแห่งรูปทั้งหลาย
     
  11. สาวกสังโฆ

    สาวกสังโฆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +12
    อะไรเล่า เป็นการสลัดออกไปจากรูปทั้งหลาย คือ


    การกำจัดฉันทราคะ(ความกำหนัดในความชอบใจ) การละฉันทราคะในรูปทั้งหลาย

    นี้ชื่อว่า การสลัดออกไปจากรูปทั้งหลาย.


    ที่มา-พระไตรปิฎก เล่ม ๑๒ หน้า ๑๗๒-๑๗๔, มหาทุกขักขันธสูตร.​
     
  12. สาวกสังโฆ

    สาวกสังโฆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +12
    “กามทั้งหลาย มีความยินดีน้อย<o>

    </o>
    มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก มีโทษยิ่งใหญ่”<o></o>
     
  13. ผมเลวมาก

    ผมเลวมาก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +11
    อย่างการกำหนดลมหายใจก็ช่วยได้เยอะมากน่ะครับ เพราะว่าสติเราจับอยู่แค่เข้า-ออก ตาเห็นมันก็เห็นไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว ถ้ามันคุมไม่อยู่ก็ให้มองดูตัวเรานี่แหล่ะ ถ้ายิ่งคนมีอารมณ์มากไปมองที่อื่น มันจะคุมยากครับ แค่รู้ว่ามีครบ 32 เท่ากัน ยังอยากได้อยู่อีกไหม มันก็หมดอารมณ์แล้ว
     
  14. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    มันยากจริงๆนะเรารู้ ..... ผู้หญิงนะผู้หญิง..hohoho
     
  15. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    การยอมรับว่าผู้หญิงสวยหน่ะถูกแล้ว
    แต่วิธีจำกัดกาย วาจา ใจ ย่อมมีต่างๆกันไป
    ตราบใดยังไม่เป็นพระอริยเจ้า พระอนาคามี
    ไม่มีทางกำจัดราคะได้

    วิธีใช้แบบคอมมิวนิสต์สิ
    มึงมากูมุด มึงหยุดกูแหย่ มึงแย่กูตาม
    หลวงพ่อสอนไว้ สุดท้ายแล้วจะคลายได้แน่

    กรรมฐานที่เหมาะกับคนราคะจริตคือ อสุภะกรรมฐาน มี 10 อย่างลองหาอ่านดู

    จบ
     
  16. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ** ขอออกความเห็นนิดนึงคับ

    ถ้าเห็นว่าผู้หญิงสวย ลองดู ภาพนี้ซิครับ
    [​IMG]
    ** เอามาจาก คุณ Wellrider คงไม่ว่านะครับ ยืมมามะได้ บอก ^_^

    สาวสวยแค่ไหน ก็มีแค่ หนัง ปิดบังความน่าเกลียดน่ากลัวไว้ ลอง ลอกหนังออกแล้วให้เราไปนอนกอดดูซิครับ ไม่ว่า หญิงไม่ว่าชาย มันก็เหมือนกันทั้งนั้นครับ ดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุ 4 ขันธ์ 5

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. เฒ่าหนังเหนียว

    เฒ่าหนังเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +102
    ไม่ต้องไปยุ่งหลอกครับ มันเกิดมาแล้วก็ดับไป เมื่อรักกันก็มีความสุข เมื่อจากกันก็ทุกข์
    เมื่อไดที่คุณรักใครเขาจริงแล้วคุณทุกหักอกแบบแรงแล้วคุณจะปล่อยว่างเรื่องพวกนี้เองและครับ
     
  18. wutipongk

    wutipongk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    "กาม" มันเป็น "กิเลส" ชนิด "สันชาตญาณ" ครับ เป็นกิเลสที่ตัดได้ยากที่สุด เพราะมันอยู่ในส่วนลึกที่สุดของจิตใต้สำนึก อยู่ในโครโมโซม อยู่ใน DNA ของเรา

    เป็นจอมทัพของกิเลส ที่หนักหน่วง และรุนแรง ยาวนาน ที่สุด
    เป็นกิเลส ที่ทำให้เรา เห็นโลกนี้ เป็นโลกอย่างที่เห็น
    เป็นสัญชาตญาณการดำรงเผ่าพันธ์ของมนุษย์
    การดำรงชีวิตของคนเกือบทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกิเลสข้อนี้
    เพราะกิเลสข้อนี้ มันผลักดันให้เรา อยากมี อยากรวย อยากสวย อยากหล่อ อยากดูฉลาด อยากอยู่เหนือคนอื่น ฯลฯ เพื่อให้ได้มาซึ่ง การแข็งขันกัน ตามทฤษฎีวิวัฒนาการ เพื่อคัดเลือกผู้ที่ดีที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถสืบพันธ์ และสร้างคนยุคต่อไปที่แข็งแกร่งและดีขึ้น (อาจพูดตรงสักนิดนะครับ)

    เป็นกิเลส ที่ สร้างกิเลสชนิดอื่น .. ไม่มีกิเลสใดมีพลังมากไปกว่านี้แล้ว
    เป็นกิเลส ที่ เป็นต้นกำเนิดของความทุกข์ เป็นจอมทัพแห่งกิเลสทั้งปวง

    เพราะฉะนั้นแล้ว ก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ที่การนั่งสมาธิ จะไม่สามารถตัดกิเลสตัวนี้ได้ ยกเว้นว่าได้บรรลุธรรมแล้ว ซึ่งอาจต้องออกบวชอย่างเดียว หรือแม้นออกบวชแล้ว ก็อาจไม่สามารถตัดกิเลสตัวนี้ได้

    ทางออกเดียว ก็คือ การสั่งจิตใจของเรา (อาจจะเวลาเข้าสมาธิ) ให้เห็นว่า สิ่งต่าง ๆ นั้นไม่จีรัง เป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้น เป็นของสกปรก เน่าเหม็น .. คนสวยแค่ไหนก็ประกอบไปด้วยสิ่งสกปรกทุกคน อุจาระ ปัสวะ ของเน่าเหม็นต่าง ๆ ภายในกาย .. เป็นภาพลวงตา เป็นสิ่งที่จะเสื่อมไป เป็นของยึดติดของคนโง่ทั้งปวง

    ขอให้โชคดีครับ :)
     
  19. ตะกอน

    ตะกอน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +26
    ยุบหน~อ พองหน~อ ยุ~บหนอ พอง~หนอ สวยหนอ สวยหนอ สวยหนอ สวยหนอ น่ารักจังหนอ มีเเฟนหรือยังหนอ มีเบอร์หรือเปล่าหนอ จะขอเบอร์ดีไหมหนอ อ๊ะจ๊าก!!..กระเทยนี่หนอ
    !!?!! T_T ปรงหนอ ปรงหนอ ปรงหนอ ๆๆๆๆๆๆๆ
     
  20. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    โอม...อมิตตาพุทธ.....หนทางเดียวที่จะพ้นการสั่งสมในกาม....ควรต้องตั้งอธิฐานจิต ขอ มุ่งลดกิเลสสู่พระนิพพาน...หากยังเป็นผู้ครองเรือน หรือ ไม่ใช่นักบวช...ให้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะ มีคู่ครองที่เหมาะสมกับตนเอง แล้ว หยุดเสีย ซึ่งหญิง หรือ ชายอื่น...เรียกว่ามีอุปนิสัยชอบสันโดษ(พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ได้ก็ยินดี ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้แล้วก็เพียงพอ)...ตรงนี้ทำให้การตัดสินใจครองเรือน เป็นไปอย่างยากลำบาก..ไม่เคยได้ยินหรือว่า..หลังการ...แต่งงาน..สูจะรู้ว่า..นรกนั้นมีจริง...โดยเฉพาะกับผู้ที่คิดมาก เพราะไม่รู้จะพอใจได้เมื่อไร...เลือกไปเลือกมาไม่ลงตัว จนราคะจริต มันเซ็ง กับคนเลือก....หรือ มีกิเลสกองอื่นที่มีกำลังสูงกว่า เข้ามาครองจิตแทนที่...เลือกไปเลือกมา..นานๆ มันก็หิวข้าว...ต้องไปกินข้าวก่อน..แล้วค่อยมาเลือกใหม่....ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ถึงบางอ้อ...เออหนอ...กามราคะ ที่ว่าแน่ๆนี้ ยังสู้ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หรือ ก๋วยจั๊บสุดอร่อยไม่ได้...อืมม์.. ที่เขาว่า.อดเสน่หาน่ะ ไม่ตายดอก...แต่อดข้าวน่ะ...ตายแหงๆ...... เป็นจริง ก็ตอนนี้แหล่ะ..ไม่เชื่อลองทำดูซิ อดข้าว อดน้ำ สักวันสองวัน แล้วยังจะมีอารมณ์พิศมัยสาวๆอีกใหม?

    ทีนี้ก็เอาแต่กินๆ กินทุกอย่างที่อร่อย...กินจนอ้วนลงพุง..ก็ยังไม่วายหยุดกิน..เลยเป็นทุกข์ เพราะติดในรสชาดของอาหาร..ทำไงดี....ถึงจะเลิกสวาปามได้?....ใหนลองดูซิ มีอย่างอื่นที่มีพลังมากกว่าการกินใหม?...ครั้งหนึ่ง กินมากไป...จุกหายใจไม่ออก..จะตายเอา ทรมาณสิ้นดี...อ้อ..การหายใจนี่เองที่สำคัญกว่าการกิน...ไม่กินสักสองสามวัน ก็ยังอยู่ได้...เฮ้ย..หากไม่หายใจ...แม้แต่ สองสามนาที ตายแน่เลย...เลยต้องหาวิธีหายใจให้เป็น..ซึ่ง ก็ได้แก่การเจริญสมถกรรมฐาน...อ้าวแล้วทำไมย้อนกลับมาที่เดิมได้อีก....แสดงว่า...มีของดีอยู่แล้ว..ไม่สนใจ..ไปสนใจของต่ำกว่า...แล้วในที่สุด ก็หนีไม่พ้นของดีดั้งเดิมของตน.....เวรกรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...